LOGINลุงหวังก็เหมือนผู้สูงวัยทั่วไป พอถึงวัยนี้ก็มักชอบอาหารตุ๋นนิ่มๆ เคี้ยวง่าย พอเห็นหมูสามชั้นสีน้ำตาลแดงฉ่ำเงาเป็นประกายก็น้ำลายสอ อดใจไม่ไหวอยากกินทันที
เนื้อหมูนุ่มจนใช้ตะเกียบแตะเบาๆ ก็แยกออกจากกัน ตักราดน้ำซอสลงบนข้าวสวยร้อนๆ แล้วตักเข้าปาก
รสชาติที่ระเบิดอยู่ในโพรงปากทำเอาลุงหวังงถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะกลายเป็นเหมือนหยางอิง ที่ไม่มีเวลาพูดอะไรอีก นอกจากมุ่งมั่นกับการกิน
กลิ่นหอมนี้ทำเอาคนที่เดินผ่าน หรือแม้แต่ละแวกเพื่อนบ้าน พากันใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บ้านไหนกันนะที่ต้มหมูได้หอมขนาดนี้ กลิ่นลอยมาถึงบ้านเรา…จะอดทนยังไงไหว
ตั้งแต่ถังเหยาเปิดร้านตระกูลถัง ไม่ว่าจะตอนสิบโมงเช้า หรือห้าโมงเย็น จะต้องมีกลิ่นหอมแรงทะลุประตูพุ่งออกมาเหมือนตั้งเวลาไว้ กลิ่นนั้นลอยตามลมไปไกลหลายบ้านเลยทีเดียว ใครที่ยังไม่ได้กินข้าวเช้าหรือเที่ยง พอเจอกลิ่นเข้าไปก็ได้แต่กุมท้องโอดครวญกันถ้วนหน้า
บรรดาไรเดอร์ที่เสร็จงานช่วงสายก็เริ่มเดินผ่านแถวร้าน พอได้กลิ่นหมูตุ๋นก็พากันหันขวับ บางคนคิดว่าจะรีบไปส่งออร์เดอร์สุดท้ายให้เสร็จแล้วกลับมากิน บางคนไม่พูดพล่าม รีบจอดรถแล้วต่อแถวรอทันที
“เจ้าของร้านถัง วันนี้ทำอะไรกินเนี่ย หอมจนท้องผมร้องเลยนะ!”
“ใช่เลย หอมจนใจสั่น กลิ่นนี้เหมือนหมูตุ๋นตงพอเลย แต่ไม่รู้ใช่ไหมนะ ถ้าใช่จริงๆ ล่ะก็ ด้วยฝีมือของแม่ครัวคนสวย อร่อยจนต้องยกนิ้วแน่นอน!”
“แต่ฉันยังไม่เคยได้กินซี่โครงวัวอบไวน์แดงเลยนะ ได้ยินว่าตอนนี้เป็นเมนูยอดฮิตของร้านเลยใช่ไหม”
“เฮ้อ...ซี่โครงวัวอบไวน์แดงอร่อยจริงๆ แบบมากๆ ไก่ผัดเผ็ดเสฉวนก็ไม่แพ้กันนะ ส่วนเต้าหู้สูตรพิเศษก็คือที่สุด ฉันกินมาครบหมดแล้ว วันนี้ต้องลองหมูต้มตงพอให้ได้!”
“นายกินครบแล้วเหรอ! เมื่อวานฉันมาทีไรก็อดซี่โครงวัวทุกที เมนูนั้นหมดเร็วสุดเลยอะ”
ระหว่างที่รอร้านเปิด คนที่ต่อแถวอยู่ก็พากันจับกลุ่มคุยเมาท์กันสนุกสนาน คนเดินผ่านไปมาพอเห็นใกล้เที่ยงแล้วมีคนมายืนรอกันเต็มหน้าร้าน ก็พากันคิดว่า ต้องอร่อยแน่เลย แล้วรีบมาสมทบท้ายแถวทันที
“มื้อนี้มีเมนูใหม่แน่ๆ! กลิ่นหอมขนาดนี้!”
“กลิ่นหอมมันๆ ไม่ใช่หมูต้มตงพอก็ให้มันรู้ไป!”
