ตกเย็นวันหนึ่งหลังเลิกเรียน
ชะเอมเดินกลับบ้านตามปกติ บ้านของเธออยู่ห่างจากมหาลัยไม่มากเธอเลยใช้วิธีการเดินไปกลับเอา เพราะมันสะดวกสบายกว่า แต่ก่อนถึงซอยเลี้ยวเข้าบ้านเธอต้องเดินผ่านป่าที่มันเปลี่ยว และที่สำคัญกลางคืนชอบมีวัยรุ่นมามั่วสุมกันแถวนี้ด้วย
ขณะที่กำลังเดินกลับอยู่นั้น สิ่งที่เธอไม่อยากเจอและไม่อยากเสวนาด้วยเลยก็คือ กลุ่มวัยรุ่นที่มักจะจอดรถมอเตอร์ไซค์ใต้ร่มไม้และมั่วสุมสูบบุหรี่หรือแม้กระทั่งยาเสพติดด้วยกัน เธอพยายามทำเหมือนมองไม่เห็น และเดินผ่านไปอย่างเงียบๆ แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความที่แต่งชุดนักศึกษาเดินผ่านก็เหมือนแสงสีขาวท่ามกลางความมืด ทุกสายตาที่เกาะกันเป็นกลุ่มพากันมองเธอเป็นสายตาเดียว ก่อนที่จะมีวัยรุ่นหนึ่งในนั้นพูดขึ้นมา
"เดินคนเดียวแบบนี้...อันตรายนะครับน้อง"
ชะเอมสะดุ้งแต่ก็พยายามทำตัวปกติและรีบเดินให้เร็วที่สุด พยายามไม่แสดงความกลัว แต่เสียงในอกเต้นแรงไม่หยุด
หนึ่งในวัยรุ่นกลุ่มนั้นดีดตัวลงมาจากเบาะรถมอเตอร์ไซค์ และเดินขึ้นมาบนถนนตรงที่เธอกำลังเดินอยู่
"จะรีบไปไหนคนสวย" มันฉวยโอกาสคว้าแขนของเธอเอาไว้ แต่สัญชาตญาณของเธอก็ไวเหมือนกันเพราะทันทีที่ถูกลวนลาม เธอก็รีบสะบัดแขนออกเลยในทันที
"อย่ามายุ่งกับฉัน!!" เธอตะโกนเสียงดังแต่ก็สั่นเครือเพราะความกลัว
"อย่าเสียงดังสิครับพี่กลัว ไปนั่งเล่นในป่ากับพวกพี่ก่อนไหม สนุกนะ"
พอเห็นสีหน้าของชะเอมพวกนั้นหัวเราะเยาะเหมือนกำลังเล่นสนุกกับของเล่น
"ว่าไงครับ ไม่ไปด้วยกันจริงๆ หรอ"
"ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้านี่!"
"เข้าไปนั่งเล่นกับพวกเราก่อนสิ เดี๋ยวมีอะไรสนุกๆ ให้ทำ แบบว่า..."
ผัวะ!
เสียงหมัดกระแทกอย่างจัง ร่างของผู้ชายคนนั้นกระเด็นไปกองกับพื้นทันที ต่อหน้าต่อตาของชะเอม เธอปรับอารมณ์ไม่ทันเหมือนกัน ทั้งกลัวทั้งตกใจ แต่ก็รู้สึกอุ่นใจที่เห็นว่าคนนั้นเป็นใคร
"ถอย" เขาบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ
ชายหนุ่มในเสื้อฮู้ดสีดำ ใบหน้าดุ ดวงตาคมกริบเหมือนมีด ไทเธย์ รุ่นพี่คณะวิศวะกรรมที่ชะเอมกำลังตามจีบอย่างหนักหน่วง แต่ก็โดนเขาปฏิเสธกลับทุกครั้งเช่นกัน
แต่ทว่าตอนนี้เขายืนอยู่ตรงหน้าของเธอ ร่างสูงใหญ่ขวางไว้ระหว่างเธอกับพวกนั้น
"มึงเป็นใครวะ!"
