Share

ตอนที่ 17 หมูป่าดำ

last update Last Updated: 2025-01-03 07:10:50

 หลังจากที่ท่านพ่อและท่านลุงขับเกวียนออกไปเพื่อนำปลาไปส่งที่เหลาอาหาร วันนี้มีสัตว์ป่าเพิ่มมาอีกหลายตัวน่าจะได้เงินเพิ่มมาอีกหลายตำลึง วันนี้นางตั้งใจเอาไว้ว่าจะไปตามล่าหมูป่าดำเพื่อนำไปขายให้เหลาอาหารน่าจะได้ราคาดี

ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่หายากนั่นย่อมหมายถึงว่ามันย่อมต้องมีราคาแพงเป็นธรรมดา เว่ยจื้อโหยวทำมื้อเช้าเอาไว้รอน้องทั้งสองคนวันนี้นางตั้งใจว่าจะปลูกผัก เช่นนั้นตอนนี้นางจึงนำเมล็ดผักที่มีอยู่ในบ้านไปแช่น้ำแร่เอาไว้ก่อนพรุ่งนี้เช้าถึงค่อยนำมาปลูกลงแปลงที่เตรียมเอาไว้

เว่ยจื้อโหยวแช่เมล็ดผักในน้ำแร่เสร็จแล้ว นางจึงมาเตรียมของเอาไว้รอท่านพ่อและท่านลุง รวมทั้งทำอาหารเอาไว้เผื่อทั้งสองคนด้วย น้องทั้งสองคนตื่นมาในยามเหม่า หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนรีบไปตักน้ำมารดผักที่ปลูกเอาไว้ก่อนหน้านี้ รดน้ำผักจนเสร็จแล้วทั้งสองคนถึงได้มากินมื้อเช้าที่พี่สะใภ้เตรียมเอาไว้ให้

“พี่สะใภ้ วันนี้ข้าสองคนขอไปช่วยงานที่บ้านท่านยายเหลียนนะเจ้าคะ”

“ได้สิ พวกเจ้าไปเถอะ ข้าเองก็จะเข้าป่ากับท่านพ่อและท่านลุง หากเจ้าสองคนอยู่บ้านข้ากลัวว่าป้าสะใภ้จะมาหาเรื่องรังแกพวกเจ้าตอนข้าไม่อยู่”

“พี่สะใภ้ไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะอยู่ช่วยงานที่บ้านยายเหลียนรอ”

“เช่นนั้นเจ้าเอาไก่ตัวนี้ไปให้ท่านแม่ข้าทำอาหารด้วยก็แล้วกันนะ ข้าแบ่งเอาไว้เมื่อเช้าไม่ได้ให้ท่านพ่อนำไปขายหมด”

“เจ้าค่ะ ข้าทราบแล้ว น้องเล็กรีบกินเร็ว ๆ เข้า จะได้รีบไป ข้าไม่อยากเจอคนบ้านนั้น”

“ขอรับพี่รอง เช่นนั้นรอข้าล้างจานชามสักครู่ขอรับ”

อวิ๋นซวนรีบเก็บถ้วยชามไปล้าง ส่วนอวิ๋นเฟยเตรียมของลงในตะกร้าไม้ไผ่ที่จะนำติดตัวไปด้วย มีอาหารสำหรับมื้อกลางวันที่พี่สะใภ้ทำเอาไว้ให้ หลังจากน้องชายล้างชามเสร็จแล้วทั้งสองคนมุ่งหน้าไปยังบ้านตระกูลเหลียนทันที

 ทางด้านเว่ยเจี้ยนป๋อกับเหลียนอี้ปิง ที่วันนี้พวกเขารีบมากันตั้งแต่เช้าเพราะต้องการจะรีบกลับไปให้ทันขึ้นเขากับลูกสาวหลานสาวของพวกเขา ตอนที่ทั้งสองมาถึงเหลาอาหารยังไม่เปิดรับซื้อของป่าจากชาวบ้าน ทั้งสองคนทำได้เพียงแค่รออยู่ด้านหลังเท่านั้น

