Home / แฟนตาซี / ลิขิตสัญญานาคา / ๙. ถูกใจคนแปลกหน้า

Share

๙. ถูกใจคนแปลกหน้า

last update Last Updated: 2025-04-30 18:00:25

               กายหยาบที่แปลงกายมาเดินโซซัดโซเซมายังบ้านหลังใหญ่ท้ายหมู่บ้าน เนื้อกายบางส่วนลอกขึ้นเกล็ดกับงู เกล็ดสีขาวใสราวกับเพชรระยิบระยับไปเกือบครึ่งใบหน้าหล่อนั้น ความทรมานเพราะฤทธิ์อาถรรพ์คำสาปทำเอาเขาแทบหมดแรง

            “นายท่าน!”

            “แสงศร…” พูดไปพร้อมกับหอบหายใจรวยริน ก่อนที่งูเห่าเผือกสีขาวสหายมือซ้ายจะรีบเข้ามารับพยุงกายหยาบของผู้เป็นนาย ใบหน้าเข้มขมวดคิ้วเล็กน้อยจ้องมองเจ้านายอย่างนึกห่วง

“ข้าว่าท่านควรจักออกจากกายหยาบนี้เสียก่อนขอรับ” แสงศรเอ่ยขึ้น

“มิเป็นไร พาข้าเข้าไปบำเพ็ญภาวนาด้วยกายนี้เถิด” 

เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วแสงศรสหายคู่ใจก็รีบพาเจ้านายเข้าบ้านหลังใหญ่ไปโดยไม่โต้แย้ง การที่ผู้เป็นนายยอมทนเจ็บขนาดนี้เพราะนางในดวงใจกลับมาเกิดแล้วและยังได้พบเจอกันอีกครั้งหลังจากที่พยายามมาหลายพบหลายชาติมักคลาดกันตลอดเพราะคำสาปของนางนาคีผู้ที่หลงรักองค์เพชรแก้ว 

และคำสาปของนาคีที่มีบุญญาธิการนั้นมันจะจบลงในชาตินี้ชาติสุดท้ายฤทธิ์คำสาปจึงอ่อนแรงถึงได้สามารถดึงนางผู้เป็นที่รักมายังเมืองนี้ได้ แต่เพราะคำสาปยังไม่หมดไป 

การพบเจอกันก็มักจะมีผลตามมาจากการที่ผู้เป็นนายยอมฝืนชะตานำพาเธอเข้าเขตแดนเพื่อรำถวาย อย่างน้อยก็ปลดคำสาปของตัวเขาได้ไปหนึ่งจากสอง ยังดีที่มีคำสัตย์ก่อนสิ้นใจของนางเป็นที่รักที่สาปตัวเองไว้ว่าให้ได้รักกับเขาทุกภพทุกชาติ จึงช่วยหนุนให้ได้เจอกันในกายหยาบได้บ้างแม้จะเป็นเวลาไม่นานก็ตาม

.

.

นรินทร์นั่งอยู่ที่แคร่หน้าบ้านพร้อมกับมองเหม่อออกไปทางทะเลกว้างอย่างยิ้มๆ การพบกันกับชายหนุ่มผู้นั้นมันวนเวียนซ้ำๆในหัวราวกับสาวแรกรุ่นที่กำลังตกหลุมรักชายที่พึ่งพบหน้า แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็พยายามดึงสติตัวเองแล้วสะบัดใบหน้ารัวๆ

“ไม่ได้สินรินทร์ เธอไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ…แต่ก็หล่อจริงๆอ่ะ” 

พูดไปอย่างนั้นแต่ยังคงจ้องหน้าจอรอข้อความของใครบางคนอย่างใจจดใจจ่อ ก่อนจะทำหน้ามุ่ยที่ไม่เห็นข้อความสักที สายตาเหลือบไปมองหน้าจอมุมขวาบนก็เห็นว่าสัญญานโทรศัพท์ไม่มี มาๆหายๆก็ทำให้รู้สึกเซ็งนั่งถอนหายใจอยู่อย่างนั้น

“อะไรกันครับเนี่ย หัวหน้าเรามานั่งเหม่อคิดถึงใครอยู่...หรือว่า...คิดถึงผมเหรอ?” เทวินเดินเข้ามานั่งลงข้างๆเธอพลางทำหน้าทะเล้น นรินทร์หันไปขมวดคิ้วทำหน้าเซ็งกับคนข้างๆโดยไม่พูดอะไร

“ผมหยอกเล่นน่า…ว่าแต่วันนี้พี่ไปเจอหนุ่มบ้านป่าที่ไหนมาเหรอ? เห็นพี่นิลนนท์กับมินตราพูดกัน”

“ไม่ใช่หนุ่มบ้านป่าสักหน่อย เขาน่าจะไปทำงานอยู่ในเมืองแล้วพึ่งกลับมาซื้อบ้านอยู่ที่นี่มั้ง”

“โห่ รู้ขนาดนั้นเลย? อย่าบอกนะว่าสนใจ?”

