Home / โรแมนติก / ร้อนรักกลางใจ (3P) / 7.รักใครเป็นไหมเราอ่ะ

Share

7.รักใครเป็นไหมเราอ่ะ

Author: Alisha_Lanna
last update Last Updated: 2025-06-18 15:55:30

คิณภัทรทำหน้านิ่งหลังจากเจอคำถามของพราวตะวัน จนเธอคิดว่าตัวเองเผลอถามคำถามที่เสียมารยาทใส่เขาทั้งที่พาเธอมาทานข้าว

“ขอโทษค่ะ พราวไม่ได้ตั้งใจ ที่พราวถามแบบนี้เพราะเห็นว่าพี่คิณยังไม่ได้ลงหลักปักฐานกับใครเท่านั้นเองค่ะ“

“ผมไม่ซีเรียสนะ กินต่อเถอะ”

แต่ท่าทางของคิณภัทรทำให้เธอรู้ว่าเขาปากไม่ตรงกับใจ ส่วนแฟนหนุ่มของเธอก็ยังคุยเก่งร่าเริงปกติ โดยไม่สนใจพี่ชายที่นั่งก้มหน้าก้มตากินเงียบๆ

เมื่อจบมื้อกลางวันที่คิณภัทรรู้สึกกร่อยๆ เขาขับรถไปส่งพราวตะวันกลับไปที่แกลลอรี่ ระหว่างขับรถก็นั่งฟังคู่รักหนุ่มสาวที่นั่งเบาะหลังด้วยกัน คุยหัวเราะต่อกระซิกกันเบาๆตลอดทางเหมือนเขาไม่มีตัวตน

“พี่คิณ..ขอบคุณที่มาส่งนะคะ เอ่อ..พราวขอโทษที่ทำให้พี่โกรธด้วยค่ะ”

เธอยกมือไหว้เขาด้วยสีหน้าที่จริงจัง เจตนิพัทธ์จึงรีบพูดเพื่อปกป้องเธอตามประสา

“พราวคิดมากไปแล้ว พี่คิณไม่คิดอะไรหรอก เก๊กไปงั้นแหละ ถ้าถามแค่นี้แล้วโกรธก็เกินไปแล้ว รักใครเป็นหรือเปล่าเถอะ”

“อือ..ฉันมันไม่มีหัวใจสินะ”

คิณภัทรพูดเสียงเนือยๆตอบน้องชายพร้อมกับเหลือบหางตามอง

“เจต ทำไมต้องพูดแบบนั้นกับพี่คิณล่ะ พี่เขาทั้งช่วยซื้อภาพวาด ขับรถพาไปทานข้าว ต่อให้เป็นพี่น้องกันก็ต้องถนอมน้ำใจกันนะ”

“พราวดุเจตทำไมน่ะ?”

“ช่างเถอะ ไปทำงานแล้วนะ ขอบคุณนะคะพี่คิณ”

พราวตะวันลงจากรถไป ส่วนเจตนิพัทธ์ก็ย้ายไปนั่งหน้าข้างคนขับ ทำหน้าเครียดที่โดนแฟนสาวดุ

“พี่โกรธพราวเหรอ? เห็นเงียบตลอด”

“ไม่ ที่เธอคิดว่าฉันไม่เข้าใจความรักแบบนั้นเพราะแกชอบพูดให้เธอเข้าใจว่าฉันเป็นเสือผู้หญิงไง ไม่แปลกหรอก ฉันควรโกรธแกมากกว่าที่ทำภาพลักษณ์ฉันเสียหายหมด”

“เอ้า พากันมาโกรธเจตกันหมด อะไรวะ”

“แกเข้าใจความรักมากกว่าใครๆงั้นสิ”

“ไม่ได้พูดแบบนั้น แค่เจอคนที่ใช่ก็หยุดแล้ว ไม่ได้เหมือนตอน15-16”

