"เสียใจด้วยจริงๆนะคะ แต่ทีมแพทย์พยายามกันสุดความสามารถแล้วจริงๆค่ะ" มือเล็กประสานกันบีบแน่นจนเกร็งไปหมด ก่อนจะพูดประโยคถัดไปเมื่อเห็นว่าญาติยังคงยืนนิ่ง
"คุณดอกแก้วมีอาการบาดเจ็บสาหัสมาก เธอทนบาดพิษของแผลไม่ไหว..เธอก็เลย.." พยาบาลสาวหยุดประโยคคำพูดไว้เพียงแค่นั้นเมื่อเห็นชายตรงหน้าทรุดตัวลงกับพื้นทางเดินหน้าห้องฉุกเฉิน เธอก้มศีรษะให้เล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกไป
"..." สิงห์ทรุดตัวลงกับพื้นราวกับคนที่ไร้เรี่ยวแรง ขอบตาร้อนผ่าวจนเริ่มแดงก่อนที่น้ำตาหยดใสๆจะไหลอาบสองข้างแก้มต่อหน้าคนเป็นแม่ของดอกแก้วที่ตอนนี้มีอาการป่วยจากโรคมะเร็งระยะสุดท้าย
"ดอกแก้วลูกแม่.." น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะตวัดสายตาดุดันอย่างเอาเรื่องให้กับชายหนุ่มที่นั่งสะอื้นไห้อยู่ที่พื้น
"แม่บอกแล้วใช่ไหม ว่าสักวันจะต้องเกิดเรื่อง แม่ห้ามแล้วว่าอย่าคบกัน อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับลูกแม่...และเป็นแกที่ทำให้ดอกแก้วต้องจากไปด้วยสภาพที่น่าสงสาร ฮึก..ดอกแก้วลูกแม่" เป็นเสียงที่ยังคงฝังแน่นอยู่ภายในใจของสิงห์แม้ว่ามันจะผ่านมากี่ปีก็ตาม
และมันก็คือความจริง ครอบครัวของเขาเป็นมาเฟียที่มักจะมีคู่อริและคนที่ต้องการจะล้มตระกูลเขาคอยจะหาวิธีต่างๆนาๆที่จะเอาชีวิตตนเองและรวมไปถึงคนในครอบครัวทุกคน และดอกแก้วก็เป็นหนึ่งในรายชื่อที่พวกมันต้องกำจัดทิ้งแม้มันจะมีบางอย่างที่ผิดพลาด แต่เขาเชื่อไปแล้วว่าเป็นเพราะเขา เขาทำให้ดอกแก้วต้องxาย
สิงห์กับดอกแก้วคบกันมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่งในวิทยาลัยในใจกลางเมือง และตกลงคบหากันหลังจากที่รู้จักกันมาสี่เดือน จนทั้งคู่ตกลงกันว่าจะแต่งงานกันเมื่อเรียนจบ โดยที่รับรู้มาตลอดว่าทางครอบครัวของสิงห์เป็นมาเฟียที่มีทั้งธุระกิจขาวและดำ และความเสี่ยงที่ดอกแก้วต้องได้รับเมื่อทันทีที่ได้แต่งงานกับสิงห์
ทุกอย่างมันเกินการควบคุมเมื่อรถคันที่ดอกแก้วนั่งถูกดักสุ่มโจมตีในระหว่างที่เดินทางไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า ดอกแก้วกับคนขับรถถูกรถบรรทุกชน สิงห์เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มคู่อริจนรถพลิกคว่ำหลายตลบ และในที่สุดดอกแก้วและคนขับรถก็ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
นับตั้งแต่วันนั้นสิงห์ก็กลับไปอยู่ที่ประเทศบ้านเกิดของพ่อในตอนใต้ เขาใช้ชีวิตในแบบที่ใครๆก็ต่างไม่กล้าเข้าใกล้ สิงห์กลายเป็นคนที่เฉยชา เลือดเย็นและถูกขนานนามว่า..คนไร้หัวใจ..แต่ใครจะรู้ว่าลึกๆแล้วภายใต้ใบหน้าที่นิ่งขรึม เฉยชานั้นกำลังรู้สึกอะไรอยู่
"ไปไหนต่อครับนาย" องอาจเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคนเป็นนายยังคงนั่งนิ่งเงียบ
