วันแล้ววันเล่าที่กานแวะมาหาพี่กรและท่านป้าทุกครั้งที่เธอมาเธอมักจะหอบหิ้วข้าวของมาฝากเสมอ.. ครั้งนี้เธอได้องุ่นเล็บมือนางสดๆหวานๆมาก และไหนจะมีลิ้นจี่จักรพรรดิ์ลูกโตๆสีสวยๆมาฝากอีกหนึ่งกระเช้าใหญ่.. เธอถามคุณยาแล้วว่าพี่กรอยู่บ้านไหมคุณยาบอกว่าพี่กรอยู่ดังนั้นเธอจึงรีบบึ่งรถมาหาทันที.....
" สวัสดีค่ะท่านป้า.. วันนี้มีของมาฝากด้วยนะคะ.. ดูนี่สิคะมีองุ่นและลิ้นจี่มาฝากด้วย.. ว่าแต่พี่กรยุ่งอยู่รึเปล่าคะหนูคิดถึ๊งคิดถึง..." พูดจบเธอก็ทำท่าหัวเราะแยะยักไหล่ของตัวเองขึ้นด้วยความตลก.. ก็คนมันคิดถึงนี่นา.. ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันมันก็ต้องคิดถึงกันบ้างสิ...
" อยู่ในห้องทำงานน่ะหนูกาน.. ถือมาอีกแล้วนะ..ดูสิมีแต่ลูกงามๆทั้งนั้น..."
" งามเหมือนท่านป้าค่ะ.. และหวานด้วย.. ถ้าอย่างนั้นหนูขอตัวเอาลิ้นจี่กับองุ่นไปฝากพี่กรก่อนนะคะ.. วันนี้อยู่ได้ไม่นานเพราะจะต้องเข้าโกดังด้วย...." เธอไม่ได้นำเข้าผลไม้อย่างเดียวนะ เธอยังนำเข้าเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้อีก.. ส่วนเครื่องสำอางค์เธอไม่กล้านำเข้าเพราะถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมามีคนร้องเรียนขึ้นมาเธอถูกฟ้องขึ้นมาล่ะก็.. ล้มละลายแน่นอน.. ดังนั้นเธอจึงเลือกนำเข้าพวกผลไม้ทั้งสด อบแห้ง แช่อิ่มและเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้พอ.. เพียงแค่นี้เธอก็มีเงินถุงเงินถังแล้วและยังเหลือแบ่งให้แม่ของเธออีก...
" ตามสบายๆ.. ถ้าอยากได้อะไรก็เรียกเด็กเอาละกันนะหนูกาน..."
"หนูอยากได้พี่กร.. หนูจะเรียกใครได้บ้างคะ.. ฮ่าๆๆ" พูดจบเธอก็ถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความเขินอาย.. เธอนี่นะปากเนี่ยเก็บไม่เคยอยู่เลย.. คิดอะไรก็พูดออกไปตลอด.. คนอื่นเขาก็รู้หมดน่ะสิว่าเธอน่ะคลั่งรักพี่กร.... อยู่ฝ่ายเดียว.. เฮ้อ.. พูดแล้วก็เศร้าเพราะจนป่านนี้แล้วพี่กรยังไม่ยอมรับรักเธอเลย.. เธอพูดกับพี่กรออกจะบ่อยว่าเธอรักพี่กร เธออยากจะแต่งงานกับพี่กร... แต่พี่กรนี่สิยังนิ่งเงียบทำตัวราวกับรูปปั้นเทพเจ้าหน้าหล่ออยู่ได้.. คอยดูเถอะถ้ายังขืนเล่นตัวไปอีกแบบนี้นะเธอจะ... เธอจะอะไรดี.. ไม่เอาๆเธอไม่กล้าพูดหรอกว่าเธอจะเลิกรักพี่กรเพราะเธอทำไม่ได้.. ไม่มีทางทำได้แน่นอน... ช่างมันเถอะไปดีกว่า...