“แกพึ่งอายุ 21 จะ 22 อย่าพึ่งแน่ใจนักเลย ก่อนนี้มีแฟนกี่คนก็เห็นปลื้มนักปลื้มหนา คลั่งรักหัวปักหัวปำแล้วเป็นไง? แกต่างหากที่เป็นคาสโนว่า ไม่ใช่ฉัน ดีนะที่แต่ละคนไม่ท้องในวัยเรียน ไม่งั้นแกฉิบหายแน่”

“ยังกับพี่ไม่เคยทำงั้นน่ะ”

“ฉันป้องกันโว้ย แล้วเสียซิงก็เกือบจะจบมหาวิทยาลัย ไม่เหมือนแก ล่อตั้งแต่ ม.ปลาย ถ้าแม่รู้นะ นึกภาพไม่ออกเลย”

ทั้งคู่จบการสนทนาและนั่งกันเงียบๆในรถ อันที่จริงแล้วเจตนิพัทธ์จงใจพูดให้พราวตะวันคิดแบบนั้นเสมอ เพราะเขาเห็นสายตาที่พี่ชายของตัวเองมองเธอตั้งแต่พาไปแนะนำตัวให้ครอบครัวรู้จัก แค่ว่าเขาแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อหน้าทุกคนเท่านั้น

ในใจลึกๆเขารู้ดีว่าด้อยกว่าพี่ชายแทบทุกอย่าง แถมไม่ใช่คนโปรดของพ่อแบบคิณภัทร ไม่มีอิสรภาพทางการเงินเหมือนพี่ชายที่จะจ่ายเอาใจผู้หญิงได้ตามอำเภอใจตราบใดที่ยังเรียนไม่จบและยังไม่ได้ทำงาน ที่ผ่านมาก็ทำได้แค่ซื้อของขวัญวันเกิดด้วยช่อดอกไม้ พาไปทานข้าว ดูหนัง เที่ยวเตร่ทั่วๆไป เขาอยากขอเงินแม่เพื่อซื้อของแพงๆให้เธอ แต่ติดที่ก่อนหน้านี้ครอบครัวเขายังไม่เคยเจอเธอสักครั้ง เพราะพราวตะวันอยากคบหาให้แน่ใจในกันและกันสักพักก่อน

แกลลอรี่ อาร์ต Sukhumvit Art Haus

พราวตะวันเดินเข้าไปเพื่อจะเริ่มทำงานต่อ เนื่องจากมีผู้เข้ามาชมงานศิลปะอยู่ประปราย แต่ทางผู้จัดการได้เข้ามาพูดคุยกับเธอด้วยท่าทางกรุ้มกริ่มมีเลศนัย

“พราว พี่คุยด้วยครู่นึงจ้ะ”

“ค่ะพี่”

“ลูกค้าซื้อภาพวาดที่พราวขายไปช่วงเที่ยง เขาโดเนทให้พราวเท่ากับราคาภาพเลย บวกกับ5%ที่พราวได้ เดี๋ยวพี่คำนวนแบบหักภาษี ณ ที่จ่ายให้เลย ขอเลขบัญชีของพราวด้วยจ๊ะ”

พราวตะวันอึ้งบวกตะลึงจนดวงตาที่โตอยู่แล้วกลายเป็นเท่าไข่ห่าน พร้อมกันเขียนเลขบัญชีธนาคารใหัไป

พี่คิณทำไมทำแบบนี้นะ แล้วเจตจะรู้หรือเปล่า?…

“พี่คะ ลูกค้าได้ให้รายละเอียดอะไรไว้มั้ย? พราวอยากติดต่อเพื่อขอบคุณเขาน่ะค่ะ”

“อ้อ มีๆ เขาให้นามบัตรเอาไว้เพราะมีที่อยู่บริษัทของเขาน่ะ พี่ต้องส่งใบเสร็จใบกำกับภาษีส่งให้ฝ่ายบัญชีบริษัท นี่เขาเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ชื่อดังเลยนะ”

“ขอพราวดูหน่อยค่ะพี่”

ผู้จัดการได้ยื่นนามบัตรของคิณภัทรให้ เธอแค่ถ่ายรูปเอาไว้แล้วคืนให้ไป

“พราวขออนุญาตโทรศัพท์ไม่เกินห้านาทีได้มั้ยคะ? แล้วจะรีบมาดูแลหน้างานค่ะ”

“ตามสบายๆ ไม่เป็นไรพราว”

เธอรีบเดินไปมุมๆหนึ่งของแกลลอรี่แล้วโทรหาคิณภัทรตามเบอร์ในนามบัตรนั้นทันที

“ฮัลโหล”

“พี่คิณใช่มั้ยคะ?”

ฝ่ายที่รับสายถึงกับตกใจระคนตื่นเต้น รีบลุกจากเก้าอี้ไปยืนคุยที่หน้าต่างห้องทำงาน

“พราวเหรอ?”

“ค่ะ ผู้จัดการบอกว่าพี่คิณโดเนทให้ แต่มันมากเกินไปนะคะ พราวได้คอมมิชชั่นจากการขายอยู่แล้ว เกรงใจมากค่ะ”

ซึ่งเธอคิดแบบนั้นจริงๆ พาลนึกไปถึงที่ร้านอาหารตอนเสียมารยาทกับเขา

“ผมอยากให้เอง มันคือสิ่งที่คุณควรได้ แค่นึกถึงว่าคุณต้องอธิบายซ้ำๆกับทุกคนแบบนี้ ผมยังเหนื่อยแทนเลย”

นี่ฉันตัดสินเขาเร็วเกินไปจริงๆ ขนาดเรื่องเล็กๆน้อยๆเขายังรู้จักเห็นอกเห็นใจ อยากให้กำลังใจคนอื่น แต่ฉันดันไปถามเขาแบบนั้นทำเหมือนว่าเขาไม่มีหัวใจ

“ถ้าพี่คิณมีอะไรให้พราวทำเป็นการตอบแทนได้ พราวยินดีค่ะ”

“ผมไม่ต้องการอะไรในตอนนี้ แต่ที่แน่ๆผมมีเบอร์คุณแล้ว พราวตะวัน”

“เรื่องโดเนทนี้เจตรู้มั้ยคะ?”

“ผมไม่จำเป็นต้องบอก เพราะเขาจะคิดมาก”

เธอรู้สึกโล่งใจ ก่อนจะกล่าวขอบคุณอีกครั้งแล้วกดวางสาย หันหลังเดินกลับไปทำหน้าที่ของเธอต่อ

เจตนิพัทธ์นั่งดูเอกสารทำงานด้วยใจที่ไม่มีสมาธิ เขาอยากโทรไปง้อเธอ แต่ติดที่อยู่กับผู้จัดการกองทุนของบริษัทกำลังสอนงานเขาอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่าพี่ชายของตัวเองออกไปจากบริษัทอีกครั้ง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    57.บทกวีของชีวิต The End

    หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ ชโลทรก็ส่งข้อความมาบอกพราวตะวันว่าอยู่ที่ปารีสกับครอบครัวโบว์ฟัว เพื่อทำงานศิลปะอย่างที่เคยฝันว่าอยากมีแกลลอรี่เป็นของตัวเองบ้าง แต่ช่วงนี้ต้องอาศัยแกลลอรี่ของกาเบรียลเพื่อวางผลงานไปก่อน พราวตะวันตกใจที่แม่ของเธออยู่ร่วมกับพ่อและภรรยาใหม่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ “พ่อทำยังไงถึงโน้มน้าวแม่ได้คะ? เหลือเชื่อมาก”“ก็เพราะพ่อรู้จักเธอดีกว่าใครๆ เผลอๆรู้จักเธอมากกว่าตัวเธอรู้จักตัวเองเสียอีก แล้วก็ต้องให้เครดิตโคลเอ้นะ น้องสาวลูกตีบทแตกไปเลย”พราวตะวันหัวเราะคิก “พ่อเล่าหน่อยสิ”“ไว้ลูกมาที่ปารีสเดี๋ยวก็เห็นว่าโคลเอ้ทำยังไง?”ที่อเมริกาช่วงพักฟื้นได้จบลง คิณภัทรได้กลับมาประเทศไทยอย่างสุขภาพที่ดี จากการพักผ่อนเต็มที่ อาหารที่แม่ของเขาทำเพื่อลูกอย่างถูกสุขอนามัยทุกวัน แม่บอกรักเขา ดูแลและโอบกอดเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาอยากได้มาตลอด ทำให้ช่วงเวลาหนึ่งเดือนเป็นการฟื้นฟูความรู้สึกที่ขาดหายในวัยเด็กด้วยเลยทีเดียวพราวตะวันและเจตนิพัทธ์ที่ใส่ชุดนักศึกษาได้จูงมือกันเข้ามาในบ้าน ก็เจอกับคิณภัทรและแม่ที่บินกลับมาแล้ว“นี่ในบ้านนะ ไม่ต้องกลัวคนหายหรอก”“หายดีก็ปากเหมือนเดิมเลยนะพี่ค

