เขากลับถึงบ้าน เมื่อไขประตูเข้าไปก็เจอธนัชชางัวเงียพึ่งตื่นอยู่ที่โซฟาเพราะได้ยินเสียงประตูเปิด นั่นทำให้เขาแปลกใจ
“ทำไมน้องมาอยู่ที่นี่ ไม่กลับไปนอนที่บ้านครับ” “หนูเป็นห่วงพี่โจจะเมาค่ะ เลยมารอ ไม่ได้ยินเสียงรถเลย สงสัยหนูมัวหลับลึกไปหน่อย” “ผมไม่ได้เมามาก แค่มึนๆ นิดหน่อย ขอบคุณมาก” “พี่โจไม่อยากให้หนูอยู่ดูแลพี่เหรอคะ?” เจตสุวีย์ที่เมานิดหน่อยและกำลังปลื้มใจที่จะได้ติดต่อกับคนที่เขารักอีกครั้ง ทำให้อารมณ์ดีเป็นพิเศษ “อยากดูแลอะไรตอนนี้ มันดึกแล้วนะ เกือบตีสอง” ทำให้ธนัชชาอายขึ้นมาที่เหมือนเธอเสนอตัวก่อน แต่เจตสุวีย์นั้นเขาเหมือนเสือที่เห็นเหยื่อ จึงเดินไปใกล้ๆ แล้วถาม กลิ่นตัวที่หอมของเขาผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ ทำให้เธอรู้สึกใจสั่นไหวสุดๆ “ดูแลพี่บนเตียงเหรอ หรือยังไง?” “เอ้อ..หนู..เห็นว่าเราตกลงกันแล้วและพี่โจก็ใจกว้างโอนมาให้หนูก่อนตั้งมากมาย จะให้หนูกลับไปนอนที่บ้านสบายใจเฉิบโดยไม่สนใจพี่ว่าถึงบ้านหรือยัง รู้สึกเหมือนเอาเปรียบพี่ค่ะ” แต่เขาไม่ต้องการเพราะเธอไม่ดึงดูดใจมากพอ แถมเขาอยากขึ้นไปบนห้องเพื่อคุยกับไอรดาแล้วด้วย “ไม่เป็นไรครับ น้องไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ฝากมาไขประตูเปิดให้แม่บ้านกับคนสวนสักแปดโมงให้ที เพราะผมอาจจะนอนตื่นสาย” เจตสุวีย์เข้าไปจุ๊บแก้มเธอหนึ่งทีให้จบๆ แล้วยิ้มให้พอเป็นพิธี ซึ่งวิธีนี้เขาใช้ประจำกับผู้หญิงที่อยู่ในอุปถัมป์ แต่ธนัชชาหน้าแดง คิดไปไกลมากมาย “ฝันดีนะคะพี่โจ” เขาหันหลังขึ้นบันไดไปทันทีโดยไม่ตอบอะไรและไม่หันมามองเธออีกเลย มีแค่เธอที่มองเขาขึ้นไปจนลับตาและเสียงประตูห้องนอนที่ปิดลง แต่เธอกลับไม่ใส่ใจเพราะคิดว่าเขาคงง่วงมากจริงๆ เขาไปล้มตัวบนเตียงแล้วดูเวลาว่าที่อเมริกาพึ่งจะสิบเอ็ดโมง เขาตื่นเต้นผุดลุกผุดนั่งอยู่แบบนั้น ว่าจะพิมพ์ข้อความอะไรส่งไปหาเธอดี ทำยังกับเหมือนพึ่งเคยจีบผู้หญิงครั้งแรก พี่ไม่สนหรอกว่าหนูจะมีใคร..พี่ไม่ติดมาตั้งแต่หนูเริ่มคบแมทธิว ไหนๆ พี่ก็ไม่ได้ดีในสายตาหนูอยู่แล้ว แต่ผู้ชายคนนี้รักหนูไม่แพ้ใครแน่นอน.. มีข้อความเข้ามาทางไอจีจากจูน ทำให้ไอรดาอมยิ้ม “อาย ที่นั่นใกล้จะเที่ยงแล้ว กินอะไรหรือยัง? หรือมัวดูหลานอยู่น๊า นี่พึ่งไปเที่ยวกลับมาจากบาร์ นอนไม่หลับ” “ก็คงกินพวกสลัดผัก ไก่ย่าง ไข่ต้ม ซุป ฉันเบื่ออาหารจะแย่ คิดถึงเมืองไทยจัง อาหารไทยที่นี่ก็ไม่ถูกปาก ร้านอาหารไทยอยู่ห่างไปสี่ไมล์ แมทธิวไปซื้อมาให้ทุกวัน แต่นี่เขาจะไม่อยู่สามวัน ฉันคงน้ำหนักลดแน่ๆ ว่าแต่เธอโทรคุยได้นะจูน ถ้าขี้เกียจพิมพ์” “ไม่ล่ะ กลัวรบกวนหลาน ถ้าเธอไม่ว่างฉันจะพิมพ์เอาไว้ ว่างก็มาตอบอะไรแบบนี้” “ตกใจเลย ปกติเธอไม่พิมพ์มาอะไรดึกๆ ที่ไทยกี่โมงแล้วนะ..อืมม ตีสองแล้วนี่ ไม่หลับไม่นอน” “พรุ่งนี้วันเสาร์ ฉันไม่ต้องไปทำงานน่ะ แล้วเธอคิดว่าจะมาไทยตอนไหนนะ?” “คงรอลูกครบขวบน่ะ ถึงจะพาไปหาคุณปู่คุณย่าที่เชียงใหม่ แมทธิวไม่ให้บินไปไหนเด็ดขาด ถ้าลูกเขายังคออ่อนอยู่ขนาดจะนั่งเฟิร์สยังไม่ให้เลย ไม่อยากให้ลูกปรับเวลาไม่ได้” น่าหมั่นไส้..นายจะหวงลูกไปไหน นั่นอาจจะเป็นลูกฉันก็ได้แมทธิว “ทำไมเธอให้ลูกชายใช้นามสกุลทางเธอล่ะ?” “อืม..ก็บ้านฉันไม่มีทายาทผู้ชายตอนนี้ ลูกพี่ลูกน้องก็ยังไม่แต่งงาน พึ่งจะเรียนจบเอง ฉันเลยกลัวว่านามสกุลของพ่อจะหายไปน่ะ แต่ฉันแพลนไว้ว่าจะมีลูกคนที่สองให้บ้านของแมทธิวนะ” “แล้วถ้าลูกคนที่สองเป็นผู้หญิงล่ะทำไง?” “ก็คงตามนั้น ถึงทางพ่อเขาจะเป็นคนไต้หวันและนิยมลูกชายก็ตาม แต่ฉันว่าสมัยนี้โลกเรามันเปลี่ยนไปแล้วนะ ผู้หญิงก็เป็นหัวหน้าครอบครัวได้ แต่งงานแล้วให้ลูกใช้นามสกุลทางผู้หญิงก็ได้สมัยนี้ สะดวกจะตาย” งั้นก็ขอให้ลูกคนที่สองของแมทธิวเป็นผู้หญิงแล้วกัน… “ฉันคิดถึงเธอมากเลยนะ ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึง” ไอรดาถึงกับหัวเราะในลำคอเบาๆ ที่วันนี้เพื่อนสนิทของเธอพิมพ์มาใช้คำพูดแปลกๆ “ฉันก็คิดถึงเธอนะจูน แล้วพี่บิวเป็นยังไงบ้าง? เธอบอกว่าป๊ากับม๊ารับรู้ ตอนนี้ก็ไม่ได้ติดอะไรใช่มั้ย? แล้วพี่โจล่ะ ว่ายังไงบ้าง?” เจตสุวีย์ยิ้มกว้างให้ตัวเองทันทีที่เธอเอ่ยถึงเขา เพราะขนาดให้จูนพิมพ์บอกไปตอนอยู่ที่บาร์ว่าเขามาด้วย เธอยังไม่เอ่ยถึงเขาแม้แต่นิดเดียว “พี่โจก็คงปล่อยแล้วล่ะ ขี้เกียจจะบ่น” ไอรดาส่งอีโมจิหัวเราะขำให้แทน นั่นทำให้เขายิ้มไปด้วย “ฉันอยากส่งของให้เธอ ได้ไหม?” “ส่งอะไรกันจูน บ้าเหรอ ไม่ต้องๆ” เจตสุวีย์พิมพ์คุยกับเธอร่วมชั่วโมง ถามนั่นถามนี่โดยที่ไอรดาคิดว่าเป็นจูน เธอรู้สึกเพลิดเพลินกับการแชทคุยมาก อาจจะเพราะเหงาและคิดถึงเพื่อน