LOGINแต่สุดท้ายทุกคนก็จำได้แค่ช่วงเวลานี้เท่านั้น เพราะพออาหารเริ่มทยอยมาเสิร์ฟ ก็ลืมหมดว่าตั้งใจมากินเพื่ออะไร กลายเป็นมัวแต่โฟกัสกับความอร่อยของอาหารแทน กว่าจะนึกขึ้นได้ ก็หลังจากกินเสร็จไปหมดแล้ว ถึงเพิ่งรู้ว่าขนมดอกกุ้ยฮวามีแจกแค่ให้กับ 30 คนแรก กลุ่มพวกเธอเลยพลาดไปอย่างน่าเสียดาย
“ของที่ล้ำค่าก็ยิ่งหายาก ตอนกลางวันฉันกินไปสองคำหมดเกลี้ยงเลย ยังไม่ทันได้รู้ด้วยซ้ำว่ารสชาติจริงๆ มันเป็นยังไง รู้แค่ว่าหอมมาก อร่อยมาก แค่นั้นเอง”
“โอ๊ย อย่างน้อยเธอก็ยังได้กินนะ เห็นไหมน่าจะรีบมา เราต้องรอให้ถึงฤดูที่ดอกกุ้ยฮวาในสวนของเจ้าของร้านออกดอก ถึงจะมีโอกาสได้ชิมอีก”
ลั่วลั่วกับเหมยเหมยก็พยักหน้าเห็นด้วย
“แต่รู้ไหม พอได้กินแล้วและรู้ว่าจะไม่ได้กินอีกมันทรมานกว่าอีกนะ อย่างน้อยคนที่ยังไม่เคยกิน ก็ไม่ต้องมานั่งรู้สึกเสียดายเหมือนฉันตอนนี้ไง”
ความรู้สึกของเหมยเหมยไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว พอตกกลางคืน หลังจากทุกคนกินอิ่มนอนเอนหลังอยู่บนเตียง ก็เริ่มคว้ามือถือมาเลื่อนดูข่าวเมาท์ เหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันช่วงค่ำของเหล่าคนในเมืองเหิงเตี้ยน คนที่มีคิวถ่ายทั้งวันก็มักจะวุ่นอยู่แต่ในกองถ่าย เรื่องอาหารก็ต้องพึ่งทีมงานจัดให้ทั้งนั้น เลยไม่ค่อยมีเวลาได้ติดตามข่าวคราว พออยู่ๆ ในหน้าเว่ยป๋อของสถานีเหิงเตี้ยนมีโพสต์นึงเด้งขึ้นมา ก็ทำให้คนงงกันไปหมดว่ามันเรื่องอะไร
#ศึกอาหารร้านตระกูลถัง นี่มันอะไรของใครกัน ใครเป็นคนตั้งชื่อได้ฮาขนาดนี้ แล้วมันจะมีศึกอะไรอีก? หลายคนสงสัยเลยกดเข้าไปดู แล้วก็ต้องร้องในใจว่าไม่น่ากดเข้าไปเลย...
ตอนนี้มันก็เกือบจะห้าทุ่มแล้ว เงียบสงบแบบนี้ แต่ภาพอาหารแต่ละอย่างกลับโผล่มาเต็มตา ใครจะทนไหวกันล่ะ? ใครมันใจร้ายขนาดนี้ โพสต์ของน่ากินตอนกลางคืน คนจะนอนก็หิวไปสิ! แล้วยังจะมีคนมาเขียนบรรยายอาหารแต่ละอย่างไว้อย่างตั้งใจ ราวกับเอาทุกคำศัพท์ด้านอาหารมาใช้เกือบหมด ทำคนอ่านแทบจะกลืนน้ำลายตามไม่ทัน
โซเชียลมีเดีย:
เหมยเหมย: [รูปขนมดอกกุ้ยฮวา] [รูปเต้าหู้เยี่ยมยอด] กล้าบอกเลยนะว่าฉันนี่แหละ! 1 ใน 30 คนแรกที่ได้ชิมขนมชนิดนี้ของอาหารร้าน "ตระกูลถัง" ดูจากรูปขนมดอกกุ้ยฮวาก็รู้แล้วปะ!
