LOGIN“ก็ได้ แค่สองนาที”
แบงค์เดินผ่านโต๊ะของฟลายด์ เขาแอบปรายตามองเล็กน้อย เห็นหญิงสาวก้มหน้างุด เอามือปิดหน้าไม่วายแอบชำเลืองมองเขากับโบว์ ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มมุมปาก
ทุกเหตุการณ์ที่ทั้งสองคนกระทำอยู่นั้น อยู่ในสายตาของฟลายด์ทั้งหมดทุกอย่าง ทันทีที่สองคนเดินออกไปด้านนอกร้าน ฟลายด์ก็เริ่มนินทาชายหนุ่มคนนั้น
“ส้ม เห็นปะเมื่อกี้อ่ะ”
“เห็นอะไร”
“เอ้า! ก็ผู้ชายที่เดินผ่านโต๊ะเราที่กล้ามโต ๆ กับผู้หญิงหุ่นเช็กซี่เมื่อกี้นี้ไง เห็นไหม?”
“อ๋อ! เออ! เห็น ๆ ผู้ชายก็หล่อเนาะ ผู้หญิงก็สวยเห็นแล้วอิจฉาหุ่นฉิบหายเลย” ส้มหันมากระซิบกระซาบกับฟลายด์ “แบน ๆ อย่างเรานี่จะต้องเสริมกี่ซีซีถึงจะได้เท่าเขา”
“คงจะขนาดใหญ่ที่สุดละมั้ง เออมีอะไรจะเล่าให้ฟัง ผู้ชายคนเมื่อกี้นั่นน่ะก็คือ…คนที่ไปยืนเคาะประตูห้องตรงข้ามเค้าเมื่อตอนที่มาเชียงใหม่ตอนโน้นที่เคยเล่าให้ฟังอ่ะ จำได้ใช่ไหม?”
ส้มเบิกตากว้างพลางพยักหน้า “จำได้ แล้วไงต่อ?”
“สองคนนั้นอ่ะ ไม่ใช่แฟนกัน แต่อาจจะแอบไปทำอะไรกันลับหลังแฟนของผู้หญิงคนนั้นก็ได้” ฟลายด์ชี้ไปที่ผู้ชายที่กำลังเต้นไม่สนใจโลกอยู่หน้าเวที กำลังเต้นนัวเนียอยู่กับสาวอีกคน
“เห็นคนที่สวมเสื้อสีฟ้ารูปเสือดาวนั่นไหม นั่นแหละ! แฟนของผู้หญิงคนที่เพิ่งเดินออกไปกับผู้ชายกล้ามโตคนเมื่อกี้”
“หืย! จริงดิ! แต่แฟนเขาก็หล่อมากเลยนะ เป็นผู้หญิงที่เทสดีมากอ่ะผู้ชายรอบกายแต่ละคนมีแต่หล่อ ๆ”
“มอปอคิดว่าทั้งสองคนนั้นจะไปทำอะไรกันข้างนอก สองต่อสองไหม”
*มอปอ เป็นชื่อเรียกเฉพาะของส้ม มีแค่ฟลายด์คนเดียวที่เรียกส้มด้วยชื่อนี้*
แบงค์บังเอิญเดินมาได้ยินบทสนทนาของฟลายด์กับเพื่อนเข้าพอดี คนที่เธอกำลังเอ่ยถึงคงจะหมายถึงตัวเขา
“อยากรู้ไหมละครับ ว่าออกไปทำอะไรกันมา” แบงค์ก้มหน้าลงมาใกล้ ๆ กับใบหูของฟลายด์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ฟลายด์สะดุ้งโหยง หันไปยังต้นเสียงจนจมูกชนเข้ากับแก้มสากของชายหนุ่ม ใบหน้าเห่อร้อน โชคดีที่ไม่มีใครมองออก เพราะความมืดสามารถปิดบังใบหน้าที่ค่อย ๆ ขึ้นสีแดงระเรื่อ
“มะ…ไม่ค่ะ” ฟลายด์ตอบด้วยความตะกุกตะกัก
เสียงประกาศจากดีเจบนเวทีดังขึ้น ทำให้ทุกคนหันไปสนใจหน้าเวที แบงค์ก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองด้วยความอารมณ์ดี