“สนสิ หล่อแถมดูรวยใครจะไม่สน”

“ยังไงก็…อย่าลืมผมนะครับ…ผมจีบหัวหน้าจริงๆนะไม่ได้พูดเล่น” 

อยู่ ๆเทวินก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจังและหันมองเธอด้วยสีหน้าจริงจังเช่นกัน นรินทร์หันไปมองคนข้างๆโดยไม่ตอบอะไร แม้ว่าเธอจะพยายามแสดงให้เขาเห็นชัดเจนแล้วว่าเธอคิดกับเขาแค่พี่น้องแต่ดูเหมือนเทวินจะไม่มีท่าทีที่จะยอมแพ้เลย

“เทวิน…จะให้พูดตรงๆเลย แบบคมๆตัดทีเดียวขาดกันเลย”

“โธ่…เห็นใจผมสักนิด ยังงไม่ต้องตอบดีกว่า ผมไม่ได้ต้องการเร่งให้หัวหน้าตอบหรอกครับ แค่อยากให้ลองเอาคิดดู…” เทวินพูดขัดเหมือนไม่อยากจะฟังคำตอบของเธอเพราะเขารู้ดีอยู่แล้ว แต่เขาแค่ต้องการเวลาและโอกาสที่พอจะแสดงให้เธอได้เห็นสักหน่อยก็ยังดี

“ไอ้เทวิน! ไปช่วยจับตุ๊กแกให้มินตราหน่อยสิ” นิลนนท์เดินเข้ามาขัดจังหวะทั้งสองคนเหมือนรู้ทัน

“อ้าว แล้วทำไมพี่ไม่จับล่ะครับ” เทวินหันไปถามอย่างเซ็งๆ เวลาที่เขาอยู่กับนรินทร์มันน้อยลงทุกทีและชอบมีอะไรมาขัดตลอด นิลนนท์หัวเราะแห้งๆก่อนจะตอบ

“พี่กลัวว่ะ…เออน่า มาช่วยกันแป๊บเดียว” นิลนนท์ตอบก่อนจะลากแขนเทวินไปยังห้องน้ำด้านข้างตัวบ้าน นรินทร์มองตามทั้งสองคนพร้อมกับส่ายหน้าและหันไปจ้องมองทะเลตามเดิม คนที่ยืนแอบอยู่หลังต้นไม้ตั้งแต่แรกเดินออกมาหาเธอแล้วนั่งลงข้างๆอย่างเงียบๆ นรินทร์ปรายตามองครู่หนึ่งก่อนจะตั้งท่าเตรียมลุกออกจากตรงนั้น แต่มือหนาของเขากลับคว้าข้อมือของเธอเอาไว้

“...นั่งก่อนสิ...อย่าพึ่งไป” ภากรณ์พูดขึ้นเสียงอ่อนไม่ได้ประชดประชันเหมือนอย่างที่ชอบทำ นรินทร์เห็นท่าทางจ๋อยๆนั้นก็ยอมนั่งลงแต่โดยดี แค่ไม่ปริปากพูดก่อน

“ขอโทษ…” ภากรณ์พูดขึ้นพลางหันไปจ้องมองใบหน้าของนรินทร์ด้วยสีหน้าจริงจัง

“เรื่องไหนก่อนดีล่ะ?” 

“ขอโทษที่ทำให้เราต้องหย่ากัน…เรื่องนิตาฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น” 

“พอเถอะ ยิ่งพูดยิ่งดูแย่…ทำไปแล้วมาพูดแบบนี้ได้ยังไง ดูไม่เป็นลูกผู้ชายสักเท่าไหร่” 

ถ้าหากขอโทษกันได้ง่ายๆแบบนี้คงไม่มีใครหย่ากันแล้วมั้งบนโลกนี้นรินทร์คิด เธอไม่มีทางลืมสิ่งที่เขาทำกับเธอ วันที่ความเชื่อใจของเธอมันพังทลายลงด้วยมือของคนที่เธอรัก 

            “คุณให้โอกาสผมสักครั้งสินรินทร์ ให้โอกาสเรากลับมาเป็นครอบครัวอีกสักครั้ง”

            “โอกาส? นี่มุกตลกเหรอ?…ให้โอกาสคนนอกใจเนี่ยนะ” นรินทร์นิ่วหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อที่ได้ยินแบบนี้

            “ผมสัญญาว่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น”

            “ฉันว่าเราสองคนเลยจุดนั้นมาแล้วนะภากรณ์ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัว”

นรินทร์เดินขึ้นมาบนตัวบ้านด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์นิลนนท์เห็นภากรณ์เดินตามเธอเข้ามาติดๆก็พอจะเดาสถานการณ์ออก สีหน้าของนรินทร์ได้บ่งบอกทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว แต่เมื่อภากรณ์เดินผ่านหน้านิลนนท์ก็จงใจพูดขึ้นมาลอยๆ

“หมาแถวนี้นี่ไม่รู้จักเจียมตัว มัวแต่เห่าเครื่องบินน่ารำคาญจริงๆ”

“มึงว่าใครเป็นหมาวะ”

“พอสักทีได้ไหมวะ! อย่างน้อยก็ให้เกียรติเพื่อนร่วมงานบ้าง” นรินทร์พูดเสียงแข็งเธอเบื่อเรื่องนี้เต็มที ก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อยเพื่อปรามนิลนนท์และเขาก็ยอมเชื่อฟังเธอแต่โดยดี เห็นว่าไม่ได้มีเรื่องนรินทร์ก็หันกลับกุมขมับส่ายหน้าไปมาอีกครั้ง นิลนนท์จ้องมองภากรณ์จนสุดหางสายตาพร้อมกับเดินตามนรินทร์ไป ภากรณ์ยืนมองสองแผ่นหลังกัดฟันอย่างเจ็บใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๑.๑ นิมิตเพื่อพานพบ