" หึหึหึ.. เด็กคนนี้นี่.. ไปๆอย่าดื้อให้มากนักเดี๋ยวจะโดนคุณกรดุเอา..." เธอน่ะรักหนูกานราวกับเป็นลูกของตัวเองเลยก็ว่าได้.. แม่ของหนูกานน่ะคือเพื่อนสนิทของเธอเอง.. เอมอรกับเธอรู้จักกันมานานแล้วตั้งแต่สมัยยังสาวๆ เอมอรเคยช่วยเหลือเธอตอนที่เธอถูกเพื่อนต่างชั้นแกล้ง แต่เสียดายอยู่ๆเอมอรก็ต้องย้ายโรงเรียนไปอยู่ที่อื่นทำให้เธอทั้งสองคนจึงขาดการติดต่อจนมาวันหนึ่ง.. วันที่เอมอรมากับสามีนั่นคือพ่อของหนูกาตเธอจึงได้พบและคุยกับเอมอรอีกครั้งและหลังจากนั้นพวกเธอสองคนก็คุยกันมาตลอดจนพวกเธอทั้งสองคนตั้งท้องลูกสาวและด้วยความที่เธอนั่นรู้สึกถูกชะตากับหนูกานเธอจึงเผลอพูดออกไปว่าถ้าโตขึ้นไปจะให้หนูการกับคุณกรหมั้นและแต่งงานกัน.. ตอนนั้นเธอจำได้ว่าหนูกานพึ่งจะ10ขวบเองส่วนคุณกรก็น่าจะ15ปีได้.. และเมื่อคุณกรมีแฟนเรื่องนี้ก็ถูกพับเก็บลงไปทันที.. จนมาวันหนึ่งวันที่คุณกรลูกชายของเธอถูกหักอกเข้าให้.. คุณชายถึงกับทำเรื่องขอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศทันที.. และพอครบกำหนดกลับหนูกานก็กลับมาเรียกร้องสิทธิ์กับเรื่องที่เธอเคยพูดไปเมื่อครั้งที่ทั้งสองคนยังเด็ก.. เธอก็ดีใจนะที่จะได้หนูกานมาเป็นลูกสะใภ้.. แต่คุณกรนี่สิ.. ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจหนูกานเลยสักนิดเวลาหนูกานมาหาก็ชอบทำหน้าเบื่อโลกบ้าง ดุหรือบ่นหนูกานแรงๆบ้าง.. ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะร้องไห้ขี้หมูกโป้งไปแล้วและไม่มาเหยียบที่นี่อีก.. แต่สำหรับหนูกานคือไม่ใช่.. หนูกานเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายหนูปลายถือคติที่ว่า ผู้ชายด่าคือผู้ชายรัก แต่เธอไม่รู้หรอกว่าสำหรับคุณกรลูกชายเธอนั้นด่าคือด่า หรือว่าด่าคือรักกันแน่... เอาเป็นว่าเธอหวังว่าสักวันคุณกรจะเห็นใจหนูกานบ้าง....
ก๊อกๆๆๆ
" ขออนุญาตค่ะพี่กร... กานมีผลไม้มาฝากพี่กรค่ะ พี่กรทานเลยไหม?"
ธันยกานต์รีบบอกเจตจำนงของตัวเองทันทีเพราะถ้าเธอไม่บอกมีหวังพี่กรคงจะดุเธอแน่ๆ.. ดุกว่าน้องหมาก็คือพี่กรนี่แหละ.. ขยันดุเธอซะเหลือเกิน..
" มาทำไม? ว่างนักหรือยังไงกัน..."
ทินกรละสายตาจากเอกสารของเขาละมองมายัง ธันยกานต์ด้วยสายแต่ที่แสดงออกมาให้เห็นว่าเขานั้นรำคาญสาวเจ้ามากแค่ไหน.. ไม่รู้จะมาอะไรได้ทุกวี่ทุกวันงานการไม่รู้จักทำเลยรึงไงกัน....
" ไม่ว่างค่ะแต่มันคิดถึงพี่กรนี่นา... ทนคิดถึงไม่ไหวก็เลยรีบมาหาให้มันกระชุ่มกระชวยหัวใจจะได้มีแรงไปทำงานต่อยังไงล่ะคะ.. พี่กรไม่คิดถึงกานบ้างเหรอคะ? กานน่ะคิดถึ๊งคิดถึงพี่กร... วันไหนไม่ได้เห็นหน้าพี่กรนะ.. กานล่ะนอนไม่หลับเลยทีเดียว... ดีที่กานพอมีรูปพี่กรในมือถืออยู่บ้างมันเลยทำให้หายเหงาขึ้นมาบ้างเวลาที่กานไม่ได้เจอพี่กร..."
