"แล้วเรื่องโรงเรียนล่ะ ข้าวมีเวลาไปดูหรือยัง"
"ดูก่อนค่ะว่าทางบริษัทที่เข้าไปสมัครวันนี้จะติดต่อมาไหม ถ้าเขาติดต่อมาข้าวก็จะลาออกจากที่นี่ ข้าวจะใช้เวลาตอนนั้นไปสมัครเรียนให้ลูกค่ะ" เพราะตอนนี้อายุของลูกเธอเข้าอนุบาลฝากได้แล้ว จะได้เบาแรงของป้าหน่อย
"ป้าขอโทษนะลูก"
"ป้าขอโทษข้าวทำไมคะ"
"รับหนูมาเลี้ยงแต่ไม่มีสมบัติอะไรไว้ให้เลย"
"ป้าอย่าพูดแบบนี้อีกนะคะ อย่าให้ข้าวรู้สึกผิดมากไปกว่านี้เลย"
"ป้าจะไม่พูดอีก ขอให้ชีวิตเราพบเจอแต่สิ่งดีๆ นะ"
"ขอบพระคุณมากค่ะป้า"
"กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วมากินข้าว"
ข้าวทิพย์โน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มลูกน้อยที่นอนหลับอยู่เบาๆ แม่จะพยายามสู้เพื่อหนูนะลูก แม่จะไม่ท้อเพื่อวันข้างหน้าของหนูจะได้ไม่ต้องลำบากแบบแม่อีก
หญิงสาวรีบเข้าไปในห้องเพราะกลัวว่าป้าจะเห็นน้ำตาของเธอ
วันต่อมา.. ขณะที่ข้าวทิพย์อาบน้ำเตรียมตัวจะไปทำงานก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นที่เครื่องของเธอ
>>{"สวัสดีค่ะ"}
{"ใช่เบอร์โทรของคุณข้าวทิพย์ไหมคะ"}
>>{"ใช่ค่ะ"}
{"โทรจากบริษัทที่คุณมาสมัครงานเมื่อวานนี้นะคะ"}
>>{"คะ..เอ่อ..สวัสดีค่ะ"} เธอไม่คิดว่าเขาจะติดต่อกลับมาเร็วขนาดนี้ หรือว่าเขาจะติดต่อกลับมาบอกว่าเธอไม่ได้งาน แต่ถ้าไม่ได้บริษัทน่าจะเพิกเฉยไปเลย เพราะมันเป็นแบบนี้หลายบริษัทแล้ว
{"วันนี้คุณว่างเข้ามาบริษัทไหมคะ"}
>>{"วันนี้เลยหรือคะ?"}
{"คุณสะดวกไหมคะ"}
>>{"สะดวกค่ะ"}
"มีอะไรเหรอลูก" ป้าสุนีย์เห็นหลานสาววางสายไปก็เลยถามดู
"บริษัทที่ข้าวพูดให้ป้าฟังเมื่อวานนี้ค่ะ เขาโทรมาให้ข้าวเข้าไปคุย"
ได้ยินหลานพูดแบบนั้นคนเป็นป้าถึงกับพนมมือยกขึ้นเหนือหัว ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้หลานได้งานนี้ เพราะงานที่หลานสาวทำอยู่หนักมากแถมเพื่อนร่วมงานก็ปากไม่ดีด้วย ถึงแม้นานๆ ทีข้าวทิพย์จะเล่าให้ฟัง แต่ป้ารู้ว่าหลานต้องเจอแบบนั้นทุกวันแน่
"ป้าว่าเราโทรไปลาออกจากงานที่เดิมเถอะ"
"ยังไม่ได้หรอกค่ะ ต้องไปดูก่อนว่าเขาจะรับเข้าทำงานไหม"
หญิงสาวรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูเหมาะสมกับบริษัทใหญ่โตแบบนั้น ก่อนที่จะเรียกแท็กซี่ออกมา
[บริษัทอภินันท์กรุ๊ป]
"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อข้าวทิพย์ ทางบริษัทติดต่อไปให้เข้ามาพบค่ะ"
"ไปที่ฝ่ายบุคคลได้เลยค่ะ"
"ขอบคุณค่ะ" ข้าวทิพย์รู้ว่าแผนกฝ่ายบุคคลอยู่ที่ไหนเพราะเมื่อวานมาสมัครงานก็ไปที่นั่น
แผนกฝ่ายบุคคล..
"สวัสดีค่ะ"
"มาแล้วเหรอ"
"ค่ะ..ที่พี่โทรไป.."
