Masukนับจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้ ทั้งคุณวาคิมและฉันก็ต่างทำงานของตัวเอง โดยที่เขายังคงทำตัวเหมือนปกติทุกอย่างกลับมาเป็นท่านประธานมาดสุขุมดังเดิม เสมือนว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่ภาพความฝันเท่านั้น แต่สำหรับฉันมันช่างกลับตรงกันข้ามกับเขาโดยสิ้นเชิง เพราะถึงแม้ว่าความเจ็บตรงจุดกึ่งกลางกายสาวจะเบาบางลงมากแล้วก็ตามหลังจากได้ยาของเขามาทาทุเลา แต่ทว่า...ความรู้สึกทุกอย่างกลับยังคงชัดเจนอยู่ข้างในใจ มันยังตอกย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านั้นคือความจริง และฉันก็ไม่อาจจะทำใจลืมเลือนไม่สนใจมันได้ลงเหมือนอย่างที่เขาทำ
กระทั่งเมื่อนาฬิกาบ่งบอกว่าเวลาของการทำงานได้สิ้นสุดลงแล้ว ฉันที่กำลังยืนรอเขาเซ็นเอกสารฉบับสุดท้ายอยู่ก็ถูกคำพูด คำพูดหนึ่งดึงสติที่เหม่อลอยให้กลับมา
“เลิกงานแล้วอยู่ก่อนนะ” คนตรงหน้าพูดหลังจากจรดปากกาลงบนกระดาษใบสุดท้ายเสร็จ
“ท่านประธานมีอะไรจะให้มนต์รับใช้เหรอคะ” ฉันรับเอกสารจากเข้าเขามาแนบอก ก่อนจะเอ่ยถามไปตามหน้าที่
“การที่ผมคืนของชิ้นนั้นให้คุณไปแล้วไม่ได้หมายความว่าผมได้ในสิ่งที่ผมต้องการแล้วนะ” คนตัวโตเอ่ยเสียงเรียบ พร้อมกับตัวที่เอนพิงพนักเก้าอี้ขนาดใหญ่
“ตะ...แต่ว่าเมื่อเช้า” ฉันที่รู้สึกตกใจเพราะไม่คาดคิดว่าเขาจะยังคงไม่ลืมสิ่งที่เขาพูดเอาไว้เมื่อเช้านี้
“ผมบอกแล้วว่าการที่คุณนอนเป็นท่อนไม้มันไม่ได้ทำให้ผมพึงพอใจเลยสักนิด” ชายตรงหน้ายังคงย้ำคำเดิมด้วยแววตาที่ส่งออกมาว่าเขาไม่ได้ล้อเล่นเลยแม้แต่นิดเดียว
“กะ...ก็แล้วท่านประธานต้องการให้มนต์ทำยังไงล่ะคะ” ฉันก้มหน้านิ่งอกกระเพื่อมสั่นเล็กน้อยด้วยความรู้สึกเจ็บที่ยังไม่จางหายไปจากจุดกึ่งกลางกายสาวที่พลันแทรกขึ้นมาในห้วงความรู้สึก และกลัวว่าเขาจะซ้ำรอยเดิมจนปวดร้าวอีกครั้ง
แต่แล้วเสียงเหี้ยมเยือกเย็นเอ่ยออกมาอย่างไม่ยี่หระอะไรเหมือนกับว่าคำสั่งนั้นเป็นเพียงแค่สั่งให้ทำงานง่าย ๆ อย่างเช่นไปถ่ายเอกสารเท่านั้น
“ก็ไม่แล้วไง คุณก็แค่ต้องสนองจนกว่าผมจะพอใจก็เท่านั้นเอง”
“แต่ท่านประธานค่ะ” ฉันตอบรับด้วยความตกใจ และในขณะที่ฉันยังพูดไม่ทันจบประโยค
“ไม่มีแต่...และนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปคุณต้องมาหาผมทุกครั้งที่ผมต้องการ” คนตรงหน้าหยัดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะค่อย ๆ ย่างสามขุมเข้ามาใกล้ฉันที่กำลังยืนหูอื้อหลังจากได้ยินคำพูดจากเขา ก่อนที่ฉันจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเอ่ยพูดประโยคที่ฉันเองก็ไม่เคยคิดว่าจะพูดมันออกมาเลยนับตั้งแต่ที่ทำงานกับเขา
