ความโดดเด่นที่สุดของจานนี้ ต้องยกให้กับฝีมือการปรุงรส และความสามารถในการควบคุมไฟของ ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำได้ง่ายๆ ต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์จริงถึงจะทำได้แบบนี้ จะใช้ไฟแรงตอนไหน ควรลดไฟหรือถอนฟืนเมื่อใด ทุกขั้นตอนล้วนต้องใช้ประสบการณ์ควบคุม เพื่อให้เนื้อหมูซึมซับน้ำซอสได้อย่างทั่วถึง โดยไม่เละ ไม่แห้ง และยังคงความสดฉ่ำของวัตถุดิบไว้อย่างสมบูรณ์แบบ
นี่เป็น หมูต้มตงพอ ที่อร่อยที่สุดที่เขาเคยกิน ยิ่งกว่าเมนูขึ้นชื่อของร้านดังเต๋ออี้จิ่วโหลว ที่เขาเคยหลงใหลเสียอีก
ที่นั่นแต่ละจานจะใช้หม้อดินขนาดเล็กเคี่ยวแยกกันทีละหม้อ ถึงจะได้รสชาติแบบนั้น แต่ที่ร้านตระกูลถังกลับเคี่ยวรวมหม้อใหญ่ แต่ยังคงความสวยงามและรสชาติระดับเทพเอาไว้ได้ทุกชิ้น ฝีมือเชฟสาวคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ทั้งเรื่องมีดและการควบคุมไฟ
พรสวรรค์ชัดๆ!
พอเที่ยงตรงนักแสดงตัวประกอบ รวมถึงพนักงานในกองถ่ายหลายคณะที่เพิ่งเลิกกอง พอมีเวลาปุ๊บก็รีบพุ่งไปที่ร้านตระกูลถัง หวังจะได้ลิ้มรสเมนูใหม่ที่ได้ยินข่าวลือมาว่ามีขายวันนี้ หมูต้มตงพอ สีสวยเคลือบน้ำซอสข้นๆ นั่นแหละ! เมนูในตำนานที่หลายคนรอคอย ยังไม่ทันจะได้กดสั่ง ก็เห็นข้อความที่ทำให้เข่าอ่อน
หมดแล้ว!?
หมดตั้งแต่ยังไม่เที่ยงเลย!
ไม่เพียงแค่หมูต้มตงพอที่หมด ซี่โครงวัวตุ๋นซอสไวน์แดงก็หมดเช่นกัน! เพิ่งเที่ยงเองนะ ทั้งหมูทั้งซี่โครงไม่มีเหลือเลยซักจาน!? นี่มันเกินไปหน่อยไหม ร้านตระกูลถังทำเมนูจำกัดขนาดนี้ กลัวขายดีเหรอไง!
“พวกคุณไม่ทำงานกันเหรอ?”
ผ่านพักเที่ยงได้ไม่นาน โซเชียลก็มีหัวข้อใหม่โผล่มา ยาวเหยียดจนแทบเลื่อนไม่ไหว แต่กลับกลายเป็นกระแสไวรัลที่คนบ่นกันระงม #หมูต้มตงพอ VS ซี่โครงวัวซอสไวน์แดง อะไรคือราชาแห่งตระกูลถัง
สาวน้อยนักกิน: สำหรับคนรักของอร่อยอย่างข้าน้อยแล้ว ข้าขอยืดอกภูมิใจว่าเป็นหนึ่งใน 30 คนแรกที่ได้กินอาหารของร้านตระกูลถัง [แนบภาพขนมวุ้นดอกไม้] เมนูในร้านข้าน้อยกินครบหมดแล้ว! เดิมทีวันนี้มาก็เพราะเมื่อคืนฝันถึงซี่โครงวัวตุ๋นไวน์แดง แต่ดันหมดซะก่อน พอเช้ามาทนไม่ไหวเลยตื่นตั้งแต่ไก่โห่เพื่อจะมากินมื้อเที่ยง ใครจะคิดว่าโชคดีขนาดนี้ วันนี้ร้านตระกูลถังมีเมนูใหม่! ใช่แล้ว…หมูต้มตงพอ! หนึ่งในสิบสุดยอดเมนูระดับตำนานของอาหารจีน! ข้าน้อยขอยืนยันเลยว่าจากทุกร้านที่เคยกินมา ไม่มีที่ไหนทำหมูต้มตงพอได้อร่อยเท่าร้านตระกูลถัง [แนบภาพหมูต้มตงพอ] ฮืออออออ อร่อยจนน้ำตาไหลมีอยู่จริง ขอโทษนะซี่โครงวัวตุ๋นไวน์แดง...ตอนนี้เจ้าถูกลดระดับกลายเป็นแค่นักแสดงสายรองแล้วล่ะ ราชันแห่งร้านนี้ขอยกบัลลังก์ให้หมูต้มตงพอ!