“วันนี้เนื่องจากเป็นวันครบรอบวันแต่งงานของเจ้าของร้านของเรากันนะครับ ทางร้านเลยอยากเป็นคิวปิกสื่อรักให้กับคนที่ยังโสดที่มาเที่ยวในวันนี้ ให้มีโอกาศได้สานสัมพันธ์กับคนที่ตัวเองหมายตา หรืออาจจะไม่ได้หมายตาใครไว้ก็ได้ เพราะอาจจะคิดว่าเขาคงจะมีผัวหรือเมียอยู่แล้วใช่ไหม ฮ่า ๆ ๆ ผมรู้นะว่าทุกคนก็คิดแบบนี้”
เสียงโห่ร้องกรี้ดด้วยความชอบใจ ในคำพูดของดีเจที่อาจจะโดนใจนักท่องราตรีในค่ำคืนนี้
“ผมอยากให้คนโสดที่ยังไม่มีคู่ขึ้นมาบนเวทีด้วยครับ เผื่อว่าหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ตัวเองหมายตาอาจจะโสดอยู่ก็ได้นะครับ”
ทุกคนที่ยังโสดอยากลองร่วมกิจกรรมที่ทางร้านจัดขึ้นมา ก็เริ่มทยอยขึ้นไปบนเวทีด้วยความครึกครื้น ไม่ว่าจะเป็นหนุ่ม สาว อีกทั้งคนที่มีอายุก็ยังขึ้นไปบนเวทีกับเขาด้วย
เพื่อน ๆ ทุกคนกลับมานั่งพักหายใจ หายคออยู่ที่โต๊ะ ส่งซิกกันใหญ่เลย ฟลายด์ไม่ได้สนใจกิจกรรมที่ทางร้านจัดเลยสักนิด มาเที่ยวไม่ได้อยากมาหาผัว แต่ทว่าเพื่อนของเธอไม่ได้คิดแบบนั้น ทุกคนมองฟลายด์ด้วยสายตาแปลก ๆ
“ฟลายด์ไม่ลองกิจกรรมนี้บ้างเหรอ เผื่อเจอสามีในอนาคตไง” มดถามฟลายด์ด้วยความหวังดี
“สามีที่ดี เขาไม่มาเที่ยวสถานที่แบบนี้หรอก”
แนนได้ยินสองคนคุยกันพูดแทรกขึ้น “งั้นพวกเราทั้งแก๊งค์ก็กลายเป็นคนไม่ดีเลย”
“ไม่ใช่แบบนั้น ถ้าคนมีครอบครัวแล้วก็แค่มาผ่อนคลาย แต่…คนโสดเนี่ย เราจะรู้ได้ยังไงว่าเขาโสดหรือไม่โสด”
“ก็นี่ไง ไม่ลองแล้วจะรู้เหรอ” มดยังเชียร์ไม่หยุด
“ไม่เอาดีกว่า ถ้าคนมันจะมีผัวนอนอยู่บ้านมันก็มี”
“งั้นก็แสดงว่าชาตินี้แกจะไม่มีผัว”
“ทำไมต้องแช่งเพื่อนแบบนั้น”
ส้มก็อยากให้เพื่อนมีครอบครัวที่อบอุ่น มีสามีเหมือนกับเพื่อน ๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งเหงา ไปไหนก็ไปคนเดียว ไปเที่ยวก็ไปคนเดียว ถ้าเกิดวันนี้ได้ผู้โสดสักคน อย่างน้อยก็มีคนคุยยังพอทำให้ชีวิตมีสีสันขึ้นมาบ้าง
“ก็หมอเป็นคนพูดเองว่าคนจะมีผัวต่อให้นอนอยู่ที่บ้านก็มีได้ ขนาดนอนอยู่บ้านมากี่ปีแล้วยังไม่เห็นมีวี่แววว่าจะผัวกับเขาสักที นี่คือโอกาสดีที่จะได้พิสูจน์ว่าชาตินี้จะมีผัวหรือไม่มีผัว แต่นี่อะไร ขนาดออกมาเที่ยวให้ไปร่วมกิจกรรมแค่นี้ก็ยังไม่กล้าไปเลย ชาตินี้คงจะมีหรอกมั้งผัวน่ะ”
โปเต้เห็นกิจกรรมดี ๆ แบบนี้เขาก็อยากจะขึ้นไปอยู่นะ แต่คนที่เขาหมายตาเอาไว้คงจะไม่โสดแล้ว เพราะเขาไม่เห็นเธอขึ้นไป และยังเห็นเธอไปนั่งข้าง ๆ กับผู้ชาย นั่นคงจะเป็นสามีเธอล่ะมั้ง เดี๋ยวเขาค่อยหาโอกาสสานต่อก็ได้
