แต่สุดท้ายทุกคนก็จำได้แค่ช่วงเวลานี้เท่านั้น เพราะพออาหารเริ่มทยอยมาเสิร์ฟ ก็ลืมหมดว่าตั้งใจมากินเพื่ออะไร กลายเป็นมัวแต่โฟกัสกับความอร่อยของอาหารแทน กว่าจะนึกขึ้นได้ ก็หลังจากกินเสร็จไปหมดแล้ว ถึงเพิ่งรู้ว่าขนมดอกกุ้ยฮวามีแจกแค่ให้กับ 30 คนแรก กลุ่มพวกเธอเลยพลาดไปอย่างน่าเสียดาย
“ของที่ล้ำค่าก็ยิ่งหายาก ตอนกลางวันฉันกินไปสองคำหมดเกลี้ยงเลย ยังไม่ทันได้รู้ด้วยซ้ำว่ารสชาติจริงๆ มันเป็นยังไง รู้แค่ว่าหอมมาก อร่อยมาก แค่นั้นเอง”
“โอ๊ย อย่างน้อยเธอก็ยังได้กินนะ เห็นไหมน่าจะรีบมา เราต้องรอให้ถึงฤดูที่ดอกกุ้ยฮวาในสวนของเจ้าของร้านออกดอก ถึงจะมีโอกาสได้ชิมอีก”
ลั่วลั่วกับเหมยเหมยก็พยักหน้าเห็นด้วย
“แต่รู้ไหม พอได้กินแล้วและรู้ว่าจะไม่ได้กินอีกมันทรมานกว่าอีกนะ อย่างน้อยคนที่ยังไม่เคยกิน ก็ไม่ต้องมานั่งรู้สึกเสียดายเหมือนฉันตอนนี้ไง”
ความรู้สึกของเหมยเหมยไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว พอตกกลางคืน หลังจากทุกคนกินอิ่มนอนเอนหลังอยู่บนเตียง ก็เริ่มคว้ามือถือมาเลื่อนดูข่าวเมาท์ เหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันช่วงค่ำของเหล่าคนในเมืองเหิงเตี้ยน คนที่มีคิวถ่ายทั้งวันก็มักจะวุ่นอยู่แต่ในกองถ่าย เรื่องอาหารก็ต้องพึ่งทีมงานจัดให้ทั้งนั้น เลยไม่ค่อยมีเวลาได้ติดตามข่าวคราว พออยู่ๆ ในหน้าเว่ยป๋อของสถานีเหิงเตี้ยนมีโพสต์นึงเด้งขึ้นมา ก็ทำให้คนงงกันไปหมดว่ามันเรื่องอะไร
#ศึกอาหารร้านตระกูลถัง นี่มันอะไรของใครกัน ใครเป็นคนตั้งชื่อได้ฮาขนาดนี้ แล้วมันจะมีศึกอะไรอีก? หลายคนสงสัยเลยกดเข้าไปดู แล้วก็ต้องร้องในใจว่าไม่น่ากดเข้าไปเลย...
ตอนนี้มันก็เกือบจะห้าทุ่มแล้ว เงียบสงบแบบนี้ แต่ภาพอาหารแต่ละอย่างกลับโผล่มาเต็มตา ใครจะทนไหวกันล่ะ? ใครมันใจร้ายขนาดนี้ โพสต์ของน่ากินตอนกลางคืน คนจะนอนก็หิวไปสิ! แล้วยังจะมีคนมาเขียนบรรยายอาหารแต่ละอย่างไว้อย่างตั้งใจ ราวกับเอาทุกคำศัพท์ด้านอาหารมาใช้เกือบหมด ทำคนอ่านแทบจะกลืนน้ำลายตามไม่ทัน
โซเชียลมีเดีย:
เหมยเหมย: [รูปขนมดอกกุ้ยฮวา] [รูปเต้าหู้เยี่ยมยอด] กล้าบอกเลยนะว่าฉันนี่แหละ! 1 ใน 30 คนแรกที่ได้ชิมขนมชนิดนี้ของอาหารร้าน "ตระกูลถัง" ดูจากรูปขนมดอกกุ้ยฮวาก็รู้แล้วปะ!