หวานเหมือนน้ำผึ้ง: วันนี้โชคดีจริงๆ ที่เชื่อคำแนะนำของ @สาวน้อยนักกิน แล้วรีบตื่นแต่เช้า! ยอมรับเลยว่า หมูต้มตงพอ สมควรได้รับฉายา “ตำนาน” อย่างแท้จริง เดบิวต์ทีเดียวก็ดังเปรี้ยงขึ้นแท่นเมนูระดับราชันทันที! เนื้อหมูคือความลงตัวของศาสตร์แห่งอาหาร! ด้านในฉ่ำ นุ่ม ละลายในปาก ทั้งมันทั้งเนื้อสลับชั้นกันพอดี ราดด้วยซอสสูตรลับที่อร่อยจนอยากกราบเชฟ กินกับข้าวสวยร้อนๆ ขอบอกเลยว่า...ข้า...ลืมโลกใบนี้ไปแล้วจริงๆ
ของอร่อยเยียวยาใจ: วันนี้เดินผ่านร้านตระกูลถังโดยบังเอิญ เห็นคนยืนรอหน้าร้านก็เลยขอแจมด้วย โอยยย ถ้าไม่ติดว่ามีคนรอด้านนอก ฉันยังไม่อยากลุกออกมาจากร้านเลยนะ! กินอิ่มแล้วแค่อยากนั่งชิลชมวิวรอถึงมื้อเย็นต่อเลยอะ บอกเลยว่า หมูต้มตงพอ อร่อยจนต้องร้องว่า “โคตรพีค!”
เด็กสาวที่ทำงานพาร์ตไทม์ในเหิงเตี้ยม: ขอถามหน่อยเถอะ พวกคุณไม่ต้องทำงานกันเหรอ? มันยังไม่เที่ยงเลยนะ กว่าจะพักก็ต้องรอถึงเที่ยงไม่ใช่เหรอ? ออกมาก่อนเวลาเพื่อมาต่อคิวแบบนี้ แล้วคนที่ออกมาตรงเวลาอย่างฉันก็หมดสิทธิ์เห็นแม้แต่เงาของ “ซี่โครงตุ๋นซอสไวน์แดง” เลยนะ อย่าว่าแต่ “หมูตงพอ” เลย น้ำตาจะไหล
ชาวเหิงเตี้ยมผู้ชอบเผือก: โพสต์บนเนี่ยยังโชคดีที่ได้เลือกบ้างนะ บนแอปตอนเที่ยงเหลือแค่ไก่ 10 ชุด กับเต้าหู้อีก 15 ชุดเอง เพื่อนฉันพึ่งบอกให้รีบเข้าไปจอง พอเข้าไปอีกทีแค่ 2 นาที ไก่ก็หมดแล้ว เหลือแต่เต้าหู้ 3 ชุดสุดท้าย มือไวกันยิ่งกว่าสายฟ้าอะ บอกตรงๆ ว่าน่ากลัว
คนขายพรม: โอ๊ย หมูตงพอคือเมนูที่ฉันรักที่สุดเลย ตอน 11 โมง 15 ยังเหลืออยู่ 7 ชุด ฉันคิดเลยว่าต้องได้กินแน่ๆ แล้วดูสิ สุดท้ายก็ได้แค่มองมันหายไปต่อหน้าต่อตา เหมือนสายลมพัดผ่าน ทั้งที่เราได้เจอกันแท้ๆ แต่กลับพลาดไป เจ็บปวดอะไรจะเท่านี้อีก เข่าทรุดเลย
ใหม่ใหม่ไม่เก่า: เราว่าทางร้านเค้ากำหนดจำนวนไว้ในแอปแล้วแหละ ตอน 11 โมงเราเปิดแอปเข้าไปก็เห็นมีตัวเลขกำกับไว้เลย เช่น หมูตงพอ 40 ชุด, ซี่โครงตุ๋น 60 ชุด, ไก่เผ็ดเสฉวน 70 ชุด, เต้าหู้สูตรพิเศษ 70 ชุด จำกัดให้สั่งเมนูเดิมได้แค่ 2 ชุด และรวมกันไม่เกิน 3 เมนู ใครรู้แบบนี้ก็คงต้องวางแผนให้ดีหน่อยนะ ส่วนหมูตงพอ เราว่าควรปูพรมแดงต้อนรับให้ขึ้นแท่น “เมนูระดับตำนาน” ไปเลย [แนบรูปข้าวกล่องหมูตงพอ]
เที่ยงวันนี้โชคดีที่ขึ้นป้าย “ของหมด” ทันเวลา ลูกค้าที่มาถึงพอดีได้ของครบ คนที่มาหลังจากนั้นเห็นป้ายก็ไม่ต้องเสียเวลารอ ถังเหยา หยางอิง และลุงหวัง ยุ่งจนถึงเกือบสองโมงกว่าจะได้พักกัน
