Share

บทที่ 12

last update Dernière mise à jour: 2025-06-19 22:09:31

น้ำลายถูกกลืนลงคอแบบยากลำบาก ทำไมเขาถึงอยากให้เธอเห็นอะไรแบบนี้ด้วย ข้าวทิพย์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ที่ผ่านมาเธอเจ็บยังไม่พอใช่ไหม ..หญิงสาวรับน้ำแก้วที่มิ่งขวัญดื่มเมื่อสักครู่แล้วก็ยกถาดนั้นไปบริการแขกคนอื่นที่อยู่ในงานต่อ

"เสียใจด้วยนะคะ" แขกที่รับน้ำไปเห็นว่าคนที่ยกน้ำมาบริการมีน้ำตา เลยคิดว่าคงเป็นญาติของผู้เสียชีวิต

"..ค่ะ" ข้าวทิพย์รีบบริการน้ำให้กับแขกก่อนที่จะถอยออกมา ทำไมเราถึงมีน้ำตา เราไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้วไม่ใช่เหรอ เขาจะมีใครก็เรื่องของเขาสิ ไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักหน่อย

หญิงสาวรีบจัดการกับความรู้สึกของตัวเองก่อนที่จะออกมาบริการเครื่องดื่มในงานต่อ

"ไปไหนมาเห็นไหมว่าคนอื่นเขายุ่งขนาดไหน"

"ไปเข้าห้องน้ำค่ะ"

"รีบไปเก็บโต๊ะช่วยเขาสิ" พอสวดอภิธรรมเสร็จแขกก็ค่อยๆ ทยอยกันออกจากงาน

"คุณเป็นพนักงานของบริษัทหรือครับ" คนที่นั่งอยู่เก้าอี้ของแขกพิเศษถามเมื่อเห็นว่าเธอมาเก็บแก้ว

"ค่ะ"

"ช่วงหลังพ่อป่วยผมก็เลยไม่ค่อยได้เข้าบริษัท คุณทำงานแผนกไหนหรือครับ"

พ่อป่วย..หรือว่า? เธอรู้ว่าเขามีน้องชายอยู่คนหนึ่ง แต่ไม่เคยเจอ เพราะเขาไม่เคยพาไปบ้าน ข้าวทิพย์เคยเจอพ่อเขาที่มหาวิทยาลัยครั้งหนึ่งตอนยังคบกันอยู่ จำได้ตอนนั้นเธอไหว้ท่านแต่ท่านไม่รับไหว้ และเพียงไม่นานก็ถูกเขาบอกเลิก ถึงแม้เขาจะไม่พูดตรงๆ ว่าเลิกกันเถอะ แต่เขาขอห่างกับเธอสักระยะ จะให้คิดเป็นอื่นไปได้ยังไงนอกจากว่าผู้ชายบอกเลิกทางอ้อม และมันก็เป็นวันเดียวกับที่เธอรู้ว่าตัวเองท้อง ถ้าวันนั้นเธอเป็นคนพูดก่อน ไม่รู้ว่าเขาจะยังพูดเหมือนเดิมไหม แต่พอได้ยินเขาพูดแบบนั้นใครจะกล้าบอกล่ะว่าเขากำลังจะเป็นพ่อคน

"เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปค่ะ" หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่งแล้วก็ตอบคนที่ถาม

"ผู้ช่วยคุณมิ่งขวัญเหรอครับ"

"ค่ะ..ฉันขอตัวนะคะ"

"ใครหรือลูก" แม่ของผู้ชายเมื่อสักครู่เห็นว่าลูกชายคุยกับผู้หญิงที่ช่วยงานอยู่

"เธอเป็นผู้ช่วยของคุณมิ่งขวัญครับแม่"

"อ๋อเหรอจ๊ะ เสร็จงานศพของพ่อแล้ว ลูกก็ไปช่วยงานพี่ที่บริษัทเถอะ"

"คงต้องเป็นแบบนั้นครับ" แผ่นดินก็คือน้องชายคนละแม่กับเขตแดน ทั้งสองอายุห่างกันแค่ปีเดียว แต่ตอนที่พ่อมีแผ่นดินทางภรรยาหลวงไม่มีใครรู้เลย แต่พอแม่ของเขตแดนรับรู้เรื่องนี้ท่านก็ล้มป่วย เขาถึงไม่ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น และพยายามทำทุกทางให้พ่อรักเขามากที่สุด

