로그인ลุงหวังก็เหมือนผู้สูงวัยทั่วไป พอถึงวัยนี้ก็มักชอบอาหารตุ๋นนิ่มๆ เคี้ยวง่าย พอเห็นหมูสามชั้นสีน้ำตาลแดงฉ่ำเงาเป็นประกายก็น้ำลายสอ อดใจไม่ไหวอยากกินทันที
เนื้อหมูนุ่มจนใช้ตะเกียบแตะเบาๆ ก็แยกออกจากกัน ตักราดน้ำซอสลงบนข้าวสวยร้อนๆ แล้วตักเข้าปาก
รสชาติที่ระเบิดอยู่ในโพรงปากทำเอาลุงหวังงถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะกลายเป็นเหมือนหยางอิง ที่ไม่มีเวลาพูดอะไรอีก นอกจากมุ่งมั่นกับการกิน
กลิ่นหอมนี้ทำเอาคนที่เดินผ่าน หรือแม้แต่ละแวกเพื่อนบ้าน พากันใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บ้านไหนกันนะที่ต้มหมูได้หอมขนาดนี้ กลิ่นลอยมาถึงบ้านเรา…จะอดทนยังไงไหว
ตั้งแต่ถังเหยาเปิดร้านตระกูลถัง ไม่ว่าจะตอนสิบโมงเช้า หรือห้าโมงเย็น จะต้องมีกลิ่นหอมแรงทะลุประตูพุ่งออกมาเหมือนตั้งเวลาไว้ กลิ่นนั้นลอยตามลมไปไกลหลายบ้านเลยทีเดียว ใครที่ยังไม่ได้กินข้าวเช้าหรือเที่ยง พอเจอกลิ่นเข้าไปก็ได้แต่กุมท้องโอดครวญกันถ้วนหน้า
บรรดาไรเดอร์ที่เสร็จงานช่วงสายก็เริ่มเดินผ่านแถวร้าน พอได้กลิ่นหมูตุ๋นก็พากันหันขวับ บางคนคิดว่าจะรีบไปส่งออร์เดอร์สุดท้ายให้เสร็จแล้วกลับมากิน บางคนไม่พูดพล่าม รีบจอดรถแล้วต่อแถวรอทันที
“เจ้าของร้านถัง วันนี้ทำอะไรกินเนี่ย หอมจนท้องผมร้องเลยนะ!”
“ใช่เลย หอมจนใจสั่น กลิ่นนี้เหมือนหมูตุ๋นตงพอเลย แต่ไม่รู้ใช่ไหมนะ ถ้าใช่จริงๆ ล่ะก็ ด้วยฝีมือของแม่ครัวคนสวย อร่อยจนต้องยกนิ้วแน่นอน!”
“แต่ฉันยังไม่เคยได้กินซี่โครงวัวอบไวน์แดงเลยนะ ได้ยินว่าตอนนี้เป็นเมนูยอดฮิตของร้านเลยใช่ไหม”
“เฮ้อ...ซี่โครงวัวอบไวน์แดงอร่อยจริงๆ แบบมากๆ ไก่ผัดเผ็ดเสฉวนก็ไม่แพ้กันนะ ส่วนเต้าหู้สูตรพิเศษก็คือที่สุด ฉันกินมาครบหมดแล้ว วันนี้ต้องลองหมูต้มตงพอให้ได้!”
“นายกินครบแล้วเหรอ! เมื่อวานฉันมาทีไรก็อดซี่โครงวัวทุกที เมนูนั้นหมดเร็วสุดเลยอะ”
ระหว่างที่รอร้านเปิด คนที่ต่อแถวอยู่ก็พากันจับกลุ่มคุยเมาท์กันสนุกสนาน คนเดินผ่านไปมาพอเห็นใกล้เที่ยงแล้วมีคนมายืนรอกันเต็มหน้าร้าน ก็พากันคิดว่า ต้องอร่อยแน่เลย แล้วรีบมาสมทบท้ายแถวทันที
“มื้อนี้มีเมนูใหม่แน่ๆ! กลิ่นหอมขนาดนี้!”
“กลิ่นหอมมันๆ ไม่ใช่หมูต้มตงพอก็ให้มันรู้ไป!”