คิดถึงเมืองไทยนั่นเอง คืนนี้เป็นคืนแรกที่เจตสุวีย์นอนหลับได้อย่างมีความสุข หลังจากเจอเรื่องแย่ๆ มาตลอดตั้งแต่เขาพลาดไปทำร้ายเธอและกิจการที่มีร่วมกันเข้า นั่นเพราะทระนงตัวมากเกินไปว่าจะชนะไอรดาได้ เขาตื่นมาในช่วงสายแล้วลงไปย้ายรูปวาดของไอรดามาไว้ที่ห้องนอน เพื่อที่จะได้เห็นเธอตลอดเวลา ภาพของเธอที่เขาจ้างนักวาดจากรัสเซียมาวาดให้ โดยในภาพ เธอใส่เซทเพชรสีชมพูอมม่วง ทั้งสร้อยและตุ้มหู ที่เขาเคยทำให้เธอเพื่อจะขอหมั้น แต่เธอถอดมันทิ้งไว้ที่ห้องน้ำในบ้านที่ซื้อเพื่อเธอ ในคืนที่เธอเป็นของเขา… เขายังเก็บเซทเพชรหายากนี้ไว้ตลอด โอกาสที่จะได้เอาให้เธออีกครั้งนั้นช่างน้อยนิดแทบจะเป็นศูนย์ เขารู้ว่ามันดูลมๆ แล้งๆ แต่หัวใจเขากลับไม่ยอมแพ้ ธนัชชาที่รอเวลาห้างเปิดและรีบเรียก Taxi ไปที่พารากอนและตรงดิ่งไปซื้อน้ำหอมที่เคาท์เตอร์แบรนด์ทันที เธอประหม่านิดหน่อยที่มาซื้อของราคาแพงครั้งแรก น้ำหอมที่ราคาสองหมื่นทอนสองร้อยบาททำเอาเธอลมแทบจับ จากนั้นเธอไปทำเล็บ ต่อขนตาและทำผมลอนใหญ่ยาวดูสวย เข้า shop เพื่อซื้อเครื่องประทินผิวและเครื่องสำอางแบรนด์มากมาย พอกลับบ้านในตอนเย็น ทำเอาแม่ของเธอที่เตรียมไปเข้าเวรที่โรงพยาบาลถึงกับตกใจระคนแปลกใจที่เธอเอาเงินที่ไหนมาแต่งตัวและซื้อของมามากมาย “นัชชา อะไรเนี่ย? เอาเงินที่ไหนมาซื้อของเยอะแบบนี้?” เธอยิ้มให้แม่เขินๆ ก่อนจะนั่งที่โซฟาแล้วดึงแม่มานั่งด้วย “หนูเริ่มคบคนคนหนึ่งมาสักพักแล้ว เขาไม่เคยล่วงเกินหนูเลย แต่ให้เงินหนูมาเพราะสงสารที่เห็นหนูลำบาก ปีนี้ปีสุดท้ายหนูก็จะจบแล้ว แม่ไม่ต้องให้ค่าขนมหนูแล้วนะ เพราะเขาจะรับผิดชอบให้เอง หนูจะช่วยค่าผ่อนบ้านหลังนี้ด้วยนะ” แม่ถึงกับทำตาโต จับมือลูกสาวแน่น “แล้วเขาคือใคร ไม่พามาให้แม่รู้จักหน่อยล่ะ แม่ควรต้องดีกับเขาด้วยที่ดีกับลูก ถึงขนาดให้โดยไม่ล่วงเกินลูก” “ไว้สักพักนะแม่ พี่เขาทำงานหนักมาก เพราะออกจากบ้านมาสร้างตัวเอง เขาเป็นคนเก็บตัว แต่ถ้าแม่ได้เจอพี่เขา รับรองว่าแม่ต้องชอบพี่เขา ทั้งหล่อ ขาว สูง ใจดีมาก” “อายุอานามเท่าไหร่นั่น?” “น่าจะสามสิบต้นๆ เองค่ะ พอดีหนูไม่ได้ถามอายุขนาดนั้น” “แปลกคน คบกันแต่ไม่ถามอายุ” “พี่เขาดูหนุ่มจะตาย หนูเลยไม่ถามหรอก” ธนัชชาพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง จากนั้นแม่ก็ออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน เธออาบน้ำแต่งตัวพรมน้ำหอมที่เจตสุวีย์ชอบ แล้วส่งข้อความไปหา “พี่โจหิวมั้ยคะ กินอะไรหรือยัง?” “ถ้าน้องจะมากินกับผมก็สั่งมาได้เลย พอดีผมทำงานนิดหน่อย” เธอจึงสั่งอาหารมาแล้วไปเดินไปหาเขาที่บ้าน ก่อนจะตรงไปที่ห้องทำงาน เคาะประตูเบาๆ ไปสองที เจตสุวีย์ก็บอกให้เข้ามาหาได้ “พี่โจ จะให้หนูเตรียมอาหารให้เลยมั้ยคะ?” กลิ่นน้ำหอมโชยเข้าจมูกของเขา และตอบโดยไม่มองหน้าเธอ เอาแต่จ้องโน้ตบุ๊ค “หอมมาก ผมชอบกลิ่นนี้” ธนัชชายืนอยู่ใกล้เขา แต่สังเกตว่ารูปภาพคนรักของเขาหายไป “เอ๊ะ..รูปภาพผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้ว” เขาเหลือบหางตามองเธอนิดหน่อย แล้วตอบอย่างเย็นชา “เธอไม่ใช่แค่ผู้หญิงคนนั้น แต่คือ สุดที่รักของผม” คำตอบที่ทำเอาธนัชชาสะอึกและน้อยใจตั้งแต่เริ่มความสัมพันธ์กับเขาได้ไม่เท่าไหร่ “ค่ะ รูปสุดที่รักของพี่โจ ไม่อยู่ที่ห้องนี้” เธอแกล้งพูดประชดเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่พลาดที่สุด “แล้วมันสำคัญกับน้องตรงไหนครับ? ที่รูปเธอจะอยู่หรือไม่อยู่” “หนูแค่ถามเท่านั้นเองค่ะ” เจตสุวีย์หมุนเก้าอี้หันมามองที่เธอยืนอยู่ แล้วจ้องหน้าด้วยสายตาที่คมกริบ “ผมย้ายรูปเธอไปไว้ที่ห้องนอน เพราะจะได้เห็นเธอตลอดเวลา” เขาตอบแล้วลุกขึ้นเดินผ่านเธอตรงไปยังห้องกินข้าว ธนัชชารีบเดินตามไปและไปจัดการเตรียมอาหารใส่จานให้ เขานั่งกินเงียบๆ ไม่พูดอะไร และเลื่อนดูโทรศัพท์พลางกินข้าวไปด้วย นั่นทำให้เธอน้อยใจจนต้องกินข้าวทั้งน้ำตา เจตสุวีย์เหลือบตาดูเธอที่กินข้าวด้วยน้ำตาที่ไหลอยู่เงียบๆ เขาวางช้อนแล้วพูดด้วยเสียงที่ไพเราะ และยื่นมือให้เธอมาหาเขา “นัชชา มาหาผมสิ” เธอวางช้อนมองเขาด้วยสายตาที่กลัวเกรงปนเสียใจ ก่อนจะลุกจากเก้าอี้มาหาเขาที่ดึงมือเธอมานั่งตัก เจตสุวีย์ใช้นิ้วมือที่เรียวสวยปาดน้ำตาให้ และแขนอีกข้างที่กอดเอวเธอเอาไว้ “วันนี้ทำผมมาใหม่สวยดีนะ ผมชอบ ไม่ต้องร้องไห้นะ ผมจะให้น้องดูแลได้ยังไง ถ้าหากเสียใจอยู่แบบนี้” “หนูขอโทษที่ทำให้พี่โจไม่พอใจค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ” “คุณแม่น้องเลิกงานเช้าใช่มั้ย?” ธนัชชาพยักหน้าแทนคำตอบ “อยากอยู่กับผมมั้ยคืนนี้? แต่ถ้าผมทำให้น้องรู้สึกไม่ดีก็พักผ่อนที่บ้านดีกว่านะ” “หนูอยากอยู่ค่ะ” เขาให้เธอลุกขึ้น บอกให้เธอไปอาบน้ำแปรงฟันอีกครั้งแล้วค่อยมาหาที่ห้องนอนชั้นบนในตอนสามทุ่ม แต่ก่อนเธอจะออกไป เขาคว้ามือเธอไว้ “น้องเคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนมั้ย? ไม่ต้องคิดมากกับคำถาม ผมแค่ถามเพราะจะได้รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวยังไง” “เคยค่ะ กับแฟนที่นอกใจ” “โอเค แล้วเจอกันนะ” ธนัชชาเริ่มกินยาคุมรายเดือนหลังจากวันที่คุยตกลงกันแล้ว ตอนนี้เธอตื่นเต้นมาก รีบอาบน้ำแล้วพรมน้ำหอมบางๆ อีกครั้ง เจตสุวีย์นอนเอนหลังบนเตียง เลื่อนดูข้อความในไอจีที่เขาได้สนทนากับไอรดาเมื่อคืนวนไปวนมาพลางยิ้มกับตัวเอง ตอนนี้เขาดูเวลาพึ่งจะหกโมงเช้าที่อเมริกา เลยต้องอดทนรอให้สักแปดโมงจะได้ใช้ไอจีของน้องสาวทักไปคุยกับเธออีก เพราะฉะนั้นการอยู่กับธนัชชาสำหรับเขา มันคือการฆ่าเวลาเท่านั้น เสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้น เขาบอกให้เธอเข้ามาได้ แต่พอเขาเห็นการแต่งตัวของเธอ มันทำให้เขาหมดอารมณ์ เธอถอดเสื้อกันหนาวที่คลุมมาออก เสื้อยืดสีขาวรัดรูปและกางเกงขาสั้นแบบสุดๆ ช่างเหมือนกับสาวสก๊อยที่ไหนสักที่ เจตสุวีย์อดไม่ได้ที่จะแอบเปรียบเทียบกับไอรดาอยู่ในใจ ถึงกับทำให้เขาแอบถอนหายใจไม่ให้ธนัชชาเห็น “พี่เหนื่อยยังไงไม่รู้ น้องดูแลพี่หน่อยแล้วกันนะ” เขาทำเสียงอ้อนอย่างไพเราะกับเธอ ซึ่งนั่นก็ทำให้ธนัชชาถึงกับหน้าแดง แต่ก็พร้อมจะเอาใจเขาทุกอย่างที่เขาต้องการเจตสุวีย์เดินไปบ้านแม่และไปถามถึงซินแสประจำครอบครัว“ม๊า โจอยากให้ซินแสมาที่บ้านหน่อยน่ะครับ มาวันนี้ก็ได้ โจยอมจ่ายแพงหน่อย”มาดามจันจิราทำหน้าแปลกใจที่ปกติเจตสุวีย์ไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้ เขามักพูดว่ามันไร้สาระ “มีอะไรเหรอโจ? มีสิ่งเร้นลับหรือยังไงลูก”“แค่สงสัยอะไรนิดหน่อยครับม๊า เจไม่ค่อยชอบโจเลยอ่ะ ชอบหงุดหงิดใส่ แล้วเป็นกับโจแค่คนเดียวด้วยนะ”“เอ่อ…หรือตอนหนูอายท้อง โจชอบเถียงกับน้องหรือเปล่า? เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย ม๊าก็เดามั่ว”อีกชั่วโมงต่อมา ซินแสได้มาที่บ้าน ทำเอาไอรดาแปลกใจ แต่ก็คิดว่าคงมาดูฮวงจุ้ยบ้านซินแสที่ได้รับข้อมูลมา ก็ขอวันเดือนปี เวลาตกฟากของลูกชายจากไอรดา