ข้าวทิพย์ที่กำลังเก็บของอยู่ เดินผ่านอดมองไม่ได้ตอนที่เขานั่งเศร้าอยู่หน้าโลงศพของพ่อ

"ท่านไปสบายแล้วค่ะเขต"

เขาไม่ได้ตอบเธอคนนั้นแต่ทำแค่พยักหน้า และสายตาของเขามองกลับไปด้านหลังเพราะเหมือนว่ามีใครมองอยู่

ดวงตาของทั้งสองสบกันเข้า ในแววตาของเขาเศร้ามากจนเธอรับรู้ได้

"ยืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ รีบเก็บของสิเดี๋ยวก็กลับดึก"

"ค่ะ" ข้าวทิพย์รีบไปทำตามคำสั่ง

ตอนเธอไปแล้วมิ่งขวัญถึงได้มองตามสายตาของเขตแดน ว่าเขามองอะไร และก็เห็นสายตานั้นที่มองตามผู้ช่วยของตัวเอง

"ขวัญถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ"

"ผมยังไม่พร้อมที่จะตอบ"

"ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าพร้อมเมื่อไรขวัญจะถามใหม่"

"ขอบคุณมากนะครับ ที่อยู่ข้างผมตลอด"

"ถ้าวันไหนคุณไม่อยากให้ขวัญอยู่ข้างๆ ก็บอกนะคะ"

"ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้นล่ะ"

"ไม่รู้สิคะ​ หลายปีแล้วนะ...." มิ่งขวัญอยากบอกว่าคนที่รอก็เหนื่อยเป็น แต่เหมือนว่าเขาไม่เปิดใจให้เธอเลย

"เสร็จงานศพพ่อ แล้วค่อยคุยเรื่องนี้กัน" พ่อเขาป่วยอยู่นานมาก เขตแดนพยายามหาหมอที่ดีที่สุดมารักษาพ่อ ท่านถึงได้พยุงอาการมาได้ถึงตอนนี้

"ค่ะ"

"เสร็จนี่ก็กลับบ้านได้เลยนะ" ตอนนี้ทุกคนทยอยออกจากวัดไปแทบจะหมดแล้ว เหลือแค่คนที่เก็บงานช่วยกัน ส่วนเจ้าของงานไม่มีใครอยู่แล้ว

พอแก้วตาสั่งข้าวทิพย์เสร็จก็ออกไปเหมือนกัน

ข้าวทิพย์รีบทำส่วนที่เหลือแล้วก็รีบเดินออกมา เพราะเธอต้องไปเรียกรถ วัดไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ต้องเดินจากวัดมาหน้าปากซอยอีก และเวลานี้ก็ดึกมากแล้ว

ปี๊ดดด

"กรี๊ดดด" หญิงสาวตกใจอยู่ดีๆมอเตอร์ไซค์ก็วิ่งมาด้านหลังแล้วบีบแตร

"ฉันเอง"

"นายทำบ้าอะไร คนตกใจไม่รู้หรือไง"

"แล้วนี่ทำไมเดินออกมา มาช่วยงานเขาไม่ใช่เหรอ"

"ไม่ให้เดินแล้วจะให้เหาะหรือไง"

"อย่ามาพูดเล่นไม่ขำ ดึกๆดื่นๆ ทำไมให้ผู้หญิงเดินออกมาคนเดียว"

"แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่นี่"

"วัดแถวนี้มีไม่กี่วัดหรอกนะ"

"อย่าบอกนะว่านายไปหาวัดอื่นมาก่อนแล้ว"

"อืม! ขึ้นรถ"

ข้าวทิพย์รีบขึ้นนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ พอขึ้นนั่งได้เธอก็โน้มลำตัวลงไปกอดเอวของคนที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่

"เป็นอะไร" แต่แทนที่ฟีฟ่าจะดีใจที่เธอกอดโดยไม่ต้องบอก เขากลับรับรู้ได้ว่าเธอต้องเป็นอะไร

"กลับบ้านเถอะคิดถึงลูก"

"มีใครรังแกไหม"

"ไม่มี"

"ร้องไห้เหรอ" ฟีฟ่าหันกลับมามองคนที่แนบใบหน้าอยู่กับแผ่นหลังของตัวเอง

"ทำเป็นไม่เห็นไม่ได้หรือไง"

