Home / รักโบราณ / ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย / ที่ 14 เรื่องจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง

Share

ที่ 14 เรื่องจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง

last update Last Updated: 2025-01-03 02:29:47

ทางด้านเว่ยเจี้ยนป๋อกับเหลียนอี้ปิงที่วันนี้นำปลาไปส่งที่เหลาอาหารพร้อมทั้งกระต่ายกับไก่ที่เว่ยจื้อโหยวล่ามาได้ ทำให้วันนี้พวกเขาได้เงินมาไม่น้อย เพราะจำนวนปลาที่จับได้มากขึ้นและมีขนาดตัวที่ใหญ่ ส่วนปลาตัวเล็กนั้นพวกเขาปล่อยกลับลงลำธารไป 

ทั้งสองคนติดสินใจว่าจะมาขุดหลุมดักปลาเพิ่ม เพราะหลงจู๊บอกว่าปลาที่พวกเขานำไปส่งเมื่อวานไม่พอขาย ถึงแม้วันนี้จะได้ปลาเพิ่มมาจากเมื่อวานนับ 100 ชั่ง แต่หลงจู๊คิดว่าไม่น่าจะพอขาย เพราะไม่มีใครสามารถจับปลามาส่งที่เหลาอาหารแบบที่ยังมีชีวิตอยู่และไร้บาดแผลเช่นนี้มาก่อน ทำให้เวลานำปลาไปปรุงอาหารจะได้รสชาติสดใหม่และอร่อยยิ่งขึ้น ตอนนี้อาหารเมนูปลาจึงเป็นอาหารขึ้นชื่อของเหลาอาหารไปแล้ว

“น้องเขย ข้าว่าเรากลับไปขุดหลุมกับดักเพิ่มสัก 3 หลุมดีหรือไม่ ขุดห่างกันออกไปหน่อยลำธารสายนี้ไม่ค่อยมีชาวบ้านเดินผ่านมาเพราะมันอยู่ติดกับชายป่า เหมาะสำหรับให้พวกเราขุดหลุมดักปลา”

“ข้าเห็นด้วยกับพี่ใหญ่ กระต่ายป่าและไก่ป่าของอาโหยวก็ขายได้ราคาดีไม่น้อย เลยเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วข้าจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงนางมาก นางสามารถดูแลตัวเองได้ หากข้าไม่ตัดสินใจแยกบ้านออกมาพวกเราคงจะไม่มีวันคืนที่ดีเช่นนี้”

“เอาเถอะเรื่องมันก็ผ่านมาแล้วต่อไปนี้พวกเจ้าใช้ชีวิตให้ดีก็พอ ตอนนี้ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะอาโหยวพวกเราทั้งสองครอบครัวถึงได้มีลู่ทางทำเงิน อีกไม่นานพวกเราคงมีเงินสร้างบ้านใหม่และซื้อที่ดินเพิ่ม ต่อไปพวกเราจะมีแต่ความสุขดังเช่นอาโหยวพูด”

“ข้าก็เชื่อมั่นในตัวนางขอรับ หากข้าไม่แยกบ้านออกมาอาโหยวคงไม่แสดงความสามารถออกมาเป็นแน่ เพราะต่อให้นางมีความสามารถขนาดไหน ท่านแม่ข้าก็คงไม่เห็นครอบครัวของข้าอยู่ในสายตา”

“เอาเถอะ วันข้างหน้าหากเจ้าอยู่ดีกินดีแล้ว ข้าคิดว่าพวกเขาคงเสียใจจนอยากตายเลยทีเดียว”

“ขอรับ”

“เช่นนั้นเดี๋ยวเราขับเกวียนเลยไปบ้านอาโหยวเลยก็แล้วกันจะได้ไม่ต้องเดินย้อนไปย้อนมา และเงินที่ได้มาวันนี้จะได้เอาให้นางเลย”

“ตกลงขอรับพี่ใหญ่”

