Home / รักโบราณ / ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ / ตอนที่ 4 ยามตายมิเคียงคู่ยามอยู่มิเคียงข้าง  

Share

ตอนที่ 4 ยามตายมิเคียงคู่ยามอยู่มิเคียงข้าง  

last update Last Updated: 2024-12-15 20:40:55

ตอนที่ 4

ยามตายมิเคียงคู่ยามอยู่มิเคียงข้าง

เป็นเวลากว่าสามวันมาแล้วที่เธอฟื้นขึ้นมาให้มิติที่คล้ายกับจีนโบราณ วันแรกเธอจำตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร แต่เมื่อได้นอนพักเต็มอิ่มจนร่างกายฟื้นฟูขึ้นได้มากแล้ว ความทรงจำของเธอในมิติเดิมที่เธออยู่ยามที่เธอคือ หลันซู่ถงก็คืนกลับมา

รวมไปถึงความทรงจำของตัวเธอในมิตินี้ด้วยซึ่งก็คือหลิวซู่ซู่ซึ่งเธอที่เป็นเจ้าของร่างในชาตินี้ได้ตายลงไปแล้วโดยไม่มีใครรู้ คงเพราะเกิดความผิดพลาดอะไรสักอย่างจึงทำให้เธอ มาเขาร่างของตัวเองในอีกมิติหนึ่งแทนที่จะกลับไปยังร่างที่มิติเดิมของตัวเอง

ครั้งแรกเธอคิดว่าตัวเองอาจจะย้อนเวลากลับมาในอดีตเหมือนในซีรี่ส์ที่เธอเคยดูอยู่บ้าง แต่มันกับไม่ใช่อย่างที่เธอคิด

เมื่อเธอลองเรียบๆเคียงๆถามสาวใช้ของเธอในร่างของหลิวซู่ซู่ผู้นี้ดูแล้วกับกลายเป็นว่าแคว้นที่เธอมาอยู่ ณ เวลานี้เป็นแคว้นที่ไม่ได้มีอยู่ในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับประเทศที่เธอเคยเรียนมาแม้แต่น้อย

อีกอย่างหนึ่งเลยก็คือใบหน้ารูปร่างต่างๆของหลิวซู่ซู่ในมิตินี้เหมือนกับเธอทุกอย่าง ที่จะต่างกันคงเป็นนิสัยและความเป็นอยู่ต่างๆเสียเท่านั้น

ในความทรงจำต่างๆในร่างของหลิวซู่ซู่ซึ่งก็คือเธอในมิตินี้ เป็นลูกสาวคนรองที่มาจากสกุลที่ดีพร้อม บิดามารดาก็รักใคร่ดูแลอย่างดี นิสัยอ่อนหวานนุ่มนวลตามแบบฉบับกุลสตรีในห้องหอทุกประการ รวมๆแล้วชีวิตของเธอในมิตินี้ก็นับว่าดีมากเลยทีเดียว

ถ้าไม่ติดว่าเธอในมิตินี้ดันแต่งงานกับบุรุษที่ไม่ใส่ใจใยดีสตรี เรียกง่ายๆก็คือไม่สนใจสตรีใดๆทั้งสิ้น

ทำให้เธอในมิตินี้ตรอมใจในชีวิตคู่ของตัวเองต้องมาอยู่กับผู้อื่นในบ้านของผู้อื่น ไร้ซึ่งคนใส่ใจดูแล เกินกว่าที่สตรีอ่อนแอเช่นเธอในมิตินี้จะรับไหวจึงได้ตรอมใจจนล้มป่วยและตายไปอย่างโดดเดี่ยวอย่างน่าสมเพชเวทนาเป็นที่สุด

หลายวันที่ผ่านมานี้เธอใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการปรับตัวเข้ากับมิติใหม่นี้

เธอคอยจำการเรียกแทนตัวต่างๆรวมไปถึงคำพูดและท่าทางบางอย่างจากเหล่าสาวใช้ที่คอยอยู่ดูแลเธอ หานอี้ซึ่งในความทรงจำของหลิวซู่ซู่นั้นเป็นสาวใช้คนที่เธอไว้ใจเป็นอย่างมาก เธอจึงเริ่มที่จะเรียกหาสาวใช้ผู้นี้ให้บ่อยครั้งขึ้น และบางครั้งก็ให้เธอพูดคุยด้วยกันกับเธอมากๆให้อยู่เป็นเพื่อนเธอในยามค่ำคืน