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    56.Passion

    ชโลทรหมดแรงที่จะต่อล้อต่อเถียงกับคิณภัทรอีกแล้ว“เธอเป็นของคุณ..ดูแลเธอให้ดีก็แล้วกัน..”เธอพูดจบและจะเดินหนีขึ้นข้างบน พราวตะวันรีบเรียกและดึงแขนแม่เอาไว้“แม่!..”“ปล่อยแม่..พราว! รักเขามากกว่าแม่ก็ไปซะ”“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะแม่”“ไม่ใช่แล้วมาปรึกษากันบ้างมั้ย?”“หนูขอโทษค่ะ..”“ให้แม่อยู่คนเดียวซักพักเถอะ ไปสิ..ไปอยู่กับพวกเขา ไปซะ” ชโลทรสะบัดแขนจากลูกสาวแล้วรีบเดินขึ้นไปบนชั้นสองและปิดประตูห้องล็อก คิณภัทรรีบมากอดเธอไม่ให้ตามขึ้นไป เขาจะสู้เพื่อไม่ให้เสียเธอ โดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นแม่ของเธอหรือใครก็ตาม “พี่คิณ..เอาไงดี?”“แม่ว่าพาหนูพราวไปที่บ้านก่อนดีกว่า บางทีปล่อยให้แม่เค้าคิดอะไรสักพักก่อนนะ”“พราว..ไปกับเรานะ พี่ไม่ได้บอกให้ทิ้งแม่ แต่พี่ไม่อยากให้ทุกคนสุขภาพจิตเสีย เดือนหน้าหนูอาจตั้งท้องแล้ว พี่ห่วงลูก เดี๋ยวพี่จะหาทางมาคุยกับคุณแม่ของพราวอีกที พี่ไม่ยอมแพ้หรอก”“เจตจะไปช่วยเก็บของ แม่กับพี่คิณรอนี่แป็บนึงนะ”เจตนิพัทธ์จับมือพราวตะวันให้ออกจากกอดของคิณภัทร เพื่อไม่ให้เสียเวลา“พราวไม่ไปได้ไหม? ขออยู่ที่นี่กับแม่…”“เชื่อเจตนะ เจตมีวิธี”ทั้งสองขึ้นไปเก็บแค่เสื้อผ้ามาไม่มากร

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    55.เรื่องเซอร์ไพรส์และการไม่ยอมรับ