เว่ยจื้อโหยวไม่คิดไม่ฝันเลยว่าท่านพ่อและท่านลุงของนางจะตัดสินใจเช่นนี้และมุ่งหน้ามาที่บ้านของนางประจวบเหมาะกับตอนที่นางเดินแบกกวางตัวใหญ่เขายาวออกจากป่าพอดี

จากที่คิดว่าจะบอกกับพ่อตัวเองเรื่องพละกำลังและเรื่องต่าง ๆ นานาของตัวเองทั้งเรื่องจริงบ้างเรื่องไม่จริงบ้างในตอนไปรับน้องทั้งสองคน แต่นึกไม่ถึงว่านางจะได้สารภาพเรื่องจริงบ้างและเรื่องไม่จริงบ้างของนางกับท่านพ่อและท่านลุงเร็วขนาดนี้

ระหว่างทางที่กลับมาบ้านโชคดีที่ไม่พบเจอกับชาวบ้าน คงเพราะป่าทางด้านซ้ายไม่มีชาวบ้านกล้าเข้าไปหาของป่าและเก็บผักป่ากันจึงให้ไม่มีใครเห็นนางแบกกวางตัวใหญ่เขายาวออกมาจากป่า

เมื่อเว่ยจื้อโหยวแบกกวางเดินเปิดประตูด้านกลังบ้านเข้ามา พอดีกับที่เว่ยเจี้ยนป๋อถือจอบกำลังจะเดินไปที่ลำธารพ่อลูกประจัญหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมายและไม่ได้ตั้งใจ 

เหลียนอี้ปิงหลังจากที่นำล่อไปผูกเอาไว้และหาน้ำให้แล้วก็เดินสะพายตะกร้าเตรียมตัวจะไปช่วยเว่ยเจี้ยนป๋อขุดหลุมดักปลา แต่เมื่อเดินมาถึงก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นน้องเขยตัวเองยืนนิ่งสายตาจ้องมองไปยังประตูหลังบ้านของหลานสาว

“น้องเขยเจ้ามองอันใด มีอะไรอย่างนั้นรึทำไมยังไม่ไปที่ลำธารอีก” เพราะเว่ยเจี้ยนป๋อรูปร่างสูงใหญ่ทำให้เหลียนอี้ปิงมองไม่เห็นเว่ยจื้อโหยวที่ยืนอยู่หน้าประตู

“พะ... พี่ใหญ่นั่นใช่อาโหยวลูกข้าหรือไม่”

“อะไรของเจ้า ถามอะไรแปลก ๆ ไหนกันอาโหยวไม่ใช่นางไปหาของป่าหรอกหรือ”

“นั่นขอรับ หน้าประตูขอรับ”

“เจ้าถอยออกมาก่อนตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ปักหลั่นข้ามองไม่เห็น”

พอเว่ยเจี้ยนป๋อขยับออกไปทางซ้าย สิ่งที่ปรากฎสู่สายตาของเหลียนอี้ปิงทำเอาเขาพูดไม่ออก ได้แต่ พูด "นะ…นั่น นั่น" อยู่เป็นนานสองนาน 

เว่ยจื้อโหยวไม่คิดว่าท่านพ่อกับท่านลุงจะมาที่บ้านในเวลานี้ นางเองก็ตกใจเช่นเดียวกันแต่ในเมื่อความมันแตกแล้วก็ต้องอธิบายนั่นล่ะ ถึงอย่างไรท่านพ่อก็รักนางมากที่สุดไม่ว่าจะยังไงท่านพ่อจะต้องเชื่อนาง

“ท่านพ่อ ท่านลุง กำลังจะไปไหนกันหรือเจ้าคะ”

"อาโหยว ลูก เหตุใดเจ้าถึง"

“นั่นสิอาโหยว เหตุใดเจ้าถึงมีกวางกลับมาด้วยไม่ใช่เจ้าบอกลุงกับพ่อเจ้าเพียงจะเข้าป่าไปเก็บผักป่าและวางกับดักเล็กน้อยหรือ”