“ถ้าอย่างนั้นมนต์ขอลาออกค่ะ” น้ำเสียงหนักแน่นพูดพร้อมกับสายตามุ่งมั่น
“มั่นใจเหรอที่พูดออกมาแบบนี้ คุณรับผลกระทบที่จะตามได้แน่ใช่ไหม” ส่วนคนตัวโตที่หยุดเดินก่อนจะหย่อนกายลงนั่งยังมุมโต๊ะทำงานของตัวเองแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับเขารู้อยู่แล้วว่าฉันจะตอบยังไง
“มะ...หมายความว่ายังไงคะ” ดวงตากลมโตสั่นระริกยามช้อนขึ้นไปมองใบหน้าเจ้าเล่ห์ของคนตรงหน้า พร้อมกับเอ่ยถามด้วยหัวใจที่สั่นไหว
“ถ้าอยากรู้ก็แค่ลองดู” ก่อนที่คนใจร้ายจะยักไหล่ขึ้นอย่างไม่ยี่หระ เพราะเขาเองก็ไม่คิดจะพูดเล่นเหมือนกันในเมื่อเธอได้มาปลุกสัญชาตญาณดิบในกายเขาให้ลุกโชนขึ้นมาแบบนี้แล้ว เธอเองก็ต้องรับผิดชอบมันเหมือนกัน
และด้วยคำพูดของคนที่มีอำนาจในมืออย่างคนตรงหน้าแล้วนั้น ก็ทำให้ฉันได้แต่ก้มหน้าคิดทบทวนถึงผลกระทบที่จะตามมา เพราะไม่ใช่ว่าฉันจะไม่รู้ว่าเจ้านายของฉันเขานั้นมีอำนาจและคอนเนคชั่นมากขนาดไหน และคงไม่ต้องถามว่าถ้าหากฉันก้าวเท้าออกไปจากบริษัทนี้โดยมีคำขู่ของเขาพ่วงตามหลังมาด้วยแล้วนั้น อนาคตการทำงานของฉันคงดับสูญอย่างไม่มีชิ้นดีแน่นอน อีกทั้งไม่ต้องคิดถึงช่องทางทำมาหากินอื่นใด แม้แต่จะยืนอยู่ในประเทศนี้ได้อีกไหมก็ยังเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
“นานแค่ไหนคะ” ก่อนที่ฉันจะกลั้นใจถามออกไปหลังจากที่ใช้เวลาคิดทบทวนอย่างรวดเร็ว
“ไม่รู้...อาจจะจนกว่าผมจะพอใจล่ะมั้ง” คนตั้งเงื่อนไขตอบตามความจริง เพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไรเขาจะเบื่อเธอหรือว่าเมื่อไรที่เขาจะเจอสิ่งใหม่ที่น่าสนใจมากกว่านี้
สิ้นคำตอบจากคนตรงหน้า หญิงสาวได้แต่ก้มหน้านึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปก่อนหน้านี้
“ตะ...แต่ว่าวันนี้มนต์ เอ่อ ยะ...ยังเจ็บ” ฉันที่ปลงตกกับชะตาชีวิตของตัวเองกับสิ่งที่ต้องเจอกลั้นใจพูดออกไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายในขณะนี้ เพราะแม้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตัวฉันเองจะไม่อาจหลีกเลี่ยงอะไรได้อีกแล้วเพราะฉะนั้นฉันก็คงต้องเซฟตัวเองเอาไว้บ้าง
“ผมรู้...” คนตัวโต้ตอบ
“ถะ...ถ้างั้นมนต์ขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ”
และในจังหวะที่ฉันกำลังหมุนตัวกลับไปยังโต๊ะทำงานของตัวเองนั้น เสียงทุ้มต่ำของผู้เป็นเจ้านายและกลายมาเป็นเจ้าชีวิตก็เอ่ยขึ้น
“แต่ปากของคุณไม่ได้เจ็บนี่...!!”
