Home / แฟนตาซี / ลิขิตสัญญานาคา / ๑๐.๑ สิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์

Share

๑๐.๑ สิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์

last update Huling Na-update: 2025-05-01 18:00:16

ชั้นสองของตัวบ้านพักที่ผู้ใหญ่บ้านเตรียมไว้ให้ด้านบนแบ่งออกเป็นสองห้อง มีห้องใหญ่และห้องเล็กทีมจึงตกลงกันว่าจะแยกห้องฝั่งของผู้ชายและผู้หญิงคนละห้องกันโดยมีโถงใหญ่กั้นกลางระหว่างสองห้องเมื่อตกลงแบ่งห้องกันลงตัวแล้ว ทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน

หลังจากทุกคนอาบน้ำอาบท่าจัดเก็บข้าวของที่นำมาเรียบร้อย ก็เริ่มหันไปจัดที่นอนฟูกเสื่อเตรียมที่จะเข้านอน ระหว่างที่ต่างคนต่างช่วยกันจัดที่นอนเสียงหมาเห่าหมาหอนดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยและลากยาวจนน่ากลัว ทั้งที่ช่วงเย็นไม่มีใครเห็นหมาสักตัวแถวบ้านพักบรรยากาศรอบๆเริ่มเปลี่ยนไปแม้แต่เสียงจักจั่นที่พอจะได้ยินอยู่เนืองๆกลับเงียบลงจนวังเวง มินตราเริ่มเขยิบเข้ามาใกล้ๆผู้เป็นหัวหน้าสายตาสอดส่องมองรอบตัวอย่างระแวงกลัว

“หัวหน้าว่า…มันบรรยากาศแปลกๆไหม?” มินตราเอ่ยขึ้นเสียงอ่อยเข้ามาเกาะแขนของนรินทร์อย่างนึกกลัว สายตาของมินตราสอดส่องไปรอบห้องอย่างระแวง

“มันก็วังเวงจริงๆแหละ…สาธุ ขออย่าให้มีอะไรแปลกๆเกิดกับพวกเราเลย” นรินทร์อดยกมือไหว้ท่วมหัวไม่ได้พลางมองไปรอบๆเหมือนมินตรา แม้ว่ามินตราจะยังเกาะเธอไม่ปล่อยก็ตาม

“มินตรา ไม่มีอะไรหรอก…ปล่อยได้แล้ว จะได้นอนกันสักที” นรินทร์หันไปพูดกับมินตราแล้วส่ายหน้ากับท่าทีของน้องในทีม มินตราได้แต่ยิ้มแห้งๆแต่ก็ยังคงไม่ยอมปล่อยมือที่เกาะกุมหัวหน้าทีมของตน

“ก็มันน่ากลัวนี่พี่…รู้สึกเย็นวาบข้างหลังยังไงไม่รู้” มินตราเอ่ยอย่างเสียไม่ได้ไม่กล้าแม้แต่จะหันหลังกลับไปมองด้านหลังของตน นรินทร์ได้ยินอย่างนั้นก็มองหน้ามินตราเล็กน้อยก่อนจะหันไปทางด้านหลังของมินตราแทน

“ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่” พูดพร้อมส่ายหน้าไปมาเพื่อให้รุ่นน้องคลายกังวล แม้ว่าในใจจะแอบหวั่นอยู่บ้าง 

“พี่นรินทร์!!” ชายหนุ่มทั้งสามคนต่างพากันวิ่งเข้ามาห้องของหญิงสาว จากที่ไม่กลมเกลียวกลับกลมเกลียวกันเสียอย่างนั้น สีหน้าของทั้งสามดูซีดเผือดไปหมด ถึงอย่างนั้นนิลนนท์อาจจะดูปกติที่สุดแต่ก็ยังไม่วายวิ่งมาพร้อมเพื่อนๆอย่างหน้าตาตื่น