“ท่านลุง ท่านพ่อเข้าบ้านก่อนเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะบอกท่านลุงกับท่านพ่อทุกอย่างเลยเจ้าค่ะ ตอนนี้ข้าเริ่มหนักแล้วท่านพ่อหลบทางข้าก่อนได้หรือไม่เจ้าคะ”

“ถ้าเจ้าหนักวางมันลงพ่อจะแบกเข้าบ้านไปให้เจ้า”

“นั่นสิให้พ่อเจ้าแบกดีกว่า เจ้าตัวแค่นี้แบกมันมาได้อย่างไรกัน วางมันลงเร็ว ๆ เข้า”

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านลุง ข้าไม่ได้หนักมากมายอะไร”

หลังจากที่หลบทางให้เว่ยจื้อโหยวเดินเข้ามาในบ้านแล้วนางวางกวางเขายาวตัวใหญ่ลงบนลานหลังบ้าน จากนั้นนางจึงบอกกับท่านพ่อและท่านลุงของนางว่าต้องการให้พวกเขานำกวางเข้าไปขายในเมือง ส่วนเรื่องอะไรที่ท่านพ่อและท่านลุงต้องการรู้ นางจะบอกพร้อมกันทุกคนในตอนค่ำพร้อมกับท่านตาท่านยายและทุกคน

“ท่านพ่อ ท่านลุงพวกท่านรีบเอากวางตัวนี้เข้าไปขายในเมืองเถอะเจ้าค่ะ ไปตอนนี้ยังพอมีเวลา หากว่ารอพรุ่งนี้เช้าข้ากลัวว่าเนื้อจะไม่สดทำให้ขายไม่ได้ราคาเจ้าค่ะ”

“เจ้ามีอะไรที่ยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่ของเจ้าหรือไม่อาโหยว”

“ท่านพ่อเจ้าคะ เดิมทีข้าเองก็มีเรื่องที่จะบอกกล่าวกับท่านพ่อท่านแม่และทุกคนเพียงแต่ว่าข้ายังไม่มีโอกาส เดิมทีข้าตั้งใจว่าจะบอกเรื่องบางอย่างกับทุกคนเย็นนี้เจ้าค่ะ”

“พ่อรอไม่ได้ เจ้าบอกพ่อมาก่อน ตอนนี้พ่อร้อนใจจะแย่แล้ว ใช่เจ้าเข้าป่าด้านซ้ายมาใช่หรือไม่”

“ใช่เจ้าค่ะท่านพ่อ แต่ท่านพ่อเจ้าคะท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วงข้านะเจ้าคะ ข้าแข็งแรงมาก อีกอย่างท่านพ่อจำตอนที่ข้าโดนท่านย่าทุบตีแล้วสลบก่อนที่เราจะแยกบ้านได้หรือไม่เจ้าคะ”

“พ่อย่อมต้องจำมันได้ไม่มีวันลืม ว่าแต่มันเกี่ยวอันใดกัน”

 “ความจริงแล้วเดิมทีข้ามีพละกำลังเหนือกว่าผู้อื่น พูดง่าย ๆ ว่าข้าแข็งแรงมาก แต่เพราะข้ากลัวท่านย่าและคนอื่นจะหาว่าข้าเป็นตัวประหลาดเป็นปีศาจแล้วจับข้าไปเผาไฟข้าเลยต้องเก็บงำความสามารถเอาไว้จึงได้แสร้งเป็นอ่อนแอให้ผู้อื่นรังแกทุบที เพราะข้าเกรงว่าท่านพ่อท่านแม่จะเดือดร้อน อีกอย่างหากข้าแสดงความสามารถออกมาท่านย่าก็ไม่เคยเห็นพวกเราอยู่ในสายตา นอกจากจะเอาเงินที่ครอบครัวเราหามาได้เข้ากองกลางจนหมดแล้วยังจะหาว่าข้าเป็นตัวกาลกิณีอีก แล้วในตอนที่ข้าสลบไปวิญญาณข้าได้หลุดลอยไปไกลแสนไกล ชายชราที่มาพาข้าไปบอกว่าที่แห่งนั้นคือโลกอนาคตในอีกหลายหมื่นปี ข้าได้ความรู้มากมายมาจากที่นั่นเจ้าค่ะ”

