เสียงโชร้งเชร้งเคล้งคล้างฟาดฟันของอาวุธกระทบกันดังเข้ามาในโสตประสาทของฟงลี่หลินทำเอาหญิงสาวยิ่งตื่นเต็มตา อา...ในที่สุด ในที่สุดก็มีวันนี้ วันที่สิ่งที่ได้แต่ฝึกซ้อมมาในสนามจำลองและเหตุการณ์จำลองตั้งแต่เล็กแต่น้อยก็จะได้ใช้ในชีวิตจริง เหตุการณ์จริงฟงลี่หลินคนนี้ได้เจอกับเหล่าศัตรูตัวจริง ได้ลงสนามฟาดฟันจริงๆ แล้ว อา...เมื่อคิดได้แล้วจึงลุกขึ้นยืนด้วยความลิงโลดก่อนจะพุ่งทะยานออกมาจากพุ่มไม้ตรงเข้าฟาดฟันกับพวกกลุ่มชายชุดดำอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าฟาดนางขอถือโอกาสแสดงฝีมือที่ได้แต่เก็บงำเอาไว้เนื่องจากถูกเก็บกดจากมารดาตลอดมา สตรีต้องปักผ้าหรือ ปักดาบกลางหน้าผากของศัตรูเป็นไรคิดได้แล้วก็ปักฉึกลงไปที่หน้าผากของชายชุดดำที่กำลังฟาดฟันตรงหน้าจนนัยน์ตาของมันเบิกถลนแล้วถอนดาบออกมาจนเลือดสาดกระเซ็น เย็บผ้าหรือ เย็บเจ้าสองคนนี้ให้ติดกันเป็นไรคิดได้แล้วก็เสียบดาบทะลุร่างของชายชุดดำสองคนเข้าด้วยกันก่อนจะยกเท้าถีบพวกมันให้กระเด็นออกไปเพื่อดึงดาบกลับมา เลือดสีแดงฉานไหลเยิ้มอาบไล้ดาบอย่างสวยงามดีดพิณหรือ เด็ดหัวเจ้าพวกนี้เป็นไรคิดได้แล้วก็กุดหัวของชายชุดดำตรงหน้าจนหัวของมันขาดกระเด็นไปเสียไกลแ
ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งแห่งจวนของชินอ๋องผู้ครองหัวเมืองแห่งแคว้น“ข้าจักส่งเจ้าไปเป็นองค์หญิงบรรณาการแคว้นเป่ยฉี”เสียงห้าวหาญของเฉินจิ้นเหอดังคำรามออกมาทางสองแม่ลูกที่บังอาจโกหกเขาเรื่องของฟงชินหยางทำให้เขาเกือบผิดใจกับฟงชินหยางและเกือบทำผิดกับแม่ทัพคู่ใจที่ร่วมรบกันมาหลายปีก่อนที่เขาจะมีเมียเสียอีก ทั้งนี้ยังเกือบจะทำให้เขาผิดต่อพี่สาวต่างมารดาของเขาที่เป็นมารดาของฟงชินหยางอีกด้วยหากว่าซินหรูมารดาของฟงชินหยางรู้เรื่องที่เขาหมายผูกมัดยัดเยียดบุตรสาวให้เพื่อแทรกกลางภรรยากับบุตรชายทั้งสองของฟงชินหยาง นางคงร่อนจดหมายตัดรอนตัดพี่ตัดน้องกับเขาเป็นแน่พี่สาวต่างมารดาของเขานางนี้เคยดูแลเขามาตั้งแต่เขายังเป็นองค์ชายตัวน้อยในยามที่มารดาของเขาตายจากและต้นตระกูลถูกฮ่องเต้พระองค์ก่อนโค่นล้ม หากเขาทำผิดต่อนางไม่อยากจะคิดเลยทีเดียว พี่ใหญ่ของเขาที่เป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบันก็คงไม่ยอมเช่นเดียวกัน“เดินทางกลับแคว้นเป่ยฉีพร้อมองค์ชายฉีเล่อไปเลย” เฉินจิ้นเหอยังคงคำรามมาทางจินเยว่ชิงที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่ในอ้อมกอดของซือจิน“ได้อย่างไรกัน ลูกของเราชมชอบแม่ทัพฟง อีกทั้งเรื่องภรรยาก็ไม่เป็นความจริง” ซือจิ