“ฮูหยินน้อยเจ้าคะ” หานอี้เอ่ยเรียกนางหญิงของตนเอง ก่อนจะวางกาน้ำชาที่พึ่งไปอุ่นมาจากโรงครัวลงบนโต๊ะเบาๆ

“ว่าไง…มิใช่สิมีอันใดรึหานอี้” ซู่ถงในร่างของซู่ซู่รีบพูดกลบเกลื่อน 

เธอแอบถอนหายใจเบาๆ ในใจก็คิดไปว่าคนมิตินี้จะลุกจะนั่งจะพูดจะจาทำอะไรแต่ละอย่างล้วนแล้วแต่ค่อยๆทำอย่างไม่เร่งรีบอะไรนุ่มนวลเกินไปจนหลายครั้งนางก็รู้สึกขัดใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะในมิติของนางเคยชินกับการทำอะไรรวดเร็วทันใจ          

ตราบใดที่เธอยังหาทางกลับไปยังมิติเดิมของตัวเองไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือการปรับตัวเข้ากับมิตินี้ให้ได้ล่ะนะ

“ฮูหยินน้อยท่านนั่งรับลมที่ศาลามาพักใหญ่แล้ว ข้าเกรงว่าท่านพึ่งหายป่วย หากโดนลมมากไปจะลมป่วยไปอีกได้นะเจ้าคะ”

หานอี้เอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง นางแม้จะยังไม่ค่อยชินกับคำพูดแปลกๆที่ฮูหยินน้อยของนางมักจะหยุดปากออกมาบ่อยๆในช่วงหลายวันมานี้ หากแต่คุณหนูของนางกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง และก็ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวากว่าแต่ก่อนนางก็พอใจมากแล้ว

             “เช่นนั้นเจ้าก็พาข้ากลับเข้าเรือนพักเถิด”

             เพียงแค่จะให้เธอกลับเข้าที่พักยังต้องเอ่ยอ้อมไปอ้อมมาอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่สู้พูดออกมาว่าให้เข้าเรือนได้แล้วก็พอแล้วหานอี้ ข้าล่ะเหนื่อยแทนเจ้าจริงๆที่ต้องมาค่อยเอ่ยอะไรๆยาวๆเช่นนั้นอยู่ทุกวัน

             เธอได้แต่คิดในใจก่อนจะปล่อยให้หานอี้เข้ามาพยุงนางกลับที่พักแต่โดยดี ทั้งที่เธอหายป่วยดีเป็นปลิดทิ้งแล้วทุกอย่างแต่กับไม่สามารถทำอะไรเองได้เลย ทุกอย่างล้วนแต่มีคนคอยทำให้ทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่การอาบน้ำ

             ครั้งแรกที่นางได้อาบน้ำในมิตินี้น่าตกใจจนลมแทบจับเมื่อในห้องอาบน้ำดันมีสาวใช้อยู่ถึงสามคนด้วยกัน นางพยายามไล่สาวใช้เหล่านั้นออกไปเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล จึงจำยอมต้องให้หานอี้เป็นคนเดียวที่ช่วยนางอาบน้ำแต่งตัวแทน

             อย่างน้อยๆนางก็อายน้อยลงไปมากอยู่ ถือว่านางยังพอรับมือไหว

            

             ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วสิ่งที่นางทำในทุกวันก็คือกินแล้วก็นอน ทุกอย่างเวียนวนอยู่อย่างนี้ พอได้เวลาก็จะมีเหล่าสาวใช้เขามาจัดเตรียมสำรับอาหารรสเลิศอย่างดีทุกมื้อให้กับนาง ยามรับของว่างก็จะมีของว่างแปลกๆมาให้เธอโดยไม่ซ้ำกันเลยสักวันจนนางอดสงสัยมิได้ จึงได้ถามหานอี้ดู

             “หานอี้ขนมพวกนี้เจ้าไปนำมาจากที่ใดกัน”

             “ขนมเหล่านี้เป็นฮูหยินใหญ่ให้คนจัดส่งมายังเรือนทุกวันเจ้าค่ะ”

             ฮูหยินใหญ่ที่ว่าคงเป็นแม่สามีของนางในมิตินี้สินะ เท่าที่ความทรงจำของหลันซู่ซู่มีต่อแม่สามีของนางก็ดูเหมือนจะเป็นแม่สามีที่ดีต่อลูกสะใภ้อยู่เช่นกัน ก็ถือว่านางโชคดีไปอีกเรื่องแล้วที่มีแม่สามีดี