    หาดทรายละเอียดสีขาว... รอบข้างเต็มไปด้วยหมอกควัน...ตรงหน้ามีเพียงทะเลน้ำสีฟ้าใสไล่สีครามลงกว้างใหญ่ไพศาลสุดตา...สถานที่แห่งนี้เหมือนไม่มีจริงในโลก..."เอ๊ะ?"หญิงสาวร่างอรชรอุทานขึ้นถ้าเป็นสมัยที่เธอดูคงจะถูกเรียกว่าสาวอวบอึ๋ม มองเห็นชายหนุ่มท่อนบนเปลือยเปล่าไร้เครื่องประดับประดาในตัวยกเว้นเข็มขัดทองที่รั้งผ้านุ่งโสร่งสีขาวเดินขึ้นมาจากผืนน้ำ ทำให้เห็นมัดกล้ามกำยำชัดเจน รูปร่างชายชาตรีสมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ผิวพรรณผ่องใส เรียบเนียน มีแสงระยิบระยับตามร่างกายนั้น ผมของเขายาวประบ่าแต่ถูกรวบมัดมวยไว้เพียงครึ่ง พอเผยให้เห็นกรอบหน้าชัดเจน จมูกโด่งเป็นสัน ปลายรั้งเชิด ปลายจมูกโค้งมนเป็นหยดน้ำ ปากเรียวได้รูปรับกับใบหน้า ทำให้ดูหน้าหวานปานหยาดน้ำผึ้ง คิ้วเข้มตรงสวย แต่ไม่หนาจนเกินพอดีรับกรอบหน้าทำให้ดูสมเป็นชายขึ้นมาเสียหน่อย กับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเปลือกตาสองชั้น มองมาที่เธอด้วยสายตาอ่อนโยนระคนเศร้าไม่ว่ายุคสมัยไหนถ้าได้เห็นชายผู้นี้คงไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่หลงรักเป็นแน่ แต่น่าแปลกที่เขาเหมือนไม่มีอยู่ในโลกที่เธอรู้จัก เพราะไม่มีใครจะหล่อเหลาปานเทพบุตรเช่นเขาแน่ ไม่ทันที่เธอจะได้เอะ

    Last Updated : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๑.๒ นิมิตเพื่อพานพบ

    "มาถึงละ เมื่อไหร่จะมา เสียเวลาจริง!"ปากเรียวบางอมชมพูพูดขึ้นกับปลายสายด้วยเสียงหงุดหงิด หญิงสาวใบหน้าหวานจิ้มลิ้มร่างอรชรพอเหมาะพอดีไม่ผอมไม่อ้วนเกินไปยืนนิ่งหลังจากวางสายสนทนาเมื่อครู่ เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ดวงตาสวยที่แข็งกร้าวเริ่มเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาแต่ต้องกลั้นมันไว้ไม่ให้ไหลออกมา .... ยัยนรินทร์...เธอต้องเข้มแข็ง....หลังจากปลอบใจตัวเองได้ไม่นานนักร่างสูงในชุดหนังและกางเกงยีนส์ขาดๆ ก็เดินเข้ามาหาเธอพร้อมสาวสวยในชุดคล้ายๆกันเหมือนชุดคู่รัก ภากรณ์เดินเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวหน้าตาสะสวยเดินตรงมาทางเธอ ก่อนจะโอบเอวบางของหญิงสาวข้างกายด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น นรินทร์มองดูพวกเขาเหมือนไม่ใส่ใจแต่กลับเม้มปากแน่น"อะไรกัน...จะร้องไห้เหรอ?""ร้องไห้ดีใจน่ะสิ จะได้หลุดพ้นวังวนอุบาทว์นี้เสียที""พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ เพื่อน"หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกายภากรณ์ได้เอ่ยขึ้น ใบหน้าสะสวยที่คุ้นเคยสำหรับนรินทร์ พวกเธอเป็นเพื่อนรักกันมาก่อนตลอดสี่ห้าปี ด้วยความเชื่อใจ เวลาไปไหนมาไหนมักจะไปด้วยกันตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่คิดว่าจะโดนหักหลังแบบไม่น่าให้อภัยโดยการเป็นชู้รักกับสามีของเธอมาตลอดสองปีหลัง นรินทร์มองใบหน้

    Last Updated : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๒.๑ สัมผัสที่มิอาจมองเห็น

    ยามค่ำคืนดึกดื่นที่มีเพียงแสงไฟตามตึกน้อยใหญ่...ห้องสี่เหลี่ยมในคอนโดเล็กๆ ใจกลางเมือง ภายในห้องไร้แสงไฟส่องสว่าง ร่างอรชรนอนขดตัวอยู่กลางเตียงใหญ่ที่ตั้งอยู่ในห้อง ไร้การขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวจากหญิงสาว มีเพียงหยดน้ำตาที่ยังคงเคลื่อนไหวไหลลงอาบสองแก้มเนียนไม่หยุด ตั้งแต่กลับมาจากที่ว่าการอำเภอหลังจากเซ็นใบหย่าร้างใบแรกในชีวิตเธอก็หมดเรี่ยวแรงจะทำอะไรทำได้แต่นอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่อย่างนั้นหยดน้ำตาใสไม่มีท่าทีว่าจะหยุดไหลออกจากดวงตาของนิรนทร์แม้แต่น้อยเสียงโทรศัพท์จะดังขึ้นซ้ำๆ เป็นเวลานาน แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงขยับตัวเลย ดวงตาเรียวหลับตาลงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย มือขวาเอื้อมไปกุมที่หน้าอกซ้ายด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่จุกอกอยู่ภายใน สมองพลางคิดโทษโชคชะตาว่าทุกครั้งที่มีความรักทำไมถึงได้พบแต่กับความผิดหวังไม่รู้จบ...ฉันทำกรรมอะไรไว้วะ...ถึงได้มีความรักที่เฮงซวยมันทุกครั้ง!!......พี่ขอโทษ…นรินธรา...เหตุจากคำมั่นสัญญารักของเรา พี่มิอาจปล่อยน้องไปได้...เสียงที่โต้ตอบเสียงความคิดของเธอที่น้อยเนื้อต่ำใจ...แม้เสียงนั้นจะเอื้อนเอ่ยดังเพียงใดก็ไม่สามารถส่งไปถึงหญิงสาวอั

