ช่วงที่ธนัชชาพยายามโอ้โลมเขา กอดจูบไปทั่ว แต่พอจะจูบปากเขากลับเบือนหน้าหนีตลอด จนเธอไม่เข้าใจ
“พี่โจรังเกียจหนูเหรอคะ?” เธอถามเสียงอ่อยๆ แต่เขาส่ายหน้า “ทำต่อเถอะ ผมแค่ไม่ชอบจูบใครน่ะ” “แปลกจัง” เธอฟังคำตอบที่แปลกของเขาแล้วอมยิ้ม ก่อนจะถอดกางเกงให้แล้วใช้ปากดูดกลืนน้องชายของเขาที่แข็งตัวมากในตอนนี้ เจตสุวีย์เอาแต่มองรูปคนที่เขารักอยู่ตลอด เขาจำตอนที่ได้ร่วมรักกับไอรดา เธอร้องไห้อ้อนวอนเขาให้หยุด จำความรู้สึกในกายเธอที่นุ่มนิ่มและรัดรึงนั้นได้ดีเมื่อเธอสู้กับเขาจนหมดแรงต้านทาน อารมณ์ ความรู้สึก ความทรงจำนั้น พวยพุ่งออกมาอย่างมากมาย จนธนัชชาที่ใช้ปากให้และไม่รู้ตัวว่าเขาใกล้เสร็จ ถึงกับตกใจที่เขาพรั่งพรูคาปากเธอจนเลอะไปหมด พร้อมกับเสียงครางเบาๆของเจตสุวีย์ที่ลืมตัวหลุดพูดออกมา “ไอรดา..” จากความตกใจที่เขาเสร็จโดยไม่บอกและความน้อยใจที่วันนี้คือวันเกิดของเธอ แต่เขากลับพูดชื่อผู้หญิงอื่นทั้งที่เธอเป็นคนทำ ธนัชชาวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อไปบ้วนปากและแอบร้องไห้ในห้องน้ำอยู่พักหนึ่ง “นัชชา เข้าห้องน้ำเสร็จหรือยัง ผมขอเข้าหน่อย” เธอเปิดประตูออกมาทั้งที่ยังร้องไห้อยู่ เจตสุวีย์เห็นแต่เขาไม่สบายตัวที่เลอะเทอะจึงเลือกเข้าไปล้างตัวก่อน เธอไปยืนจ้องรูปนั้น ทั้งโกรธและเกลียดผู้หญิงในรูปคนนี้ ชื่อไอรดางั้นเหรอ..รอให้ฉันได้แต่งงานกับพี่โจเมื่อไหร่ ฉันจะเผารูปนี้ซะ… พอเจตสุวีย์ออกมา เธอยังอยู่ในชุดชั้นในเหมือนเดิมและนั่งอยู่ขอบเตียง “ดึกแล้ว น้องจะนอนที่นี่ก็ได้ แล้วค่อยไปก่อนคุณแม่จะเลิกงาน” ธนัชชายังมีอารมณ์ที่อยากให้เขามีอะไรกับเธอบ้าง แต่เขาที่เสร็จสมใจไปแล้วกลับไม่สนใจจะถาม ก่อนจะเดินอ้อมเธอไปนอนอีกฝั่งหนึ่งของเตียง “หนู..อยากมีอะไรกับพี่โจ แต่พี่ไม่ถามหนูเลย หนูรู้ว่าหนูไม่เก่งแต่พี่ไม่สอนหนูล่ะ ทำไมต้องทรมานกันแบบนี้ นี่วันเกิดหนูนะ..” เขาแอบถอนหายใจและกลอกตาบนโดยไม่ให้เธอเห็น “นัชชา มานอนตรงนี้ พรุ่งนี้เช้าตื่นมาผมจะทำให้ แต่ตอนนี้ไม่ไหวเพราะน้องมาดึกมากและผมทำไม่ได้แล้ว เพลีย” เจตสุวีย์ยื่นมือให้เธอ ที่หันมาเอื้อมมือมาจับมือเขา แล้วล้มตัวลงนอนซบบนอก เขาลูบหัวเธอเบาๆ แล้วหลับไปอย่างรวดเร็ว พอใกล้จะสว่าง ธนัชชาใช้มือลูบไล้แก่นกายของเขาที่แข็งตัวไวมากในตอนเช้า เจตสุวีย์ลืมตาเพื่อตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งก็ถอดกางเกงและกางเกงชั้นในของเธอออกไป เขาเข้าไปกลางหว่างขาคร่อมตัวเธอ สอดใส่เข้าไปจนเธอร้องครางออกมา พร้อมกับขย่มอย่างแรงถี่ๆ จนธนัชชาเอาสองมือกดสะโพกเขาให้เข้าไปลึกๆ เสียงที่ฉ่ำแฉะนั้นดังจนได้ยินไปทั้งห้อง “พี่โจ…อ๊าา” เจตสุวีย์กดลึกๆไปสามสี่ครั้งจนหลั่งข้างใน พลางหอบหายใจแรง แล้วรีบลุกคว้ากางเกงไปที่ห้องน้ำทันที “ระวังอย่าให้เลอะผ้าปูที่นอนนะ นัชชา” เธอรีบเอากระดาษทิชชูมาเช็ดที่เลอะทันที ตอนนี้เธออารมณ์ปกติแล้ว ทำให้ใจเย็นลงมาก “วันหลังเซอร์ไพรส์แบบนี้ไม่เอานะ มันดึกไป แล้วพอน้องทำตอนที่ผมยังงัวเงียก็จะเป็นแบบนี้แหละ” “คืนนี้หนูมาอีกได้มั้ยคะ?” “ยังไม่อิ่มเหรอ?” “พี่คิดว่าหนูเป็นไอรดาก็ได้ค่ะ” คำพูดที่สุ่มเสี่ยงนี้ทำให้เจตสุวีย์โกรธมาก เขาถอนหายใจยาวก่อนจะเดินเลี่ยงไปนั่งที่เตียง “อย่ายุ่งกับเธอหรือพาดพิงเธออีก” “พี่โจเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาทั้งที่หนูเป็นคนปรนนิบัติพี่นะคะ” “ไม่เป็นไร งั้นเราห่างกันสักพักแล้วกัน” ธนัชชารู้ตัวทันทีว่าเธอพลาดเพราะปากตัวเอง และชีวิตที่สุขสบายในตอนนี้จะล่มเอาเสียก่อน เธอเข้าไปนั่งกับพื้นแล้วกอดเอวเขาที่นั่งอยู่ขอบเตียง “หนูขอโทษค่ะ จะไม่พูดแบบนี้อีก” เจตสุวีย์นิ่งเฉยมาก เขาสั่งเธอด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะแต่ก็น่ากลัว “น้องพูดถึงคนที่ผมรักสองครั้งแล้ว สำหรับผม คนเราไม่ควรผิดพลาดเกินสองครั้งนะ จำกฎข้อแรกได้มั้ย? ทบทวนให้ผมฟังหน่อย” เธอกลืนน้ำลายลงคอ พร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า “ให้หนูอยู่เป็น