สองวันต่อมา....ภายในห้องรับรองส่วนตัวแห่งจวนของชินอ๋องพลันปรากฏบุรุษหนุ่มรูปงามรูปร่างสูงสง่าใบหน้าหล่อเหลาแต่เย็นชาตลอดเวลากำลังยืนหลังตรงตั้งสง่าด้วยท่วงท่าที่แสดงออกฉายชัดว่าไม่คิดจะยินยอมใดๆ จนเฉินจิ้นเหอนึกแปลกใจไยเขาไม่ยินดี? นี่คือบุตรีผู้งดงามของชินอ๋องผู้ยิ่งใหญ่เชียวหนาฉีเล่อเพียงหรี่ตาคมกริบมองสตรีงดงามในอาภรณ์สีแดงจัดจ้านประดับประดาด้วยเพชรพลอยมากมายจนเต็มเนื้อตัวใบหน้าแต่งแต้มฉูดฉาดคล้ายกับจะไปเล่นงิ้วกระนั้นสตรีนางนี้คือบรรณาการที่ชินอ๋องแห่งแคว้นเฉินคิดจะมอบให้เขาตามเงื่อนไขสัญญาสงบศึกอา...เขามิต้องดูงิ้วทุกวันทุกคืนหรอกหรือไรหากได้สตรีนางนี้ไปร่วมเรียงเคียงหมอน“ข้าย่อมเข้าใจในสัญญาสงบศึก” ฉีเล่อเริ่มเอ่ยคำ “หากแต่มีเงื่อนไขอื่นในการทำสัญญาหรือไม่” เขาเริ่มต่อรองเนื่องจากไม่อยากดูงิ้วในวังของตนเองตลอดชีวิตจินเยว่ชิงถึงกับเบิกตาถลนด้วยคาดไม่ถึงว่าสตรีงดงามที่สุดในใต้หล้าเช่นนางจะถูกปฏิเสธเยี่ยงนี้ นางจึงรีบเอ่ยก่อนที่บิดาจะเอ่ยอันใดก่อนหน้านาง “ข้าก็มิได้อยากเป็นสตรีบรรณาการให้ใครเช่นเดียวกัน หึ!”ฉีเล่อได้ยินพลันหูผึ่ง เขาจึงรีบนิ่งเสีย ก่อนที่สตรีนางนี้จักเปลี่
ยามราตรีกาลอันมืดมิด สายลมหนาวเหน็บพัดโชยกรีดอากาศเข้าบาดผิวขาวนวลเนียน ทำให้สองข้างแก้มแห้งตึงหลิงเวย อยู่ในอาภรณ์สีดำสนิท กำลังเดินอย่างกล้าๆ กลัวๆ ตามริมระเบียงนอกห้องที่เป็นมุมอับและมืดมิดของโรงเตี๊ยมอี้ฉางสถานที่แห่งนี้อยู่ในตัวเมืองของเขตแดนแคว้นเฉิน ที่ปกครองโดยฮ่องเต้เฉินหยางหมิงเซียน นางแอบย่องเข้ามายังที่แห่งนี้ได้อย่างง่ายดายมิรู้ได้ว่าทำไมโรงเตี๊ยมแห่งนี้ถึงไม่รัดกุมเอาเสียเลยจนสตรีไร้ฝีมือเช่นนางยังสามารถแอบเข้ามาได้โดยง่ายหลิงเวยคิดว่าจะแอบเข้ามาพักเพื่อเอาแรงเสียหน่อย ในเวลานี้นางกำลังรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน เรี่ยวแรงที่ใช้เดินทางเริ่มถดถอย หากจะเข้าพักที่โรงเตี๊ยมแบบโจ่งแจ้ง อาจจะนำมาซึ่งการตามตัวนางให้กลับไป เช่นนั้นแล้วก็มีแต่จะคงต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น ในตัวเมืองแห่งนี้โรงเตี๊ยมมีมากมายจนนับไม่ถ้วน ห้องพักย่อมมีมากมายเช่นเดียวกัน มันจึงมิใช่การยากอันใดหากนางจะแอบเข้าไปแล้วแอบเข้าพักห้องใดสักห้องหนึ่ง หากมีคนมาเจอแล้วจับได้ว่านางแอบเข้ามานางเพียงแค่จ่ายเงินไป หากแต่การเข้ามาแบบเปิดเผยอาจจะนำมาซึ่งการถูกถามหาจากคนที่อาจจะแอบตามนางมา ไม่แน่ว่าบิดาของนางอาจจ