เมื่อเสี่ยวเอ้อร์รับซื้อของป่าเปิดประตู เว่ยเจี้ยนป๋อรีบให้เหลียนอี้ปิงบังคับเกวียนเข้าไปทันที เพราะทั้งสองคนมาเร็วจนเกินไป ทำให้ตอนนี้ไม่มีชาวบ้านคนอื่นนำของมาขายให้กับเหลาอาหาร

“พวกท่านมาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย เหตุใดวันนี้ถึงได้ร้อนใจมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางเล่าขอรับ” เสี่ยวเอ้อร์

“พอดีพวกข้าจะรีบกลับบ้านน่ะ อีกอย่างวันนี้พวกเราพี่น้องจะเข้าป่าเผื่อว่าจะได้สัตว์ป่ามาเพิ่ม เจ้ารีบให้คนยกปลาไปชั่งเถอะ วันนี้ข้ามีไก่ป่า กระต่ายป่า และกวางตัวไม่ใหญ่มากมาด้วย”

“กวางหรือ ดี ดียิ่งนัก กวางที่ท่านนำมาขายเมื่อวานพอตกเย็นก็ขายหมดแล้วล่ะขอรับ”

“ขายดีเลยล่ะสิ ช่วงนี้ดูท่าแล้วคงมีลูกค้ามาใช้บริการอย่างเนืองแน่นล่ะสิ”

“เพราะปลาจากบ้านท่าน ไหนจะมีไก่กับกระต่ายอีก ที่สำคัญเนื้อกวางที่ไม่ได้มีมาบ่อยนัก เช่นนั้นพวกท่านรอสักครู่ ข้าจะไปเรียกหลงจู๊มาประเมินราคากวางให้ท่าน

“ได้ขอบใจเจ้ามากนะ”

คล้อยหลังเสี่ยวเอ้อร์เข้าไปได้ไม่นาน หลงจู๊ออกมาจากด้านในเหลาอาหารด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม บ่งบอกว่าเขามีความสุขมากขนาดไหน เพราะสองคนนี้นำของดี ๆ มาขายให้เหลาอาหารของเขา ทำให้ในแต่ละวันมีลูกค้ามาใช้บริการมากมาย จนวัตถุดิบที่เตรียมเอาไว้ในแต่ละวันเกือบจะไม่พอทำขาย

“เสี่ยวเอ้อร์บอกข้าว่าเจ้ามีกวางมาอีกเช่นนั้นหรือ ไหน ๆ ให้ข้าดูหน่อย รับรองว่าข้าให้ราคาดีแน่นอนไม่กดราคาสักอิแปะเดียว”

“นี่ขอรับหลงจู๊ วันนี้มีกวางมาติดกับดักตัวไม่ใหญ่มาก ข้าดูแล้วมันจะจะเป็นกวางดาว” เว่ยเจี้ยนป๋อ

“ใช่แล้วล่ะ ถึงแม้ว่ากวางดาวจะตัวไม่ใหญ่แต่เนื้อมันแน่นและอร่อยมาก เช่นนั้นตัวนี้ข้าให้เจ้า 4 ตำลึงทองเป็นเช่นไร”

“ตกลงขอรับหลงจู๊”

“เอาล่ะวันนี้ปลาของพวกเจ้า คิดเป็นเงินทั้งหมด 10 ตำลึงเงิน ไก่กับกระต่ายป่า 2 ตำลึงเงิน และกวาง 4 ตำลึงทอง คิดเป็นเงินทั้งหมด 4 ตำลึงทอง 12 ตำลึงเงิน นี่เงินของพวกเจ้า หวังว่าพรุ่งนี้เจ้าจะมีของดีมาขายให้ข้าอีกนะ”

“ขอบพระคุณหลงจู๊ขอรับ เช่นนั้นข้าสองคนลาล่ะ”

“ได้ ๆ พรุ่งนี้ข้าจะรอนะ อย่าลืมหากมีของดีก็อย่าลืมข้าเล่า”

“พวกข้าย่อมไม่ลืมท่านแน่นอนขอรับ”