    Last Updated : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๒.๒ สัมผัสที่มิอาจมองเห็น

    "ใครเขาจะมายืนบอกกันล่ะ""ถ้าเหตุเป็นเพราะพี่...พี่ก็ดีใจ"คำพูดพร้อมรอยยิ้มอย่างดีใจของชายหนุ่มทำให้นรินทร์ไม่กล้าที่จะปฏิเสธขัด การเห็นเขาดีใจกลับทำให้รู้สึกดีใจตามไปด้วย หญิงสาวมองใบหน้าเทพบุตรนั้นอยู่นาน รู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับเขาและรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้พบเจอกับเขา เธอแอบคิดว่าถ้าเขามีอยู่ในชีวิตจริงคงจะดีไม่น้อย...แต่นี่คงเป็นแค่ชายในฝันเหมือนที่ใครๆพูดกัน"แล้วคุณเป็นใคร? เทวดา ผี หรือเทพบุตรกันคะสุดหล่อ?" ไหนๆก็อยู่ในฝันแล้วขอจีบชายในฝันสักหน่อยจะเป็นไรไป นั่นคือสิ่งที่หมอกเมยคิด"เมื่อถึงเพลาก็จักรู้เอง""ทำไมไม่บอกล่ะตัวเอง…เห็นบอกว่าฉันเป็นคนรักของคุณไม่ใช่หรือคะ?""อดีตชาติเราคือคนรักที่ยากจะแยกจาก...รักยาวนานเป็นพันๆ ปี...""แล้วตอนนี้คุณยังรักฉันอยู่หรือคะ ผ่านมาตั้งพันปีไม่มีคนอื่นบ้างเลยเหรอ?""ความรักสำหรับชาวเราผู้ที่ครองอมตะ...มักจักมีหนึ่งเดียวใจเดียวตามที่ตั้งสัตย์สัญญาไว้""ว้า...ฉันผ่านการมีสามีมาแล้วน่ะสิ ไม่ได้อยู่รอสุดหล่อเลย""พี่รู้แจ้งแก่ใจ...ชีวิตมนุษย์นั้นสั้นนัก...เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ย่อมมีสิ่งที่ทำให้ลุ่มหลง...เหตุเพราะความทรงจำในอดีตถูกลบเลื

    Last Updated : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๓.๑ อดีตนานนับพันปี

    หญิงสาวรูปร่างอรชรผิวขาวเนียนผ่องเป็นยองใยเนียนละเอียดในชุดโบราณแต่งองค์ทรงเครื่องประดับด้วยทองหยองเต็มตัว มงกุฎทองคำพันรอบศีรษะสวย ผมมวยสูงทัดด้วยดอกมะลิส่งกลิ่นหอมอบอวลเสมือนกลิ่นประจำกายของหญิงสาว นิ้วมือเรียวสวยกรีดกรายลงบนผิวน้ำใสอย่างแผ่วเบา ใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างอ่อนโยนเมื่อมองลงไปในแม่น้ำเห็นสรรพสัตว์มากมายแหวกว่ายไม่ไกลมือของเจ้าหล่อนนัก “เจ้าทำอันใดอยู่รือหลานปู่” ชายหนุ่มที่ดูไม่แก่ชราลงเลย แต่แทนตัวเองว่าปู่เดินเอามือไขว้หลังบ่งบอกถึงความมีอำนาจมาดใหญ่เข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งรื่นรมย์อยู่ริมธารพร้อมรอยยิ้ม ชายหนุ่มแต่งองค์ทรงเครื่องมงกุฎทองครอบเศียรทรงขอมที่มองดูก็ว่าคือราชาของเมืองนี้ บริวารที่เฝ้าตามารับใช้หญิงสาวต่างพากันโค้งหมอบให้ผู้ที่เดินเข้ามา มีเพียงหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างลำธารเพียงเท่านั้นที่หันไปมองราชาหนุ่มผู้มาเยือนพร้อมกับหันไปยิ้มรับอย่างอ่อนหวานก่อนจะเก็บมือไว้หน้าตักอย่างเรียบร้อยและโค้งศีรษะลงอย่างเคารพ “เจ้าปู่มุจรินท์ มีเรื่องอันใดรือเพคะถึงได้มาตามหาหลานด้วยพระองค์เอง” “เงยหน้าขึ้นเถิดหลานปู่...”

    Last Updated : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๓.๒ อดีตนานนับพันปี

    “ขอประทานอภัยที่กระหม่อมต้องกล่าวความเช่นนี้...กระหม่อมมีชายาที่เจ้าเมืองต่างๆ การประทานให้หลังออกรบมีชัยกลับมา มิมีนางใดที่ข้ากระหม่อมพึงใจรักแม้แต่นางเดียว กระหม่อมขอสาบานว่า...มิได้ล่วงเกินชายานางใดแม้แต่ปลายเส้นผม มิได้ผูกเวรผูกกรรมต่อกันแล้วพระเจ้าข้า” “ถ้าเช่นนั้น...เจ้าพี่เพชรจักพึงใจในตัวน้องรือเพคะ?” “ยามแลเห็นน้องคราแรก จากที่คิดว่าดวงใจนี้กลายเป็นหิน ก็กลับหลงรักน้องอย่างมิอาจหักใจ” “ชายใดเข้ามามักจักกล่าววาจาหวานหู ใจแท้จักเป็นจริงดั่งปากว่ารือมิรู้ได้” “ขอน้องนางจงอย่าเปรียบเทียบพี่กับชายใด พี่หลงรักน้องยาใจแม่นมั่นมิผันแปร” เจ้าเพชรแก้วตอบโต้นรินธราด้วยสายตาที่ไม่หลบเลี่ยงอย่างมาดมั่น แต่หญิงสาวกลับก้มหน้าลอบมองเจ้าเพชรแก้วอย่างขวยเขิน องค์มุจรินท์เห็นเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่นิมิตเห็น ทั้งสองคนคือคู่แท้กันมาตั้งแต่กี่ภพชาติมีเพียงเจ้าปู่เท่านั้นที่หยั่งรู้เห็นในชะตารักของคนทั้งคู่ งานอภิเษกสมรสของเจ้าเมืองบูรพา พญาเพชรแก้วจันทรานาคราชและพระนางนรินธรานาคีหลานของ

    Last Updated : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔.๑ ปัจจุบัน

    หลังจากที่สะดุ้งตื่นกลางดึกอยู่บ่อยครั้งเช้านี้ก็เป็นอีกครั้งที่นรินทร์สะดุ้งตื่นจากความฝันที่เสมือนจริง เหตุการณ์เลือนรางไปบางช่วงตอนตื่น และก็ต้องหยุดชะงักกลางคันมันเสียตลอด แต่สำหรับเช้าวันใหม่นี้กลับสะดุ้งถึงสองครั้งสองหน แถมยังฝันเรื่องเดิมและมันดันเป็นเรื่องที่ปะติดปะต่อกันเหมือนได้เห็นเหตุการณ์ในโลกนิทานอย่างไรอย่างนั้นร่างอรชรลุกขึ้นจากเตียงใหญ่ด้วยความเมื่อยล้าร่าง แต่ในหัวกลับมีเรื่องที่ฝันเมื่อสักครู่วนเวียนอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกที่จะต้องดำเนินชีวิตต่อและคิดว่าอย่างไรมันก็แค่ความฝัน หญิงสาวเดินเข้าไปอาบน้ำและทำกิจวัตรประจำวันเหมือนอย่างเคย มันแตกต่างจากทุกวันก็ตรงที่เธออยู่คนเดียวแล้วนับตั้งแต่เมื่อวานนี้ร่างโปร่งแสงมองเธอว้าวุ่นไปมาด้วยรอยยิ้มบางๆ แม้เธออาจจะมองไม่เห็นการมีอยู่ของเขาก็ตาม แต่ภายในใจของชายหนุ่มนั้นกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขที่ได้หวนกลับมาพบเจอดวงจิตของผู้เป็นที่รักยิ่งที่เขาเฝ้ารอและตามหามานานนับพันปี เขาได้เฝ้าตามคอยดูแลเธอมาตลอดเท่าอายุของเธอในปัจจุบัน...ประเดี๋ยวเราก็จักได้พานพบกันแล้ว นรินธรา...เส

    Last Updated : 2025-04-25
  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔.๒ ปัจจุบัน

    “ทีม Local ไปกันเถอะ ไม่อยากคุยกับ...หมา มันเห่าแล้วหนวกหู”นรินทร์พูดพร้อมหันไปเน้นย้ำคำหลังอย่างหนักแน่นและมองตรงไปยังภากรณ์อย่างตั้งใจ คนในทีมหัวเราะคิกคักชอบใจกับความดื้อร้ายไม่ยอมใครของนรินทร์ ก่อนเทวินจะถอนหายใจแล้วเงยหน้าพูดกับภากรณ์ที่ขมวดคิ้วอย่างขุ่นเคืองกับคำพูดของนรินทร์“เฮ้อ...นี่สินะตัวอย่างสุภาษิตไทยที่ว่า...หมาหวงก้าง”ภากรณ์ได้ยินดังนั้นจึงหันไปมองขวางเทวินที่ยืนยิ้มตาปริบๆ หน้าระรื่นใส่เขา ภากรณ์แค่นหัวเราะออกมาอย่างเยาะเย้ยพร้อมกับกอดอกเหมือนผู้ชนะ“อย่าได้ใจไปเลย ยังไงนรินทร์ก็ไม่มีทางเลิกรักฉันได้หรอก ไม่งั้นคงไม่อยู่กับฉันมาถึงเจ็ดปี ป่านนี้คงนึกเสียใจอยู่ข้างใน แค่ไม่แสดงออกก็เท่านั้น”“ครับ ผมจะรักษาแผลใจนั้นอย่างดีเลย ขอบคุณ...คุณภากรณ์ที่ช่วยเปิดทางให้”เทวินพูดขึ้นทั้งรอยยิ้มไม่มีทีท่าว่าจะสลดใจกับคำพูดของภากรณ์เลยแม้แต่น้อย การที่ผู้หญิงกำลังอ่อนแอแล้วมีใครสักคนเข้าไปดูแลอย่างจริงใจย่อมโอนเอนไปทางคนผู้นั้น ภากรณ์เข้าใจความหมายคำพูดของเทวินเป็นอย่างดี สีหน้าที่ยิ้มเยาะเทวินในตอนแรกกลับบึ้งตึงในทันทีพร้อมกับจ