"เข้าไปพบผู้จัดการฝ่ายบุคคลเลยนะ"
"ค่ะ" เราได้งานนี้ใช่ไหม เราต้องได้สิถึงให้เข้าไปพบผู้จัดการ
ก๊อก ก๊อก
"เข้ามาครับ"
"สวัสดีค่ะฉันชื่อข้าวทิพย์"
"คุณเองเหรอ"
"ค่ะ" เมื่อวานนี้เธอมายื่นใบสมัครกับฝ่ายบุคคลไม่ได้พบผู้จัดการ
"นั่งก่อนสิ"
"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวเดินเข้าไปนั่งแบบประหม่า
"ตำแหน่งที่คุณสมัครยังไม่ว่าง"
"คะ?" ยังไม่ว่างแล้วเขาเรียกเรามาทำไม
"แต่มันมีอยู่ตำแหน่งหนึ่งที่ว่าง"
"ค่ะ"
"ผู้ช่วยผู้จัดการ"
"คะ?" หูฝาดไปหรือเปล่า วุฒิการศึกษาของเธอคงไม่ถึงผู้ช่วยผู้จัดการมั้ง
"พอดีว่าทางเราต้องการผู้ช่วยผู้จัดการด่วน คุณก็เข้ามาสมัครพอดี"
"ผู้ช่วยของคุณเหรอคะ" เพราะคนนี้ก็มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการ
"เปล่าหรอกผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป"
"ผู้จัดการทั่วไป..เอ่อ..ค่ะ" ยังไงก็ตอบรับไว้ก่อน ถ้าได้งานนี้เธอก็จะทำให้ถึงที่สุด
"พรุ่งนี้มาทำงานเลย"
"คะ?" เธอต้องตกใจอันไหนก่อนเนี่ย
"ยังไม่พร้อมมาทำงานเหรอ"
"ปะ..เปล่าค่ะ ฉันต้องเตรียมอะไรไหมคะ" หรือว่าพวกเขายังไม่ดูวุฒิการศึกษาของเธอที่ยื่นสมัครมา เพราะข้าวทิพย์มีแค่วุฒิการศึกษามัธยมตอนปลาย
"ก็แต่งตัวให้เรียบร้อยพอ"
"ค่ะ..." ไม่ใช่ว่ารับเข้าทำงานแล้วไล่เราออกทีหลังนะ
ข้าวทิพย์ออกมาจากบริษัทแบบงงๆ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป เขาไม่ต้องการวุฒิการศึกษาสูงๆ กันเหรอ ถ้าเป็นพนักงานหรือแม่บ้านก็ว่าไปอย่าง
พรุ่งนี้ต้องเริ่มทำงาน วันนี้เราต้องไปหาโรงเรียนให้ลูกก่อน จะมัวคิดเรื่องพวกนี้ไม่ได้แล้ว เพราะถ้าได้ทำงานที่บริษัทใหญ่แบบนี้คงหาเวลาได้ยากแน่
แต่ก่อนอื่นเธอต้องไปยื่นใบลาออก เพราะถ้าไม่ลาออกเงินที่ทำค้างไว้จะไม่ได้
[บริษัทเดิมที่เธอทำงานอยู่]
"ทำไมเงินที่ทำค้างจะไม่ได้ล่ะคะ"
"เธอไม่ดูกฎของบริษัทเหรอ ต้องยื่นใบลาออกก่อน 30 วัน"
"แต่ฉันจำเป็น"
"จำเป็นยังไง พ่อตาย แม่ป่วยติดเตียง หรือลูก..."