หลังจากขายปลาและสัตว์ป่าเสร็จแล้วทั้งสองคนรีบขับเกวียนมุ่งหน้ากลับบ้านทันที เพราะทั้งสองคนกลัวว่าเว่ยจื้อโหยวจะแอบเข้าป่าไม่รอ เว่ยเจี้ยนป๋อถึงจะดีใจที่บุตรสาวลุกขึ้นมาเข้มแข็งและช่วยเหลือตัวเองได้ 

แต่ในฐานะที่เขาเป็นพ่อย่อมไม่วางใจไม่ว่าลูกสาวของเขาจะออกเรือนไปแล้วแต่นางยังเป็นเด็กในสายตาเขาเสมอ อายุของนางเพียง 17 หนาวเท่านั้น หากไม่อับจนหนทางเขาย่อมไม่ยอมให้บุตรสาวแต่งออกไปทั้งที่อายุยังน้อยขนาดนี้

“ตอนนี้ชีวิตของพวกเราเริ่มจะดีขึ้นแล้วนะน้องเขย ขอบคุณสวรรค์ที่พาอาโหยวคืนมาให้พวกเรา”

“นั่นสิขอรับพี่ใหญ่ ตอนนี้ก็ดีแล้วสวรรค์อวยพรให้นางมีแต่ความสุข ข้าเองก็ดีใจที่ลูกสาวที่ข้ารักมากไม่ต้องทุกข์ทนอีกแล้ว”

“นั่นสิ อี้เหมยเองก็แต่งออกไปแล้วไม่รู้ว่าป่านนี้ลูกสาวของข้าจะเป็นเช่นไร ปีนี้ยังไม่กลับมาเยี่ยมบ้านเดิมเลย”

“เอาไว้พวกเราหาวันว่าง ๆ ไปเยี่ยมหลานสาวดีหรือไม่ ตอนนี้เรามีเกวียนล่อแล้ว ออกจากบ้านแต่เช้ามืดหน่อยจะได้ไปถึงเร็วหน่อย จะได้ไม่ลำบากตอนขากลับ”

“ตกลง เอาตามที่เจ้าว่ามาก็แล้วกัน”

ใช้เวลาไม่นานทั้งสองคนก็กลับมาถึงบ้าน เว่ยจื้อโหยวที่รออยู่ก่อนแล้วรีบให้ท่านพ่อกับท่านลุงกินมื้อเช้าก่อน เมื่อท่านพ่อกับท่านลุงกินข้าวเสร็จแล้ว ทั้งสามคนก็แบกตะกร้าเข้าป่าไปทันที ก่อนขึ้นเขาพวกเขาไม่ลืมที่จะเอาเกวียนล่อกลับไปไว้ที่บ้านตระกูลเหลียนด้วย เพราะกลัวว่านางเฉียนจะมาก่อความวุ่นวายในบ้านตอนที่พวกเขาไม่อยู่

“ท่านพ่อ ข้าคิดว่าจะหาสุนัขมาเลี้ยงเจ้าค่ะ อย่างน้อย ๆ มันจะได้ช่วยข้าเฝ้าบ้านได้”

“พ่อเห็นด้วยกับเจ้านะ เอาไว้พ่อจะหามาให้เจ้าก็แล้วกัน”

“ขอบพระคุณท่านพ่อเจ้าค่ะ”

“อาโหยว หลานจะเข้าไปลึกเท่าไหร่หรือ”

“ข้าว่าจะเดินไปเรื่อย ๆ เจ้าค่ะท่านลุง ท่านลุงไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะ ข้ารับรองว่าปลอกภัย แต่ที่ข้าไม่เข้าใจเหตุใดชาวบ้านถึงไม่เข้ามาหาของป่าและล่าสัตว์ในป่าทางด้านซ้ายนี้เล่าเจ้าคะ”

“เมื่อก่อนมีพรานป่าในหมู่บ้านของเราโดนหมีกัดตายน่ะ ต่อมาก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาอีก”

“อ่อ เป็นเช่นนั้น หากเราไม่ไปรบกวนรังมันหรือไม่ไปก่อกวนตอนที่มันจำศีลก็ไม่น่าจะมีปัญหานะเจ้าคะ”