    คุณเจตสุภาตัดสินใจจะไปคุยกับชโลทรที่บ้าน เพราะเจตนิพัทธ์ได้บอกกับทุกคนว่าท่าทางคุณแม่ของพราวตะวันดูสับสนกับสิ่งที่ลูกสาวบอกคร่าวๆ“แม่คิดว่ามีส่วนต้องช่วยรับผิดชอบ เพราะลูกชายของแม่ทั้งสองคนไปอีนุงตุงนังกับลูกสาวของเค้าก่อน อีกอย่างอยากทำอะไรให้ถูกต้อง ไหนๆก็จะเรียนจบอยู่แล้ว”พราวตะวันที่จัดของออกจากกระเป๋าอยู่ พอเห็นสายโทรเข้าจากเจตนิพัทธ์ก็รีบรับสายอย่างกระตือรือร้นทันที “ว่าไงเจต? พราวกำลังเครียดเลย”“เดี๋ยวอีกชั่วโมงนึงเจอกัน ที่บ้านเจตโอเคทุกอย่าง ราบรื่นไม่มีอะไร ไม่ต้องเครียดนะ พวกเราเอาอยู่”“เฮ้อ..ไม่รู้สิ กลัวไปหมด”“เจตจะปกป้องพราวเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ช่าง เราต้องได้อยู่ด้วยกัน”วันนี้ชโลทรลางานจากมหาวิทยาลัย จึงว่างครึ่งวันโดยเธอนั่งวาดรูปเงียบๆที่ห้องรับแขก ไม่นานนักก็มีรถยนต์คันใหญ่ที่หรูหรามาจอดที่หน้าบ้าน เธอที่เห็นแบบนั้นจึงออกไปดู พอเห็นหน้าสองพี่น้องและหญิงวัยกลางคนที่ดูก็รู้ทันทีว่าคือคุณแม่ของพวกเขา ซึ่งดูอายุอานามมากกว่าเธอ จึงเป็นฝ่ายยกมือสวัสดีขึ้นก่อน“สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ”“โอ้..ยินดีมากค่ะ อยากเจอคุณแม่หนูพราวมาสักพักแล้ว”คุณเจตสุภารับไหว้และจับมือของชโลทรอ

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    54.รู้เท่าที่อยากให้รู้

    ถึงเวลาบินกลับไทยก่อนหน้าเปิดเทอมสุดท้ายสามวัน ครอบครัวจิรวราพงศ์มารับคิณภัทรและพราวตะวันที่สนามบิน โดยมีชโลทรคุณแม่ของพราวตะวันได้มารอรับลูกสาวเช่นกัน ซึ่งเธอประหลาดใจมากที่ลูกสาวลงเครื่องมากับคิณภัทร ขณะที่แฟนหนุ่มอย่างเจตนิพัทธ์มารอรับทั้งคู่ด้วยและนี่เป็นครั้งแรกที่พ่อแม่ของพวกเขาได้รู้จักคุณแม่ของแฟนสาว ทุกคนดูไม่แปลกใจกับทุกสิ่งที่เห็นยกเว้นชโลทรที่รู้สึกแปลกๆพราวตะวันยกมือไหว้พ่อแม่ของแฟนหนุ่มทั้งสอง และปรี่เข้าไปกอดแม่ของเธอแน่น เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันถึงสองเดือนกว่า คิณภัทรกอดกับแม่ของเขาแล้วก็เดินมาหาชโลทร “สวัสดีครับคุณแม่ พอดีผมกลับมากับน้อง วันนี้ผมจะขออนุญาตไปคุยกับคุณแม่ที่บ้านนะครับ เออ..เจต ของเยอะมากเลย ต้องช่วยกันขนใส่รถนะ”คิณภัทรคุยกับชโลทรแล้วหันไปบอกน้องชาย ก่อนจะหันมากระซิบกับพราวตะวันเบาๆ“ที่รัก ตอนเย็นผมกับเจตจะไปหาที่บ้านนะ ขอคุยกับที่บ้านก่อน”พราวตะวันพยักหน้ารับ ขณะที่เจตนิพัทธ์มากอดเธอเป็นคนสุดท้าย “เจตไม่เจอแป็บเดียว พราวสวยขึ้นนะ คิดถึงจะตายละ”“เย็นนี้เจอกันนะ”เธอกล่าวลาทุกคนแล้วกลับบ้านไปกับแม่ ระหว่างอยู่ในรถ แม่ของเธอสังเกตว่าลูกสาวดูสวยขึ้นจร

