Share

บทที่ 1120

Author: ไห่ตงชิง
หากเรื่องนี้เกิดกับใครก็ตาม เมื่อได้ยินว่าข้างบนคิดจะยุบหน่วยงานที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่ ย่อมต้องตกใจในบัดดล

แต่ซูเจิ้นถิงกลับเพียงแค่ตะลึงไปเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “อันที่จริง สำนักบัญชาการทหารสูงสุดก็มิได้มีความจำเป็นต้องดำรงอยู่อีกต่อไป”

การที่หลี่เฉินจะยุบสำนักบัญชาการทหารสูงสุด หาใช่เรื่องพร่ำเพ้อไร้เหตุผล

และเหตุการณ์ครั้งนี้ แม้จะมิใช่สาเหตุหลัก ก็ยังถือว่ามีอิทธิพลอยู่บ้าง ทำให้หลี่เฉินเร่งแผนการออกมาเร็วขึ้น

สำนักบัญชาการทหารสูงสุดก็จำเป็นต้องยุบ ไม่เช่นนั้น หน่วยงานนี้จะกระทบต่อการควบคุมกองทัพของตำหนักบูรพาในอนาคตโดยตรง

“สำนักบัญชาการทหารสูงสุด เดิมคือกองบัญชาการแม่ทัพใหญ่ที่ก่อตั้งโดยปฐมจักรพรรดิเมื่อครั้งสร้างแคว้น ต่อมาถูกเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักกิจการลับ และสุดท้ายกลายเป็นสำนักจอมทัพห้ากองเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน”

หลี่เฉินกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “แรกเริ่ม สถานะของหน่วยงานนี้คือช่วยปฐมจักรพรรดิในการควบคุมกองทัพทั่วหล้า นับเป็นระบบบัญชาการสูงสุดของกองทัพต้าฉิน เพราะเมื่อตอนสร้างแคว้นใหม่ๆ ทุกด้านต่างก็อยู่ในภาวะขาดแคลน ซากเดนของราชวงศ์ก่อนหน้า โจรภูเขา และขุนศึกท้องถิ่นต่างยังไม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1123

    แผนการปฏิรูปสีหน้าของจางปี้อู่กับฟู่อวี้จือเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียบทันทีคำนี้ พวกเขาได้ยินมาจากปากของจ้าวเสวียนจีเป็นครั้งแรกแม้ไม่รู้ว่าจ้าวเสวียนจีได้ข่าวมาจากที่ใด แต่พวกเขารู้ดีว่า จ้าวเสวียนจีไม่มีทางหยิบเรื่องสำคัญถึงเพียงนี้มาพูดเล่นแน่“แผนการปฏิรูปนี้… แท้จริงแล้วจะปฏิรูปสิ่งใดกันแน่?” ฟู่อวี้จือเอ่ยถามจ้าวเสวียนจีตอบด้วยเสียงทุ้มว่า “ข้าก็ไม่ทราบรายละเอียด รู้เพียงว่าองค์รัชทายาทวางแผนนี้มานานแล้ว ส่วนรายละเอียด เนื้อหา ล้วนไม่ปรากฏ แต่สิ่งที่ชัดเจนในเวลานี้คือ แผนการนี้กำลังจะถูกนำเสนอออกมา อย่าลืมว่า พรุ่งนี้คือการเข้าเฝ้าเช้าครั้งแรกในรอบเดือน ต้องมีเหตุการณ์ใหญ่แน่นอน”จางปี้อู่สีหน้าหนักแน่น กล่าวว่า “แล้วเราจะรับมืออย่างไร?”จ้าวเสวียนจีถอนหายใจเบาๆ กล่าวว่า “ทำได้เพียงก้าวไปทีละก้าว ดูสถานการณ์ไปก่อนเท่านั้น”ครึ่งชั่วโมงต่อมา จางปี้อู่กับฟู่อวี้จือก็ลุกขึ้นขอลา“ท่านทั้งสอง สถานการณ์ในยามนี้ยากลำบากยิ่งนัก แต่ยิ่งเป็นยามคับขัน ก็ยิ่งเห็นจิตใจที่แท้จริง เวลานี้สำหรับพวกเราก็อาจนับว่าเป็นโอกาสเช่นกัน”จ้าวเสวียนจีเดินมาส่งทั้งสองถึงหน้าห้องหนังสือ พลางเอ่ยด้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1122