“โอ้ย หิวจะตายอยู่แล้ว กลิ่นนี้คือทรมานกันชัดๆ”
ผู้กำกับเฉิน มีคิวพักตอน 11 โมงครึ่ง คนในกองถ่ายยังพากันสงสัย เพราะปกติไม่เคยได้พักตรงเวลาแบบนี้มาก่อน หลายครั้งเลยเที่ยงไปแล้วก็ยังถ่ายไม่เสร็จ แต่คราวนี้อะไรดลใจให้ผู้กำกับรีบร้อน ขนาดว่าพอสิ้นเสียง "คัท!" ก็ไม่เห็นเงาเขาแล้ว
พอผู้กำกับสั่งพัก ถิงถิงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว แล้ววิ่งออกจากกองแทบจะทันที ระหว่างทางก็บังเอิญเห็นเงาสองคนที่คุ้นตาอยู่ข้างหน้า มองดีๆ แล้วก็ใช่เลย…ผู้กำกับเฉินกับผู้กำกับซ่ง
ทั้งสองเห็นเธอวิ่งมาก็รีบสั่ง "ถ้ามีโต๊ะเหลือ ช่วยจองไว้ให้พวกเราด้วยนะ!"
แต่กว่าจะออกจากกองถ่ายมาถึงร้านตระกูลถังก็เกือบเที่ยง ถิงถิงมาถึงแล้วก็พบว่าตัวเองกลายเป็นคนที่ 13 ในแถวเข้าไปแล้ว…
ผู้กำกับเฉินกับผู้กำกับซ่งมองดูถิงถิงยืนต่อแถว แล้วหันไปมองในร้านที่เต็มแน่นไปด้วยลูกค้า วันนี้ร้านตระกูลถังคนแน่นเร็วกว่าวันก่อนเสียอีก แรกๆ ก็ยังสงสัยว่าทำไมถึงเต็มเร็วขนาดนี้ แต่พอฟังคนที่ต่อแถวข้างหน้าคุยกันถึงเข้าใจว่า วันนี้มีเมนูใหม่!
“โอ้โห! ดูหมูต้มตงพอสิ แค่เห็นสีก็รู้แล้วว่าต้องอร่อยแน่ๆ กลิ่นหอมลอยมาไกลเลย หอมเกินต้าน!”
“ฉันกำลังนอนอยู่เลย เพื่อนสนิทโทรมาบอกว่า ขับรถผ่านเห็นคนต่อแถวเลยแวะดู ที่ไหนได้ดันเจอร้านดีงามแบบนี้เข้าให้ อร่อยจนพูดไม่ออก ต้องรีบโทรมาบอกฉันให้มาทันที ไม่งั้นเดี๋ยวหมด!”
“ดูเหมือนคนส่วนใหญ่จะสั่งหมูต้มตงพอกันทั้งนั้นแหละ ดูสิ คะน้าสีเขียวสดใสจัดวางข้างหมูต้มสีอำพัน ราดซอสมันวาว สวยเหมือนงานแกะสลักเลย หิวจะตายอยู่แล้ว!”
สองผู้กำกับได้ยิน ก็พากันหันตามสายตาคนเหล่านั้นไปมอง เมื่อเห็นกับตาแล้วก็แทบกลืนน้ำลายตาม กลิ่นหอมๆ แถมเนื้อหมูเปล่งประกายขนาดนั้น ถ้าได้กินกับเหล้านารีแดงล่ะก็... สมบูรณ์แบบ!
ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วตกลงว่า คืนนี้ต้องเปิดขวดกันสักหน่อยแล้วล่ะ
คนที่ทานเสร็จเดินออกมายังเอ่ยปากชม ว่าหมูต้มตงพอของร้านนี้อร่อยเกินไปแล้ว! อร่อยจนรู้สึกว่าไม่ใช่หมูธรรมดา แต่เป็นเนื้อวากิวเลยต่างหาก บางคนยังบอกว่า “ยังไม่จุใจเลย เย็นนี้ต้องกลับมากินอีกให้ได้!”
ทั้งที่ในมือก็ถือกล่องอาหารกลับบ้าน ยังจะกลับมากินอีกงั้นเหรอ?