ซูหลิน: ที่แท้คนที่แย่งขนมกุ้ยฮวยของฉันไปก็คือเธอนี่เอง ฉันคือคนที่ 31 พอดี! [รูปซี่โครงตุ๋นซอสไวน์แดง]
แต่พูดจริงนะ ซี่โครงนี่มันอร่อยแบบตาแตกอะ ทั้งปากมีแต่รสเนื้อนุ่มฉ่ำละลายในปาก ซอสรสเข้มข้นกินกับข้าวสวยคือที่สุดในสามโลก ฮือ คิดถึงแล้วยังอยากกินอยู่เลย พรุ่งนี้ต้องไปกินอีกแน่นอน!ลั่วลั่ว: @ซูหลิน อ้าว! ที่แท้ก็คนในด้อมเดียวกัน [รูปขนม] [รูปซี่โครง] คืนนี้ฉันจัดรอบสองก็ยังรู้สึกว่าอร่อยเหมือนเดิม จะกินซ้ำจนกว่าจะเบื่อแล้วค่อยเปลี่ยนเมนู ตอนนี้ซี่โครงตุ๋นไวน์แดงยังครองใจฉันอยู่ แบบไม่มีใครล้มแชมป์ได้เลยอะ อร่อยแบบไร้เทียมทาน
ซูหลิน: @ลั่วลั่ว บรรยายดีมาก! ซี่โครงนี่คือราชาแห่งวงการอาหารเหิงเตี้ยนจริงๆ อร่อยยิ่งกว่าจานทองคำในร้าน "อี๋อิ่นโหลว" อีกนะพูดเลย
ถิงถิง: [รูปขนม] [รูปไก่] แต่ฉันว่าพรุ่งนี้ขอกลับไปกิน “ไก่ผัดเผ็ดเสฉวน” ต่อดีกว่า เนื้อไก่นุ่มชุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นเครื่องเทศกับซอสเผ็ดสูตรพิเศษ อร่อยแบบขึ้นสวรรค์เลยอะ! ส่วนซี่โครงไว้ค่อยกินหลังจากเลิกคิดถึงไก่ก็แล้วกัน
ลั่วลั่ว: @ถิงถิง ไก่ก็ยังแพ้ซี่โครงอยู่ดีนะ! ไก่น่ะมันแค่ “ตัวรอง” เท่านั้นแหละ พอวางขึ้นโต๊ะแล้วเทียบกับซี่โครงไม่ได้เลย สู้ทั้งรสชาติ เทคนิคการปรุง หน้าตาไม่ได้สักอย่าง ไก่คือไม่คู่ควรพูดถึงด้วยซ้ำ
เหมยเหมย: [รูปเต้าหู้] อย่าลืมเต้าหู้เยี่ยมยอดของฉันด้วยนะ ได้ยินไหม “เยี่ยมยอด” นะยะ! มีเมนูไหนจะเหนือกว่านี้อีก เต้าหู้นุ่มละลายในปาก ไส้กุ้งกับหมูสับสดหวานฉ่ำ ราดด้วยน้ำซอสกลมกล่อมหอมๆ คือต้องยอมหลีกทางให้เต้าหู้ขึ้นแท่นแชมป์อะพูดเลย
ลั่วลั่ว: @เหมยเหมย ถึงฉันจะเคยลองเต้าหู้ของเธอแล้วก็เถอะ แต่ขอโทษนะ มันก็แค่ “ตัวรอง” เหมือนกัน เทียบกับไก่น่ะพอไหว แต่จะขึ้นชั้น “ตัวแม่” แบบซี่โครงยังไม่ถึงอะ
เหมยเหมย: @ลั่วลั่ว ยังกล้าพูดอีกนะ! ตอนแรกตกลงกันจะแลกกันชิม สุดท้ายเธอกินของฉันหมดเกลี้ยงแบบไม่รู้ตัว! ฉันไม่ยอมอะ ต้องให้ชิมให้ครบทุกเมนูก่อนถึงจะตัดสินได้ เธอทำตารางแปะไว้เลยก็ได้ เดี๋ยวให้ทุกคนโหวตแบบยุติธรรม