             คิดไปถึงแม่สามีก็ไม่อาจไม่คิดไปถึงผู้เป็นสามีของนางในมิตินี้ไปได้ ในความทรงจำของหลันซู่ซู่ที่มีต่อผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีแทบจะไม่มีอะไรเลย

             ในความทรงจำของหลันซู่ซู่ในคืนแต่งงาน

มีบุรุษผู้หนึ่งก้าวเข้ามาในห้องหอ บุรุษผู้นั้นเขาเข้ามาเพียงเอ่ยประโยคเดียวและออกไปจากห้องหอทันที แม้แต่ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวก็ไม่เสียเวลาเปิดออกเสียด้วยซ้ำ

“ยามตายมิเคียงคู่ยามอยู่มิเคียงข้าง”

บุรุษผู้นั้นนับจากวันเข้าหอก็ไม่เคยมาที่เรือนธารากระจ่างอีกเลย หลิวซู่ซู่ในมิตินี้นับตั้งแต่แต่งงานมาจนกระทั่งตายจากไปนางไม่เคยเห็นหน้าตาของสามีด้วยซ้ำไป นับว่าเป็นเช่นคำของบุรุษผู้นั้นที่เอ่ยในคืนเข้าหอมิมีผิดเพี้ยน

ยามตายมิเคียงคู่ยามอยู่มิเคียงข้าง

 “ฮูหยินน้อยเจ้าคะ ฮูหยินน้อย” หานอี้เอ่ยเรียกนายหญิงของตนเมื่อเห็นว่าอยู่ๆนายหญิงของนางก็นั่งเงียบไป

“มีสิ่งใดรึหานอี้”

นางเอ่ยถามขึ้น เมื่อเสียงเรียกของหานอี้ทำให้นางตื่นจากภวังค์ความคิดของตนเองที่กำลังนึกไปถึงความทรงจำในคือเขาหออันสุดเศร้าของหลิวซู่ซู่

 “เรียกฮูหยินน้อย ยามที่สาวใช้ของฮูหยินใหญ่นำของว่างของวันนี้มาให้ท่าน ฮูหยินใหญ่ได้ฝากคำพูดมาให้ท่านด้วยเจ้าค่ะ”

 “เช่นนั้นรึ ท่านแม่ฝากคำพูดใดมาถึงข้ากัน เจ้ารีบบอกมาเถิด”

 “ฮูหยินใหญ่ฝากมาบอกว่าพรุ่งนี้เช้าให้ฮูหยินน้อยไปร่วมทานอาหารเช้าที่เรือนของฮูหยินใหญ่เจ้าค่ะ”

 “ที่แท้ท่านแม่ก็อยากให้ข้าไปกินข้าวด้วย เดี๋ยวเจ้าให้คนไปแจ้งท่านแม่ทีบอกว่าพรุ่งนี้เช้าข้าจะไปแน่”

“เจ้าค่ะบ่าวจะให้คนไปแจ้งเดี๋ยวนี้” หานอี้รับคำเจ้านายตน ก่อนจะเดินออกไปยังหน้าศาลา ที่ไม่ไกลจากศาลานักมีสาวใช้หลายคนคอยยืนรอรับใช้ฮูหยินน้อยของนางอยู่ไม่ไกล

ทางด้านของหลันซู่ถงในร่างของหลิวซู่ซู่นั้น นางกำลังนั่งคิดไปถึงแม่สามีของนางผู้ที่พรุ่งนี้นางจะเข้าไปทานอาหารเช้าด้วย

ความจำของเจ้าของร่างที่นางเข้ามาอยู่ยามนี้พอจะมีเรื่องราวของแม่สามีผู้นี้อยู่บาง อีกทั้งแม่สามีผู้นี้หลายวันก่อนที่นางนอนป่วยไข้ก็ยังแวะเวียนมาเยี่ยมนางอยู่หลายครั้ง อีกทั้งของว่างของนางรวมไปถึงยาบำรุงต่างๆล้วนแล้วแต่เป็นท่านแม่สามีผู้นี้เป็นผู้จัดหามาให้ทั้งนั้น