พวกนั้นตะโกนใส่พร้อมกับวิ่งเข้ามากะว่าจะรุมเหมือนหมาหมู่ แต่ไม่ทันได้ขยับ ไทเธย์ก็พุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็วราวกับพายุ ลูกเตะ หมัด และการเคลื่อนไหวเฉียบคม ทำให้กลุ่มนั้นแทบไม่มีทางสู้
พวกมันล้มระเนระนาด และหนีไปในที่สุด ทิ้งไว้เพียงความเงียบสงัดดังเดิม ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่
"ทำไมเดินกลับทางนี้?" เขาถามเสียงเรียบ ไม่มองหน้าเธอแต่กลับมองบรรยากาศรอบๆ ตัวแทน
"รุ่นพี่ไท..."
"มันเปลี่ยวไม่ใช่หรือไง?" เขาถอนหายใจเบาๆ เพราะเห็นเธอยังกลัวอยู่ สีหน้าซีดเผือดไปหมด
"บ้านของเอมอยู่ในซอยตรงนั้นค่ะ"
"ทำไมไม่นั่งรถกลับ?"
"มันใกล้แค่นี้เอง ก็เลย..."
"ต่อไปถ้ายังเดินคนเดียว ฉันจะไม่ช่วยอีกแล้ว"
"ละ แล้วจะให้เอมกลับกับใครล่ะ ก็บ้านเอมอยู่ในซอยนี้คนเดียวนี่"
"ฉันจะไปรู้ด้วยไหม ต่อไปก็ขับรถมาละกัน"
พูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไป ทิ้งให้เธอยืนอยู่คนเดียวพร้อมกับหัวใจที่ยังเต้นรัว แต่เธอก็ไม่ได้กลัวอะไรมากแล้วแหละ เพราะพวกนั้นคงไม่ย้อนกลับมาอีก ถ้าพวกมันกลับมาก็คงจะโดนซ้อมอีกรอบ
ชะเอมยืนมองเจ้าของแผ่นหลังกว้างที่เพิ่งจะเข้ามาช่วยเธอเมื่อครู่นี้ เขามาจากไหนก็ไม่รู้ เธอไม่รู้ตัวเลย และก็เข้ามาช่วยแบบความเร็วแสง
เขาไม่อ่อนโยน เขาไม่เคยยิ้มให้ แต่พอตกอยู่ในอันตรายเขามาช่วยโดยไม่ลังเลเลย และนั่นแหละ มันทำให้เธอชอบเขามากกว่าเดิมอีก
"รุ่นพี่ไท เมื่อกี้โคตรเท่เลยค่ะ"
***************
#วันถัดมา
ใต้ตึกคณะวิศวะกรรม
ชะเอมยืนรอไทเธย์อยู่ที่หน้าตึกคณะ จนกระทั่งเห็นเขาเดินมาจากไกลๆ เธอก็รีบเดินเข้าไปหาในทันทีเพราะร้อนใจ จะรอให้เขาเดินมาถึงเองคงขาดใจก่อน
"สวัสดีค่ะรุ่นพี่ไทเธย์"
"มีอะไรอีก?"
"เอ่อ ขอบคุณเรื่องเมื่อวานนะคะ ขอบคุณที่ช่วยเอม"
"อืม..."
เธอเม้มปาก รู้สึกเหมือนกำลังยืนคุยกับต้นไม้ต้นใหญ่และสูงเด่นอยู่เลย
"แค่นี้ใช่ไหม?"
"คือจริงๆ แล้ว เอมไม่ได้อ่อนแอนะ"
"แล้ว?"
