Share

บทที่ 11

last update Last Updated: 2025-06-19 22:09:11

"คนสวยครับ"

"?" ได้ยินเสียงคนที่เรียกข้าวทิพย์ถึงได้หันไปมอง "ทำไมนายยังอยู่"

"ลางานทั้งทีเอาให้คุ้ม"

"อย่าบอกนะว่านายยังไม่กลับตั้งแต่เมื่อเช้า"

"กลับไปแล้วเพิ่งมาอีก"

"ตั้งไกลจะมาอีกทำไม"

"ไม่ไกลแล้ว"

"ไม่ไกลแล้ว..หมายความว่ายังไง?"

"เดี๋ยวพาไปดู ขึ้นรถสิ"

ข้าวทิพย์เดินเข้าไปกำลังจะรับหมวกกันน็อค..แต่ฟีฟ่าไม่ได้ส่งให้ เขาจับมันสวมใส่บนศีรษะให้กับเธอ

"กอดเอวดีๆ นะเครื่องพี่มันแรง"

"พูดมาก​ จะไปก็ไปเถอะน่า"

ฟีฟ่าขับมอเตอร์ไซค์ออกจากบริษัท ผ่านไป 3-4 ซอยเขาก็เลี้ยวเข้าไป

"จะเลี้ยวมาทำไม"

"ก็บอกเดี๋ยวก็รู้ไง" ขับเข้าไปไม่ลึกมากก็เจอบ้านหลังหนึ่ง

"หมายความว่ายังไง?"

"ตามมาสิ"

ข้าวทิพย์เดินตามฟีฟ่าเข้าไปในบ้านหลังนั้น

"เลิกงานแล้วเหรอลูก"

"นี่มันอะไรกันคะ"

"ฟีฟ่าหาบ้านเช่าให้ เห็นว่าอยู่ใกล้บริษัทใหม่ของเราด้วย"

"........."

"มีอะไรหรือเปล่าข้าว" คนเป็นป้าเห็นหลานสาวนิ่งไป

"เปล่าค่ะ" เอาไงต่อดีเรา อยากจะหัวเราะดังๆ ให้กับชีวิตของตัวเอง เพราะเธอร้องไห้มาเยอะแล้วเปลี่ยนเป็นหัวเราะบ้าง แต่ก็หัวเราะไม่ออก ทีแรกยังคิดอยู่เลยว่าอาจจะยังไม่หาบ้านเช่าหลังใหม่ เพราะถ้าเขาเป็นเจ้าของบริษัทนั้นจริง แล้วเธอจะทำงานอยู่ที่นั่นได้ยังไง

"ไม่ต้องขอบใจฉันหรอก" ฟีฟ่าเห็นว่าเธอมองมาไม่พูดไม่จาก็เริ่มเสียวสันหลัง ยังแอบคิดอยู่เลยว่าตัวเองทำอะไรผิดไปอีกหรือเปล่า

"บ้านหลังนี้ค่าเช่าแพงไหมคะ" ข้าวทิพย์มองไปดูป้า และก็มองไปดูรอบๆ บ้าน

"ก็แอบแพงนิดหนึ่ง อยู่ในย่านเศรษฐกิจมันก็ต้องแพงแหละลูก แต่โชคดีที่ยังมีบ้านว่าง"

"แล้วใครจ่ายค่าเช่าก่อนคะเนี่ย"

สุนีย์มองไปดูฟีฟ่า เพราะนางยังไม่ได้เอาเงินให้สักบาท แม้กระทั่งค่าเช่ารถย้ายของมาที่นี่ ก็เป็นเงินของฟีฟ่าทั้งหมด

"ส่งรายการมาให้ฉันแล้วกันเดี๋ยวจะโอนคืนให้"

"ไว้ได้เงินเดือนออกค่อยโอน"

"อืม" ข้าวทิพย์รู้ว่าฟีฟ่าไม่เดือดร้อนเรื่องเงินหรอก เพราะฐานะทางบ้านของฟีฟ่าก็พอมีอยู่มีกิน แต่เธอก็ไม่เคยติดค้างเงินเขานาน พอได้เงินเดือนเธอก็โอนคืนให้