นับได้ว่าท่านแม่สามีผู้นี้เอ็นดูนางมิใช่น้อยเลยทีเดียว หรือไม่ก็รู้สึกสงสารนางที่บุตรชายของตนหรือก็คือสามีของนางในมิตินี่ไม่สนใจใยดีนางเลย

อ่า หรือว่าท่านแม่สามีจะรู้สึกผิดต่อนางกัน

ใช่แล้วรู้สึกว่าในความทรงจำของหลิวซู่ซู่ดูเหมือนการที่นางแต่งเข้ามาในสกุลฉู่ได้นั้นท่านแม่สามีเป็นผู้ที่ลงแรงไปไม่น้อยเลยทีเดียว

เอาเถิดอย่างน้อยๆถ้าเธออยากจะอยู่ที่มิตินี้แบบสบายๆก็มีแต่จะต้องหามิตรเอาไว้เสียหน่อยแล้ว แล้วก็ทำตัวให้กลมกลืนสุดๆกับคนที่นี่ล่ะนะ

เช้าวันรุ่งขึ้นวันนี้นางตื่นมาแต่งตัวแต่เช้าเรียกได้ว่าเตรียมตัวเต็มที่สำหรับการไปกินข้าวเช้ากับท่านแม่สามีเลยทีเดียว

โดยมีหานอี้เป็นผู้ช่วยทุกอย่างตั้งแต่อาบน้ำจนกระทั่งเลือกอาภรณ์รวมไปถึงการจัดแต่งทรงผมและใส่เครื่องประดับต่างๆ

วันนี้นางเลือกที่จะใส่ชุดชมพูอ่อนขลิบขาว ที่ชายแขนเสื้อและตัวชุดปักลายดอกไม้  ส่วนทรงผมนางก็ให้หานอี้รวบผมด้านหน้าขึ้นไปบางส่วนให้เหลือปล่อยสบายบ้าง เครื่องประดับนางเลือกเป็นชุดเครื่องประดับเงินเพียงสามชิ้นเท่านั้น ชิ้นแรกเป็นสร้อยประดับผมรูปใบไม้ที่จะห้อยลงมาที่หน้าผากเล็กน้อยเวลาที่ประดับแล้ว และชิ้นที่สองเป็นปิ่นรูปใบไม้เช่นเดียวกันแต่จะเป็นดอกไม้เล็กๆจำนวนมากอยู่ที่ปิ่นด้ามเดียวและที่ปิ่นก็จะมีสายห้อยรูปดอกไม้ลงมาด้วยเช่นกัน ส่วนชิ้นที่สามเป็นตุ้มหูที่เป็นตุ้มหูแบบห้อยที่มีลวดลายและรูปแบบเหมือนกับสร้อยประดับผม

หลันซู่ถงนางคิดจะใช้ประโยชน์จากร่างกายของหลิวซู่ซู่ที่ดูอ่อนแอเปราะบาง รวมไปถึงอาการป่วยที่พึ่งหายดีดึงความสงสารของท่านแม่สามีของนางให้มากขึ้นอีกจึงจงใจแต่งกายให้ดูงดงามอ่อนหวานและดูอ่อนแอ ใบหน้าของนางก็ถูกแต่งแต้มให้พอมีสีสันไม่ให้ดูโดดเด่นมากเกินไปนัก

 “ฮูหยินน้อยเจ้าคะ จวนจะได้เวลาแล้วเจ้าค่ะ” หานอี้ที่ยืนมองนางหญิงของตนส่องกระจกอยู่ใกล้ๆเอ่ยเตือน

 “เช่นนั้นพวกเราก็ไปกันเถิด”

นางเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงจากการช่วยประคองของหานอี้สาวใช้คนสนิทของนาง

“คุณชายขอรับ เมื่อครู่ฮูหยินใหญ่ส่งคนมาเชิญให้คุณชายไปทานอาหารที่เรือนใหญ่ของรับ” ฟ่งอี้เอ่ยบอกคุณชายของตนเองซึ่งยามนี้ กำลังยืนให้ฟ่งสือช่วยสวมอาภรณ์อยู่ที่ด้านหลังฉากกั้น

“ส่งคนไปบอกท่านแม่ว่าข้าต้องรีบออกไปดูร้านค้าคงไปกินด้วยมิได้” ฉางซานเอ่ยขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่บ่าวคนสนิทของเขาเอ่ย

“ขอรับคุณชาย บ่าวจะส่งคนไปเดี๋ยวนี้” ฟ่งอี้รับคำก่อนจะออกจากห้องไปทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายทันที

“ฟ่งสือ” เขาเอ่ยเสียงเรียบเรียกคนสนิทของตนเองที่ยามนี้กำลังช่วยเขาสวมเสื้อคลุมตัวนอกอยู่

“ขอรับคุณชาย” ฟ่งสือเอ่ยรับคำก่อนจะเดินตามคุณชายของตนออกไปยังโต๊ะกลางห้องที่ยามนี้มีคุณชายของเขานั่งอยู่

เขารินน้ำชาใส่ถ้วยอย่างรู้หน้าที่และวางลงตรงเบื้องหน้าของคุณชายของตน

“พักนี้เรือนธารากระจ่างมีความเคลื่อนไหวอันใดรึไม่”

“สาวใช้ที่ข้าน้อยให้เข้าไปคอยสืบความที่เรือนธารากระจ่างรายงานมาว่าช่วงนี้นอกจากอาการของฮูหยินน้อยที่ดีขึ้นแล้วก็รายงานมาอีกว่าฮูหยินบางครั้งก็มีท่าทางแปลกๆไปขอรับ”

“ท่าทางแปลกไปงั้นรึ แปลกเช่นใด”

“เห็นว่าฮูหยินน้อยจะตื่นแต่เช้าทุกวันมาเต้นท่าทางแปลกๆขอรับ อีกทั้งพักนี้ฮูหยินน้อยนางกินเยอะขึ้นมากเลยทีเดียว อาหารทุกมื้อที่ส่งไปที่เรือนล้วนไม่มีเหลือเหมือนแต่ก่อน”

“นางพึ่งหายป่วยย่อมต้องรีบกินบำรุงร่างกาย ช่วงนี้ก็ให้ที่โรงครัวทำอาหารดีๆส่งไปยังเรือนนางให้เยอะหน่อยก็แล้วกัน ส่วนเรื่องยาบำรุงก็ส่งให้อย่าให้ขาด”

“ขอรับคุณชาย”

ฉางซานเอ่ยสั่งคนสนิทพร้อมกับนั่งจิบชาในมือของตนเองไปด้วย เขาสั่งไปแบบนั้นเพื่อเป็นการตัดรำคาญไปในตัว อย่างน้อยก็ทำให้ในวันหน้าท่านแม่ของเขาจะหาเรื่องอะไรมาต่อว่าเขาอีกมิได้แล้ว

ชีวิตนี้เขามิเคยคิดที่จะแต่งกับสตรีนางใดทั้งนั้น ครั้งนี้เพราะโดนท่านแม่ของเขาทั้งร้องไห้คร่ำครวญสามวันสามคืนจนชีวิตเขาหาความสงบสุขไม่ได้ จึงได้ตัดรำคาญไปด้วยการย่อมเข้าพิธีแต่งงานกับสตรีผู้หนึ่ง ซึ่งเขาให้คนไปสืบมาแล้วเป็นเพียงสตรีหัวอ่อนธรรมดาผู้หนึ่ง

เขาจึงได้แต่งนางเข้าจวนมา และแน่นอนถึงจะผ่านพิธีแต่งงานมาแล้ว ทุกคนทั้งภายนอกและภายในรับรู้ว่านางคือภรรยาของเขา แต่เขาเลือกที่จะไม่จดจำว่าได้แต่งนางมาเป็นภรรยา คิดที่จะให้นางอยู่ในที่ของนางและเขาอยู่ในที่ของเขา ชั่วชีวิตมิมีสิ่งใดผูกกันเอาไว้

เพราะเช่นนั้นในคืนเข้าหอ เข้าถึงเอ่ยว่า ยามตายมิเคียงคู่ยามอยู่มิเคียงข้าง และเดินออกไปทันที โดยไม่แม้แต่จะเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวตามประเพณี

ที่เขากระทำแบบนั้นไปเพราะมิต้องการให้นางมายุ่งกับเขา ต้องการให้นางเกลียดเขาให้มากยิ่งดี มากจนเข้ากระดูดดำ จนมิต้องการพบหน้ากันอีก เพื่อที่ชีวิตของเขาจะได้กลับมาเป็นปกติเช่นดังเดิม เหมือนก่อนที่แต่งงานและหวังให้เป็นแบบนั้นตลอดไป...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน ว่าด้วยเรื่องสถานะใหม่3