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    53.เอาดีๆ🔞🔥💋

    พราวตะวันไม่เคยไปที่อื่นนอกจากฝรั่งเศส เธอจึงตื่นเต้นมาก ชุดว่ายน้ำทูพีชสีสดใสหลายชุดที่ไปช็อปปิ้งมา เธอจึงใส่ไม่ซ้ำกันสักวันเพื่อว่ายน้ำทั้งในโรงแรมและที่ชายหาดใกล้กับ Brook Point ในเวลาที่สามีทำงานอยู่ในห้อง เธอถ่ายรูปส่งให้เจตนิพัทธ์และแม่ของเธอมากมาย จนแม่ต้องส่งข้อความมาหาว่าทำไมถึงไปอยู่ที่นั่นได้ “แล้วหนูจะกลับไปอธิบายให้แม่ฟังนะคะ”คิณภัทรโทรเข้ามาหาเพราะตามหาภรรยาไม่เจอ “ที่รัก อยู่ไหน? ห้ามไปที่ไหนไกลเกินไปคนเดียวสิ พี่เดินหาไม่เจอเลย”“มานั่งเล่นใกล้กับซากเรือเก่าค่ะ สวยมากๆ ถ่ายรูปส่งไปให้แม่ด้วยเผื่อเป็นแบบให้วาดภาพ มีประภาคารด้วยพี่คิณ ปลาก็เยอะน้ำก็ใสสีฟ้าสุดๆ”“เดี๋ยวๆ ทำไมไปไกลจากโรงแรมแบบนั้น? อยู่นั่นเลยห้ามลงน้ำ พี่กำลังไปหา”เขาเอารถของโรงแรมขับอ้อมไปหาเธอ 1.7 กิโล ใช้เวลาห้านาทีก็ถึง พอดูพิกัดในโทรศัพท์ก็รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน “แพริส ห้ามใส่ชุดว่ายน้ำแบบนี้มาคนเดียว เห็นมั้ยว่าคนท้องถิ่นอยู่ที่นี่ แล้วตอนนี้นักท่องเที่ยวก็ไม่มีใครสักคนน่ะ ถ้าจะมาให้รอพี่สิ”เธอเงยหน้ามองแบบไม่พอใจแต่ก็ไม่พูดอะไร พลางใส่เสื้อและกางเกงขาสั้นทับชุดว่ายน้ำไปเลย แล้วทำหน้าหงิก“เดี๋

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    52. She Served 🔞🔥🌷

    ตอนนี้สุขภาพของคิณภัทรดีขึ้นแต่ก็ยังต้องจำกัดอาหารและดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้เหมือนเดิม พวกเขาได้รับเอกสารการจดทะเบียนเรียบร้อยและบินไปนีซอีกครั้งเพื่อแสดงเอกสารให้กับทางโบสถ์ รวมถึงไปดูการรีโนเวทโรงแรมอยู่สามวันเหลืออีกครึ่งเดือนเขาและพราวตะวันต้องกลับไทย การใช้ชีวิตด้วยกันกับครอบครัวของเธอสองเดือนกว่านี้ทำให้ชีวิตเขาสงบและร่างกายได้พักผ่อนยาวๆเป็นครั้งแรก ทางด้านเจตนิพัทธ์รู้สึกได้ว่าความสัมพันธ์กับพราวตะวันดีขึ้นมาก พออยู่ไกลกันกลับห่วงหาคิดถึงกันมากกว่าเดิม ไม่มานั่งทะเลาะกัน ได้คุยกันทุกวันแม้จะไม่นานมาก ลมทะเลที่พัดปลิวผ้าม่าน ผมยาวเป็นลอนสวยที่ปลิวตามแรงลม พราวตะวันนั่งที่ระเบียงห้องเพลินๆระหว่างที่คิณภัทรนั่งทำงานคุยซูมประชุมอยู่กับลูกน้องที่ต่างประเทศ เธอนึกอะไรขึ้นได้จึงลุกไปค้นอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าสะพาย มองมันในมืออยู่ครู่หนึ่งเหมือนชั่งใจ สุดท้ายก็ทิ้งมันลงถังขยะ..ฉันตัดสินใจแล้วล่ะ..อีกไม่กี่เดือนก็จบแล้วด้วย…พราวตะวันเห็นว่าคิณภัทรยังคุยงานอยู่ เธอจึงหยิบบางอย่างในตู้เสื้อผ้าและเข้าห้องน้ำไป ไม่นานเธอก็ออกมาพร้อมกับหยิบหนังสือมาเล่มหนึ่งแล้วเดินผ่านเขาไปนั่งเอนหลังบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status