[โรงแรมหรู]

"อาหารที่นี่อร่อยจังเลยค่ะ วันหลังเรามาทานอีกนะคะ"

"ถ้าคุณชอบก็มาอีกสิ"

"น่ารักจังเลยค่ะ" มิ่งขวัญแนบใบหน้าลงกับลำแขนของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เพื่อเป็นการขอบคุณที่พามาทานข้าว "ตอนนี้ถือว่าเราเป็นแฟนกันหรือยังคะ" เพราะเธอยอมทำตามที่เขาขอมาแล้ว

ครืนนน ครืนนน อีกฝ่ายยังไม่ทันได้ตอบก็มีสายเข้าก่อน

>>{"ว่าไง"}

   {"พี่ครับเตี่ยไม่ไหวแล้ว รีบมาที่โรงพยาบาลด่วน"}

"มีอะไรคะ"

"ผมจะไปโรงพยาบาลก่อน คุณกลับเองได้นะ" นี่แหละเหตุผลทีแรกเขาว่าจะไปโรงพยาบาลก่อนแล้วค่อยมาเจอกันที่โรงแรม แต่เพราะอยากเจอหน้าใครบางคนเขาเลยเปลี่ยนแผน

"ขวัญไปด้วยค่ะ"

[โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง]

"เตี่ยครับผมมาแล้ว" ชายหนุ่มรีบเข้าไปกุมมือของผู้เป็นพ่อที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงผู้ป่วย

"เขต..เขต.."

"เตี่ยครับเตี่ยต้องอยู่กับผมนานๆ สิครับ"

คนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีแรงที่จะพูดแล้ว​ แต่ก็พอขยับมือได้ มือของท่านยกขึ้นเพื่อขอมืออีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ลูกชาย และเธอคนนั้นก็เอื้อมไปจับมือของท่าน ก่อนที่มือทั้งสองจะถูกวางประสานกันไว้ ใช่แล้วมิ่งขวัญคือผู้หญิงที่เตี่ยเขาอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้

วันต่อมาที่บริษัท..

เธอจำเป็นต้องมาทำงานที่นี่ต่อ เพราะถ้าไปหาสมัครงานที่อื่นก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะรับไหม และถ้าได้งานคงไม่ได้งานดีแบบนี้แน่

"เขาเป็นอะไรกัน" มาถึงที่ทำงานก็เห็นหลายคนใส่ชุดดำ และใบหน้าแต่ละคนดูเศร้ากันมาก

ชั้นผู้บริหาร..

"มีอะไรเกิดขึ้นคะ" เธอไม่เก็บความสงสัยไว้อีกแล้วเพราะมาถึงหน้าห้องทำงานก็ยังเห็นเลขาใส่ชุดดำ

"ท่านประธานเสียแล้ว"

"เสีย?!" สองขาแทบรับน้ำหนักตัวเองไว้ไม่ได้เมื่อได้ยินว่าท่านประธานเสีย "เขาเป็นอะไรตายคะ"

"เขาไหน"

"ก็ท่านประธาน CEO อะไรนั่นไงคะ"

"ท่าน CEO ไม่ได้เสีย คนที่เสียก็คือท่านประธานคนเดิมพ่อของท่าน CEO "

"คะ?" ทำไมเราถึงตกใจได้ขนาดนี้ เรากับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย

ตำแหน่งประธานบริษัทนี้ยังเป็นของพ่อเขาอยู่ แต่ด้วยเพราะเขาเป็นคนรุ่นใหม่ขึ้นมารับตำแหน่ง พนักงานก็เลยไม่ได้เรียกเขาว่าท่านประธานแต่ใช้คำว่า CEO แทน จะได้แยกกันว่าประธานคือพ่อ CEO คือลูก แต่ที่จริงก็ตำแหน่งเดียวกันแค่เรียกคนละแบบ

พอท่านประธานเสียคนเป็นลูกชายก็ขึ้นรับตำแหน่งแบบเต็มตัว

"เย็นนี้พวกเราอาจจะได้ไปช่วยงานกันที่วัดนะ" มิ่งขวัญเพิ่งมาถึงที่ทำงานเพราะมัวยุ่งกับเรื่องงานศพอยู่

"ผู้จัดการได้พักผ่อนบ้างหรือยังคะ" แก้วตาถามผู้จัดการมิ่งขวัญแบบเป็นห่วง

"คงต้องยุ่งเรื่องงานศพอีกหลายวัน"

"ช่วยงานที่วัดเหรอ?"