"วันนี้ใครมาก็ถามหาหมูตงพอกันหมดเลย สิบคนที่เข้าร้านสั่งไปแล้วเก้าคน ยังบอกว่าจะกลับมาอีกตอนเย็น บอกว่าถ้าไม่กินหมูตงพอคงนอนไม่หลับ"
ตั้งแต่ได้ยินหยางอิงพูดแบบนั้น ถังเหยาก็เริ่มคิดตาม เธอเองก็รู้สึกเกรงใจอยู่เหมือนกัน ที่ลูกค้ามาแล้วไม่ได้กินอาหารที่อยากกิน ถึงมันจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็อยากเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น จะได้มีโอกาสให้ทุกคนได้ลองชิมดูบ้าง
“เดี๋ยวฉันจะออกไปดูสักหน่อย ว่ายังมีหมูหรือซี่โครงวัวดีๆ บ้างไหม ถ้ามีก็จะซื้อเก็บไว้เยอะหน่อย ตอนนี้ยังคิดเมนูใหม่ไม่ออกเลย”
“ดีเลย กินเสร็จเดี๋ยวไปกันเลยนะ”
ครั้งนี้ถังเหยาออกไปไกลกว่าละแวกที่เคยซื้อประจำ พอเจอร้านขายหมูจึงแวะแล้วถามดู เจ้าของร้านบอกว่ามีอยู่สองตัว แต่มีแค่ตัวเดียวที่ได้คุณภาพตามต้องการ พอลองดูแล้วก็เห็นว่าคนขายจัดการชิ้นส่วนไว้อย่างดี มีสัดส่วนพอเหมาะ เธอเลยขอให้ทางร้านช่วยส่งของให้อีกในวันพรุ่งนี้
เดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาทีก็เจอบ้านที่ขายหมูโดยเฉพาะ ถังเหยามองเนื้อแต่ละชิ้น แยกส่วนไว้ชัดเจน สะอาดเรียบร้อยน่าประทับใจมาก พอเธอบอกว่าจะเอาหมูสามชั้นทั้งหมด 4 ชิ้น จากหมู 2 ตัว เจ้าของร้านก็มองด้วยความแปลกใจ
ก่อนไปถังเหยากำชับอีกครั้ง “ขอแบบนี้ทุกวันเลยนะคะ ถ้ามีเนื้อดีๆ แบบนี้ก็ช่วยเก็บไว้ให้หน่อย แล้วส่งตรงมาที่ร้านได้เลย”
ข้างๆ กันมีร้านขายเนื้อวัวอีกแห่ง เธอก็เลยแวะซื้อซี่โครงวัวเพิ่ม และให้ร้านจัดส่งให้เหมือนกัน แบบนี้ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ทุกวันตอน 8 โมงเช้า กับบ่าย 2 โมง เธอแค่อยู่บ้านรอรับของก็พอ ไม่ต้องเสียเวลาออกไปซื้อเองอีกแล้ว แค่อยู่บ้านเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมก็พอ
ขออภัย เพราะอร่อยเกินไปใครๆ ก็อยากกิน
แงงงง แอดก็อยากกินนะ เหยาเหยาช่วยทำเยอะๆ หน่อย
คนทั้งเหิงเตี้ยนหิวโหยกันหมดแล้วววว