หมิงเจ๋อ: ขอโทษนะครับ…ที่พวกคุณคุยกันนี่คือเคล็ดวิชาลับของสำนักไหนรึเปล่า? ข้าน้อยฟังไม่รู้เรื่องเลยสักนิด ขอคำอธิบายที…
ลั่วลั่ว: @หมิงเจ๋อ อ๋อๆ ที่เหิงเตี้ยนพึ่งเปิดร้านอาหารใหม่ชื่อ “ตระกูลถัง” มีแจกน้ำบ๊วยกับขนมดอกกุ้ยฮวาฟรี ขนมกุ้ยฮวยมีแค่ 30 คนแรกที่ได้กิน ใครมาช้าคืออด ตอนนี้คนที่ไม่ได้กินก็กำลังบ่นเสียดาย ส่วนคนที่กินแล้วก็กำลังถกกันว่าเมนูไหนคือ “เบอร์หนึ่ง” ของร้าน ตอนนี้คะแนนรวมเทใจให้ “ซี่โครงตุ๋นไวน์แดง” เป็นแชมป์ แต่บางคนที่ยังไม่ได้ชิมก็ไม่ยอมรับ ยังเชียร์เมนูที่ตัวเองกินอยู่ สรุปก็เป็นอย่างที่เห็นแหละจ้า
ตงจิน: ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอาหารจะเอามาถกกันแบบนี้ได้ด้วย มีทั้ง "ตัวแม่" ทั้ง "ตัวรอง" อีกต่างหาก พรุ่งนี้ฉันต้องไปลองเองซะแล้ว พวกเธอพูดกันขนาดนี้ ทำเอาฉันอยากรู้เลยล่ะ
ถิงถิง: @ตงจิน อาหารที่ ตระกูลถัง ไม่ใช่แค่อร่อยนะ ราคายังเป็นมิตรอีกต่างหาก รสชาติระดับนี้ เหมือนพวกเราได้ของดีจากเจ้าของร้านแบบไม่คิดเงินเลยก็ว่าได้ เชฟสาวเจ้าของร้านนี่คือขุมทรัพย์ที่หลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ต้องดูแลทะนุถนอมให้ดีๆ เลย จะได้มีของอร่อยกินไปนานๆ
เหมยเหมย: เห็นด้วย +1
ลั่วลั่ว: เห็นด้วย +10
ช่วงหัวค่ำร้าน ตระกูลถัง แม้จะไม่แน่นขนัดเหมือนช่วงเย็น แต่โต๊ะด้านนอกทั้ง 12 โต๊ะก็มีคนนั่งเต็มหมดแล้ว หลังจากยุ่งมาทั้งวัน ในที่สุด ถังเหยา กับ หยางอิง ก็ได้ออกมานั่งพักเหนื่อยที่ลานหน้าร้าน พอได้จิบชาดอกไม้ท่ามกลางลมเย็นๆ ก็รู้สึกผ่อนคลายจนลืมความเหนื่อยล้าไปชั่วขณะ
เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ปิดประตูรั้วหน้าร้าน เลยลุกขึ้นเดินออกไป ขณะที่เพื่อนสาวยังนั่งไขว่ห้างจิบชาอย่างสบายใจ กำลังจะเก็บเมนูเข้าร้าน ก็เหลือบไปเห็นคุณลุงคนหนึ่ง นั่งอยู่ริมฟุตบาทหน้าร้าน พอเดินกลับมาเพื่อจะล็อกประตูรั้ว ก็เห็นว่าคุณลุงยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ท่าทางแปลกประหลาดทำให้เธอเริ่มรู้สึกผิดสังเกต เพราะลุงนั่งหลังงอ มือกุมท้องไว้แน่นๆ ดูเหมือนคนที่กำลังเจ็บปวดอยู่…
ไม่ต้องเถียงกันจ้าสาวว เม้าท์มอยเวอร์!