ข้างหน้าสองผู้กำกับเป็นถิงถิงที่รอคิวอยู่ และเธอก็ได้ที่นั่งพอดี แต่มีพนักงานเดินมาหาแจ้งเรื่องอาหาร
“ตอนนี้เหลือหมูต้มตงพอแค่หนึ่งที่สุดท้ายแล้วค่ะ”
แม้จะเหลือแค่จานเดียวแต่ก็ดีกว่าไม่ได้กินเลย ถิงถิงรีบเอ่ยปากชวนผู้กำกับเฉิน “งั้นให้ผู้กำกับก่อนเลยค่ะ ฉันสั่งซี่โครงวัวอบไวน์แดงก็ได้”
แต่พอหมูต้มจานสุดท้ายนั้นถูกวางตรงหน้า แถมได้เห็นความงามของมันใกล้ๆ เธอก็เริ่มรู้สึก…เสียใจขึ้นมาทันที ชิ้นหมูทรงสี่เหลี่ยมเด้งดึ๋ง จมอยู่ในน้ำซอสสีอำพันข้นเหนียว บนจานจัดวางคะน้าสีเขียวสดดูสวยงามน่ากิน กลิ่นหอมหวานเข้มข้นลอยอยู่ตรงหน้า
ฮืออ อยากกินสุดๆ ไปเลย
ผู้กำกับเฉินรู้ว่าถิงถิงตั้งใจยกให้ เลยคีบเนื้อหมูชิ้นหนึ่งใส่จานเธอ แล้วใช้ตะเกียบแบ่งอีกครึ่งชิ้นให้กับผู้กำกับซ่งที่นั่งข้างๆ ก่อนจะคีบซี่โครงวัวในจานของผู้กำกับซ่งมาใส่ถ้วยตัวเอง ถือว่าทุกคนได้ลิ้มลองของอร่อยอย่างทั่วถึง
ถิงถิงเห็นแบบนั้นก็เกรงใจอยากจะปฏิเสธ แต่ผู้กำกับเฉินไม่ยอม เธอเลยจำใจคีบซี่โครงให้อีกฝ่ายหนึ่งชิ้น จากนั้นถึงได้เริ่มกินด้วยความสบายใจ
ผู้กำกับเฉินใช้ช้อนตักหมูต้มตงพอขึ้นมา เนื้อด้านในเป็นสีชมพูอมขาว ดูชุ่มฉ่ำไม่แห้งและไม่เละ ราดซอสนิดๆ แล้วตักข้าวตามเข้าไป พอเข้าปากปุ๊บก็รู้สึกเสียใจ เพราะอีกครึ่งชิ้นนั้น...อยู่ในจานของผู้กำกับซ่ง!
รูปลักษณ์ของหมูต้มตงพอไม่มีอะไรให้ตำหนิ สีสันสวยงาม พื้นผิวมันเงา สัดส่วนทุกชิ้นเท่ากันเป๊ะราวกับหล่อออกมาจากพิมพ์ น้ำซอสดูน่าจะเป็นแบบเคี่ยวน้ำตาลเอง ถึงได้กลิ่นหอมละมุนขนาดนี้
แต่สิ่งที่ทำให้จานนี้ “ระเบิดความอร่อย” จริงๆ ก็คือรสชาติ
หมูสามชั้นที่มีชั้นไขมันและเนื้อสลับกันอย่างลงตัว ถูกตุ๋นด้วยไฟอ่อนจนได้ความนุ่มพอดี ไม่เปื่อยจนเกินไป ส่วนเนื้อแดงยังคงชุ่มฉ่ำไม่แห้ง กินคู่กับมันหมูนุ่มละมุนลิ้นโดยไม่เลี่ยนเลยสักนิด
ใครได้กินเข้าไปแล้วก็หยุดไม่ได้ ต้องยื่นตะเกียบไปหาอีกคำต่อทันที
เปิด lineman สิ!! มีหมูตงพอขายไหม!!!
หิวไม่ไหว หิวเกินไปค่ะคุณน้าาาาา
กดเข้าชั้นไว้นะทุกคน จะได้ไม่พลาดการแจ้งเตือนบทใหม่นะคะ
หากถูกใจกด หัวใจหรือรีวิวให้เค้าได้น้าาา
เผิงเหนียน, ห่าวอี้, ต้าอวิ๋นที่เพิ่งรู้เรื่อง ต่างก็มองไปที่ถังเหยาแล้วเลื่อนสายตาไปหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างเธอกู้จื่ออวี่ขมวดคิ้ว คิดว่าอาจมีเรื่องเส้นสายซ่อนอยู่“ทำไมฉันต้องไปพบพวกเขาด้วยล่ะค่ะ”ถังเหยาไม่ได้อยู่ในวงการ และเธอมีความคิดเรียบง่าย ถ้าหากต้องการจะทำความรู้จักกันจริงๆ ก็ควรจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาเอง จะให้เธอวิ่งไปหาทำไมผู้กำกับซูจงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นกู้จื่ออวี่ชำเลืองมองมา สายตาที่เย็นชาและแฝงความไม่พอใจของเขา ก็ทำให้คำพูดของผู้กำกับต้องติดอยู่ในลำคออย่างไรเสียเขาก็เป็นแค่ผู้กำกับตัวเล็กๆ ไม่มีอำนาจพอที่จะขัดคำใครได้ จึงทำได้เพียงยิ้มขอโทษแล้วเดินจากไปกู้จื่ออวี่หยิบจานสเต๊กเนื้อของถังเหยามาหั่นให้เสร็จเรียบร้อย ก็เปลี่ยนจานกลับคืนให้เธอ จากนั้นยังกระซิบถามอะไรบางอย่าง ก่อนจะตักซุปวางไว้ข้างๆ ท่าทีที่ไม่ปิดบังนี้ ตกอยู่ในสายตาของทุกคนที่อยู่ในงาน