“หละ..หลานพูดจริงหรืออาโหยว นั่นไม่ใช่ว่าเจ้าเกือบจะตายไปแล้วไม่ใช่หรือ หากว่าวิญญาณเจ้าออกจากร่างไปแล้วกลับเข้าร่างไม่ได้ไม่เท่ากับเจ้าได้ตายไปแล้วจริง ๆ หรอกหรือ”

“นั่นสิ อาโหยว พ่อขอโทษเจ้ามาก ที่พ่อเองไม่เอาไหน เพราะคำว่ากตัญญูมันค้ำคอ พ่อเกือบจะเสียเจ้าไปแล้ว พ่อมันโง่เอง สำหรับย่าเจ้าที่เกลียดพ่อ ต่อให้พ่อกตัญญูแค่ไหนในสายตาย่าเจ้าก็ไม่เคยมีพ่ออยู่ ขอบคุณสวรรค์ที่พาเจ้ากลับมานะ” เว่ยเจี้ยนป๋อพูดทั้งน้ำตา

“ลุงว่าเรื่องนี้ให้รู้แค่นี้เถอะ หากท่านพ่อท่านแม่ และน้องสาวรู้เข้านางคงไม่สบายใจ ในเมื่อหลานกลับมาก็ดีแล้ว ต่อไปนี้จะไม่มีอะไรมาทำร้ายเจ้าได้อีก”

“พ่อเห็นด้วยกับลุงของเจ้า อย่าให้แม่ของเจ้ารู้เลย นางจะไม่สบายใจและเสียใจ แล้วเรื่องที่เจ้าเข้าป่าด้านซ้ายมาเจ้าจะว่ายังไง”

“ท่านพ่อ ความจริงแล้วในป่านั้นมีของมีค่ามากมาย อีกทั้งสัตว์ป่าก็มากมายด้วย ในเมื่อชาวบ้านกลัวไม่กล้าเข้าไป ข้าเองก็มีพละกำลังมาก ข้าไม่กลัวป่าเจ้าค่ะ แต่ข้ากลัวอดตาย ข้ายังอยากหาเงินให้มาก จะได้มีเงินสร้างบ้านใหม่ซื้อที่ดินเพิ่มเยอะ ๆ ต่อไปข้าจะปลูกผักผลไม้ขายด้วยเจ้าค่ะ”

“หากลูกคิดว่าดูแลตัวเองได้พ่อก็จะไม่ห้าม แต่เข้าอย่าเข้าไปในป่าลึกให้มาก หรือจะเอาเช่นนี้ ให้ลุงของเจ้าไปส่งปลาในเมืองแล้วพ่อเข้าป่าไปกับเจ้าดีหรือไม่”

"ไม่ดีเจ้าค่ะ ท่านพ่อก็น่าจะรู้ยามเกิดศึกสงคราม ชาวบ้านอดอยากย่อมต้องมีคนผันตัวมาเป็นโจรปล้นชิง ท่านพ่อกับท่านลุงไปด้วยกันดีแล้วเจ้าค่ะหากเกิดอันใดขึ้นจะได้ช่วยเหลือกันได้

“เอาเช่นนั้นก็ได้ เอาตามที่อาโหยวว่าเถอะ ตอนนี้เรารีบไปกันก่อนเถอะ จะได้รีบไปรีบกลับข้ากลัวว่าจะกลับมาค่ำมืด”

“ขอรับพี่ใหญ่”

คล้อยหลังท่านพ่อละท่านลุงเอากวางเข้าไปขายในเมือง เว่ยจื้อโหยวจึงเตรียมตัวเข้าป่าไปอีกครั้ง และในครั้งนี้นางตั้งใจจะเข้าป่าไปขุดเอาต้นผลไม้ลงมาปลูกในสวนนางไม่แน่ใจว่าผลไม้ที่นี่มีอะไรบ้าง