"ถ้างั้นก็ร้องเสียให้พอ"

"ไม่ร้องแล้ว กลับบ้านเถอะคิดถึงลูก" หญิงสาวรีบเช็ดน้ำตาออก

"แกนอนหลับไปแล้ว"

"นายมาจากบ้านเหรอ"

"ถ้าไม่มาจากบ้านจะรู้ได้ยังไงว่ามาช่วยงานศพ โทรศัพท์ก็ไม่รู้จักรับ" แต่ตอนที่โทรมาก็พอรู้แหละว่าเธอช่วยงานศพอยู่ยังไงก็ต้องปิดเสียงโทรศัพท์

"ขอบใจนายมากนะ"

"เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหมล่ะ"

"ตอนนี้ยังไม่ได้"

"หือ?" ฟีฟ่าหันมองมาดูคนด้านหลังอีกครั้ง เพราะเขาเริ่มจะมีความหวังแล้ว

"ถ้านายยังไม่ไปฉันจะเดินไปเองแล้วนะ"

"ไปแล้วครับ"

"เลิกงานมาแทนที่จะพักผ่อน ยังขับรถมาตั้งไกล"

"จะบ่นอะไรเนี่ย"

"รู้ไหมว่ามันอันตราย"

"เป็นห่วงเหรอ"

"อืมม!"

แค่นี้มันก็ทำให้อีกคนมีกำลังใจที่จะรอต่อไป..

[บ้านเช่า]

"ค้างที่นี่แหละ มันดึกมากแล้ว"

"ดึกแค่นี้จะเป็นไรไป เดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่"

"ยังจะมาอีกเหรอ"

"มาสิจนกว่าเธอจะใจอ่อน"

"พรุ่งนี้ฉันต้องไปช่วยงานศพที่วัดอีกไม่ต้องมาหรอก"

"นั่นแหละยิ่งต้องมา เดี๋ยวก็เดินออกมาคนเดียวอีก"

เช้าวันต่อมาที่บริษัท..

"เสียใจด้วยนะคะบอส//เสียใจด้วยนะครับบอส" พนักงานคนที่ไม่ได้ไปร่วมงานศพเมื่อคืน เห็นว่า CEO มาที่บริษัทต่างก็แสดงความเสียใจ

"ขอบใจทุกคนมากนะ"

"วันเผาเป็นวันหยุดพวกเราจะไปช่วยงานที่วัดนะคะ"

เขตแดนพยักหน้าให้กับพนักงานก่อนจะเดินไปที่ลิฟต์ วันนี้เขาต้องเข้ามาประชุมงาน เสร็จจากการประชุมถึงจะกลับไปที่วัดต่อ

"สายแล้ว.. รอด้วยค่ะ" หญิงสาวที่รีบสาวเท้าวิ่งเข้ามา มองเห็นว่าลิฟต์กำลังจะปิดลง ก็รีบตะโกนบอกให้คนที่อยู่ด้านในหยุดลิฟต์รอก่อน

และลิฟต์นั้นก็ค่อยๆ ถูกกดให้เปิดออก

"ขอบคุณค่ะ" มัวแต่รีบเธอก็เลยไม่ได้มองว่าใครที่ยืนอยู่ในนี้ แต่พอเข้ามาได้แล้วหญิงสาวถึงได้มองผ่านเงาของกระจก "........." ใบหน้างามแดงขึ้นมาจนเห็นได้ชัด หัวใจเต้นแรง หายใจไม่สะดวก เมื่อรู้ว่าคนที่อยู่ในลิฟต์กับเธออีกคนคือใคร

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ร้ายรัก (พ่อของลูก)   ตอนพิเศษ ฟี ฟ่ า

    ตอนพิเศษ ฟีฟ่า♡มิ่งขวัญหลายเดือนผ่านไป.. หลังจากที่นักรบเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ​ทุกคนก็ยังคงดำเนินชีวิตต่อไป และตอนนี้อายุครรภ์ของมิ่งขวัญก็ 8 เดือนแล้ว"ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องมาทำงานแล้ว" ตอนนี้ฟีฟ่าทำงานแทนมิ่งขวัญได้ทุกอย่างแล้ว เขาไม่อยากให้เธอต้องมานั่งทำงานให้เหนื่อยอีก ..แต่พอเขามาถึงบริษัทมิ่งขวัญก็ตามมา"เหลืออีกตั้งเป็นเดือนกว่าคุณหมอจะนัดคลอด""แต่คุณไม่ค่อยแข็งแรง ผมอยากให้พักผ่อนมากๆ""แต่วันนี้เป็นวันประชุมผู้ถือหุ้นนี่คะ""ผมประชุมแทนได้​ มีอะไรเดี๋ยวผมจะโทรไปหา""ก็ได้ค่ะ ประชุมเสร็จฉันสัญญาว่าจะกลับบ้าน" พูดจบมิ่งขวัญก็เดินไปที่ชั้นเอกสาร เพื่อจะเอาเอกสารไปร่วมประชุม"คุณเป็นอะไร" ฟีฟ่าที่ยืนมองอยู่รีบเข้าไปพยุงเธอไว้เพราะเห็นว่าเธอเอามือมากุมท้อง"สงสัยลูกจะดิ้นแรงไปค่ะ""ไปนั่งก่อน""โอ๊ยย" ทีแรกคิดว่าตัวเองจะกลั้นได้ แต่จังหวะก้าวเท้าก็รู้สึกเจ็บหน่วงขึ้นมา"ขวัญ" ชายหนุ่มช้อนร่างเธอขึ้นมาอุ้มก่อนที่จะพาเดินมาที่ประตูทางออก"เจ็บท้องค่ะ""ผมรู้แล้ว เดี๋ยวผมพาไปโรงพยาบาล""ผู้จัดการเป็นอะไรคะ" พอประตูห้องทำงานเปิดออกคนที่อยู่หน้าห้องก็รีบเข้ามา เพราะเห็นว่

  • ร้ายรัก (พ่อของลูก)   บทที่ 130 ตอนจบ

    "ร้อนจังเลยค่ะ""ร้อน?" ที่เขาสงสัยเพราะในห้องนี้เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบเลยจะเอาอะไรมาร้อน"หรือคุณไม่ร้อนคะ" ยูริถามพร้อมกับค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อที่ใส่อยู่ออก"ร้อนครับ ร้อนมากเลยครับ" เธอนี่ทำให้เขาตื่นเต้นได้ตลอดเวลาเลย ที่เปิดห้องคิดว่าอยากจะคุยกับเธอให้รู้เรื่อง เพราะต้องรีบไปดูห้องจัดเลี้ยง และต้องไปทำอะไรอีกหลายอย่างเลย เพราะงานแต่งกระชั้นชิดเข้ามาแล้ว..แต่ไม่เป็นไรจัดเธอก่อนแล้วกัน"อือ ใจเย็นก่อนสิคะยังไม่อาบน้ำเลย""ไม่ทันแล้ว""อ๊อย" นี่แหละสิ่งที่เธอชอบในตัวเขามากที่สุด เพราะแค่สะกิดเล็กน้อยเขาก็จัดให้แล้ว คนอะไรจะไฟติดง่ายขนาดนี้ต้องขอบคุณพ่อกับแม่ไหมเนี่ยที่แยกทางกัน เพราะถ้าเธอไม่ตามแม่กลับมาคงไม่รู้จักกับผู้ชายคนนี้แน่เลย"อื้อ คุณนักรบไม่ค่ะ" มือเรียวผลักใบหน้าอีกฝ่ายที่ฝังจูบลงเนินน้องสาวให้ออกไปก่อนแต่แรงของเธอหรือจะสู้เขาได้ ชายหนุ่มกดใบหน้าลงไปแล้วก็ใช้แรงดูด"ซี๊ดดด แรงอีกนิดค่ะ" จากที่ห้ามอยู่เมื่อครู่เพราะไม่มั่นใจในตัวเอง แต่พอเจอทั้งปากและลิ้นเข้าไปใครจะไปทนได้ล่ะ สะโพกงามเด้งรับเรียวลิ้นที่แทรกผ่านกลีบร่องเข้ามา"อ๊อยยย เอาอีกค่ะ" ทำไมเขาเก่งขนาดนี้ ท

  • ร้ายรัก (พ่อของลูก)   บทที่ 129

    หลายวันต่อมา.."ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ" เขตแดนพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปรับการ์ดเชิญจากนักรบ"ขอบคุณมากครับ""แล้วนี่เมื่อไรจะกลับมาทำงานได้ล่ะครับเนี่ย" ตั้งแต่วันนั้นนักรบก็ขอลางานเพื่อที่จะจัดเตรียมงานแต่ง เพราะเขาต้องจัดงานก่อนที่พ่อเธอจะเดินทางกลับต่างประเทศ"เรื่องนี้ผมก็อยากจะคุยกับบอสอยู่พอดีเลยครับ""อย่าบอกนะว่า.. ผมยังไม่พร้อมที่จะฟัง" เขตแดนก็พอจะรู้แล้วล่ะ ตอนนี้นักรบเป็นถึงลูกเขยของฮิโรชิเจ้าของบริษัทชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น มีเหรอที่เขาจะยังมาช่วยงานที่นี่อยู่"คุณพ่ออยากให้ผมไปดูแลที่นั่นช่วยลูกสาวของท่านครับ" ที่ประเทศไทยไม่มีอะไรให้เขาต้องห่วง นักรบถึงได้บอกว่าญี่ปุ่นแค่ปากซอย เพราะเขาพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเธอได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหนเขาก็พร้อมที่จะไปอยู่ที่นั่นด้วย"ถ้างั้นผมก็ขอแสดงความยินดีด้วยอีกเรื่องแล้วกัน นี่ผมต้องหาผู้จัดการคนใหม่แล้วเหรอเนี่ย" เพราะผู้จัดการที่พูดได้หลายภาษาแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะหาง่ายๆ แถมยังเข้าได้กับทุกคน"ถ้างั้นผมขอไปแจกการ์ดห้องอื่นก่อนนะครับ" วันนี้เขาเตรียมการ์ดเชิญวันแต่งงานมาให้กับผู้บริหารทุกท่านเลยจนมาถึงห้องสุดท้ายก็

  • ร้ายรัก (พ่อของลูก)   บทที่ 128

    "เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ?""ที่ผมเรียกพ่อมาด้วยเพราะผมอยากจะสู่ขอลูกสาวของท่าน""สู่ขอฉันเหรอ?""ใช่ครับ""ฉันฟังผิดไปหรือเปล่า คุณบอกว่าจะสู่ขอฉันกับพ่อแม่เหรอ?""ยูริ" ยี่หวาต้องห้ามปรามลูกไว้เพราะอาการดีใจออกหน้าออกตามาก"ที่ผมจอดรถ เพราะผมไปซื้อไอ้นี่มาให้คุณ" ชายหนุ่มเปิดกล่องแหวนที่เขาแวะร้านเพชรก่อนที่จะมาที่นี่เพราะว่าเขายังไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย ไม่คิดว่าเธอจะขอแต่งงาน และที่นักรบไม่พูดอะไรเลยเพราะเขาอยากเป็นฝ่ายขอเธอแต่งงานมากกว่า"ทำไมคุณไม่บอกล่ะคะ" ถ้ารู้ว่าเขาไปซื้อแหวนมีเหรอที่เธอจะเรียกแท็กซี่กลับเอง"บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ แต่ผมดันถูกคุณเซอร์ไพรส์กลับ""หึหึ" จากที่ยืนฟังอยู่คนเป็นแม่ก็อดขำไม่ได้ เห็นแล้วล่ะว่าลูกสาวร้องไห้วิ่งเข้ามาในบ้าน แต่ไม่คิดว่าที่ร้องไห้เพราะการเข้าใจผิดกันนี่เองแต่จังหวะที่ยี่หวามีรอยยิ้มฮิโรชิก็แอบมองดูรอยยิ้มนั้นของอดีตภรรยา ตั้งแต่นางจับได้ว่า ท่านนอกใจ ท่านก็ไม่เคยเห็นรอยยิ้มแบบนี้อีกเลย "คุณก็สวมแหวนให้ฉันสิ""สวมแหวนเลยเหรอ" เขายังไม่ทันได้ขอเธอกับพ่อแม่เลย "คุณพ่อกับคุณแม่ว่ายังไงคะ""ถ้ารักกันชอบกันแม่ก็ไม่ห้าม แต่แม่ขออย่างเดียวอย่า

  • ร้ายรัก (พ่อของลูก)   บทที่ 127

    "พ่อเจ็บมากไหมคะ""เจ็บโอ๊ยย" เห็นว่าลูกเป็นห่วงก็เลยอ้อนหน่อยมือเรียวเอื้อมไปแตะหน้าผากของพ่อตรงที่มีผ้าพันแผลแปะอยู่ "ยูริบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเพิ่งมาหาแม่.. ไปหาหมอหรือยังคะ""ยัง""ทำไมไม่ไปให้หมอตรวจดูหน่อย""พ่อไม่เป็นอะไรหรอก แล้วแม่ว่ายังไงบ้าง""แม่จะว่าอะไรล่ะคะยิ่งโกรธเพิ่ม" ประโยคนี้เธอกรอกหางตามองไปดูคนที่พาพ่อไปเที่ยว"อย่าว่าให้แฟนเราเลยพ่อเองต่างหากที่อยากไปดื่ม""ถ้าเขาไม่พาไปพ่อก็ไม่ได้ไปที่นั่น""ผมผิดเองครับ"ยูริตกใจเล็กน้อยที่เขาบอกว่าตัวเองผิด ทั้งๆ ที่ เธอก็พยายามยัดเยียดความผิดให้เขา"ผมว่าเรากลับโรงแรมดีกว่าครับ เดี๋ยวผมจะไปส่ง" ไม่รู้ว่ามีความรู้สึกแบบนี้ได้ยังไง รู้สึกแอบน้อยใจที่เธอดูไม่เป็นห่วงเขาเลย"อีกไม่กี่วันพ่อคงต้องกลับ แต่ก่อนกลับพ่ออยากคุยกับแม่เราก่อน""พ่อจะกลับแล้วหรือคะ" เธอรู้ว่าพ่อต้องดูแลบริษัท พนักงานอีกหลายร้อยชีวิตยังรอท่านกลับไปบริหารงานอยู่"คงต้องกลับ พ่อมาหลายวันแล้ว""พ่อรอยูริอยู่บนรถนะคะ​ เดี๋ยวยูริไปเอาของก่อน" ได้ยินว่าพ่อจะกลับก็รู้สึกใจหาย เลยคิดว่าจะไปส่งท่านที่โรงแรมยูริเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะเธอใส่เสื้อผ้าอยู่บ้าน แล้ว

  • ร้ายรัก (พ่อของลูก)   บทที่ 126

    "มีอะไรอีก" เขตแดนชักจะใจไม่ดีเมื่อเห็นสีหน้าของนักรบที่มองโทรศัพท์ คิดว่ามีคลิปอะไรตามมาอีกพอแน่ใจแล้วนักรบก็ยื่นคลิปที่ทางบาร์ส่งมาให้กับบอสได้ดูด้วย หลังจากที่ดูคลิปนั้นแล้ว ทั้งเขตแดนแผ่นดินและคนที่อยู่ในห้องนั้นมองไปที่จรัญแทบจะพร้อมกัน"พวกคุณมองผมทำไม" จากที่นั่งทำตัวสบายๆ อยู่ก็ชักจะไม่สบายแล้ว"คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร""ผมทำอะไร อย่าบอกนะว่าคุณจะเชื่อคนที่กล่าวหาผม""คุณรู้ว่าผมหมายถึงเรื่องอะไรงั้นเหรอ""ผมยังไม่รู้หรอกแต่สายตาคุณมันฟ้อง""ทางร้านที่คลิปถูกเผยแพร่ ได้ส่งคลิปคนที่เป็นตัวต้นเหตุมาให้""ตัวต้นเหตุ?" จรัญที่นั่งอยู่ถึงกับดันตัวลุกขึ้น "พวกคุณจะรู้ได้ยังไงว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร""ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าเป็นผู้ชาย""ผมแค่เดาเอาก็พวกคุณมองมาที่ผม""คนที่ใส่หมวกสีขาวผมว่าหุ่นคล้ายๆ คุณเลยนะ""ผมไม่เคยใส่หมวกสีขาว""อ้าวเหรอครับแล้วคุณใส่หมวกสีอะไร""สีดำ!" ตอบออกไปถึงรู้ว่าตัวเองเสียรู้แล้ว "คุณมีหลักฐานอะไรมากล่าวหาผม""ถึงแม้อยู่ในร้านคุณจะใส่หมวกใส่แว่นตาดำ แต่ยังมีคลิปหน้าร้านให้ผมได้เห็น ก่อนที่คุณจะสวมสองอย่างนั้น แต่ถึงแม้ไม่มีคลิปหน้าร้านคุณดูละครมากเกินไปหรือเปล่

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status