โปเต้เหลือบมองแบงค์แล้วนึกอะไรดี ๆ ออก กระหยิ่มยิ้มในใจอย่างมีแผนร้าย
“แบงค์ มึงก็ยังโสดอยู่ไม่ลองไปร่วมกิจกรรมดูบ้าง โอกาสแบบนี้หายากนะ อายุขนาดนี้แล้วยังไม่มีครอบครัวก็น่าเสียดายความหล่อที่ไม่มีคนสืบสกุล”
แบงค์ปรายตามองนิ่ง ๆ สีหน้าไร้อารมณ์ แต่คำพูดกลับเฉือดเฉือน
“ถ้ามึงหวังดีกับกูจริง ๆ มึงคงไม่แย่งแฟนกูหรอกจริงไหม?”
“เรื่องนั้นจะว่ากูแย่งได้ยังไง ถ้าผู้หญิงเขาไม่เล่นด้วย ใครเขาจะกล้า”
“จะว่าไปแล้วสาวคนที่เพิ่งเดินขึ้นไปนั่นก็สวยใช่ย่อยเลย น่าสนใจดีนะ” โปเต้กระซิบข้างใบหูแบงค์ใสอย่างจงใจ พลางเหลือบมองบนเวที
ในขณะที่แบงค์เอาแต่มองร่างเล็ก ๆ ของฟลายด์ที่กำลังเดินขึ้นไปบนเวทีไม่ละสายตา ดวงตาสีดำสนิทเป็นประกายคมกริบไม่บ่งบอกความรู้สึกใด ๆ ยากจะอ่านออกว่าคิดอะไรอยู่
ดิวเห็นบรรยากาศเริ่มมาครุ จนทุกคนรู้สึกได้ เขารีบพูดแทรกเปลี่ยนบรรยากาศ “พี่โปเต้ ถ้าพี่แบงค์ไม่อยากไป ให้ผมไปแทนก็ได้นะครับ วันนี้เมียไม่มา ก็ถือซะว่าผมโสดหนึ่งวัน”
“มีคนโสดที่ยังไม่ขึ้นมาอีกไหมครับ” ดีเจประกาศอีกครั้ง
“มีครับ” ดิวยกมือขึ้นแสดงตัว
เขากำลังจะลุกขึ้น ทว่าแบงค์กลับชิงตัดหน้าลุกขึ้นยืน ทุกสายตาจับจ้องไปที่เขา เขากำลังก้าวเดินไปบนเวทีอย่างมั่นคง
“ว้าว ๆ หนุ่มโสดคนสุดท้ายในค่ำคืนนี้กำลังเดินขึ้นมาแล้วครับ คนสุดท้ายนี้ผมคิดว่าน่าจะเป๋นสเปคสาว ๆ ในค่ำคืนนี้หลายคนเลยใช่ไหมครับ”
ฟลายด์มองชายหนุ่มที่เธอเพิ่งจะนินทาเขาไป แถมเธอยังเกือบจะหอมแก้มเขาอีกด้วย ใจดวงน้อยเต้นโครมครามไม่หยุด นี่เขาก็ยังโสดอยู่เหมือนกันเหรอ ไม่น่าเชื่อ ดูก็ไม่น่าจะเด็กแล้ว
“งั้นเราจะมาสอบถามเกี่ยวกับสเปคที่สาว ๆ กับหนุ่ม ๆ ชอบนะครับ ผมขอเลือกสาวสวยกับหนุ่มหล่อออกมาเป็นคู่แรกนะครับ”
ดีเจยื่นไมค์ให้ฟลายด์กับแบงค์คนละอัน ฟลายด์ยืนเอ่ออยู่บนเวทีข้าง ๆ กับแบงค์ พอเธอมายืนข้าง ๆ เขาเธอดูตัวเล็กตัวน้อยไปเลยทันที
“แหม ช่างเป็นคูู่ที่เหมาะสมกันมากเลยนะครับ ผู้หญิงก็สวย ผู้ชายก็หล่อ เอาละครับผมจะขอถามทั้งคู่นะครับว่ามีสเปคในฝันกันบ้างหรือเปล่า ให้สุภาพสตรีเป็นคนตอบก่อนแล้วกันครับ”
“ชอบผู้ชายผิวขาว ตาขีดเดียว สูงกว่าเธอไม่มาก ไม่ชอบผู้ชายกล้ามโต ไม่ชอบคนมีรอยสัก มีความเป็นผู้ใหญ่แต่ไม่ชอบคนแก่”
“ดูท่าแล้วผู้ชายที่ยืนข้าง ๆ เธอตอนนี้น่าจะผ่านคุณสมบัติไม่กี่ข้อเอง สงสัยหนุ่มหล่อในวันนี้คงจะไม่ใช่สเปคสาวสวย แล้วคุณผู้ชายละครับมีสเปคสาว ๆ ในดวงใจเป็นแบบไหน”