อะไรที่พี่ไม่ชอบห้ามทำค่ะ” “ดีแล้วที่จำได้นะครับ กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวคุณแม่น้องเลิกงานไม่เจอน้องจะเป็นห่วง” ธนัชชาลุกขึ้นและเดินออกไปเงียบๆ ส่วนเขาไปหยิบโทรศัพท์พลางคิดว่าจะทักอะไรไปหาไอรดาดี ซึ่งที่อเมริกาคือบ่ายสามโมง “อยากไปเที่ยวเชียงใหม่จัง” ส่งไปเท่านี้แล้วนั่งรออย่างใจจดใจจ่อที่เธอว่างพอจะตอบหรือไม่ “ตอนนี้ป้ารินอยู่กับฉัน มีแค่ครอบครัวลูกชายแกอยู่ที่นั่นช่วยดูแลบ้านให้น่ะ แต่ถ้าเธออยากไปเที่ยวเชียงใหม่ ก็ไปนอนค้างที่นั่นได้เลยไม่ต้องเช่าโรงแรม รถก็มีให้ใช้ด้วย จะไปตอนไหนขอให้บอก ฉันจะบอกลูกชายป้าเอาไว้” “ฉันว่าจะไปคืนวันศุกร์นี้ กลับเช้าวันจันทร์” “แล้วไปกับใครอ่ะ พี่บิวป่ะ?” “ไม่หรอก ไปคนเดียวสิเพราะเขาต้องทำงาน แต่ฉันอยากไปพักผ่อนนิดหน่อย เครียดงานน่ะ ไม่มีพี่โจคอยช่วยก็แบบนี้” เจตสุวีย์พิมพ์อวยตัวเองขำๆไปแบบนั้นเอง “จริงสินะ พี่โจน่ะทำงานเก่งแล้วก็ฉลาด ตอนไปคุยงานกับลูกค้าด้วยกัน ทำฉันทึ่งมากเลย แต่ช่างเถอะ ขอไม่พูดถึงแล้วดีกว่า” คำตอบที่ดูเหมือนจะดีแต่ลงท้ายที่เหมือนมีดปักลงกลางใจเขา “ขอโทษนะ” “อะไรจูน ขอโทษอะไร? เธอไม่ได้ทำผิดต่อฉันสักหน่อย” “ไม่น่าพูดถึง ทั้งที่รู้ว่าเธอเกลียด” “ฉันไม่ได้เกลียดพี่ชายเธอแล้ว แค่ไม่อยากพูดถึงแล้วพาลนึกถึงเรื่องที่พี่เขาเคยทำกับฉันแค่นั้นเอง ตอนนี้ฉันเข้มแข็งเพราะแมทธิวที่ช่วยฉันไว้” “น้องมาร์ตินเป็นยังไงบ้าง?” เจตสุวีย์เปลี่ยนเรื่องทันทีเพราะจุกที่เธอยังตอกย้ำว่าเขาทำลายเธอ แต่แมทธิวคือคนที่ช่วยเธอไว้ “ตอนนี้แมทธิวอุ้มไปเดินเล่นน่ะ เขาติดลูกชายมาก จำได้ว่าตอนปวดท้องคลอดนะ ฉันร้องไห้เจ็บแทบตายแน่ะ” “เสียดายนะ ฉันอยากไปอยู่ตอนนั้นด้วย” “บ้าเหรอ อยากดูไว้เป็นประสบการณ์หรือไง?” ไอรดาที่พิมพ์ไปแล้วขำเพื่อนสนิทของเธอ ผิดกับคนที่สวมรอยเป็นจูน เขาเศร้าและเสียใจ “งั้นไม่กวนแล้ว ขอไปนอนต่อก่อนนะ” “จ้ะ” เจตสุวีย์ล้มตัวลงนอนต่อเพราะยังไม่เจ็ดโมงเช้า พี่สำนึกผิดเท่าไหร่ก็คงไม่มากพอใช่มั้ย..ไอรดา… ทุกการสนทนานั้น น้องสาวของเขาเห็นทุกอย่างในช่วงสายที่เธอเปิดโน้ตบุ๊ค และโทรไปหาพี่ชายที่ตื่นนอนพอดี “พี่โจ จะไปเชียงใหม่ที่บ้านอายเหรอ ทำไมต้องทำแบบนี้?” “พี่แค่อยากไป ที่ที่พี่เจอน้องอายครั้งแรก ที่บ้านนั้น” “งั้นจูนจะไปด้วย เพราะจะได้อ้างว่าพี่ไปเป็นเพื่อน หาเรื่องเข้าตัวจริงๆ” หลังจากนั้นจนถึงคืนก่อนวันจะไปเชียงใหม่หนึ่งวัน เขาดื่มจนเมาที่บาร์ทุกวัน แล้วไปนอนบนห้องทำงานชั้นสองของบาร์ และกลับบ้านในตอนเช้าเพื่ออาบน้ำไปทำงานเท่านั้น ส่วนธนัชชาที่ไม่เห็นเขากลับบ้านหลายวัน ตอนเช้าก็ไม่เจอเพราะเธอออกไปเรียนก่อนเขาที่เข้ามาอาบน้ำที่บ้านในตอนสาย ส่งข้อความไป เขาก็ไม่อ่าน จะโทรหาก็ไม่กล้า ทำให้เธอเริ่มคิดมากว่าเขาอาจเบื่อและอาจมีผู้หญิงคนใหม่ให้ดูแลอีกหรือเปล่า คืนวันพฤหัส เขานั่งดื่มเงียบๆคนเดียวที่โซนวีไอพี ปัดไอจีของไอรดาเลื่อนดูวนไปวนมาแบบที่เขาชอบทำ จนกระทั่งมีช่วงที่วงดนตรีที่บาร์ได้ร้องเพลงหนึ่ง ชื่อเพลงว่า อยู่ได้แล้ว ของลิปตา,Mirrr มันตรงกับอารมณ์ที่อ่อนไหวเพราะเริ่มมึนเล็กน้อย เขาฟังเพลงไปพร้อมกับนึกถึงสิ่งที่เขาทำแย่ๆกับเธอ จนน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาเรียกพนักงานมาถามชื่อเพลง ก่อนจะคัดลอกลิงก์เพลงนี้ส่งไปที่แชทไอจีของไอรดา ซึ่งเป็นเวลาแปดโมงเช้าที่นั่น แล้วนั่งจ้องแชทอยู่แบบนั้น จนกระทั่งขึ้นว่า “เห็นแล้ว” ทำเอาเจตสุวีย์เริ่มมีสติคิดได้ว่าเธออาจจับได้ จึงรีบพิมพ์ไปว่า “ขอโทษที ส่งผิดน่ะ” ไอรดาที่เห็นลิงก์เพลงนี้ที่ส่งมาในตอนเช้าเวลาเดิมที่จูนมักจะทักมาประจำ ทำให้เธอตะหงิดใจเล็กๆ แถมยังบอกว่าส่งผิดอีก จึงเลือกที่จะยังไม่ตอบอะไรไป แล้วเปิดเพลงนี้โดยใส่หูฟัง ความหมายของเพลงทำให้ไอรดาใจเต้นแรง ยิ่งฟังไปเรื่อยๆ ยิ่งจุกจนต้องขอป้ารินให้ช่วยดูลูกชายให้และเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ ระหว่างที่นั่งฟังจนจบ สมองของเธอเริ่มคิดและเริ่มเลื่อนดูแชทที่คุยกับจูนมาตลอดร่วมเดือน