ทินกรถึงกับตกใจในสิ่งที่ได้ยินทันที... เด็กคนนั้นถึงกับมีรูปเขาเอาไว้ในมือถือเลยอย่างนั้นหรอ? ทำตัวเหมือนกับตัวเองเป็นโรคจิตยังไงยังงั้น...
ครืด.... ตึกตึกตึก...
"เอามือถือมา..."
"ไม่ให้ค่ะจ้างให้กานก็ไม่ให้หรอก..." ธันยกานต์รีบถอยหลังหนีพี่กรทันที.. ใครจะยอมให้กันเล่าไม่มีทางหรอก..
"เอามา..."
ธันยกานต์รีบวิ่งหนีทันทีเธอพยายามวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้..แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่ทันขายาวๆของพี่กร...
หมับ!!!
ทินกรรีบคว้าเอวของธันยกานต์เอาไว้พร้อมกับรีบใช้มือของเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋าหรูราคาแพงและควานหามือถือของธันยกานต์ทันที....
คริคริ...
ทินกรถึงกับต้องขมวดคิ้วทันทีเขาไม่เข้าใจว่าธันยกานต์ หัวเราะทำไม...
" แหม.. อยากกอดกานก็ไม่บอก.. แกล้งทำเป็นมาขึ้นเสียงและแกล้งหามือถือของกาน.. ขอดีๆก็ได้นี่คะไม่เห็นต้องสร้างเรื่องโกหกขึ้นมาเลย....." ธันยกานต์ถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ.. เธอรู้ว่าพี่กรน่ะหามือถือของเธอจริงๆคงจะอยากลบรูปของเขาแต่มีเหรอเธอจะยอมเธอต้องหาวิธีที่จะทำให้พี่กรล้มเลิกความคิดนั้นโดยการแอบอ้างว่าพี่กรต้องการกอดเธอยังไงล่ะ...
ทินกรถึงกับตกใจในสิ่งที่เขาทำและคำพูดที่ธันยกานต์พูดเมื่อเขาตั้งสติได้เขาก็รีบปล่อยเอวคอดและร่างที่สมส่วนของธันยกานต์ทันที....
"ลบออกซะ แล้วก็ออกไปได้แล้วน่ารำคาญ.. เธอรู้ไหมว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สุดแสนจะน่ารำคาญที่สุด... ออกไปได้แล้ว" ทินกรรีบกลบเกลื่อนความอายของเขาด้วยการไล่เด็กคนนั้นออกจากห้องของเขาทันที...
ฮ่าๆๆ
" ไปค่ะๆ ไปแล้ว.. ไม่ต้องเขินนะคะ.. กานไปแล้ว..ยังไงอย่าลืมทานแก้วมังกรด้วยนะคะหวานอร่อยมาก กานชิมมาแล้วตั้งหลายลูก ถ้าอยากทานลิ้นจี่ก็อยู่ด้านนอกนะคะกานไปแล้วนะคะอย่ามัวแต่คิดถึงอ้อมกอดเมื่อกี้ที่พี่กรมอบให้กานนะคะ.. ไปแล้วนะคะ คิดถึงพี่กรม๊ากมากนะคะ.." ธันยกานต์ส่งจูบให้กับพี่กรไปหนึ่งที.. เธอละชอบที่สุดตอนที่พี่กรทำตัวเขินแบบนี้.. น่ารักจะตายไป...
แกร๊ก.....
เมื่อประตูห้องทำงานปิดลงเขาถึงกับต้องถอนหายใจออกมาให้ความวุ่นวายที่ธันยกานต์พึ่งจะสร้างขึ้นมา.... เขาไม่เคยรำคาญใครมากๆเท่ากับธันยกานต์มาก่อนเลยก็ว่าได้....