"ถ้าไม่ติดว่าพวกนั้นมีหลายคน เอมก็สู้ได้อยู่แล้ว" เธอพูดด้วยท่าทางที่มั่นใจ
"หรอ" เขาตอบสั้นๆ แค่นั้น แต่แฝงแววประชดนิดๆ
"จริงๆ นะคะ เอมพูดจริงๆ เอมสู้ได้"
"ฮึ!" ไทเธย์ยิ้มเย้ยดูเหมือนกำลังดูถูกคำพูดของเธอ
"เมื่อวานฉันเห็นเธอร้องไห้ ตัวสั่น พูดแทบไม่ออก แบบไหนที่เรียกว่าสู้ได้"
เสียงเขานิ่งเรียบแต่คมกริบ เหมือนมีดเฉือนใจ
"เอ่อ..."
"แบบนั้นเหรอที่เรียกว่า เก่ง?"
ชะเอมหน้าชา ใจวูบวาบ เหมือนคำพูดของเขาฟาดแรงกว่าใครต่อยเธอเสียอีก
"กะ ก็ ก็แค่ตกใจ อยู่ในสถานการณ์แบบนั้น เป็นใครก็ตกใจอยู่แล้ว"
"งั้นหรอ"
"อื้อ จริงๆ นะคะ"
"....."
"ไม่เชื่อ?" เธอเลิกคิ้วถามคนตัวสูงกว่า
"คนแบบเธอ มีอะไรให้น่าเชื่อถือบ้าง คำพูดก็เล่นหัวจนไม่มีอะไรเชื่อได้"
"....." เหมือนถูกชกหน้าแรงๆ ตามด้วยตบซ้ำ จากนั้นก็กระชากหัวอีก และก็ทำอีกหลายๆ อย่าง เธอรู้สึกแบบนั้นเลย
"ต่อไปก็อย่าพูดอะไรที่ตัวเองทำไม่ได้"
เขาเว้นจังหวะ ก่อนพูดอีกครั้งด้วยเสียงเบากว่าเดิมเล็กน้อยเหมือนกระซิบพูด
"มันน่าอาย"
"รุ่นพี่ไท!"
"ถ้ารู้ว่าต้องกลับบ้านแล้วเจอพวกมันอีก ก็รู้จักหาวิธีป้องกันซะ ไม่มีใครช่วยเธอไปได้ตลอดหรอก"
"ก็มันมีทางเดียวนี่"
"นั่งวินมอเตอร์ไซค์เข้าไปสิ"
"เป็นห่วงหรอ"
"เปล่า ไม่ได้ห่วง ก็แค่ขี้เกียจทำใบสมาชิกในชมรมใหม่ มันเสียเวลาน่ะ"
และจากนั้นเขาก็เดินจากไป ทิ้งเธอไว้กับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
แม้จะเจ็บจากคำพูด แต่เธอก็รู้ดีว่ามันคือความห่วงแบบเงียบๆ
"จุๆๆ ปากร้ายไม่เปลี่ยนเลย" ชะเอมทำเสียงเหมือนจิ้งจกร้องทัก ยืนมองรุ่นพี่ที่กำลังเดินเข้าไปในตึกคณะ ยิ่งได้รู้จักก็ยิ่งรู้ว่าเขาปากโคตรจัดเลย ถึงจะไม่เคยมีคำหยาบ แต่ทุกคำที่พูดออกมาก็เล่นเอาหน้าชาไปเลยเหมือนกัน
ณ ที่ดินทางภาคเหนือ สายลมอ่อนๆ พัดมาพร้อมกับกลิ่นหอมๆ ของธรรมชาติ มันเป็นกลิ่นที่เธออธิบายไม่ถูกเลย แต่มันดีมาก สดชื่นและทำให้รู้สึกโล่งสบายปอดแบบที่สุดเลย เพราะที่นี่กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้าง ทั้งสองเลยต้องแวะเวียนมาดูอยู่บ่อยๆ อีกไม่นานบ้านหลังแรกของทั้งสองก็จะได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ช่วงเวลาหนึ่งถ้าได้มีลูกกันและลูกได้เติบโตขึ้น คนเป็นพ่อแม่ก็คงได้ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ ใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายชีวิตอยู่ด้วยกัน "พี่ไทคะ.." "หืม?" เขาเดินเข้ามาหา "พี่คิดว่า