เอาเป็นว่าอร่อยทุกเมนู บรรยายซะน้ำลายไหลเลยยยย
ในขณะที่ข่าวยังคงเป็นประเด็นร้อนแรง และทุกคนกำลังสนุกกับข่าวใหญ่ชิ้นนี้ งาน Weibo Gala ก็ได้ประกาศรายชื่อแขกผู้มีเกียรติ และข่าวที่ร้อนแรงที่สุดในตอนนี้ก็คือ คู่รักถังกู้ ยืนยันว่าจะเข้าร่วมงานนี้พร้อมกันเรือของฉันถึงฝั่งแล้ว: “หลีกไปๆ หลีกไปให้หมด เรือของฉันมาถึงแล้ว! ฮือๆ รอตั้งนานกว่าจะได้เห็นคู่รักของฉันปรากฏตัว คิดถึงพี่ๆ ทั้งคู่จะแย่แล้ว!”คู่รักถังกู้: “มาสนุกกันเถอะทุกคน คู่รักของเราจับมือกันมาแล้ว! นี่คือของขวัญแต่งงานสำหรับพวกเรา!”คุณนายและการกินเผือก: “โอ้โห…คู่รักมาเองเลย! ทุกคนหลีกทางให้หน่อย! โปรยดอกไม้และปูพรมแดง!”นอนรอ OTP: “ดีใจที่สุด วันนี้มาถึงแล้ว! วันนี้หยุดงานพอดี ตั้งใจจะซื้อของกินมานั่งดูทั้งวันเลย! ความหวานของคู่รักถังกู้ ไม่ค่อยได้เห็นแบบเปิดเผยเท่าไหร่ โอกาสแบบนี้พลาดไม่ได้เด็ดขาด!”เสพข่าวซุบซิบ: “เฮ้! ฉันอิจฉาแฟนคลับคู่นี้จริงๆ เลย! เรือของพวกเขาถึงฝั่งแล้ว และมีความสุขกันแบบเปิดเผย ส่วนเรือของฉันเพิ่งจะล่มแ ละยังทะเลาะกันอยู่เลย! โธ่เอ๊ย! เห็นสภาพบ้านของตัวเองแล้วเจ็บปวดหัวใจจริงๆ!”สมาคมคนชอบเม้าท์: “ถามจริง ในวงการใครจะมาสู้กับคู่รักคู่นี้ได้อีก! แฟนค
ประธานกลุ่มบริษัทหานเหยียน ที่เพิ่งกลับมาถึงประเทศก็ไม่พลาดโอกาสนี้ เขาหัวเราะอย่างร่าเริงและสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานขึ้นมา“อย่าลืมนะว่าฉันก็เป็นพ่อทูนหัวของเจ้าหนูเสี่ยวอวี่เหมือนกัน พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน จะทำตัวห่างเหินไปทำไม”สวี่เหยียนยิ้มอย่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ และมีกลิ่นอายของผู้ชายที่น่าดึงดูดและเป็นผู้ใหญ่ ราวกับไวน์ชั้นดีที่ดึงดูดสายตาของพนักงานทุกคน “ใช่แล้ว! ถ้าซ่งไป๋นั่งได้ ทำไมฉันที่สนิทกับเสี่ยวอวี่ขนาดนี้ถึงนั่งไม่ได้ล่ะ อย่าเลือกปฏิบัติแบบนี้สิ”ไช่หนิงหันไปมองคนที่อยู่ข้างๆ ด้วยความหมายที่ชัดเจน เธอจะไม่อนุญาตให้ใครมารังแกสามีได้ง่ายๆ คนที่เธอปกป้องและดูแลมาอย่างดี จะปล่อยให้แกะพวกนี้มารุมตอดได้อย่างไร มีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถรังแกเขาได้ และคนอื่นไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้น“พวกคุณสองคนไปถามความเห็นของสามีฉันก่อน ถ้าเขายอมฉันก็ยอม พวกคุณห้ามทำให้สามีฉันไม่มีความสุขนะ”ทั้งสองคนมองไปที่กู้ซวนด้วยรอยยิ้มที่สดใสยิ่งขึ้น แต่ในใจกลับรู้สึกเปรี้ยวจี๊ด ที่เห็นท่าทางการปกป้องสามีของไช่หนิงอย่างชัดเจน ทำไมในสายตาของไช่หนิงถึงคิดว่ากู้ซวนเป็นคนที่น่าสงสาร ในข