เจตสุวีย์รับรู้ว่าไอรดาเห็นทุกอย่างและไม่ตอบอะไรมาเลย เขารีบลบลิงก์เพลงออก เหงื่อเริ่มผุดตรงไรผม ทั้งที่ในบาร์นั้นแอร์เย็นจนหนาว ยิ่งเธอเงียบไม่ตอบอะไรมา เขายิ่งร้อนรนจนคิดว่าต้องพิมพ์อะไรสักอย่างเพื่อกลบเกลื่อน แต่ระหว่างที่คิดอยู่ ไอรดาก็พิมพ์มาก่อน “ทะเลาะกับพี่บิวหรือไง? เพลงเศร้าเชียว ทำยังกับเลิกกันไปได้” “เปล่า พอดีฟังละชอบจะส่งให้เพื่อนอีกคนที่อกหักน่ะ แต่ส่งผิด” ไอรดาเริ่มคิดทันทีที่เห็นคำตอบ เพราะเปิ้ลกับหลิวนั้นยังไม่มีแฟน แต่เธอพยายามคิดในแง่ดีว่า จูนอาจมีเพื่อนคนอื่นที่เธอไม่รู้จักก็ได้ อยู่ๆแมทธิวก็เคาะประตูห้องน้ำ ทำเอาเธอตกใจ “ที่รัก…ที่รัก เป็นอะไรหรือเปล่า? ทำไมเข้าห้องน้ำนานแล้วเงียบ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?” “ฉันท้องผูกน่ะ รอสักครู่ได้มั้ย?” “เหรอ งั้นไปหาหมอด้วยกันนะ จริงๆช่วงนี้คุณก็ทานผักตลอดนี่นา” “ไม่เป็นไรหรอก จะลองกินโยเกิร์ตดู” ไอรดาตอบโดยที่ยังอยู่ในห้องน้ำ เมื่อแน่ใจว่าแมทธิวไปแล้ว เธอจึงเริ่มการเช็กอะไรบางอย่าง “ฉันว่าเราย้ายไปใช้ไลน์คุยกันดีไหม?” “ทำไมเหรอ? พอดีไลน์แชทมันเยอะมาก ดูวุ่นวายไปหน่อย” “ช่วงนี้เธอได้เจอพี่โจบ้างมั้ยจูน?” “ไม่นะ อยู่คนละบ้าน ไม่ต้องไปสนใจคนแบบนั้นหรอก สมควรแล้วที่จะอยู่คนเดียว” เจตสุวีย์พยายามบอกปัดเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเธอเกลียดเขาแค่ไหน “ฉันคิดว่ากลับไปไทย จะคืนเงิน 20 ล้านที่พี่โจให้ฉันมา บางทีการที่พี่เขาต้องไปอยู่คนเดียว อาจจะกำลังลำบากอยู่ก็ได้” เขาพยายามกลั้นน้ำตา จนต้องขึ้นไปห้องทำงานบนชั้นสองของบาร์ “พี่โจจะเสียใจนะ ถ้าเธอทำแบบนั้น” “ก็ให้พี่เขาเอาไว้ใช้กับผู้หญิงคนอื่นดีกว่า ตอนนี้ฉันไม่ได้ลำบากอะไร สามีฉันรักและดูแลดีมากเหมือนเจ้าหญิง ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนดีกับฉันแบบเขาอีกแล้ว ฉันจะรักแมทธิวตลอดไป เขาคือโลกทั้งใบของฉันเท่านั้น” ไอรดาพิมพ์ลงไปแบบนั้นด้วยความรู้สึกหลายอย่าง ถ้าเป็นคนที่ฉันคิดจริงๆ…ฉันจะบีบเขาให้เจ็บเหมือนที่เขาเคยบีบฉันจนเกือบเสียกิจการของพ่อไป แต่ถ้าไม่ใช่ก็แล้วไป.. “ถ้าพี่โจได้รู้แบบนี้ ต่อให้เขาเป็นอะไรไปคงสบายใจที่มีคนดูแลเธอได้ดีแบบนี้” เจตสุวีย์พิมพ์แบบเขาที่คิดจริงๆ ไหนๆก็เจ็บอยู่แล้ว เจ็บอีกจะเป็นไรไป.. “ฉันไปดูลูกก่อนนะจูน” ไอรดาตัดบทและฮึบก่อนจะออกจากห้องน้ำ แล้วไปกอดคอแมทธิวที่นั่งทำงานอยู่ “ท้องผูกไม่ดีนะ ผมคงต้องดูแลอาหารของคุณใหม่ Sweetie” “พอลูกครบหนึ่งขวบไปหาคุณปู่คุณย่าของฉันที่เมืองไทยกันนะ” “ได้สิ แต่ต้องจัดปาร์ตี้หนึ่งขวบให้มาร์ตินก่อน พ่อแม่ผมเห่อหลานมาก นี่จะบินมาอีกแล้ว” เธอกอดสามีแน่น “ฉันรักคุณมากนะ” แมทธิวลูบแขนเธอเบาๆ “ผมรักคุณมากกว่า”พอวันที่จูนและเจตสุวีย์ไปเชียงใหม่และพักที่บ้านของไอรดา เขาติดสินบนลูกชายป้ารินไม่ให้บอกไอรดาและทุกคนว่าเขามาที่นี่ “บอกแค่ว่าจูนมาคนเดียวก็พอ ผมไม่อยากให้น้องอายมีปัญหากับสามี เราไม่ค่อยถูกกันน่ะ”“อ้อ ครับๆ”ลูกชายป้ารินรับคำอย่างว่าง่าย “จูนนอนห้องนอนรับรองแขกไปเถอะ พี่แค่จะเข้าไปอาบน้ำก็พอ จะนอนที่ห้องรับแขกเอา”“เอ้า ห้องนอนมีตั้งเยอะ”“ทุกห้องที่นี่ ไอ้พ่อม่ายนั่นคงใช้ไปหมดแล้ว นอนไม่ลง”“เฮ่อออ…แล้วแต่ละกัน เอาโทรศัพท์พี่มาหน่อย จะส่งข้อความบอกอาย ขี้เกียจเปิดโน้ตบุ๊ค” เจตสุวีย์ไม่ได้มาที่นี่นานมาก เขาย้อนนึกถึงวันแรกที่ได้เจอเธอ เพราะเธอสนิทกับจูนจนพาพ่อแม่มาสนิทกัน ร่วมทำกิจการด้วยกัน ในตอนนั้นที่เขาอยู่มหาวิทยาลัยปีสี่และมีแฟนแล้ว แต่ยังไม่เคยเจอเพื่อนสนิทของน้องสาว แค่ได้ยินผ่านๆเพราะจูนชอบเชียร์เพื่อนคนนี้ให้เขาจีบเสมอ จนวันที่ครอบครัวของเขาต้องการไปพักผ่อนที่เชียงใหม่โดยเขาได้มาด้วยและพักที่บ้านนี้ตอนที่เขาลงจากรถและเจอเธอยืนข้างๆคุณแม่ เด็กสาวอายุเพียง 19 เธอสวยถอดแบบแม่มาแทบจะเหมือนพี่สาวและน้องสาว ตอนที่เขาก้าวเข้ามาสวัสดีครอบครัวของไอรดา ดวงตาที่กลมโต ผิวหน้าและผ