ฝีเท้าที่กำลังจะเดินก้าวไปถึงกับหยุดชะงักทันที ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดออกมานั้นมันหมายความว่าอะไร เพราะด้วยสารคดีทั้งแบบเอเชีย ยุโรป ที่เคยผ่านตาของฉันมาบ้างทำให้ฉันรู้ในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อเป็นอย่างดี เพียงแต่...พวกสารคดีเหล่านั้นฉันเคยแค่ดูเท่านั้น ฉันยังไม่เคยลงมือทำให้ผู้ชายคนไหนในชีวิตจริงมาก่อนเลยสักครั้งเดียว
และในขณะที่ฉันยังยืนตัวแข็งทื่ออึ้งกับคำพูดของคนด้านหลังอยู่นั้น เสียงรูดซิปลงช้า ๆ เฉกเช่นเดียวกับเสียงเมื่อเช้าที่ฉันได้ยิน ก่อนที่หลังจากนั้นฉันจะต้องมาปวดแสบตรงหว่างขาจนถึงเวลานี้ก็ได้ดังขึ้นแถมยังมาพร้อมกับเสียงเข้มที่เอ่ยปากออกคำสั่งอีกด้วย
“หันมาทางนี่สิ...” เสียงเข้มสั่ง
“...............” ส่วนฉันยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง ด้วยเพราะรู้ดีว่าถ้าหากหันไปฉันต้องเจอกับอะไร
“ผมบอกให้หันมาไงครับ...คุณมนต์” เสียงเดิมเอ่ยย้ำพร้อมกับเพิ่มความดุดันขึ้นเล็กน้อย
“ตะ...แต่มนต์ไม่เคยทำ” ฉันพูดตะกุกตะกักพร้อมกับหันหน้าไปเผชิญลำเอ็นสีน้ำตาลขนาดใหญ่ที่ยื่นยาวออกมาจากกางเกงท้าสายตากลมโตให้เห็นเต็มตาอีกครั้ง
“แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่เป็นนี่ครับ ในฐานะเจ้านายผมรู้ดีว่าคุณมนต์เป็นคนเรียนรู้ไวขนาดไหน” เจ้าของลำเอ็นขนาดใหญ่พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะส่งสายตาเป็นคำสั่งกลาย ๆ ว่าให้ฉันเดินเข้ามาจัดการตัวปัญหาที่อยู่ตรงหว่างขาของเขาเสีย
“ถ้าอย่างนั้นมนต์ขอไปเรียนรู้ก่อนได้ไหมคะ ละ...แล้วเดี๋ยวมนต์...” และในจังหวะที่ฉันกำลังต่อรอง
“การปฏิบัติจริงถือว่าเป็นการเรียนรู้ที่ดีที่สุดครับ” คนตัวโตพูดดักคอ ด้วยสายตาแพรวพราว
“แต่ว่า...”