เว่ยจื้อโหยวตั้งใจว่าจะไปขุดต้นผิงกั่ว ต้นสาลี่ ในป่าทางด้านขวาที่นางพบเมื่อวันก่อน วันหลังนางค่อยเข้าไปหาเพิ่มที่ป่าทางด้านขวา ใช่แล้วองุ่นป่าพวกนั้นนางจะย้ายลงมาปลูกในสวนหลังจากที่นางเก็บองุ่นที่สุกแล้วจนหมด หลังจากนั้นนางจะขุดเอาต้นย้ายลงมาปลูกที่สวนของนาง

 ทางด้านเว่ยเจี้ยนป๋อและเหลียนอี้ปิงตอนนี้กำลังเดินทางกลับเข้าเมืองอีกครั้งเพื่อนำกวางตัวใหญ่ไปขายให้กับเหลาอาหารที่พวกเขานำปลามาส่ง

เมื่อมาถึงเหลาอาหาร หลงจู๊ที่ออกมาที่ลานรับซื้อของจากชาวบ้านมองเห็นทั้งสองขับเกวียนเข้ามา หลงจู๊คิดว่าทั้งสองคนเอาปลามาขายอีกรอบจึงได้ยืนรออยู่ไม่ได้กลับเข้าไปในเหลาอาหาร

แต่ในตอนที่เกวียนเคลื่อนที่มาจอดด้านหน้าของเขาสิ่งที่หลงจู๊เห็นมันไม่ใช่ถังใส่ปลาแต่มันเป็นเสื่อไม้ไผ่ที่คลุมกวางเขายาวเอาไว้ไม่มิดต่างหาก

“หลงจู๊พวกเรากลับมาอีกครั้ง ไม่ทราบว่ากวางตัวนี้ท่านจะรับซื้อหรือไม่ขอรับ”

“รับสิรับ ทำไมข้าจะไม่รับเล่า ข้าต้องขอบใจเจ้าสองคนมาก ที่ทำให้เหลาของเรามีปลาสด ๆ ให้ทำอาหารทุกวัน สำหรับกวางตัวนี้ข้าให้ราคาชั่งละ 1 ตำลึงเงิน อย่างที่เจ้ารู้เนื้อกวางราคาแพงมากไม่มีพรานคนไหนหาเนื้อกวางได้มาหลายปีแล้ว ราคานี้ถือว่าเหมาะสมมากพวกเจ้าจะว่าเช่นไร”

“พวกเรายินดีขายขอรับ”

“อืม เช่นนั้นเขากวางข้าจะตัดคืนให้ เจ้านำไปขายที่โรงหมอน่าจะได้ราคาดี ครั้งหน้าหากพวกเจ้ามีของดีอย่าลืมเหลาของข้าก็พอ”

“ขอบคุณหลงจู๊ขอรับ พวกข้าย่อมไม่ลืมท่านแน่นอน”

“เจ้าสองคนรอสักครู่ ข้าจะให้เสี่ยวเอ้อร์นำไปชั่งน้ำหนัก และตัดเขากวางมาคืนให้”

“ขอบพระคุณหลงจู๊มากขอรับ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 113 บทส่งท้าย