คุณลุงหวังยังบอกอีกว่าถังเหยาเพิ่งจะรู้เรื่องนี้ และเธอก็ปฏิเสธที่จะรับน้ำใจของเขา แต่ถังเหยาบอกให้เขาอยู่ที่นี่อย่างสบายใจ จนกว่าเขาจะต้องการกลับไป แต่ลูกๆ ของเขากลับไม่รู้สึกขอบคุณคนอื่นที่ดูแลพ่อของตัวเอง และไม่แม้แต่จะมาถามว่าชีวิตของพ่อเป็นอย่างไร สิ่งแรกที่พวกเขาทำ คือไปหาทนายความเพื่อถามเรื่องทรัพย์สินการกระทำที่ไร้หัวใจนี้ ทำให้คนรู้สึกเย็นชากว่าคนแปลกหน้าเสียอีก คุณลุงหวังจึงตัดสินใจนำทรัพย์สินไปตั้งเป็นกองทุนส่วนตัว เพื่อช่วยเหลือเด็กป่วยที่ไม่มีเงินรักษา ใจของเขาเย็นชาแล้ว และไม่ต้องการที่จะกลับไปอยู่กับลูกๆ ทั้ง 3 คน จะอยู่ที่บ้านของถังเหยาและเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จัก ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและดูแลบ้านให้เธอเหล่าชาวเน็ตที่ติดตามข่าวนี้ก็รู้สึกชื่นชมถังเหยาในใจอีกครั้ง เพราะเธอปฏิเสธทรัพย์สินจำนวนมหาศาล ร้านอาหารเถิงเวยเก๋อได้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แล้ว และไม่ต่างจากกลุ่มบริษัทใหญ่ๆ จำนวนเงินนั้นมากพอที่จะทำให้ทุกคนลังเลที่จะปฏิเสธบ้านตระกูลกู้ในห้องฝึกศิลปะการต่อสู้ถังเหยาและกู้จื่ออวี่) กำลังนั่งดูแม่และพี่ชายของเขา กู้เฉินอี้ ดวลกัน ถังเหยาไม่คิดเลยว่าคุณนายไช่ที่ดูอ่อนช้อย
ฉันรักข่าวลือ: “ฮ่าๆๆ ในที่สุดทุกคนก็เริ่มอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับถังเหยาแล้วใช่ไหม! คนข้างบนพูดถึงแค่ส่วนที่ปรากฏเท่านั้น แต่ก็ยังขาดอีกนะ! ไม่มีใครไปสืบเรื่องเฮลิคอปเตอร์ของประเทศซิลเวเนียเลยเหรอ! ทุกคนนี่แย่จังเลย!”ไม่ติดตามใครนอกจากเธอ: “ฉันคือคนที่เคยไปเที่ยวประเทศซิลเวเนีย พร้อมกับกลุ่มรายการโชว์ ทุกคนรู้ไหมว่ารูปของถังเหยาแขวนอยู่ข้างนอกเยอะมาก! ถามแล้วถึงได้รู้ว่าเธอเคยมาที่นี่ และช่วยเหลือประเทศเล็กๆ แห่งนี้ ทำให้ประชาชนรักและเคารพเธอมาก ได้ยินมาว่าเธอได้รับเชิญให้ไปดำรงตำแหน่งอะไรบางอย่าง แต่ถังเหยาก็ปฏิเสธไป พวกเขาเปิดการท่องเที่ยว ก็เป็นคำแนะนำของพี่ใหญ่ถังอีกเช่นกัน และยังไม่ทันจะสิ้นปีเศรษฐกิจของประเทศ ก็เติบโตขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว น่าขนลุกมากเลยทุกคน!”ชอบเดินตากฝน: “ฉันยังไม่รู้เลยว่าส่วนที่ซ่อนอยู่คืออะไร แต่แค่รู้คร่าวๆ ก็ทำเอาฉันพูดไม่ออกแล้ว! แอนตี้แฟนอยู่ไหน ยังมีชีวิตอยู่ไหม! ยกมือหน่อยสิเพื่อนเอ๋ย! ตอนนี้คงไม่รู้จะเอาหน้าไปซ่อนไว้ที่ไหนแล้ว ตอนแรกๆ ทำตัวน่ารังเกียจมากเลย ทั้งด่าว่าทั้งว่าถังเหยา ตอนนี้ฉันรู้สึกอับอายแทนพวกคุณจริงๆ!”ช่องทางสตรีมม