บุรุษหนุ่มรูปร่างใหญ่กำยำเรือนกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามในอาภรณ์สีน้ำตาลเข้มเขากำลังเดินเข้ามายังห้องพักห้องหนึ่งภายในโรงเตี๊ยมอี้ฉางขาประจำอย่างใจเย็น ห้องพักห้องนี้เป็นห้องที่เขามักจะมาพักเป็นประจำหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจศึกรบอันหนักหน่วงแล้วเดินทางเข้ามายังเมืองหลวงของแคว้นเฉินเพื่อมารายงานตัวในเมืองหลวงถึงผลงานของตน ห้องพักของโรงเตี๊ยมแห่งนี้เป็นที่ทราบดีว่าถูกจองเอาไว้เพียงเขาและไม่ให้ใครได้เข้ามา เขาจึงเดินเข้ามาด้วยตนเอง หาได้ต้องมีหลงจู๊นำทางให้ไม่ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลากร้าวแกร่งเจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่เกินกว่ามาตรฐานกอปรด้วยไหล่กว้างแผ่นหลังตั้งตรงแลดูงามสง่าทุกสัดส่วนได้รูปสมบูรณ์แบบในอาภรณ์สีน้ำตาลเข้มนามว่า ฟงชินหยาง เขากำลังเดินเข้ามายังห้องพักของโรงเตี๊ยมขาประจำที่อยู่ทางด้านในสุดลึกสุดจากหลายๆ ห้องถัดออกมาจากบริเวณด้านหน้าของโรงเตี๊ยมอี้ฉาง เขาเดินเข้ามาโดยยังไม่สนใจที่จะเดินไปยังเตียงนอนเพื่อหลับใหลแต่อย่างใด เขาเดินทางมาไกลคงต้องอาบน้ำชำระร่างกายเสียหน่อยชายหนุ่มเดินเข้ามาภายในห้องได้เพียงครู่ เขาเริ่มได้กลิ่นเครื่องหอมภายในห้องพักคล้ายกับว่ามันแปลกไปแต่ก็หอมดี.
หลิงเวยที่กำลังหลับใหลอยู่เริ่มสะลึมสะลือปรือตาขึ้นมาด้วยกำลังรู้สึกร้อนแบบแปลกๆก่อนหลับไปนางจำได้ว่าอากาศช่างหนาวเย็น แต่เหตุใดยามนี้ช่างร้อนยิ่งนัก ผ้าห่มที่ควรให้ความอบอุ่นเมื่อร่างกายเหน็บหนาวกลับเกะกะหนาหนักจนนางต้องผลักออกไปอืม...ร้อน...หลิงเวยเริ่มเอื้อมมือขึ้นปัดป่ายไปมาเบาๆ ตามใบหน้าตามเนื้อตัว นางลูบคลำเลื่อนไล้ไปตามลำตัวของตนเองอย่างเหม่อลอยด้วยอารมณ์บางอย่างที่ไม่คุ้ยเคยนางไม่เคยรู้สึกร้อนแบบแปลกๆ เช่นนี้มาก่อนมันคืออันใด?ในขณะที่หญิงสาวกำลังจะสรรหาคำตอบให้กับคำถามบางเบาภายใต้จิตสำนักอันน้อยนิดของตน นางเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นเรื่อยๆ ร้อนจนต้องพยายามปลดเปลื้องอาภรณ์ที่ห่อหุ้มร่างกายของตนเองให้ออกไป เพื่อที่ว่ามันจะสามารถคลายความร้อนแบบแปลกๆ นี้ให้เจือจางลงได้นางเคลื่อนฝ่ามือน้อยๆ ลงต่ำมาที่ผ้าผูกเอวแล้วปลดมันออกในขณะที่นัยน์ตายังคงครึ่งหลับครึ่งตื่นมองไม่เห็นสิ่งใด นางเปิดสาบเสื้อของตนออกเพียงนิดเพื่อคลายความร้อนนางมั่นใจว่าเปิดเผยอสาบเสื้อของตนเองแค่เพียงเล็กน้อยก็เท่านั้นแต่ทว่าทำไมถึงได้คล้ายกับว่ามันถูกเปิดออกกว้างมากกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งยังคล้ายกับถูกกระชากให้ออกไ
ภายในห้องพักห้องหนึ่งของโรงเตี๊ยมอี้ฉางแห่งนี้กำลังมีหญิงสาวนางหนึ่งในอาภรณ์สีฟ้าครามนั่งอยู่ตรงโต๊ะกลมมุมห้องด้วยลักษณะท่าทางคล้ายใจร้อนคล้ายใจเย็นสลับไปมา โดยมีสตรีอีกนางหนึ่งในอาภรณ์สีม่วงเข้มนั่งจิบชาอยู่ตรงตั่งนั่งข้ามกัน“ใจเย็นเถิด อวี้ถิง