    หลังจากเหลียนอี้หลุนแต่งภรรยาเข้าบ้านได้ไม่นาน หยวนจิ้งเองก็พบรักเข้ากับหญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งในหมู่บ้านแถบชานเมือง นางเป็นบุตรสาวพรานป่าที่มีนิสัยใจคอกล้าหาญไม่ต่างไปจากน้องสะใภ้อย่างเว่ยจื้อโหยว ที่สำคัญนางเป็นคนจิตใจดี หยวนจิ้งแต่งภรรยาได้ไม่นาน ภรรยาของเขาก็ตั้งครรภ์ทันที ต่างจากอี้หลุนที่ไม่ว่าจะทำยังไง ภรรยาก็ยังไม่ตั้งครรภ์เสียที ส่วนภรรยาของกู้ตงและสหายทั้งสองตอนนี้ตั้งครรภ์แล้วเช่นเดียวกัน เว่ยจื้อโหยวเองก็กำลังจะคลอดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ด้วยความพยายามของอี้หลุนในที่สุดภรรยาก็ตั้งครรภ์เสียที เซี่ยเหิงเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าคนอื่น อ้ายหลินเองก็ท้องโตและกำลังใกล้คลอดตามเว่ยจื้อโหยวมาติด ๆ หมู่บ้านต้าลี่เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ เว่ยเจี้ยนป๋อได้เป็นบิดาของจอหงวนฝ่ายบุ๋น อวิ๋นเซียวนั้นมีน้องชายเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ อวิ๋นเฟยกับหย่งคังก็มีลูกชายหญิงให้บิดามารดาได้เลี้ยงหลานไม่เหงา ทำเอาลุงใหญ่อย่างเหลียนอี้ปิงอิจฉาตาร้อนไปหมดเจ้าแฝดต้าเป่ากับเสี่ยวเป่า หลังจากมารดาคลอดน้อง ๆ แล้วทั้งสองคนจะเข้าไปศึกษาที่เมืองหลวงตามที่รับปากกับท่านลุงเฟยหลงเอาไว้ เว่ยจื้อโหยวมีความสุขที่ได้อยู่กับลู

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 112 คนดีพี่มาง้อ

    เหลียนอี้หลุนตอนนี้กำลังชั่งใจตัวเองอยู่ว่าจะทำตามใจตัวเองหรือจะยอมเดินออกมาอย่างเช่นที่เคยทำ ไม่ใช่ว่าเขาไม่พึงใจในตัวม่านหลิน เพียงแต่เขาคิดว่าตัวเองมีชาติกำเนิดต่ำต้อย บิดามารดาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น เจ้าเมืองเตี้ยนถงเองไม่เคยคิดดูถูกชาติกำเนิดของเหลียนอี้หลุนอย่างที่ตัวอี้หลุนเข้าใจ ที่ฮูหยินท่านเจ้าเมืองกุเรื่องว่าจะให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายของสหายของนางนั้นเพื่อกระตุ้นให้อี้หลุนรู้ใจตัวเองเพียงเท่านั้น เหลียนอี้หลุนทำหน้าที่คุ้มกันขบวนสินค้ามานานแล้วและนางเองก็รู้ดีว่าเขาพึงใจในตัวบุตรสาวคนเล็กของนาง ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้แสดงออกโจ่งแจ้ง แต่คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานเช่นนางกับสามีนั้นมีหรือจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มคิดเช่นไรกับบุตรสาวของตัวเอง ม่านหลินนั้นตกหลุมรักเหลียนอี้หลุนตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเขาเมื่อ 2 ปีก่อน ถึงในสายตาคนอื่นนางเป็นคุณหนูจวนขุนนางที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร นอกจากวิ่งออกไปเที่ยวตรงนั้นทีตรงนี้ที แต่ความจริงแล้วฝีมือการทำอาหาร งานเย็บปักและการต่อสู้ไม่ได้ด้อยเลย ม่านหลินเองก็เริ่มถอดใจแล้วเช่นเดียวกัน นางคิดว่าความพยายามของตัวเองไม่เป็นผลสำเร็จ ขนาดที่นาง