เจตสุวีย์จมอยู่กับความคิดที่ว่า ไอรดาอาจเริ่มใจอ่อนให้เขาบ้างแล้ว เขาฟังเพลงที่เธอเคยส่งให้อยู่ตลอด ทั้งเวลาอยู่บ้าน ในรถ ที่ออฟฟิศ บางครั้งไปดื่มที่บาร์ก็ให้เปิดเพลงนี้ตอนนี้เขาเริ่มกลับไปติดต่อกับครอบครัวเป็นระยะๆ แต่ส่วนมากจะเป็นแม่ที่เขาโทรไปหาบ่อยที่สุด ธนัชชากับแม่เที่ยวอยู่ที่ภูเก็ต เจตสุวีย์ได้จ่ายสำหรับห้องพักที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต และให้เช่ารถขับเองโดยไม่ต้องพึ่งแท็กซี่ สองแม่ลูกช้อปปิ้งกินหรูอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน “แม่คะ กลับไปเราไปเจอพี่เขากันนะ หนูบอกพี่เขาแล้ว”“จริงเหรอ? แล้วแม่ต้องแต่งตัวยังไง ทำตัวไม่ถูกแน่ๆเลย”เธอลงไอจีมาตลอดถึงไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปตั้งแต่ได้คบหากับเขา เพื่อนๆมากมายพากันมากดไลค์ให้กับธนัชชาคนใหม่ที่ค่อยๆสวยขึ้น จากการใช้เงินเพื่อเข้าสถานเสริมความงาม “นัชชา แกรู้ป่ะว่าแฟนแกอ่ะ ลูกนักธุรกิจคนดังระดับประเทศนะ เนี่ย..พึ่งเห็นข่าวจัดอันดับนักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรงของปีนี้ มีรูปพี่เขาขึ้นในนั้น ฉันจำหน้าได้”ธนัชชาแกล้งทำเป็นชิลๆเหมือนรู้ดี แต่จริงๆแล้วเธอไม่กล้าถามนามสกุลหรือเรื่องครอบครัวของเขาเลยด้วยซ้ำ ถ้าเขาไม่เปิดปากเล่าก่อน ซึ่งแน่นอน
ไอรดาที่เข้าห้องน้ำ เธอตื่นเต้นจนหายใจแรงและตัดสินใจลบแชททั้งหมดทันทีก่อนจะออกมาจากห้องน้ำ โดยที่แมทธิวยืนรอเธออยู่ พอเปิดประตูมาเจอทำเอาเธอตกใจสะดุ้งจนตัวโยน“ผมทำคุณตกใจเหรอ? Sweetie”“ก็ปกติไม่มายืนหน้าประตูแบบนี้ เป็นใครก็ตกใจ”“ปกติคุณก็ไม่เคยเอาโทรศัพท์เข้าห้องน้ำด้วย”“เคยสิ เวลาอึ”แมทธิวไม่พูดอะไรแต่มองตาเธอนิ่ง เหมือนต้องการเช็กอะไรอยู่“อะไร? ทำไมต้องจ้องกันแบบนั้นด้วย”ไอรดาถอนหายใจและเบี่ยงตัวเดินหลบเขาไป แมทธิวไม่อยากหาเรื่องหึงกับเธอเพราะกำลังท้องอ่อนๆ กลัวจะกระทบกระเทือนไปถึงลูกเจตสุวีย์รอให้ไอรดาตอบอะไรมาสักอย่างแต่กลับเงียบ เขาเดินวนไปวนมาในห้อง จนธนัชชาเอ่ยถามขึ้น“พี่โจนอนพักผ่อนดีกว่ามั้ยคะ? ดึกแล้วนะ”“น้องกลับไปที่บ้านก่อนก็ได้ครับ ผมขออยู่คนเดียววันนี้”เขาพูดโดยไม่มองเธอด้วยซ้ำ ก่อนจะนั่งที่ขอบเตียงจ้องแต่โทรศัพท์ แล้วพูดกับตัวเองเบาๆ“ทำไมหนูเงียบคะ ตอบอะไรก็ได้มาหน่อย พี่รอหนูอยู่นะ อะไรก็ได้..ได้โปรด”ธนัชชาถึงกับอึ้ง คำพูดของเขาที่ใช้กับผู้หญิงคนนั้นช่างฟังแตกต่างจากที่เรียกหรือพูดกับเธอชัดเจน“ไอรดาอาจจะคุยกับสามีของเธออยู่ก็ได้มั้งคะพี่” เจตสุวีย์อารม
เจตสุวีย์ให้เลขาจองตั๋วคืนนี้ทันทีแพงเท่าไหร่ไม่สำคัญ เพื่อมุ่งสู่ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโกพี่ไม่สนใจว่าใครจะเกลียด..แต่พี่จะต้องไปหาหนู…เขาไปที่บ้านของพ่อแม่ก่อนเวลาที่แจ้งไว้ เลยถือโอกาสโทรคุยกับน้องสาว เพื่อขอโลเคชั่นบ้านของไอรดาและชื่อโรงพยาบาลที่แมทธิวไปรักษาตัวอยู่ แล้วสั่งห้ามไม่ให้จูนบอกเพื่อนของเธอว่าเขาจะไปหาเจตสุวีย์บันทึกแผนการเดินทาง เตรียมเอกสารทุกอย่างและบัตรเครดิตวงเงินสูงที่สุดที่เอาไปได้เลขาแจ้งการจองตั๋วเรียบร้อย เครื่องจะออก 19.15 ถึงที่อเมริกา 21.15 ของวันถัดไป รวม 17 ชั่วโมง เจตสุวีย์คิดว่าเมื่อถึงซานฟรานซิสโก กว่าจะไปที่บ้านของเธอที่ต้องขับรถถึงสองชั่วโมง คงจะดึกมากและรบกวนเวลาที่ทุกคนพักผ่อน เขาจึงเลือกจองโรงแรมที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลก่อน แล้วค่อยไปหาเช่ารถเอาทีหลังเจตสุวีย์จองโรงแรม Pleasanton Marriott ใกล้แค่นั่ง Taxi ไปสิบนาทีก็ถึงโรงพยาบาล Stanfordจากนั้นนั่งรอที่บ้านจนกระทั่งพ่อและแม่ของเขาได้กลับมา หลังจากออกไปข้างนอกด้วยกันมาทั้งวัน พอเจอหน้าพ่อจากที่ไม่ได้เจอนานถึงสองปี เขาถึงกับเกร็งแต่ก็ยกมือไหว้ พ่อเข้ามากอดและไม่พูดอะไร เขากอดตอบและกล่าวได้