"ไปดูผับ"
"ครับนาย"
หน้าลานกิจกรรมรับน้องปีหนึ่ง
วันนี้หลังจากที่รุ่นน้องปีหนึ่งได้รับแชทจากรุ่นพี่ว่าให้มารวมตัวกันที่ลานกิจกรรมเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง หลังจากพ้นผ่านช่วงการเรียนการสอน ช่วงเย็นก็มารวมตัวกันตามที่รุ่นพี่ได้บอกไว้
"เอาล่ะทุกคน พี่ให้เวลาสามวันนะครับในการถามชื่อและทำความรู้จักกันให้ครบตามที่พี่ได้ให้ไว้ในสมุดที่แจกไป"
"ใครมีอะไรจะถามไหมครับ" รุ่นพี่ถามขึ้นอีกครั้ง ในเมื่อไม่มีใครถามหรือสงสัยอะไร รุ่นพี่จึงสั่งปล่อยทันที
"งั้นเลิกกิจกรรมครับ" สิ้นเสียงของรุ่นพี่บอก นักศึกษาชั้นปีหนึ่งก็ต่างพากันแยกย้ายกลับหอบ้าง บางคนก็ไปกินเลี้ยงทำความรู้จักกันต่อต่างจากน้ำอิง
ร่างเล็กเดินตรงออกไปที่ป้ายรถเมล์ทันทีพร้อมกับกระเป๋าผ้าใบโปรด แต่ระหว่างที่นั่งรอรถเมล์อยู่นั้น ไลออนชายหนุ่มที่เรียนอยู่คณะเดียวกันและเป็นเพื่อนคนที่นั่งข้างหน้าตนระหว่างทำกิจกรรมรับน้อง เขาสั่งให้คนขับรถจอดที่ตรงหน้าเธอทันทีที่เห็น
"น้ำอิง!!"
"อ้าวไลออน มีอะไรเหรอ"
"ให้เราไปส่งที่อพาร์ตเมนต์ไหมทางผ่านเราพอดี" ไลออนเด็กหนุ่มที่มีหน้าตาหล่อคม เพราะความเป็นลูกครึ่งเลยทำให้เป็นที่สะดุดตากับสาวๆ
"ไม่เป็นไร พอดีเราต้องไปทำงานต่อน่ะ" น้ำอิงเอ่ยปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ
"โอเค พรุ่งนี้เจอกันนะ"
"อือ..ขอบใจนะ" ดวงตาหวานมองตามรถยนต์คันหรูที่ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากป้ายรถเมล์ ทำให้น้ำอิงนึกถึงความจนที่ตนเองเป็นอยู่ขึ้นมาทันที เพราะความจนมันน่ากลัว ยามที่ไม่มีเงินมันก็คือไม่มีจริงๆ ทุกครั้งที่เงินออกก็แบ่งเงินเป็นส่วนๆ อีกส่วนเก็บไว้เพื่อเป็นค่าเทอมและอีกส่วนก็แค่พอได้ซื้อข้าวสาร ไข่ไก่ มาม่า ปลากระป๋องไว้ประทังชีวิต จนกว่าจะถึงรอบเงินเดือนออกอีกครั้ง
ระหว่างที่นั่งบนรถเมล์ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมือเล็กหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นคุณลุงโทรมา จึงกดรับสายทันที
"ค่ะคุณลุง"
"เห็นเงินที่ลุงโอนไปให้หรือยังน้ำอิง" แค่ประโยคนี้ ประโยคสั้นกลับทำให้ขอบตาของน้ำอิงถึงกับร้อนผ่าวขึ้นมา เพราะเธอรู้ดีว่าคุณลุงของเธอก็ลำบากไม่แพ้กัน ยังจะเจียนเงินไม่กี่ร้อยมาให้ ยิ่งสร้างความซึ้งใจและรักลุงของเธอมากขึ้น
"เห็นแล้วค่ะ แต่หนูไม่มีเงินในโทรศัพท์หนูเลยไม่ได้โทรบอกคุณลุงค่ะ"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวลุงจะคอยให้นะ มันอาจจะไม่ได้มากมายอะไร ก็รับไว้เถอะนะ"
"ขอบคุณคุณลุงมากๆนะคะ" น้ำอิงพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
"อือๆ แค่นี้นะลุงกำลังจะไปทำงานต่อ"
"ค่ะคุณลุง"