“โอ้ย หิวจะตายอยู่แล้ว กลิ่นนี้คือทรมานกันชัดๆ”
ผู้กำกับเฉิน มีคิวพักตอน 11 โมงครึ่ง คนในกองถ่ายยังพากันสงสัย เพราะปกติไม่เคยได้พักตรงเวลาแบบนี้มาก่อน หลายครั้งเลยเที่ยงไปแล้วก็ยังถ่ายไม่เสร็จ แต่คราวนี้อะไรดลใจให้ผู้กำกับรีบร้อน ขนาดว่าพอสิ้นเสียง "คัท!" ก็ไม่เห็นเงาเขาแล้ว
พอผู้กำกับสั่งพัก ถิงถิงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว แล้ววิ่งออกจากกองแทบจะทันที ระหว่างทางก็บังเอิญเห็นเงาสองคนที่คุ้นตาอยู่ข้างหน้า มองดีๆ แล้วก็ใช่เลย…ผู้กำกับเฉินกับผู้กำกับซ่ง
ทั้งสองเห็นเธอวิ่งมาก็รีบสั่ง "ถ้ามีโต๊ะเหลือ ช่วยจองไว้ให้พวกเราด้วยนะ!"
แต่กว่าจะออกจากกองถ่ายมาถึงร้านตระกูลถังก็เกือบเที่ยง ถิงถิงมาถึงแล้วก็พบว่าตัวเองกลายเป็นคนที่ 13 ในแถวเข้าไปแล้ว…
ผู้กำกับเฉินกับผู้กำกับซ่งมองดูถิงถิงยืนต่อแถว แล้วหันไปมองในร้านที่เต็มแน่นไปด้วยลูกค้า วันนี้ร้านตระกูลถังคนแน่นเร็วกว่าวันก่อนเสียอีก แรกๆ ก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงเต็มเร็วขนาดนี้ แต่พอฟังคนที่ต่อแถวข้างหน้าคุยกันถึงเข้าใจว่า วันนี้มีเมนูใหม่!
“โอ้โห! ดูหมูต้มตงพอสิ แค่เห็นสีก็รู้แล้วว่าต้องอร่อยแน่ๆ กลิ่นหอมลอยมาไกลเลย หอมเกินต้าน!”
“ฉันกำลังนอนอยู่เลย เพื่อนสนิทโทรมาบอกว่า ขับรถผ่านเห็นคนต่อแถวเลยแวะดู ที่ไหนได้ดันเจอร้านดีงามแบบนี้เข้าให้ อร่อยจนพูดไม่ออก ต้องรีบโทรมาบอกฉันให้มาทันที ไม่งั้นเดี๋ยวหมด!”
“ดูเหมือนคนส่วนใหญ่จะสั่งหมูต้มตงพอกันทั้งนั้นแหละ ดูสิ คะน้าสีเขียวสดใสจัดวางข้างหมูต้มสีอำพัน ราดซอสมันวาว สวยเหมือนงานแกะสลักเลย หิวจะตายอยู่แล้ว!”
สองผู้กำกับได้ยิน ก็พากันหันตามสายตาคนเหล่านั้นไปมอง เมื่อเห็นกับตาแล้วก็แทบกลืนน้ำลายตาม กลิ่นหอมๆ แถมเนื้อหมูเปล่งประกายขนาดนั้น ถ้าได้กินกับเหล้านารีแดงล่ะก็... สมบูรณ์แบบ!
ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วตกลงว่า คืนนี้ต้องเปิดขวดกันสักหน่อยแล้วล่ะ
คนที่ทานเสร็จเดินออกมายังเอ่ยปากชม ว่าหมูต้มตงพอของร้านนี้อร่อยเกินไปแล้ว! อร่อยจนรู้สึกว่าไม่ใช่หมูธรรมดา แต่เป็นเนื้อวากิวเลยต่างหาก บางคนยังบอกว่า “ยังไม่จุใจเลย เย็นนี้ต้องกลับมากินอีกให้ได้!”
ทั้งที่ในมือก็ถือกล่องอาหารกลับบ้าน ยังจะกลับมากินอีกงั้นเหรอ?