จะอย่างไรเสียคืนนี้ก็เป็นคืนของเจ้า”เถ้าแก้เนี๊ยของโรงเตี๊ยมนามว่าเหมยลี่นั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์พลางเอื้อนเอ่ยคำส่งตรงไปยังสตรีในอาภรณ์สีฟ้านามว่าอวี้ถิง“หึ! ข้าย่อมใจเย็น” อวี้ถิงเอ่ยขึ้น “ข้าจะรอจนกว่าเครื่องหอมทั้งภายในห้องและในอ่างอาบน้ำออกฤทธิ์อย่างเข้มข้น”“ดียิ่ง” เหมยลี่ยกยิ้มมุมปากเอ่ยตอบ “โดยเฉพาะถุงเครื่องหอมใต้หมอนนะอันนั้นยิ่งเข้มข้นยิ่งนัก หากเจ้าใจร้อนด่วนได้เข้าไปในห้องนั้นก่อนที่ท่านแม่ทัพจะล้มตัวลงนอนให้ถุงหอมใต้หมอนได้ทำงาน ดีไม่ดี ฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดยังไม่ทันได้ออกฤทธิ์ ท่านแม่ทัพฟงเห็นใบหน้าเจ้าเข้าคงถีบเจ้ากระเด็นออกมาจากห้อง”อวี้ถิงได้ยินพลันถลึงตาจิกกัดเหมยลี่หญิงสาวในอาภรณ์สีม่วงเข้มยิ่งยกยิ้มชอบใจแล้วเอ่ยต่อ“แต่หากเจ้ารอจนยาสำแดงฤทธิ์เดชเต็มที่แล้วเข้าไปปรากฏกายต่อหน้าท่านแม่ทัพฟง ขี้คร้านท่านแม่ทัพจะจับกระชาก
ภายนอกห้องพักด้านในสุดของโรงเตี๊ยมอี้ฉางเหมยลี่กำลังทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมโดยการพาพยานมายังห้องพักห้องนี้ตามที่ได้นัดหมายกับอวี้ถิงเอาไว้นางช่างโชคดีเหลือเกินที่บังเอิญเจอเข้ากับกลุ่มคนของท่านใต้เท้าหลิง พวกเขาทำท่าทางคล้ายกับตามหาคนอยู่ มิรู้ได้ว่ากำลังตามหาใคร แต่เรื่องนั้นช่างมันเถิด นางเพียงอยากได้พยานให้อวี้ถิงเท่านั้น กลุ่มคนพวกนี้มีจำนวนพอเหมาะที่จะกดดันบุรุษให้รับผิดชอบได้แล้วเหมยลี่คิดอย่างปลื้มปริ่มพลางเดินนวยนาดนำทางกลุ่มผู้คน“พวกเราต้องขอขอบคุณแม่นางที่ให้ความร่วมมือ” เสียงหนึ่งบุรุษท่าทางขึงขังเอ่ยขึ้นมาทางเหมยลี่ เขาเป็นหัวหน้าทหารยามประจำจวนของเสนาบดีกรมคลังได้รับมอบหมายจากใต้เท้าหลิงอี้ถังให้ออกมาตามหาคุณหนูหลิงเวย“มิเป็นไรเลยเจ้าค่ะ” เหมยลี่กล่าวพลางโบกไม้โบกมืออมยิ้มพริ้มเพรา“หากไม่เจอคนที่ตามหาก็อย่าว่ากันเท่านั้นก็พอเจ้าค่ะ”“มิกล้า มิกล้า” ชายผู้นั้นส่งยิ้มเล็กน้อยตอบกลับ“เชิญเจ้าค่ะ ตามข้าน้อยมาเถิด” เหมยลี่ชี้ชวนอย่างชดช้อยมาตามทางเดินของโรงเตี๊ยมอี้ฉางพาเอาเหล่าบุรุษประมาณห้าคนให้เดินตามนางมาอย่างสามัคคีเวลาเพียงครู่เหมยลี่จึงมาถึงห้องพักเป้าหมาย นาง
สองวันต่อมา....ภายในห้องรับรองส่วนตัวแห่งจวนของชินอ๋องพลันปรากฏบุรุษหนุ่มรูปงามรูปร่างสูงสง่าใบหน้าหล่อเหลาแต่เย็นชาตลอดเวลากำลังยืนหลังตรงตั้งสง่าด้วยท่วงท่าที่แสดงออกฉายชัดว่าไม่คิดจะยินยอมใดๆ จนเฉินจิ้นเหอนึกแปลกใจไยเขาไม่ยินดี? นี่คือบุตรีผู้งดงามของชินอ๋องผู้ยิ่งใหญ่เชียวหนาฉีเล่อเพียงหรี่ตาคมกริบมองสตรีงดงามในอาภรณ์สีแดงจัดจ้านประดับประดาด้วยเพชรพลอยมากมายจนเต็มเนื้อตัวใบหน้าแต่งแต้มฉูดฉาดคล้ายกับจะไปเล่นงิ้วกระนั้นสตรีนางนี้คือบรรณาการที่ชินอ๋องแห่งแคว้นเฉินคิดจะมอบให้เขาตามเงื่อนไขสัญญาสงบศึกอา...