"ทำไมเราไม่ว่างเหรอ" แก้วตาได้ยินข้าวทิพย์ที่ยืนอยู่ด้านหลังพูดเบาๆ ก็เลยหันไปถามดู

"จัดงานศพที่วัดเหรอคะ"

"ใช่.. แม่ของบอสเป็นคนไทย อยากให้พ่อกับแม่อยู่ด้วยกัน" คนที่ตอบก็คือมิ่งขวัญ และมิ่งขวัญก็แอบสงสัย ข้าวทิพย์เพิ่งเข้ามาทำงานยังไม่เคยเจอพ่อของ CEO เลย ทำไมถึงรู้ว่าท่านไม่ใช่คนไทยแท้

จนถึงช่วงเย็นวันเดียวกัน..

"พี่ว่าเราต้องไปเปลี่ยนชุดก่อนแล้วล่ะ"

"ให้ฉันไปช่วยงานด้วยเหรอคะ"

"ไปสิเราเป็นคนของผู้จัดการนะ รู้ไหมว่าผู้จัดการกับบอสเป็นแฟนกัน เราเป็นลูกน้องก็ต้องช่วยเจ้านายให้ถึงที่สุด"

พวกเขาเป็นแฟนกันงั้นเหรอ ..ทีแรกก็แอบคิดอยู่ว่าพวกเขาเป็นอะไรกัน

"เรารู้จักวัดใช่ไหม ถ้าไม่รู้ก็บอกแท็กซี่ให้พาไป"

"ค่ะ"

"เดี๋ยวพี่จะให้เพจบริษัทไว้ จะได้รู้ความเคลื่อนไหวของบริษัทกับคนอื่นเขาบ้าง"

[บ้านเช่า]

"งานศพของใครเหรอ" ป้าได้ยินหลานบอกว่าจะต้องไปช่วยงานศพที่วัดต่อ

"งานศพเจ้าของบริษัทที่ข้าวทำงานอยู่ค่ะ"

"ถ้างั้นหนูก็ไปเถอะ งานเขาจัดที่วัดไหนเหรอ ไกลไหมล่ะ"

"ไม่ไกลหรอกค่ะ ข้าวว่าจะนั่งมอเตอร์ไซค์วินไป"

[วัดที่ใช้จัดงานศพ]

พอมาถึงก็เห็นเขายืนรับแขกอยู่หน้างานกับผู้หญิงที่เป็นแฟนกัน เธอไม่มีอะไรต้องหลบอีกแล้ว เพราะคิดว่าคนที่รับเธอเข้าทำงานจริงๆ คงเป็นเขา

เขาคงอยากให้เธอเห็นว่าตัวเองมีชีวิตที่ดีแค่ไหน และเธอก็จะมองดูตามที่เขาอยากให้เธอเห็น เอาให้ถูกใจเขาไปเลยแล้วกัน

"ข้าวทิพย์ทางนี้" แก้วตาเห็นว่าข้าวทิพย์กำลังจะเดินไปทางหน้างานก็เลยเรียกไว้ก่อน เพราะงานของข้าวทิพย์คือบริการเครื่องดื่มให้กับแขกในงาน

จังหวะที่แก้วตาเรียก ชายร่างสูงที่ยืนรับแขกอยู่หันมองมาดู แต่เขาก็มองมาแค่ครู่เดียวแล้วก็หันกลับไปหาผู้หญิงที่เป็นแฟน

"เหนื่อยหรือยังครับ" เสียงทุ้มพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปจัดผมให้กับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เพราะผมของอีกฝ่ายถูกลมพัดมาบังหน้าเล็กน้อย

"ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ"

