LOGINชายสูงวัยในชุดสูทแบบซุนยัตเซ็นเอ่ยถามว่ามีเหล้าไหม ถังเหยานึกขึ้นได้ว่ายังมีเหล้าที่คุณทวดหมักเก็บไว้ตั้งแต่สมัยก่อนอยู่ในครัวสองสามไห คิดได้แบบนั้นก็รีบบอกกับหยางอิงไว้เลย ว่าถ้ามีใครถามถึงเหล้า ให้บอกไปว่า “หนึ่งโต๊ะสั่งได้แค่หนึ่งไห” ก็แล้วกัน ถือว่าให้ทุกคนได้ลิ้มลองฝีมือ การหมักเหล้าโบราณของตระกูลแบบพอเป็นพิธี
คุณลุงทั้งสองไม่ได้สั่งข้าวอาหารจานเดี่ยว แต่จัดเต็มสั่งเป็นเซ็ตชุดใหญ่ ถังเหยาจึงเร่งมือทำข้าวผัดหยางโจวกับสลัดผักแบบด่วนจี๋ เธอจัดวางซี่โครงวัวตุ๋นซอสไวน์แดง, ไก่ผัดพริกสไตล์เสฉวน และเต้าหู้เห็ดหอมลงจานอย่างสวยงาม พร้อมกับปลาในน้ำซุปเปรี้ยวหวาน และสลัดผักน้ำมันงาใส่ถาด ให้หยางอิงยกออกไปเสิร์ฟก่อน
เธอจัดการเตรียมถ้วยชาม ตะเกียบ ช้อน จอกเหล้าเล็กๆ สองใบ และไหหนึ่งไหวางไว้บนถาดไม้ ปิดท้ายด้วยข้าวผัดร้อนๆ จานใหญ่
พอดีกับจังหวะที่หยางอิงเดินกลับมา เฉินผิงกับเพื่อนอีก 5 คนก็เดินเข้ามาในร้าน เห็นมีลูกค้านั่งอยู่ก่อนแล้ว ทุกคนยังแอบคิดว่าตัวเองจะมาเป็นกลุ่มแรกเสียอีก เพิ่งหกโมงเอง ก็มีคนมาเร็วขนาดนี้แล้วเหรอ
พวกเขาก็ชอบบรรยากาศกลางแจ้งกับโคมไฟพอๆ กัน หลังจากทักทายสองสาวเจ้าของร้านแล้ว ก็พากันไปนั่งโต๊ะใต้หอมหมื่นลี้
“ร้านนี้ดูดีแฮะ แค่เห็นบรรยากาศร้าน ฉันก็ให้คะแนนบวกก่อนเลย”
“ทุกคนได้กลิ่นไหม ข้าวผัดหอมเวอร์! ยังไม่เคยเจอร้านไหนข้าวผัดหอมแบบนี้เลยนะ”
“แน่นอน ตอนที่เอาออเดอร์ไปส่งลูกค้ายังห้ามน้ำลายแทบไม่อยู่เลย แถมร้านนี้ดูสะอาดมาก มองจากด้านนอกก็เห็นครัวข้างในได้”
“นั่นสิ อย่างนี้ก็กินได้อย่างสบายใจ”
ระหว่างที่กำลังคุยกันอย่างออกรส อาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟพอดี แต่ละคนได้จานข้าวของตัวเอง พร้อมซุปและกับข้าวอย่างละจาน แถมยังมีสลัดแยกให้แต่ละคนอีกต่างหาก การจัดจานสวยแปลกตา พอเห็นแล้วก็รู้สึกพอใจโดยไม่ต้องชิมเลยด้วยซ้ำ
“โห ข้าวผัดอร่อยมาก! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมกลิ่นมันถึงหอมขนาดนั้น ฉันไม่คิดเลยนะว่าข้าวผัดจะหอมได้ขนาดนี้”
“ไม่น่าเชื่อเลย ซี่โครงวัวตุ๋นไวน์แดงนี่อร่อยสุดๆ รสชาติแบบนี้ฉันเพิ่งเคยได้กินเป็นครั้งแรก”