ในที่สุดวันที่เขาจะได้เจอลูกแฝดของเขาแล้ว.. เขาทั้งตื่นเต้นและดีใจมากๆท่านแม่ท่านพ่อและพระญาติของท่านแม่ต่างพากันเห่อหลานตั้งแต่ยังไม่คลอดเลยก็ว่าได้.. ทุกพระองค์ต่างเสด็จมาเยี่ยมมาพูดคุยกับเขาและกานกันอย่างเป็นกันเอง.. และเมื่อถึงกำหนดคลอดทุกพระองค์ก็พากันมายืนรอที่หน้าห้องคลอด.. ท่านแม่เป็นคนเล่าให้ทางฝั่งพระญาติฟังว่าสะใภ้ของท่านน้ำคล่ำแตกแล้วและบอกว่าเขาได้พาไปที่โรงพยาบาลก่อนแล้ว.. หลังจากนั้นไม่นานพระญาติฝั่งท่านแม่ก็พากันมาเฝ้าธันยกานต์ที่นี่กันเต็มหน้าห้องคลอดเลย...เวลาที่ทุกคนรอคอยตอนนี้ก็มาถึงเมื่อประตูห้องคลอดเปิดออกมาทุกพระองค์ทุกท่านก็รีบกรูกันมายังรถเข็นอันเล็กๆที่มีร่างจ่ำม้ำของแฝดชายอยู่..กว่าเขาและลูกแฝดจะผ่านด่านไปได้ก็เล่นเอาเหนื่อยไปตามๆกัน..ภายในห้องพักตอนนี้ทุกพระองค์ต่างพากันพูดคุยส่งเสียงหัวเราะกันด้วยความสนุกสนานราวกับว่าวันนี้เป็นวันรวมญาติยังไงก็ไม่รู้.." เอาเป็นว่าเดี๋ยวถ้าสะใภ้หญิงศศิออกจากโรงพยาบาลเมื่อไรฉันจะไปเยี่ยมที่วังนะ..."" เพคะท่านพี่... " ท่านหญิงศศิวารีขานรับด้วยความยินดี.. ท่านพี่หญิงของเธอทรงกล่าวเอาไว้แล้วว่าไม่อยากจะรบกวนเด็กๆและหลานสะใ
เสียงโอ้กอากที่ดังออกมาจากห้องน้ำในคอนโดทำให้ทินกรถึงกับอยากจะแพ้ท้องแทนธันยกานต์ เขานึกสงสารน้องกานเหมือนกันนะ นี่ขนาดท้องไปได้สามเดือนแล้วแต่อาการแพ้ท้องมันยังไม่เบาบางลงเลยสักนิด แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะการแพ้ท้องของธันยกานต์ทำให้อย่างน้อยเขาได้อยู่กับธันยกานต์ได้ทั้งวันจนแทบจะนั่งสิงกันอยู่แล้ว..." กานครับ.. กลั่วปากหน่อยนะ แล้วอะดมซะ..." ทินกรเดินเข้าไปหาเมียตัวน้อยของเขาทันทีพร้อมกับอ้าแขน กว้างๆรอให้ธันยกานต์ได้เข้ามาซุกไซร้ที่ตามคอของเขา.. หึหึใช่ธันยกานต์แพ้ท้องแบบว่าติดกลิ่นของเขา ไม่เพียงแค่สูดดมนะจะมีบ้างที่เจ้าตัวเผลอดูดที่ลำคอของเขา.. เมื่อไรที่เจ้าตัวดูดที่คอของเขาเมื่อนั้น.. เพลงรักอันร้อนฉ่าของเขาและเธอก็เริ่มขึ้นทันทีโดยที่ไม่มีอะไรมาหยุดความต้องการของว่าที่คุณแม่ลูกแฝดได้นอกจากว่าเจ้าตัวจะพอใจและสุขสม.... เมื่อนั้นเจ้าตัวถึงจะอาการดีขึ้น.. ส่วนเขาน่ะเหรอก็ติดกลิ่นเมียนะ.. เวลาเขาไปไหนมาไหนเขาจะต้องมีกางเกงชั้นในของน้องกานติดไปด้วยเสมอ บางทีเขารู้สึกว่าเหมือนตัวเองจะอาเจียนเขาก็จะหยิบกางเกงชั้นในของน้องกานออกมาสูดดมราวกับคนโรคจิต.. แต่เขาก็ไม่ได้สนใจสักเท่าไรเพราะมันคือเ