วันนี้มากับเพื่อนสนิทชื่อ “หยู่เยียน” ให้ช่วยถือกล้องให้ เธอจัดทรงผมนิดหน่อยก่อนจะเริ่มไลฟ์“สวัสดีทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่Meo Blog ทายสิว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนเอ่ย”หยู่เยียนรู้หน้าที่ดี รีบหมุนกล้องตามนิ้วของเธอที่ชี้ไปบริเวณรอบๆ“ถูกต้องค่า! ตอนนี้เราอยู่ที่เหิงเตี้ยน แฟนๆ เคยแนะนำมาว่าที่นี่มีร้านข้าวชื่อ ‘ตระกูลถัง’ อร่อยมาก วันนี้เลยตั้งใจจะมาลองให้ได้ และมาแชร์กับทุกคนด้วยนะคะ! ได้ข่าวว่าต้องต่อคิว ก็เลยรีบมาตั้งแต่เนิ่นๆ อ้าว มีคนมารอก่อนเราแล้ว!”ซินหยางเดินมาเจอคนยืนรอคิวอยู่แล้ว ทั้งที่ยังไม่ถึงห้าโมงเย็น ทำเอาเธอพูดเสียงเบาลงทันที เพราะรอบตัวก็เริ่มมีคนเยอะขึ้น“ไม่น่าเชื่อเลยทุกคน ยังไม่ห้าโมงแท้ๆ แต่มีคนมารอกินข้าวกันแล้วอะ”ระหว่างรอ คนในคิวก็พูดคุยกันเพลิน ส่วนใหญ่ก็พูดถึงร้านตระกูลถังนั่นแหละ“ผมค
ด้านหน้าร้าน ถังเหยาได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆ จึงเดินออกมาดู แล้วต้องแปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นเกาเหวินยืนอยู่ตรงนั้นเจ็ดโมงครึ่งเช้าเองนะ...มาถึงตั้งแต่เช้าแบบนี้ คิดจะมากินอาหารเช้าหรือยังไงกัน? ยังไม่ได้เริ่มทำอาหารเลยด้วยซ้ำ“สวัสดีครับคุณถัง ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าร้านเปิดขายอาหารเช้าตอนกี่โมงครับ?”“ขอโทษด้วยค่ะคุณเกา ร้านเราไม่ได้ขายอาหารเช้าค่ะ”เกาเหวินได้ยินแบบนั้น สีหน้าก็พลันดูผิดหวังขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ถังเหยารู้สึกแปลกใจเลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงเล่าเรื่องของกู้จื่ออวี้ให้เธอฟัง พร้อมหยิบใบวินิจฉัยสุขภาพเมื่อวานให้ดู เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่ดูสุขุมคนนั้น จะป่วยหนักขนาดนี้“จริงๆ ผมก็พยายามไปซื้อจากร้านอื่นให้แล้วนะครับ แต่เขากินไม่ได้เลย...ใครจะคิดว่าเมื่อวานเขาจะกินได้เยอะขนาดนั้น แถมตอนกลางคืนก็ยังหลับได้ดี ไม่กระสับกระส่ายเหมือนทุกที ผมเลยกะว่าจะมาซื้อให้ครบสามมื้อเลย แต่ไม่รู้ว่าร้านคุณไม่ได้ขายอาหารเช้า”
โต๊ะข้างๆ เป็นกลุ่มนักศึกษาผู้หญิงที่เพิ่งกินเสร็จ ต่างก็มองมาทางเขาแล้วกระซิบกระซาบกันเบาๆ“คนนั้นใช่กู้จื่ออวี่รึเปล่านะ ฉันดูจากข้างหลังก็ว่าใช่เลย”“มองด้านข้างก็เหมือนอยู่นะ คนที่นั่งข้างๆ ใช่ผู้จัดการเการึเปล่า?”“น่าจะใช่แน่เลย ทำยังไงดี อยากขอลายเซ็นจังเลย”เกาเหวินหยิบหมวกส่งให้กู้จื่ออวี่สวม จากนั้นหันไปมองข้างนอกที่เริ่มมีคนมาต่อคิว ถ้าลุกขึ้นตอนนี้มีหวังสร้างความวุ่นวายให้ร้านแน่ เขาเลยกระซิบกับผู้ใหญ่เบาๆ ผู้กำกับเฉินจึงลุกขึ้นพาสองคนเดินไปทางครัว “เสี่ยวเหยา หนูว่างไหม ลุงมีเรื่องอยากขอหน่อย”ถังเหยาเพิ่งทำข้าวผัดให้ลูกค้าเสร็จ ยังไม่มีออเดอร์ใหม่จึงว่างอยู่พอดี หันมาอีกทีก็เห็นผู้กำกับเฉินยืนอยู่พร้อมกับชายสองคนด้านหลัง คนหนึ่งใส่แว่น มองเธอแล้วยิ้มให้ด้วยท่าทีสุภาพ อีกคนสวมหมวกกับหน้ากาก พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นเธอก็แค่กะพริบตาแล้วพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงทักทายผู้กำกับเฉินมาขอเธอว่าอยากให้สองคนนี้ ไปรอนั่งที่ลานหลังบ้านสักพัก เพราะเหมือนจะมีแฟนคลับจำได้ ถ้าเดินออกไปตอนนี้เกรงว่าจะรบกวนลูกค้าคนอื่น ถังเหยามองไปข้างหลังครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้ตกลง เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยแล้วผู
เกาเหวินรู้สึกว่าบรรยากาศของร้านนี้พิเศษจริงๆ ตอนแรกเขายังกลัวว่ากู้จื่ออวี่จะถูกคนจับตามอง แต่ผิดคาด ทุกคนในร้านต่างก้มหน้าก้มตากินข้าว ไม่มีใครว่างคุยกันด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่มองซ้ายมองขวา เพราะข้างนอกยังมีคนรออยู่ พอกินเสร็จก็ลุกแล้วรีบไปเลยยิ่งไปกว่านั้น แต่ละโต๊ะยังจัดแบบมีระยะห่าง ไม่อึดอัดเหมือนร้านทั่วไป โต๊ะของพวกเขาอยู่ใต้ต้นเหมยตรงมุมลาน มีโคมกระดาษแขวนบนกิ่งไม้ดูสวยงาม จากมุมนี้มองเข้าไปด้านในคล้ายโรงเตี๊ยมย้อนยุคยังไงยังงั้นหยางอิงกับลุงหวังยกอาหารมาเสิร์ฟ พอเห็นเป็นโต๊ะของคนรู้จัก ก็ไม่ลืมกำชับด้วยน้ำเสียงคุ้นเคย “ลุงซ่งคะ ถังเหยาฝากมาบอกลุงทั้งสองว่าดื่มได้แค่ไหเดียวนะคะ ต้องดูแลสุขภาพไว้กินของอร่อยไปอีกนานๆ”“ได้สิ ได้แน่นอน ลุงสองคนแชร์กันแค่ไหเดียวพอ บอกเสี่ยวเหยาว่าไม่ต้องห่วงนะ”เกาเหวินถึงกับเหวอเมื่อเห็นหญิงสาวคนนั้นยิ้มสดใสเ หมือนพระอาทิตย์เดินมาอยู่ตรงหน้า เผลอมองตามจนเธอเดินลับตาไป พอได้กลิ่นหอมลอยมาเขาถึงดึงสายตากลับได้โต๊ะของพวกเขาสั่งกับข้าวมาอย่างละจาน โดยเฉพาะหมูตุ๋นตงพอสั่งไซส์ใหญ่สุด วันนี้เลือกกินแค่ข้าวผัดหยางโจวกับข้าวสวยร้อนๆ เพื่อให้เข้ากับหมูตุ๋น เ