เจตสุวีย์โทรหาน้องสาวเพื่อบอกว่าได้เจอไอรดาและสามีแล้ว“เขาดูแย่กว่าที่คิดไว้มาก ดูซีดเซียว เหนื่อยหอบ ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ มีแค่น้องอายอยู่เฝ้ากับพยาบาลอีกคนเท่านั้น ฝากบอกป๊ากับม๊าด้วยนะ”“จูนจะโทรหาอาย ลองถามว่าตกลงป่วยเป็นอะไร แต่ต้องรอตอนดึกถึงจะเป็นช่วงเช้าที่นั่น พี่โจ..โอเคนะพี่?”“พี่ไม่เข้าใจตัวเอง..พี่เคยคิดว่าทำไมต้องมีผู้ชายคนนี้มาขวางทาง แต่พอเห็นเขาวันนี้ กลับรู้สึกเห็นใจ กลัวน้องอายจะเสียใจ”จูนยิ้มกับตัวเองเมื่อได้ยินแบบนั้น“รักแท้คือการเสียสละไงพี่โจ เมื่อเราเห็นคนที่รักมีความสุข ถึงจะไม่ได้ครอบครองก็เถอะ”“สละอะไรล่ะ แอบปลอมเป็นจูนไปคุยทุกวันนี่จะเรียกว่าชู้แล้ว พี่ยังเคยคิดเลยว่า คงสวมรอยคุยแบบนี้จนแก่ไปพร้อมกับพวกเขาแน่ๆ”“ตลกน่า ไม่คิดจะมองสาวอื่นเลยรึ?”“แค่คนเดียวพอ”วันต่อมาเจตสุวีย์ไปที่ Enterprise Rent-A-Car ในช่วงเช้าเพื่อเช่ารถยนต์หนึ่งอาทิตย์ ก่อนจะตรงไปที่ Supermarket ชื่อ Safeway เพื่อเลือกซื้อผลไม้ไปฝากไอรดาและแมทธิว จนกระทั่งจูนได้โทรเข้ามาพอดี“พี่โจ ข่าวไม่ค่อยดี อายบอกว่าสามีปอดอักเสบเฉียบพลันและติดเชื้อจากไวรัส เชื้อเข้าสู่กระแสเลือด ท่าทางจะหน
แมทธิวเริ่มหายใจเข้าออกช้าๆ เพื่อให้ตัวเขาไม่เหนื่อยมากเกินไป“ผมรู้สึกได้ว่ารอบนี้มันหนักกว่าทุกครั้ง ผมรู้ตัวเองดี แต่ไม่อยากพูดกับภรรยากลัวเธอจะใจเสีย ผมไม่มีโอกาสได้คุยกับหมอตรงๆ เพราะเธออยู่ด้วยตลอด แต่ดูจากสีหน้าของเธอ ตอนที่หมอเรียกไปคุยมันคงหนักมากจริงๆ ผมเป็นห่วงเธอที่ท้องสองเดือน คุณรู้เรื่องนี้มั้ย..โจ”เจตสุวีย์พยักหน้าว่ารับรู้“ใช่ น้องสาวบอกผมว่าเธอท้องได้เดือนกว่า เมื่อเดือนก่อน”“ที่ผมอยากให้เธอกลับบ้าน เพราะไม่อยากทำให้เธอรู้สึกแย่ที่ผมรู้ว่าคุณแอบคุยกับภรรยาผม โดยปลอมเป็นน้องสาวของคุณ”แมทธิวหอบหายใจมากขึ้นเมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาจ้องเจตสุวีย์ที่มองมาอย่างไม่สะทกสะท้านสักนิด“ไอรดาไม่ผิดอะไรเลย ผมยืนยันได้ว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น”“แปลว่าคุณยอมรับว่าเป็นคนใช้แชทของน้องสาวเพื่อคุยกับเธองั้นสิ”หน้าตาของเจตสุวีย์นิ่งมาก เขาตอบด้วยท่าทางสบายๆ“แต่เธอไม่เคยรู้ว่าเป็นผม อาจจะแค่สงสัย แล้วเราก็ไม่ได้แชทคุยกันอีกตั้งแต่เธอฮันนีมูนจนท้อง การที่ผมคุยกับเธอ ไม่มีการคุยเกินเลยอะไรทั้งนั้น ผมพอใจที่มีความสุขเพียงเท่านี้”“ไม่รู้สึกว่าหน้าด้านไปหน่อยเหรอที่ข่มขืนใจเธอ ทำให้ธุ
ไอรดาเดิมตามเจตสุวีย์ไปติดๆ พลางถามคำถามอยู่ตลอด แต่เขาไม่ตอบและแอบยิ้มกับตัวเองที่เธอวิ่งไล่ตามเขาบ้าง จนไอรดาต้องถือวิสาสะจับแขนเขาเอาไว้ก่อนจะถึงห้องพักผู้ป่วย เจตสุวีย์หยุดเดินกะทันหัน จนใบหน้าของเขาแทบชนกับหน้าผากของเธอแล้วยิ้มให้.. ยิ้มแสนหวานที่ฉาบไปด้วยความรัก มีเพียงไอรดาคนเดียวที่จะได้เห็น “บอกมาว่านัดอะไรกันสามคน ทำไม?” “รู้ไว้แค่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราทำ เพื่อปกป้องหนู ลูกของหนู พี่ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้เพราะสัญญากับแมทธิวไว้ จริงๆ พี่ไม่ควรบอกหนูเลยด้วยซ้ำ หวังว่าจะไม่พูดกับเขานะว่าพี่บอก เขาจะยิ่งไม่สบายใจ ปล่อยให้เขาได้ทำในสิ่งที่อยากทำเถอะ” ไอรดาหลบตาลง พลางใช้ความคิด แต่สองมือที่ยังจับแขนเขาอยู่เพราะลืมตัว เจตสุวีย์จึงกุมมือเธอเบาๆ ทำให้เธอนึกได้สลัดมือออกจากมือเขาทันที “หนูไปรอข้างนอกก่อนนะ ถ้าคุยกันเสร็จแล้วพี่จะบอก” ไอรดาเอาแต่ใช้ความคิดจนเครียด และนั่งปวดท้องอยู่ที่โซฟาใกล้กับเคาน์เตอร์ของพยาบาล จนพยาบาลต้องเข้ามาถามเพราะเห็นหน้าเธอซีด นั่งไปสักพักจนอาการดีขึ้น เธอจึงส่งข้อความถึงกานต์วิภาเอาไว้ เกี่ยวกับการป่วยของแมทธิว แต่เพราะตอนนี้ที่ประเทศไทยคือ