“หรือคุณจะใช้ตรงนั้นทำแทน ถ้างั้นผมเองก็ไม่ติดนะ” ชายหนุ่มที่ดูไม่แยแสในอาการหวาดหวั่นของหญิงสาวสักนิด พูดพร้อมกับปรายตามองไปยังจุดกึ่งกลางกายสาว จนคนถูกมองถึงกับขนลุกซู่
สิ้นคำขู่ร่างบางถึงกับรีบตรงเข้าไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของคนใจร้ายทันที ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ หย่อนกายลงคุกเข่าแล้วจัดการเจ้าเอ็นแข็งด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ
“อ้าปากซิ...” คนตัวโตออกปากสั่ง โดยที่มือส่งมาเกลี่ยริมฝีปากนุ่มช้า ๆ
“กว้างกว่านี้ คุณก็รู้ดีว่าอ้าแค่นี้มันไม่พอกับ...” เขาออกคำสั่งย้ำอีกครั้ง ส่วนฉันก็ทำได้เพียงแค่ทำตาม
“ดีมาก จากนั้นก็ค่อย ๆ ครอบมันช้า ๆ ระวังฟันด้วยล่ะ” คำพูดที่คล้ายกับครูกำลังสอนลูกศิษย์ โดยที่ลูกศิษย์อย่างฉันก็ค่อย ๆ ครอบงำกลืนกินตัวตนของครูตรงหน้าเข้าไป
“อึก...อ่อก...อืออออ ~~ อ่อก ~~”
“อ่าาาาซ์ ~~ อย่างนั้นแหละ จากนั้นก็ดูด...ดูดให้เหมือนกับว่าคุณกำลังกินไอติมอยู่” ใบหน้าคมเข้มเชิดขึ้นร้องครางกระเส่า พร้อมกับปากที่ไม่หยุดสอนสั่ง
“อึก...อึก...จ๊วบๆๆ”
“อย่างนั้นแหละ อืมมมมม ~~ เก่งมาก”
และด้วยคำชมแสนแผ่วเบาที่ฟังดูอ่อนหวาน บวกกับช่องปากที่เหมือนจะปรับตัวเข้ากับลำเอ็นของเขาได้แล้ว ทำให้ฉันนึกครึ้มออกแรงขยับริมฝีปากกดเม้มไปยังหนังหุ้มปลอกขึ้นลงพร้อมกับดูดท่อนเอ็นนั้นเป็นจังหวะไปมา
จ๊วบๆๆ แผล็บๆๆ
“อ๊าาาา...ซี๊ดดดดด ~~ ดีมากอย่างนั้นแหละ อืมมมม ~~” เสียงครวญครางร้องคำรามออกมาไม่เป็นศัพท์ด้วยความรู้สึกเสียววาบไปทั่วเอ็นอุ่นทำให้เจ้านายหนุ่มได้แต่ประคองหัวทุยเล็กให้โยกเข้าออกเป็นจังหวะ
“อึก...อ่อก ~~” ดวงตากลมสวยถึงกับมีน้ำใสไหลคลอหลังจากถูกปลายหัวมนของท่อนเนื้อยาวที่คับปากแน่นทิ่มทะลวงไปถึงคอหอย
“เม้มปากซิมนต์...ซี๊ดดดดด ~~ ผมจะไม่ไหวแล้ว ปากคุณมันโอบรัดตัวตนผมไว้แน่นไปหมด...” คำชมระคนคำสั่งถูกป้อนใส่หญิงสาวที่ตอนนี้น้ำตาไหลเป็นทางเนื่องจากสิ่งที่อยู่ในปากคับแน่นเกินจนแทบหายใจไม่ออก
จากนั้นหัวทุยเล็กสั่นคลอนได้ไม่นาน ภายในริมฝีปากอวบก็เหมือนจะรับรู้ได้ถึงแรงกระตุกตอดที่ส่งมาเป็นจังหวะจากลำเอ็นเนื้อ และด้วยความหัวเร็วในการเรียนรู้ของเธอดั่งที่เจ้านายของเธอเอ่ยปากชมเอาไว้ นั่นจึงทำให้เธอไม่รอช้ารีบขยับเรียวปากให้เร็วขึ้นพร้อมกับเม้มเนื้อหยุ่นที่เป็นเสมือนปลอกครอบดุ้นเนื้อเอาไว้ เพื่อรูดเอาน้ำสีขาวขุ่นให้พวยพุ่งผ่านลำคอลงไป
“อ๊ะ...อ๊ะ...อืม...อ่าาาาส์” มือหนาที่ประคองหัวทุยของหญิงสาวเอาไว้ได้แต่รวบเรือนผมขยุ้มแน่นอย่างต้องการระบายความเสียว พร้อมกับคำรามลั่นออกมาหลังจากที่ปลายหัวมนที่อยู่ในปากหญิงสาวได้ปลดปล่อยลาวาขุ่นพุ่งออกมา
“อึก...อึก...อึก” ลำคอระหงกระดกดื่มกินน้ำรักที่ล้นอยู่เต็มปากด้วยความจำใจเพราะด้วยขนาดที่ใหญ่โตคับปากทำให้เธอไม่อาจคายน้ำคาวออกมาได้ แต่ทว่า...การกระทำของเธอนั้นกลับทำให้เจ้าของน้ำสีขาวขุ่นรู้สึกพึงพอใจในเสียงกลืนน้ำรักของหญิงสาวที่เขาฟังแล้วช่างแสนจะไพเราะเสนาะหู
“หึ...เก่งพอตัวเลยนี่หน่าแล้วบอกว่าครั้งแรก คุณมนต์คุณช่างทำให้ผมประหลาดใจอยู่เรื่อยเลยนะ” คนตัวโตเอ่ยปากชมก่อนจะถอดไอ้ตัวเจ้าปัญหาออกจากปากอุ่นชื้นแล้วจัดการจับมันเก็บกลับไปอยู่ในรังตามเดิม
“เฮือก ~~ แฮ่กๆๆ มนต์กลับได้แล้วใช่ไหมคะ แค่ก...แค่ก...” หลังจากที่ในโพรงปากสาวของฉันไร้ซึ่งของแปลกปลอมแล้วเสียงหอบเอาอากาศเข้าหายใจก็ดังสวนออกไปจนฉันไม่ได้ฟังคำพูดเหน็บแนมจากคนตรงหน้าเลยสักนิด ก่อนที่ตัวเองจะหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเตรียมตัวจะหันหลังกลับไป
และในจังหวะที่ฉันหมุนตัวกลับเพื่อจะเดินไปยังโต๊ะทำงานของตัวเองนั้น เสียงที่ดังตามหลังมาก็ทำให้ฉันรู้สึกฉงนใจเม้มปากแน่นในทันที...
ความคิดมากมายยังคงถาโถมเข้ามาในสมองไม่หยุดยามที่ได้นึกถึงเรื่องราวเมื่อครั้งในอดีตวันวาน ความทรงจำที่ทั้งดีและร้ายแม้จะมีบางเหตุการณ์ที่ยังชัดเจนในใจ แต่ทว่า...มันกลับไม่มีผลต่อหัวใจหรือความรู้สึกสำหรับฉันอีกต่อไปแล้วอีกทั้งพอได้นึกเรื่องราวเก่า ๆ ที่ผ่านมา ครั้นเมื่อคิดไปถึงเรื่องของคุณวาคิมแล้ว มันก็อดไม่ได้ที่จะคิดไปถึงเรื่องราวของผู้ชายอีกคนที่แสนร้ายกาจไม่ต่างกัน...และเขาคนนั้นก็จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก...คุณไผ่...เรื่องราวของคุณไผ่นั้นนับได้ว่าเขาเป็นคนที่ได้รับผลของการกระทำมากที่สุดก็ดูจะไม่ผิดไปอย่างที่พูด เพราะแม้ว่านับตั้งแต่วันนั้นเขาจะไม่ได้มาวุ่นวายอะไรกับฉันอีก ด้วยเหตุผลหลักที่ฉันพอรู้ก็คือเขาไม่อยากมีปัญหากับคุณมาติน บุคคลที่มีคนใหญ่คนโตของประเทศหนุนหลังอยู่ ดังนั้นจึงไม่ใช่การตัดสินใจที่ยากนักที่เขาจะเลิกยุ่งกับฉันหลังจากที่รู้ว่าฉันได้มาอยู่กับคุณมาตินแล้วจริง ๆเพียงแต่ว่าหลังจากนั้นไม่กี่ปีข่าวคราวที่ฉันได้ยินเกี่ยวกับคุณไผ่เขา มันกลับทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะท้อนใจกับสิ่งที่เขาต้องเผชิญ...นั่นก็เพราะหลังจากที่เรื่องราวของความจริงในอีกด้านได้ถูกเปิดเผยขึ้น
หลายปีต่อมา ~~นับตั้งแต่คืนวันแต่งงาน ทั้งฉันกับคุณมาตินก็ต่างมอบความรักให้กันอย่างดูดดื่มแทบจะทุกวัน จนกระทั่งสุดท้ายแล้วสิ่งที่เขาปรารถนาที่จะได้จากฉันก็สำเร็จเมื่อฉันได้ให้กำเนิดลูกชายอีกคนที่เป็นดั่งโซ่ทองคล้องใจให้กับคุณมาติน ส่วนเขาที่พอได้ลูกชายก็ออกอาการดีใจเห่อไม่หยุด และแม้ว่าฉันจะรู้ดีว่าเขาเองก็อยากจะมีลูกกับฉันเพิ่มอีกก็ตาม เพียงแต่เขานั้นยังไม่กล้าเอ่ยปากขอออกมาด้วยเพราะเขากลัวว่าฉันจะไม่พอใจแต่สิ่งที่เขาไม่รู้เลยก็คือ...ตัวฉันเองก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าฉันจะมีลูกให้กับเขาอีก เพียงแต่ฉันอยากจะเลี้ยงลูกชายให้โตกว่านี้อีกสักหน่อยก่อน แล้วค่อยมีลูกให้เขาอีกคนอีกทั้งฉันที่ยังรู้สึกตื้นตันใจในความเสมอต้นเสมอปลายของเขาที่มีให้มาเสมอไม่ว่ากับฉันหรือลูกของฉันก็ตาม เขาที่ยังคงเอ็นดูสเตล่าลูกสาวของฉันที่เกิดกับคุณวาคิมเสมือนกับเป็นลูกในไส้ตัวเองเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง เหมือนกับวันแรกที่ลูกสาวของฉันคลอดออกมาอย่างไงก็อย่างงั้น แถมยังดูว่าเขาจะรักลูกสาวฉันมากขึ้นด้วยซ้ำนับตั้งแต่ที่ฉันคลอดลูกชายออกมาส่วนข่าวคราวของคุณวาคิมพ่อแท้ ๆ ของลูกสาวฉัน แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาจะไม่ลด
พั่บ...พั่บๆๆๆ“อ๊ะ...อ๊ะ...อือออออ...มาตินค่ะ...อ่าาาาา ~~” ใบหน้าหวานเชิดขึ้นร้องครวญครางกระเส่าเสียงดังลั่นห้อง อีกทั้งมือบางทั้งสองข้างยังยกขึ้นมากอบกุมสองเต้างามงอนแล้วจัดการบีบขยี้เล่นอย่างต้องการระบายความเสียวที่กำลังตีมวนอยู่ในท้องน้อยยามนี้“อ่าาาาา...มนต์...ผมรักคุณ...มนต์...ซี๊ดดดดด ~~” ส่วนคนตัวโตที่มีใบหน้าเหยเกไม่ต่างกันก็กำลังกัดฟันแน่นด้วยความกระสัน พร้อมกับลำเอ็นที่กำลังจะปะทุลาวาสีขาวขุ่นออกมาอีกครั้งแล้ว แม้ว่าเขาจะปลดปล่อยมันไปมากมายก่อนหน้านี้แล้วก็ตามและด้วยเสียงร้องคำรามที่ออกมาจากคนใต้ร่าง ก็เป็นเหมือนดั่งแรงส่งให้ร่างบางเร่งขยับขย่มลำเอ็นแข็งระรัวถี่ยิบ จนกระทั่งเมื่อร่องอุ่นเสียดสีเข้ากับปลอกเนื้อหยุ่นอีกเพียงไม่กี่อึดใจ แรงกระตุกตอดของมัดกล้ามเนื้อด้านในก็ได้ส่งให้ร่างทั้งสองก็ต่างกู่ก้องร้องคำรามลั่นออกมาด้วยความสุขสมอย่างพร้อมเพรียงกัน“กรี๊ดดดด...อร๊ายยยย ~~ / อ่าาาาส์ ~~”ความร้อนอุ่นสาดซัดเข้าเต็มท้องน้อยอีกครั้งจนรู้สึกได้ พร้อมกับร่างนุ่มนิ่มที่ทิ้งตัวลงไปนอนบนอกแกร่งอย่างอ่อนแรง ทั้งที่ในร่องสาวยังคงปล่อยให้ครอบงำกลืนกินเอ็นอุ่นอยู่แบบนั้นด้วยเพราะแ
กระทั่งเมื่อฉันหลับตาพักอยู่ได้ไม่นานมากนัก อาวุธร้ายที่ยังคงสอดเสียบอยู่ในร่องอุ่นก็เหมือนจะแสดงอำนาจร้องขอออกมาอีกครั้งจนฉันรู้สึกได้“อะ...อุ้ย...”ฉันที่เด้งตัวขึ้นมามองหน้าของคุณสามี ก่อนที่เขาจะอมยิ้มแล้วพยักหน้าน้อย ๆ ดูเหมือนเด็กน้อยกำลังขอความเมตตาจากผู้ใหญ่ด้วยเพราะตัวเองยังกินไม่อิ่ม ส่วนฉันที่ได้แต่ยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งไปให้เขาดั่งคนรู้ใจ ก่อนที่เราสองคนจะทำตามใจปรารถนาที่ต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่า เรานั้นมีความต้องการกันและกันมากแค่ไหนพั่บ...พั่บ...พั่บๆๆ"อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ... / อืมมมมม ~~"จากนั้น...บทเพลงสวาทแสนเร่าร้อนจนอุณหภูมิในห้องน้ำพุ่งระอุ เสียงร้องครางกระเส่าประสานกับเสียงเนื้อนุ่มกระทบกันไม่หยุด เป็นสัญญาณบอกได้ดีว่าสองร่างที่เป็นเงาสะท้อนเคลื่อนกระเพื่อมไปในทิศทางเดียวกันนั้น ต่างมีความสุขกันมากแค่ไหน ความซาบซ่านที่ทั้งสองรอคอยกันมานานจนกระทั่งต่างคนต่างมั่นใจในความสัมพันธ์ครั้งนี้แล้ว มันช่างหอมหวานและกลมกล่อมคู่ควรกับที่ทั้งคู่รอคอยมานานจริง ๆก่อนที่ร่างบางจะถูกอุ้มยกตัวลอยอีกครั้ง โดยที่ภายในร่องฟิตแน่นของหญิงสาวนั้นยังมีท่อนเอ็นอุ่นคาอยู่เหมือนว่ามันไม่เคยถอดถอนไปไหน