ข้างหน้าสองผู้กำกับเป็นถิงถิงที่รอคิวอยู่ และเธอก็ได้ที่นั่งพอดี แต่มีพนักงานเดินมาหาแจ้งเรื่องอาหาร
“ตอนนี้เหลือหมูต้มตงพอแค่หนึ่งที่สุดท้ายแล้วค่ะ”
แม้จะเหลือแค่จานเดียวแต่ก็ดีกว่าไม่ได้กินเลย ถิงถิงรีบเอ่ยปากชวนผู้กำกับเฉิน “งั้นให้ผู้กำกับก่อนเลยค่ะ ฉันสั่งซี่โครงวัวอบไวน์แดงก็ได้”
แต่พอหมูต้มจานสุดท้ายนั้นถูกวางตรงหน้า แถมได้เห็นความงามของมันใกล้ๆ เธอก็เริ่มรู้สึก…เสียใจขึ้นมาทันที ชิ้นหมูทรงสี่เหลี่ยมเด้งดึ๋ง จมอยู่ในน้ำซอสสีอำพันข้นเหนียว บนจานจัดวางคะน้าสีเขียวสดดูสวยงามน่ากิน กลิ่นหอมหวานเข้มข้นลอยอยู่ตรงหน้า
ฮืออ อยากกินสุดๆ ไปเลย
ผู้กำกับเฉินรู้ว่าถิงถิงตั้งใจยกให้ เลยคีบเนื้อหมูชิ้นหนึ่งใส่จานเธอ แล้วใช้ตะเกียบแบ่งอีกครึ่งชิ้นให้กับผู้กำกับซ่งที่นั่งข้างๆ ก่อนจะคีบซี่โครงวัวในจานของผู้กำกับซ่งมาใส่ถ้วยตัวเอง ถือว่าทุกคนได้ลิ้มลองของอร่อยอย่างทั่วถึง
ถิงถิงเห็นแบบนั้นก็เกรงใจอยากจะปฏิเสธ แต่ผู้กำกับเฉินไม่ยอม เธอเลยจำใจคีบซี่โครงให้อีกฝ่ายหนึ่งชิ้น จากนั้นถึงได้เริ่มกินด้วยความสบายใจ
ผู้กำกับเฉินใช้ช้อนตักหมูต้มตงพอขึ้นมา เนื้อด้านในเป็นสีชมพูอมขาว ดูชุ่มฉ่ำไม่แห้งและไม่เละ ราดซอสนิดๆ แล้วตักข้าวตามเข้าไป พอเข้าปากปุ๊บก็รู้สึกเสียใจ เพราะอีกครึ่งชิ้นนั้น...อยู่ในจานของผู้กำกับซ่ง!
รูปลักษณ์ของหมูต้มตงพอไม่มีอะไรให้ตำหนิ สีสันสวยงาม พื้นผิวมันเงา สัดส่วนทุกชิ้นเท่ากันเป๊ะราวกับหล่อออกมาจากพิมพ์ น้ำซอสดูน่าจะเป็นแบบเคี่ยวน้ำตาลเอง ถึงได้กลิ่นหอมละมุนขนาดนี้
แต่สิ่งที่ทำให้จานนี้ “ระเบิดความอร่อย” จริงๆ ก็คือรสชาติ
หมูสามชั้นที่มีชั้นไขมันและเนื้อสลับกันอย่างลงตัว ถูกตุ๋นด้วยไฟอ่อนจนได้ความนุ่มพอดี ไม่เปื่อยจนเกินไป ส่วนเนื้อแดงยังคงชุ่มฉ่ำไม่แห้ง กินคู่กับมันหมูนุ่มละมุนลิ้นโดยไม่เลี่ยนเลยสักนิด
ใครได้กินเข้าไปแล้วก็หยุดไม่ได้ ต้องยื่นตะเกียบไปหาอีกคำต่อทันที
เปิด lineman สิ!! มีหมูตงพอขายไหม!!!