    ส่วนตำแหน่งบุคลากรในสำนัก หลี่เฉินจำต้องควบคุมไว้ในมือและสำหรับความนัยที่หลี่เฉินซุกซ่อนไว้ ซูเจิ้นถิงก็เห็นทีจะเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วเขานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวว่า “ฝ่าบาท แม่ทัพคนแรกแห่งสำนักเสบียง หากให้หูซื่อฟานดำรงตำแหน่ง พระองค์เห็นว่าเป็นอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”หลี่เฉินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยหูซื่อฟานเป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของเทพสงคราม มีความจงรักภักดีต่อเทพสงคราม และภักดีต่อสกุลซูอย่างยิ่งดูจากการที่เขาร่วมปราบกบฏครานี้ ระดมกองทัพเหลียวตงฝ่าฟันกว่าพันลี้โดยไม่ย่อท้อ ก็ย่อมเห็นได้ว่าแม่ทัพเฒ่าผู้นี้ได้เดิมพันเกียรติยศและชีวิตทั้งชีวิตลงไปแล้วที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาอายุมากแล้วเขาเคยกล่าวไว้แต่แรกแล้วว่า หลังจากครั้งนี้อยากจะวางมือและด้วยวัยของเขา หลี่เฉินก็มีแผนจะหาผู้สืบทอดที่เหมาะสมเพื่อให้เขาได้เกษียณอย่างสงบแต่ในเวลานี้ ความคิดของซูเจิ้นถิงกลับเปิดแนวทางใหม่ให้กับหลี่เฉิน“หูซื่อฟานเป็นผู้บัญชาการแนวหน้า รู้ดีว่าทหารต้องการสิ่งใด รู้ถึงความสำคัญของสำนักเสบียง ตำแหน่งนี้ในยามสงบอาจดูไม่โดดเด่น แต่หากเกิดศึกสงครามเมื่อใด ก็จะกลายเป็นหัวใจหลักเสมอ นับแต่โบราณ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1121

    มีประสบการณ์ล้ำหน้ากว่าพันปีในภายหน้า อีกทั้งยังมีวิสัยทัศน์ในด้านการสร้างกองทัพยุคใหม่ หลี่เฉินจึงเชี่ยวชาญในเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างของราชสำนักและกองทัพเป็นอย่างยิ่งแผนผังการวางยุทธศาสตร์ทั้งหมดล้วนบรรจุอยู่ในสมองของเขาแท้จริงแล้วในสายตาของหลี่เฉิน สิ่งที่เหมาะสมที่สุดก็คือการนำบทบาทงานการเมืองของกองทัพยุคใหม่เข้ามาใช้ในกองทัพ ทว่าไม่สอดคล้องกับสภาพบ้านเมือง ไม่เข้ากับระดับอารยธรรมของสังคม และไม่สอดรับกับระบบการปกครองของแผ่นดิน หลี่เฉินจึงทำได้เพียงละวางความคิดนี้แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังรวบอำนาจทหารจากจวนผู้บัญชาการทั้งห้ากับกรมยุทธนาการเดิมมารวมเป็นหนึ่ง แล้วแบ่งแยกออกเป็นสามส่วนความสัมพันธ์สามเส้า เป็นโครงสร้างที่มั่นคงที่สุดเสมอทั้งสามฝ่ายต่างถ่วงดุล ตรวจสอบกันและกัน โดยที่หลี่เฉินไม่จำเป็นต้องลงมือทำสิ่งใดมากมาย สามกรมนี้ก็จะเกิดการแข่งขันกันเองโดยธรรมชาติการแข่งขันเชิงสร้างสรรค์เช่นนี้ นั่นแหละคือสิ่งที่หลี่เฉินต้องการบรรลุเขาเพียงต้องดูแลแกนกลางผู้นำของทั้งสามกรมให้ดี ก็สามารถควบคุมกองทัพทั่วทั้งแผ่นดินได้โดยอ้อมซูเจิ้นถิงเดิมทีเข้าใจว่า การปฏิรูปของหลี่เฉินคงเปลี

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1120

    หากเรื่องนี้เกิดกับใครก็ตาม เมื่อได้ยินว่าข้างบนคิดจะยุบหน่วยงานที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่ ย่อมต้องตกใจในบัดดลแต่ซูเจิ้นถิงกลับเพียงแค่ตะลึงไปเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “อันที่จริง สำนักบัญชาการทหารสูงสุดก็มิได้มีความจำเป็นต้องดำรงอยู่อีกต่อไป”การที่หลี่เฉินจะยุบสำนักบัญชาการทหารสูงสุด หาใช่เรื่องพร่ำเพ้อไร้เหตุผลและเหตุการณ์ครั้งนี้ แม้จะมิใช่สาเหตุหลัก ก็ยังถือว่ามีอิทธิพลอยู่บ้าง ทำให้หลี่เฉินเร่งแผนการออกมาเร็วขึ้นสำนักบัญชาการทหารสูงสุดก็จำเป็นต้องยุบ ไม่เช่นนั้น หน่วยงานนี้จะกระทบต่อการควบคุมกองทัพของตำหนักบูรพาในอนาคตโดยตรง“สำนักบัญชาการทหารสูงสุด เดิมคือกองบัญชาการแม่ทัพใหญ่ที่ก่อตั้งโดยปฐมจักรพรรดิเมื่อครั้งสร้างแคว้น ต่อมาถูกเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักกิจการลับ และสุดท้ายกลายเป็นสำนักจอมทัพห้ากองเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน”หลี่เฉินกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “แรกเริ่ม สถานะของหน่วยงานนี้คือช่วยปฐมจักรพรรดิในการควบคุมกองทัพทั่วหล้า นับเป็นระบบบัญชาการสูงสุดของกองทัพต้าฉิน เพราะเมื่อตอนสร้างแคว้นใหม่ๆ ทุกด้านต่างก็อยู่ในภาวะขาดแคลน ซากเดนของราชวงศ์ก่อนหน้า โจรภูเขา และขุนศึกท้องถิ่นต่างยังไม