    Last Updated : 2025-04-25

Latest chapter

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๙. ถูกใจคนแปลกหน้า

    กายหยาบที่แปลงกายมาเดินโซซัดโซเซมายังบ้านหลังใหญ่ท้ายหมู่บ้าน เนื้อกายบางส่วนลอกขึ้นเกล็ดกับงู เกล็ดสีขาวใสราวกับเพชรระยิบระยับไปเกือบครึ่งใบหน้าหล่อนั้น ความทรมานเพราะฤทธิ์อาถรรพ์คำสาปทำเอาเขาแทบหมดแรง “นายท่าน!” “แสงศร…” พูดไปพร้อมกับหอบหายใจรวยริน ก่อนที่งูเห่าเผือกสีขาวสหายมือซ้ายจะรีบเข้ามารับพยุงกายหยาบของผู้เป็นนาย ใบหน้าเข้มขมวดคิ้วเล็กน้อยจ้องมองเจ้านายอย่างนึกห่วง“ข้าว่าท่านควรจักออกจากกายหยาบนี้เสียก่อนขอรับ” แสงศรเอ่ยขึ้น“มิเป็นไร พาข้าเข้าไปบำเพ็ญภาวนาด้วยกายนี้เถิด”เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วแสงศรสหายคู่ใจก็รีบพาเจ้านายเข้าบ้านหลังใหญ่ไปโดยไม่โต้แย้ง การที่ผู้เป็นนายยอมทนเจ็บขนาดนี้เพราะนางในดวงใจกลับมาเกิดแล้วและยังได้พบเจอกันอีกครั้งหลังจากที่พยายามมาหลายพบห

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๘. เจอกันเสียที

    ราวกับต้องมนต์เมื่อเขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม เธอยังคงจ้องมองเขานิ่งค้างในอ้อมแขนแกร่งอยู่อย่างนั้นไม่ขยับไปไหนความรู้สึกคิดถึงอ้อมกอดเกิดขึ้นมาในใจ จนเธอต้องพยายามตั้งสติและดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขา นรินทร์ไม่กล้าที่จะมองใบหน้าหล่อคมนั้นตรงๆ“ไม่เป็นไรค่ะ แต่ก็ขอบคุณนะคะ”เธอเอ่ยขึ้นมาแก้เขิน ก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วเดินออกจากตัวปราสาทไปโดยมีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองตามแผ่นหลังนั้นด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม …ในที่สุดเขาก็ปรากฏกายมาเจอเธอได้เสียที ตามคำสาปที่เขาได้สาปตัวเองด้วยความรู้สึกผิดครั้งในอดีตหลายพันปีที่ผ่านมาเอาไว้ว่า …หากตัวข้าหานางในดวงใจมิเจอ นางมิก้าวเท้าลงเหยียบเมืองข้าแล้วไซร้…ก็หาออกจากกายทิพย์สังขารนี้ได้ไม่……จักเกิดก็มิได้ จักตายก็มิได้ ทรมานจากความคำนึงถึงห่วงหาอาวรณ์ไปชั่วกัปชั่วกัลป์… “รู้จักหนุ่

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๗. ไหว้เจ้าปู่

    “พญานาค? ทำไมถึงชอบนับถือกันนะ…คนในหมู่บ้านเคยเห็นเหรอคะ?” มินตราพูดพร้อมกับทำท่านึกสงสัย ก่อนจะหันไปถามแม่สายด้วยความอยากรู้จนลืมสิ่งที่ผ่านสายตาไปเสียสนิท“ไม่มีใครเห็นหรอกค่ะ…แต่มันมีปรากฏการณ์หลายอย่างที่ทำให้รู้ว่ามีอยู่จริง” แม่สายเอ่ยเสียงเรียบ“ไม่เคยเห็นแล้วทำไมถึงได้เชื่อขนาดนั้นกันนะ เหตุการณ์ที่ว่าอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือวิทยาศาสตร์ก็ได้” นรินทร์พูดขึ้นอย่างไม่เชื่อ แม่สายหันไปจ้องมองนรินทร์ด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่แววตาของแม่สายนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักที่ได้ยินแบบนั้น“เอ่อ…เรามาเพื่อศึกษประเพณีของชาวบ้าน ไม่ได้มาลบหลู่สิ่งที่ชาวบ้านศรัทธานะคะ” นรินทร์เอ่ยขึ้นหลังจากที่รับรู้ว่าเรื่องความเชื่อนี้ยากที่จะแตะต้อง ในเมื่อเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณนรินทร์…สิ่งที่มองไม่เห็นมันก็ยากที่จะเชื่อ…แต่ก็ไม่ใช่ว่ามีอยู่จริง” แม่สายเอ่ยด้วยรอยยิ้มจางๆจ้องมองนรินทร์ราวกับมีนัยบางอย่าง“โห…ประโยคคลาสสิค