บ้านของเราจะเป็นยังไงคะ" "ก็คงสวย น่าอยู่มากเลยแหละ" "เอมอยากเห็นเร็วๆ จัง""เราน่ะ เก่งมากเลยนะ รู้ไหม" คำชมเรียบๆ จากเสียงทุ้มต่ำอาจฟังดูธรรมดาสำหรับใครหลายคน แต่ชะเอมรู้ดี ว่ามันเต็มไปด้วยความภูมิใจที่เขาไม่ค่อยจะแสดงออกมาให้เห็น เธอทำงานตำแหน่งการออกแบบในบริษัท นี่เป็นครั้งแรกที่เธอออกแบบบ้านให้กับตัวเอง และสร้างมันขึ้นมาจริงๆ ตามแบบที่ตัวเองคิดขึ้นมา "มันเป็นความฝันของเอมเลยนะ ก่อนจะได้ออกมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว ขอใช้ความสามารถของตัวเองหน่อยก็แล้วกัน" "เก่งมาก" "ตอนเด็กๆ เคยคิดว่า สักวันจะออกแบบบ้านให้กับตัวเอง ให้กับพ่อแม่ เ
#หลายเดือนต่อมา ช่วงชีวิตหลังแต่งงาน ชะเอมย้ายมาอยู่ที่คอนโดของไทเธย์อย่างเต็มตัว และออกไปทำงานพร้อมกับเขาในตอนเช้าของทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังทำงานอยู่ตำแหน่งเดิม และรับเงินเดือนเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านั้น บางวันหลังเลิกงานที่บริษัทเขาก็จะต้องไปทำงานต่อที่คลับอีก ดูวุ่นวายไม่ใช่น้อยเลย เมื่อก่อนเธอไม่ได้อยู่ใกล้กับเขาก็เลยไม่รู้ว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง แต่พอได้มาอยู่กับเขามีเวลาอยู่ด้วยกันแทบจะ 24 ชั่วโมง เธอถึงได้รู้ว่าเขาแทบจะไม่มีเวลาว่างเลย วันหนึ่งหลังเลิกงานไทเธย์ขับรถมาส่งภรรยาที่คอนโด ก่อนที่เขาจะออกไปทำงานที่คลับต่อ ซึ่งเขาก็บอกว่าไปจัดการธุระแค่พักเดียว เดี๋ยวค่ำๆ ก็จะกลับมากินข้าวตอนเย็นกับเธอเช่นเคย ติ๊ด ~ แกร๊ก ~ ชะเอมได้ยินเสียงปลดล็อคประตูพร้อมกับเสียงเปิดประตูเข้ามา เธอรู้ว่าเป็นใครก็เลยไม่ได้ออกไปดู เพราะมีแค่เธอกับเขาที่รู้รหัสและมีคีย์การ์ดของคอนโด "ฟอด!" "อ๊ะ! ตกใจหมดเลย เข้ามาทำอะไรคะ?" เธอรู้ว่าเขากลับเข้ามาแล้ว แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะเดินเข้ามาในนี้ และก็ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้จนเธอตกใจ "เข้ามาหอมแก้มไง" "เดี๋ยวเสื้อเหม็นนะคะ ออกไปข้างน
#ผ่านมาอีกหนึ่งปี วันเกิดของชะเอม ช่วงเวลามันผ่านไปเร็วมากๆ เลย ราวกับว่าเราแค่หลับตาลืมตาขึ้นมาอีกทีก็ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว เวลาเปลี่ยนแปลงไปทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน แต่สิ่งที่ยังอยู่คงเดิมก็คือความรักที่ทั้งสองมีให้กันไม่เคยลดน้อยลงหรือเปลี่ยนแปลงไปเลย วันเกิดปีนี้ไม่เหมือนกับปีอื่นๆ เพราะไม่ได้จัดใหญ่โตเหมือนเช่นเคย เพื่อนๆ บางคนก็ติดงานมาอวยพรวันเกิดต่อหน้าไม่ได้ ชะเอมก็เลยไม่ได้จัดงานอะไร เพราะเกรงใจเพื่อนๆ จะมีก็แต่เป่าเค้กและจัดปาร์ตี้เล็กๆ ในครอบครัวที่มีกันอยู่สี่คน ส่วนเพื่อนๆ ต่างก็ได้แค่อวยพรผ่านหน้าจอ และจะส่งของขวัญวันเกิดตามให้ทีหลังอีกที "ลูกสาวแม่ โตขึ้นอีกปีแล้วสินะ เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว แม่ขอให้ลูกมีความสุขมากๆ คิดสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนา อย่าเจ็บอย่าจน สุขภาพร่างกายแข็งแรงนะลูก""ขอบคุณค่ะแม่" "พ่อเองก็ขออวยพรวันเกิดให้เรามีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยๆ แต่อย่าเพิ่งมีหลาน แต่งงานก่อน.." พูดจบก็มองค้อนไปที่ไทเธย์ ที่กำลังเตรียมจะอวยพรวันเกิดเป็นคนต่อไป "พ่อ..." "มานี่เลย! แกก็ชอบขัดลูกจริง เดี๋ยวก็เพี๊ยะเขาให้เลย!" แม่ของชะเอมทำท่าจะตีพ่อ อย
ไทเธย์ Talk หลังจากที่กลับจากที่เราเที่ยวที่ไร่องุ่นของสามแฝด เราสองคนก็กลับมาทำงานเช่นเคย ชะเอมได้เข้าทำงานอยู่ที่บริษัทของผมด้วยความสามารถของเธอเอง เธอจึงได้อยู่ในตำแหน่งออกแบบดีไซน์ตามที่เธอต้องการ ซึ่งผมก็ไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลย เพราะเธอชอบบอกว่าผมใช้เส้นสายในการรับเธอเข้าทำงาน แต่ความเป็นจริงแล้วเธอเข้าทำงานได้ด้วยความสามารถของตัวเองต่างหากอันที่จริงก็อยากใช้ อยากทำให้เธอมาเป็นเลขาข้างกายเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นเธอจะดูออกมากไป ทุกวันนี้ผมเลยทำได้เพียงแอบมองดูเธอผ่านกล้องวงจรปิด ดูเธอที่กำลังนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้นทุกวัน ขยันแบบนี้มันน่าให้โบนัสซะจริงเลยตลอดระยะเวลาที่เราคบกันมาผมไม่รู้เลยว่าผมเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหน ผมเริ่มมีความสุขตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมเริ่มก้าวออกจากกรอบเล็กๆ ของตัวเองมานานแค่ไหนแล้ว กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองมีความเปลี่ยนแปลงก็ตอนที่เธอเริ่มทักว่าผมไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือนคนเดิมที่เงียบ ไม่ค่อยคุยกับใคร ชอบอยู่กับตัวเองในมุมเล็กๆ ที่เป็นที่ปลอดภัยของผมชะเอมเธอทำให้โลกของผมค่อยๆ กว้างขึ้น ทำให้ผมรู้สึกว่าโลกกว้างใหญ่นี้มันก็ไม่ได้อันตรายหรือร้ายแรงไปซะหมดทุกอย่าง ม
ตกดึกของวันถัดมา ฟึ่บ ~"ทำไมออกมาแบบนี้ อากาศมันเย็นนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก" ไทเธย์เดินออกมาพร้อมกับผ้าห่มผืนหนา เมื่อมองออกมาเห็นชะเอมที่ใส่แค่เสื้อตัวใหญ่ของเขาออกมายืนอยู่ตรงหน้าระเบียงที่นี่อยู่บนเขามีอากาศหนาวเย็นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประจวบเหมาะกับมีฝนโปรยปรายอยู่ตลอดช่วงเย็นอีก มันเลยทำให้อากาศค่อนข้างหนาวมากกว่าเดิม"เดี๋ยวก็กลับเข้าไปแล้วค่ะ""ชอบที่นี่หรือเปล่า""ชอบสิคะ อากาศดีมากเลย""พี่ก็ชอบเหมือนกัน อยากมาเที่ยวแบบนี้บ่อยๆ จังเลย""....." ชะเอมไม่ได้ตอบ เธอได้แต่ยิ้มอยู่อย่างนั้น ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะหายไปเมื่อแผ่นหลังของเธอนั้นสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่มันกำลังดันอยู่ รู้สึกได้เลยว่ามันเป็นแท่งยาวๆ และร้อนมากๆ ด้วย "พี่ไท!""หืม?""ไม่ได้ใส่กางเกงในหรอ?""ไม่ได้ใส่อะไรสักอย่าง" ยอมรับแบบหน้าซื่อๆ เลย"พี่นี่มันทุเรศจริงๆ เดี๋ยวใครก็มาเห็นหรอก เดินโป๊ออกมาได้ยังไงเนี่ย" เธอบ่นเขายกใหญ่"ไม่โป๊หรอก เห็นไหมว่าพี่เดินมาพร้อมกับผ้าห่ม""แล้วนี่มัน...""ครับ มันกำลังแข็ง กำลังได้ที่เลย" พูดแบบเสียงกระเส่าๆ ลมที่ออกมาจากปากมันกระทบใบหูของเธอ ร้อนวาบไปชั่วขณะ ตัดกับอากาศที่
#ไร่ตะวันภูเมฆ ( เป็นไร่ของสามแฝด ไทป์ ไทม์ ทรานส์ )"โห ที่นี่น่าอยู่จังเลยค่ะ" ชะเอมมองไปรอบๆ ด้วยความตื่นเต้นทันทีที่ลงจากรถ"มากันแล้วเหรอ" มีคนเดินเข้ามาทักแบบเงียบๆ จากทางด้านหลัง พอหันกลับไปมองก็เห็นเป็นเพื่อนแฝดของไทเธย์ แต่ชะเอมยังแยกไม่ได้ว่าคนไหนชื่ออะไร เพราะทั้งสามหน้าเหมือนกันมาก และก็เพิ่งเจอกันได้ครั้งเดียวเอง"อ้าว นายเองก็อยู่หรอ""ครับ""คุณลุงกับคุณป้าล่ะ อยู่หรือเปล่า?""ไม่อยู่ครับ ไปฮ่องกงครับ กว่าจะกลับก็คงเดือนหน้า""อ๋อ...""เข้ามากันก่อนสิครับ""ป้ะ เข้าไปนั่งข้างในกันก่อน" ไทเธย์หันไปบอกคนข้างๆ ก่อนที่ทั้งสองจะพากันเดินเข้าไปพร้อมกับเจ้าของบ้าน"แล้วนี่ไอ้สองตัวอยู่หรือเปล่า""อยู่ครับ อยู่กันครบเลย พ่อกับแม่สั่งให้เฝ้าไร่น่ะครับ ก็เลยต้องอยู่บ้าน""หึหึ ไม่อย่างนั้นพวกแกคงไม่อยู่สินะ""ครับ"เป็นการมาครั้งแรกของชะเอม และถูกตอนรับเป็นอย่างดีเลยด้วย อย่างกับลูกค้า VIP แน่ะ แต่เสียดายที่นี่เขาไม่ได้รับลูกค้า"โฮมสเตย์อยู่ฝั่งโน้นนะครับ เดี๋ยวผมให้คนขนของไปให้""ไม่เป็นไร เดี๋ยวขับรถไปจอดหน้าโฮมสเตย์ก็ได้""ตามสบายครับ""เรื่องอาหารไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวผมให