หลายวันต่อมา
มินกับมะลิเดินไปที่บ้านหลังเล็กโดยในมือของมะลิถือกระเป๋าเสื้อผ้าหนึ่งใบ ทั้งคู่ไปยืนอยู่ข้างๆ วีลแชร์ของภาคิน ที่กำลังนั่งมองเหม่อลอยไปข้างหน้าอยู่ตรงริมสระบัว ด้วยสายตาอันแสนเศร้า
"พี่คินค่ะ น้องพาพยาบาลคนใหม่มาแล้วค่ะ"
"สวัสดีค่ะ พี่คิน" พนมมือไหว้พร้อมส่งยิ้มให้
ภาคินหันไปมองตามเสียงที่คุ้นๆแล้วก็ต้องชะงักไปชั่วครู่หนึ่ง เขาไม่คิดเลยว่ามินจะพามะลิมาเป็นพยาบาลดูแลเขา มองหน้ามะลิแวบหนึ่งแล้วหันกลับไปทางเดิมไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ ทำเหมือนมะลิไม่มีตัวตนยืนอยู่ตรงนั้นเลย
"พี่คินค่ะ จะไม่ทักทายมะลิซักหน่อยเหรอคะ"
"ไม่เป็นไรมิน ไม่ต้องหรอก"
"ก็ได้ งั้นไปดูห้องกันเถอะ"
มะลิเดินตามหลังมินเข้าในห้องนอนที่เธอต้องอยู่หลับนอนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป วางกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองลงบนโต๊ะ จากนั้นก็หยิบสมุดกับปากกาขึ้นมา
"มินพี่คินชอบหรือไม่ชอบอะไรบ้าง บอกฉันหน่อยสิ"
"แม้มาถึงก็ทำงานเลยนะ"
"จ้ะ ฉันไม่อยากเสียเวลา อีกอย่างต้องทำให้พี่คินยอมทำกายภาพก่อนปล่อยไว้นานไม่ดีแน่"
"เตรียมจดเลยนะ ฉันจะบอกอย่างละเอียดเลยแหละ" พูดจบก็บอกสิ่งต่างๆที่ภาคินชอบกับไม่ชอบให้มะลิฟังอย่างละเอียด
"ขอบใจนะที่บอกจะได้ทำงานได้สะดวกมากขึ้น"
"จ้ะ งั้นฉันกลับไปที่ร้านกาแฟก่อน สู้ๆนะ ฉันเชื่อว่าเธอจะต้องทำได้" มินเข้าไปสวมกอดมะลิเป็นกำลังใจให้
"ขอบใจนะ ที่เชื่อมั่นในตัวฉัน"
"จ้ะ ไปก่อนนะ" มินเดินออกไปจากบ้านทันที
หลังจากที่มินบอกเรื่องต่างๆเกี่ยวกับตัวภาคินแล้ว มะลิจึงเข้าในห้องของภาคินเพื่อดูข้าวของที่จะตกแตกได้ เพื่อที่จะได้เอาไปเก็บไว้ที่อื่นแทน เพราะภาคินชอบทำลายสิ่งของถ้าอารมณ์เสียขึ้นมา มะลิเก็บแจกันดอกไม้และแก้วน้ำออกมาจากห้องของภาคิน กำลังจัดของต่างๆให้เป็นระเบียบมากขึ้นเพื่อที่จะใช้งานได้ง่ายขึ้นเวลาจะหยิบจับ ตาก็เหลือบไปเห็นการ์ดที่เธอเขียนให้ภาคินอยู่ตรงหัวเตียงเขา จึงเดินไปหยิบขึ้นมาอ่านข้อความที่ตัวเองเขียนให้ภาคินแล้วยิ้มกว้าง เขาคงอ่านข้อความแล้วพิมพ์คิดในใจ
ภาคินเข้ามาข้างในห้องพอดี มะลิจึงวางการ์ดลงไว้ที่เดิมทันที แล้วหันไปทางภาคิน เพื่อที่จะพูดคุยทำความสนิทกันให้มากขึ้น มะลิมองดูนาฬิกาที่ข้อมือเพื่อดูเวลาตอนนี้กำลังสิบโมงเช้าอยู่
"พี่คินทำกายภาพกันดีไหมคะ"
"ไม่ ฉันไม่ทำ"
"ก็ได้ค่ะ ไม่ทำก็ไม่ทำ"
"แล้วอยากทำอะไรไหมคะ"
"ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันอยากอยู่คนเดียว"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวมะลิมานะคะ" พูดจบก็เดินตัวปลิวออกไปจากห้อง
มะลิเดินตรงไปยังห้องครัวของบ้านใหญ่ เพื่อหาของว่างให้ภาคินทานเจอป้าชุ่มอยู่ในครัวพอดี
"ป้าค่ะ หนูขอทำของว่างให้พี่คินหน่อยได้ไหมคะ"
"ได้สิคะ เต็มที่เลยค่ะ ป้าออกไปข้างนอกดีกว่าจะได้สะดวกขึ้น"
"ขอบคุณค่ะ" พูดจบก็เดินไปเปิดตู้เย็นเจอแอปเปิ้ลกับแตงโม มะลิจึงเก็บออกมาทันที
มะลิลงมือทำเองทั้งผ่าทั้งปอกพอให้ได้หนึ่งจานรวมกันทั้งสองอย่าง พอหั่นทั้งสองอย่างลงจานแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนสำคัญ มะลิหยิบแตงโมหนึ่งชิ้นขึ้นมาใช้ปลายมีดค่อยๆ กรีดลงไปตรงเนื้อแตงโมจนเกิดเป็นลวดลายขึ้นมา ทำชิ้นแล้วชิ้นเล่าจนเต็มจาน จากนั้นก็จัดแจงให้สวยงาม ป้าชุ่มกับอัมพรเดินเข้ามาเห็นพอดีก็พากันยิ้มกว้าง
"แม้สวยขนาดนี้คุณคินคงไม่กล้ากินแล้วแหละค่ะ"ป้าชุ่มเอ่ยขึ้น
"ป้าก็อย่างนั้นแหละ เพิ่งจะรู้นะ ว่าหนูเป็นงานแกะสลักด้วย"อัมพรส่งยิ้มให้
"ก็พอได้ค่ะ หนูขอตัวก่อนนะคะ"
"จ้ะ ไปเถอะ"
มะลิถือจานผลไม้เดินออกจากห้องครัว ตรงไปยังบ้านหลังเล็ก เดินตามหาภาคินจนทั่วบ้านแต่ก็ไม่เจอ จึงออกไปตรงริมสระบัวเห็นภาคินนั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียว
"พี่คินทานผลไม้หน่อยนะคะ มะลิตั้งใจปอกให้พี่โดยเฉพาะเลย"
มะลิวางจานลงบนโต๊ะข้างๆตัวภาคินแล้วกลับเข้าในบ้านรินน้ำดื่มใส่แก้วเอาไปวางบนโต๊ะข้างๆ จานผลไม้
"ทานให้อร่อยนะคะ "เดินเข้าไปในบ้าน
ภาคินเอาแต่นั่งเงียบหันไปมองจานผลไม้ แล้วก็ต้องสะดุดตากับลายต่างๆ บนผลไม้ที่มีทั้งลายดอกไม้และรูปหัวใจเต็มจานไปหมดจนไม่กล้าที่จะยื่นมือไปหยิบขึ้นมาทาน
มะลิเดินกลับเข้าไปในบ้านหยิบสมุดเล่มเปล่าออกมาหนึ่งเล่มพร้อมกับดินสอสีต่างๆ จากนั้นก็ลงมือวาดรูปหัวใจดวงใหญ่หนึ่งดวงพร้อมกับแต้มระบายสีในหน้าแรกของสมุด และหน้าถัดไปวาดเป็นตัวการ์ตูนต่างๆตรงริมกระดาษทุกหน้าในเล่ม พอเสร็จก็ออกไปหาภาคินตรงริมสระบัว
"พี่คิน นี้ค่ะสมุดเอาไว้เขียนระบาย พี่คินอยากจะเขียนอะไรลงไปก็เขียนไปเลยนะคะ" วางสมุดกับปากกาลงบนตักของภาคิน
"ส่วนผลไม้ทานด้วยนะคะ เดี๋ยวคนทำให้น้อยใจ"
มะลิออกไปจากตรงที่ภาคินอยู่แล้วแอบมองดูอยู่ห่างๆ เพื่อดูปฏิกริยาของภาคินว่าจะรับในสิ่งที่เธอทำให้ไหม ถึงภาคินจะไม่อยากจะคุยกับเธอแต่อย่างน้อยก็ขอให้ภาคินรับในสิ่งที่เธอทำให้บ้างก็ยังดี