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖.๒ ถึงเวลา

    แม่สายทำท่าทางตกใจไม่น้อยราวกับไม่เชื่อหูที่ได้ยิน นรินทร์ขมวดคิ้วเล็กน้อยมองเอียงหน้ามองแม่สายอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อแม้จะอยากรู้เสียเต็มประดาว่าทำไมแม่สายภรรยาผู้ใหญ่บ้านที่เธอไม่รู้จักถึงได้มีท่าทีแบบนั้น“เก็บข้าวของเรียบร้อยข้าจะพาทีมคุณนรินทร์ไปไหว้ศาลเจ้าปู่ประจำหมู่บ้านเสียก่อนค่อยหาข้าวปลากินกัน”“ทำไมต้อง…อะ...อ้าว” นรินทร์ไม่ทันได้ถามแม่สายก็ชิงเดินนำหน้าไปก่อนเสียแล้ว ทิ้งความสงสัยว่าทำไมแม่สายถึงได้รู้ชื่อของเธอไว้ในใจ นรินทร์ตั้งท่าที่จะเดินตามแม่สายให้ทันแต่ก็ถูกมือหนาของเทวินคว้าแขนไว้เสียก่อน“หัวหน้าคุยอะไรกันหรือครับ? ท่าทางดูตกใจขนาดนั้น” เทวินเอ่ยถาม“ไม่”“หือ? อะไรนะครับ”“ไม่ยุ่งสักเรื่องได้มะ?”เอ่ยตอบพร้อมยักคิ้วอย่างกวนๆ“โห่…หัว…”ไม่ทันได้ตอบภากรณ์ก็เดินเข้ามาแทรกกลางทั้งสองทำเอาเทวินถึงกับยอมละมือที่คว้าจับแขนของนรินทร์เอาไว้ออกแทบจะทันที เทวินหันไปมองตามหลังภากรณ์ขบเคี้ยวเขี้ยว

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖.๑ ถึงเวลา

    “ไปกันใหญ่แล้วมึง เห็นกูเป็นพระถังซัมจั๋งเหรอถึงได้คิดว่ามันเคารพกูน่ะ” นรินทร์พูดตอบนิลนนท์ด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงอย่างยิ้มๆ ก่อนจะหันมาส่ายหน้าไปมากับสิ่งที่นิลนนท์พูด“แต่กูเชื่ออย่างนั้นนะ...” นิลนนท์ตอบพร้อมกับรอยยิ้มขี้เล่น นรินทร์จึงหัวเราะออกมาเบาๆ คิดว่านิลนนท์คงพูดหยอกล้อต่อมุขเธอเล่น เธอจึงไม่ได้ตอบอะไรออกไปก่อนจะมีเพื่อนรุ่นน้องในทีมจะกล่าวเสริม“พี่นิลนนท์พูดเหมือนกับอ่านใจงูได้อย่างนั้นแหละ” มินตราที่นั่งติดกระจกรถข้างๆนิลนนท์พูดขึ้นแล้วมองนิลนนท์อย่างสงสัย เพราะเธอก็เห็นเขาจ้องมองงูเหมือนกับกำลังคุยกับมันอย่างไรอย่างนั้น“มินตรา มึงเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ...สาวคลั่งเทคโนโลยีอย่างมึงเนี่ยนะ” เทวินที่นั่งอยู่ข้างหลังกับภากรณ์พูดขึ้นและมองมินตราอย่างไม่อยากเชื่อ คนอื่นๆก็มองเทวินก่อนจะหันกลับมามองมินตราเช่นกัน“เปรียบเปรยจ้ะ เขาเรียกว่าเรียกว่าเปรียบเปรย” มินตราตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก“อาจจะคุยรู้เรื่องก็ได้ พวกอสรพิษ…เลี้ยงไม่เชื่องอยู่แล้ว…พวกมั

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕.๒ คิดถึงใคร

    นรินทร์สะดุ้งตื่นลุกพรวดขึ้นมาพร้อมกับหายใจหอบ ภาพฝันที่วูบเข้าหาตัวเธอนั้นยังคงจำได้ติดตา มันช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน นรินทร์เสยผมตรงสวยของตนก่อนจะหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกสติ เธอเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงเพื่อดูเวลาพร้อมกับถอนหายใจ “ตีสาม...อีกแล้วเหรอ”หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะพาร่างของตนลุกขึ้นแล้วเดินไปยังโซนห้องครัวเพื่อหาน้ำเปล่ามาดื่มเรียกสติให้ตัวเองตื่นเสียหน่อย มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เธอฝันอะไรแบบนี้ การตื่นกลางดึกทั้งที่เป็นเวลาพักผ่อนมันทำให้ร่างกายเธอของอ่อนเพลียไม่น้อย แต่ครั้นจะให้นอนก็เห็นทีจะนอนไม่หลับไปเสียแล้วร่างโปร่งมองหญิงสาวอันเป็นที่รักอย่างห่วงใย ภายในใจสงสัยไม่น้อยว่าทำไมคีภัทราถึงได้แทรกแซงฝันของนรินทร์ได้ เขาจึงทำได้เพียงปลุกเธอให้ตื่นด้วยมนตร์เท่านั้น นั่นคือเหตุผลที่นรินทร์ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเสียทุกครั้ง“คีภัทรานี่ใครกัน...ฝันถึงหลายรอบแล้วนะ...นางเจ้าองค์ไหนอีก...”นรินทร์พึมพำกับตนเองพร้อมกับนึ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕.๑ คิดถึงใคร