จากนั้นซินแสขอรูปของแมทธิวจากโทรศัพท์ของเจตสุวีย์ไปดูอีกครั้ง โดยมองที่รูปสลับกับเด็กน้อยที่นั่งบนตักแม่ “แววตาเหมือนกันมาก” พูดจบก็ยื่นโทรศัพท์ที่มีรูปแมทธิวไปที่เด็กน้อย “มีความสุขที่อยู่กับผู้หญิงคนนี้สินะ ถึงได้กลับมาอีกครั้ง”ไอรดาที่ได้ยินแบบนั้นถึงกับเบิกตากว้าง มองที่เจตสุวีย์ที่ยิ้มมุมปากเล็กๆ “หมายความว่ายังไงคะ?”“คุณผู้หญิงสังเกตพฤติกรรมลูก มีอะไรที่คล้ายคนในรูปบ้างมั้ย? หรือทำไมเด็กถึงไม่ค่อยเข้ากั
เจตสุวีย์ประคบประหงมภรรยายิ่งกว่าไข่ในหินและดูแลไม่ให้คลาดสายตา จวบจนวันแต่งงานที่อเมริกาก็มาถึง รอบนี้คุณปู่คุณย่าของเธอได้มีโอกาสบินไปร่วมงานนี้ด้วยบ้านกิตติโสภณได้ทุ่มเต็มที่ให้กับงานนี้ ทั้งดอกไม้เต็มพื้นที่ ของชำร่วย อาหาร คนเสิร์ฟคอยบริการทั่วทั้งงาน งานมาในธีมสากลแบบฝรั่ง มีบุคคลสำคัญในแวดวงธุรกิจทั้งของเจตสุวีย์และพ่อก็พร้อมใจกันมาร่วมงานแต่งครั้งแรกของพวกเขาเพื่อนของเจตสุวีย์และไอรดาได้มาร่วมด้วยในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาว ทุกคนบินมาร่วมงานกันอย่างชื่นมื่น โดยมีครอบครัวสมิธที่มาร่วมงานด้วยยกเว้นพ่อแม่ของแมทธิว ซึ่งพวกเขาแค่กล่าวคำอวยพรให้เท่านั้น มีเพียงอากงและอาม่าจากไต้หวันที่ยังเอ็นดูบินมาร่วมงานตามคำเชิญ“พวกเขาคงไม่พอใจที่แมทธิวจากไปได้แค่หนึ่งปี หนูก็แต่งงานใหม่” ไอรดากล่าวกับเจตสุวีย์ด้วยสีหน้าที่เศร้า“พี่จะพาหนูกับมาร์ตินไปเที่ยวหาพวกเขาบ่อยๆ คนที่พวกเขาไม่ชอบคือพี่ ไม่ใช่หนู”หลังจากปาร์ตี้สละโสด พวกเขาก็พามาร์ตินไปเยี่ยมเยียนพ่อแม่ของแมทธิว ก่อนจะบินไปโมนาโกเพื่อขึ้นเรือสำราญสำหรับฮันนีมูนสามประเทศมี DM เข้ามาที่ไอจีของไอรดาในคืนวันแรกที่อยู่บนเรือ เธ
ธนัชชาและแฟนหนุ่มนั่งกับพื้นประจันหน้ากับเจตสุวีย์ คนหนึ่งหน้าตาวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด ส่วนอีกคนก็มองหน้าเขาด้วยสายตาจะกินเลือดกินเนื้อ“อยากได้เงินหรือความช่วยเหลืออะไรมั้ย? นัชชาให้คุณเท่าไหร่? ผมให้ได้มากกว่านะ ออกคุกมาคุณก็มีเงินใช้สบายๆ ขอแค่ยอมพูดความจริง”เจตสุวีย์ชอบใช้เงินจบปัญหา นี่คือสไตล์ของเขาเวลาต้องการความรวดเร็วและสะดวก“หนูจะแจ้งความกลับ ที่กักขังหน่วงเหนี่ยว ติดสินบนให้คนอื่นใส่ร้ายหนู”“ไม่ต้องห่วง เพราะจบจากการสนทนาอันน่ารังเกียจกับคุณ ผมจะส่งคุณให้ตำรวจพอดี เชิญแจ้งได้เท่าที่พอใจ ผมสนใจอย่างเดียวเกี่ยวกับคุณ..