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1119

    ซูเจิ้นถิงขมวดคิ้วแน่นทันทีเมื่อได้ยินถ้อยคำนี้“พวกเขาล้วนเป็นขุนนางใต้บัญชาของกระหม่อมาหลายปี แม้กระทั่งบางคน ยังเคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับบิดาของกระหม่อมในสนามรบ…”หลี่เฉินถอนหายใจยาวเขารู้ดีว่าแม้ซูเจิ้นถิงจะเจนสนามเพียงใด ท้ายที่สุดก็ยังพลาดในเรื่องที่ขุนนางทหารระดับสูงแทบทุกคนมักพลาดเชื่อใจพี่น้องร่วมรบมากเกินไปในสนามรบ เจ้าย่อมวางใจพี่น้องร่วมรบได้อย่างหมดใจแต่ในเวทีการเมือง ย่อมไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความไว้ใจโดยสิ้นเชิง“แม่ทัพซู เช่นเดียวกับเจ้า ข้าเชื่อในความสัตย์และความเที่ยงตรงของเจ้า ว่าเจ้าจะไม่ทำเรื่องเช่นนี้ และเจ้าก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำ ซูผิงเป่ยย่อมรับตำแหน่งต่อจากเจ้า ส่วนผ้าไหมลายงามก็เป็นพระชายาแล้ว อนาคตตระกูลซูย่อมรุ่งโรจน์ทั่วทั้งตระกูล ไยยังต้องมีพรรคพวกหรือผลประโยชน์ส่วนตัว? ข้าเองก็คือพรรคพวกและผลประโยชน์ของเจ้า”“แต่แล้วผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าล่ะ?”“หากผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าวางใจได้ แต่พวกเขาก็มีคนใกล้ชิด มีคนรุ่นหลังที่ต้องดูแล แล้วคนเหล่านั้นเล่า แม่ทัพซู เจ้าจะรับประกันได้อย่างไร? มีสิ่งใดมารับประกัน?”คำถามติดกันเป็นชุดของหลี่เฉินทำให้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1118

    ซูเจิ้นถิงเป็นคนเช่นไรหรือเป็นผู้มีสติปัญญาไม่ด้อยไปกว่าจ้าวเสวียนจีแม้แต่น้อยพอได้ยินเพียงเสียงสายพิณก็บรรลุความหมาย เขาจึงเข้าใจความคิดของหลี่เฉินในทันทีซูเจิ้นถิงฝืนยิ้มแล้วกล่าวว่า “ขุนนางเบื้องล่างส่งมา ก็แค่ของธรรมดาสามัญ หากปฏิเสธตรงๆ กลับจะทำให้พวกเขาเกิดความคิดฟุ้งซ่าน”“ส่งปลาสองสามตัวแน่นอนว่านับว่าไม่ใช่เรื่องอะไร แม้กระทั่งส่งทองคำอัญมณี ก็นับว่าเป็นเรื่องปกติ ท้ายที่สุดแล้ว วังหลวงก็คือวังหลวง ยังไงเสียก็ต้องมีเรื่องของมนุษยสัมพันธ์อยู่บ้าง”หลี่เฉินกล่าวเรียบๆ ว่า “แต่ว่าหากมีผู้ส่งของมา ก็ย่อมต้องมีจุดประสงค์แน่นอน แม่ทัพซู เจ้าย่อมรู้ดี ข้ายึดถือหลักว่า น้ำใสเกินไปก็ไร้ปลา แต่ในสระน้ำนี้ มีปลาชนิดใด นิสัยอย่างไร ข้ากลับต้องรู้ให้ชัด”พอสิ้นประโยค หลี่เฉินก็เปลี่ยนหัวข้ออย่างกะทันหัน เอ่ยถึงเรื่องที่ดูไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย“เรื่องปืนใหญ่แดงเมื่อคราก่อน แม่ทัพซูจัดการได้เป็นเช่นไรบ้าง?”ซูเจิ้นถิงตอบในทันทีว่า “สืบสวนใกล้เสร็จสิ้นแล้ว ขุนนางผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ ตั้งแต่หัวหน้ากองร้อยขึ้นไปมีทั้งหมดยี่สิบหกคน เกี่ยวพันถึงกรมยุทธนาการ สำนักจอมทัพห้ากอง และกร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status