“คุณเชื่อเรื่องการกลับมาไหม? โจ”“ยังไง..หมายถึงมาเกิดใหม่น่ะเหรอ?”“อืม..มาร์ตินน่ะ มีตำหนิที่หลังหูซ้าย และมีผักที่ชอบหรือไม่ชอบเหมือนคุณพ่อของไอรดา ตอนพาไปหาคุณย่าของเธอ ทำเอาร้องไห้กันใหญ่..ผมเองก็เหมือนกัน อยากกลับมาอยู่กับเธออีกครั้ง ถ้าพระเจ้าจะทรงเห็นใจ”เจตสุวีย์ได้แต่เงียบ เริ่มรู้สึกแย่ขึ้นมา ที่เคยทำเรื่องไม่ดีกับคนทั้งคู่ แมทธิวได้ยินเสียงจมูกที่ฟึดฟัดของเขา ถึงกับขำเล็กๆ“ถ้าผมกลับมาเกิดแล้วคุณนอกใจเธอ ผมจะพาเธอหนีไปอีกเหมือนที่เคยทำจนคุณตามเราไม่เจอ ให้คุณแก่ตายอย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพัง”ทำเอาเจตสุวีย์หัวเราะออกมาได้ บรรยากาศในห้องเริ่มดีขึ้นมานิดหน่อย“แต่ถ้าคุณไม่กินผักหรือทำการบ้านไม่เสร็จ ผมอาจจะตีคุณก็ได้”“ไม่มีทาง เพราะภรรยาผม..เธอรักลูกมาก ถ้าตีผม คุณอาจโดนเธอชกหน้าคุณ”พวกเขาพูดคุยกันสบายๆ แม้ว่าแมทธิวจะหอบหายใจไปด้วย“คุณนอนเถอะ ผมจะอยู่ตรงนี้เพื่อคุยงาน คงไม่นอนแล้วล่ะ”พอตอนเช้ามืด แมทธิวยังคงหลับอยู่ เจตสุวีย์จึงย่องออกไปเงียบๆ ตรงไปที่โรงแรมและใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเบาๆ ปรากฏว่าไอรดายังนอนหลับอยู่และไม่ล็อกกลอนด้านในไว้ เขาไปที่ข้างเตียง ก้มดูเธอที่หลับลึกจน
เจตสุวีย์มองธนัชชาด้วยหน้าตาที่เธอคุ้นเคยดี สายตาที่เย็นชา ภาษากายที่มีระยะห่างกับเธอตั้งแต่เริ่มต้นคบกัน เธอเคยคิดว่ารับได้ แต่ตอนนี้กลับหึงหวงเพราะหลงรักเขาแล้วเต็มหัวใจ สิ่งที่เธอพูดนั้นทำให้เขาไม่ตอบโต้อะไร ซึ่งก็จริงที่เขาเคยบอกไปแบบนั้น กรณีที่ถ้าเขาโสดไปนานๆ จนครอบครัวของเขาต้องหาผู้หญิงที่เหมาะสมให้มาแต่งงานด้วย แต่ตอนนี้สถานการณ์มันต่างออกไปตรงที่ เธอผู้เป็นเจ้าของหัวใจนั้น ไม่มีสามีอีกแล้ว..“งั้นไปคุยกันที่ห้องทำงาน ลูกน้องผมต้องเก็บของที่นี่”เจตสุวีย์สั่งให้ลูกน้องเก็บของเท่าที่เขาต้องการและให้รอในรถก่อน จนกว่าเขาจะคุยเสร็จ“ผมเคยบอกว่า ถ้าวันหนึ่งผมต้องแต่งงานกับคนที่พ่อแม่จัดหามาให้ น้องจะเลือกอยู่หรือไปก็ได้ แต่กรณีนี้ไม่ใช่..เพราะคนที่ผมรัก เธอพึ่งสูญเสียสามีและไม่มีใครอีกแล้ว ผมเป็นคนเดียวที่รักและดูแลเธอได้ ก็ต้องให้เวลาเธอทำใจสักระยะ ผมจะแต่งงานสร้างครอบครัวและจะหยุดที่เธอตลอดไป”“พี่โจจะไม่เห็นใจหนูที่รักพี่บ้างล่ะคะ? แม่หนูก็รู้จักพี่ ชมพี่ตลอดว่าเป็นคนดี พี่โจจะทิ้งกันง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ? หนูขอแค่อยู่โดยไม่แสดงตัวก็ได้…”“ผมไม่ใช่คนดีอะไรที่ไหน เคยทำอะไรแย่ๆมาก
ธนัชชาเห็นข้อความที่เจตสุวีย์ส่งมา ในตอนเก้าโมงที่เธอพึ่งตื่น จึงรีบตอบกลับทันที เพราะรู้สึกโหวงๆ ในใจ“พี่โจ จะกลับมาวันไหนก็บอกหนูนะคะ หนูไปรับที่สนามบินได้ค่ะ”“ไม่ต้องหรอกครับ รบกวนน้องเปล่าๆ แล้วจะบอกอีกที”เจตสุวีย์ที่เที่ยงคืนแล้วก็ยังนอนไม่หลับได้ตอบธนัชชาไปสั้นๆ เขาคิดถึงคนที่อยู่อีกห้องนั้นต่างหากว่าจะหลับหรือยัง'You had me at hello'"You make my ordinary world more beautiful.''I'll stand by you no matter what.''So many of my smile begin with you.'"You're my comfort zone.''I find pieces of you in every song I listen to.''Together with you is my favorite place to be.''Thinking of you makes me smile.''Only you, not anyone.'ผมรักคุณตั้งแต่แรกเจอ..คุณทำให้โลกธรรมดาของผมสวยงามขึ้น..ผมจะอยู่เคียงข้างคุณไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม…รอยยิ้มส่วนใหญ่ของผมเกิดขึ้นเพราะคุณ..คุณคือความสบายใจของผม..ทุกเพลงที่ผมฟัง ผมพบคุณอยู่ในนั้น..ที่ที่ผมชอบ ก็คือที่ที่มีคุณอยู่ด้วย…เพียงแค่คิดถึงคุณ ก็ทำให้ผมยิ้มได้…คุณเท่านั้น ไม่ใช่ใครก็ได้..ข้อความจากไอจีของของแมทธิวส่งให้ไอรดาในตอนเ
น้ำหนักตัวของเจตสุวีย์ที่นอนคร่อมทับเธอ มันทำให้เหตุการณ์ในคืนวันนั้นเมื่อสองปีก่อน กลับเข้ามาในสมองของเธอทันที“หนูพึ่งเสียลูกไป ยังเจ็บท้องอยู่ พี่โจจะทำได้ลงคอเหรอ..”เจตสุวีย์มองเธอใกล้ๆ แววตาที่บอกความรู้สึกรักอยู่เต็มอก เขาเริ่มคิดได้เมื่อเห็นสีหน้าและน้ำเสียงที่อ้อนวอนของเธอ“พี่เคยเชื่อ..ตอนที่หนูขอร้องแบบนี้ หลอกพี่ให้รอแล้วขึ้นเครื่องบินหนีไปจดทะเบียนสมรสกับแมทธิว พี่รอหนูจนไม่รู้ผ่านไปกี่วัน มันทรมานใจสุดๆ”มือเขาเริ่มซุกซน เลิกชุดนอนที่บางเบานั้นขึ้นไปถึงใต้อก หน้าตาที่หล่อเหลานั้นแดงก่ำจูบซุกซอกคอเธอไม่ปล่อย หัวใจเขาเต้นแรง สะเทือนจนหน้าอกกว้างที่แนบกับอกอวบอิ่มของเธออยู่ให้รู้สึกได้เจตสุวีย์เริ่มหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ มีเสียงในลำคอบ้าง มือเขาทำอะไรบางอย่างบนลำตัวเธอ และแล้วของเหลวอุ่นๆ ก็ตกลงบนหน้าท้องของไอรดาเธอทำได้แค่หันหน้าไปด้านข้างหลับตาแน่นด้วยน้ำตาที่ไหลผ่านจมูกไป ส่วนเจตสุวีย์ที่หน้าแดงปากแดงไปหมด เริ่มจูบปากเธออย่างนุ่มนวลไม่ยอมเลิกราง่ายๆ“อื้ออ..พอได้แล้ว”“หนูนอนนี่แหละ พี่ไปเอาทิชชูมาเช็ดให้นะคะ”เขารีบผละไปที่ห้องน้ำแล้วรีบมาหาเธอที่เตียง ไอรดาคว้าทิชชูเอาม