ช่วงเวลานี้ที่กองถ่ายในเหิงเตี้ยนถือว่าเป็นช่วงที่วุ่นวายที่สุด ทุกคนต่างก็ขะมักเขม้นกับหน้าที่ของตัวเองเหิงเตี้ยนได้ชื่อว่าเป็นกองถ่ายที่ไม่เคยหลับใหล ไฟส่องสว่างอยู่ตลอดเวลาไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนผู้กำกับเฉินและผู้กำกับซ่ง ได้นัดกันไว้ว่าเย็นนี้หากเลิกงานเร็วแล้วจะแวะไปที่ “ร้านตระกูลถัง” ขอเพิ่มเหล้าสักไห เหล่าซ่งนั่งดูวิดีโอของนักแสดงที่เพิ่งถ่ายเสร็จ ตอนนี้ในบรรดากองถ่ายทั้งหมดที่เหิงเตี้ยน มีแค่สองโปรเจกต์ที่ได้รับการลงทุนสูงที่สุดเรื่องหนึ่งของเขา อีกเรื่องคือของผู้กำกับเฉินกำลังนั่งคิดอยู่ว่าจะถ่ายซ้ำฉากเมื่อกี้ดีไหม จู่ๆ ก็มีคนเดินเข้ามา “ผู้กำกับซ่งครับ ผมกลับมาแล้ว”เขามองไปทางผู้จัดการเกา สีหน้าอีกฝ่ายดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดูแล้วเหมือนเรื่องจะไม่ง่ายอย่างที่คิด “เป็นอะไรไป? แล้วไอ้หนูคนนั้นหายไปไหน?”“เขาไปแต่งหน้าแล้วครับ แต่เรื่องที่ผมจะเล่า...หนักกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลยครับ นักโภชนาการบอกว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้ ร่างกายจะทรุดหนักแน่นอน และพอถึงตอนนั้นอาจจะสายเกินไป เขาไม่ใช่แค่ไม่ยอมกิน แต่ยังไม่รู้สึกว่าควรกินด้วยซ้ำ วันนี้ทั้งวันถ้าผมไม่เตือน เขาคงลืมไปเลยว่าต้องกินข้าว
ความโดดเด่นที่สุดของจานนี้ ต้องยกให้กับฝีมือการปรุงรส และความสามารถในการควบคุมไฟของ ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำได้ง่ายๆ ต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์จริงถึงจะทำได้แบบนี้ จะใช้ไฟแรงตอนไหน ควรลดไฟหรือถอนฟืนเมื่อใด ทุกขั้นตอนล้วนต้องใช้ประสบการณ์ควบคุม เพื่อให้เนื้อหมูซึมซับน้ำซอสได้อย่างทั่วถึง โดยไม่เละ ไม่แห้ง และยังคงความสดฉ่ำของวัตถุดิบไว้อย่างสมบูรณ์แบบนี่เป็น หมูต้มตงพอ ที่อร่อยที่สุดที่เขาเคยกิน ยิ่งกว่าเมนูขึ้นชื่อของร้านดังเต๋ออี้จิ่วโหลว ที่เขาเคยหลงใหลเสียอีกที่นั่นแต่ละจานจะใช้หม้อดินขนาดเล็กเคี่ยวแยกกันทีละหม้อ ถึงจะได้รสชาติแบบนั้น แต่ที่ร้านตระกูลถังกลับเคี่ยวรวมหม้อใหญ่ แต่ยังคงความสวยงามและรสชาติระดับเทพเอาไว้ได้ทุกชิ้น ฝีมือเชฟสาวคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ทั้งเรื่องมีดและการควบคุมไฟ พรสวรรค์ชัดๆ!พอเที่ยงตรงนักแสดงตัวประกอบ รวมถึงพนักงานในกองถ่ายหลายคณะที่เพิ่งเลิกกอง พอมีเวลาปุ๊บก็รีบพุ่งไปที่ร้านตระกูลถัง หวังจะได้ลิ้มรสเมนูใหม่ที่ได้ยินข่าวลือมาว่ามีขายวันนี้ หมูต้มตงพอ สีสวยเคลือบน้ำซอสข้นๆ นั่นแหละ! เมนูในตำนานที่หลายคนรอคอย ยังไม่ทันจะได้กดสั่ง ก็เห็นข้อความที่ทำให้เข่าอ่อนหม