    ตอนพิเศษว่าด้วยเรื่องสถานะใหม่ หลังจากที่เธอต้องใส่เผือกและถูกควบคุมอย่างเข้มงวดจากแฟนหนุ่มอยู่เกือบสามเดือนในที่สุดเธอก็ได้ถอดเผือกและ กลับมาใช้ข้อมือได้อย่างอิสระอีกครั้งแน่นอนว่าเธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเพราะสามารถกลับมาจัดดอกไม้ที่เธอรักได้อย่างถนัดอีกครั้ง อีกอย่างคือไม่ต้องถูกฉางเหอตามคุมเข้มอีกต่อไปแล้ว แม้เธอจะรู้ดีว่าเขาเป็นกังวลมากเกินไปเพราะกลัวเธอทำตัวซุ่มซ่ามจนเจ็บตัวกว่าเดิมก็ตามแต่การที่ถูกแฟนซึ่งพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอและซีอีโอรูปหล่อคอยตามดูแลอยู่ไม่ได้ห่างช่างเป็นอะไรที่หลบการตกเป็นเป้าสายตาต่อผู้คนไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดีใจที่เขามาค่อยดูแล แต่ความดีใจกับมาพร้อมกับการที่มักจะทำตัวไม่ถูกของเธอ หลายครั้งที่เธอนึกอิจฉาความเฉยชาต่อสายตาเหล่านั้นของแฟนหนุ่มไม่ได้มีครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขาว่า เขาไม่รู้สึกรำคาญหรืออะไรบ้างหรือเวลาที่ต้องตกเป็นเป้าสนใจเช่นนี้ เขาตอบกลับมาแค่ว่า “ผมไม่จำเป็นต้องแค่ใครนอกจากคุณ” เพียงแค่ประโยคเดียวจากเขาฉันกลับเขาใจทุกอย่างได้เป็นอย่างดีตั้งแต่เธอใส่เผือกก็ถูกมัดมือชกแกล้มบังคับให้ย้ายเข้าไปอยู่บ้านเขา ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าคฤหาสน์ถึงจะถูก ที

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน เธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม 2

    “มาครับผมช่วยคุณเปลี่ยนเสื้อเอง” เขาเอ่ยขึ้นกับเธอด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ ตอนนี้เขาค่อนข้างจะปรับอารมณ์ของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติบ้างได้แล้วนิดหน่อยเมื่อเขาพูดขึ้นด้วยท่าทีผ่อนคลายขึ้นหลันซู่ถงจึงยิ้มออกมาให้เขาอย่างเอาใจ ก่อนจะปล่อยให้ร่างสูงช่วยนางเปลี่ยนชุดไปเป็นชุดคนไข้ชุดคนไข้ที่พยาบาลส่งให้เขาเมื่อครู่ยามนี้เขานำมาวางเอาไว้บนตักของเธอตัวเธอนั้นถูกเขาประคองให้ขึ้นมานั่งอยู่ที่ริมเตียงคนไข้ เนื่องจากเธอสูงไม่มากจึงขาลอยเมื่อนั่งหย่อนขาที่ริมเตียงคนไข้เช่นนี้ ในหัวอดคิดไปถึงคนไข้คนอื่นๆไม่ได้ว่าพวกเขาก็ขาไม่ถึงพื้นเช่นเธอเหมือนกันหรือไม่เวลาที่นั่งอยู่ริมเตียงคนไข้แบบนี้ตอนที่รอให้คุณหมอตามมาตรวจ “ข้อมือขวาคุณน่าจะหักผมว่าคุณอย่าขยับมันจะดีกว่าครับ” เสียงเข้มเอ่ยดุเธอทันที เมื่อเธอเผลอเกือบจะยกมือขึ้นมาหลังจากที่เขาเอื้อมมือมาหมายจะช่วยเธอปลดกระดุมชุดเดรสยีนส์ที่มีกระดุมเป็นแทบตั้งแต่ช่วงอกจนกระทั่งถึงช่วงเข่าของเธอ “เอ่อ ฉางเหอคะ ฉันว่าคุณให้พยาบาลเขามาช่วยฉันเปลี่ยนชุดน่าจะสะดวกกว่านะคะ” เธอเอ่ยขึ้นเสียงเบา แน่นนอนว่าเมื่อกล่าวออกไปร่างสูงเบื้องหน้าเธอก็ขมวดค