ภาคินเปิดสมุดหน้าแรกออกก็เจอภาพวาดรูปหัวใจดวงใหญ่พร้อมกับข้อความที่เขียนอยู่ตรงกลางรูปหัวใจ สู้ต่อไปนะคะ อย่าพึ่งท้อ มะลิเป็นกำลังใจให้พี่เสมอค่ะ พออ่านข้อความเสร็จก็ปิดสมุดลง จากนั้นก็ใช้ช้อนซ้อมจิ้มผลไม้ชิ้นแรกขึ้นมาเข้าปาก มะลิที่แอบมองดูอยู่ก็ยิ้มออกมาแก้มแทบปริดีใจที่ภาคินสนใจสิ่งที่เธอทำให้ หลังจากที่ทานผลไม้คำแรกก็ก้มหน้าลงไปเขียนอะไรบางอย่างในสมุดเขียนเสร็จก็วางสมุดลงบนโต๊ะแล้วเคลื่อนวีลแชร์เข้าบ้านไป
มะลิออกจากที่ซ่อนตรงไปยังสมุดเล่มนั้น หยิบขึ้นมาเปิดอ่านอย่างว่องไว พออ่านข้อความในสมุดแล้วก็ต้องตกใจ เธอไม่คิดว่าภาคินจะเขียนมันลงไปในสมุดที่เธอให้ ข้อความฉันอยากตาย มันบ่งบอกถึงสภาพจิตใจของภาคินที่ไม่ปกติและหมดกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
"โธ่ พี่คินมะลิจะช่วยพี่ยังไงดี แม้แต่พูดกับมะลิสักคำพี่ยังไม่อยากจะพูดเลย"
มะลินั่งลงมองข้อความในสมุดและจานผลไม้ที่ไม่พร่องลงเลยสักนิด ไม่ว่าจะยังไงเธอจะต้องช่วยภาคินให้ได้ ในเมื่อเธอตัดสินใจจะช่วยตั้งแต่แรกแล้ว ถึงจะยากขนาดไหน เธอจะต้องทำให้ได้ แม้จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม
มะลิเดินเข้าในห้องเห็นภาคินจะเข้าไปในห้องน้ำก็รีบเข้าไปช่วยประคองทันที
"พี่คินอยากจะได้อะไร อยากจะทำอะไรบอกมะลิได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ " ประคองภาคินไปนั่งบนชักโครก
"มะลิถอดให้ดีกว่า" ยื่นไปจะถอดกางเกงให้ภาคิน
"นี้เธอ!" เอ่ยเสียงดุ
"งั้นมะลิไปรอข้างนอกก็ได้ค่ะ เสร็จแล้วเรียกด้วยนะคะ" เดินออกไปแล้วปิดประตูลง
หลังจากภาคินเสร็จธุระส่วนตัวแล้วมะลิก็เข้าไปช่วยพยุงภาคินขึ้นบนวีลแชร์ พร้อมกับเข็นภาคินออกมาจากห้องน้ำ มองดูนาฬิกาที่ข้อมือเที่ยงพอดี
"พี่คินไปทานข้าวเที่ยงกันเถอะค่ะ" จับจะเข็นวีลแชร์ให้ แต่ภาคินเคลื่อนไปข้างหน้าก่อน
มะลิเดินตามหลังภาคินไปติดๆ จนไปถึงข้างในห้องรับประทานอาหาร อัมพรกับสุวัตรนั่งรออยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับส่งยิ้มให้ทั้งคู่
"นั่งลงเลยจ้ะ หนูมะลิ"อัมพรเอ่ยขึ้น
"ค่ะ"
"ทานเยอะๆเลยนะ จะได้มีแรงดูแลพี่คินเขา" อัมพรตักกับข้าวใส่จานให้มะลิ
"ขอบคุณค่ะ"
"แล้วคินล่ะ ได้ทำกายภาพหรือยังวันนี้"สุวัตรถามขึ้น
"หลังทานข้าวเสร็จ พี่คินจะให้มะลิทำให้ค่ะ" มะลิเห็นสีหน้าภาคินเหมือนไม่พอใจก็เลยชิงพูดขึ้นก่อน
