สวัสดีค่ะฉันชื่อแพรวา อายุอานามก็ 21 ขวบแล้ว กำลังเรียนชั้นปีที่สาม คณะนิเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ตอนนี้ฉันกำลังนั่งรอยัยจอยเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวของฉัน ที่กำลังไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ส่วนฉันก็กำลังตอบไลน์ลูกค้าที่เข้ามาพูดคุยทักทายกันเพื่อตกลงราคา ทุกคนคงจะสงสัยว่าฉันขายอะไร จะบอกให้ก็ได้ค่ะว่าฉันเป็นเด็กไซด์ไลน์ ทำอาชีพเสริมนี้มาได้ครึ่งปีแล้ว นั่นเพราะยัยจอยเป็นคนแนะนำ มันบอกว่าฉันสวยน่ารัก ตัวเล็กเอ็กซ์อึ๋ม สเปคของบรรดาเสี่ยหื่นกามทั้งหลาย ตอนแรกฉันก็ปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ทว่าความจนมันช่างน่ากลัวจนทำให้ฉันต้องกลืนน้ำลายตัวเอง นั่นเพราะยัยจอยเอารายได้ของมันมายั่วจนฉันยอมใจอ่อนจนได้
ตึ่ง ตึ๊ง!
วางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะแล้ว กลับมีเสียงไลน์ดังขึ้นซะงั้น ฉันจึงเอื้อมมือหยิบมันขึ้นมาดูอีกครั้ง
“หืม!! หล่อซะด้วย” เมื่อเห็นภาพโพรไฟล์ของเขาฉันถึงกับตะลึง หนุ่มลูกครึ่งหล่อคม ผมสีน้ำตาล เห็นแล้วอยากจะได้มาเป็นแฟนซะเหลือเกิน แต่มันคงเป็นไปไม่ได้เพราะฉันตั้งกฎกับตัวเองไว้ว่าจะไม่มีทางเผลอใจให้ลูกค้าเด็ดขาด
Alexsexjad : สวัสดีครับ
Praewa : สวัสดีค่ะ (ส่งสติ๊กเกอร์ยิ้มไปให้)
Alex : น้องแพรวาสวยน่ารักจังเลยครับ
Praewa : ขอบคุณค่ะ พี่ชื่ออะไรอ่ะ
Alex : อเล็กซ์ครับ พี่โทรได้ไหม
Praewa : ได้สิคะ 08-XXXX-XXXX
เขาส่งสติ๊กเกอร์โอเคมาให้หลังจากนั้นไม่นานก็มีเบอร์ที่ไม่คุ้นโทรมาเข้ามาจริง ๆ
“สวัสดีค่ะพี่อเล็กซ์” ฉันส่งเสียงหวานผ่านสายไป นั่นคือสิ่งที่ฉันทำกับลูกค้าเป็นประจำจนหลายคนแค่ได้ยินเสียงก็ติดใจฉันซะแล้ว
(สวัสดีครับน้องแพรวา)
“พี่อเล็กซ์มีอะไรให้หนูรับใช้งั้นเหรอคะ”
(น้องแพรวาก็น่าจะรู้นะว่าพี่ต้องการอะไร) คนอะไรเสียงหล่อจัง
“ถ้างั้นก็เข้าเรื่องกันเลยนะคะ ค่าตัวหนูห้าพันห้าค่ะ ไม่มีต่อรองนะคะ”
(พี่ไม่มีปัญหาเรื่องเงินครับ แต่พี่มีเรื่องจะทำข้อตกลงกับน้องก่อน คือพอดีว่าพี่กับเพื่อนอยากจะลองแบบทรีซัมอ่ะครับ น้องโอเคหรือเปล่าส่วนเรื่องเงินพี่ไม่อั้นนะ)
ได้ยินอย่างนั้นฉันก็ตกใจเล็กน้อย ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยเจอเคสอย่างนี้มาก่อนเลย ให้ตายสิ! ฉันจะทำอย่างไรดี ระหว่างนั้นยัยจอยก็เดินเข้ามาพอดี พวกเรามองหน้ากันก่อนที่ฉันจะนึกอะไรได้ ใช่! งานนี้ยัยจอยน่าจะถนัดกว่าฉันเพราะมันมีชั่วโมงบินสูงกว่ามาก
“คือหนูไม่ค่อยถนัดค่ะพี่เอาแบบนี้ได้ไหมหนูมีเพื่อนจะแนะนำให้พี่”