"ข้าวทิพย์ทำอะไรอยู่รีบมาสิ​ เห็นไหมแขกกำลังทยอยกันมา"

"ค่ะ" พวกเขาก็ดูเหมาะสมกันมากเลย นี่สิเขาถึงเรียกคู่สร้างคู่สม

"เอาเครื่องดื่มนี้ไปให้บอสกับผู้จัดการก่อนนะ ดูสิคงเหนื่อยแย่แล้ว"

"ให้ฉันเอาไปให้เหรอคะ"

"ยกไปเผื่อแขกในงานด้วยเลย เอาให้พวกท่านเสร็จแล้วค่อยเอาเข้าไปให้แขกชุดใหม่ที่เพิ่งมานั่ง"

หญิงสาวรับถาดเครื่องดื่มที่แก้วตาส่งมาให้แล้วเดินไปทางหน้างาน

"เครื่องดื่มค่ะ"

มิ่งขวัญมองหน้าคนที่เอาเครื่องดื่มมาให้ และอดไม่ได้ที่จะมองหน้าผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ อยากรู้ว่าทั้งสองรู้จักกันแบบไหน ถึงได้ฝากอีกฝ่ายเข้าทำงานกับเธอ

"ดื่มน้ำหน่อยนะครับ" เขาไม่ได้มองคนที่ยกเครื่องดื่มมาบริการเลย ชายหนุ่มทำแค่เอื้อมไปหยิบน้ำที่วางอยู่ในถาดนั้นขึ้นมาส่งให้กับผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างกาย

"ขอบคุณมากนะคะเขต" มิ่งขวัญรับน้ำแก้วนั้นมาพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ก่อนที่จะยกดื่ม

"หึ..ดื่มเป็นเด็กๆ ไปได้ ค่อยๆ ดื่มสิ" มือหนาเอื้อมไปเช็ดรอยน้ำที่ติดริมฝีปากของคนที่เพิ่งจะดื่มน้ำไปเมื่อสักครู่

"ขอบคุณค่ะ" มิ่งขวัญถึงกับหน้าแดง เพราะเขาไม่เคยทำแบบนี้ให้เธอเลย

"เดี๋ยวก่อน" ข้าวทิพย์กำลังจะนำน้ำไปบริการแขกท่านอื่นแต่ก็ถูกเรียกไว้ก่อน

หญิงสาวหยุดแล้วค่อยๆ หันกลับมา

"เอาแก้วนี้ไปเก็บด้วย" เขาหมายถึงแก้วที่มิ่งขวัญเพิ่งดื่มไปเมื่อสักครู่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ร้ายรัก (พ่อของลูก)   ตอนพิเศษ ฟี ฟ่ า

    ตอนพิเศษ ฟีฟ่า♡มิ่งขวัญหลายเดือนผ่านไป.. หลังจากที่นักรบเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ​ทุกคนก็ยังคงดำเนินชีวิตต่อไป และตอนนี้อายุครรภ์ของมิ่งขวัญก็ 8 เดือนแล้ว"ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องมาทำงานแล้ว" ตอนนี้ฟีฟ่าทำงานแทนมิ่งขวัญได้ทุกอย่างแล้ว เขาไม่อยากให้เธอต้องมานั่งทำงานให้เหนื่อยอีก ..แต่พอเขามาถึงบริษัทมิ่งขวัญก็ตามมา"เหลืออีกตั้งเป็นเดือนกว่าคุณหมอจะนัดคลอด""แต่คุณไม่ค่อยแข็งแรง ผมอยากให้พักผ่อนมากๆ""แต่วันนี้เป็นวันประชุมผู้ถือหุ้นนี่คะ""ผมประชุมแทนได้​ มีอะไรเดี๋ยวผมจะโทรไปหา""ก็ได้ค่ะ ประชุมเสร็จฉันสัญญาว่าจะกลับบ้าน" พูดจบมิ่งขวัญก็เดินไปที่ชั้นเอกสาร เพื่อจะเอาเอกสารไปร่วมประชุม"คุณเป็นอะไร" ฟีฟ่าที่ยืนมองอยู่รีบเข้าไปพยุงเธอไว้เพราะเห็นว่าเธอเอามือมากุมท้อง"สงสัยลูกจะดิ้นแรงไปค่ะ""ไปนั่งก่อน""โอ๊ยย" ทีแรกคิดว่าตัวเองจะกลั้นได้ แต่จังหวะก้าวเท้าก็รู้สึกเจ็บหน่วงขึ้นมา"ขวัญ" ชายหนุ่มช้อนร่างเธอขึ้นมาอุ้มก่อนที่จะพาเดินมาที่ประตูทางออก"เจ็บท้องค่ะ""ผมรู้แล้ว เดี๋ยวผมพาไปโรงพยาบาล""ผู้จัดการเป็นอะไรคะ" พอประตูห้องทำงานเปิดออกคนที่อยู่หน้าห้องก็รีบเข้ามา เพราะเห็นว่