หิวไม่ไหว หิวเกินไปค่ะคุณน้าาาาา
กดเข้าชั้นไว้นะทุกคน จะได้ไม่พลาดการแจ้งเตือนบทใหม่นะคะ
หากถูกใจกด หัวใจหรือรีวิวให้เค้าได้น้าาา
ในขณะที่ข่าวยังคงเป็นประเด็นร้อนแรง และทุกคนกำลังสนุกกับข่าวใหญ่ชิ้นนี้ งาน Weibo Gala ก็ได้ประกาศรายชื่อแขกผู้มีเกียรติ และข่าวที่ร้อนแรงที่สุดในตอนนี้ก็คือ คู่รักถังกู้ ยืนยันว่าจะเข้าร่วมงานนี้พร้อมกันเรือของฉันถึงฝั่งแล้ว: “หลีกไปๆ หลีกไปให้หมด เรือของฉันมาถึงแล้ว! ฮือๆ รอตั้งนานกว่าจะได้เห็นคู่รักของฉันปรากฏตัว คิดถึงพี่ๆ ทั้งคู่จะแย่แล้ว!”คู่รักถังกู้: “มาสนุกกันเถอะทุกคน คู่รักของเราจับมือกันมาแล้ว! นี่คือของขวัญแต่งงานสำหรับพวกเรา!”คุณนายและการกินเผือก: “โอ้โห…คู่รักมาเองเลย! ทุกคนหลีกทางให้หน่อย! โปรยดอกไม้และปูพรมแดง!”นอนรอ OTP: “ดีใจที่สุด วันนี้มาถึงแล้ว! วันนี้หยุดงานพอดี ตั้งใจจะซื้อของกินมานั่งดูทั้งวันเลย! ความหวานของคู่รักถังกู้ ไม่ค่อยได้เห็นแบบเปิดเผยเท่าไหร่ โอกาสแบบนี้พลาดไม่ได้เด็ดขาด!”เสพข่าวซุบซิบ: “เฮ้! ฉันอิจฉาแฟนคลับคู่นี้จริงๆ เลย! เรือของพวกเขาถึงฝั่งแล้ว และมีความสุขกันแบบเปิดเผย ส่วนเรือของฉันเพิ่งจะล่มแ ละยังทะเลาะกันอยู่เลย! โธ่เอ๊ย! เห็นสภาพบ้านของตัวเองแล้วเจ็บปวดหัวใจจริงๆ!”สมาคมคนชอบเม้าท์: “ถามจริง ในวงการใครจะมาสู้กับคู่รักคู่นี้ได้อีก! แฟนค
ประธานกลุ่มบริษัทหานเหยียน ที่เพิ่งกลับมาถึงประเทศก็ไม่พลาดโอกาสนี้ เขาหัวเราะอย่างร่าเริงและสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานขึ้นมา“อย่าลืมนะว่าฉันก็เป็นพ่อทูนหัวของเจ้าหนูเสี่ยวอวี่เหมือนกัน พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน จะทำตัวห่างเหินไปทำไม”สวี่เหยียนยิ้มอย่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ และมีกลิ่นอายของผู้ชายที่น่าดึงดูดและเป็นผู้ใหญ่ ราวกับไวน์ชั้นดีที่ดึงดูดสายตาของพนักงานทุกคน “ใช่แล้ว! ถ้าซ่งไป๋นั่งได้ ทำไมฉันที่สนิทกับเสี่ยวอวี่ขนาดนี้ถึงนั่งไม่ได้ล่ะ อย่าเลือกปฏิบัติแบบนี้สิ”ไช่หนิงหันไปมองคนที่อยู่ข้างๆ ด้วยความหมายที่ชัดเจน เธอจะไม่อนุญาตให้ใครมารังแกสามีได้ง่ายๆ คนที่เธอปกป้องและดูแลมาอย่างดี จะปล่อยให้แกะพวกนี้มารุมตอดได้อย่างไร มีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถรังแกเขาได้ และคนอื่นไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้น“พวกคุณสองคนไปถามความเห็นของสามีฉันก่อน ถ้าเขายอมฉันก็ยอม พวกคุณห้ามทำให้สามีฉันไม่มีความสุขนะ”ทั้งสองคนมองไปที่กู้ซวนด้วยรอยยิ้มที่สดใสยิ่งขึ้น แต่ในใจกลับรู้สึกเปรี้ยวจี๊ด ที่เห็นท่าทางการปกป้องสามีของไช่หนิงอย่างชัดเจน ทำไมในสายตาของไช่หนิงถึงคิดว่ากู้ซวนเป็นคนที่น่าสงสาร ในข