“อีกอย่างหมูป่าดำดุร้ายมาก มีคนได้รับบาดเจ็บเกือบตาย พวกเราก็แค่ชาวบ้านธรรมดา ขนาดพรานป่าที่ว่าเก่งที่สุดยังตกตายไปในป่านี่ ไหนเลยชาวบ้านจะกล้า เห็นมีแต่เจ้านี่ล่ะที่กล้าไม่กลัวอะไร”

“โถ่ท่านลุง คนเราทำเพื่อปากท้องข้าไม่มีอันใดต้องกลัวอีกแล้ว อย่างน้อย ๆ ข้าเองก็เคยผ่านความตายมาแล้ว ด้วยน้ำมือคนที่ข้าเคารพนับถือ โชคดีที่ท่านพ่อแยกตัวออกมาเสียได้ หาไม่แล้วพวกเรายังจะเหลือใครในครอบครัวอีก ท่านย่าคงจับน้อง ๆ ไปขายเป็นทาสด้วยแน่นอนเจ้าค่ะ”

“พ่อขอโทษนะลูก หากพ่อไม่มัวแต่ก้มหน้าก้มตากตัญญูหวังว่าท่านแม่จะเปิดใจบ้างเจ้าคงไม่ลำบากขนาดนี้”

“ข้าไม่โทษท่านพ่อหรอกเจ้าค่ะ เป็นท่านย่าที่หูหนวกตาบอดเห็นกงจักรเป็นดอกบัว สักวันนางจะรู้สึกได้เองเจ้าค่ะ”

ทั้งสามคนเดินเข้าป่าด้านซ้ายมาได้ไม่นาน เว่ยจื้อโหยวก็หยุดเดินเพราะนางได้ยินเสียงบางอย่างมาจากต้นไม้ใหญ่ด้านหน้า เมื่อเว่ยเจี้ยนป๋อกับเหลียนอี้ปิงเห็นนางหยุดเดินก็หยุดเดินตามด้วยอีกคน

“มีอันใดหรือลูก เหตุใดจึงหยุดเดิน”

“ท่านพ่อ ข้าได้ยินเสียงหมูร้อง ท่านพ่อกับท่านลุงขึ้นไปอยู่บนหินก้อนใหญ่ก้อนนั้นก่อนนะเจ้าคะ ก้อนที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุด”

“อาโหยวหลานจะทำอันใด มันอันตรายมากนะ เจ้ายังไม่รู้เลยว่าข้างหน้านั่นมีอันใดอยู่กันแน่”

“ท่านลุงอย่าได้กังวลเจ้าค่ะ ขอให้ท่านเชื่อใจข้าก็พอ ท่านลุงกับท่านพ่อคอยสนับสนุนข้าก็พอแล้วเจ้าค่ะ”

“ได้พ่อเชื่อเจ้า พี่ใหญ่เชื่อหลานเถอะขอรับ”

“ได้เช่นนั้นเอาตามที่อาโหยวว่า”

“ท่านสองคนขึ้นไปรออยู่บนก้อนหินก่อน ข้าจะไปดูเสียหน่อยว่ามีอะไรแล้วจะกลับมาบอกนะเจ้าคะ”

“ได้ตกลง ลูกต้องระวังตัวด้วยเข้าใจหรือไม่ ความปลอดภัยต้องมาก่อน”

“เจ้าค่ะท่านพ่อ ข้าเข้าใจแล้ว”

เว่ยจื้อโหยวเดินเข้าไปในป่าด้านหน้าของนางเป็นต้นไม้ใหญ่ นางแอบหลังต้นไม้ได้พอดิบพอดี นางมองไปด้านหน้าเห็นหมูดำสองตัวกำลังเดินมาทางนี้พอดี แต่ละตัวมีขนาดใหญ่มากน่าจะหลายร้อยชั่ง 

คาดว่าพวกมันทั้งสองตัวคงออกหากินแยกจากฝูงแล้วเดินมาทางนี้พอดี เมื่อรู้แล้วว่าหมูดำจะต้องเดินผ่านมาในทางที่นางและท่านพ่อกับท่านลุงอยู่เป็นแน่ เว่ยจื้อโหยวรีบเดินกลับไปหาทั้งสองคนที่รออยู่ เพื่อบอกแผนการของนาง