เขามิต้องดูงิ้วทุกวันทุกคืนหรอกหรือไรหากได้สตรีนางนี้ไปร่วมเรียงเคียงหมอน“ข้าย่อมเข้าใจในสัญญาสงบศึก” ฉีเล่อเริ่มเอ่ยคำ “หากแต่มีเงื่อนไขอื่นในการทำสัญญาหรือไม่” เขาเริ่มต่อรองเนื่องจากไม่อยากดูงิ้วในวังของตนเองตลอดชีวิตจินเยว่ชิงถึงกับเบิกตาถลนด้วยคาดไม่ถึงว่าสตรีงดงามที่สุดในใต้หล้าเช่นนางจะถูกปฏิเสธเยี่ยงนี้ นางจึงรีบเอ่ยก่อนที่บิดาจะเอ่ยอันใดก่อนหน้านาง “ข้าก็มิได้อยากเป็นสตรีบรรณาการให้ใครเช่นเดียวกัน หึ!”ฉีเล่อได้ยินพลันหูผึ่ง เขาจึงรีบนิ่งเสีย ก่อนที่สตรีนางนี้จักเปลี่
ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งแห่งจวนของชินอ๋องผู้ครองหัวเมืองแห่งแคว้น“ข้าจักส่งเจ้าไปเป็นองค์หญิงบรรณาการแคว้นเป่ยฉี”เสียงห้าวหาญของเฉินจิ้นเหอดังคำรามออกมาทางสองแม่ลูกที่บังอาจโกหกเขาเรื่องของฟงชินหยางทำให้เขาเกือบผิดใจกับฟงชินหยางและเกือบทำผิดกับแม่ทัพคู่ใจที่ร่วมรบกันมาหลายปีก่อนที่เขาจะมีเมียเสียอีก ทั้งนี้ยังเกือบจะทำให้เขาผิดต่อพี่สาวต่างมารดาของเขาที่เป็นมารดาของฟงชินหยางอีกด้วยหากว่าซินหรูมารดาของฟงชินหยางรู้เรื่องที่เขาหมายผูกมัดยัดเยียดบุตรสาวให้เพื่อแทรกกลางภรรยากับบุตรชายทั้งสองของฟงชินหยาง นางคงร่อนจดหมายตัดรอนตัดพี่ตัดน้องกับเขาเป็นแน่พี่สาวต่างมารดาของเขานางนี้เคยดูแลเขามาตั้งแต่เขายังเป็นองค์ชายตัวน้อยในยามที่มารดาของเขาตายจากและต้นตระกูลถูกฮ่องเต้พระองค์ก่อนโค่นล้ม หากเขาทำผิดต่อนางไม่อยากจะคิดเลยทีเดียว พี่ใหญ่ของเขาที่เป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบันก็คงไม่ยอมเช่นเดียวกัน“เดินทางกลับแคว้นเป่ยฉีพร้อมองค์ชายฉีเล่อไปเลย” เฉินจิ้นเหอยังคงคำรามมาทางจินเยว่ชิงที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่ในอ้อมกอดของซือจิน“ได้อย่างไรกัน ลูกของเราชมชอบแม่ทัพฟง อีกทั้งเรื่องภรรยาก็ไม่เป็นความจริง” ซือจิ
เสียงโชร้งเชร้งเคล้งคล้างฟาดฟันของอาวุธกระทบกันดังเข้ามาในโสตประสาทของฟงลี่หลินทำเอาหญิงสาวยิ่งตื่นเต็มตา อา...ในที่สุด ในที่สุดก็มีวันนี้ วันที่สิ่งที่ได้แต่ฝึกซ้อมมาในสนามจำลองและเหตุการณ์จำลองตั้งแต่เล็กแต่น้อยก็จะได้ใช้ในชีวิตจริง เหตุการณ์จริงฟงลี่หลินคนนี้ได้เจอกับเหล่าศัตรูตัวจริง ได้ลงสนามฟาดฟันจริงๆ แล้ว อา...