ปลายนิ้วเรียวกดปิดโทรศัพท์ก่อนจะยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่มันกำลังไหลออกมาจากหางตา นั่งมาแค่ไม่กี่ป้ายรถเมล์ก็ถึงที่ทำงานของเธอ ผับโซแอล
น้ำอิงหยิบพวงกุญแจมาเปิดประตูห้องวางถุงกระดาษลงบนโซฟา แล้วก็ตรงไปยังห้องนอนก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงไม้เล็กๆที่มีฟูกบางๆอยู่ เธอนอนลืมตามองเพดานที่มีพัดลมหมุนกระจายความเย็นดั่งกับลมเย็นในหน้าร้อน ด้วยสมองที่ว่างเปล่าก่อนจะผล็อยหลับไปในที่สุดอพาร์ตเมนต์ชั้นแปดตึกบี01.20น. "ห้องนี้?" ทั้งๆที่ตนเองเพิ่งพูดไปว่า เธออย่ามารักฉันเลย แต่เขากำลังทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม"ครับนาย" ชนินทร์ตอบเสร็จเขาก็หันไปงัดลูกบิดเพื่อเปิดประตูห้องให้กับเจ้านาย"ทำไมไม่เปิดดีๆ" สิงห์พูดด้วยน้ำเสียงที่สงสัยปนหงุดหงิดเมื่อเห็นคนของตนกำลังงัดห้องของน้ำอิง"ผมไม่ได้เอากุญแจผีมาครับ ขอโทษครับ!" ชนินทร์พูดแล้วก้มศีรษะลงเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิด แต่สิงห์ก็ยกมือขึ้น เพื่อบอกว่าไม่เป็นไร พร้อมกับพูดขึ้นมาก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง"จัดการประตูให้เรียบร้อย""ครับนาย"หลังจากที่สิงห์ได้อ่านประวัติของน้ำอิงที่ถูกวางใส่ซองเอกสารสีน้ำตาลไว้บนหัวเตียง ไม่บอกก็รู้ว่าองอาจเป็นคนเอาวางไว้ให้เขาตอนที่เขากำลังอาบน้ำอยู่ และสิ่งที่เขาอ่าน มันทำให้เขารู้สึกอยากจะมาหาน้ำอิงเสียดื้อๆในตอนกลางดึกแบบนี้ทันทีที่สิงห์ก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องที่
ภายในห้องรับแขกคอนโดหรูของสิงห์หลังจากวางสายจากหัวหน้าแผนก น้ำอิงเดินเอาชามโจ๊กกับแก้วน้ำไปล้างแล้วเดินมานั่งที่โซฟาตัวยาว กดเข้ากลุ่มแชทเพื่อถามเรื่องที่ตนเองมาอยู่ที่ห้องของลุงได้ยังไงLINE (เพื่อนกัน3)น้ำอิง "จอม ไลออน เรามาอยู่ที่ห้องลุงได้ยังไงเหรอ"น้ำอิง "แล้วจอมกับไลออนรู้จักลุงด้วยเหรอ"จอม "ไลออน.."ไลออน"ลุง?..อ๋อหมายถึงคนที่มารับเธอใช่ป่าว"น้ำอิง "ใช่ นายรู้จัก?"ไลออน"เดี๋ยวโทรหาดีกว่า เรื่องมันยาว"น้ำอิง "อือ ตอนนี้เลยนะ"ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงหลังจากวางสายจากไลออน น้ำอิงนั่งนิ่งอยู่นาน ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่ความว่างเปล่า นี่เธอกำลังจีบมาเฟียอยู่เหรอ แถมยังรวยมีเงินมากมาย ลุงเขาจะคิดว่าเธอหวังสมบัติหรือเปล่านะ เธอคิดวนเรื่องของสิงห์จนท้องเริ่มร้องอีกครั้ง"กองทัพต้องเดินด้วยท้อง"เธอพูดเสร็จก็ตรงไปที่ครัวทันทีเปิดตู้เย็นและตู้ต่างๆเพื่อดูว่าพอมีอะไรที่พอจะทำกินได้บ้าง ตู้เย็นที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบต่างๆ อาหารสำเร็จรูปเต็มตู้ ทำให้เธอถึงกลับนึกไม่ออกว่าจะทำอะไร เพราะมีแต่ของน่ากินทั้งนั้น"มาม่าใส่ไข่ใส่ผักดีที่สุด..อืมม ไม่ได้สิต้องทำอะไรให้ลุงกินด้วย""ต้มยำกับไข่เจ