“ชอบผู้หญิงผมยาว หน้าม้า อบนิดหน่อย ผิวขาว ตัวเล็ก ไม่แต่งตัวไม่หวีผมก็ยังดูน่ารัก ยิ่งใส่แว่นยิ่งใช่เลยครับ”
ฟลายด์มองหน้าแบงค์ด้วยความสงสัย เขาคงจำเธอไม่ได้หรอกมั้ง ทุกอย่างที่เขาพูดมา มันคือตัวเธอเมื่อสองปีก่อน
“แต่จะว่าไปสเปคของหนุ่มหล่อก็แอบคล้ายสาวสวยคนนี้อยู่นะครับ เพียงแค่ไม่ได้ใส่แว่น หุ่นก็ไม่ได้อวบ นี่ถ้าลองใส่แว่นแล้วเพิ่มน้ำหนักอีกสักนิดนี่ใช่เลยนะครับทุกคนว่าไหม”
“ใช่”
“ทั้งคู่แลกไลน์กันไว้สิครับ เผื่อมีโอกาสสานต่อ”
“ไม่ค่ะ”
“ไม่ครับ”
“งั้นไม่เป็นไรครับ เชิญทั้งสองคนไปพักผ่อนได้ตามสบายเลย”
ฟลายด์ชวนเพื่อน ๆ กลับแต่ละคนเมาหัวทิ่มหัวตำ ยังดีที่ยังมีสามีของเพื่อนมาด้วยไม่อย่างนั้นเธอคงไม่สามารถพาใครกลับห้องได้ ดูสภาพแต่ละคนแล้วแทบจะนอนกองกันอยู่หน้าสถานบันเทิงกันอยู่แล้ว เอาง่าย ๆ เลยนะเมาแล้วเลื้อนฉิบหาย ถึงว่าสามีของแต่ละนางถึงไม่ปล่อยให้มากันเองแค่ผู้หญิง ก็เพราะแบบนี้นี่เอง
พอถึงห้องปุบฟลายด์ก็เดินโซซัดโซเซ ถอดเสื้อผ้าไปด้วยแล้วโยนเสื้อผ้าเตะ ๆ เข้ามุมห้องแล้วเกาะไปตามผนังห้องเดินเข้าไปอาบน้ำ เธอถือคติที่ว่าต่อให้จะเมาหัวถิ่ม ต่อจะให้คลานเข้าห้องน้ำ เธอก็จะต้องลากสังขารเข้าไปอาบน้ำก่อนเข้านอนให้ได้ คนรักความสะอาดก็เป็นงี้ แล้วภาพทุกอย่างก็โดนตัด เหมือนโดนปิดสวิทไฟไปในทันที
นานวันเข้าพ่อของฟลายด์ก็เริ่มเห็นถึงความผิดปกติของคนที่อ้างว่าเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกับลูกสาวของตน วันนี้นึกคิดยังไงไม่รู้อยากมาหาลูกสาวที่ห้อง อยากคุยเรื่องชายหนุ่มคนนั้น ด้วยความที่ผู้เป็นพ่อเดินมาเห็นพอดีจึงทำให้รีบเดินไปทางหน้าห้องลูกสาว ในตอนที่ชายหนุ่มกำลังกอดร่างบางอยู่เสียงประตูห้องก็ถูกเคาะขึ้นมาพอดี“ฟลายด์แกเปิดประตูให้พ่อเดี๋ยวนี้เลยนะ” ผู้เป็นพ่อเคาะประตูห้องลูกสาวด้วยความร้อนรนฟลายด์รีบออกไปเปิดประตูเมื่อแบงค์เข้าไปซ่อนตัวในตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว“มีอะไรหรือเปล่าพ่อ” เธอพยายามซ่อนพิรุธเอาไว้ไม่อยากให้พ่อจับได้ ทว่าพ่อก็รีบเดินเข้ามาพร้อมกับค้นหาแบงค์ตามสิ่งที่เห็น“ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันอยู่ไหน” ผู้เป็นพ่อตวาดลั่น จนคนในบ้านต่างตื่นขึ้นมาดูด้วยความตกใจทำให้แบงค์ต้องออกมายอมรับความผิดของตัวเอง