  • ร้ายรัก (พ่อของลูก)   บทที่ 130 ตอนจบ

    "ร้อนจังเลยค่ะ""ร้อน?" ที่เขาสงสัยเพราะในห้องนี้เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบเลยจะเอาอะไรมาร้อน"หรือคุณไม่ร้อนคะ" ยูริถามพร้อมกับค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อที่ใส่อยู่ออก"ร้อนครับ ร้อนมากเลยครับ" เธอนี่ทำให้เขาตื่นเต้นได้ตลอดเวลาเลย ที่เปิดห้องคิดว่าอยากจะคุยกับเธอให้รู้เรื่อง เพราะต้องรีบไปดูห้องจัดเลี้ยง และต้องไปทำอะไรอีกหลายอย่างเลย เพราะงานแต่งกระชั้นชิดเข้ามาแล้ว..แต่ไม่เป็นไรจัดเธอก่อนแล้วกัน"อือ ใจเย็นก่อนสิคะยังไม่อาบน้ำเลย""ไม่ทันแล้ว""อ๊อย" นี่แหละสิ่งที่เธอชอบในตัวเขามากที่สุด เพราะแค่สะกิดเล็กน้อยเขาก็จัดให้แล้ว คนอะไรจะไฟติดง่ายขนาดนี้ต้องขอบคุณพ่อกับแม่ไหมเนี่ยที่แยกทางกัน เพราะถ้าเธอไม่ตามแม่กลับมาคงไม่รู้จักกับผู้ชายคนนี้แน่เลย"อื้อ คุณนักรบไม่ค่ะ" มือเรียวผลักใบหน้าอีกฝ่ายที่ฝังจูบลงเนินน้องสาวให้ออกไปก่อนแต่แรงของเธอหรือจะสู้เขาได้ ชายหนุ่มกดใบหน้าลงไปแล้วก็ใช้แรงดูด"ซี๊ดดด แรงอีกนิดค่ะ" จากที่ห้ามอยู่เมื่อครู่เพราะไม่มั่นใจในตัวเอง แต่พอเจอทั้งปากและลิ้นเข้าไปใครจะไปทนได้ล่ะ สะโพกงามเด้งรับเรียวลิ้นที่แทรกผ่านกลีบร่องเข้ามา"อ๊อยยย เอาอีกค่ะ" ทำไมเขาเก่งขนาดนี้ ท