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ภาคพิเศษปัจจุบัน เธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม 1

    ตอนพิเศษเธอเปรียบเสมือนความสุขทั้งหมดของผม หน้าฝนเช่นนี้แน่นอนว่าคงจะไม่แปลกเท่าไหร่นักหากคนส่วนให้ในเมืองจะเป็นหวัดกันไปหมด บางคนก็เป็นหวัดเพราะร่างกายปรับตัวกับสภาพอากาศที่สุดแสนจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างวันนี้ร้อนพรุ่งนี้พายุฝนตกกระหน่ำ อีกวันหนึ่งกับมีลมหนาว บางคนเดินๆอยู่ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวทำเอาหาที่หลบไม่ทัน กว่าจะวิ่งหาที่หลบฝนได้ก็เปียกไปกว่าครึ่งแล้วหลันซู่ถงเองเธอก็เป็นหนึ่งในผู้ป่วยจำนวนมากนี้ด้วย ทั้งที่เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านก็ยังดีๆอยู่แท้ๆแต่พอไปถึงบริษัทเหม่ยหลง ซึ่งเป็นบริษัทเล็กๆที่เธอและเพื่อนอีกคนหนึ่งพึ่งจะร่วมทุนกันตั้งเป็นบริษัทสำหรับการรับตกแต่งสถานที่โดยมีดอกไม้เป็นตัวหลักวันนี้หลังจากที่ประชุมเรื่องเกี่ยวกับงานตกแต่งฉากโฆษณาเสร็จ เธอจึงได้คิดที่จะแวะเข้าไปให้หมอตรวจอาการของเธอก่อนจะตรงเข้าไปหาแฟนหนุ่มซึ่งทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนั้นเช่นเดียวกัน “ขอบคุณที่มาส่งนะหนิงจู” เธอเอ่ยขอบคุณหุ้นส่วนที่ควบตำแหน่งเพื่อนสนิทของเธออีกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ไม่เป็นไรหรอก แกรีบเข้าไปให้หมอตรวจอาการเถอะ แน่ใจนะว่าไม่ต้องให้ฉันเข้าไปเป็นเพื่อน” หนิง

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   รวมตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ เจ้าแม่แรร์ไอเทมจะว่าไปแล้วเธอก็งงอยู่เหมือนกันว่า ฉายาเจ้าแม่แรร์ไอเทมที่เธอได้มา ได้มายังไงจนเดือดร้อนถึงแม่เพื่อนสนิทของเธออย่างเฟ่งเสี่ยวซ่งต้องมาอธิบายไขข้อข้องใจ ให้เธอเสียยกให้“แม่เจ้านี่แกไม่รู้จริงๆ หรือตั้งใจจะถามให้ฉันอิจฉาตาร้อนเล่นห๊ะ”“ถ้ารู้ฉันก็ไม่ถามแกหรอกจริงไหม เลิกกัดฉันด้วยคำพูดแล้วก็รีบบอกมาเร็วเข้า” เธอเอ่ยขึ้นอย่างขำๆ เมื่อเห็นท่าทางไม่ค่อยพอใจของแม่เพื่อนตัวดีของเธอ“แฟนแกเป็นสุดยอดแรร์ไอเทมไง คนที่ได้เป็นแฟนกับเขาได้นั้นแปลว่าต้องเป็นนักชกมือฉกาจ และในเมื่อแกเก่งกล้าถึงขนาดนั้น เหล่าแฟนคลับเขาเลยเรียกแกว่า เจ้าแม่แรร์ไอเทม ไงเก็ทเนอะ”“เก็ทก็ได้ค่ะคุณเพื่อน”“ว่าแต่แกเถอะจะย้ายร้านเมื่อไหร่”“ก็คงจะสิ้นเดือนนี้พอดีนั้นแหละ ร้านใหม่ในพื้นที่ของโรงพยาบาลของฉางเหอน่าจะตกแต่งเสร็จพอดี”“ฉันขออนุญาตหมั่นไส้แกแรงๆหน่อยได้ไหม”“แกมาหมั่นไส้ฉันทำไมเนี่ย”เธออดจะขำออกมาเสียงดังไม่ได้ กับท่าทีที่ดูตลกของเฟ่งเสี่ยวซ่ง ที่เดียวๆทำคิ้วขมวด เดียวก็ทำหน้าบิดเบี้ยว“แกรู้ตัวไหมว่าตัวเองเปลี่ยนไปจากเดิมมากแค่ไหน” เฟ่งเสี่ยวซ่งเดินเข้ามาใกล้เพื่อนสนิทก่อนจะจับที่แข