    นรินทร์กลับมาถึงคอนโดหลังจากการทำงานที่หนักหน่วงเธอหัวเสียอย่างที่สุด เสียพลังงานต่อล้อต่อเถียงกับบก.แต่มันก็ไม่เป็นผล ดันหลงกลสองพ่อลูกนั่นจนได้ที่ตั้งใจจะไปแย้งเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงสุดหรูก็ดันไปตกหลุมพรางของอดีตผัวเก่าอย่างภากรณ์ซะได้ หรือเธอเองคงจะเคยชินกับการถูกเขาหลอกเสียล่ะมั้งผลเลยออกมาเป็นแบบนี้แต่คนอย่างนรินทร์ต้องไม่แพ้! เธอไม่มีวันให้เขาดูถูกเธอได้ยิ่งสถานะของเธอและเขาตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วมาดูกันหน่อยเป็นไงว่าคนอย่างนรินทร์น่ะเหรอกลัวความลำบาก คิดแล้วเธอก็เริ่มเปิดโน้ตบุ๊คเพื่อหาข้อมูลของสถานที่ที่ทีมของเธอต้องไปทำสกู๊ปนรินทร์นั่งหน้าจมอยู่กับหน้าจอคอมเพื่อหาข้อมูลของสถานที่ที่เธอต้องไป จากคนที่ทำแต่งานไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน ก็ต้องมานั่งหาข้อมูลกันเสียหน่อย“บูรบุรี เมืองอะไรกันล่ะเนี่ยไม่เห็นเคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย” ความรู้สึกแปลกประหลาดวังเวงคลืบคลานเข้ามาจนทำให้ขนลุก ห้องก็ห้องตัวเองอยู่มาก็นานแต่ทำไมเหมือนกับว่ามีคนอื่นที่นอกเหนือจากตนเองอยู่ด้วยกันนะ นรินทร์หันหน้าไปไปมอ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔.๒ ปัจจุบัน

    “ทีม Local ไปกันเถอะ ไม่อยากคุยกับ...หมา มันเห่าแล้วหนวกหู”นรินทร์พูดพร้อมหันไปเน้นย้ำคำหลังอย่างหนักแน่นและมองตรงไปยังภากรณ์อย่างตั้งใจ คนในทีมหัวเราะคิกคักชอบใจกับความดื้อร้ายไม่ยอมใครของนรินทร์ ก่อนเทวินจะถอนหายใจแล้วเงยหน้าพูดกับภากรณ์ที่ขมวดคิ้วอย่างขุ่นเคืองกับคำพูดของนรินทร์“เฮ้อ...นี่สินะตัวอย่างสุภาษิตไทยที่ว่า...หมาหวงก้าง”ภากรณ์ได้ยินดังนั้นจึงหันไปมองขวางเทวินที่ยืนยิ้มตาปริบๆ หน้าระรื่นใส่เขา ภากรณ์แค่นหัวเราะออกมาอย่างเยาะเย้ยพร้อมกับกอดอกเหมือนผู้ชนะ“อย่าได้ใจไปเลย ยังไงนรินทร์ก็ไม่มีทางเลิกรักฉันได้หรอก ไม่งั้นคงไม่อยู่กับฉันมาถึงเจ็ดปี ป่านนี้คงนึกเสียใจอยู่ข้างใน แค่ไม่แสดงออกก็เท่านั้น”“ครับ ผมจะรักษาแผลใจนั้นอย่างดีเลย ขอบคุณ...คุณภากรณ์ที่ช่วยเปิดทางให้”เทวินพูดขึ้นทั้งรอยยิ้มไม่มีทีท่าว่าจะสลดใจกับคำพูดของภากรณ์เลยแม้แต่น้อย การที่ผู้หญิงกำลังอ่อนแอแล้วมีใครสักคนเข้าไปดูแลอย่างจริงใจย่อมโอนเอนไปทางคนผู้นั้น ภากรณ์เข้าใจความหมายคำพูดของเทวินเป็นอย่างดี สีหน้าที่ยิ้มเยาะเทวินในตอนแรกกลับบึ้งตึงในทันทีพร้อมกับจ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๔.๑ ปัจจุบัน

    หลังจากที่สะดุ้งตื่นกลางดึกอยู่บ่อยครั้งเช้านี้ก็เป็นอีกครั้งที่นรินทร์สะดุ้งตื่นจากความฝันที่เสมือนจริง เหตุการณ์เลือนรางไปบางช่วงตอนตื่น และก็ต้องหยุดชะงักกลางคันมันเสียตลอด แต่สำหรับเช้าวันใหม่นี้กลับสะดุ้งถึงสองครั้งสองหน แถมยังฝันเรื่องเดิมและมันดันเป็นเรื่องที่ปะติดปะต่อกันเหมือนได้เห็นเหตุการณ์ในโลกนิทานอย่างไรอย่างนั้นร่างอรชรลุกขึ้นจากเตียงใหญ่ด้วยความเมื่อยล้าร่าง แต่ในหัวกลับมีเรื่องที่ฝันเมื่อสักครู่วนเวียนอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกที่จะต้องดำเนินชีวิตต่อและคิดว่าอย่างไรมันก็แค่ความฝัน หญิงสาวเดินเข้าไปอาบน้ำและทำกิจวัตรประจำวันเหมือนอย่างเคย มันแตกต่างจากทุกวันก็ตรงที่เธออยู่คนเดียวแล้วนับตั้งแต่เมื่อวานนี้ร่างโปร่งแสงมองเธอว้าวุ่นไปมาด้วยรอยยิ้มบางๆ แม้เธออาจจะมองไม่เห็นการมีอยู่ของเขาก็ตาม แต่ภายในใจของชายหนุ่มนั้นกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขที่ได้หวนกลับมาพบเจอดวงจิตของผู้เป็นที่รักยิ่งที่เขาเฝ้ารอและตามหามานานนับพันปี เขาได้เฝ้าตามคอยดูแลเธอมาตลอดเท่าอายุของเธอในปัจจุบัน...ประเดี๋ยวเราก็จักได้พานพบกันแล้ว นรินธรา...เส

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status