  • ร้ายรัก (พ่อของลูก)   บทที่ 129

    หลายวันต่อมา.."ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ" เขตแดนพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปรับการ์ดเชิญจากนักรบ"ขอบคุณมากครับ""แล้วนี่เมื่อไรจะกลับมาทำงานได้ล่ะครับเนี่ย" ตั้งแต่วันนั้นนักรบก็ขอลางานเพื่อที่จะจัดเตรียมงานแต่ง เพราะเขาต้องจัดงานก่อนที่พ่อเธอจะเดินทางกลับต่างประเทศ"เรื่องนี้ผมก็อยากจะคุยกับบอสอยู่พอดีเลยครับ""อย่าบอกนะว่า.. ผมยังไม่พร้อมที่จะฟัง" เขตแดนก็พอจะรู้แล้วล่ะ ตอนนี้นักรบเป็นถึงลูกเขยของฮิโรชิเจ้าของบริษัทชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น มีเหรอที่เขาจะยังมาช่วยงานที่นี่อยู่"คุณพ่ออยากให้ผมไปดูแลที่นั่นช่วยลูกสาวของท่านครับ" ที่ประเทศไทยไม่มีอะไรให้เขาต้องห่วง นักรบถึงได้บอกว่าญี่ปุ่นแค่ปากซอย เพราะเขาพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเธอได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหนเขาก็พร้อมที่จะไปอยู่ที่นั่นด้วย"ถ้างั้นผมก็ขอแสดงความยินดีด้วยอีกเรื่องแล้วกัน นี่ผมต้องหาผู้จัดการคนใหม่แล้วเหรอเนี่ย" เพราะผู้จัดการที่พูดได้หลายภาษาแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะหาง่ายๆ แถมยังเข้าได้กับทุกคน"ถ้างั้นผมขอไปแจกการ์ดห้องอื่นก่อนนะครับ" วันนี้เขาเตรียมการ์ดเชิญวันแต่งงานมาให้กับผู้บริหารทุกท่านเลยจนมาถึงห้องสุดท้ายก็

  • ร้ายรัก (พ่อของลูก)   บทที่ 128

    "เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ?""ที่ผมเรียกพ่อมาด้วยเพราะผมอยากจะสู่ขอลูกสาวของท่าน""สู่ขอฉันเหรอ?""ใช่ครับ""ฉันฟังผิดไปหรือเปล่า คุณบอกว่าจะสู่ขอฉันกับพ่อแม่เหรอ?""ยูริ" ยี่หวาต้องห้ามปรามลูกไว้เพราะอาการดีใจออกหน้าออกตามาก"ที่ผมจอดรถ เพราะผมไปซื้อไอ้นี่มาให้คุณ" ชายหนุ่มเปิดกล่องแหวนที่เขาแวะร้านเพชรก่อนที่จะมาที่นี่เพราะว่าเขายังไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย ไม่คิดว่าเธอจะขอแต่งงาน และที่นักรบไม่พูดอะไรเลยเพราะเขาอยากเป็นฝ่ายขอเธอแต่งงานมากกว่า"ทำไมคุณไม่บอกล่ะคะ" ถ้ารู้ว่าเขาไปซื้อแหวนมีเหรอที่เธอจะเรียกแท็กซี่กลับเอง"บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ แต่ผมดันถูกคุณเซอร์ไพรส์กลับ""หึหึ" จากที่ยืนฟังอยู่คนเป็นแม่ก็อดขำไม่ได้ เห็นแล้วล่ะว่าลูกสาวร้องไห้วิ่งเข้ามาในบ้าน แต่ไม่คิดว่าที่ร้องไห้เพราะการเข้าใจผิดกันนี่เองแต่จังหวะที่ยี่หวามีรอยยิ้มฮิโรชิก็แอบมองดูรอยยิ้มนั้นของอดีตภรรยา ตั้งแต่นางจับได้ว่า ท่านนอกใจ ท่านก็ไม่เคยเห็นรอยยิ้มแบบนี้อีกเลย "คุณก็สวมแหวนให้ฉันสิ""สวมแหวนเลยเหรอ" เขายังไม่ทันได้ขอเธอกับพ่อแม่เลย "คุณพ่อกับคุณแม่ว่ายังไงคะ""ถ้ารักกันชอบกันแม่ก็ไม่ห้าม แต่แม่ขออย่างเดียวอย่า