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 111 ยอดลูกสะใภ้

    หมู่บ้านหนานซานตอนนี้ข่าวการกลับมาของสามสหายปากร้ายแห่งหมู่บ้านหนานซานที่กลับมาจากเมืองหลวงพร้อมทั้งนำภรรยากลับมาด้วยเป็นที่เลื่องลือไปสี่หมู่บ้านยี่สิบลี้เลยก็ว่าได้ชาวบ้านหลายคนต่างไม่อยากจะเชื่อว่าบุรุษปากคมเช่นสามคนนั้นจะสามารถแต่งภรรยาจากเมืองหลวงกลับมาได้ อีกทั้งเหล่าภรรยายังเป็นคุณหนูของตระกูลใหญ่ที่มาพร้อมกับสินเดิมมากมายและเช้าวันนี้หลังจากที่ส่งสามีออกไปทำงานแล้วเหล่าสะใภ้ทั้งสามก็นัดแนะกันเข้าป่าล่าสัตว์หาของป่าดังเช่นชาวบ้านทั่วไป ทั้งสามคนคิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกแล้วที่แต่งงานมาอยู่หมู่บ้านหนานซานแห่งนี้“ท่านแม่ ท่านพ่อ พี่สะใภ้ข้าไปก่อนนะเจ้าคะ ป่านี้เสวี่ยเหลียนกับซินเหมยคงมารอแล้ว” ม่อจื่อ“จื่อเอ๋อร์ระวังตัวด้วยนะ อย่าเข้าป่าลึกมากนัก บ้านเราไม่ได้ขาดแคลนสิ่งใดอย่าทำอะไรให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย เข้าใจหรือไม่” แม่สามีบอกลูกสะใภ้ชาวเมืองอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะท่านแม่ ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี”ผิงม่อจื่อหลังจากบอกลาแม่สามีแล้วก็มุ่งหน้ามาที่จุดนัดหมายที่มีสหายสองคนรออยู่ที่ทางขึ้นเขาท้ายหมู่บ้าน เส้นทางนี้ชาวบ้านในหมู่บ้า

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 110 ของฝากจากเมืองหลวง

    หลังจากผ่านพ้นการแต่งงานแบบที่แปลกประหลาดไปแล้ว สี่หนุ่มแห่งหมู่บ้านต้าลี่ต่างได้ภรรยากลับไปฝากคนที่บ้านด้วยนอกเหนือจากของฝากที่พวกเขาซื้อเอาไว้มากมายเพราะทั้งสี่คนแต่งงานแล้วและภรรยายังตามสามีกลับไปด้วย ขากลับทำให้มีขบวนรถม้าเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เว่ยจื้อโหยวเองถึงแม้จะดีใจที่เจ้าพวกลิงทโมนทั้งสี่ในที่สุดก็รู้จักแต่งภรรยามีครอบครัวเสียทีจะได้ไม่ต้องรวมหัวกันไปทำเรื่องอะไรพิเรน ๆ อีก แต่ดูท่าทีภรรยาของแต่ละคนแล้ว เว่ยจื้อโหยวคิดว่าคงมีเรื่องปวดหัวตามมาอีกไม่น้อย “เดินทางปลอดภัยนะ อาเซียวน้องสะใภ้” เฟยหลง“ขอบคุณขอรับพี่รอง ท่านกลับไปดูแลพี่สะใภ้กับหลานชายเถอะไม่ต้องเป็นห่วง” อวิ๋นเซียว“เจ้าแฝดไม่อยู่กับลุงที่เมืองหลวงหรือ” เฟยหลงถามหลานชาย“ไม่ขอรับ ข้าจะไปช่วยท่านพ่อทำงาน เอาไว้ถึงเวลาเข้าสำนักศึกษาแล้วค่อยมาอยู่กับท่านลุงที่เมืองหลวงขอรับ แต่ต้องรอให้ท่านแม่มีน้องก่อนนะขอรับ เพราะหากพวกเราสองคนมาอยู่ที่เมืองหลวงข้ากลัวท่านแม่จะเหงา” ต้าเป่า“ได้ เช่นนั้นลุงรองจะสร้างเรือนเอาไว้ให้พวกเจ้าสองคนนะ เอาติดกับเรือนของน้องชายเลยดีหรือไม่”“ดีขอรับ ท่านลุงรักษาตัวด้วยนะขอรับ เอาไว้ต้าเ

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 109 เอาคืนให้ชุยต้า(2)