ซูหลิน: ที่แท้คนที่แย่งขนมกุ้ยฮวยของฉันไปก็คือเธอนี่เอง ฉันคือคนที่ 31 พอดี! [รูปซี่โครงตุ๋นซอสไวน์แดง]
แต่พูดจริงนะ ซี่โครงนี่มันอร่อยแบบตาแตกอะ ทั้งปากมีแต่รสเนื้อนุ่มฉ่ำละลายในปาก ซอสรสเข้มข้นกินกับข้าวสวยคือที่สุดในสามโลก ฮือ คิดถึงแล้วยังอยากกินอยู่เลย พรุ่งนี้ต้องไปกินอีกแน่นอน!ลั่วลั่ว: @ซูหลิน อ้าว! ที่แท้ก็คนในด้อมเดียวกัน [รูปขนม] [รูปซี่โครง] คืนนี้ฉันจัดรอบสองก็ยังรู้สึกว่าอร่อยเหมือนเดิม จะกินซ้ำจนกว่าจะเบื่อแล้วค่อยเปลี่ยนเมนู ตอนนี้ซี่โครงตุ๋นไวน์แดงยังครองใจฉันอยู่ แบบไม่มีใครล้มแชมป์ได้เลยอะ อร่อยแบบไร้เทียมทาน
ซูหลิน: @ลั่วลั่ว บรรยายดีมาก! ซี่โครงนี่คือราชาแห่งวงการอาหารเหิงเตี้ยนจริงๆ อร่อยยิ่งกว่าจานทองคำในร้าน "อี๋อิ่นโหลว" อีกนะพูดเลย
ถิงถิง: [รูปขนม] [รูปไก่] แต่ฉันว่าพรุ่งนี้ขอกลับไปกิน “ไก่ผัดเผ็ดเสฉวน” ต่อดีกว่า เนื้อไก่นุ่มชุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นเครื่องเทศกับซอสเผ็ดสูตรพิเศษ อร่อยแบบขึ้นสวรรค์เลยอะ! ส่วนซี่โครงไว้ค่อยกินหลังจากเลิกคิดถึงไก่ก็แล้วกัน
ลั่วลั่ว: @ถิงถิง ไก่ก็ยังแพ้ซี่โครงอยู่ดีนะ! ไก่น่ะมันแค่ “ตัวรอง” เท่านั้นแหละ พอวางขึ้นโต๊ะแล้วเทียบกับซี่โครงไม่ได้เลย สู้ทั้งรสชาติ เทคนิคการปรุง หน้าตาไม่ได้สักอย่าง ไก่คือไม่คู่ควรพูดถึงด้วยซ้ำ
เหมยเหมย: [รูปเต้าหู้] อย่าลืมเต้าหู้เยี่ยมยอดของฉันด้วยนะ ได้ยินไหม “เยี่ยมยอด” นะยะ! มีเมนูไหนจะเหนือกว่านี้อีก เต้าหู้นุ่มละลายในปาก ไส้กุ้งกับหมูสับสดหวานฉ่ำ ราดด้วยน้ำซอสกลมกล่อมหอมๆ คือต้องยอมหลีกทางให้เต้าหู้ขึ้นแท่นแชมป์อะพูดเลย
ลั่วลั่ว: @เหมยเหมย ถึงฉันจะเคยลองเต้าหู้ของเธอแล้วก็เถอะ แต่ขอโทษนะ มันก็แค่ “ตัวรอง” เหมือนกัน เทียบกับไก่น่ะพอไหว แต่จะขึ้นชั้น “ตัวแม่” แบบซี่โครงยังไม่ถึงอะ
เหมยเหมย: @ลั่วลั่ว ยังกล้าพูดอีกนะ! ตอนแรกตกลงกันจะแลกกันชิม สุดท้ายเธอกินของฉันหมดเกลี้ยงแบบไม่รู้ตัว! ฉันไม่ยอมอะ ต้องให้ชิมให้ครบทุกเมนูก่อนถึงจะตัดสินได้ เธอทำตารางแปะไว้เลยก็ได้ เดี๋ยวให้ทุกคนโหวตแบบยุติธรรม