“ว๊าย!!!” มินตราร้องขึ้นอย่างตกใจที่อยู่ ๆหนุ่ม ๆก็พรวดพราดเข้ามา ซ้ำเทวินเรียกนรินทร์เสียงดังโผลงผลางจนสาวๆสะดุ้งโหยง

“อะไรเล่า...มาแบบนี้ตกอกตกใจหมด” พูดแล้วขมวดคิ้วมองหนุ่มรุ่นน้องอย่างคาดโทษ

“ผมว่า…เรานอนกองกันที่ห้องโถงกลางบ้านดีกว่ามั้งครับ” เทวินเอ่ย

“ทำไมล่ะ? มีอะไร?” นรินทร์เอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

“ผมเห็นอะไรแปลกๆน่ะพี่” เทวินเอ่ยขึ้นหน้าเสีย

“ฉันก็คิดว่านอนรวมกันดีกว่าอุ่นใจกว่า” นิลนนท์พูดขึ้นอย่างเห็นด้วย เพราะคิดว่ามันน่าจะปลอดภัยที่สุด ตอนหลับไปเขาอาจจะไม่สามารถรับรู้ได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับนรินทร์หรือไม่…แต่มันกำลังจะเกิดขึ้นแน่ๆ

นรินทร์มองหน้าชายหนุ่มทั้งสามคนก่อนจะเหลือบไปมองภากรณ์ที่ยืนหน้าซีดอยู่ด้านหลังไม่พูดอะไรสักคำ สงสัยคงจะไปเจออะไรกันมาจริงๆ…

“ก็…ได้สิ ไปขนผ้าห่ม หมอน ที่นอน เสื่อ กันมาสิ ฉันจะได้ขนออกไปเหมือนกัน” นรินทร์ตอบรับ ก่อนที่ชายหนุ่มทั้งสามคนจะรีบเดินไปเอาที่นอนของตนมาปูกลางบ้าน เหล่าสาวๆเองก็เช่นกันถึงจะไม่พูดแต่สีหน้ากลับดูดีใจเสียอย่างนั้นไม่ได้ระแวงกลัวเหมือนตอนแรกที่คุยกันคงเป็นเพราะรู้สึกอุ่นใจที่มีคนมาสมทบเยอะขึ้น

หลังจากจัดที่นอนหมอนมุ้งเรียบร้อย ทุกคนต่างกรูกันเข้ามานอนชิดติดกัน นิลนนท์เป็นคนที่นอนติดกับนรินทร์ที่นอนตรงกลาง ข้างนรินทร์มีมินตราถัดจากมินตราเป็นเทวิน ส่วนทางด้านนิลนนท์นั้นมีภากรณ์ ที่เป็นแบบนี้เพราะใครมาก่อนได้ที่นอนไม่มีใครกล้าเอ่ยคำพูดใดหรือขัดกันตอนนี้

ทุกคนต่างพยายามข่มตานอนเงียบๆแม้จะยังมีสติดีอยู่แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะขยับ นรินทร์นอนลืมตาขมวดคิ้วพลางรู้สึกอึดอัดปรายสายตาไปมองเพื่อนที่นอนรอบตัว มีเพียงแค่นิลนนท์กับเธอเท่านั้นที่นอนหงาย นอกนั้นนอนคะแตงหน้าเข้าหาเธอและนิลนนท์กันเป็นแถว

นรินทร์ละสายตาจากเพื่อนๆก่อนจะหันไปเห็นแสงไฟสีแดงลอยไปลอยมาจากหน้าต่างห้องของผู้ชาย นรินทร์เบิกตากว้างอย่างเงียบๆ หัวใจเต้นระรัวราวกับกลองชุด คิดเข้าข้างตัวเองว่าอาจจะมองไม่ถนัดเพราะความมืดมันทำให้เราคิดไปเองและมุ้งสีขาวอาจจะพลางสายตามองตะเกียงห้องนั้นที่ยังไม่ดับพลาดไปเองก็ได้ เธอพยายามเพ่งสายตาอีกครั้งก่อนนิ่งค้าง