คุณลุงหวังยังบอกอีกว่าถังเหยาเพิ่งจะรู้เรื่องนี้ และเธอก็ปฏิเสธที่จะรับน้ำใจของเขา แต่ถังเหยาบอกให้เขาอยู่ที่นี่อย่างสบายใจ จนกว่าเขาจะต้องการกลับไป แต่ลูกๆ ของเขากลับไม่รู้สึกขอบคุณคนอื่นที่ดูแลพ่อของตัวเอง และไม่แม้แต่จะมาถามว่าชีวิตของพ่อเป็นอย่างไร สิ่งแรกที่พวกเขาทำ คือไปหาทนายความเพื่อถามเรื่องทรัพย์สินการกระทำที่ไร้หัวใจนี้ ทำให้คนรู้สึกเย็นชากว่าคนแปลกหน้าเสียอีก คุณลุงหวังจึงตัดสินใจนำทรัพย์สินไปตั้งเป็นกองทุนส่วนตัว เพื่อช่วยเหลือเด็กป่วยที่ไม่มีเงินรักษา ใจของเขาเย็นชาแล้ว และไม่ต้องการที่จะกลับไปอยู่กับลูกๆ ทั้ง 3 คน จะอยู่ที่บ้านของถังเหยาและเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จัก ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและดูแลบ้านให้เธอเหล่าชาวเน็ตที่ติดตามข่าวนี้ก็รู้สึกชื่นชมถังเหยาในใจอีกครั้ง เพราะเธอปฏิเสธทรัพย์สินจำนวนมหาศาล ร้านอาหารเถิงเวยเก๋อได้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แล้ว และไม่ต่างจากกลุ่มบริษัทใหญ่ๆ จำนวนเงินนั้นมากพอที่จะทำให้ทุกคนลังเลที่จะปฏิเสธบ้านตระกูลกู้ในห้องฝึกศิลปะการต่อสู้ถังเหยาและกู้จื่ออวี่) กำลังนั่งดูแม่และพี่ชายของเขา กู้เฉินอี้ ดวลกัน ถังเหยาไม่คิดเลยว่าคุณนายไช่ที่ดูอ่อนช้อย
ฉันรักข่าวลือ: “ฮ่าๆๆ ในที่สุดทุกคนก็เริ่มอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับถังเหยาแล้วใช่ไหม! คนข้างบนพูดถึงแค่ส่วนที่ปรากฏเท่านั้น แต่ก็ยังขาดอีกนะ! ไม่มีใครไปสืบเรื่องเฮลิคอปเตอร์ของประเทศซิลเวเนียเลยเหรอ! ทุกคนนี่แย่จังเลย!”ไม่ติดตามใครนอกจากเธอ: “ฉันคือคนที่เคยไปเที่ยวประเทศซิลเวเนีย พร้อมกับกลุ่มรายการโชว์ ทุกคนรู้ไหมว่ารูปของถังเหยาแขวนอยู่ข้างนอกเยอะมาก! ถามแล้วถึงได้รู้ว่าเธอเคยมาที่นี่ และช่วยเหลือประเทศเล็กๆ แห่งนี้ ทำให้ประชาชนรักและเคารพเธอมาก ได้ยินมาว่าเธอได้รับเชิญให้ไปดำรงตำแหน่งอะไรบางอย่าง แต่ถังเหยาก็ปฏิเสธไป พวกเขาเปิดการท่องเที่ยว ก็เป็นคำแนะนำของพี่ใหญ่ถังอีกเช่นกัน และยังไม่ทันจะสิ้นปีเศรษฐกิจของประเทศ ก็เติบโตขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว น่าขนลุกมากเลยทุกคน!”ชอบเดินตากฝน: “ฉันยังไม่รู้เลยว่าส่วนที่ซ่อนอยู่คืออะไร แต่แค่รู้คร่าวๆ ก็ทำเอาฉันพูดไม่ออกแล้ว! แอนตี้แฟนอยู่ไหน ยังมีชีวิตอยู่ไหม! ยกมือหน่อยสิเพื่อนเอ๋ย! ตอนนี้คงไม่รู้จะเอาหน้าไปซ่อนไว้ที่ไหนแล้ว ตอนแรกๆ ทำตัวน่ารังเกียจมากเลย ทั้งด่าว่าทั้งว่าถังเหยา ตอนนี้ฉันรู้สึกอับอายแทนพวกคุณจริงๆ!”ช่องทางสตรีมม