หมิงเจ๋อ: ขอโทษนะครับ…ที่พวกคุณคุยกันนี่คือเคล็ดวิชาลับของสำนักไหนรึเปล่า? ข้าน้อยฟังไม่รู้เรื่องเลยสักนิด ขอคำอธิบายที…
ลั่วลั่ว: @หมิงเจ๋อ อ๋อๆ ที่เหิงเตี้ยนพึ่งเปิดร้านอาหารใหม่ชื่อ “ตระกูลถัง” มีแจกน้ำบ๊วยกับขนมดอกกุ้ยฮวาฟรี ขนมกุ้ยฮวยมีแค่ 30 คนแรกที่ได้กิน ใครมาช้าคืออด ตอนนี้คนที่ไม่ได้กินก็กำลังบ่นเสียดาย ส่วนคนที่กินแล้วก็กำลังถกกันว่าเมนูไหนคือ “เบอร์หนึ่ง” ของร้าน ตอนนี้คะแนนรวมเทใจให้ “ซี่โครงตุ๋นไวน์แดง” เป็นแชมป์ แต่บางคนที่ยังไม่ได้ชิมก็ไม่ยอมรับ ยังเชียร์เมนูที่ตัวเองกินอยู่ สรุปก็เป็นอย่างที่เห็นแหละจ้า
ตงจิน: ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอาหารจะเอามาถกกันแบบนี้ได้ด้วย มีทั้ง "ตัวแม่" ทั้ง "ตัวรอง" อีกต่างหาก พรุ่งนี้ฉันต้องไปลองเองซะแล้ว พวกเธอพูดกันขนาดนี้ ทำเอาฉันอยากรู้เลยล่ะ
ถิงถิง: @ตงจิน อาหารที่ ตระกูลถัง ไม่ใช่แค่อร่อยนะ ราคายังเป็นมิตรอีกต่างหาก รสชาติระดับนี้ เหมือนพวกเราได้ของดีจากเจ้าของร้านแบบไม่คิดเงินเลยก็ว่าได้ เชฟสาวเจ้าของร้านนี่คือขุมทรัพย์ที่หลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ต้องดูแลทะนุถนอมให้ดีๆ เลย จะได้มีของอร่อยกินไปนานๆ
เหมยเหมย: เห็นด้วย +1
ลั่วลั่ว: เห็นด้วย +10
ช่วงหัวค่ำร้าน ตระกูลถัง แม้จะไม่แน่นขนัดเหมือนช่วงเย็น แต่โต๊ะด้านนอกทั้ง 12 โต๊ะก็มีคนนั่งเต็มหมดแล้ว หลังจากยุ่งมาทั้งวัน ในที่สุด ถังเหยา กับ หยางอิง ก็ได้ออกมานั่งพักเหนื่อยที่ลานหน้าร้าน พอได้จิบชาดอกไม้ท่ามกลางลมเย็นๆ ก็รู้สึกผ่อนคลายจนลืมความเหนื่อยล้าไปชั่วขณะ
เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ปิดประตูรั้วหน้าร้าน เลยลุกขึ้นเดินออกไป ขณะที่เพื่อนสาวยังนั่งไขว่ห้างจิบชาอย่างสบายใจ กำลังจะเก็บเมนูเข้าร้าน ก็เหลือบไปเห็นคุณลุงคนหนึ่ง นั่งอยู่ริมฟุตบาทหน้าร้าน พอเดินกลับมาเพื่อจะล็อกประตูรั้ว ก็เห็นว่าคุณลุงยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ท่าทางแปลกประหลาดทำให้เธอเริ่มรู้สึกผิดสังเกต เพราะลุงนั่งหลังงอ มือกุมท้องไว้แน่นๆ ดูเหมือนคนที่กำลังเจ็บปวดอยู่…
ไม่ต้องเถียงกันจ้าสาวว เม้าท์มอยเวอร์!