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔๓.๒ เพื่อนริษยา

    “อุ๊ย!!” เมื่อพนิตาเห็นว่าภากรณ์ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองกับสิ่งที่เธอพูด จึงทำทีเผลอเอามือไปปัดแก้วน้ำจนหกรดเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางของตัวเอง ภากรณ์เห็นอย่างนั้นก็ตกใจรีบหันไปหยิบกระดาษทิชชูยื่นให้ แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นเต้าสวยที่ปิดแค่แผ่นแปะจุก ภากรณ์นิ่งค้างมองอยู่อย่างนั้นก่อนจะรีบสะบัดหน้าเรียกสติของตัวเองพลางยื่นทิชชุให้พนิตา“ขอโทษค่ะ นิตาซุ่มซ่ามเอง”“ครับ...” ภากรณ์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก สายตาไม่รักดีก็พลอยชำเลืองมองเต้าตึงสวยเด่นนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ พนิตาทำท่าเช็ดหน้าอกตัวเองแล้วยกยิ้มขึ้นก่อนจะเลื่อนมือไปปลดกระดุมออกเพื่อเช็ดน้ำที่หกเลอะด้านใน“เปียกหมดเลย…” พนิตาพูดเสียงอ่อยก้มมองตัวเองที่เปียกโชกไปหมดจนเห็นถึงไหนต่อไหน“เอ่อ...ผมมีชุดสำรองอยู่หลังรถเดี๋ยวผมไปเอามาให้ แบบนี้ดูไม่ดีเท่าไหร่” ภากรณ์พูดพร้อมตั้งท่าจะลุกขึ้นแต่พนิตาเอื้อมมือไปจับแขนของเขาเอาไว้ก่อน“นิตาไปด้วยดีกว่าค่ะ นั่งอยู่แบบนี้มัน…” พ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔๓.๑ เพื่อนริษยา

    พชรเดินนำเข้าบ้านไปทิ้งให้พนิตายืนกำหมัดมองตามหลังด้วยความรู้สึกสับสนปนเสียหน้าที่เขาปฏิเสธเธอ แต่ก็คิดในแง่ดีว่าอาจจะเป็นเพราะเธอเข้าหาเขาเร็วไป พนิตาจึงเดินตามพชรเข้าบ้านไปโดยทำตัวเป็นปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พชรเดินนำขึ้นมายังชั้นสองของคฤหาสน์เพราะในใจของเขาตอนนี้เป็นห่วงนรินทร์มาก แต่ที่ยอมอยู่กับพนิตาก็เพื่อหาว่าเหตุของเพลิงไหม้ว่ามันมาจากฝีมือมนุษย์หรืออมนุษย์ที่ไหน ถึงได้ยอมข่มใจข่มความเป็นห่วงนั้นเก็บไว้ แต่เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องที่เปิดประตูไว้และมองเข้าไปด้านในที่ภากรณ์กำลังนั่งกุมมือนรินทร์ไม่ห่างเขาก็ได้แต่ขบกรามแน่น พนิตาเองก็มองเห็นภาพนั้นไม่ต่างจากพชรเลย คนอื่นๆที่นั่งอยู่ก็ดูท่าทางอ่อนเพลียบางคนก็เผลอหลับไปไม่ได้อยู่ในห้องที่แสงศรจัดเตรียมไว้ให้ กลับมารวมกันอยู่ที่ห้องของนรินทร์ครบทุกคน นิลนนท์ที่นั่งง่วงซึมอยู่เงยหน้าขึ้นมองผู้ที่เข้ามาเยือนก่อนจะรีบลุก