ชื่นชมความสามัคคี: “โอ้โห…นิยายรักโรแมนติกระหว่างพี่ชายปักกิ่งกับน้องสาวชิงหัว ที่ใครบางคนเคยพูดไว้เป็นจริงแล้ว! คนที่พูดคำทำนายนั้นอยู่ที่ไหน! ยกมือหน่อย! แล้วคุณยังจะทำตามที่พูดว่า ‘ขอถือศีลอดตลอดชีวิต’ อยู่ไหม ฮ่าๆๆ”เสพดราม่าบำรุงสมอง: “พรุ่งนี้จะต้องเป็นวันที่ชิงหัวยิ่งใหญ่แน่นอน! แค่คิดถึงภาพนักศึกษาปักกิ่ง เดินเข้าประตูมหาวิทยาลัยชิงหัวก็ขำแล้ว! โชคดีที่พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ ฉันจะได้ส่องดราม่าทั้งวัน!”วันใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยบรรยากาศที่คึกคักและสนุกสนาน นักศึกษาทั่วประเทศต่างตื่นเต้นที่จะได้เข้าสู่มหาวิทยาลัยในฝันของตัวเอง นักข่าว บล็อกเกอร์ และอินฟูลฯ สายความรู้ ต่างก็ไม่พลาดช่วงเวลาที่น่าอัศจรรย์ของมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งสองแห่ง ตั้งแต่เช้าตรู่พวกเขาก็มาเพื่อเก็บภาพที่น่าสนใจเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่สวมชุดนักศึกษาของชิงหัว เดินเข้ามาจากทางซ้ายอย่างสง่างาม มือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง ทำให้เขามีท่าทางเท่ราวกับเป็นนักแสดง แม้จะต้องเจอกับมหาวิทยาลัยคู่แข่ง แต่เขาก็ยังคงความมั่นใจเหมือนกำลังเดินอยู่บนพรมแดงบังเอิญว่าทางด้านขวาก็มีเด็กสาวจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา เ
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สิ้นสุดลง ท่ามกลางความสนใจอย่างล้นหลาม ของเหล่าชาวเน็ตที่ชอบสอดส่อง ทุกคนเริ่มเดิมพันกันว่า นักเรียนที่เก่งที่สุดในปีนี้ จะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชิงหัวหรือปักกิ่ง และคู่แข่งที่ถูกกำหนดมาโดยสวรรค์คู่นี้ จะมีการดวลกันแบบพิเศษยังไง เพื่อแย่งชิงคนเก่งๆ ไปไว้กับตัวในขณะที่ทุกคนกำลังรอคอยช่วงเวลาที่สำคัญนี้ โพสต์หนึ่งจากคนธรรมดาๆ ก็กลายเป็นโด่งดังขึ้นมาอย่างกะทันหันในโลกออนไลน์ ไม่เพียงแต่ติดเทรนด์เท่านั้น แต่ยังขึ้นไปอยู่อันดับที่ 2 ในชาร์ตบันเทิงอีกด้วยแฮชแท็ก #ชิงหัวใช้แผนสำเร็จโน้มน้าวเด็กหัวกะทิได้ ทันทีที่โพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป เหล่าชาวเน็ตที่ชอบสอดส่องก็รีบเข้ามาดูทันทีตามที่เจ้าของโพสต์เล่าว่า ตัวเองเป็นเพื่อนกับนักเรียนหัวกะทิของปีนี้ และได้เป็นพยานในความสามารถของการโน้มน้าวจิตใจของมหาวิทยาลัยทั้งสองแห่ง แต่สุดท้ายแล้วผู้ชนะก็คือมหาวิทยาลัยชิงหัวเหตุผลหลักก็คือ มีความเป็นไปได้ที่ไอดอลของนักเรียนคนนี้ จะกลับมาเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัย ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ดังนั้นในปีนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง พวกเขายังบอกอีกว่ามหาวิทยาลัย กำล