เอาเป็นว่าอร่อยทุกเมนู บรรยายซะน้ำลายไหลเลยยยย
วันนี้มากับเพื่อนสนิทชื่อ “หยู่เยียน” ให้ช่วยถือกล้องให้ เธอจัดทรงผมนิดหน่อยก่อนจะเริ่มไลฟ์“สวัสดีทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่Meo Blog ทายสิว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนเอ่ย”หยู่เยียนรู้หน้าที่ดี รีบหมุนกล้องตามนิ้วของเธอที่ชี้ไปบริเวณรอบๆ“ถูกต้องค่า! ตอนนี้เราอยู่ที่เหิงเตี้ยน แฟนๆ เคยแนะนำมาว่าที่นี่มีร้านข้าวชื่อ ‘ตระกูลถัง’ อร่อยมาก วันนี้เลยตั้งใจจะมาลองให้ได้ และมาแชร์กับทุกคนด้วยนะคะ! ได้ข่าวว่าต้องต่อคิว ก็เลยรีบมาตั้งแต่เนิ่นๆ อ้าว มีคนมารอก่อนเราแล้ว!”ซินหยางเดินมาเจอคนยืนรอคิวอยู่แล้ว ทั้งที่ยังไม่ถึงห้าโมงเย็น ทำเอาเธอพูดเสียงเบาลงทันที เพราะรอบตัวก็เริ่มมีคนเยอะขึ้น“ไม่น่าเชื่อเลยทุกคน ยังไม่ห้าโมงแท้ๆ แต่มีคนมารอกินข้าวกันแล้วอะ”ระหว่างรอ คนในคิวก็พูดคุยกันเพลิน ส่วนใหญ่ก็พูดถึงร้านตระกูลถังนั่นแหละ“ผมค
ด้านหน้าร้าน ถังเหยาได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆ จึงเดินออกมาดู แล้วต้องแปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นเกาเหวินยืนอยู่ตรงนั้นเจ็ดโมงครึ่งเช้าเองนะ...มาถึงตั้งแต่เช้าแบบนี้ คิดจะมากินอาหารเช้าหรือยังไงกัน? ยังไม่ได้เริ่มทำอาหารเลยด้วยซ้ำ“สวัสดีครับคุณถัง ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าร้านเปิดขายอาหารเช้าตอนกี่โมงครับ?”“ขอโทษด้วยค่ะคุณเกา ร้านเราไม่ได้ขายอาหารเช้าค่ะ”เกาเหวินได้ยินแบบนั้น สีหน้าก็พลันดูผิดหวังขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ถังเหยารู้สึกแปลกใจเลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงเล่าเรื่องของกู้จื่ออวี้ให้เธอฟัง พร้อมหยิบใบวินิจฉัยสุขภาพเมื่อวานให้ดู เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่ดูสุขุมคนนั้น จะป่วยหนักขนาดนี้“จริงๆ ผมก็พยายามไปซื้อจากร้านอื่นให้แล้วนะครับ แต่เขากินไม่ได้เลย...ใครจะคิดว่าเมื่อวานเขาจะกินได้เยอะขนาดนั้น แถมตอนกลางคืนก็ยังหลับได้ดี ไม่กระสับกระส่ายเหมือนทุกที ผมเลยกะว่าจะมาซื้อให้ครบสามมื้อเลย แต่ไม่รู้ว่าร้านคุณไม่ได้ขายอาหารเช้า”