ตอนนี้ทินกรและธันยกานต์ไม่ว่าจะไปแห่งหนตำบลไหนก็จะเห็นเขาและเธอไปไหนมาไหนด้วยกัน.. ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเธอและเขามันก็เริ่มดีขึ้นมาบ้างแล้ว.. ตอนนี้ทินกรสามารถจับมือและโอบไหล่ธันยกานต์ได้แล้วโดยที่เจ้าตัวไม่บ่นหรือปัดมือเขาหนี.. และที่สำคัญเขาจัดเต็มทุกคืนและเวลาที่เขาไปเฝ้าธันยกานต์ที่บริษัทเขาก็จะจับธันยกานต์กินนานนับชั่วโมงเพื่อเร่งน้ำเชื้อของเขาให้มันเดินเร็วขึ้น.. อาหารการกินและไหนจะเครื่องดื่มที่เขาจัดหามาให้อย่างเต็มที่เขาคิดว่าอีกไม่นานธันยกานต์ก็น่าจะท้อง...." อยากกินอะไร? พี่อยากกินหอยนางรมอ่ะ เราไปหาร้านที่หายหอยนางรมกินกันดีกว่าไหม แบบว่ายำหอยนางรม ร้านซีฟู้ดเป็นไง ไปกินกุ้งกัน กุ้งตัวโตๆ หอยนางรมตัวใหญ่ๆ.. ไปกัน.." ทินกรไม่รอให้กานได้ตอบตกลงหรือว่าตอบปฏิเสธเขาเลยสักนิดเขาเลือกที่จะจัดแจงทุกอย่างด้วยตัวเขาเองโดยการถามเองและตอบเอง.. แต่จะว่าไปอยู่ๆเขาก็อยากกินอาการทะเทขึ้นมา... สงสัยคงจะต้องหาเวลาว่างพากานไปเที่ยวทะเลไปหาอาหารทะเลสดๆกินกันดีกว่า...เมื่อทั้งสองคนมานั่งร้านอาหารที่ติดริมแม้น้ำเจ้าพระยาเพียงเดินเข้ามาทั้งสองคนก็ถึงกับน้ำลายแตกกันถ้วนหน้า.. ไม่รู้เพราะกลิ่
ทินกรรีบเดินกลับมาหาธันยกานต์อย่างรวดเร็ว สายตาของเขาและเธอต่างจ้องมองกันอย่างไม่มีใครคนใดคนนึงหลบหลีกสายตาอันร้อนแรงของกันและกัน..." พี่จะไม่ขอหรือถามกานแต่พี่จะทำในสิ่งที่พี่ต้องการ พี่เป็นของกาน และกานก็เป็นของพี่.. ต่อจากนี้ไปพี่จะเป็นของกานคนเดียวและกานก็จะเป็นของพี่แค่คนเดียว...." แล้วถ้าฉันไม่ต้องการละคะคุณจะทำยังไง..."หึหึหึ..." พี่ก็จะบังคับ.. เมื่อพี่ต้องการอะไรหรืออยากได้อะไร.. พี่ก็จะไม่รอช้าอีกต่อไป.. ฉะนั้นน้องกานเตรียมตัวได้เลยครับเพราะหลังจากวินาทีนี้พี่จะทำทุกวิถีทางให้กานนั้นมาเป็นของพี่.. ถึงแม้ว่าจะต้องใช้วิธีที่สกปรกพี่ก็จะทำ..."จุ๊บ...ทินกรจูบลงไปที่ริมฝีปากสีแดงสวยสดใสของธันยกานต์อย่างแผ่วเบา.. เขาค่อยๆแทะเล็มและกลืนกินริมฝีปากสวยสดของธันยกานต์อย่างตั้งอกตั้งใจ.. ฝ่ามือที่เรียวนิ่มตามประสาคนที่ไม่เคยต้องทำงานหนักค่อยๆลูบไล้และบีบนวดกระตุ้นให้ร่างกายสวยสมส่วนมีอารมณ์ไปกับเขา..ธันยกานต์แอ่นตามอารมณ์ที่เธอมีร่วมไปกับเขา... ทุกสัมผัสที่เขามอบให้มันความเคยชินที่เธอเคยได้รับมาจากเขา.. สัมผัสที่มันเบาหวิวราวกับขนนกที่พัดผ่านอย่างแผ่วเบาตามร่างของเธอ..ร่างกายเปล
