เช้าวันต่อมา
ร่างบางหยัดกายลุกขึ้นยืนด้วยความปวดระบมไปทั้งตัวโดยเฉพาะกลางใจสาวของเธอที่รู้สึกว่าจะเจ็บหนักกว่าจุดอื่น บลูเบลล์หันไปมองบุคคลที่ทำให้เธอช้ำไปทั้งตัวอย่างโรมันที่ตอนนี้ยังคงนอนหลับอย่างสบายใจอยู่บนที่นอน “เบลล์ เบลล์ครับ..อื้ม ไปไหนแล้ว” และเมื่อเขาจะใช้แขนกอดตัวของเธอแต่กลับไม่พบจึงเรียกหา เมื่อไม่เจอก็ลุกขึ้นนั่งลืมตาขึ้นมามองดูที่นอนและหันไปมองรอบๆ ห้องก่อนที่จะมาสะดุดกับเรื่อนร่างที่ขาวโพลนซึ่งยืนกอดอกตัวเองมองเขาอยู่ด้วยสายตานิ่งๆ “ที่รัก อย่ามายืนยั่วผัวแบบนี้สิเดี๋ยวก็ลุกออกจากเตียงไม่ได้หรอก” โรมันเอนตัวนอนลงไปบนที่นอนตามเดิมแล้วเอ่ยบอกกับบลูเบลล์ด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าจนแทบจะไม่มีเสียง เธอจึงส่ายหน้าให้เขาเบาๆ แล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาพันตัวไว้ก่อนจะเดินมาเก็บเสื้อผ้าที่เกลื่อนพื้นไปใส่ตะกร้าผ้าไว้ “วันนี้ไปทำงานมั้ย?” “ไปครับ” “ไปก็ลุกได้แล้วจะเจ็ดโมงแล้ว” บอกโรมันจบบลูเบลล์ก็เดินเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายตัวเองโดยใช้เวลาไปเพียงครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ทุกอย่างก็เสร็จ ตอนนี้เธอยืนกอดอกอยู่ปลายเตียงในชุดของโรมันทั้งเสื้อและกางเกงส่วนชั้นในนั้นเธอเลือกใส่ตัวเดิมก่อนค่อยกลับไปเปลี่ยนที่คอนโดอีกที “โร ตื่นได้แล้ว” เมื่อร่างสูงไม่ยอมเคลื่อนไหวตัวหรือขยับ เธอจึงเอ่ยเรียกอีกครั้งและไม่ต้องรอให้เรียกเป็นครั้งต่อไปโรมันก็หยัดกายลุกขึ้นนั่งแล้วจ้องมองหญิงสาวตรงงหน้าพร้อมกับยกมือขึ้นมาขยี้ตาตัวเอง “เบลล์ เป็นแฟนกันนะ” เหมือนเขาจะเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้ขอสิ่งนี้กับหญิงสาวตรงหน้าจึงรีบเอ่ยขอก่อน ถึงแม้จะมีอะไรกันไปแล้วแต่เขาคิดว่าผู้หญิงทุกคนก็ต้องการสถานะและความชัดเจนอยู่ดี “นึกว่าจะไม่ขอ” “ต้องขออยู่แล้ว สรุปเป็นแฟนกันนะ” “อืม แต่…อย่าเพิ่งบอกใครได้มั้ย?” “หมายความว่าไง คบแบบลับๆ เหรอ?” โรมันขยับมานั่งปลายเตียงตรงหน้าของบลูเบลล์แล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ นี่เธอคงไม่จะไม่ได้ให้เขาเป็นแฟนลับๆ ของเธอแบบนั้นหรอกนะ ขย่มมาทั้งคืนได้เป็นแฟนลับๆ นี่เศร้ามากเลยนะ “เลิกกับคนเก่าได้ขาดยัง?” เธอไม่ตอบเพียงแต่ถามเขากลับ โรมันจึงเม้มปากตัวเองแล้วก้มหน้าลงก่อนจะพยักหน้าให้ “นายก็เพื่อนฉัน ลูกหมีก็เพื่อนฉัน..ถ้ายังตัดกันไม่ขาดฉันก็ไม่ว่าอะไรฉันจะได้หยุดความรู้สึกตัวเองไว้ตรงนี้ เรื่องที่เรามีอะไรกันก็ถือเสียว่าเป็นความต้องการของฉันและนายไม่ได้เกี่ยวกับความรู้สึกอะไร” “ฉันชอบและรักเธอนะเบลล์” “ฉัน..ก็ชอบนายแตอย่างที่บอกไปฉันไม่ได้อยากมีปัญหาหรือต้องมาตัดขาดกับเพื่อนเพราะผู้ชาย” ถึงแม้ลูกหมีจะไม่พูดหรือว่าอะไรที่โรมันกับเธอทำตัวสนิทสนมกันแต่เธอคิดว่าในใจลึกๆ ลูกหมีก็ต้องคิดมากอยู่ดี เพราะขนาดตัวเธอเองยังคิดมากแทนเลย “ฉันไม่ได้รักลูกหมีไม่เคยรัก…” “แล้วคบกันทำไม” “อย่าพูดเรื่องอดีตได้มั้ย” “…” “เบลล์ครับ ฉันรักเธอนะรักมากด้วยไม่อยากให้เธอไปยุ่งกับใครกับผู้ชายคนอื่นเลยต้องรีบจับมาทำเมียนี่ไง เรื่องลูกหมีฉันสาบานว่าฉันตัดขาดกันได้แล้วเราคุยและตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าจะเป็นแค่เพื่อน และอย่างที่บอกไปว่าฉันไม่ได้รักลูกหมี” “ฉันรู้ แต่นายก็รู้ว่าฉันรักและแคร์เพื่อนของฉัน แต่เอาเถอะ…ยังไงฉันกับนายก็เป็นแฟนกันแล้วนี่นา” บลูเบลล์บอกด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ ตามที่บอกไปเลยว่าเธอน่ะรักและแคร์ความรู้สึกของเพื่อนตัวเองที่สุด ดังนั้นจึงไม่อยากมามีปัญหาผิดใจกันภายหลังไง “แล้วต้องเป็นแฟนลับๆ ด้วยเหรอ?” “ไม่ต้องลับก็ได้…” “เมียใครน่ารักจัง” ว่าพลางใช้แขนรั้งเอวของบลูเบลล์ให้เข้ามาก่อนจะโอบกอดเธอไว้ “แฟนก็พอมั้ง…” “ได้กันแล้วนี่นา เดี๋ยวคืนนี้ต่ออีกสักยกนะ” “รีบไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานได้แล้ว ไงฉันไปทำงานก่อนนะ” “ไม่ปฏิเสธแสดงว่าคืนนี้ต่ออีกได้ ถ้างั้นขับรถดีๆ นะครับถึงแล้วทักมาบอกด้วย อืม…เดี๋ยวเดินไปส่งที่รถ” “ไม่ต้องหรอก ฉันเดินไปเองได้นายรีบไปจัดการกับตัวเองได้แล้วนี่มันจะสองโมงกว่าแล้ว” บลูเบลล์ร่ายยาวออกมาแล้วก็จับแขนของโรมันที่กอดเอวของเธอให้ออกจากนั้นก็เดินออกจากห้องเขาไปขึ้นรถเพื่อกลับคอนโดของตัวเองที่ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงและตอนนี้เธอกำลังยืนอยู่ห่างจากหน้าห้องตัวเองเกือบยี่สิบเมตร “โจรเหรอ ไม่สิถ้าเป็นโจรก็ต้องงัดเข้าไปแล้วสิ” ร่างเล็กพึมพำกับตัวเองเมื่อหน้าห้องของเธอมีคนมานอนกอดเข่าตัวเองพิงประตูห้องอยู่และเพราะเขาเป็นผู้ชายซึ่งเธอไม่รู้ว่าเป็นใครจึงไม่กล้าเข้าไปใกล้กลัวว่าเขาจะมาทำร้าย “แต่ว่าระบบการรักษาความปลอดภัยที่นี่ก็ดีนะ” “คุยกับใครเหรอคะ?” ผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับเธอที่กำลังจะเดินผ่านเธอไปนั้นเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นร่างเล็กกำลังยืนพึมพำอะไรสักอย่างอยู่คนเดียว บลูเบลล์จึงหันไปมองแล้วยิ้มแห้งๆ ให้ก่อนจะเอ่ยถามหล่อน “คุณอยู่ติดห้องฉันใช่มั้ยคะ?” “ใช่ค่ะ” “เขาเป็นใครทราบมั้ยคะ?” “อืม ไม่ทราบค่ะ…แต่หน้าตาดีนะคะ มาถามหาคุณตั้งแต่เมื่อวานแต่ฉันไม่เห็นคุณอยู่ก็เลยบอกว่าคุณไม่อยู่เขาก็เลยบอกว่าเดี๋ยวนั่งรอ” “อ่อ ขอบคุณค่ะ…ฉันอาจจะรู้จักเขา” เธอโค้งหัวให้ผู้หญิงคนนั้นเล็กน้อยแล้วสูดลมหายใจเข้าในปอดเยอะๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกแล้วก้าวขาเดินไปนั่งยองข้างผู้ชายคนนั้นแล้วใช้นิ้วจิ้มไปที่ต้นแขนของเขาสองสามที “เทสโต?” และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าคือเทสโตแฟนเก่าจอมวุ่นวายของเธอ เขาใช้มือขยี้ตาตัวเองสองสามครั้งแล้วหยัดกายลุกขึ้นยืนบิดตัวเล็กน้อย “ปวดฉี่ขอเข้าไปฉี่หน่อย” แล้วดึงแขนของบลูเบลล์ที่ยังคงนั่งยองอยู่นั้นให้ลุกขึ้นยืน “นายมาทำไม?” “ฉันมาหาเธอตั้งแต่เมื่อเย็นวาน คนข้างห้องบอกว่าไม่เห็นเธอกลับมาคิดว่าจะกลับมืดๆ ฉันเลยนั่งรอจนเผลอหลับน่ะ” “แล้วมาทำไม?” “คิดถึงอยากมาหา” “เราเลิกกันแล้วนะ นายฟังไม่เข้าใจอีกเหรอ?” “เอาน่า เปิดห้องดิฉี่จะราดอยู่แล้ว” เทสโตบอกพลางดันหลังบลูเบลล์ให้เปิดประตูห้องซึ่งเธอก็เปิดมันแล้วเขาก็รีบเดินดิ่งๆ ไปหาห้องน้ำเพื่อปลดปล่อยน้ำทันที ส่วนเธอก็ปิดห้องล็อคประตูแล้วมานั่งบนโซฟากอดอกรอเขาที่ใช้เวลาในการปล่อยน้ำไม่ถึงห้านาทีก็เดินออกมา “ฉันคบกับโรแล้ว” เธอเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเขามายืนอยู่ตรงหน้า เทสโตไม่ตอบอะไรเพียงแต่ไหวไหล่ให้แล้วเดินไปหาน้ำเปล่าจากตู้เย็นมาดื่มแล้วเดินกลับมานั่งตรงข้ามบลูเบลล์ที่เอาแต่กอดอกจ้องหน้าเขาเขม็ง “แล้วบอกฉันทำไม?” “ก็บอกให้รู้ไงว่าฉันมีแฟนแล้ว และนายเองก็ป็นแค่แฟนเก่าอย่ามาทำให้ฉันมีปัญหากับแฟน” “ฉันไม่ได้อยากจะมาขอเธอคืนดีหรือมาจีบเธออีกรอบสักหน่อย” น้ำเสียงที่เรียบนิ่งบอกอย่างไม่ยี่ระ ต่างจากคนฟังอย่างบลูเบลล์ที่ถึงกับขมวกคิ้วมุ่น “แล้วที่มาตามตื๊อตามตอแยนี่หมายความว่าไง?” “ฉันไปแอบชอบผู้หญิงคนนึง” “มาบอกทำไม” “ก็เธอถามมั้ย!?” เทสโตสวนกลับอย่างทันควันแล้วเอ่ยต่อ “แต่ฉันไม่กล้าจีบ” จากน้ำเสียงที่เรียบนิ่งเปลี่ยนมาจริงจังไปในทันที ทำให้บลูเบลล์ถึงกับต้องทำสีหน้าและท่าทางที่จริงจังตามไปด้วย ถึงแม้จะรู้จักและเคยคบกันมาจนรู้ว่าเขามีนิสัยที่กะล่อนแถมยังเจ้าชู้แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีมุมที่ไม่กล้าจีบผู้หญิงเหมือนกัน “แล้วนายจะให้ฉันไปจีบให้หรือไง!” “ใช่! ฉันอยากให้เธอไปจีบให้” ตอบรับด้วยรอยยิ้มและท่าทางที่ดี๊ด๊าแบบสุดๆ จากนั้นก็ล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดเปิดรูปหญิงสาวในดวงใจตนยื่นให้บลูเบลล์ดูซึ่งเธอก็รับมันมาดู ในรูปนั้นเป็นรูปของผู้หญิงตัวเล็ก ผิวขาว ตาโตดูน่ารักจิ้มลิ้มที่สำคัญเธอเดาจากหน้าตาที่จิ้มลิ้มแบบนี้อายุคงไม่เกินยี่สิบปีอย่างแน่นอน! “อายุเท่าไหร่?” บลูเบลล์ยื่นโทรศัพท์คืนพร้อมกับเอ่ยถาม เทสโตไม่ตอบเป็นคำพูดเพียงแต่ยกนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้วและอีกเจ็ดนิ้ว “สิบเจ็ด คุกนะนั่น” “แต่น้องน่ารักมากเลยนะ เบลล์ถือว่าตอนนี้เราเป็นเพื่อนรักกันก็ได้ เธอช่วยจีบให้ฉันหน่อยสิ” จากที่นั่งตรงข้ามเทสโตก็ขยับมานั่งด้านข้างบลูเบลล์แทน มือหนาเอื้อมมาจับแขนเรียวเขย่าไปมาเบาๆ เป็นการออดอ้อน สาบานเลยว่านี่คือครั้งแรกที่เธอเห็นเขาเป็นแบบนี้ เป็นเหมือนเด็กที่อยากได้ของเล่นแต่ไม่มีคนซื้อให้เลยต้องมาอ้อนเธอน่ะ “แล้วฉันจะได้อะไร?” “เธออยากได้อะไรล่ะ?” “ถ้าฉันจีบให้ได้แล้วเลิกมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉัน” “ตกลง ถ้าเธอจีบน้องเขาให้ฉันได้ฉันจะเลิกยุ่งวุ่นวายกับชีวิตเธอ” เทสโตยกนิ้วขึ้นมาสามนิ้วทำการสาบานทันที บลูเบลล์จึงขยับตัวออกจากเขาแล้วส่ายหน้าให้เบาๆ “ส่งช่องทางการติดต่อน้องมาให้ฉัน แล้วก็ออกจากห้องฉันไปได้แล้ว!” “รีบไล่จัง ฉันมานอนรอเธอทั้งคืนเลยนะ” “มานอนรอเพื่อจะให้ฉันช่วยจีบผู้หญิงให้ เหอะ! ฉันไม่ได้ร้องขอสักหน่อยว่าให้มานอนรอ” “แล้วถ้าฉันมานอนรอเพราะคิดถึงเธอล่ะ?” จากสีหน้าที่เล่นๆ ก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนมาจริงจังอีกครั้ง เขาหันไปจ้องใบหน้าเรียวของแฟนเก่าที่กำลังหันมามองเขาจนเขาต้องหลบสายตาที่คมกริบนั่นของเธอ “นายมารอฉันเพราะคิดถึงและฉันก็กลับมา ทำไมตอนฉันรอนายเพราะคิดถึงนายไม่กลับมาบ้างล่ะ?” บลูเบลล์ถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ สำหรับเธอแล้วเทสโตก็เป็นผู้ชายอีกคนที่เธอมองว่าหล่อ ทั้งรูปหน้า ร่างกายที่ดูดีแถมยังขี้อ้อนอีกด้วย มีเพียงความเจ้าชู้กะล่อนปริ้นปล้อนแบบสุดๆ ของเขาที่เธอรับไม่ได้จนต้องเลิกกัน เธอคบกับเขาเพราะเขามาจีบมาอ้อนเธอนี่แหละ แต่ก็นะนิสัยเจ้าชู้ของหมอนี่มันติดเป็นสันดานไปแล้วนี่ใครจะทนคบต่ออยู่ได้ล่ะ “ฉันขอโทษไปแล้วไง ไม่พูดนะตอนนี้เราเป็นเพื่อนรักกันโอเคมั้ย?” “ไม่ ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับคนเจ้าชู้แบบนายออกไปจากห้องฉันได้แล้ว” ผายมือไปทางประตูเป็นการไล่ เทสโตก็ส่งเสียงจิ๊จ๊ะออกมาอย่างขัดใจแต่ก็ยอมลุกแล้วเดินออกจากห้องของเธอไป“จะไปหาเองค่ะ คนปัจจุบันไม่ค่อยดี” เสียงหวานเอ่ยตอบแฟนหนุ่มที่ตอนนั่งเอาใบหน้าซบแผ่นหลังของเธออยู่ แต่พอได้ยินแฟนสาวพูดเช่นนั้นเขาจึงขยับมือมาโอบเอวของเธอไว้แล้วเปลี่ยนเป็นซบหัวไหล่ของเธอแทน“ฉันดีทุกอย่างนะ”“เหรอ ดีไม่ห่างเหินมากกว่ามั้ง”“อ่า อย่างชอบ ฮ่าๆ” เทสโตว่าพลางหัวเราะออกมาอย่างชอบใจกับคำพูดของบลูเบลล์ ต่างจากโรมันที่นั่งส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ คนอย่างหมอนี่ไม่โดนดีไม่ได้เลยมั้ง ปัก!! ไม่เพียงแต่คิดในใจโรมันยังคว้าขวดน้ำลิ้นจี่ที่วางอยูตรงหน้าของลูกหมีปาใส่เทสโต และมันก็โดนหัวหมอนั่นเต็มๆ“ไอ้โรมัน!!”“…เบลล์ครับดูหมอนั่นเรียกฉันสิ ไม่ให้เกียรติฉันเลย” น้ำเสียงอ่อนนุ่มของโรมันบอกแฟนสาวแล้วแลบลิ้นปริ้นตาใส่เทสโตที่หน้าแดงก่ำมีควันออกหูอยู่“แค่นี้ก็ต้องฟ้องเมีย!”“อังเปา! เธอหุบปากของเธอไปเลยนะแล้วนี่ทำไมต้องนั่งตัวติดกันขนาดนั้นกลัวคนอื่นไม่รู้ว่าอยู่ข้างเดียวกันหรือไง” ร่างสูงหันไปโวยวายใส่อังเปาทันทีที่โดนหล่อนว่าเช่นนั้น เขาไม่รู้ว่าฟ้าส่งสองคนนี้ให้มาคู่กันหรือไรนอกจากหน้าตาที่กวนบาทาแล้วก็คำพูดอีกเหมือนกันอย่างกับแกะ“ฉันเป็นผัวเขา”“ห้ะ! ผัว…เพิ่งเจอกันเมื่อคืนเองนะ อย่า
ตอนเช้าร่างบางขยับตัวพลิกไปมาด้วยความปวดเมื่อยแทบจะทุกส่วนในร่างกาย เธอหยัดกายลุกขึ้นนั่งบิดตัวเองเบาๆ แล้วก็หันไปมองคนข้างกายที่ลืมตาแป๋วจ้องมองเธออยู่ก่อนแล้ว และก็ดูเหมือนว่าเขาจะอาบน้ำจัดการตัวเองเรียบร้อยตอนนี้ถึงได้นอนอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำและนอนเอาแขนเท้าขมับมองหน้าเธออยู่“เก้าโมงแล้วครับที่รัก วันนี้ตื่นสายนะ”“…”“ทำไมมองหน้าฉันแบบนี้ล่ะ เมื่อเช้าฉันไปที่บริษัทและกลับมารับเธอไปดูน้ำหอมกลิ่นบลูเบลล์ เพราะถ้าเธอชอบจะได้ผลิตออกมาถ้าไม่ชอบก็จะได้ให้เธอทดลองเองจนกว่าจะชอบ”“…” ไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวเล็ก เพียงแต่เปิดผ้าห่มออกจนเห็นเรือนร่างที่ขาวผ่องของตัวเองแถมยังมีรอยแดงเป็นจ้ำๆ ในบางจุด จากนั้นก็เคลื่อนสายตาไปมองคนทำที่นอนยิ้มกริ่มเหมือนกับว่าภาคภูมิในใจผลงานของตัวเอง“เธอเงียบทำไมครับ?”“พูดไปก็เมื่อยปาก” ตอบด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าแล้วก็ลุกขึ้นยืน แต่ยืนไม่ถึงห้าวิก็ต้องนั่งลงบนที่นอนตามเดิมเมื่อส่วนกลางใจสาวของเธอนั้นปวดระบมมาก โรมันไม่รีรอเขารีบดีดตัวลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาอุ้มคนตัวเล็กพาเข้าไปในห้องน้ำ“เมื่อเช้าเพื่อนเธอทักมาด้วยบอกว่าอยากชวนไปเม้ามอยเย็น
“นายจะรีบอะไรขนาดนั้นโร!” ร่างบางเอ่ยถามแฟนหนุ่มเมื่อมาถึงคอนโดโรมันก็อุ้มเธอพาขึ้นมาในห้องนอนด้วยความรวดเร็ว ร่างสูงไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยืนกอดอกมองเธอด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ดูจากรอยยิ้มก็คือไม่ต้องเดาว่าสมองของเขาตอนนี้กำลังคิดถึงเรื่องอะไรอ่ะ“รีบเอาเธอไง ฉันอยากแย่แล้ว”“เปลี่ยนเป็นวันพรุ่งนี้ได้มั้ย วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันเลย นอนกอดกันเฉยๆ ได้มั้ย” น้ำเสียงอ่อนๆ ของบลูเบลล์บอกพร้อมกับบขาเรียวก้าวเข้าไปยืนชิดร่างสูงที่ส่ายหน้าให้รัว“ไม่เอาอ่ะ”“โรคะ พักบ้างก็ได้มั้ย?”“เบลล์ครับ ของฉันมันก็หงอยดิ สักน้ำสองน้ำก็ยังดีนะ”“โรคะ เบลล์เหนื่อยเบลล์เมื่อยจริงๆ ไปอาบน้ำมานอนกอดกันก็พอนะคะ” จากที่แทนตัวเองว่าฉันก็เปลี่ยนเป็นแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นกับน้ำเสียงหวานๆ พร้อมกับยกมือขึ้นไปกอดลำแขนแกร่งแล้วซบหน้าลงบนต้นแขนของเขา“ไม่ต้องมาอ้อน…”“เบลล์เหนื่อยจริงๆ เราไปอาบน้ำแล้วโรนอนกอดเบลล์ก็พอนะคะ”“ไม่พอ ไม่อยากได้แค่กอดเบลล์ครับ…”“โรไม่รักเบลล์แล้วเหรอคะ โรไม่อยากให้เบลล์พักหอยบ้างเลยเหรอ”“โอเค พักก็พัก..เลิกทำน้ำเสียงอ้อนแบบนี้สักที” น้ำเสียงและท่าทางที่มันดูน่ารักดูขี้อ้อนเหมือนเด็กๆ ทำให้คนอย่
ทางด้านบลูเบลล์เมื่อเดินเข้ามาในบ้านของคุณออมสินเธอก็สอดส่ายสายตามองหาผู้เป็นแม่ก่อนจะไปเห็นคุณเบนนีกำลังยืนคุยอยู่กับคุณต้นอ้อ ร่างเพรียวจึงเดินตรงดิ่งเข้าไปหาทั้งคู่ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้คุณต้นอ้อด้วย“สวัสดีค่ะคุณป้า”“สวัสดีจ้ะ เรานี่ก็ใช่ย่อยนะป้าถามว่าแฟนตาโรเป็นใครก็ไม่ยอมบอกที่แท้ก็เป็นเรานี่เอง” คุณต้ออ้อตีแขนของบลูเบลล์เบาๆ อย่างไม่จริงจังนัก แล้วเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่พึงพอใจหลังจากได้รู้ว่าแฟนสาวของลูกชายก็คือคนใกล้ตัวนี่เอง“แฮะๆ รอเซอร์ไพรส์ไงคะ…ไม่รู้ว่าเป็นหนูคุณป้าจะรับเป็นสะใภ้มั้ย?”“แหม จะไม่รับก็ยังไงอยู่มั้ยรู้จักตั้งแต่ตัวเท่าขวดน้ำ”“อืม แล้วแม่ให้คนไปเรียกหนูมีอะไรหรือเปล่าคะ?” หันไปถามคุณเบนนีที่กำลังยกโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปเธออยู่ แล้วจากนั้นก็คงจะไปโพสต์ลงเฟสบุ๊คพร้อมกับประโยคแสนจะน่ารักอย่าง ‘ลูกสาวใครนะ สวยจัง’ อีกตามเคยล่ะสิ“ก็ให้มาคุยกับแม่แฟนบ้างไง อีกอย่างแม่กับอ้อคุยกันแล้วว่าหากลูกคิดจะอยู่กินกันจริงๆ ทางอ้อก็จะจัดงานแต่งให้ เพราะลูกสองคนก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้วไง”“ใช่ๆ และที่สำคัญนะ ป้าอยากมีหลานแต่งปุ๊ปต้องปั๊มหลานให้ป้าทันทีเลยนะ”“ไม่ต้องแต่งก็ปั๊มให้
“พี่เบลล์ทำงานอะไรอยู่เหรอคะ?” อังเปาเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาเป็นประกาย ทั้งที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ แถมยังได้เข้าเรียนในโรงเรียนหญิงล้วนแต่ทำไมเธอร้สึกว่าบลูเบลล์สวยดึงดูดเธอมากเลยไม่รู้“ตอนนี้พี่เปิดร้านดอกไม้กับร้านเครื่องเขียนน่ะ”“อ่อ เปิดนานหรือยังคะ?”“ก็ได้สองสามปีแล้ว เปาล่ะตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่”“อืม เป็นพนักงานในบริษัทคุณป้าค่ะ แล้วก็กำลังเรียนต่อปริญญาโทอยู่ค่ะ” อังเปาบอกด้วยรอยยิ้ม ดวงตากลมโตจ้องมองบลูเบลล์แทบไม่ลดละ จนคนที่ถูกมองถึงกับทำตัวไม่ถูกได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้“พี่เบลล์มีแฟนหรือยังคะ?”“มีแล้วค่ะ เปาล่ะคะ?”“ไม่มีค่ะ พี่สวยแบบนี้แฟนพี่คงหล่อน่าดูนะคะ”“ก็…พอได้ ฮ่าๆ” บลูเบลล์เอ่ยติดตลก ส่วนอังเปาก็มีเพียงใบหน้าที่เรียบนิ่งแทบจะตลอดเวลา “กรี๊ดด!! แกใครอ่ะ หล่อจัง!” จนมีเสียงของผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเธอสงคนดังขึ้น สองสาวจึงหันไปมองทางหน้าบ้านที่มีสามหนุ่มเดินเข้ามาในงานด้วยชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนังถูกขัดจนเงาวับ ผมถูกเซ็ทไว้อย่างลงตัว…“หล่อมากเลยมึง!”“จริง! โดยเฉพาะคนกลาง เขามีเมียยังวะมึง!” เสียงสาวๆ ยังคงดั
เวลา 18:39 น.“เบลล์ครับ…ทำอะไรอยู่เหรอ มืดแล้วนะ” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงเดินเข้ามาในห้องทำงานของแฟนสาวที่นอนหมอบลงไปบนพื้นโต๊ะด้านหน้า เปลือกตาบางปิดสนิทพร้อมกับเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ“เบลล์ หลับเวลานี้เนี่ยนะ” เขาบ่นพึมพำกับตัวเองแล้วเดินไปหยิบเสื้อแขนยาวของเจ้าตัวซึ่งแขวนไว้ที่ราวตากผ้านั้นมาคลุมตัวให้เธอ จากนั้นก็เดินมาจัดเอกสารบนโต๊ะที่เกลื่อนกราดให้เข้าที่ก่อนจะหยิบเก้าอี้มานั่งข้างบลูเบลล์“ที่รักครับ กลับไปนอนที่ห้องดีกว่ามั้ย แบบนี้มันเมื่อยนะ” โรมันบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเมื่อเห็นแขนของเจ้าตัวเล็กเป็นรอยเส้นผมที่เจ้าตัวเอาศีรษะหนุนไว้ ฝ่ามือหนาจึงสอดเข้าไปจับประคองใบหน้าที่เรียวสวยไว้แล้วจ้องมองเธอที่ยังคงหลับไม่รู้สึกตัว“ขี้เซาจริงๆ ตื่นได้แล้วครับ” ขยับมือที่รองอยู่ใต้แก้มของของบลูเบลล์เบาๆ จนร่างเล็กขยับตัวพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองเขาแล้วยกมือขึ้นมาขยี้ตาตัวเอง“มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”“สักพักแล้ว วันนี้ไปงานคุณออมสินไม่ใช่เหรอ”“อืม เพิ่งเลิกงานเหรอ” ถามพลางบิดตัวเล็กน้อย โรมันจึงพยักหน้ารับแล้วเอื้อมมือมาจับเส้นผมที่บังหน้าสวยๆ ของบลูเบลล์ไปทัดใบหูขาวไว้ ดว