โต๊ะข้างๆ เป็นกลุ่มนักศึกษาผู้หญิงที่เพิ่งกินเสร็จ ต่างก็มองมาทางเขาแล้วกระซิบกระซาบกันเบาๆ“คนนั้นใช่กู้จื่ออวี่รึเปล่านะ ฉันดูจากข้างหลังก็ว่าใช่เลย”“มองด้านข้างก็เหมือนอยู่นะ คนที่นั่งข้างๆ ใช่ผู้จัดการเการึเปล่า?”“น่าจะใช่แน่เลย ทำยังไงดี อยากขอลายเซ็นจังเลย”เกาเหวินหยิบหมวกส่งให้กู้จื่ออวี่สวม จากนั้นหันไปมองข้างนอกที่เริ่มมีคนมาต่อคิว ถ้าลุกขึ้นตอนนี้มีหวังสร้างความวุ่นวายให้ร้านแน่ เขาเลยกระซิบกับผู้ใหญ่เบาๆ ผู้กำกับเฉินจึงลุกขึ้นพาสองคนเดินไปทางครัว “เสี่ยวเหยา หนูว่างไหม ลุงมีเรื่องอยากขอหน่อย”ถังเหยาเพิ่งทำข้าวผัดให้ลูกค้าเสร็จ ยังไม่มีออเดอร์ใหม่จึงว่างอยู่พอดี หันมาอีกทีก็เห็นผู้กำกับเฉินยืนอยู่พร้อมกับชายสองคนด้านหลัง คนหนึ่งใส่แว่น มองเธอแล้วยิ้มให้ด้วยท่าทีสุภาพ อีกคนสวมหมวกกับหน้ากาก พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นเธอก็แค่กะพริบตาแล้วพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงทักทายผู้กำกับเฉินมาขอเธอว่าอยากให้สองคนนี้ ไปรอนั่งที่ลานหลังบ้านสักพัก เพราะเหมือนจะมีแฟนคลับจำได้ ถ้าเดินออกไปตอนนี้เกรงว่าจะรบกวนลูกค้าคนอื่น ถังเหยามองไปข้างหลังครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้ตกลง เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยแล้วผู
เกาเหวินรู้สึกว่าบรรยากาศของร้านนี้พิเศษจริงๆ ตอนแรกเขายังกลัวว่ากู้จื่ออวี่จะถูกคนจับตามอง แต่ผิดคาด ทุกคนในร้านต่างก้มหน้าก้มตากินข้าว ไม่มีใครว่างคุยกันด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่มองซ้ายมองขวา เพราะข้างนอกยังมีคนรออยู่ พอกินเสร็จก็ลุกแล้วรีบไปเลยยิ่งไปกว่านั้น แต่ละโต๊ะยังจัดแบบมีระยะห่าง ไม่อึดอัดเหมือนร้านทั่วไป โต๊ะของพวกเขาอยู่ใต้ต้นเหมยตรงมุมลาน มีโคมกระดาษแขวนบนกิ่งไม้ดูสวยงาม จากมุมนี้มองเข้าไปด้านในคล้ายโรงเตี๊ยมย้อนยุคยังไงยังงั้นหยางอิงกับลุงหวังยกอาหารมาเสิร์ฟ พอเห็นเป็นโต๊ะของคนรู้จัก ก็ไม่ลืมกำชับด้วยน้ำเสียงคุ้นเคย “ลุงซ่งคะ ถังเหยาฝากมาบอกลุงทั้งสองว่าดื่มได้แค่ไหเดียวนะคะ ต้องดูแลสุขภาพไว้กินของอร่อยไปอีกนานๆ”“ได้สิ ได้แน่นอน ลุงสองคนแชร์กันแค่ไหเดียวพอ บอกเสี่ยวเหยาว่าไม่ต้องห่วงนะ”เกาเหวินถึงกับเหวอเมื่อเห็นหญิงสาวคนนั้นยิ้มสดใสเ หมือนพระอาทิตย์เดินมาอยู่ตรงหน้า เผลอมองตามจนเธอเดินลับตาไป พอได้กลิ่นหอมลอยมาเขาถึงดึงสายตากลับได้โต๊ะของพวกเขาสั่งกับข้าวมาอย่างละจาน โดยเฉพาะหมูตุ๋นตงพอสั่งไซส์ใหญ่สุด วันนี้เลือกกินแค่ข้าวผัดหยางโจวกับข้าวสวยร้อนๆ เพื่อให้เข้ากับหมูตุ๋น เ