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔๒. ต้นเพลิง

    แสงศรเดินนำคนในทีมนรินทร์ที่เนื้อตัวมอมแมมไปยังคฤหาสน์หรือบ้านหลังใหญ่ท้ายหมู่บ้านของพชร โดยมีภากรณ์ที่แบกนรินทร์ขึ้นหลังไม่ยอมให้ใครช่วย แม้แต่นิลนนท์ที่เป็นเพื่อนสนิทของนรินทร์ก็ทำได้เพียงคอยประคองอยู่ข้างหลังก็เท่านั้นและไม่มีใครกล้าขัดเพราะไม่อยากมีปัญหาในตอนนี้ อีกอย่างเกรงใจแสงศรอีกด้วย “ไม่ไหวก็เปลี่ยนกันแบกก็ได้” นิลนนท์เอ่ยพร้อมกับปรายสายตามองภากรณ์ที่ขบกรามแน่นหลังจากแบกนรินทร์มาได้พักใหญ่ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ตัวหนักอะไรแต่เพราะระยะทางก็ไกลเอาเรื่องจนภากรณ์เหงื่อตก “ไม่ต้อง” ภากรณ์ตอบแค่นั้นซ้ำยังกัดฟันอดทนไม่ยอมให้ใครได้แตะต้องนรินทร์อีก มินตราและเทวินที่เดินอยู่ข้างหลังก็หันมองหน้ากันก่อนที่มินตราจะเบะปากใส่ภากรณ์แล้วพูดขึ้นลอยๆ “ตอนมีอยู่ไม่เห็นค่า พอจะเสีย

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔๑. เจ้าแม่นาง

    ในห้วงนิทราที่หลับใหลสนิทกันทั้งบ้านพัก ควันไฟเริ่มโชยลอยขึ้นบนชั้นสองพร้อมกับเปลวเพลิง แต่เพราะควันไฟนั้นทำให้คนที่นอนหลับไม่รู้ตัวบนบ้านสูดดมเข้าไปยังไม่ทันได้ตื่นก็ต้องสลบไสลไม่ได้สติต่อไป ไฟเริ่มโหมโรงแผดเผาไหม้บ้านพักไม้จนไฟสุมสว่างจ้า …น่าแปลกที่ไม่มีใครตื่นขึ้นมาหรือตกใจกับเหตุการณ์นี้เลย มีเพียงร่างโปร่งแสงที่ยืนมองเปลวเพลิงด้วยรอยยิ้มร่าอย่างสะใจ ไฟกำลังจะลุกท่วมร่างของพวกเขา…“จงตายตกตามกันไปเสียให้หมด!!” คีภัทราเอ่ยขึ้นพร้อมแสยะยิ้ม รอคอยมองดูร่างที่มอดไหม้อย่างใจเย็นทันใดนั้นเองที่อยู่ๆก็มีแสงจ้าสีขาวพวยพุ่งออกมาจากร่างของนรินทร์ก่อนจะพุ่งตรงออกมายังหน้าบ้านพัก ร่างโปรงแสงในชุดสีขาวประดับทองระยิบระยับอ้าแขนขึ้นหันหน้าไปทางทะเล ก่อนจะวาดมือกลางอากาศ ท้องฟ้าที่เคยสว่างไสวเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับก็พลันมืดครึ้ม ก้อนเมฆจากทั่วทุกสารทิศต่างมารวมกลุ่มเกาะกันเป็นก้อนเมฆฝนเหนือบ้านพักนั้นสายฟ้าผ่ากลางก้อนเมฆนั้นเป็นระยะๆ ฟ้าแลบฟ้าร้องกระหึ่มทั่วป่า เพียงปัดวาดมือลงดินฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมาดับไฟที่กำลังโหมไหม้บ้านนั้นจนเหลือแต่เพียงควั

