(ถ้าไม่ใช่น้องพี่ก็ไม่เอาครับ เพราะพี่กับเพื่อนต้องการแค่น้องเท่านั้น น้องอยากได้เงินเท่าไหร่เรียกมาได้เลย)
ฉันอยากจะกรี๊ดดังลั่นอยู่ตรงนี้เสียเหลือเกิน ใจป้ำขนาดด!!! ถ้ามาคนเดียวฉันจะตอบตกลงตั้งแต่แรกเลยด้วยซ้ำ แต่เอ๊ะ! ลองเรียกเงินสูง ๆ ไปก่อนละกัน เผื่อว่าจะฟลุ๊ค ฉันมั่นใจว่าจะต้องเอาตัวรอดได้แน่นอน
“ถ้างั้นหนูขอห้าหมื่นไม่มีต่อรองได้ไหมคะ”
(พี่ให้หกหมื่น)
ได้ยินอย่างนั้นฉันก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ มองหน้ายัยจอยด้วยความตื่นเต้นดีใจ ขนาดนี้ไม่เอาก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วน่ะสิ
“โอเคค่ะหนูตกลง แล้วพี่สะดวกวันไหนคะ”
(วันนี้ตอนทุ่มน้องว่างไหม)
“ว่างค่ะแต่หนูมีข้อแม้นะคะ พวกพี่ต้องมาที่ห้องหนูเท่านั้น”
(ได้ไม่มีปัญหา น้องแชร์โลเคชั่นมาละกัน)
“ค่ะพี่แล้วเจอกันนะคะ”
(แล้วเจอกันครับหึ ๆ) เขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะวางสายไป
ทำไมหนูรู้สึกได้ว่าผู้ชายคนนี้ท่าทางจะหื่นกามมากน่าดู แต่ก็ช่างหนูเอาอยู่!!
“ขายดีเหลือเกินนะยะ”
“ก็แน่นอนอ่ะ คนมันสวยเนอะ”
“ได้ตั้งห้าหมื่นเลยเหรอแกเยอะมาก ฉันต้องหาลูกค้าเป็นสิบคนเลยนะถึงจะได้เท่านี้” จอยว่า
“ห้าหมื่นก็จริงแต่มากันสองคนน่ะสิ” นี่คือสิ่งที่ฉันหนักใจในตอนนี้
“อ้าว! ทรีซัมว้ายปกติแกไม่รับงานแบบนี้ไม่ใช่เหรอ แกไหวจริง ๆ นะให้ฉันไปช่วยไหม”
“ก็ต้องไหวแหละแก จบงานนี้แล้วฉันว่าจะพักสักแปบนึงอ่ะ ได้มาห้าหมื่นคงพอจะอยู่ได้หลายเดือนเลยทีเดียว”
ที่จริงแล้วฉันไม่เคยเสียตัวให้ลูกค้าคนไหนเลย ฉันใช้วิธีมอมเหล้าแล้วก็วางยานอนหลับ ตื่นขึ้นมาก็ทำทีเหมือนว่ามีอะไรกันแล้ว เป็นอย่างนี้ทุกรายซึ่งตอนนี้ฉันก็ไม่ต่างจากพวกสิบแปดมงกุฎเลยสักนิด งานนี้ฉันจะต้องเหนื่อยหน่อย แต่ไม่เป็นไรเพราะฉันเอาอยู่แน่นอนแค่มียานอนหลับฉันก็ไม่กลัวอะไรแล้ว
“เอางี้ถ้าแกไม่ไหวให้รีบโทรบอกฉันนะ ฉันจะเข้าไปช่วย” ยัยจอยรู้เรื่องนี้ดี ตอนแรกมันก็ด่าฉันหนักมาก แต่พอหลัง ๆ มามันก็ช่วยเหลือฉันมาตลอด แม้ว่ามันเองจะเป็นเด็กไซด์ไลน์จริง ๆ แต่ก็ไม่อยากให้ฉันมีชีวิตเหมือนอย่างมันสักเท่าไร
“ไม่ต้องห่วงหรอกฉันไหว เรากลับกันเถอะฉันจะได้รีบไปเตรียมตัว”
เราทั้งสองคนเดินไปที่รถของยัยจอย ก่อนที่มันจะขับออกไปส่งฉันที่พอพักส่วนจอยมันอยู่ที่คอนโดอีกที่หนึ่ง ที่ต้องอยู่กันคนละที่อย่างนี้เพราะเราจะได้สะดวกในการทำงาน
อีกไม่นานสองคนนั้นก็จะมาที่ห้องแล้วฉันจะต้องรีบจัดการทุกอย่างให้พร้อม จะได้ไม่ต้องเสียท่าให้พวกเขา และฉันมั่นใจว่างานครั้งนี้จะต้องฉลุยเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาแน่นอน
เราทั้งสามคนกลับมาที่ชายทะเลนี้อีกครั้งในวันครบรอบวันแต่งงาน พร้อมกับพยานรักที่อยู่ในท้องฉัน ใช่ค่ะ...ตอนนี้ฉันท้องได้สี่เดือนแล้ว ทุกคนอาจจะสงสัยว่าใครคือพ่อของลูก ฉันตอบได้เต็มปากว่าเขาทั้งสองนั่นละค่ะ เราใช้วิวัฒนาการทางการแพทย์ทำให้เด็กในท้องฉันเป็นเด็กแฝด และเป็นแฝดที่เกิดจากอสุจิของเขาทั้งสองคนปฏิสนธิกับไข่ทั้งสองฟองของฉัน เด็กที่เกิดมาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพี่อเล็กซ์หนึ่งคน และพี่คิมอีกหนึ่งคน เราจะสร้างครอบครัวที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครสามารถทำได้เหมือนเราอย่างแน่นอน“เดินระวัง ๆ นะครับ” พี่คิมเอ่ยขณะพยุงตัวฉันเดินบนหาดทรายสีขาวในยามเย็น ส่วนพี่อเล็กซ์ก็เดินอยู่ข้าง ๆ ไม่ห่างกันเลยการได้เดินเท้าเปล่าบนผืนทรายในยามเย็นอย่างนี้ ทำให้ฉันผ่อนคลายความเครียดจากการแพ้ท้องได้มากพอสมควร นั่นคือเหตุผลที่เขาทั้งสองคนพาฉันมาที่นี่เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ก่อนจะกลับไปลุยงานต่อที่กรุงเทพฯ“ถ้าลูกเกิดมาพวกพี่จะให้ลูกเรียกว่ายังไงคะ” ฉันเอ่ยถามขณะทอดสายตามองไปยังผืนน้ำอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา“ก็เรียกพ่อสิครับถามมาได้” พี่คิมตอบ“ก็ใช่ค่ะ แต่หนูยังไม่ได้วางตำแหน่งพวกพี่เลยว่าจะให้ใครเป็นผัวหลว
พี่อเล็กซ์เกร็งขาก่อนจะฉีดน้ำรักเข้ามาในปาก ฉันดูดเลียกลืนกินน้ำรักจากท่อนเอ็นจนเกลี้ยงในพริบตาเมื่อสงครามสวาทยกแรกได้จบลงไปแล้ว เราทั้งสามก็ขึ้นไปนอนแผ่หลาพักเอาแรงบนเตียงอย่างพร้อมหน้ากันอีกครั้งในรอบปี“วันนี้หนูมีความสุขที่สุดเลยค่ะ” ฉันเอ่ยกับเขาทั้งสองที่กำลังนอนอยู่ข้าง ๆ“พี่ก็มีความสุขที่สุดเลยครับ ต้องขอบใจไอ้คิมที่มันช่วยคิดแผนดี ๆ ให้” พี่อเล็กซ์เอ่ยก่อนจะพรมจูบบนไหล่อย่างถือวิสาสะ“วางแผนอะไรอีกคะ พวกพี่จอมวางแผนกันจริง ๆ เลยนะ บอกมาสิคะพี่คิม” ฉันจ้องเขม็งมองพี่คิมทันที“เอ่อ...เรื่องที่ไอ้อเล็กซ์มันมีแฟนพี่เป็นคนบอกให้มันจัดฉากถ่ายรูปแล้วส่งมาเองล่ะ ก็พี่อยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนี่นา พี่รู้ว่าเรายังรักไอ้อเล็กซ์มาก” เขาเอ่ยพลางซบแก้มที่ต้นแขนฉันอย่างออดอ้อน“หวังดีมากเหลือเกิน จนหนูแทบจะเป็นบ้าตาย” ฉันยกมือขึ้นไปบีบจมูกเขาเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยว“ต่อไปนี้พวกพี่จะไม่ทำอะไรบ้า ๆ อย่างนั้นอีกแล้วครับผม เพราะเราจะอยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไป” พี่เล็กซ์เอ่ย“ลองทิ้งหนูดูสิ จะตามตัดไอ้หนอนชาเขียวพวกพี่ไม่ให้เอาใครได้อีกเลย”“โหดจังวะเมียกู ที่บอกว่าหนอนชาเขียวช่างกล้าพูดเ
แม้ว่าจะเสร็จไปแล้วแต่พี่อเล็กซ์ยังคงลากลิ้นเลียกลางร่องดูดกินน้ำรักฉันอย่างไม่รังเกียจพี่คิมผละใบหน้าออกมาเล็กน้อย เอ่ยกับฉันด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า “เสร็จแล้วล่ะสิ”“อื้ม สงสัยวันนี้ไม่ได้หลับได้นอนแน่ ๆ” ฉันส่งยิ้มให้พี่คิม“คงต้องเป็นอย่างนั้นครับคุณเมีย” พี่คิมกระตุกยิ้มร้ายก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาประกบจูบฉันอีกครั้งฉันเลื้อยมือควานหาท่อนเอ็นพี่คิมจนเจอ ก่อนจะใช้หัวแม่มือบดขยี้บนหัวเห็ดบานที่ฉ่ำไปด้วยน้ำหล่อลื่น เขาเสียวจนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะกระเด้ามือฉันต่อจากนั้น“โอยยย...แม่งโคตรเสียวววว”แจ๊ะ! แจ๊ะ!พี่อเล็กซ์กำลังถูไถหัวเห็ดตรงกลางร่องอันฉ่ำแฉะ แรงเสียดสีที่รุนแรงทำให้ฉันรู้สึกมวนท้อง กระสันเสียวไปทั่วทั้งร่างพรวดดดด!!!“อื้อออ...ซี๊ดดดดดส์!!”พี่อเล็กซ์ยัดเยียดความเป็นชายเข้าไปรวดเดียวจนมิดด้าม เขาไม่รอช้ารีบออกแรงกระเด้าราวกับต้องการรีบเสร็จโดยเร็ว ค้ำยันมือทั้งสองข้างไว้บนเตียงข้างเอวคอดฉัน ขณะกระแทกกระทั้นท่อนเอ็นยาวใหญ่เข้ามาในร่องสวาท“โอยยย...แม่งยังตอดแน่นเหมือนเดิม โคตรคุ้มกับที่รอมาเป็นปี พี่จะแตกในให้สมใจอยากเลยนะครับเมียจ๋า ซี๊ดดดดส์!!”เขาเงยหน้าหลับตาพริ้ม ขบริมฝ
ฉันรับช่อดอกไม้นั้นมาถือไว้ด้วยความปลาบปลื้มใจ พี่อเล็กซ์ลุกขึ้นยืนตรงหน้าโผเข้ากอดฉันไว้แน่นราวกับโหยหามาแสนนาน“พี่จะไม่จากเราไปไหนแล้วนะพี่สัญญา” เขาพร่ำบอกฉันข้างใบหู ส่งลมหายใจอุ่นเป่ารดพวงแก้มอยู่เนือง ๆ“หนูเองก็ไม่ยอมพี่ไปไหนอีกแล้วค่ะ ฮึก...” ฉันซบแก้มลงบนไหล่หนาอย่างออดอ้อน หลั่งน้ำตาด้วยความซึ้งใจ หัวใจอีกครึ่งดวงได้กลับคืนมาหาฉันแล้ว ช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขมากเหลือเกิน“ต่อไปนี้เราจะกลับมามีความสุขกันเหมือนเดิมแล้วนะ” พี่คิมเอ่ยกับพวกเราขณะยืนอยู่ข้าง ๆฉันผละตัวออกมาจากอ้อมกอดพี่อเล็กซ์ ส่งยิ้มให้เขาทั้งสองคนพร้อมทั้งเกลี่ยน้ำตาออกจากพวงแก้มไปด้วย“มาเซลฟี่กันหน่อยสิคะ” ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา“ได้สิครับ” พี่คิมตอบรับทันทีจากนั้นเขาทั้งสองคนก็เกยคางบนไหล่ฉันคนละข้าง ทำหน้าหล่อแข่งกันบ้าง หอมแก้มฉันทั้งสองข้างพร้อมกันบ้าง จนได้มาเกือบสิบภาพสมใจอยาก มันจะเป็นภาพแห่งความทรงจำที่ฉันจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิตในที่สุดช่วงเวลาที่ฉันโหยหามาตลอดก็มาถึง เราทั้งสามคนรีบกลับมาที่คอนโดของพี่คิม สถานที่ซึ่งจะเป็นรังรักของเรานับจากนี้ไป แค่มองตาเราก็รู้กันแล้วว่า
“พะ...พี่เล็กซ์ ฮึก...”“ดีใจจนจะร้องไห้เลยเหรอครับ...ดีใจจัง” รอยยิ้มเขายังคงมีเสน่ห์เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน แต่ทว่ามันไม่ได้เป็นของฉันเหมือนเดิมอีกแล้วฉันปรายตามองหาพี่คิมทำเป็นไม่สนใจเขา “ไม่ได้ดีใจซะหน่อยเลยแค่ฝุ่นเข้าตา แล้วนี่แฟนหนูไปไหนแล้ว”“ไม่อยู่แล้วตอนนี้มีแค่เราสองคน อย่าทำเหมือนพี่เป็นคนอื่นอย่างนั้นสิครับ แพรวาคิดถึงพี่ไม่ใช่เหรอก็มาหาแล้วนี่ไง” เขายิ้มร้ายราวกับอ่านในฉันออกทุกซอกทุกมุมซะอย่างนั้น“ก็ตอนนี้พี่เป็นคนอื่นจริง ๆ จะกลับมาให้หนูเห็นหน้าทำไมในเมื่อพี่เองก็มีแฟนอยู่แล้ว” ฉันร่ายยาวให้เขารับรู้ว่าตอนนี้เราไม่ได้มีสถานะเหมือนเดิมแล้ว“แค่ในฐานะพี่ชายก็ไม่ได้เหรอครับ แฟนพี่ไม่ได้ขี้หวงขนาดนั้นซะหน่อย รู้ไหมว่าแฟนพี่หน้าอกใหญ่กว่าเราตั้งเยอะ แถมยังลีลาเด็ดกว่าอีกต่างหาก”อีตาบ้า! ยังจะมีหน้ามาพูดอย่างนี้อีก ต้องการให้ฉันอกแตกตายใช่ไหมเนี่ย ไอ้ผู้ชายเฮงซวย!!“หนูไม่อยากรู้เรื่องของคนอื่นหรอก ใครดีก็กลับไปหาคนนั้นสิ ทำไมจะต้องมาให้เห็นหน้าด้วย ฮึก…” ฉันเริ่มจะร้องไห้ออกมาซะแล้ว หลังจากพยายามอดกลั้นมาโดยตลอด คำพูดเขาทำร้ายจิตใจฉันมากเหลือเกิน“มาหาน้องสาวตัวเองก็ไม่
19.00 น. ณ โรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพมหานครถือเป็นครั้งแรกที่ฉันได้มีโอกาสได้ขึ้นมาดินเนอร์บนชั้นบนสุดของตึกสูงระฟ้าอย่างนี้ ที่นี่หรูหราเกินกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก ที่นั่งถูกแบ่งเป็นสองโซนคือโซนเอาท์ดอร์และโซนใต้หลังคา พี่คิมจองโซนเอาท์ดอร์ไว้ทำให้บรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก ยิ่งมีตะเกียงเทียนหอมวางไว้ตรงกลางโต๊ะ ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยเข้าจมูก ยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกขึ้นไปอีกลมธรรมชาติพัดโกรกโชยมาทำให้อากาศเย็นสบาย เราทั้งสองนั่งโต๊ะริมทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนของเมืองหลวงแห่งนี้ได้เกือบ 360 องศา มันเป็นภาพที่สวยงามเกินกว่าจะหาคำมาบรรยายได้เลยทีเดียวหนุ่มหล่อที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉัน วันนี้เขาแต่งตัวดูดีเป็นพิเศษไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่เคยหอบช่อดอกไม้มาขอฉันเป็นแฟน ส่วนฉันเองก็ไม่น้อยหน้าสวมเดรสสั้นเกาะอกสีดำดูลึกลับน่าค้นหา หลังจากเรานั่งจ้องตากันได้สักพักพี่คิมก็เริ่มบทสนทนา“รู้ไหมวันนี้เมียพี่แต่งตัวสวยเป็นพิเศษเลยนะครับ” เขาส่งสายตาหวานมามองฉันปานจะกลืนกิน ก่อนจะหยิบแก้วไวน์สีเลือดนกขึ้นมาจิบเล็กน้อย“พี่คิมเองก็เหมือนกันนั่นล่ะ แต่งตัวหล่อเกินจนสาว ๆ ที่เดินผ่านไป