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 20 ความปรารถนาที่แท้จริง (ตอนจบ)

    ตอนที่ 20 ความปรารถนาที่แท้จริง(ตอนจบ)นี่ก็ผ่านมาเกือบจะหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เธอตื่นขึ้นมาที่ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล ด้วยสาเหตุที่ว่าเธอสลบไปเพราะตกใจเสียงฟ้าผ่า ไม่ใช่เพราะถูกฟ้าผ่าใส่แต่อยากใดทุกครั้งที่เธอหลับตา เธอยังคงนึกไปถึงเรื่องในอีกมิติหนึ่งที่เกิดขึ้น เธอกำลังสับสนไม่แน่ใจแล้วว่าเรื่องที่เธอพลัดไปอยู่ในอีกมิติหนึ่งนั้นเป็นความจริง หรือเป็นเพียงเรื่องที่เธอฝันไปเองเท่านั้นยามที่เธอตื่นขึ้นมาครั้งแรก ก็เจอเข้ากับเฟ่งเสี่ยวซ่งเพื่อนสนิทของเธอเท่านั้นที่มาเฝ้าเธออยู่พอดี เฟ่งเสี่ยวซ่งบอกกับเธอเพียงว่าร่างกายของเธอปกติทุกอย่างแต่กับนอนไม่ได้สติมาถึงสองอาทิตย์เต็ม ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาในอีกมิติหนึ่งนั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างกันอยู่พอสมควรเลยทีเดียว เพราะเธออยู่ในมิตินั้นราวๆสามเดือนเห็นจะได้วันนี้เป็นวันที่เธอออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ผู้ที่มารับเธอออกจากโรงพยาบาลก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฟ่งเสี่ยวซ่งเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอนั้นแหละ“ซู่ถงแกเดินไหวแน่นะ ไม่ใช่ว่าเดินๆไปแล้วแกล้มขึ้นมาฉันจับไม่ทันแกจะเจ็บตัวเอานะ”เฟ่งเสี่ยวซ่งเอ่ยถามเพื่อนสาวที่ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาก็เงียบผิดปกติ อีกท

  • ลิขิตรักฮูหยินพลัดมิติ   ตอนที่ 19 จากไปในที่ๆจากมา

    ตอนที่ 19 จากไปในที่ๆจากมาหานอี้มองภาพของฮูหยินน้อยของนางที่กำลังพิงอยู่ที่ตัวของท่านเขยอย่างสงสารจับใจ นางพยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมาให้ท่านเขยเห็นเพราะกลัวจะยิ่งทำให้ท่านเขยใจไม่ดีฮูหยินน้อยเริ่มมีอาการไม่ค่อยดีมาตั้งแต่ช่วงค่ำ หากนางเชิญท่านหมอมาดูฮูหยินน้อยตั้งแต่ตอนนั้นคงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นไม่นานนักฟ่งสือก็เดินเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับท่านหมอตงและผู้ช่วยคนหนึ่ง “เรียนนายท่านฉู่ข้าน้อยได้ตรวจอาการของฮูหยินน้อยดูแล้ว มิมีสิ่งใดผิดปกติเลย มิได้มีโรคอันใดแทรกซ้อน มีเพียงแค่ชีพจรเท่านั้นที่เต้นอ่อนยิ่งนักขอรับ” หมอตงเอ่ยออกมาอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก “เช่นนั้นแล้วนางเป็นอันใดถึงได้กระอักเลือดออกมาเช่นนี้!!!” เขาลูบใบหน้าเล็กที่ยามนี้ซีดเซียวไร้สีเลือด ของคนในอ้อมแขนก่อนที่จะเอ่ยขึ้น “ข้าน้อยก็พึ่งเคยพบอาการเช่นฮูหยินน้อยเป็นเป็นครั้งแรกขอรับ”หมอตงเอ่ยขึ้น เขาเป็นหมอมาหลายสิบปีกับไม่เคยเห็นอาการเช่นนี้ ทุกอย่างรวมไปถึงชีพจรแม้จะเต้นอ่อนยิ่งนักแต่ก็เป็นปกติอยู่ แต่กับมีอาการกระอักเลือดออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ“ฟ่งสือ เจ้าไป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status