เมื่อคิดได้แล้วจึงลุกขึ้นยืนด้วยความลิงโลดก่อนจะพุ่งทะยานออกมาจากพุ่มไม้ตรงเข้าฟาดฟันกับพวกกลุ่มชายชุดดำอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าฟาดนางขอถือโอกาสแสดงฝีมือที่ได้แต่เก็บงำเอาไว้เนื่องจากถูกเก็บกดจากมารดาตลอดมา สตรีต้องปักผ้าหรือ ปักดาบกลางหน้าผากของศัตรูเป็นไรคิดได้แล้วก็ปักฉึกลงไปที่หน้าผากของชายชุดดำที่กำลังฟาดฟันตรงหน้าจนนัยน์ตาของมันเบิกถลนแล้วถอนดาบออกมาจนเลือดสาดกระเซ็น เย็บผ้าหรือ เย็บเจ้าสองคนนี้ให้ติดกันเป็นไรคิดได้แล้วก็เสียบดาบทะลุร่างของชายชุดดำสองคนเข้าด้วยกันก่อนจะยกเท้าถีบพวกมันให้กระเด็นออกไปเพื่อดึงดาบกลับมา เลือดสีแดงฉานไหลเยิ้มอาบไล้ดาบอย่างสวยงามดีดพิณหรือ เด็ดหัวเจ้าพวกนี้เป็นไรคิดได้แล้วก็กุดหัวของชายชุดดำตรงหน้าจนหัวของมันขาดกระเด็นไปเสียไกลแ
หลายวันกับการท่องเที่ยวในเมืองที่ไม่สุนทรีสักเท่าไหร่ หากแต่ใครบางคนกลับไม่ยินยอมกลับบ้านกลับเมืองของตนเองไป ทั้งยังหาเรื่องเที่ยวไปเรื่อยๆ ยังสถานที่ในป่าใหญ่เสียอย่างนั้นภายในป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ห่างออกมาจากตัวเมืองและหมู่บ้านหลายลี้ ภายในป่าแห่งนี้ให้ความชดชื่นร่มรื่นร่มเย็นพาจิตใจรื่นเริงเพลิดเพลินเบิกบานเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากใบหน้างดงามโฉบเฉี่ยวของใครบางคน มิรู้ได้ว่าแอบมีใจให้กับดินฟ้าอากาศแถวนี้หรืออย่างไร ไยยิ้มแย้มอารมณ์ดียิ่งนัก!หากนางจักยิ้มให้กับบุรุษข้างกายแบบนั้นบ้าง เขาคงจะไม่นึกขัดเคืองอันใดมากมายเลยครานี้เป็นฉีเล่อบ้างที่ครางฮึมฮัมฮึดฮัดอยู่ในอกเมื่อสตรีประหลาดข้างกายไม่สนใจเขาเลยสักนิด นางเอาแต่ชื่นชมธรรมชาติรอบด้าน สนใจนกสนใจต้นไม้สนใจกระต่ายป่าสนใจสัตว์เล็กสัตว์น้อยตลอดเส้นทางที่เดินชมเคียงข้างมาด้วยกันทันใดนั้นประสาทสัมผัสอันรวดเร็วของฉีเล่อพลันได้ยินเสียงสวบๆ สาบๆ เบาๆ อยู่ไกลๆอึดใจพลันมีเสียงซวบแหวกอากาศมาอย่างเร็วชายหนุ่มหมุนตัวหลบลูกธนูที่พุ่งมาอย่างเร็วที่ส่งตรงมาทางตัวเขาได้ทันท่วงทีแต่ทว่าลูกธนูมิได้มีแค่เพียงหนึ่งแต่กลับมีอีกลูกหนึ่งที่พลาดเป้
ริมศาลาขนาดเก้าเสากลางบึงสระบัวขนาดใหญ่ภายในจวนแห่งชินอ๋องผู้ครองหัวเมืองหลักของแคว้นเฉินชินอ๋องยังคงอารมณ์ดีมองฟงชินหยางอย่างนึกชมชอบในตัวบุรุษตรงหน้าไม่สร่างซา หากได้เขาคนนี้มาเป็นบุตรเขยเขาคงนอนตายตาหลับเป็นแน่แท้เสียงเพลงพิณยังคงแว่วดังพาทำนองน่าฟังขับกล่อมทุกผู้คนให้ถูกครอบงำด้วยสำเนียงเสียงแว่วหวานกังวานใสเคล้าคลอไปกับอากาศในยามสายของวันสบายๆ ผสมผสานสายลมเอื่อยเฉื่อยที่โลมไล้รอบเรือนกายของบุคคลทั้งหมดที่กำลังยืนอยู่ทางด้านนอกของศาลาอันใหญ่โตโอ่อ่า จู่ๆ เสียงทุ้มห้าวของบุรุษร่างใหญ่กำยำพลันดังทำลายบรรยากาศอันดีงามเสียสิ้น“กระหม่อมมีภรรยาอยู่แล้วนะพ่ะย่ะค่ะ”“...”เสียงนั้นเป็นเสียงของฟงชินหยาง เขาเลือกที่จะเอ่ยกับชินอ๋องตามตรงว่าเขามีภรรยาแล้ว เมื่อในวันนี้ชินอ๋องเองก็เลือกที่จะเอ่ยกับเขาตามตรงเช่นเดียวกัน เขาสังเกตได้ตลอดมาว่าธิดาของชินอ๋องชมชอบเขา หากแต่เขาไม่อาจปฏิเสธออกมาตามตรงได้แต่อย่างใด เนื่องจากจินเยว่ชิงและพระชายาเพียงทำท่าทางก้ำกึ่งตามแบบฉบับสตรีสูงศักดิ์มิได้เปิดเผยความนัยแบบตรงไปตรงมา เขาจึงทำได้แค่เพียงรอเวลานี้เพื่อที่จะให้ชินอ๋องได้ตัดสินใจเอ่ยกับเขาออกมา เขาจ