ไอรดาออกจากห้องนอนไปนั่งดูโทรศัพท์ของแมทธิวที่อยู่กับเธอ พลางคิดว่าใครกันที่เข้าถึงบัญชีของเขาได้ เพราะขนาดเธอที่เป็นภรรยา ยังไม่รู้ว่ายูสเซอร์หรือพาสเวิร์ดของสามีคืออะไร โดยข้อความนั้นส่งมาในตอนหกโมงเช้าก่อนเธอจะตื่นไม่นานนักทันใดนั้น เธอรีบตรงไปที่ห้องของเจตสุวีย์ เคาะประตูเรียกเขารัวๆ ประตูถูกเปิดออกโดยเขาที่งัวเงียหนักมาก“จะไปกันแล้วเหรอ? พี่ขออาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ”“พี่โจ หนูขอดูโทรศัพท์หน่อยค่ะ”“หือ..มีอะไรหรือคะ?”“หนูแค่ต้องการดูอะไรบางอย่างค่ะ ว่าพี่มีอะไรปิดบังหนูหรือเปล่า”“โอเคค่ะ”เขายื่นโทรศัพท์ให้กับไอรดา เธอรับมาแล้วเปิดดูไอจีของเขาทันที แต่ก็เห็นเค้าออนไลน์แค่ Account ของตัวเองเท่านั้นเธอขมวดคิ้วแล้วยื่นโทรศัพท์คืนกลับไป“หนูมีอะไรกับโทรศัพท์ของพี่หรือเปล่าคะ? ไม่ต้องห่วง พี่ไม่แอบคุยกับใครยกเว้นกับหนู”“ไม่รู้ว่าใครแกล้งหนูหรือเปล่า แต่หนูบอกตรงๆ ว่าไม่ชอบแบบนี้ มาเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น”“หนูยังไม่บอกพี่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น?”“มีใครบางคนเข้าถึงไอจีของสามีหนูแล้วส่งข้อความมาให้ แต่หนูจะสืบให้ได้ว่าคือใคร ที่มาล้อเล่นกันแบบนี้”“แปลกจริง แล้วส่งมาว่ายังไงคะ?”“ช่า
ความเสียใจนั้นมากเสียจนทำให้ไอรดาไม่พูด ไม่มองและไม่ฟังใคร เธอมีแค่น้ำตาที่ไหลตลอดเวลาและไม่ยอมปล่อยมือที่จับกับมือของแมทธิวที่หลับไม่ตื่นอีกแล้วเจตสุวีย์เจ็บในใจที่เห็นเธอเป็นแบบนั้น เขาออกไปหลั่งน้ำตาเงียบๆ ข้างนอก โทรแจ้งน้องสาวเรื่องที่แมทธิวได้จากไปแล้ว“จูนจะจองตั๋วเดี๋ยวนี้ ไปที่ซานฟรานซิสโก”เสียงร้องไห้ของคนในครอบครัวแมทธิวโดยเฉพาะอาม่า ทำให้ทุกคนยิ่งเสียใจหนักขึ้นมาร์ตินที่อายุเพียงหนึ่งขวบเศษ ถูกแม่ของแมทธิวอุ้มไปข้างนอก เพราะไอรดาเริ่มวูบ ปวดกุมท้องและเป็นลม จนต้องแอดมิทไปอีกคนพ่อของแมทธิวต้องนำอากงอาม่าไปพักทำใจที่โรงแรมก่อน ส่วนเขาต้องจัดการเอกสารต่างๆ ที่โรงพยาบาลและที่บ้านของแมทธิวป้ารินและวีวี่พากันร้องไห้และโทรบอกกานต์วิภาที่เมืองไทยถึงข่าวอดีตสามีของเธอที่จากไปแล้ว นั่นทำให้เธอที่กำลังกินข้าวเย็นกับสามีและแม่ ถึงกับช้อนที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากตกลงบนจาน น้ำตาที่ไหลออกมาแบบกะทันหัน ทำเอาทุกคนบนโต๊ะอาหารตกใจ“ป้า..แล้วไอรดาล่ะ?”“คุณพ่อของแมทธิวบอกว่าน้องอายเสียใจจนช็อก แอดมิทอยู่ตอนนี้ ป้าจะไม่ไหวด้วย หนูวีวี่ก็ร้องไห้ เดี๋ยวสักพักเราจะไปโรงพยาบาล…”เสียงป้ารินและว
เจตสุวีย์ทำธุระส่วนตัวอะไรเรียบร้อยจากที่โรงแรมและเอาโน้ตบุ๊คมาเพื่อทำงานสำหรับคืนนี้ เมื่อมาถึงก็เจอแต่ไอรดาเพียงคนเดียว “หนูหิวมั้ย? เราไปกินมื้อเย็นกันก่อนนะคะ จะได้อยู่ที่นี่ยาวๆ” เธอส่ายหน้า เอาแต่ดูภาพในโทรศัพท์ของสามี“เราต้องดูแลเด็กในท้อง ถึงหนูจะไม่หิวแต่ลูก..แกไม่รู้อะไรด้วย” ไอรดาเหลือบตาไปมองเขาอย่างเศร้าสร้อย“ลูกหนู..หนูรู้ดีว่าควรทำยังไง”เขาไม่สนใจจะเถียงกับเธอที่สติสตังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พลางดึงมือเธอให้ยืนขึ้นแต่เธอดื้อดึงด้วยการนั่งไม่ยอมลุก เจตสุวีย์ต้องฝืนทำใจแข็งใส่“ไปกินข้าวค่ะ แมทธิวให้พี่คอยดูแลหนูระหว่างที่เขาไม่สบาย ไว้เขาหายแล้วหนูจะดื้อยังไงก็ได้ แต่ตอนนี้ถ้าหนูไม่ห่วงตัวเอง ต่อให้อุ้มไป พี่ก็จะทำ”“ไม่จริงหรอก…เขาเกลียดพี่ ต่อให้จะมาขอโทษแต่เราไม่เคยลืมว่าพี่ทำอะไรกับพวกเราบ้าง โดยเฉพาะกับหนู”เจตสุวีย์ที่ยังจับข้อมือเธออยู่ ใช้แรงดึงจนเธอที่ตัวบางร่างน้อยลุกยืนขึ้นมาชนตัวเขาที่ถือโอกาสกอดเอาไว้ ใบหน้าของทั้งสองใกล้กันจนลมหายใจปะทะกันและกัน แววตาของเขามีเงาสะท้อนของใบหน้าเธอในนั้น“แสดงว่าหนูจำได้ดีเรื่องระหว่างเรา..ใช่..พี่บังคับหนู แต่เพราะอะไรล