“ท่านพ่อ หมูดำเจ้าค่ะ 2 ตัว ลูกคิดว่ามันต้องเดินผ่านมาหากินทางนี้แน่ ๆ เช่นนั้นท่านพ่อกับท่านลุงยิงพร้อม ๆ กันนะเจ้าคะ ส่วนอีกตัวข้าจะเป็นผู้ยิงเอง เราจะไม่ปล่อยให้รอดไปสักตัว เพราะพรุ่งนี้ข้าจะไม่เข้าป่าตอนกลางวันแล้ว ถึงเวลาที่ต้องปลูกผักแล้วเจ้าค่ะ”

“ตกลง เชื่อมือพ่อได้เลย”

“ลุงเองก็จะพยายามนะ แต่ว่าลุงตื่นเต้นมากเกิดมาลุงยังไม่เคยล่าหมูดำสักครั้ง”

“ใจเย็น ๆ เจ้าค่ะท่านลุง ทำใจให้สบายเจ้าค่ะ ท่านลุงจะต้องมีสมาธินะเจ้าคะมิเช่นนั้นเจ้าหมูจะต้องหลุดมือเราไปแน่”

“ตกลง ลุงจะพยายามทำให้เต็มที่”

ไม่นานเกินรอหมูดำสองตัวเดินออกหากินมาเรื่อย ๆ โดยที่พวกมันไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนสามคนรอพวกมันอยู่ เมื่อหมูดำทั้งสองตัวเดินมาในระยะที่สามารถยิงได้แล้ว เว่ยจื้อโหยวส่งสัญญาณให้ท่านพ่อและท่านลุงปล่อยลูกธนูไปที่หมูตัวด้านซ้ายทันที

ส่วนนางรับผิดชอบตัวทางด้านขวา ทั้งสองคนปล่อยลูกธนูออกไปด้วยความตื่นเต้น หาได้สงบและทำตัวตามสบายเหมือนเว่ยจื้อโหยวไม่

“ฟิ้ววว ปั๊ก อู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงหมูดำร้องลั่นป่า

เว่ยจื้อโหยวที่มีพละกำลังมหาศาลนั้นสามารถล้มหมูได้ด้วยธนูดอกเดียว เมื่อนางเห็นว่าหมูดำตัวที่ท่านพ่อและท่านลุงยิงนั้นมันยังไม่ตายแถมส่งเสียงร้องดังลั่นไม่รอช้านางรีบปล่อยลูกธนูเล็งเข้าจุดตายทันที

“ท่านพ่อ ท่านลุง เร็วเข้าพวกท่านรีบหามหมูดำออกไปจากป่ากันก่อน อย่ามัวแต่อึ้ง ประเดี๋ยวมีสัตว์ป่าตัวอื่นได้กลิ่นเลือดแล้วจะวุ่นวายเจ้าค่ะ”

“ดะ.. ได้ เดี๋ยวพ่อกับลุงเจ้าไปตัดไม้มาทำคานหาม แล้วอีกตัวเจ้าแบกไปไหวแน่นะ”

“ไหวเจ้าค่ะ ท่านพ่อเร่งมือเข้าเจ้าค่ะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 113 บทส่งท้าย