17.30น.เปลือกตาบางค่อยๆลืมตาขึ้นมา แสงสลัวจากโคมไฟที่โต๊ะหัวเตียงพอทำให้เธอได้เห็นว่าที่นี่ที่ไหน ถึงแม้เธอจะเคยเข้ามาแค่ครั้งเดียวก็ตาม"ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นมากินข้าวจะได้กินยา" เป็นจังหวะที่สิงห์เปิดประตูเข้ามาพอดี ก็เห็นน้ำอิงนอนลืมตาอยู่"ไม่ต้องถามเยอะ" สิงห์พูดขัดทันทีเมื่อเห็นว่าน้ำอิงกำลังจะอ้าปากถามตนเอง"ฉันไม่ป้อนหรอกนะ กินเอาเอง" สิงห์วางโจ๊กกับยา ที่เขาสั่งคนของเขาให้ไปซื้อเอาไว้ให้ พร้อมกับถุงกระดาษที่มีเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงวางไว้ที่ข้างเตียงก่อนจะเดินไปนั่งโซฟาขนาดกลางที่ปลายเตียง"ก็ได้ค่ะ ไม่ถามอะไรก็ได้แล้วก็กินโจ๊กก็ได้แต่ไม่กินยาได้ไหมคะ""เรื่องมาก" ถึงจะได้ยินคำบ่น แต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก 'คนอะไรแก่แล้วยังขี้บ่น แต่ก็ยังดูดี'สิงห์เหมือนโดนสะกดให้หยุดมองใบหน้าหวานที่กำลังอมยิ้มไปกินโจ๊กไปแถมยังฮัมเพลงอีกต่างหาก"นี่เธอป่วยจริงไหม""ป่วยจริงสิค่ะ แต่ตอนนี้หายแล้วเพราะหนูมียาดี" สิงห์ถึงกลับเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนจะหรี่ตาอย่างจับผิด"ฉันเพิ่งให้ยาเธอและเธอก็ยังไม่ได้กิน" น้ำเสียงที่ราบเรียบแต่ก็แฝงไปด้วยความสงสัย"อย่าทำหน้าเหมือนอยากรู้คำตอบแบบนั้นสิ
ใต้ตึกคณะลมเย็นๆ พัดผ่านใบหน้าหวานที่ตอนนี้เอากระเป๋าผ้ามาเป็นหมอนหลับตาสนิทพร้อมกับลมหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอ"โทรหาพี่ชายแล้วใช่ไหม""อือ..ขอบใจนะที่ช่วยเรา""น้ำอิงก็เพื่อนเราเหมือนกัน ถ้าน้ำอิงสมหวังฉันก็ดีใจกับน้ำอิงและก็พี่ชายนายด้วย""เราน่ะ..อยากให้พี่เราได้มีความสุขเสียที" มือเล็กยกขึ้นตบไปที่หัวไหล่หนาเพื่อเป็นการปลอบใจผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง รถยนต์คันหรูตบไฟเลี้ยวข้างซ้ายก่อนจะชะลอแล้วจอดข้างริมฟุตบาท สายตาคมมองภาพตรงหน้านิ่งๆก่อนเปิดประตูลงไปหาน้องชายที่กำลังเดินมาที่รถ"นึกยังไงวันนี้ให้พี่มารับ""คืออย่างนี้นะครับ น้ำอิง เพื่อนผมเขาดูไม่ค่อยสบายแล้วตอนนี้ก็หลับสนิท ผมกับเพื่อนผมเลยอยากจะให้พี่สิงห์ช่วยไปส่งเธอหน่อยได้ไหมครับ"เป๊ะ!.. ไลออนพูดขึ้นในใจ ในขณะที่ทำสายตาปริบๆเพื่ออ้อนพี่ชาย"แล้วสองคนจะไปไหนกัน""อ๋อ..ผมกับเพื่อนมีเขียนใบงานส่งเย็นนี้ครับ แล้วเราจะทำเผื่อน้ำอิงด้วยครับพี่สิงห์""อืม" สิงห์ตอบรับน้องชายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ"เดี๋ยวผมส่งโล..""ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่จัดการเอง""ครับ!!"วันนี้เหมือนทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่แม่โซแองวางไว้ ทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดีรวมไ
Trigger WarningBlood, กักขังหน่วงเหนี่ยวบรรยากาศภายในรถที่ค่อนข้างเงียบ คนเป็นน้องชายอย่างไลออนเป็นคนที่พูดไม่ค่อยเก่ง แต่ในเมื่อเขาได้เข้าร่วมแผนการนี้แล้วยังไงก็คงจะหยุดไม่ได้แล้ว แต่ทว่ากลับเป็นสิงห์พี่ชายของเขาเป็นคนเริ่มบทสนทนาก่อน"พี่..ขอโทษ..ที่ไม่ได้อยู่ดูแลนาย" ประโยคแรกที่พี่ชายเขาพูด กลับเป็นเรื่องราวของพวกเขาสองคนเมื่อสิบปีก่อน ไลออนนิ่งเงียบไปไม่กี่วิก็รีบตอบกลับพี่ชายของตนเองทันที"พี่สิงห์ไม่เคยผิด ทุกคนไม่มีใครผิด เพียงแต่ทุกคนล้วนต้องเดินไปตามเส้นทางที่ควรจะต้องเป็นไป" ไลออนพูดพลางหันไปมองหน้าพี่ชายของตนเอง"ไปเพื่อที่จะได้กลับมา เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งยังไงล่ะครับ" แววตาที่สื่อออกไป มีทั้งความเป็นห่วง คิดถึงและ..เขาอยากจะกอดพี่ชายคนนึ้หลังจากที่ไม่ได้กอดมาสิบปีสิงห์หันหน้ามามองน้องชายของตนเอง เขาเข้าใจในสิ่งที่ไลออนต้องการจะสื่อ สุดท้ายคนปากหนักอย่างพี่ชายเขาก็หันหน้าไปมองริมทางผ่านกระจกสีดำทึบราวเกือบครึ่งชั่วโมงรถยนต์คันหรูก็ขับเคลื่อนมาจอดที่หน้าคณะที่ไลออนเรียนอยู่ และเมื่อรถยนต์จอดสนิท ไลออนก็ก้าวเท้าลงจากรถพร้อมสายตาที่สอดส่องมองหาใครบางคน"ยังไม่มาอีกเห
"...ลุง!!"สิงห์ได้ยินเสียงคนตรงหน้าเรียกเป็นครั้งที่สอง เขาจึงล้มตัวลงนอนต่อพร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขานอนโดยที่ไม่ได้ห่มผ้าเลยด้วยซ้ำแถมยังนอนถอดเสื้ออีกด้วย"นี่ลุง..ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ" เธอถามด้วยความสงสัยเพราะว่าก่อนหน้านี้เธอเห็นว่าเขาขึ้นรถเมล์ นั่นก็น่าจะหมายถึงว่าลุงของเธอคนนี้ไม่น่าจะรวย..เอ๊ะ!..หรือว่า"ลุง เป็นเจ้าของห้องนี่เหรอคะ"สิงห์ที่ได้ยินคำถามถึงสองคำถามก็ทำให้เขาถึงกับพ่นลมหายใจออกมาก้อนใหญ่ๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งจนทำให้ผ้าห่มมากองไว้ที่หน้าตักของตัวเอง"ห๊ะลุง..โป๊!!" ถึงจะรู้สึกตกใจกับคนตรงหน้า แต่สายตาก็อดไม่ได้ที่มอง ผู้ชายอะไร..ดูดีเป็นบ้าอย่างกับหนุ่มๆที่เธอเคยเห็นตามโซเชียลที่เต้นลงแอปแล้วโพสโชว์มัดกล้าม วันนี้เธอเพิ่งจะเห็นของจริง ทำเอาตาค้างเลยแหะ..สิงห์ที่เห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าเอาแต่จ้องมองช่วงอกแกร่งของตัวเอง เขาจึงนึกอยากจะทำอะไรที่มันสนุกๆขึ้นมาแล้วสิ เขาลุกขึ้นจากเตียงขนาดคิงไซต์ แล้วเดินตรงเข้ามาระยะประชิด จนทำให้น้ำอิงก้าวถอยหลังจนไปชนกับประตูก่อนจะถูกแขนแกร่งค้ำยันประตูเอาไว้แล้วก้มหน้าลงมาที่ใบหูเล็กแล้วถามออกไปด้วยน้ำเสี