คือเรื่องแม่ ถ้าท่านรู้ว่าคุณใช้เงินของผมมาทำร้ายผม รู้ว่าลูกสาวคนเดียวจะต้องเข้าคุก ท่านจะเสียใจแค่ไหน”พอพูดถึงแม่ของเธอ ธนัชชาออกอาการทันที ป่านนี้แม่คงจะเป็นห่วงและตามหาเธอ ทั้งที่เธออยู่แค่ตรงกันข้ามในบ้านหลังนี้เท่านั้น แฟนของธนัชชาจึงรีบพูดขอความเห็นใจ “ตอนนี้พวกคุณก็ปลอดภัยดี ให้อภัยพวกเราได้มั้ยครับ ผมกับนัชชาจะไม่ทำผิดแบบนี้อีก” พูดจบก็ยกมือไหว้เจตสุวีย์ ธนัชชาที่ได้ยินแบบนั้นก็หันไปถลึงตาใส่ทันที “ผมรอดมาก็จริง แต่คนที่พวกคุณเกือบทำให้ตายคือ
ไอรดาที่เสิร์ฟความรักให้สามีเต็มที่ เธอเพลียหลับไปจากการเจออะไรมาทั้งวันและคืนนี้อีกค่อนคืน เจตสุวีย์จึงปล่อยให้ภรรยาพักผ่อน เขาออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกเพื่อไม่ให้รบกวนเธอ “พรุ่งนี้ออกมาตอนเช้านะ จะได้มาถึงนี่สักเที่ยง แล้วจะส่งพิกัดให้”เขาติดต่อกับกลุ่มที่จับตัวธนัชชาและแฟนหนุ่ม สั่งให้ขังไว้ในห้อง โดยไม่ต้องมัดหรือบังคับทำร้ายพวกเขา เช้าวันต่อมาตำรวจได้แจ้งว่าพบเบาะแสจากร้านขายโทรศัพท์มือถือที่หนองคายว่ามีคนนำโทรศัพท์มาขายให้โดยน่าจะขโมยมาเพราะไม่สามารถปลดล็อกหน้าจอได้จำนวนสองเครื่อง จึงไม่รับซื้อแต่ได้ภาพหน้าตาของผู้ต้องหาจากกล้องวงจรปิดในร้านแทน หนึ่งในสี่ผู้ต้องหาที่ลูกน้องของเจตสุวีย์จับได้ถูกส่งตัวให้ตำรวจ ได้ให้ปากคำว่ารับจ้างงานมาจากผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ นิรมล พอตำรวจเช็กจากเบอร์โทรศัพท์ก็ปรากฏว่าลงทะเบียนเป็นชื่อแฟนเก่าของธนัชชา เจตสุวีย์กลับถึงบ้านพร้อมไอรดา อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้าไปที่บ้านพ่อแม่ของเขา ก็เจอทุกคนอยู่พร้อมหน้า ไอรดารีบเข้าไปกอดลูกชายที่จูนอุ้มอยู่ ส่วนมาดามจันจิราที่น้ำตาซึมก็รีบเข้าไปกอดลูกชาย“ปลอดภัยนะอาย ทุกคนพากันกังวลไม่ได้หลับไม่นอนที่เธอกับพี่