    หลังจากเหลียนอี้หลุนแต่งภรรยาเข้าบ้านได้ไม่นาน หยวนจิ้งเองก็พบรักเข้ากับหญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งในหมู่บ้านแถบชานเมือง นางเป็นบุตรสาวพรานป่าที่มีนิสัยใจคอกล้าหาญไม่ต่างไปจากน้องสะใภ้อย่างเว่ยจื้อโหยว ที่สำคัญนางเป็นคนจิตใจดี หยวนจิ้งแต่งภรรยาได้ไม่นาน ภรรยาของเขาก็ตั้งครรภ์ทันที ต่างจากอี้หลุนที่ไม่ว่าจะทำยังไง ภรรยาก็ยังไม่ตั้งครรภ์เสียที ส่วนภรรยาของกู้ตงและสหายทั้งสองตอนนี้ตั้งครรภ์แล้วเช่นเดียวกัน เว่ยจื้อโหยวเองก็กำลังจะคลอดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ด้วยความพยายามของอี้หลุนในที่สุดภรรยาก็ตั้งครรภ์เสียที เซี่ยเหิงเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าคนอื่น อ้ายหลินเองก็ท้องโตและกำลังใกล้คลอดตามเว่ยจื้อโหยวมาติด ๆ หมู่บ้านต้าลี่เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ เว่ยเจี้ยนป๋อได้เป็นบิดาของจอหงวนฝ่ายบุ๋น อวิ๋นเซียวนั้นมีน้องชายเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ อวิ๋นเฟยกับหย่งคังก็มีลูกชายหญิงให้บิดามารดาได้เลี้ยงหลานไม่เหงา ทำเอาลุงใหญ่อย่างเหลียนอี้ปิงอิจฉาตาร้อนไปหมดเจ้าแฝดต้าเป่ากับเสี่ยวเป่า หลังจากมารดาคลอดน้อง ๆ แล้วทั้งสองคนจะเข้าไปศึกษาที่เมืองหลวงตามที่รับปากกับท่านลุงเฟยหลงเอาไว้ เว่ยจื้อโหยวมีความสุขที่ได้อยู่กับลู

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 112 คนดีพี่มาง้อ

    เหลียนอี้หลุนตอนนี้กำลังชั่งใจตัวเองอยู่ว่าจะทำตามใจตัวเองหรือจะยอมเดินออกมาอย่างเช่นที่เคยทำ ไม่ใช่ว่าเขาไม่พึงใจในตัวม่านหลิน เพียงแต่เขาคิดว่าตัวเองมีชาติกำเนิดต่ำต้อย บิดามารดาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น เจ้าเมืองเตี้ยนถงเองไม่เคยคิดดูถูกชาติกำเนิดของเหลียนอี้หลุนอย่างที่ตัวอี้หลุนเข้าใจ ที่ฮูหยินท่านเจ้าเมืองกุเรื่องว่าจะให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายของสหายของนางนั้นเพื่อกระตุ้นให้อี้หลุนรู้ใจตัวเองเพียงเท่านั้น เหลียนอี้หลุนทำหน้าที่คุ้มกันขบวนสินค้ามานานแล้วและนางเองก็รู้ดีว่าเขาพึงใจในตัวบุตรสาวคนเล็กของนาง ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้แสดงออกโจ่งแจ้ง แต่คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานเช่นนางกับสามีนั้นมีหรือจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มคิดเช่นไรกับบุตรสาวของตัวเอง ม่านหลินนั้นตกหลุมรักเหลียนอี้หลุนตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเขาเมื่อ 2 ปีก่อน ถึงในสายตาคนอื่นนางเป็นคุณหนูจวนขุนนางที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร นอกจากวิ่งออกไปเที่ยวตรงนั้นทีตรงนี้ที แต่ความจริงแล้วฝีมือการทำอาหาร งานเย็บปักและการต่อสู้ไม่ได้ด้อยเลย ม่านหลินเองก็เริ่มถอดใจแล้วเช่นเดียวกัน นางคิดว่าความพยายามของตัวเองไม่เป็นผลสำเร็จ ขนาดที่นาง