ในวันนี้ชินอ๋องเฉินจิ้นเหอส่งคนมาเชิญฟงชินหยางให้ไปร่วมดื่มน้ำชาเสวนาพาทีพร้อมเดินหมากล้อมกันตามปกติวิสัย ฟงชินหยางจึงเดินทางไปยังจวนของชินอ๋องในยามสายของวันโดยพาทหารหญิงคนสนิทข้างกายไปด้วยกันตามติดด้วยทหารหน้าบากนายหนึ่งตามไปด้วยอย่างมึนๆบุรุษร่างหนาใบหน้ามีแผลเป็นลากยาวหนวดเครารุงรังผู้นี้ยังคงทำหน้าที่อันหลากหลายได้ดีในทุกๆ วันไม่ว่าจะเป็นองครักษ์พิทักษ์พี่สะใภ้ เป็นหน่วยข่าวกรองไม่เปิดเผยตัวตนให้พี่ใหญ่ ทั้งยังเป็นหน่วยกล้าตายในสังกัดค่ายทหารได้อย่างแนบเนียน หลิงเวยและฟงจินหมิงเดินขนาบข้างมากับฟงชินหยางจนกระทั่งเข้ามายังภายในจวนก่อนจะถูกเชื้อเชิญจากข้ารับใช้ภายในจวนให้เดินตามไปยังทิศทางที่ข้ารับใช้บอกกล่าวว่าชินอ๋องทรงนั่งประทับรออยู่แล้วเป็นนานภายในศาลากลางสระบัวเพียงไม่นานบุคคลทั้งหมดจึงเดินมาถึงศาลาหลังใหญ่ขนาดเก้าเสาหลังหนึ่งตั้งอยู่กลางบึงสระบัวขนาดกว้างขวางเมื่อฟงชินหยางเดินมาจนถึงศาลานั้น เสียงเพลงพิณแว่วหวานส่งสำเนียงทำนองเสียงใสพลันดังกังวานอยู่ภายในศาลาฟงชินหยางถึงกับชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดิน หลิงเวยและฟงจินหมิงเองก็ไม่ต่างกัน ทั้งหมดพากันชะงักงันยืนตรึงอยู่กับท
“อันใดหรือเจ้าคะ” จินฮวาเอ่ยถามทหารหญิงคนสนิทของท่านแม่ทัพฟงในทันทีเมื่อมองเห็นผ้าปักงดงามล้ำค่ามากมายตรงหน้า “สำหรับลูกน้อยของเจ้าที่กำลังจะเกิดมา หวังว่าเจ้าคงไม่รังเกียจ” หลิงเวยบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานจริงใจ“เอ่อ...มันงดงามมากเลยเจ้าค่ะ ไม่ธรรมดาเลย บุตรของข้ามิอาจเอื้อมเจ้าค่ะ” จินฮวาเอ่ยอย่างเกรงใจ ทุกวันนี้ท่านแม่ทัพฟงก็ดูแลพวกเราสองสามีภรรยาเป็นอย่างดีมากแล้ว“ข้ามีเยอะทีเดียว เจ้าอย่าได้เกรงใจ” หลิงเวยยังคงตั้งใจจริงจังในการขอโทษสตรีตั้งครรภ์ตรงหน้าจึงไม่คิดจะยินยอมให้จินฮวาปฏิเสธ “หากเจ้าไม่รับข้าเกรงว่าท่านแม่ทัพคงไม่พอใจ”“อา...เจ้าค่ะ” จินฮวายิ้มจนตาหยีรีบรับผ้าปักทั้งหมดเอาไว้ นางยอมรับว่าชมชอบอยู่ไม่น้อย ฝีมือปักผ้านี้ นางนั่งทำสิบปียังเทียบไม่ได้ “ผ้าปักพวกนี้ใส่ได้ทั้งบุตรสาวและบุตรชาย ไม่ว่าเจ้าจะได้บุตรเป็นชายหรือหญิงย่อมใช้ได้ทั้งหมด” “ขอบคุณแม่นางมากๆ เจ้าค่ะ ขอบคุณจริงๆ”สองสาวเพียงส่งยิ้มให้กันพร้อมเสียงหัวเราะสดใสดังกังวานคุยกันถูกปากถูกคอในเรื่องบุตรที่จะมีในไม่ช้าทำเอาในเวลาต่อมาเป็นฝ่ายบุรุษบ้างที่ต้องกลับกลายเป็นฝ่ายรอให้ฝ่ายสตรีเสวนาพาทีกันจนพอใจ