ชื่นชมความสามัคคี: “โอ้โห…นิยายรักโรแมนติกระหว่างพี่ชายปักกิ่งกับน้องสาวชิงหัว ที่ใครบางคนเคยพูดไว้เป็นจริงแล้ว! คนที่พูดคำทำนายนั้นอยู่ที่ไหน! ยกมือหน่อย! แล้วคุณยังจะทำตามที่พูดว่า ‘ขอถือศีลอดตลอดชีวิต’ อยู่ไหม ฮ่าๆๆ”เสพดราม่าบำรุงสมอง: “พรุ่งนี้จะต้องเป็นวันที่ชิงหัวยิ่งใหญ่แน่นอน! แค่คิดถึงภาพนักศึกษาปักกิ่ง เดินเข้าประตูมหาวิทยาลัยชิงหัวก็ขำแล้ว! โชคดีที่พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ ฉันจะได้ส่องดราม่าทั้งวัน!”วันใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยบรรยากาศที่คึกคักและสนุกสนาน นักศึกษาทั่วประเทศต่างตื่นเต้นที่จะได้เข้าสู่มหาวิทยาลัยในฝันของตัวเอง นักข่าว บล็อกเกอร์ และอินฟูลฯ สายความรู้ ต่างก็ไม่พลาดช่วงเวลาที่น่าอัศจรรย์ของมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งสองแห่ง ตั้งแต่เช้าตรู่พวกเขาก็มาเพื่อเก็บภาพที่น่าสนใจเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่สวมชุดนักศึกษาของชิงหัว เดินเข้ามาจากทางซ้ายอย่างสง่างาม มือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง ทำให้เขามีท่าทางเท่ราวกับเป็นนักแสดง แม้จะต้องเจอกับมหาวิทยาลัยคู่แข่ง แต่เขาก็ยังคงความมั่นใจเหมือนกำลังเดินอยู่บนพรมแดงบังเอิญว่าทางด้านขวาก็มีเด็กสาวจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา เ
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สิ้นสุดลง ท่ามกลางความสนใจอย่างล้นหลาม ของเหล่าชาวเน็ตที่ชอบสอดส่อง ทุกคนเริ่มเดิมพันกันว่า นักเรียนที่เก่งที่สุดในปีนี้ จะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชิงหัวหรือปักกิ่ง และคู่แข่งที่ถูกกำหนดมาโดยสวรรค์คู่นี้ จะมีการดวลกันแบบพิเศษยังไง เพื่อแย่งชิงคนเก่งๆ ไปไว้กับตัวในขณะที่ทุกคนกำลังรอคอยช่วงเวลาที่สำคัญนี้ โพสต์หนึ่งจากคนธรรมดาๆ ก็กลายเป็นโด่งดังขึ้นมาอย่างกะทันหันในโลกออนไลน์ ไม่เพียงแต่ติดเทรนด์เท่านั้น แต่ยังขึ้นไปอยู่อันดับที่ 2 ในชาร์ตบันเทิงอีกด้วยแฮชแท็ก #ชิงหัวใช้แผนสำเร็จโน้มน้าวเด็กหัวกะทิได้ ทันทีที่โพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป เหล่าชาวเน็ตที่ชอบสอดส่องก็รีบเข้ามาดูทันทีตามที่เจ้าของโพสต์เล่าว่า ตัวเองเป็นเพื่อนกับนักเรียนหัวกะทิของปีนี้ และได้เป็นพยานในความสามารถของการโน้มน้าวจิตใจของมหาวิทยาลัยทั้งสองแห่ง แต่สุดท้ายแล้วผู้ชนะก็คือมหาวิทยาลัยชิงหัวเหตุผลหลักก็คือ มีความเป็นไปได้ที่ไอดอลของนักเรียนคนนี้ จะกลับมาเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัย ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ดังนั้นในปีนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง พวกเขายังบอกอีกว่ามหาวิทยาลัย กำล