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔๐.๒ มอดไหม้

    “ผมอาบก่อนคุณรอข้างนอกจะดีกว่า”“มืดขนาดนี้ไม่มีใครมาหรอกค่ะกรณ์นะคะ น๊าา”ภากรณ์ปิดประตูห้องน้ำทันทีและรีบอาบน้ำเพราะเขาเองไม่อยากจะอยู่ข้างล่างตอนกลางคืนนานนัก ทิ้งให้พนิตาหัวเสียอยู่ด้านนอกพนิตาจึงเปิดกระเป๋าอาบน้ำออกมาก่อนจะเลี่ยงออกมาไกลจากห้องน้ำเล็กน้อยและหยิบบุหรี่ที่แอบไว้ขึ้นมาสูบพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลสั่นไหวจนพนิตาเกือบจะกรีดร้องแต่ทว่าสายตาของพนิตาก็เห็นชายหนุ่มที่เธอพึ่งพบเมื่อเย็นเดินออกมาจากพุ่มไม้ และเดินตรงเข้ามาหาเธอด้วยสายตาดูมีเสน่ห์ พนิตารีบซ่อนบุหรี่ไว้ด้านหลัง“มาหานรินทร์เหรอคะ?”“เปล่าครับ ผมมาหาคุณ...”“พนิตาค่ะ เรียกนิตาก็ได้นะคะ”“ซ่อนไว้ทำไมล่ะครับ สูบด้วยกันสักมวนสิครับ”พชรเดินมาประชิดตัวเธอแขนแกร่งอ้อมไปด้านหลังดึงบุหรี่ในมือเธอมาคาบไว้ในปากพนิตาใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเขาเข้ามาใกล้จนลมหายใจของเขารดหน้าผากของเธอ พนิตายิ้มด้วยจริตที่มีทำเอียงอายเอาผมทัดหูก่อนจะจุดบุหรี่ให้พชรด้วยสายตาหว่านสเน่ห์ก่อนจะควานหาบุหรี่อีกตัวขึ้นมาสูบ“ทำอะไรครับ?”“สูบเป็นเพื่อนคุณไงคะ”“ถ้าคุณ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔๐.๑ มอดไหม้

    นรินทร์และมินตราเตรียมตัวรอเทวินและนิลนนท์ที่ไปเอาข้าวเย็นที่บ้านผู้ใหญ่ ไม่นานนักทั้งสองหนุ่มก็เดนมาพร้อมกับกับข้าวในถ้วยดินเผา ก่อนจะนั่งลงที่แคร่หน้าบ้านที่สองสาวนั่งรออยู่ อาหารวันนี้มีเพียงน้ำพริกปลาย่างและผักลวกซึ่งแตกต่างจากทุกวันที่เคยได้รับ“แค่นี้เหรอพี่นิล” มินตราเอ่ยถามพร้อมมองอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนจะเงยหน้ามองนิลนนท์ตาปริบๆ“ก็แค่นี้สิ ทำไงได้ในเมื่อหัวหน้าของเราไปขัดขากับชาวบ้านเรื่องความเชื่อดั้งเดิมอย่างนั้น” นิลนนท์เอ่ยอย่างยิ้มๆ พลางปรายสายตาไปมองนรินทร์ที่หันไปมองเขาตาขวางเช่นกัน“ไม่ได้ขัดสักหน่อยแค่พูดตามที่คิด เขาเรียกว่าความคิดเห็นส่วนตัว” นรินทร์เอ่ยพลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่ลึกๆในใจก็ยังรู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่ทำให้คนในทีมลำบากแบบนี้“ผมว่าเราเลิกเถียงกันเถอะครับ มากินข้าวกันก่อนเถอะ ผมหิวจะแย่” เทวินเอ่ยขัดวงสนทนาพลางจ้องมองอาหารตรงหน้า ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะพากันนั่งล้อมวงและกินข้าวมื้อเย็นกันไปและคุยเรื่องงานกันไปพลางๆเมื่อภากรณ์ได้ยินเสียงพูดคุยด้านล่างก็รู้ไ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status