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 111 ยอดลูกสะใภ้

    หมู่บ้านหนานซานตอนนี้ข่าวการกลับมาของสามสหายปากร้ายแห่งหมู่บ้านหนานซานที่กลับมาจากเมืองหลวงพร้อมทั้งนำภรรยากลับมาด้วยเป็นที่เลื่องลือไปสี่หมู่บ้านยี่สิบลี้เลยก็ว่าได้ชาวบ้านหลายคนต่างไม่อยากจะเชื่อว่าบุรุษปากคมเช่นสามคนนั้นจะสามารถแต่งภรรยาจากเมืองหลวงกลับมาได้ อีกทั้งเหล่าภรรยายังเป็นคุณหนูของตระกูลใหญ่ที่มาพร้อมกับสินเดิมมากมายและเช้าวันนี้หลังจากที่ส่งสามีออกไปทำงานแล้วเหล่าสะใภ้ทั้งสามก็นัดแนะกันเข้าป่าล่าสัตว์หาของป่าดังเช่นชาวบ้านทั่วไป ทั้งสามคนคิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกแล้วที่แต่งงานมาอยู่หมู่บ้านหนานซานแห่งนี้“ท่านแม่ ท่านพ่อ พี่สะใภ้ข้าไปก่อนนะเจ้าคะ ป่านี้เสวี่ยเหลียนกับซินเหมยคงมารอแล้ว” ม่อจื่อ“จื่อเอ๋อร์ระวังตัวด้วยนะ อย่าเข้าป่าลึกมากนัก บ้านเราไม่ได้ขาดแคลนสิ่งใดอย่าทำอะไรให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย เข้าใจหรือไม่” แม่สามีบอกลูกสะใภ้ชาวเมืองอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะท่านแม่ ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี”ผิงม่อจื่อหลังจากบอกลาแม่สามีแล้วก็มุ่งหน้ามาที่จุดนัดหมายที่มีสหายสองคนรออยู่ที่ทางขึ้นเขาท้ายหมู่บ้าน เส้นทางนี้ชาวบ้านในหมู่บ้า

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 110 ของฝากจากเมืองหลวง

    หลังจากผ่านพ้นการแต่งงานแบบที่แปลกประหลาดไปแล้ว สี่หนุ่มแห่งหมู่บ้านต้าลี่ต่างได้ภรรยากลับไปฝากคนที่บ้านด้วยนอกเหนือจากของฝากที่พวกเขาซื้อเอาไว้มากมายเพราะทั้งสี่คนแต่งงานแล้วและภรรยายังตามสามีกลับไปด้วย ขากลับทำให้มีขบวนรถม้าเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เว่ยจื้อโหยวเองถึงแม้จะดีใจที่เจ้าพวกลิงทโมนทั้งสี่ในที่สุดก็รู้จักแต่งภรรยามีครอบครัวเสียทีจะได้ไม่ต้องรวมหัวกันไปทำเรื่องอะไรพิเรน ๆ อีก แต่ดูท่าทีภรรยาของแต่ละคนแล้ว เว่ยจื้อโหยวคิดว่าคงมีเรื่องปวดหัวตามมาอีกไม่น้อย “เดินทางปลอดภัยนะ อาเซียวน้องสะใภ้” เฟยหลง“ขอบคุณขอรับพี่รอง ท่านกลับไปดูแลพี่สะใภ้กับหลานชายเถอะไม่ต้องเป็นห่วง” อวิ๋นเซียว“เจ้าแฝดไม่อยู่กับลุงที่เมืองหลวงหรือ” เฟยหลงถามหลานชาย“ไม่ขอรับ ข้าจะไปช่วยท่านพ่อทำงาน เอาไว้ถึงเวลาเข้าสำนักศึกษาแล้วค่อยมาอยู่กับท่านลุงที่เมืองหลวงขอรับ แต่ต้องรอให้ท่านแม่มีน้องก่อนนะขอรับ เพราะหากพวกเราสองคนมาอยู่ที่เมืองหลวงข้ากลัวท่านแม่จะเหงา” ต้าเป่า“ได้ เช่นนั้นลุงรองจะสร้างเรือนเอาไว้ให้พวกเจ้าสองคนนะ เอาติดกับเรือนของน้องชายเลยดีหรือไม่”“ดีขอรับ ท่านลุงรักษาตัวด้วยนะขอรับ เอาไว้ต้าเ

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 109 เอาคืนให้ชุยต้า(2)