ช่วงเวลานี้ที่กองถ่ายในเหิงเตี้ยนถือว่าเป็นช่วงที่วุ่นวายที่สุด ทุกคนต่างก็ขะมักเขม้นกับหน้าที่ของตัวเองเหิงเตี้ยนได้ชื่อว่าเป็นกองถ่ายที่ไม่เคยหลับใหล ไฟส่องสว่างอยู่ตลอดเวลาไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนผู้กำกับเฉินและผู้กำกับซ่ง ได้นัดกันไว้ว่าเย็นนี้หากเลิกงานเร็วแล้วจะแวะไปที่ “ร้านตระกูลถัง” ขอเพิ่มเหล้าสักไห เหล่าซ่งนั่งดูวิดีโอของนักแสดงที่เพิ่งถ่ายเสร็จ ตอนนี้ในบรรดากองถ่ายทั้งหมดที่เหิงเตี้ยน มีแค่สองโปรเจกต์ที่ได้รับการลงทุนสูงที่สุดเรื่องหนึ่งของเขา อีกเรื่องคือของผู้กำกับเฉินกำลังนั่งคิดอยู่ว่าจะถ่ายซ้ำฉากเมื่อกี้ดีไหม จู่ๆ ก็มีคนเดินเข้ามา “ผู้กำกับซ่งครับ ผมกลับมาแล้ว”เขามองไปทางผู้จัดการเกา สีหน้าอีกฝ่ายดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดูแล้วเหมือนเรื่องจะไม่ง่ายอย่างที่คิด “เป็นอะไรไป? แล้วไอ้หนูคนนั้นหายไปไหน?”“เขาไปแต่งหน้าแล้วครับ แต่เรื่องที่ผมจะเล่า...หนักกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลยครับ นักโภชนาการบอกว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้ ร่างกายจะทรุดหนักแน่นอน และพอถึงตอนนั้นอาจจะสายเกินไป เขาไม่ใช่แค่ไม่ยอมกิน แต่ยังไม่รู้สึกว่าควรกินด้วยซ้ำ วันนี้ทั้งวันถ้าผมไม่เตือน เขาคงลืมไปเลยว่าต้องกินข้าว
ความโดดเด่นที่สุดของจานนี้ ต้องยกให้กับฝีมือการปรุงรส และความสามารถในการควบคุมไฟของ ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำได้ง่ายๆ ต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์จริงถึงจะทำได้แบบนี้ จะใช้ไฟแรงตอนไหน ควรลดไฟหรือถอนฟืนเมื่อใด ทุกขั้นตอนล้วนต้องใช้ประสบการณ์ควบคุม เพื่อให้เนื้อหมูซึมซับน้ำซอสได้อย่างทั่วถึง โดยไม่เละ ไม่แห้ง และยังคงความสดฉ่ำของวัตถุดิบไว้อย่างสมบูรณ์แบบนี่เป็น หมูต้มตงพอ ที่อร่อยที่สุดที่เขาเคยกิน ยิ่งกว่าเมนูขึ้นชื่อของร้านดังเต๋ออี้จิ่วโหลว ที่เขาเคยหลงใหลเสียอีกที่นั่นแต่ละจานจะใช้หม้อดินขนาดเล็กเคี่ยวแยกกันทีละหม้อ ถึงจะได้รสชาติแบบนั้น แต่ที่ร้านตระกูลถังกลับเคี่ยวรวมหม้อใหญ่ แต่ยังคงความสวยงามและรสชาติระดับเทพเอาไว้ได้ทุกชิ้น ฝีมือเชฟสาวคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ทั้งเรื่องมีดและการควบคุมไฟ พรสวรรค์ชัดๆ!พอเที่ยงตรงนักแสดงตัวประกอบ รวมถึงพนักงานในกองถ่ายหลายคณะที่เพิ่งเลิกกอง พอมีเวลาปุ๊บก็รีบพุ่งไปที่ร้านตระกูลถัง หวังจะได้ลิ้มรสเมนูใหม่ที่ได้ยินข่าวลือมาว่ามีขายวันนี้ หมูต้มตงพอ สีสวยเคลือบน้ำซอสข้นๆ นั่นแหละ! เมนูในตำนานที่หลายคนรอคอย ยังไม่ทันจะได้กดสั่ง ก็เห็นข้อความที่ทำให้เข่าอ่อนหม