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก... ตอนนี้เธอมาอยู่เป็นเพื่อนเขาได้สองอาทิตย์แล้ว.. ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับคนรักเก่าของเขาตอนนี้ท่านป้าดำเนินคดีจนถึงที่สุดในข้อหาพยายามฆ่า ถึงแม้ว่าทางนั้นจะปฏิเสธเพียงใดแต่คำพูดและการกระทำถูกบรรทึกเอาไว้จากทางร้านอาหารนั้นหมด.. มันจึงทำให้อดีตคนรักเก่าของเขาไม่สามารถหลุดพ้นข้อหานั้นได้.. ไม่เพียงแค่จะติดคุกแต่อดีตคนรักเก่าของเขาหรือคุณชายทินกรพยายามขอความช่วยเหลือจากคนที่หล่อนเคยอยู่ด้วยหลายปีแต่ผู้ชายคนนั้นกลับไม่ยอมยื่นมือลงมาช่วยเพราะคนที่หญิงสาวได้ไปทำร้ายนั้นเป็นถึงครอบครัวราชนิกุลใครบ้างจะไม่รู้จักท่านผู้หญิงศศิวารี และคุณชายพิรัตน์ ดังนั้นคนที่คอยสนับสนุนหญิงสาวมาตลอดจึงเลือกที่จะตัดหางปล่อยวัดและหุบกิจการร้านอาหารของเธอทันที.."เสียใจไหมคะคนรักเก่าของคุณถูกจับและไม่ได้ประกันตัว..." มือบางที่กำลังจัดแจงผลไม้ใส่จานอยู่แต่ปากก็ขยับเขยื้อนเอ่ยถามออกไปด้วยความใคร่รู้..." เอ.. ถามแบบนี้.. หึงรึเปล่าน๊า... หึหึ" ทินกรหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ.. ตั้งแต่ที่เขาเจ็บตัวธันยกานต์ก็คุยกับเขามากขึ้น..ถึงแม้ว่ามีบ้างที่เจ้าตัวเอ่ยคำประชดประชั
ธันยกานต์เดินไปเดินมาหน้าห้องผ่าตัดนานนับชั่วโมงจนเพื่อนสนิทของเธออย่างคุณยาต้องเดินมาหาและเอามือเรียวของเธอมาวางไว้ที่ไหล่เล็ก..." เราไปนั่งรอกันตรงนู้นดีกว่ากาน.. เดินไปเดินมายาปวดหัว.. อีกสักพักท่านแม่และท่านพ่อก็น่าจะมาแล้ว...." ทิติยากรรีบชักชวนเพื่อนของเธอให้ไปนั่งรอที่เก้าอี้ว่างหน้าห้องผ่าตัดทันที.. เธอน่ะปวดหัว ตาลายมากๆเลยจะบอกให้....เพียงแค่สองสาวก้นแตะถึงเก้าอี้ทีมแพทย์และพยาบาลก็เปิดประตูห้องออกมาด้วยสีหน้าอันเหนื่อยล้า....ตึกตึกตึก...." คุณหมอค่ะ.. พี่กรเป็นยังไงบ้างคะ?" ธันยกานต์เก็บความเป็นห่วงเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไปเธอต้องการที่จะรู้ว่าอาการของเขาหนักหรือไม่.. เธอจะดีใจมากถ้าคุณหมอบอกว่าเขาไม่เป็นอะไรมาก...." ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีครับ แต่ถึงอย่างนั้นก็คงจะต้องให้อยู่ในห้องปลอดเชื้อไปก่อนและรอให้ผ่านคืนนี้ไปก่อนนะครับถ้าทุกอย่างปกติดีพรุ่งนี้เราจะย้ายผู้ป่วยไปอยู่ในห้องพิเศษ.. ยังไงหมอขอตัวก่อนนะครับ...""ค่ะ..ขอบคุณนะคะ...." ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เธอเบาใจขึ้นมาได้แต่เธอก็ยังคงไม่หายกังวลอยู่ดี" เอานะพี่กรอยู่กับทีพยาบาลและหมออย่างใกล้ชิดแล้ว.. ยาว่าไม่น่าจะมีอะไรหน้าเ