เมื่อสักครู่ทางรายการนำชุดเดรสรัดรูป, เกาะอก, สายเดี่ยว, ผ่าข้าง และดีไซน์แปลกๆ มาให้เลือกเต็มไปหมด แต่ดูสิกู้จื่ออวี่เลือกชุดเดรสที่แม้แต่มือก็ยังไม่โผล่! ปิดมิดชิดแม้กระทั่งไปทำเนียบรัฐบาล ก็ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวให้เป็นทางการขนาดนี้ถังเหยา ฟังคำแนะนำของเผิงเหนียน แล้วเลือกชุดเดรสผ้าไหมสีขาว เสื้อผ้าไหมลายทางสีขาวแขนยาวหลวมๆ คอเสื้อแบบปาดไหล่รัดรูป ใต้เอวมีเข็มขัดรัดเล็กน้อย กระโปรงบานเป็นชั้นๆ ด้านในเป็นสีขาว ด้านนอกสุดเป็นสีเหลืองอ่อนเผิงเหนียนไม่อยากตัดสินรสนิยมของกู้จื่ออวี่ แต่เสื้อผ้าก็สะท้อนถึงความเย็นชาและเรียบง่ายของเขาอยู่ไม่น้อย โชคดีที่ยังมีชุดเดรสรัดเอวที่ช่วยกู้สถานการณ์ไว้ได้ ส่วนชุดอื่นๆ เธอก็ไม่กล้าแม้แต่จะมองทันทีที่ถังเหยาเดินออกมา เผิงเหนียนที่หงอยเหงาเป็นลูกหมาเมื่อครู่ ก็เปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเธอเป็นประกาย วิ่งวนรอบๆ มองอย่างชื่นชม ปากอ้าค้างจนหุบไม่ลง แม้แต่เกาเหวิน ที่อยู่ข้างๆ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเธอ"พี่เสี่ยวเหยา ชุดน
ภาพของถังเหยาขับรถด้วยสองสไตล์ที่แตกต่างกัน ถูกแฟนๆ นำมารวมเป็นวิดีโอเดียวกันพร้อมชื่อเรื่องตลกๆ ว่า:"เมื่อฉันและพ่อขับรถคันเดียวกัน" ด้านล่างส่วนใหญ่เป็นความคิดเห็นที่สนุกสนาน มีแฟนคลับบางคนยังเลือกชื่อที่ตลกขบขันยิ่งทำให้การสนทนากว้างขวางขึ้นไม่เพียงเท่านั้น วิดีโอของถังเหยาที่เข้าโค้ง3 ครั้งด้วย 3 สไตล์ที่แตกต่างกัน กำลังขึ้นอันดับ1 ของโต่วอิน กระแสบนฮอตเสิร์ชแฮชแท็ก แซงหน้าคู่ท็อปอย่างกู้จื่ออวี่และห่าวอี้ขึ้นอันดับ 1 อุณหภูมิการสนทนาพุ่งสูงจนติดชาร์ตสีม่วงทั่วทั้งกระดานนานเกือบครึ่งวันคุณหนูใหญ่ถังคือภรรยาของฉัน: เมียจ๋า เธอสุดยอดมาก! ท่าทางที่สบายๆ ปล่อยใจ หมุนพวงมาลัยช้าๆ นั่นก็เย้ายวนพอแล้ว ไม่คิดเลยว่าท่าทางที่สงบนิ่งตอนเหยียบคันเร่ง เบรก และหักพวงมาลัยแบบนั้นเท่สุดๆ มือคู่นั้นของเทพเจ้าชัดๆสามีของฉันแซ่ถัง: ตั้งแต่เจอสามี สายตาที่มองผู้ชายของฉันก็ลดลงอีกแล้ว! คนที่ทำอาหารอร่อย ยิงปืนแม่น ยิ