“ไก่ผัดพริกเสฉวนเผ็ดๆ ชาๆ เปรี้ยวนิดๆ แต่ไม่บาดคอ ความเผ็ดกำลังดีเหมือนเกาโดนจุดคันมันยิบๆ แบบอร่อยจริงๆ”
ตอนแรกโต๊ะพวกเขายังมีเสียงอุทานชมโน่นนี่ประปราย แต่สักพักเสียงก็ค่อยๆ เงียบลง ไม่ใช่อะไร…แต่ละคนมัวแต่ก้มหน้ากินจนลืมโลก ลืมแม้แต่จะพูดคุยกัน
โต๊ะข้างๆ ที่ผู้กำกับเฉินกับผู้กำกับซ่งนั่งอยู่ ก็อินกับบรรยากาศและอาหารไม่แพ้กัน กินจนพออิ่มถึงได้หยิบเหล้ามารินคนละถ้วยเพื่อคลายหนาว
“นึกไม่ถึงเลยนะว่าร้านที่เสี่ยวติงแนะนำจะอร่อยขนาดนี้ ฝีมือเชฟที่ดูจากภายนอกไม่รู้เลยจริงๆ ว่าจะเก่ง เทคนิคตุ๋นซี่โครงนี่ ไม่แพ้ร้านอาหารระดับห้าดาวเลยสักนิด กลิ่นและรสเหนือกว่าเห็นๆ”
“เมนูไก่ผัดพริกเสฉวนจานนี้ดีกว่าของเต๋ออี้จิ่วโหลวอีก น้ำซอสอร่อยกว่าเป็นกองเลย ไก่นึ่งกับสมุนไพรหอมฟุ้ง แต่ยังคงความนุ่มหวานของเนื้อไก่ไว้ได้ ส่วนของทางร้านนั้นไก่แข็งกว่า แถมน้ำมันยังเยิ้มอีกต่างหาก”
ผู้กำกับเฉินกำลังพูดอยู่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเหลือบไปเห็นไหเหล้าที่เพิ่งเปิดฝา ร้านอาหารร้านนี้ตกแต่งแบบย้อนยุค ชามกับตะเกียบเลยดูเข้าชุดกันหมด พอเห็นไหเหล้าในมือของผู้กำกับซ่งแล้ว เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองหลุดเข้าไปอยู่ในกองถ่ายหนังเรื่องที่ตัวเองกำกับซะอย่างนั้น
ผู้กำกับซ่งรินเหล้าใส่จอกสองใบแล้วรีบปิดฝาไหทันที ถึงแม้จะยังไม่ได้ดื่ม แต่แค่เปิดฝาก็พอรู้ได้แล้วว่านี่คือเหล้าชั้นดี สำหรับสายสะสมเหล้าอย่างเขา แค่กลิ่นก็รู้เลยว่าไม่ธรรมดา
เขายกชามเหล้าขึ้นสูดกลิ่นเบาๆ กลิ่นหอมหวานสดชื่นลอยมาแตะจมูก ชนิดที่ยังไม่ทันดื่มก็เหมือนกลิ่นไหลลงคอไปแล้ว รสหวานอ่อนๆ เหมือนจะละลายอยู่ในปาก แค่ได้กลิ่นก็แทบจะเมาแล้ว
“เหล้าชนิดนี้ ผมว่าไม่ธรรมดาแน่ อย่างน้อยต้องมีอายุกว่าร้อยปี แล้วก็น่าจะใช้วิธีหมักแบบโบราณด้วย ผมเคยมีเพื่อนคนหนึ่ง บังเอิญได้ลองเหล้าแบบนี้อยู่ครั้งนึง รสชาติตอนนั้นไม่เหมือนที่ไหนเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ถึงขั้นเท่าที่นี่ ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าใต้เชิงเขาเหิงเตี้ยน ในร้านอาหารบ้านๆ แบบนี้จะมีของดีซ่อนอยู่แบบนี้”
ผู้กำกับเฉินพอฟังจบก็ลองจิบตามเล็กน้อย จากนั้นก็ปล่อยให้รสเหล้าค่อยๆ ละลายไหลลงลำคอ แล้วถึงจิบอีกคำหนึ่งอย่างช้าๆ ช่วงแรกจะรู้สึกจี๊ดๆ นิดหน่อย แต่พอสักพักก็จะกลายเป็นรสสดชื่นนุ่มลิ้น แล้วปิดท้ายด้วยความหวานอ่อนๆ พร้อมกลิ่นข้าวหมักที่ติดอยู่ในคอ…เหล้าดีจริงๆ
เขามองไหเหล้าสีแดงน้ำตาลอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ก่อนจะหันกลับมามองสีเหล้าในชาม ที่ออกชมพูจางๆ แล้วหลุดปากออกมา “นี่มัน ‘นารีแดง’ ที่หมักมาจากข้าวเหนียวนี่นา ไม่น่าเชื่อเลยว่าในร้านเล็กๆ แบบนี้จะมีฝีมือหมักเหล้าระดับเทพซ่อนอยู่แบบนี้ ของดีไม่กลัวสถานที่จริงๆ”
ผู้กำกับซ่งหลับตา ลิ้มรสเหล้าที่ยังติดอยู่ในลำคออย่างช้าๆ แล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองโคมไฟที่ปลิวไหวตามลม บรรยากาศชวนให้ใจสงบ เขาเลยฮัมกลอนเบาๆ ออกมา
“หนี่ว์เอ๋อร์หง เจ้าหลับข้าตื่น คิดถึงไม่รู้จบ ข้าร่ายเจ้าอย่าฟังเงียบๆ เลย ของอร่อยบนโลกนี้มันก็แบบนี้แหละ ข้าวดีๆ ซุปหวานๆ เหล้าหอมๆ นั่งดูพระจันทร์รับลมเย็นๆ สุดท้ายแล้วในเมืองเหิงเตี้ยน ก็ยังมีที่ที่ทำให้ผมรู้สึกสบายใจแบบนี้อยู่เหมือนกัน”
ผู้กำกับเฉินได้ยินอย่างนั้นก็เลยท่องบทกลอนกลับบ้าง บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ เหมือนทุกอย่างช้าลง เหมาะกับการปล่อยใจล่องลอยไปกับธรรมชาติ
“เหล้าแรงพาใจลอย ชาหมักล้างใจคน”
ขณะนั้นกลุ่มของนักแสดงตัวประกอบเพิ่งมาถึง เห็นว่าด้านในลานร้านแทบไม่มีที่ว่าง ทุกคนที่มาด้วยกันถึงกับตกใจ คิดว่าหลงเข้ามาในกองถ่ายละครย้อนยุคเข้าให้แล้ว โชคดีที่ตรงมุมลานยังมีโต๊ะเหลืออยู่อีกหนึ่งโต๊ะพอดี
“แค่วันแรกก็มีคนแน่นขนาดนี้ ของอร่อยจริงไม่ต้องกลัวไม่มีคนหาเจอ”
ถิงถิงเหลือบไปเห็นผู้กำกับเฉินและผู้กำกับซ่ง กำลังนั่งดื่มกินคุยกันอยู่ฝั่งโน้น อยากจะเข้าไปทักแต่ก็เกรงว่าจะรบกวน เลยคิดว่าจะรอให้ทั้งสองกลับก่อน แล้วค่อยเข้าไปสวัสดีทีหลัง
“ฉันเคยแนะนำผู้กำกับเฉิน ให้กับผู้กำกับในกองถ่ายที่เรากำลังถ่ายกันอยู่ ไม่คิดเลยว่าเขาจะมาพร้อมกับผู้กำกับซ่งด้วย”
“ผู้กำกับซ่งเหรอ! นี่ฉันก็เล่นอยู่ในกองของเขาอยู่นะ”
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าแค่ร้านข้าวเล็กๆ แบบนี้จะได้เจอสองผู้กำกับในตำนาน ถ้าเห็นเขากลับเมื่อไร ฝากเตือนฉันด้วยนะ จะได้เข้าไปทักทายทั้งสองท่านสักหน่อย”
จะมีอะไรไปกว่าการได้กินอาหารอร่อยๆ เหล้าสักจอกสองจอก
ก็ทำให้ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวัน มลายหายไปได้เลยยย
ฝ่ายที่ไม่ชอบอยู่แล้วถือโอกาสเข้ามาโหมกระแสไฟให้แรงขึ้น ถังเหยาและเผิงเหนียนจึงกลายเป็นเป้าโจมตีของทุกฝ่ายซาลาเปาเล็กของเจียวเจียว: "ก็บอกแล้วไงว่าไม่ชอบตั้งแต่แรก เห็นธาตุแท้ความเป็นชาเขียวของพวกเธอสองพี่น้องนี่มานานแล้ว สมควรแล้วที่ถูกจับได้คาหนังคาเขา ส่วนพี่สาวก็แสบไม่แพ้กัน กล้าดียังไงมาแย่งผู้ชายของซุปตาร์หยาง #ถังเหยาและเผิงเหนียนไสหัวไปจากวงการซะ”จื่ออวี้ของไฝแดง: "อยากจะบอกว่าโคตรคลื่นไส้เลย ยุ่งกับคนนั้นคนนี้ไม่เลิก นิสัยแบบนี้สมควรโดนด่าตลอดไปนะ! แต่กลับสร้างภาพลักษณ์ว่าตัวเองแกร่งและเท่ได้ ของแบบนี้มันเข้ากันตามพวกพ้องจริงๆ พวกเธอนี่แหละคือสองพี่น้องชาเขียวดอกบัวขาวอันดับหนึ่ง#ถังเหยาและเผิงเหนียนไสหัวไปจากวงการซะ"พระจันทร์สว่างของท่านกู้: "WTF...บอกแล้วว่าน่าสงสัยตั้งแต่แรก นักแสดงมืออาชีพอย่างคุณหนูเซี่ย ที่ทุกอย่างราบรื่น ทำไมถึงได้ถอนตัวกลางคัน ต้องมีผีร้ายอยู่เบื้องหลังแน่ๆ ที่แท้ก็มีคนที่ไม่ชอบหน้าเลยใช้นายทุนบีบไล่ ถังเหยาเธอ
ถังเหยาอยากจะฟาดเขาสักที แต่พออีกฝ่ายยิ้มพูดอย่างเป็นมิตรแบบนั้น เธอก็ชะงักนิดหน่อยไม่อยากลงมือ“ลองค่อยๆ ทำความรู้จักผมดูก็ได้ การมีเพื่อนเพิ่มสักคนก็ดีไม่ใช่เหรอ อีกอย่างผมจริงใจมากนะ บอกตรงๆ ตอนเจอคุณที่สนามแข่ง ผมประทับใจมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ผมแข่งแพ้คนอื่นแล้วดันเป็นผู้หญิงด้วย เลยอยากรู้จักคุณจริงๆ ครับ”ถังเหยาไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด รู้สึกได้ว่ามีสายตาหลายคู่กำลังมองมา จึงบอกว่าจะลองคิดดูก่อน แล้วเดินกลับที่เดิมลี่หลินวางแผนจะใส่เหล้าในแก้วของถังเหยา แล้วล่อลวงให้เธอไปกับตัวเอง ก่อนจะส่งต่อให้สปอนเซอร์รายใหญ่บนเตียง แต่พอเห็นว่าข้างๆ ถังเหยามีเชิ่งอี้อยู่ แถมอีกฝ่ายยังเหลือบตามองมาด้วยแววตาเตือน ก็คิดว่าแผนคงพังแน่ๆ คนที่เชิ่งอี้ให้ความสนใจ ต่อให้ใครมีแผนอะไรก็ต้องพับใส่กระเป๋าไว้ก่อน แม้ว่าลี่หลินไม่คาดคิดว่าเชิ่งอี้จะมาสนใจถังเหยา เพราะสวี่อ้ายปิงไม่ได้บอกเรื่องนี้หรือว่าสวี่อ้ายปิงจะตั้งใจใช้เธอทำเรื่องสกปรก แล้วถ
เผิงเหนียน, ห่าวอี้, ต้าอวิ๋นที่เพิ่งรู้เรื่อง ต่างก็มองไปที่ถังเหยาแล้วเลื่อนสายตาไปหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างเธอกู้จื่ออวี่ขมวดคิ้ว คิดว่าอาจมีเรื่องเส้นสายซ่อนอยู่“ทำไมฉันต้องไปพบพวกเขาด้วยล่ะค่ะ”ถังเหยาไม่ได้อยู่ในวงการ และเธอมีความคิดเรียบง่าย ถ้าหากต้องการจะทำความรู้จักกันจริงๆ ก็ควรจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาเอง จะให้เธอวิ่งไปหาทำไมผู้กำกับซูจงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นกู้จื่ออวี่ชำเลืองมองมา สายตาที่เย็นชาและแฝงความไม่พอใจของเขา ก็ทำให้คำพูดของผู้กำกับต้องติดอยู่ในลำคออย่างไรเสียเขาก็เป็นแค่ผู้กำกับตัวเล็กๆ ไม่มีอำนาจพอที่จะขัดคำใครได้ จึงทำได้เพียงยิ้มขอโทษแล้วเดินจากไปกู้จื่ออวี่หยิบจานสเต๊กเนื้อของถังเหยามาหั่นให้เสร็จเรียบร้อย ก็เปลี่ยนจานกลับคืนให้เธอ จากนั้นยังกระซิบถามอะไรบางอย่าง ก่อนจะตักซุปวางไว้ข้างๆ ท่าทีที่ไม่ปิดบังนี้ ตกอยู่ในสายตาของทุกคนที่อยู่ในงาน
เมื่อสักครู่ทางรายการนำชุดเดรสรัดรูป, เกาะอก, สายเดี่ยว, ผ่าข้าง และดีไซน์แปลกๆ มาให้เลือกเต็มไปหมด แต่ดูสิกู้จื่ออวี่เลือกชุดเดรสที่แม้แต่มือก็ยังไม่โผล่! ปิดมิดชิดแม้กระทั่งไปทำเนียบรัฐบาล ก็ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวให้เป็นทางการขนาดนี้ถังเหยา ฟังคำแนะนำของเผิงเหนียน แล้วเลือกชุดเดรสผ้าไหมสีขาว เสื้อผ้าไหมลายทางสีขาวแขนยาวหลวมๆ คอเสื้อแบบปาดไหล่รัดรูป ใต้เอวมีเข็มขัดรัดเล็กน้อย กระโปรงบานเป็นชั้นๆ ด้านในเป็นสีขาว ด้านนอกสุดเป็นสีเหลืองอ่อนเผิงเหนียนไม่อยากตัดสินรสนิยมของกู้จื่ออวี่ แต่เสื้อผ้าก็สะท้อนถึงความเย็นชาและเรียบง่ายของเขาอยู่ไม่น้อย โชคดีที่ยังมีชุดเดรสรัดเอวที่ช่วยกู้สถานการณ์ไว้ได้ ส่วนชุดอื่นๆ เธอก็ไม่กล้าแม้แต่จะมองทันทีที่ถังเหยาเดินออกมา เผิงเหนียนที่หงอยเหงาเป็นลูกหมาเมื่อครู่ ก็เปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเธอเป็นประกาย วิ่งวนรอบๆ มองอย่างชื่นชม ปากอ้าค้างจนหุบไม่ลง แม้แต่เกาเหวิน ที่อยู่ข้างๆ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเธอ"พี่เสี่ยวเหยา ชุดน
ภาพของถังเหยาขับรถด้วยสองสไตล์ที่แตกต่างกัน ถูกแฟนๆ นำมารวมเป็นวิดีโอเดียวกันพร้อมชื่อเรื่องตลกๆ ว่า:"เมื่อฉันและพ่อขับรถคันเดียวกัน" ด้านล่างส่วนใหญ่เป็นความคิดเห็นที่สนุกสนาน มีแฟนคลับบางคนยังเลือกชื่อที่ตลกขบขันยิ่งทำให้การสนทนากว้างขวางขึ้นไม่เพียงเท่านั้น วิดีโอของถังเหยาที่เข้าโค้ง3 ครั้งด้วย 3 สไตล์ที่แตกต่างกัน กำลังขึ้นอันดับ1 ของโต่วอิน กระแสบนฮอตเสิร์ชแฮชแท็ก แซงหน้าคู่ท็อปอย่างกู้จื่ออวี่และห่าวอี้ขึ้นอันดับ 1 อุณหภูมิการสนทนาพุ่งสูงจนติดชาร์ตสีม่วงทั่วทั้งกระดานนานเกือบครึ่งวันคุณหนูใหญ่ถังคือภรรยาของฉัน: เมียจ๋า เธอสุดยอดมาก! ท่าทางที่สบายๆ ปล่อยใจ หมุนพวงมาลัยช้าๆ นั่นก็เย้ายวนพอแล้ว ไม่คิดเลยว่าท่าทางที่สงบนิ่งตอนเหยียบคันเร่ง เบรก และหักพวงมาลัยแบบนั้นเท่สุดๆ มือคู่นั้นของเทพเจ้าชัดๆสามีของฉันแซ่ถัง: ตั้งแต่เจอสามี สายตาที่มองผู้ชายของฉันก็ลดลงอีกแล้ว! คนที่ทำอาหารอร่อย ยิงปืนแม่น ยิ
เสียงปืนดังขึ้น ลี่หลินยังเหยียบคันเร่งอยู่ รถคันอื่นก็พุ่งผ่านไปราวกับสายฟ้าแลบ เธอมองผ่านกระจกเพื่อดูว่าถังเหยา ยังคลานอยู่ข้างหลังเธอหรือไม่ แต่แปลกที่ไม่มีรถคันไหนเลย เธอเป็นคนที่รั้งท้าย!เป็นไปไม่ได้! เมื่อกี้ยังล้อเล่นว่าถังเหยาห่างจากเธอเป็นพันโยชน์เลย ทำไมตอนนี้ถึงมองไม่เห็นแล้วล่ะ? ลี่หลินไม่รู้ แต่ผู้ชมคือคนที่รู้ดีที่สุด ตามมาด้วยรถแข่งคันอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆทันทีที่เสียงแตรดังขึ้น ถังเหยาก็เหยียบคันเร่งพุ่งออกไปอย่างเด็ดขาด ความเร็วของเธอเกือบจะเร็วที่สุดเมื่อออกจากเส้นสตาร์ท คนอื่นๆ ตอนแรกยังไม่ได้ระวังตัว ไม่คิดเลยว่าจะถูกเธอแซงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รถF1 ที่ใช้สำหรับการแข่งในสนามตอนนี้ กำลังต้องตามดมควันของซูเปอร์คาร์ทุกสายตามองหญิงสาวที่นำหน้า หัวใจของทุกคนต่างเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น ความร้อนแรงบนสนามแข่งแผ่ขยายไปถึงอัฒจันทร์ ทุกคนมองหน้าจอพร้อมตะโกนก้อง"ว้าว... ดูสาวน้อยที่ขับLotus Evija สีเทาเงินนั่นสิ! เร็วสุดๆ ไปเ