“คุณเชื่อเรื่องการกลับมาไหม? โจ”“ยังไง..หมายถึงมาเกิดใหม่น่ะเหรอ?”“อืม..มาร์ตินน่ะ มีตำหนิที่หลังหูซ้าย และมีผักที่ชอบหรือไม่ชอบเหมือนคุณพ่อของไอรดา ตอนพาไปหาคุณย่าของเธอ ทำเอาร้องไห้กันใหญ่..ผมเองก็เหมือนกัน อยากกลับมาอยู่กับเธออีกครั้ง ถ้าพระเจ้าจะทรงเห็นใจ”เจตสุวีย์ได้แต่เงียบ เริ่มรู้สึกแย่ขึ้นมา ที่เคยทำเรื่องไม่ดีกับคนทั้งคู่ แมทธิวได้ยินเสียงจมูกที่ฟึดฟัดของเขา ถึงกับขำเล็กๆ“ถ้าผมกลับมาเกิดแล้วคุณนอกใจเธอ ผมจะพาเธอหนีไปอีกเหมือนที่เคยทำจนคุณตามเราไม่เจอ ให้คุณแก่ตายอย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพัง”ทำเอาเจตสุวีย์หัวเราะออกมาได้ บรรยากาศในห้องเริ่มดีขึ้นมานิดหน่อย“แต่ถ้าคุณไม่กินผักหรือทำการบ้านไม่เสร็จ ผมอาจจะตีคุณก็ได้”“ไม่มีทาง เพราะภรรยาผม..เธอรักลูกมาก ถ้าตีผม คุณอาจโดนเธอชกหน้าคุณ”พวกเขาพูดคุยกันสบายๆ แม้ว่าแมทธิวจะหอบหายใจไปด้วย“คุณนอนเถอะ ผมจะอยู่ตรงนี้เพื่อคุยงาน คงไม่นอนแล้วล่ะ”พอตอนเช้ามืด แมทธิวยังคงหลับอยู่ เจตสุวีย์จึงย่องออกไปเงียบๆ ตรงไปที่โรงแรมและใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเบาๆ ปรากฏว่าไอรดายังนอนหลับอยู่และไม่ล็อกกลอนด้านในไว้ เขาไปที่ข้างเตียง ก้มดูเธอที่หลับลึกจน
ไอรดาเดิมตามเจตสุวีย์ไปติดๆ พลางถามคำถามอยู่ตลอด แต่เขาไม่ตอบและแอบยิ้มกับตัวเองที่เธอวิ่งไล่ตามเขาบ้าง จนไอรดาต้องถือวิสาสะจับแขนเขาเอาไว้ก่อนจะถึงห้องพักผู้ป่วย เจตสุวีย์หยุดเดินกะทันหัน จนใบหน้าของเขาแทบชนกับหน้าผากของเธอแล้วยิ้มให้.. ยิ้มแสนหวานที่ฉาบไปด้วยความรัก มีเพียงไอรดาคนเดียวที่จะได้เห็น “บอกมาว่านัดอะไรกันสามคน ทำไม?” “รู้ไว้แค่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราทำ เพื่อปกป้องหนู ลูกของหนู พี่ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้เพราะสัญญากับแมทธิวไว้ จริงๆ พี่ไม่ควรบอกหนูเลยด้วยซ้ำ หวังว่าจะไม่พูดกับเขานะว่าพี่บอก เขาจะยิ่งไม่สบายใจ ปล่อยให้เขาได้ทำในสิ่งที่อยากทำเถอะ” ไอรดาหลบตาลง พลางใช้ความคิด แต่สองมือที่ยังจับแขนเขาอยู่เพราะลืมตัว เจตสุวีย์จึงกุมมือเธอเบาๆ ทำให้เธอนึกได้สลัดมือออกจากมือเขาทันที “หนูไปรอข้างนอกก่อนนะ ถ้าคุยกันเสร็จแล้วพี่จะบอก” ไอรดาเอาแต่ใช้ความคิดจนเครียด และนั่งปวดท้องอยู่ที่โซฟาใกล้กับเคาน์เตอร์ของพยาบาล จนพยาบาลต้องเข้ามาถามเพราะเห็นหน้าเธอซีด นั่งไปสักพักจนอาการดีขึ้น เธอจึงส่งข้อความถึงกานต์วิภาเอาไว้ เกี่ยวกับการป่วยของแมทธิว แต่เพราะตอนนี้ที่ประเทศไทยคือ
แมทธิวเริ่มหายใจเข้าออกช้าๆ เพื่อให้ตัวเขาไม่เหนื่อยมากเกินไป“ผมรู้สึกได้ว่ารอบนี้มันหนักกว่าทุกครั้ง ผมรู้ตัวเองดี แต่ไม่อยากพูดกับภรรยากลัวเธอจะใจเสีย ผมไม่มีโอกาสได้คุยกับหมอตรงๆ เพราะเธออยู่ด้วยตลอด แต่ดูจากสีหน้าของเธอ ตอนที่หมอเรียกไปคุยมันคงหนักมากจริงๆ ผมเป็นห่วงเธอที่ท้องสองเดือน คุณรู้เรื่องนี้มั้ย..โจ”เจตสุวีย์พยักหน้าว่ารับรู้“ใช่ น้องสาวบอกผมว่าเธอท้องได้เดือนกว่า เมื่อเดือนก่อน”“ที่ผมอยากให้เธอกลับบ้าน เพราะไม่อยากทำให้เธอรู้สึกแย่ที่ผมรู้ว่าคุณแอบคุยกับภรรยาผม โดยปลอมเป็นน้องสาวของคุณ”แมทธิวหอบหายใจมากขึ้นเมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาจ้องเจตสุวีย์ที่มองมาอย่างไม่สะทกสะท้านสักนิด“ไอรดาไม่ผิดอะไรเลย ผมยืนยันได้ว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น”“แปลว่าคุณยอมรับว่าเป็นคนใช้แชทของน้องสาวเพื่อคุยกับเธองั้นสิ”หน้าตาของเจตสุวีย์นิ่งมาก เขาตอบด้วยท่าทางสบายๆ“แต่เธอไม่เคยรู้ว่าเป็นผม อาจจะแค่สงสัย แล้วเราก็ไม่ได้แชทคุยกันอีกตั้งแต่เธอฮันนีมูนจนท้อง การที่ผมคุยกับเธอ ไม่มีการคุยเกินเลยอะไรทั้งนั้น ผมพอใจที่มีความสุขเพียงเท่านี้”“ไม่รู้สึกว่าหน้าด้านไปหน่อยเหรอที่ข่มขืนใจเธอ ทำให้ธุ