    เวลาผ่านไปอีกสองวันก็มีข่าวออกมาว่าชุยต้าหวังพร้อมนางจินซื่อถูกจับข้อหาร่วมมือกันทำให้อดีตภรรยาเอกถึงแก่ความตาย และยึดเอาสินเดิมภรรยาพร้อมทั้งใส่ความบุตรที่เกิดกับภรรยาเอกให้มีความผิดและส่งขายไปเป็นทาสหลวงหลังจากเจ้าหน้าที่ทางการสอบสวนแล้วนางจินซื่อสารภาพว่าเป็นคนวางยาอดีตภรรยาเอกเพื่อต้องการขึ้นมาเป็นภรรยาเอกแทน ส่วนชุยต้าหวังมีความผิดฐานยึดเอาสินเดิมภรรยาและขายลูกชายทั้งสี่ไปเป็นทาส ด้วยเหตุนี้นางจินซื่อมีโทษประหารข้อหาฆ่าคนตาย ชุยต้าหวังมีโทษจำคุก 30 ปี ส่วนลูกชายอย่างชุยตงหลางนั้นไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่บิดามารดาได้กระทำลงไปจึงไม่มีความผิด ลูกสาวอย่างชุยรุ่ยเอ๋อร์นั้นมีส่วนรู้เห็นและร่วมมือกับมารดาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมีโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกันทางการได้คืนสินเดิมของมารดาชุยต้าทั้งหมดให้กับพวกเขาสี่พี่น้อง ชุยต้าเองย่อมรู้ว่าเป็นฝีมือของฮูหยิน แต่พวกเขาไม่ยินดีที่จะอยู่เมืองหลวงอีกต่อไป เพราะต่างก็ตั้งใจลงหลักปักฐานที่หมู่บ้านต้าลี่แล้ว ชุยต้ากลับไปคงต้องคุยกับพี่น้องของตัวเองเรื่องสินเดิมมารดาที่เหลือไม่มากแล้วเพราะตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ชุยต้าหวังและนางจินซื่

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 108 เอาคืนให้ชุยต้า (1)

    หย่งซีและชุยต้ากลับมาถึงจวนแม่ทัพพร้อมกับที่เว่ยจื้อโหยวกลับมาจากวังหลวงเช่นเดียวกัน หย่งซีใบหน้าบูดบึ้งเดินกระแทกเท้าตึง ๆ เข้าไปหาพี่สาวเพื่อบอกกับนางว่าเขาและชุยต้าถูกคนรังแกอย่างไรบ้าง“เป็นอะไรเสี่ยวซีทำไมหน้าตาบูดบึ้งเช่นนั้น ใครทำอะไรให้โมโหมาหรือ” เว่ยจื้อโหยวถามน้องชาย“ก็วันนี้ข้าไปเดินเที่ยวตลาดในเมืองมาแล้วไปเจอยายป้าปากแดงอยู่ ๆ ก็เข้ามาด่าว่าพี่ชายชุยต้ากับข้า แถมยังบอกว่าพี่ชายชุยต้าเป็นอดีตพี่ชายของนาง เท่านั้นยังไม่พอนางยังด่าว่าเป็นทาสด้วย เป็นทาสอะไรกันไม่ได้เป็นทาสเสียหน่อย”“ใครกันน่ะ เหตุใดถึงได้กล้าด่าคนอื่นกลางตลาดขนาดนั้น ไม่กลัวคนอื่นจะมองไม่ดีแล้วไม่มีใครมาสู่ขอหรือ แถมเป็นสตรีด้วย”“ข้าไม่รู้หรอกพี่ใหญ่ รู้แค่ว่านางไม่สวย ทาหน้าขาวโพลนแถมยังปากแดงอีกด้วย ใครจะไปสนใจกันว่านางเป็นใคร ไม่ได้รู้จักแต่เข้ามาด่า นางบอกว่าพี่ชุยต้าเป็นอดีตพี่ชาย”“สรุปที่เจ้าโมโหขนาดนี้ แม่นางผู้นั้นด่าเจ้าหรือด่าชุยต้า” “ด่าข้าด้วย ด่าพี่ชายชุยต้าด้วย นางด่าข้าว่าไอ้เด็กเหลือขอ พ่อแม่ไม่สั่งสอน” หย่งซีหน้างอตอบพี่สาว“ตกลง ตกลง ข้าเข้าใจแล้ว เดี๋ยวจะไปถามชุยต้าเดี๋ยวพี่สาวจะจัดก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status