เสียงปืนดังขึ้น ลี่หลินยังเหยียบคันเร่งอยู่ รถคันอื่นก็พุ่งผ่านไปราวกับสายฟ้าแลบ เธอมองผ่านกระจกเพื่อดูว่าถังเหยา ยังคลานอยู่ข้างหลังเธอหรือไม่ แต่แปลกที่ไม่มีรถคันไหนเลย เธอเป็นคนที่รั้งท้าย!เป็นไปไม่ได้! เมื่อกี้ยังล้อเล่นว่าถังเหยาห่างจากเธอเป็นพันโยชน์เลย ทำไมตอนนี้ถึงมองไม่เห็นแล้วล่ะ? ลี่หลินไม่รู้ แต่ผู้ชมคือคนที่รู้ดีที่สุด ตามมาด้วยรถแข่งคันอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆทันทีที่เสียงแตรดังขึ้น ถังเหยาก็เหยียบคันเร่งพุ่งออกไปอย่างเด็ดขาด ความเร็วของเธอเกือบจะเร็วที่สุดเมื่อออกจากเส้นสตาร์ท คนอื่นๆ ตอนแรกยังไม่ได้ระวังตัว ไม่คิดเลยว่าจะถูกเธอแซงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รถF1 ที่ใช้สำหรับการแข่งในสนามตอนนี้ กำลังต้องตามดมควันของซูเปอร์คาร์ทุกสายตามองหญิงสาวที่นำหน้า หัวใจของทุกคนต่างเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น ความร้อนแรงบนสนามแข่งแผ่ขยายไปถึงอัฒจันทร์ ทุกคนมองหน้าจอพร้อมตะโกนก้อง"ว้าว... ดูสาวน้อยที่ขับLotus Evija สีเทาเงินนั่นสิ! เร็วสุดๆ ไปเ
เผิงเหนียนเพิ่งจะนั่งบนซูเปอร์คาร์ก็ไม่กล้าขยับตัวแล้ว ตอนนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรจริงหรือปลอม พอได้ยินดังนั้นเธอก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้"พี่เสี่ยวเหยา...ฉันกลัวความสูงกับความเร็วค่ะ"ถังเหยายิ้มลูบผมของเด็กน้อย จากนั้นก็สวมหมวกกันน็อคให้เธอ "แกล้งเล่นน่ะ"ผู้ชมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกจุกอกกับฉากที่หวานซึ้งนี้[ผมแค่อยากจะบอกว่าพี่ใหญ่ถังตอนนี้อ่อนโยนมาก ละเอียดอ่อนมาก และแมนมาก ไม่มีคำว่าแต่][โอ้พระเจ้า! เห็นถังเหยาลูบผมเผิงเหนียนแล้วใจผมแทบละลาย เธอหัวเราะด้วย! เพิ่งเคยเห็นพี่ใหญ่ถังหัวเราะ! ความงามระดับเทพธิดา! เหมือนพระจันทร์ที่หลับใหลกำลังตื่นขึ้นมาเลย!][เวรเอ๊ย! ฉันโดนบิดเบี้ยวไปแล้ว! ดีมากถังเหยาเธอต้องรับผิดชอบฉันนะ!!!][ข้างบนโปรดเคารพตัวเอง นั่นเมียผมนะ][ทุกท่านโปรดเคารพตัวเอง...]
จู่ๆ เหยียนเป่ยก็เห็นคนเดินเข้ามาตรงหน้า แวบแรกที่มองผ่านกลับถูกดึงดูดอย่างแรง เมื่อมองใบหน้าของหญิงสาวคนนี้ ยังไม่ทันได้คิดฟุ้งซ่านเขาก็มองสิ่งที่เธอส่งให้ จากนั้นก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อย มองใบขับขี่ที่อยู่ในมือไม่รู้จะพูดอะไรระหว่างที่ถังเหยากับพวกกำลังแยกย้ายไปเปลี่ยนชุดแข่ง เหยียนเป่ยกลับยังติดอยู่กับภาพเมื่อครู่ ใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นยังชัดเจนในความคิด จิตใจเขาเริ่มปั่นป่วนโดยไม่รู้ตัว“ฉันสนใจผู้หญิงคนนั้นจริงๆ” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหันไปพูดกับกลุ่มเพื่อนด้วยแววตามุ่งมั่น “เดี๋ยวฉันจะแสดงให้เธอเห็นเอง ว่าฉันไม่ธรรมดา รอบนี้ยกให้ฉันเถอะ พวกนายอยากได้อะไร ฉันจัดให้หมด”"โอ้โห...คุณชายเหยียนสายตาดีนี่ เลือกคนที่เด่นที่สุดในบรรดา4 สาว ใส่เสื้อผ้าหลวมๆ มองรูปร่างไม่ออก แต่แน่นอนว่า...""ปุ้บ...""อ๊ะ..."เชิ่งอี้ที่นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้เข้าร่วม แต่พอไ