"หยุดนะ!" เธอรีบพูดหยุดก่อนที่อีกฝ่ายจะแช่งถึงลูกเธอ "ไม่ให้ก็ไม่เอา" รู้แบบนี้ไม่เข้ามาลาออกก็ดี คิดว่าบริษัทจะเห็นใจบ้าง
ข้าวทิพย์ออกมาจากที่นั่นก็นั่งแท็กซี่ตระเวนหาโรงเรียนอนุบาล ที่คิดว่าใกล้ที่พักหรือไม่ก็ใกล้ที่ทำงานใหม่
[บ้านเช่า]
"ดีใจกับเราด้วยนะ ตั้งใจทำงานให้เจ้านายเขารักนะลูก"
"ขอบคุณค่ะป้า"
"เรื่องโรงเรียนป้าว่ามันไกลไปไหม"
"ที่อื่นมีแต่แพงๆ ทั้งนั้นเลยค่ะป้า ที่นี่ดีหน่อยค่าเรียนไม่แพงมากแถมยังอยู่ใกล้ที่ทำงานใหม่ของข้าวด้วยค่ะ"
"ถ้างั้นวันหลังเราค่อยหาที่พักใหม่ให้ใกล้ที่ทำงานของเราหน่อย"
"ค่ะ" ต้องหาที่พักใหม่อีกแล้วเหรอ ข้าวทิพย์หายใจเข้าลึกๆ เธอจะพยายามทำงานที่นี่ให้ดีที่สุด หาเงินสักก้อนเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งเพื่อลูกเพื่อป้าให้ได้
ตอนพิเศษ ฟีฟ่า♡มิ่งขวัญหลายเดือนผ่านไป.. หลังจากที่นักรบเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศทุกคนก็ยังคงดำเนินชีวิตต่อไป และตอนนี้อายุครรภ์ของมิ่งขวัญก็ 8 เดือนแล้ว"ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องมาทำงานแล้ว" ตอนนี้ฟีฟ่าทำงานแทนมิ่งขวัญได้ทุกอย่างแล้ว เขาไม่อยากให้เธอต้องมานั่งทำงานให้เหนื่อยอีก ..แต่พอเขามาถึงบริษัทมิ่งขวัญก็ตามมา"เหลืออีกตั้งเป็นเดือนกว่าคุณหมอจะนัดคลอด""แต่คุณไม่ค่อยแข็งแรง ผมอยากให้พักผ่อนมากๆ""แต่วันนี้เป็นวันประชุมผู้ถือหุ้นนี่คะ""ผมประชุมแทนได้ มีอะไรเดี๋ยวผมจะโทรไปหา""ก็ได้ค่ะ ประชุมเสร็จฉันสัญญาว่าจะกลับบ้าน" พูดจบมิ่งขวัญก็เดินไปที่ชั้นเอกสาร เพื่อจะเอาเอกสารไปร่วมประชุม"คุณเป็นอะไร" ฟีฟ่าที่ยืนมองอยู่รีบเข้าไปพยุงเธอไว้เพราะเห็นว่าเธอเอามือมากุมท้อง"สงสัยลูกจะดิ้นแรงไปค่ะ""ไปนั่งก่อน""โอ๊ยย" ทีแรกคิดว่าตัวเองจะกลั้นได้ แต่จังหวะก้าวเท้าก็รู้สึกเจ็บหน่วงขึ้นมา"ขวัญ" ชายหนุ่มช้อนร่างเธอขึ้นมาอุ้มก่อนที่จะพาเดินมาที่ประตูทางออก"เจ็บท้องค่ะ""ผมรู้แล้ว เดี๋ยวผมพาไปโรงพยาบาล""ผู้จัดการเป็นอะไรคะ" พอประตูห้องทำงานเปิดออกคนที่อยู่หน้าห้องก็รีบเข้ามา เพราะเห็นว่
"ร้อนจังเลยค่ะ""ร้อน?" ที่เขาสงสัยเพราะในห้องนี้เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบเลยจะเอาอะไรมาร้อน"หรือคุณไม่ร้อนคะ" ยูริถามพร้อมกับค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อที่ใส่อยู่ออก"ร้อนครับ ร้อนมากเลยครับ" เธอนี่ทำให้เขาตื่นเต้นได้ตลอดเวลาเลย ที่เปิดห้องคิดว่าอยากจะคุยกับเธอให้รู้เรื่อง เพราะต้องรีบไปดูห้องจัดเลี้ยง และต้องไปทำอะไรอีกหลายอย่างเลย เพราะงานแต่งกระชั้นชิดเข้ามาแล้ว..แต่ไม่เป็นไรจัดเธอก่อนแล้วกัน"อือ ใจเย็นก่อนสิคะยังไม่อาบน้ำเลย""ไม่ทันแล้ว""อ๊อย" นี่แหละสิ่งที่เธอชอบในตัวเขามากที่สุด เพราะแค่สะกิดเล็กน้อยเขาก็จัดให้แล้ว คนอะไรจะไฟติดง่ายขนาดนี้ต้องขอบคุณพ่อกับแม่ไหมเนี่ยที่แยกทางกัน เพราะถ้าเธอไม่ตามแม่กลับมาคงไม่รู้จักกับผู้ชายคนนี้แน่เลย"อื้อ คุณนักรบไม่ค่ะ" มือเรียวผลักใบหน้าอีกฝ่ายที่ฝังจูบลงเนินน้องสาวให้ออกไปก่อนแต่แรงของเธอหรือจะสู้เขาได้ ชายหนุ่มกดใบหน้าลงไปแล้วก็ใช้แรงดูด"ซี๊ดดด แรงอีกนิดค่ะ" จากที่ห้ามอยู่เมื่อครู่เพราะไม่มั่นใจในตัวเอง แต่พอเจอทั้งปากและลิ้นเข้าไปใครจะไปทนได้ล่ะ สะโพกงามเด้งรับเรียวลิ้นที่แทรกผ่านกลีบร่องเข้ามา"อ๊อยยย เอาอีกค่ะ" ทำไมเขาเก่งขนาดนี้ ท
หลายวันต่อมา.."ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ" เขตแดนพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปรับการ์ดเชิญจากนักรบ"ขอบคุณมากครับ""แล้วนี่เมื่อไรจะกลับมาทำงานได้ล่ะครับเนี่ย" ตั้งแต่วันนั้นนักรบก็ขอลางานเพื่อที่จะจัดเตรียมงานแต่ง เพราะเขาต้องจัดงานก่อนที่พ่อเธอจะเดินทางกลับต่างประเทศ"เรื่องนี้ผมก็อยากจะคุยกับบอสอยู่พอดีเลยครับ""อย่าบอกนะว่า.. ผมยังไม่พร้อมที่จะฟัง" เขตแดนก็พอจะรู้แล้วล่ะ ตอนนี้นักรบเป็นถึงลูกเขยของฮิโรชิเจ้าของบริษัทชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น มีเหรอที่เขาจะยังมาช่วยงานที่นี่อยู่"คุณพ่ออยากให้ผมไปดูแลที่นั่นช่วยลูกสาวของท่านครับ" ที่ประเทศไทยไม่มีอะไรให้เขาต้องห่วง นักรบถึงได้บอกว่าญี่ปุ่นแค่ปากซอย เพราะเขาพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเธอได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหนเขาก็พร้อมที่จะไปอยู่ที่นั่นด้วย"ถ้างั้นผมก็ขอแสดงความยินดีด้วยอีกเรื่องแล้วกัน นี่ผมต้องหาผู้จัดการคนใหม่แล้วเหรอเนี่ย" เพราะผู้จัดการที่พูดได้หลายภาษาแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะหาง่ายๆ แถมยังเข้าได้กับทุกคน"ถ้างั้นผมขอไปแจกการ์ดห้องอื่นก่อนนะครับ" วันนี้เขาเตรียมการ์ดเชิญวันแต่งงานมาให้กับผู้บริหารทุกท่านเลยจนมาถึงห้องสุดท้ายก็
"เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ?""ที่ผมเรียกพ่อมาด้วยเพราะผมอยากจะสู่ขอลูกสาวของท่าน""สู่ขอฉันเหรอ?""ใช่ครับ""ฉันฟังผิดไปหรือเปล่า คุณบอกว่าจะสู่ขอฉันกับพ่อแม่เหรอ?""ยูริ" ยี่หวาต้องห้ามปรามลูกไว้เพราะอาการดีใจออกหน้าออกตามาก"ที่ผมจอดรถ เพราะผมไปซื้อไอ้นี่มาให้คุณ" ชายหนุ่มเปิดกล่องแหวนที่เขาแวะร้านเพชรก่อนที่จะมาที่นี่เพราะว่าเขายังไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย ไม่คิดว่าเธอจะขอแต่งงาน และที่นักรบไม่พูดอะไรเลยเพราะเขาอยากเป็นฝ่ายขอเธอแต่งงานมากกว่า"ทำไมคุณไม่บอกล่ะคะ" ถ้ารู้ว่าเขาไปซื้อแหวนมีเหรอที่เธอจะเรียกแท็กซี่กลับเอง"บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ แต่ผมดันถูกคุณเซอร์ไพรส์กลับ""หึหึ" จากที่ยืนฟังอยู่คนเป็นแม่ก็อดขำไม่ได้ เห็นแล้วล่ะว่าลูกสาวร้องไห้วิ่งเข้ามาในบ้าน แต่ไม่คิดว่าที่ร้องไห้เพราะการเข้าใจผิดกันนี่เองแต่จังหวะที่ยี่หวามีรอยยิ้มฮิโรชิก็แอบมองดูรอยยิ้มนั้นของอดีตภรรยา ตั้งแต่นางจับได้ว่า ท่านนอกใจ ท่านก็ไม่เคยเห็นรอยยิ้มแบบนี้อีกเลย "คุณก็สวมแหวนให้ฉันสิ""สวมแหวนเลยเหรอ" เขายังไม่ทันได้ขอเธอกับพ่อแม่เลย "คุณพ่อกับคุณแม่ว่ายังไงคะ""ถ้ารักกันชอบกันแม่ก็ไม่ห้าม แต่แม่ขออย่างเดียวอย่า
"พ่อเจ็บมากไหมคะ""เจ็บโอ๊ยย" เห็นว่าลูกเป็นห่วงก็เลยอ้อนหน่อยมือเรียวเอื้อมไปแตะหน้าผากของพ่อตรงที่มีผ้าพันแผลแปะอยู่ "ยูริบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเพิ่งมาหาแม่.. ไปหาหมอหรือยังคะ""ยัง""ทำไมไม่ไปให้หมอตรวจดูหน่อย""พ่อไม่เป็นอะไรหรอก แล้วแม่ว่ายังไงบ้าง""แม่จะว่าอะไรล่ะคะยิ่งโกรธเพิ่ม" ประโยคนี้เธอกรอกหางตามองไปดูคนที่พาพ่อไปเที่ยว"อย่าว่าให้แฟนเราเลยพ่อเองต่างหากที่อยากไปดื่ม""ถ้าเขาไม่พาไปพ่อก็ไม่ได้ไปที่นั่น""ผมผิดเองครับ"ยูริตกใจเล็กน้อยที่เขาบอกว่าตัวเองผิด ทั้งๆ ที่ เธอก็พยายามยัดเยียดความผิดให้เขา"ผมว่าเรากลับโรงแรมดีกว่าครับ เดี๋ยวผมจะไปส่ง" ไม่รู้ว่ามีความรู้สึกแบบนี้ได้ยังไง รู้สึกแอบน้อยใจที่เธอดูไม่เป็นห่วงเขาเลย"อีกไม่กี่วันพ่อคงต้องกลับ แต่ก่อนกลับพ่ออยากคุยกับแม่เราก่อน""พ่อจะกลับแล้วหรือคะ" เธอรู้ว่าพ่อต้องดูแลบริษัท พนักงานอีกหลายร้อยชีวิตยังรอท่านกลับไปบริหารงานอยู่"คงต้องกลับ พ่อมาหลายวันแล้ว""พ่อรอยูริอยู่บนรถนะคะ เดี๋ยวยูริไปเอาของก่อน" ได้ยินว่าพ่อจะกลับก็รู้สึกใจหาย เลยคิดว่าจะไปส่งท่านที่โรงแรมยูริเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะเธอใส่เสื้อผ้าอยู่บ้าน แล้ว
"มีอะไรอีก" เขตแดนชักจะใจไม่ดีเมื่อเห็นสีหน้าของนักรบที่มองโทรศัพท์ คิดว่ามีคลิปอะไรตามมาอีกพอแน่ใจแล้วนักรบก็ยื่นคลิปที่ทางบาร์ส่งมาให้กับบอสได้ดูด้วย หลังจากที่ดูคลิปนั้นแล้ว ทั้งเขตแดนแผ่นดินและคนที่อยู่ในห้องนั้นมองไปที่จรัญแทบจะพร้อมกัน"พวกคุณมองผมทำไม" จากที่นั่งทำตัวสบายๆ อยู่ก็ชักจะไม่สบายแล้ว"คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร""ผมทำอะไร อย่าบอกนะว่าคุณจะเชื่อคนที่กล่าวหาผม""คุณรู้ว่าผมหมายถึงเรื่องอะไรงั้นเหรอ""ผมยังไม่รู้หรอกแต่สายตาคุณมันฟ้อง""ทางร้านที่คลิปถูกเผยแพร่ ได้ส่งคลิปคนที่เป็นตัวต้นเหตุมาให้""ตัวต้นเหตุ?" จรัญที่นั่งอยู่ถึงกับดันตัวลุกขึ้น "พวกคุณจะรู้ได้ยังไงว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร""ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าเป็นผู้ชาย""ผมแค่เดาเอาก็พวกคุณมองมาที่ผม""คนที่ใส่หมวกสีขาวผมว่าหุ่นคล้ายๆ คุณเลยนะ""ผมไม่เคยใส่หมวกสีขาว""อ้าวเหรอครับแล้วคุณใส่หมวกสีอะไร""สีดำ!" ตอบออกไปถึงรู้ว่าตัวเองเสียรู้แล้ว "คุณมีหลักฐานอะไรมากล่าวหาผม""ถึงแม้อยู่ในร้านคุณจะใส่หมวกใส่แว่นตาดำ แต่ยังมีคลิปหน้าร้านให้ผมได้เห็น ก่อนที่คุณจะสวมสองอย่างนั้น แต่ถึงแม้ไม่มีคลิปหน้าร้านคุณดูละครมากเกินไปหรือเปล่