“นายครับ ผมจะเข้าไปก่อนนะ นายตามผมไปเอานายหญิงมา รีบหนีไปก่อนแล้วค่อยเจอกันทีหลัง ผมจะคุ้มกันให้ ตำรวจกำลังมาทางนี้แล้ว แต่เราไม่มีเวลาพอ”“อีกสองคนอยู่ในนั้นน่าจะมีปืน ต้องอย่าให้มันจับไอรดาไปเป็นตัวประกันได้ เราจะลำบาก”“คุณโจ…คุณสิทธิศักดิ์ชุบเลี้ยงผมมา ท่านขอให้ดูแลคุณ ผมจะทำสุดความสามารถ ยังไงลูกเมียผมก็จะไม่ลำบาก”“ไม่..”เจตสุวีย์พูดได้เท่านั้น ลูกน้องเขาเดินย่องและเล็งปืนอย่างระมัดระวัง พลางยิงขู่ อีกมือก็ทำสัญญาณให้ไอรดาที่ค่อยๆคลานมาลุกวิ่ง เขากระหน่ำยิงขู่ไปสามสี่นัดเพื่อซื้อเวลาให้เจตสุวีย์เข้าไปหาเธอแล้วจับมือดึงให้ลุกขึ้นวิ่ง จนรถกระบะมีรอยพรุนของกระสุนที่หมดลง รถอาวดี้ที่ติดหล่มในนาไปแล้ว ทำให้เจตสุวีย์ที่มือถือปืนข้างหนึ่งและจูงเธอวิ่งหลบไปด้านหลังรถเพื่อใช้เป็นที่กำบังในตอนที่หนี มีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด “ที่รัก วิ่งนะ อย่าหยุด”ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว พวกเขาวิ่งสลับกับเดินผ่านต้นไม้ทึบๆ จนแน่ใจว่าพ้นอันตรายแล้วจึงให้เธอนั่งพักใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งเจตสุวีย์ทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าเธอ เสื้อเชิ้ตขาวของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อและเปื้อนดินนิดหน่อย กระดุมที่หลุดลุ่ยเผยให้เห็
ขณะที่เจตสุวีย์กำลังยืนอยู่นอกรถที่ปั๊มน้ำมัน ตอนนี้ลูกน้องอยู่กับเขาสามคน เขาจึงสั่งให้หนึ่งคน ขับรถของไอรดากลับบ้านและคอยดูแลป้ารินและมาร์ติน “นายครับๆ พวกเราทุกคนพก GPS ขนาดเล็กติดตัวเสมอ เราเช็กจากเขาดูว่าอยู่ที่ไหนได้นี่ครับ ตอนนายให้พวกเราพกไว้ทุกคนนายมีข้อมูลเข้าถึง GPS ของพวกเราทุกคนได้นะ”เจตสุวีย์ตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขามัวจะคลุ้มคลั่งที่ภรรยาหายจนลืมคิดไป เมื่อเขาเปิดแอปพลิเคชันในโทรศัพท์ขึ้นมาก็ตาวาวทันที จึงรีบโทรบอกพ่อของเขาว่า GPS ลูกน้องคนหนึ่งของเขาเคลื่อนไปในความเร็วที่รู้ได้ทันทีว่ายังอยู่ในรถ เขาดื่มเกลือแร่ที่ซื้อจากในร้านสะดวกซื้อแล้วรีบขับรถออกตามไปทันที “โทรไปเบอร์พ่อผมให้หน่อย บอกว่าเราอยู่เส้นทางไหน”ขับรถไล่ตามกันไปอยู่สองชั่วโมงครึ่ง สัญญาณนั้นขับผ่านอุทยานเขาใหญ่ แล้วจอดที่ร้านอาหารหนึ่งไม่ไกลจากโรงไฟฟ้าลำตะคลอง ส่วนเจตสุวีย์ที่ขับรถเร็วเพราะใจเขาอยากตามไปให้ใกล้ที่สุด ซึ่งตอนนี้เขาขับผ่านโรงพยาบาลแก่งคอยแล้ว ห่างจากสัญญาณไปอีกแค่ 74 กม.“นายครับ พวกมันหยุดพักแต่อยู่บนทางหลัก ผมส่งข้อความถึงคุณสิทธิศักดิ์แล้ว”จูนที่โทรมาว่าไม่เจอ User และ Password ที่จะ