แผล็บ ~~ จ๊วบ...จุ๊บ...ทั้งลิ้นทั้งริมฝีปากที่ต่างสลับกันทำหน้าที่อย่างขะมักเขม้น ส่งผลทำให้นอกจากร่างกำยำที่เกร็งรับความเสียวซ่านแล้ว ยังมีแท่งกล้ามเนื้อร้อนที่ตอนนี้ขยายร่างพองจนตัวโตชี้ตั้งโด่เชื้อเชิญให้ฉันลงไปทักทายจากนั้นร่างสาวที่ค่อย ๆ ย่อหย่อนกายคุกเข่านั่งลงไป จนเมื่อสายตาได้ประสานเข้ากับความใหญ่โตที่พอได้มองใกล้ ๆ แล้วจำต้องแอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ(ยะ...ใหญ่ไปไหม เฮือก ~~)ดวงตาที่เบิกโพลงด้วยเพราะกำลังการคาดคะเนว่ามือบางอาจจะกำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ไม่มิด แล้วนับประสาอะไรกับโพรงปากเล็กนุ่มนิ่มนี้จะครอบงำตัวตนที่ทั้งใหญ่ทั้งยาวนี้ให้ลงคอไปง่าย ๆ ได้ยังไง...และในขณะที่ฉันกำลังตกตะลึงและพิจารณาตัวตนของสามีตัวเองอยู่นั้น เสียงที่เหมือนต้องการจะบอกว่าฉันไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้กับเขาอย่างที่เขาทำให้กับฉันก็ได้ ก็กลับถูกการกระทำบางจู่โจมลงไปจนเสียงห้ามทุ้มถึงกับขาดหายออกมาไม่เต็มคำ“คุณไม่ตะ...ต้..อ....ง”จ๊วบ...แผล็บ ~~“อ๊ะ...อืมมมมม ~~”ปากอวบอิ่มที่ตรงเข้าจัดการครอบงำความใหญ่โตตรงหน้าเข้าใส่ปากไปในทันที ก่อนจะเริ่มขยับหัวโยกรูดหนังหยุ่นขึ้นลงอย่างไม่รีรอแม้ว่าปากจะต้องอ้ากว้า
จุ๊บ...จ๊วบ ~~ “อึก...อึก...”เสียงดูดกินหน้าอกอวบขนาดใหญ่ ผสานเข้ากับเสียงกลืนของเหลวลงคอ และเมื่อสองเต้าได้สลัดอาการคัดนมไปจนหมดแล้ว ความเสียวซ่านที่ต่อคิวรอก็ได้เข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็ว“อื้ออออออ...ซี๊ดดดดด...สะ...เสียว ที่รัก...มนต์เสียว...”น้ำเสียงหวานครางกระเส่าพร้อมกับมือที่ขยำเรือนผมเจ้าของความร้อนที่ครอบงำอยู่บนปลายปทุมถันแน่น และด้วยความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นก็ยิ่งส่งให้มือบางกดให้ริมฝีปากนั้นจมลงไปในเนื้อนุ่มอย่างเต็มปากเต็มคำ“อืมมมมม...จ๊วบ...ผมรักคุณนะมนต์...แผล็บๆๆ”ส่วนเจ้าของริมฝีปากร้อนระอุที่ยังคงสาละวนอยู่ที่สองเต้าไม่หยุด ก็ได้แต่ดูดดื่มความหวานไม่ปล่อย อีกทั้งยังพร่ำบอกความในใจออกมาให้ฟัง“อ่าาาา...มาตินค่ะ มะ...มนต์จะไม่ไหวแล้ว”สิ้นเสียงกระเส่าครางบอก...คนตัวโตก็ไม่รอช้า รีบผละใบหน้าออกจากความใหญ่โตที่ทั้งหอม ทั้งนุ่ม และหวานอร่อย จนเขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกสาวตัวน้อยถึงมักจะกินจุและมักจะหลับคาเต้าอวบอิ่มคู่นี้อยู่เสมอ และนับจากวันนี้เขาคงต้องขอลูกสาวตัวน้อยแบ่งความอร่อยจากสองเต้านี้มาบ้างแล้วล่ะ...จากนั้นใบหน้าคมสไตล์หนุ่มละตินก็เคลื่อนลงไปสำรวจยังจุดหมายต่อ