เราทั้งสามคนกลับมาที่ชายทะเลนี้อีกครั้งในวันครบรอบวันแต่งงาน พร้อมกับพยานรักที่อยู่ในท้องฉัน ใช่ค่ะ...ตอนนี้ฉันท้องได้สี่เดือนแล้ว ทุกคนอาจจะสงสัยว่าใครคือพ่อของลูก ฉันตอบได้เต็มปากว่าเขาทั้งสองนั่นละค่ะ เราใช้วิวัฒนาการทางการแพทย์ทำให้เด็กในท้องฉันเป็นเด็กแฝด และเป็นแฝดที่เกิดจากอสุจิของเขาทั้งสองคนปฏิสนธิกับไข่ทั้งสองฟองของฉัน เด็กที่เกิดมาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพี่อเล็กซ์หนึ่งคน และพี่คิมอีกหนึ่งคน เราจะสร้างครอบครัวที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครสามารถทำได้เหมือนเราอย่างแน่นอน“เดินระวัง ๆ นะครับ” พี่คิมเอ่ยขณะพยุงตัวฉันเดินบนหาดทรายสีขาวในยามเย็น ส่วนพี่อเล็กซ์ก็เดินอยู่ข้าง ๆ ไม่ห่างกันเลยการได้เดินเท้าเปล่าบนผืนทรายในยามเย็นอย่างนี้ ทำให้ฉันผ่อนคลายความเครียดจากการแพ้ท้องได้มากพอสมควร นั่นคือเหตุผลที่เขาทั้งสองคนพาฉันมาที่นี่เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ก่อนจะกลับไปลุยงานต่อที่กรุงเทพฯ“ถ้าลูกเกิดมาพวกพี่จะให้ลูกเรียกว่ายังไงคะ” ฉันเอ่ยถามขณะทอดสายตามองไปยังผืนน้ำอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา“ก็เรียกพ่อสิครับถามมาได้” พี่คิมตอบ“ก็ใช่ค่ะ แต่หนูยังไม่ได้วางตำแหน่งพวกพี่เลยว่าจะให้ใครเป็นผัวหลว
พี่อเล็กซ์เกร็งขาก่อนจะฉีดน้ำรักเข้ามาในปาก ฉันดูดเลียกลืนกินน้ำรักจากท่อนเอ็นจนเกลี้ยงในพริบตาเมื่อสงครามสวาทยกแรกได้จบลงไปแล้ว เราทั้งสามก็ขึ้นไปนอนแผ่หลาพักเอาแรงบนเตียงอย่างพร้อมหน้ากันอีกครั้งในรอบปี“วันนี้หนูมีความสุขที่สุดเลยค่ะ” ฉันเอ่ยกับเขาทั้งสองที่กำลังนอนอยู่ข้าง ๆ“พี่ก็มีความสุขที่สุดเลยครับ ต้องขอบใจไอ้คิมที่มันช่วยคิดแผนดี ๆ ให้” พี่อเล็กซ์เอ่ยก่อนจะพรมจูบบนไหล่อย่างถือวิสาสะ“วางแผนอะไรอีกคะ พวกพี่จอมวางแผนกันจริง ๆ เลยนะ บอกมาสิคะพี่คิม” ฉันจ้องเขม็งมองพี่คิมทันที“เอ่อ...เรื่องที่ไอ้อเล็กซ์มันมีแฟนพี่เป็นคนบอกให้มันจัดฉากถ่ายรูปแล้วส่งมาเองล่ะ ก็พี่อยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนี่นา พี่รู้ว่าเรายังรักไอ้อเล็กซ์มาก” เขาเอ่ยพลางซบแก้มที่ต้นแขนฉันอย่างออดอ้อน“หวังดีมากเหลือเกิน จนหนูแทบจะเป็นบ้าตาย” ฉันยกมือขึ้นไปบีบจมูกเขาเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยว“ต่อไปนี้พวกพี่จะไม่ทำอะไรบ้า ๆ อย่างนั้นอีกแล้วครับผม เพราะเราจะอยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไป” พี่เล็กซ์เอ่ย“ลองทิ้งหนูดูสิ จะตามตัดไอ้หนอนชาเขียวพวกพี่ไม่ให้เอาใครได้อีกเลย”“โหดจังวะเมียกู ที่บอกว่าหนอนชาเขียวช่างกล้าพูดเ
แม้ว่าจะเสร็จไปแล้วแต่พี่อเล็กซ์ยังคงลากลิ้นเลียกลางร่องดูดกินน้ำรักฉันอย่างไม่รังเกียจพี่คิมผละใบหน้าออกมาเล็กน้อย เอ่ยกับฉันด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า “เสร็จแล้วล่ะสิ”“อื้ม สงสัยวันนี้ไม่ได้หลับได้นอนแน่ ๆ” ฉันส่งยิ้มให้พี่คิม“คงต้องเป็นอย่างนั้นครับคุณเมีย” พี่คิมกระตุกยิ้มร้ายก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาประกบจูบฉันอีกครั้งฉันเลื้อยมือควานหาท่อนเอ็นพี่คิมจนเจอ ก่อนจะใช้หัวแม่มือบดขยี้บนหัวเห็ดบานที่ฉ่ำไปด้วยน้ำหล่อลื่น เขาเสียวจนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะกระเด้ามือฉันต่อจากนั้น“โอยยย...แม่งโคตรเสียวววว”แจ๊ะ! แจ๊ะ!พี่อเล็กซ์กำลังถูไถหัวเห็ดตรงกลางร่องอันฉ่ำแฉะ แรงเสียดสีที่รุนแรงทำให้ฉันรู้สึกมวนท้อง กระสันเสียวไปทั่วทั้งร่างพรวดดดด!!!“อื้อออ...ซี๊ดดดดดส์!!”พี่อเล็กซ์ยัดเยียดความเป็นชายเข้าไปรวดเดียวจนมิดด้าม เขาไม่รอช้ารีบออกแรงกระเด้าราวกับต้องการรีบเสร็จโดยเร็ว ค้ำยันมือทั้งสองข้างไว้บนเตียงข้างเอวคอดฉัน ขณะกระแทกกระทั้นท่อนเอ็นยาวใหญ่เข้ามาในร่องสวาท“โอยยย...แม่งยังตอดแน่นเหมือนเดิม โคตรคุ้มกับที่รอมาเป็นปี พี่จะแตกในให้สมใจอยากเลยนะครับเมียจ๋า ซี๊ดดดดส์!!”เขาเงยหน้าหลับตาพริ้ม ขบริมฝ
ฉันรับช่อดอกไม้นั้นมาถือไว้ด้วยความปลาบปลื้มใจ พี่อเล็กซ์ลุกขึ้นยืนตรงหน้าโผเข้ากอดฉันไว้แน่นราวกับโหยหามาแสนนาน“พี่จะไม่จากเราไปไหนแล้วนะพี่สัญญา” เขาพร่ำบอกฉันข้างใบหู ส่งลมหายใจอุ่นเป่ารดพวงแก้มอยู่เนือง ๆ“หนูเองก็ไม่ยอมพี่ไปไหนอีกแล้วค่ะ ฮึก...” ฉันซบแก้มลงบนไหล่หนาอย่างออดอ้อน หลั่งน้ำตาด้วยความซึ้งใจ หัวใจอีกครึ่งดวงได้กลับคืนมาหาฉันแล้ว ช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขมากเหลือเกิน“ต่อไปนี้เราจะกลับมามีความสุขกันเหมือนเดิมแล้วนะ” พี่คิมเอ่ยกับพวกเราขณะยืนอยู่ข้าง ๆฉันผละตัวออกมาจากอ้อมกอดพี่อเล็กซ์ ส่งยิ้มให้เขาทั้งสองคนพร้อมทั้งเกลี่ยน้ำตาออกจากพวงแก้มไปด้วย“มาเซลฟี่กันหน่อยสิคะ” ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา“ได้สิครับ” พี่คิมตอบรับทันทีจากนั้นเขาทั้งสองคนก็เกยคางบนไหล่ฉันคนละข้าง ทำหน้าหล่อแข่งกันบ้าง หอมแก้มฉันทั้งสองข้างพร้อมกันบ้าง จนได้มาเกือบสิบภาพสมใจอยาก มันจะเป็นภาพแห่งความทรงจำที่ฉันจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิตในที่สุดช่วงเวลาที่ฉันโหยหามาตลอดก็มาถึง เราทั้งสามคนรีบกลับมาที่คอนโดของพี่คิม สถานที่ซึ่งจะเป็นรังรักของเรานับจากนี้ไป แค่มองตาเราก็รู้กันแล้วว่า
“พะ...พี่เล็กซ์ ฮึก...”“ดีใจจนจะร้องไห้เลยเหรอครับ...ดีใจจัง” รอยยิ้มเขายังคงมีเสน่ห์เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน แต่ทว่ามันไม่ได้เป็นของฉันเหมือนเดิมอีกแล้วฉันปรายตามองหาพี่คิมทำเป็นไม่สนใจเขา “ไม่ได้ดีใจซะหน่อยเลยแค่ฝุ่นเข้าตา แล้วนี่แฟนหนูไปไหนแล้ว”“ไม่อยู่แล้วตอนนี้มีแค่เราสองคน อย่าทำเหมือนพี่เป็นคนอื่นอย่างนั้นสิครับ แพรวาคิดถึงพี่ไม่ใช่เหรอก็มาหาแล้วนี่ไง” เขายิ้มร้ายราวกับอ่านในฉันออกทุกซอกทุกมุมซะอย่างนั้น“ก็ตอนนี้พี่เป็นคนอื่นจริง ๆ จะกลับมาให้หนูเห็นหน้าทำไมในเมื่อพี่เองก็มีแฟนอยู่แล้ว” ฉันร่ายยาวให้เขารับรู้ว่าตอนนี้เราไม่ได้มีสถานะเหมือนเดิมแล้ว“แค่ในฐานะพี่ชายก็ไม่ได้เหรอครับ แฟนพี่ไม่ได้ขี้หวงขนาดนั้นซะหน่อย รู้ไหมว่าแฟนพี่หน้าอกใหญ่กว่าเราตั้งเยอะ แถมยังลีลาเด็ดกว่าอีกต่างหาก”อีตาบ้า! ยังจะมีหน้ามาพูดอย่างนี้อีก ต้องการให้ฉันอกแตกตายใช่ไหมเนี่ย ไอ้ผู้ชายเฮงซวย!!“หนูไม่อยากรู้เรื่องของคนอื่นหรอก ใครดีก็กลับไปหาคนนั้นสิ ทำไมจะต้องมาให้เห็นหน้าด้วย ฮึก…” ฉันเริ่มจะร้องไห้ออกมาซะแล้ว หลังจากพยายามอดกลั้นมาโดยตลอด คำพูดเขาทำร้ายจิตใจฉันมากเหลือเกิน“มาหาน้องสาวตัวเองก็ไม่
19.00 น. ณ โรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพมหานครถือเป็นครั้งแรกที่ฉันได้มีโอกาสได้ขึ้นมาดินเนอร์บนชั้นบนสุดของตึกสูงระฟ้าอย่างนี้ ที่นี่หรูหราเกินกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก ที่นั่งถูกแบ่งเป็นสองโซนคือโซนเอาท์ดอร์และโซนใต้หลังคา พี่คิมจองโซนเอาท์ดอร์ไว้ทำให้บรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก ยิ่งมีตะเกียงเทียนหอมวางไว้ตรงกลางโต๊ะ ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยเข้าจมูก ยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกขึ้นไปอีกลมธรรมชาติพัดโกรกโชยมาทำให้อากาศเย็นสบาย เราทั้งสองนั่งโต๊ะริมทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนของเมืองหลวงแห่งนี้ได้เกือบ 360 องศา มันเป็นภาพที่สวยงามเกินกว่าจะหาคำมาบรรยายได้เลยทีเดียวหนุ่มหล่อที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉัน วันนี้เขาแต่งตัวดูดีเป็นพิเศษไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่เคยหอบช่อดอกไม้มาขอฉันเป็นแฟน ส่วนฉันเองก็ไม่น้อยหน้าสวมเดรสสั้นเกาะอกสีดำดูลึกลับน่าค้นหา หลังจากเรานั่งจ้องตากันได้สักพักพี่คิมก็เริ่มบทสนทนา“รู้ไหมวันนี้เมียพี่แต่งตัวสวยเป็นพิเศษเลยนะครับ” เขาส่งสายตาหวานมามองฉันปานจะกลืนกิน ก่อนจะหยิบแก้วไวน์สีเลือดนกขึ้นมาจิบเล็กน้อย“พี่คิมเองก็เหมือนกันนั่นล่ะ แต่งตัวหล่อเกินจนสาว ๆ ที่เดินผ่านไป