"ดีแล้วล่ะ นึกว่าจะไม่ยอมทำอีกแล้ว"
"พี่คินก็ทานเยอะๆ นะคะ" มะลิตักกับข้าวใส่จานให้ภาคินพร้อมกับส่งยิ้มให้
ภาคินนั่งทานไปเงียบๆ จนมะลิหันไปเห็นเศษอาหารติดปาก เธอจึงยื่นมือไปหยิบกระดาษทิชชู ไปเช็ดปากให้ภาคิน อัมพรกับสุวัตรเห็นก็พากันยิ้มกว้าง ส่วนภาคินก็ชะงักไปชั่วครู่ที่อยู่ๆมะลิก็เช็ดปากให้เขา แต่ก็ยังทำหน้านิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไร
"คินลูกรู้ไหม หนูมะลิยอมลาออกจากงานมาเพื่อดูแลลูกเลยรู้ไหม อย่าไปไล่เขาล่ะ" อัมพรเอ่ยขึ้น
ภาคินได้ยินอย่างนั้นก็อึ้งไปไม่คิดว่ามะลิจะยอมทิ้งงานเพื่อมาดูแลตัวเขาถึงที่บ้าน
"ให้ความร่วมมือกับหนูมะลิด้วยนะลูก อย่าใช้แต่อารมณ์รู้ไหม"
"ครับ"
หลังมื้ออาหารพิมพ์เดินตามภาคินที่เคลื่อนไปข้างหน้าไปจนถึงบ้านหลังเล็ก แล้วเข้าไปในห้อง มะลิจึงตามภาคินเข้าไป
"พี่คินค่ะ ทำกายภาพกันเถอะ"
"ฉันไม่ทำ"
"ทำไมถึงไม่อยากทำคะ บอกมะลิหน่อยได้ไหม"
"ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น ออกไปน่ารำคาญ"
"มะลิเข้าใจนะคะ ว่าพี่เสียใจกับสิ่งที่พี่ต้องเจอ แต่มันก็ไม่จำเป็นที่พี่จะต้องอยู่กับความทุกข์ไปตลอด มะลิอยากให้พี่เปิดใจรับความหวังดีของคนอื่นบ้าง อย่างน้อยๆ ก็เพื่อตัวพี่เอง"
"ไม่ต้องมาสอนฉัน เธอเป็นเด็กจะรู้อะไร"
"มะลิยอมรับค่ะว่าตัวเองเป็นเด็ก แต่ขอร้องเถอะค่ะ ให้มะลิได้ทำหน้าที่ของตัวเองบ้าง"
"ถ้าทนไม่ได้ก็กลับไปสิ"
"กลับก็ได้ค่ะ แต่ต้องทำให้พี่เดินได้ก่อนมะลิถึงจะยอมกลับ"
ภาคินได้ยินอย่างนั้นก็นิ่งไป ไม่คิดว่ามะลิจะมีความตั้งใจจริงขนาดที่จะช่วยทำให้เขากลับมาเดินได้อีกครั้ง
"ถ้าเกิดว่าพี่ยอมทำกายภาพแล้วกลับมาเดินได้อีกครั้ง พี่ไม่เสียดายเวลาที่ปล่อยไปเปล่าประโยชน์เหรอคะ แทนที่จะกลับมาเดินได้เร็วขึ้น"
"เธอพูดเหมือนจะทำให้ฉันเดินได้อย่างนั้นแหละ ไม่มีทาง"
"ก็ไม่แน่นะคะ มะลิอาจจะทำได้ก็ได้ แต่ถ้าพี่ไม่อยากทำก็ไม่เป็นไรค่ะ" เดินจะออกจากห้องไป
"เดี๋ยวก่อน ทำก็ได้"
"จะทำจริงๆ เหรอคะ มะลิหูฝาดไปหรือเปล่า"
"เธออย่ามาเล่นลิ้นกับฉันหรือจะให้ฉันเปลี่ยนใจ"
"มะลิล้อเล่น มาค่ะ มะลิช่วย" เดินเข้าไปพยุงตัวภาคินขึ้นไปนั่งบนเตียง
มะลิจัดท่าทางให้ภาคินนั่งอยู่เตียงแล้ว จากนั้นก็ลงไปนั่งกับพื้นห้อง ลงมือนวดขาเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อขาทั้งสองข้างให้ภาคินประมาณครึ่งชั่วโมง ระหว่างที่นวดมะลิก็ถามความรู้สึกตรงขาว่าภาคินรู้สึกอะไรไหม ภาคินก็ตอบไปตามตรงว่าไม่รู้สึกอะไรเลย แอบลอบมองหน้ามะลิที่เอาแต่ก้มหน้าผ่อนคลายกล้ามเนื้อขาให้เขา