หลิงเวยสังเกตเห็นอาการตื่นเต้นนั้นของฟงชินหยาง นางจึงเริ่มขมวดคิ้วพันมุ่นเริ่มขัดเคืองฉับพลัน แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยถามคำใด สตรีตั้งครรภ์นางหนึ่งก็เดินนวยนาดเข้ามายังห้องโถงแห่งนี้“ท่านแม่ทัพฟง” เสียงอ่อนหวานของสตรีตั้งครรภ์ดังขึ้นทำให้หลิงเวยยิ่งเพิ่มระดับความขุ่นเคืองมองค้อนฟงชินหยางขวับๆฟงชินหยางเห็นหลิงเวยส่งสายตาสวยหวานพิฆาตมองมาจึงได้แต่เสียวสันหลังวาบๆ อย่างไม่เข้าใจอันใด ไยรู้สึกหนาว!จินฮวาผู้ไม่เข้าใจอันใดในบรรยากาศแปลกประหลาดจึงพาท้องกลมๆ ของตนเองมานั่งยังเก้าอี้บนโต๊ะอาหารตามวิสัยที่เคยกระทำมาเนื่องด้วยว่าท่านแม่ทัพฟงอนุญาตให้นางเป็นกรณีพิเศษ หลิงเวยเห็นสตรีตั้งครรภ์นางนี้ลงนั่งที่โต๊ะอาหารกับฟงชินหยางอย่างนั้นยิ่งเพิ่มระดับความโกรธกรุ่นจึงเอ่ย“ท่านแม่ทัพฟง” น้ำเสียงหวานล้ำแต่กลับแฝงความเย็นเยียบไม่ธรรมดาของหลิงเวยทำเอาฟงชินหยางถึงกับขนลุกชูชันนั่งตัวตรงแข็งทื่อกลายร่างเป็นก้อนหินก้อนใหญ่หลิงเวยยังคงเอ่ย “ท่านบอกแก่ข้าว่าไม่มีภรรยา เห็นได้ชัดว่าท่านโกหก!” ฟงชินหยางเลิกคิ้วคมเข้มขึ้นเล็กน้อยแล้วเอ่ยตอบเสียงเรียบซ่อนคลื่นสั่นไหวในอารมณ์ในแบบที่ไม่เคยเป็นกับใคร “ย่อมเป็น
หลายวันผ่านไป...ภายในค่ายทหารยังคงฝึกหนักเสียงดังโชร้งเชร้งเคล้งคล้างดังเดิม มีการซ้อมเคลื่อนพลเคลื่อนทัพดังเดิม มีการผลิตอาวุธอันทรงพลังตามคำสั่งของท่านแม่ทัพตามเดิม มีกฎระเบียบที่แสนจะเคร่งครัดไม่มีลดหย่อนดังเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมและเพิ่มเติมมาก็คือท่านแม่ทัพฟงผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยอยู่เหนือผู้ใดกำลังถูกสตรีอัปลักษณ์นางหนึ่งครอบงำ หลิงเวยยังคงดูแลจัดการเรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์ดูแลทำแผลที่ได้รับจากการฝึกหนักดูแลเรื่องอาหารการกินให้ฟงชินหยางเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะยังคงตีเนียนทำตัวเป็นเพียงทหารหญิงรับใช้คนสนิทให้เขาโดยหาได้เปิดเผยฐานะจริงๆ ของตนไม่ ด้วยยังคงยึดมั่นในคำสั่งของแม่สามีเป็นอย่างดีเยี่ยม ในขณะที่ฟงชินหยางก็ยังคงให้ความร่วมมือกับภรรยาตัวน้อยเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน เขาย่อมตามใจภรรยาในทุกๆ เรื่องโดยไม่ถามหาเหตุผลอันใดให้มากความ ในยามกลางวันนางอยากเป็นทหารหญิงรับใช้ให้เขาก็ให้เป็นไป เพียงแต่ในยามค่ำคืนนางต้องตามใจเขาในทุกกระบวนท่าลีลารักที่เขามอบให้ภายในห้องโถงของเรือนท่านแม่ทัพฟงบนโต๊ะอาหารที่มีกับข้าวมากมายหน้าตาน่าทานถูกจัดการเป็นพิเศษเพื่อท่านแม่ทัพฟงแต่เพียงผู้เดียวหลิงเวย