    เวลาผ่านไปอีกสองวันก็มีข่าวออกมาว่าชุยต้าหวังพร้อมนางจินซื่อถูกจับข้อหาร่วมมือกันทำให้อดีตภรรยาเอกถึงแก่ความตาย และยึดเอาสินเดิมภรรยาพร้อมทั้งใส่ความบุตรที่เกิดกับภรรยาเอกให้มีความผิดและส่งขายไปเป็นทาสหลวงหลังจากเจ้าหน้าที่ทางการสอบสวนแล้วนางจินซื่อสารภาพว่าเป็นคนวางยาอดีตภรรยาเอกเพื่อต้องการขึ้นมาเป็นภรรยาเอกแทน ส่วนชุยต้าหวังมีความผิดฐานยึดเอาสินเดิมภรรยาและขายลูกชายทั้งสี่ไปเป็นทาส ด้วยเหตุนี้นางจินซื่อมีโทษประหารข้อหาฆ่าคนตาย ชุยต้าหวังมีโทษจำคุก 30 ปี ส่วนลูกชายอย่างชุยตงหลางนั้นไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่บิดามารดาได้กระทำลงไปจึงไม่มีความผิด ลูกสาวอย่างชุยรุ่ยเอ๋อร์นั้นมีส่วนรู้เห็นและร่วมมือกับมารดาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมีโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกันทางการได้คืนสินเดิมของมารดาชุยต้าทั้งหมดให้กับพวกเขาสี่พี่น้อง ชุยต้าเองย่อมรู้ว่าเป็นฝีมือของฮูหยิน แต่พวกเขาไม่ยินดีที่จะอยู่เมืองหลวงอีกต่อไป เพราะต่างก็ตั้งใจลงหลักปักฐานที่หมู่บ้านต้าลี่แล้ว ชุยต้ากลับไปคงต้องคุยกับพี่น้องของตัวเองเรื่องสินเดิมมารดาที่เหลือไม่มากแล้วเพราะตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ชุยต้าหวังและนางจินซื่

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 108 เอาคืนให้ชุยต้า (1)

    หย่งซีและชุยต้ากลับมาถึงจวนแม่ทัพพร้อมกับที่เว่ยจื้อโหยวกลับมาจากวังหลวงเช่นเดียวกัน หย่งซีใบหน้าบูดบึ้งเดินกระแทกเท้าตึง ๆ เข้าไปหาพี่สาวเพื่อบอกกับนางว่าเขาและชุยต้าถูกคนรังแกอย่างไรบ้าง“เป็นอะไรเสี่ยวซีทำไมหน้าตาบูดบึ้งเช่นนั้น ใครทำอะไรให้โมโหมาหรือ” เว่ยจื้อโหยวถามน้องชาย“ก็วันนี้ข้าไปเดินเที่ยวตลาดในเมืองมาแล้วไปเจอยายป้าปากแดงอยู่ ๆ ก็เข้ามาด่าว่าพี่ชายชุยต้ากับข้า แถมยังบอกว่าพี่ชายชุยต้าเป็นอดีตพี่ชายของนาง เท่านั้นยังไม่พอนางยังด่าว่าเป็นทาสด้วย เป็นทาสอะไรกันไม่ได้เป็นทาสเสียหน่อย”“ใครกันน่ะ เหตุใดถึงได้กล้าด่าคนอื่นกลางตลาดขนาดนั้น ไม่กลัวคนอื่นจะมองไม่ดีแล้วไม่มีใครมาสู่ขอหรือ แถมเป็นสตรีด้วย”“ข้าไม่รู้หรอกพี่ใหญ่ รู้แค่ว่านางไม่สวย ทาหน้าขาวโพลนแถมยังปากแดงอีกด้วย ใครจะไปสนใจกันว่านางเป็นใคร ไม่ได้รู้จักแต่เข้ามาด่า นางบอกว่าพี่ชุยต้าเป็นอดีตพี่ชาย”“สรุปที่เจ้าโมโหขนาดนี้ แม่นางผู้นั้นด่าเจ้าหรือด่าชุยต้า” “ด่าข้าด้วย ด่าพี่ชายชุยต้าด้วย นางด่าข้าว่าไอ้เด็กเหลือขอ พ่อแม่ไม่สั่งสอน” หย่งซีหน้างอตอบพี่สาว“ตกลง ตกลง ข้าเข้าใจแล้ว เดี๋ยวจะไปถามชุยต้าเดี๋ยวพี่สาวจะจัดก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status