"มาค่ะเปลี่ยนท่าบ้าง" จัดหมอนซ้อนกันสองใบ จากนั้นก็จับตัวภาคินให้นอนลงพิงหมอนตรงหัวเตียง
"นี้เธอจะปล้ำฉันเหรอ" ภาคินมองหน้ามะลิที่โน้มลงมาใกล้หน้าของเขา
"เปล่าค่ะ แค่จะจัดท่าให้พี่นอนสบายขึ้น"
พอจัดท่านอนเสร็จมะลิก็เดินไปตรงปลายเตียงยกบริหารขาทั้งสองข้างเป็นชั่วโมงเพื่อให้กล้ามเนื้อมีการยืดหยุ่นและแข็งแรงมากขึ้น ระหว่างที่มะลิทำกายภาพไป ภาคินก็เอาแต่มองหน้ามะลิไม่วางตา
ตอนเย็นมินกลับมาจากร้านกาแฟก็ตรงไปที่บ้านหลังเล็กเลย เดินเข้าในห้องภาคินเห็นประตูห้องน้ำเปิดอยู่ จึงเดินเข้าไปดูก็เจอมะลิกำลังสระผมให้ภาคินอยู่ ก็ยิ้มกว้างออกมาจนหน้าบาน
"เป็นยังไงบ้างคะ พี่คินฟินไหม มีคนสระผมให้" มินเอ่ยแซวขึ้น
"_______" ภาคินนั่งนิ่งเงียบ
"แล้วมะลิล่ะ เป็นยังไงบ้าง คนไข้ดื้อไหม"
"ก็ดื้ออยู่นะ แต่คงน้อยลงแล้วมั้ง"มะลิส่งยิ้มให้มินมือก็สระผมให้ภาคินไป
"จ้ะ ดีแล้วแหละ ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ น้องไปก่อนนะพี่คิน" ส่งยิ้มให้คนทั้งคู่แล้วเดินออกไปทันที
หลังมื้ออาหารเย็นมะลิก็ไปช่วยภาคินทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ จากนั้นก็ตรงไปยังห้องของตัวเอง หยิบเอาหมอนกับผ้าห่มออกมาจากห้องไปวางตรงโซฟากลางบ้าน เพราะเวลาภาคินมีอะไรให้ช่วยกลางดึกจะช่วยได้เร็วขึ้น มะลิเดินเข้าไปในห้องเห็นภาคินนั่งจ้องจอโทรศัพท์อยู่ จึงเดินเข้าไปใกล้ๆ
"พี่คินอยากจะเข้านอนเลยไหมคะ"
"อืม"
มะลิช่วยพยุงตัวภาคินไปนอนลงบนเตียงพร้อมกับห่มผ้าให้ จัดแจงท่านอนให้และถือโอกาสบริหารกล้ามเนื้อขาให้อีกขาละยี่สิบครั้งก่อนจะนอน
"ฝันดีนะคะ พี่คิน" เดินไปปิดไฟในห้องจนมืดสนิทแล้วปิดประตูลง
ภาคินพยายามข่มตาให้หลับลง แต่ก็อดนึกถึงเรื่องเมื่อตอนเย็นไม่ได้ที่มะลิ อาบน้ำสระผมให้เขา ยังไม่พอยังจะสวมกางเกงในให้เขาอีก ถ้าเขาไม่ห้ามไว้เธอคงจะใส่ให้เขาไปแล้วหน้าตาเฉย พูดมาได้ว่าเคยเห็นของคนไข้ทุกคนแล้ว สลัดหัวเบาๆแล้วหลับตาลง
ส่วนมะลิก็นอนห่มผ้าหลับตาอยู่ตรงโซฟา แต่ในหัวก็คิดถึงเรื่องภาคิน เธอแอบแปลกใจเล็กน้อยที่ภาคินยอมให้เธอทำกายภาพให้ ทั้งที่เธอเพิ่งมาทำงานวันแรกเอง ท่าทางภาคินเหมือนจะดื้อมากเหมือนจะไม่ยอมง่ายๆ แต่กลับยอม ถ้าเกิดมีอะไรมากระตุ้นอารมณ์ให้โกรธก็ไม่แน่อาจจะเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยก็ได้