  • ร้ายรัก (พ่อของลูก)   บทที่ 127

    "พ่อเจ็บมากไหมคะ""เจ็บโอ๊ยย" เห็นว่าลูกเป็นห่วงก็เลยอ้อนหน่อยมือเรียวเอื้อมไปแตะหน้าผากของพ่อตรงที่มีผ้าพันแผลแปะอยู่ "ยูริบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเพิ่งมาหาแม่.. ไปหาหมอหรือยังคะ""ยัง""ทำไมไม่ไปให้หมอตรวจดูหน่อย""พ่อไม่เป็นอะไรหรอก แล้วแม่ว่ายังไงบ้าง""แม่จะว่าอะไรล่ะคะยิ่งโกรธเพิ่ม" ประโยคนี้เธอกรอกหางตามองไปดูคนที่พาพ่อไปเที่ยว"อย่าว่าให้แฟนเราเลยพ่อเองต่างหากที่อยากไปดื่ม""ถ้าเขาไม่พาไปพ่อก็ไม่ได้ไปที่นั่น""ผมผิดเองครับ"ยูริตกใจเล็กน้อยที่เขาบอกว่าตัวเองผิด ทั้งๆ ที่ เธอก็พยายามยัดเยียดความผิดให้เขา"ผมว่าเรากลับโรงแรมดีกว่าครับ เดี๋ยวผมจะไปส่ง" ไม่รู้ว่ามีความรู้สึกแบบนี้ได้ยังไง รู้สึกแอบน้อยใจที่เธอดูไม่เป็นห่วงเขาเลย"อีกไม่กี่วันพ่อคงต้องกลับ แต่ก่อนกลับพ่ออยากคุยกับแม่เราก่อน""พ่อจะกลับแล้วหรือคะ" เธอรู้ว่าพ่อต้องดูแลบริษัท พนักงานอีกหลายร้อยชีวิตยังรอท่านกลับไปบริหารงานอยู่"คงต้องกลับ พ่อมาหลายวันแล้ว""พ่อรอยูริอยู่บนรถนะคะ​ เดี๋ยวยูริไปเอาของก่อน" ได้ยินว่าพ่อจะกลับก็รู้สึกใจหาย เลยคิดว่าจะไปส่งท่านที่โรงแรมยูริเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะเธอใส่เสื้อผ้าอยู่บ้าน แล้ว

  • ร้ายรัก (พ่อของลูก)   บทที่ 126

    "มีอะไรอีก" เขตแดนชักจะใจไม่ดีเมื่อเห็นสีหน้าของนักรบที่มองโทรศัพท์ คิดว่ามีคลิปอะไรตามมาอีกพอแน่ใจแล้วนักรบก็ยื่นคลิปที่ทางบาร์ส่งมาให้กับบอสได้ดูด้วย หลังจากที่ดูคลิปนั้นแล้ว ทั้งเขตแดนแผ่นดินและคนที่อยู่ในห้องนั้นมองไปที่จรัญแทบจะพร้อมกัน"พวกคุณมองผมทำไม" จากที่นั่งทำตัวสบายๆ อยู่ก็ชักจะไม่สบายแล้ว"คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร""ผมทำอะไร อย่าบอกนะว่าคุณจะเชื่อคนที่กล่าวหาผม""คุณรู้ว่าผมหมายถึงเรื่องอะไรงั้นเหรอ""ผมยังไม่รู้หรอกแต่สายตาคุณมันฟ้อง""ทางร้านที่คลิปถูกเผยแพร่ ได้ส่งคลิปคนที่เป็นตัวต้นเหตุมาให้""ตัวต้นเหตุ?" จรัญที่นั่งอยู่ถึงกับดันตัวลุกขึ้น "พวกคุณจะรู้ได้ยังไงว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร""ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าเป็นผู้ชาย""ผมแค่เดาเอาก็พวกคุณมองมาที่ผม""คนที่ใส่หมวกสีขาวผมว่าหุ่นคล้ายๆ คุณเลยนะ""ผมไม่เคยใส่หมวกสีขาว""อ้าวเหรอครับแล้วคุณใส่หมวกสีอะไร""สีดำ!" ตอบออกไปถึงรู้ว่าตัวเองเสียรู้แล้ว "คุณมีหลักฐานอะไรมากล่าวหาผม""ถึงแม้อยู่ในร้านคุณจะใส่หมวกใส่แว่นตาดำ แต่ยังมีคลิปหน้าร้านให้ผมได้เห็น ก่อนที่คุณจะสวมสองอย่างนั้น แต่ถึงแม้ไม่มีคลิปหน้าร้านคุณดูละครมากเกินไปหรือเปล่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status