ฟลายด์ถึงกับชะงักค้างไปด้วยรู้กับความผิดของตัวเองดี ก่อนที่ทุกคนจะไปรวมกันที่ลานบ้านเพื่อพูดคุยหาลือกัน“คุณ! นับจากวันนี้เป็นต้นไปให้คุณย้ายไปนอนที่บ้านพักคนงาน และทำงานในไร่กับคนงาน ไม่ต้องมาที่บ้านใหญ่ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผม”ผู้เป็นพ่อที่ได้รู้เรื่องทั้งหมดก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมา
ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก เมื่อเธอได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ขึ้นหน้าห้อง ตึก…ตึก…ตึก…เงาสะท้อนผ่านใต้ช่องประตูหน้าห้อง เท้าที่เธอคุ้นเคยหยุดยืนพิงประตูอยู่หน้าห้อง กำลังแนบใบหูเข้ากับประตูหน้าห้องของเธอ ฟลายด์รีบหันขวับส่งสัญญาณให้แบงค์ ที่ยืนปักหลักอยู่กลางห้องเหมือนไม่คิดจะหลบอีกต่อไป “เงียบ!” เธอรีบกระซิบเสียงเบาก๊อก ก๊อก ก๊อก!“ไอ้ฟลายด์! หลับหรือยัง” เสียงเฟลนด์ดังขึ้นพร้อมกับแรงเคาะประตูหน้าห้องแทบพังฟลายด์รีบวิ่งไปดันชิดประตูเอาไว้ พยายามทำเสียงให้ปกติ “ยัง…มึงมีอะไรหรือเปล่า”“กูได้ยินเสียงเหมือนมีผู้ชายอยู่ในห้องมึง มึงคุยกับใคร” น้ำเสียงเฟลนด์เต็มไปด้วยความกังขา“กูไม่ได้คุยกับใคร แค่…ดูซีรีส์อยู่”ข้างนอกห้องเงียบไปครู่หนึ่ง เหมือนเฟลนด์กำลังชั่งใจว่าจะเชื่อหรือไม่ เธอยืนนิ่ง เหงื่อซึมออกมาตามฝ่ามือ ในหัวมีแต่จะหาที่ซ่อนตัวให้ชายหนุ่มไม่ให้ถูกจับได้ หากพี่ชายขอเข้ามาในห้อง ทุกอย่างจบเห่แน่!“เออ ล็อกประตูดี ๆ ด้วย เข้าใจไหม” สุดท้ายเฟลนด์ก็ทิ้งคำสั้น ๆ ไว้ ก่อนฝีเท้าหนัก ๆ จะค่อย ๆ เดินห่างออกไปทันทีที่เสียงนั้นเลือนหาย ฟลายด์ก็ทรุดตัวลงกับประตู หัวใจ เต้นแ
“ฟลายด์ขอสั่งห้ามพี่ไม่ให้บอกเรื่องนั้น” น้ำเสียงจริงจังเอ่ยบอกกลับไปและบังคับให้ชายหนุ่มทำตามที่เธอว่า “พี่กลับไปก่อนเถอะนะ เดี๋ยวฟลายด์จะหาวิธีบอกเรื่องนี้ให้พวกท่านรู้เอง ถ้าพวกท่านรู้ตอนนี้…พวกท่านเอาฟลายด์ตายแน่”“งั้นพี่จะอยู่ที่นี่แลกกับการไม่บอกใครเรื่องที่เรามีอะไรกันแล้ว” เขาพูดบอกอย่างเป็นต่อ สีหน้าไม่ยอมผ่อนปรน“ไม่ได้”แต่เขากลับก้าวเข้ามาใกล้ กระซิบข้างใบหูเธอ “ถ้าฟลายด์ไม่ให้พี่อยู่…พี่จะบอกพวกท่านเอง ว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากันใน ทางพฤตินัยแล้ว”“พี่นี่มัน! พูดอะไรออกมาไม่คิดหรือไง ถ้าพ่อแม่ฟลายด์ได้ยินเข้าละก็…”“งั้นก็ให้พี่ที่นี่สิ ง่ายที่สุดแล้ว” แบงค์ยกยิ้มมุมปาก แค่นั้นก็ทำให้หญิงสาวหวาดหวั่น“ถ้าคิดว่าทำได้ก็ตามใจ” เธอว่าจบก็เดินเข้าไปด้านในบ้านด้วยความขัดใจเล็กน้อยพี่ชายก็เดินตามมาดู สีหน้าหงุดหงิดไม่คลาย “ยังอยู่เหรอคุณ! ถ้าไม่ใช่เพราะน้องสาวผมยืนยัน ผมคงเรียกตำรวจมาลากคอคุณออก ไปแล้วนะ”“ผมได้ยินว่าคุณอยากพักอยู่ที่นี่ งั้นเอางี้ไหม ถ้าอยากจะอยู่จริง ๆ ก็ไปอยู่บ้านพักคนงานที่ไร่” เฟลนด์เอ่ยเสนอแนะเสียงเข้ม อีกทั้งยังไม่ไว้ใจชายหนุ่ม ถึงเสนอให้ไปอยู่กับคนงาน จ
แบงค์ที่ได้ข้อมูลมาจากหลาย ๆ คนและมีคนที่พามา ก็ทำให้เจอบ้านของฟลายด์จนได้ ทว่าคนที่เขาเจอกลับเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ออกมาเดินอยู่หน้าในจังหวะนี้พอดี ทั้งยังจูงมือมากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ทำให้เขาเข้าใจว่าผู้ชายคนนั้นคือสามีของฟลายด์และลูกสาว ซึ่งมันเป็นเพียงแค่คำโกหกของหญิงสาวเพียงเท่านั้น แต่แบงค์กลับเชื่อสนิทใจเฟลนด์พาลูกสาวตัวน้อยออกมากำลังจะพาไปร้านค้าใกล้บ้าน พอเห็นชายแปลกหน้าร่างสูงยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ตรงหน้าบ้าน สายตาคมกริบจ้องมองมา เขาก็ชะงักทันที“คุณเป็นใคร มาหาใคร?” น้ำเสียงแข็งกร้าวถามขึ้นทันที“ผมมาหา…” แบงค์กำลังจะเอ่ยชื่อของฟลายด์ออกมา แต่ยังไม่ทันจบประโยค“คุณจะมาใครก็ช่างเถอะ ที่นี่ไม่มีคนที่คุณตามหาหรอก และก็อย่ามาแอบอ้างนะ! ว่ารู้จักคนในบ้าน”ลูกสาวตัวน้อยที่เล่นซ่อนอยู่ข้างหลังเกาะชายเสื้อพ่อเอาไว้แน่น โผล่มาแค่เพียงใบหน้าแอบมองชายที่ยืนอยู่หน้าบ้าน ดวงตากลมใสเต็มไปด้วยความงุนงงกระนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผู้ชายกับเด็กคนนั้น “แม่” เด็กน้อยรีบวิ่งเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้น“พี่! เกิดอะไรขึ้น!” หมวยเห็นสามียืนคุยกับใครก็ไม่รู้ตั้งนาน สีหน้าเคร่งขรึม เธอจะรีบวิ่ง
ฟลายด์ที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยร่างกายปวดเมื่อยขบตามตัว ทว่าเธอยังคงหลับตาด้วยอาการมึนหัวจนต้องใช้มือจับที่ศีรษะของตัวเอง ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือพลางหันมองรอบด้านในห้องที่เธอรู้สึกไม่คุ้นเคยเอาเสียเลยเธอที่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองไม่ได้สวมใส่อะไรก็ค่อยๆ ยกผ้าห่มขึ้นเปิดดูเพื่อความแน่ใจว่ามันเกิดกับเธอบ้าง ในใจของเธอมีแต่คำว่าฉิบหายแล้ว เพราะถ้าคนในครอบครัวรู้คงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน“นี่ฉันอยู่ที่ไหนกันเนี่ย?”เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ จากนั้นภาพความทรงจำในหัวก็แล่นเข้ามา ความทรงจำเมื่อคืนตัดขาดไปบางช่วง มีเพียงภาพเลือนรางของแก้วเครื่องดื่ม สายตาคมคู่นั้น และรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจเธอแกว่งไปทั้งที่ไม่อยากยอมรับ เธอบดจูบเขาอย่างเร่าร้อน จนเธอถึงกับชะงักค้างไปเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปมองด้านข้างที่จู่ ๆ ก็มีมือมาพลาดบริเวณช่วงหน้าท้องของตัวเอง ทว่าเธอก็ถึงกับชะงักข้างไปเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคนที่นอนอยู่ข้างกันคือแบงค์ฟลายด์ถึงกับรีบตั้งสติพร้อมกับยกมือของอีกฝ่ายออกห่างจากตัวเบา ๆ ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาเสียก่อน เธอผล็อยตัวลงจากเตียงพร้อมกับหอบหิ้วเสื้อผ้าหายเข้าไปในห้
เธอมองตาเขาปริบ ๆ ไม่รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันควรจะเป็นไปในทางไหน เธอไม่กล้าตอบรับหรือปฏิเสธเขาชายหนุ่มประคองใบหน้าหญิงสาวเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ปฏิเสธหรือขัดขืนเขา ริมฝีปากของเขาแตะลงบนปากนุ่มอย่างนุ่มนวล ฟลายด์ร่างกายแข็งทื่อ ยืนหลับตาปี๋หัวใจเต้นระส่ำด้วยความตกใจ ริมฝีปากของเขาแนบสนิทอยู่กับกลีบปากนุ่ม ปลายลิ้นอันเร่าร้อนสอดผ่านริมฝีปากเธอเข้าไปพันเกี่ยวลิ้นเธออย่างช่ำชองด้วยสัญชาตญาณเธอแนบชิดตัวเขาอย่างไม่รู้ตัว ริมฝีปากร้อนผ่าวของแบงค์กำลังหลอมละลายปากนุ่มของเธอจนเปียกชุ่มภายใต้การควบคุมของเขา เธอแทบขาดอากาศหายใจ เมื่อแบงค์บดคลึงริมฝีปากของเธออย่างหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น หัวใจของเธอหวาดหวั่น แต่ร่างกายกลับแอ่นบดเบียดเข้าหาอ้อมกอดอบอุ่นของชายหนุ่ม“พี่ขอมากกว่านี้ได้ไหม”ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกน้ำเสียงทุ้มที่ถามออกมาแฝงความเซ็กซี่ ราวกับกำลังโลมเลียเรือนกายของเธอแทนปลายนิ้ว จนฟลายด์ขนลุก ใบหน้าเนียนละเอียดถูกเชยให้เงยหน้าขึ้นสบตากับเขาเธอพยักหน้าตอบรับ สอดแขนโอบกอดรอบคอชายหนุ่ม จูบตอบกลับเขา นิ้วเรียวยาวแข็งแรงสอดแทรกเข้าไปประคองท้ายทอยเอาไว้แน่น บดคลึงริมฝีปากบางอย่างเร่าร้อน ก่อนจ







