หญิงสาวในวัย 19ปี ยืนส่องกระจกเพื่อตรวจความเรียบร้อยเครื่องแต่งกายของชุดนักศึกษา เธอสวมใส่เสื้อในขนาดที่พอดีตัว กระโปรงพลีทสีดำสนิท ผิวขาวผุดผาดราวกับจะเรืองแสงได้ ใบหน้าเรียวเล็ก ผมสีน้ำตาลเข้มธรรมชาติถูกมัดรวบขึ้นเป็นหางม้าเรียบตึง คิ้วเรียงสวย แก้มป่องนิดๆ ดวงตาเป็นประกาย กำลังยืนยิ้มให้กับตัวเองในกระจก
"เรียบร้อย..เยี่ยม"
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของเธอ..น้ำอิง พิกุลงาม นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง ถือกระเป๋าผ้าใบละไม่ถึงร้อย เดินลงมาจากชั้นแปด เพราะอะไรงั้นเหรอ 'ลิฟต์เสีย' ดันมาเสียในวันแรกของการเปิดเทอมคิดดูแล้วเธอคงจะดวงดีใช่เล่น
น้ำอิงใช้ชีวิตตัวคนเดียวได้สองปี พ่อแม่ของเธอเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมกัน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ญาติพี่น้องที่พอได้พึ่งพาก็มีเพียงลุงของเธอที่ทำงานหาเช้ากินค่ำ คอยช่วยเหลือเท่าที่ลุงพอจะทำให้ได้ เช่นการประชุมผู้ปกครอง รวมไปถึงยามที่น้ำอิงเจ็บไข้ได้ป่วย
ก้าวเล็กเดินจนมาถึงที่ใต้ตึกและเดินต่อไปอีกประมานสองเมตรก็จะเป็นป้ายรถเมล์ รอไม่นานนักรถเมล์ประจำทางสายที่เธอจะต้องขึ้นก็มา วันเปิดวันแรกสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นก็คือ รถติด
"ชิดในเลยครับ ชิดใน" เป็นเสียงของกระเป๋ารถเมล์เมื่อมีคนขึ้นรถมาใหม่
"อ๊ะ! ขอโทษค่ะ" ฉันเอ่ยขอโทษทันทีที่เท้าของตนเองไปเหยียบเท้าของผู้ชายคนนึงเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ
"อืม.." เป็นเสียงตอบรับที่ครางออกมาจากลำคอแกร่งที่เต็มไปด้วยเส้นเลือด และมันก็สามารถเรียกให้แววตาใสคอยหันไปมองตลอดจนถึงมหาวิทยาลัยที่น้ำอิงเรียน
"หล่อจัง" น้ำอิงเอ่ยพูดกับตัวเองทันทีที่ลงจากรถเมล์ และก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ชายหนุ่มคนนั้นหันมามองผ่านหน้าต่างบนรถเมล์ สองคนสบตากันนิ่งจนรถเมล์ขับเคลื่อนออกจากป้ายรถเมล์สองคนนั้นถึงได้ละสายตาออกจากกัน
"นายครับ! คุณท่านโทรมาครับบอกว่ามีเรื่องด่วนให้กลับบ้านทันทีที่เสร็จธุระครับ" องอาจมือขวาที่ยืนอยู่ข้างหลังพูดขึ้นหลังจากได้อ่านข้อที่ถูกส่งมาจากนายใหญ่ นั่นก็คือพ่อของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั่นเอง
สิงห์ เสนีต์ ลูกชายคนโตของตระกูลเสนีต์ ใบหน้าคมเข้มสมชายชาตรี คิ้วเข้มพาดเฉียง ดวงตาคมกริบน่าค้นหาดุจเทพบุตรอย่างไรอย่างนั้น สิงห์ไม่ได้หันหน้าไปทางมือขวาแต่ก็ได้ยินชัดเจนทุกคำที่องอาจพูดออกมา เพราะสายตาเขากำลังเหม่อมองไปที่มหาวิทยาลัยตรงหน้า
สาเหตุที่เขามาขึ้นรถเมล์ในวันนี้ เพราะเขาคิดถึงอดีต..ที่ต่อให้ผ่านมากี่ปี เขาก็ยังไม่อาจลืมมันได้แม้แต่วันเดียว อดีตของคนรักเก่า วันที่เขาได้พบกับดอกแก้วครั้งแรกบนรถเมล์สายนี้ในวันเปิดเทอมวันแรก และรถเมล์สายนี้มักจะแน่นไปด้วยผู้คนเพราะเป็นสายที่นานๆจะมาสักคัน เมื่อรถเมล์มาก็เป็นที่แน่นอนว่าทุกคนก็ต่างแย่งกันขึ้นจนผู้คนเบียดเสียดแออัดจน..เท้าเล็กของดอกแก้วก็เหยียบเข้ากับเท้าของเขาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน เหมือนกับเด็กผู้หญิงคนที่เขาพึ่งเจอในวันนี้
"ลงป้ายหน้า" เสียงทุ้มเอ่ยพูดกับองอาจก่อนที่องอาจมือขวาจะเดินแทรกตัวเพื่อเปิดทางพร้อมกับไปกดกริ่งเพื่อเป็นสัญญาณว่าจะลงป้ายหน้า
ขายาวก้าวลงจากรถเมล์แล้วเดินไปขึ้นรถยนต์คันหรูที่ขับต่อท้ายรถเมล์ สิงห์หยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะกดหมายเลขปลายทาง รอไม่นานปลายสายก็กดรับทันที
"ไง ลูกชาย" เสียงแหบเอ่ยทักทายคนเป็นลูกทันที เพราะสิงห์ถ้าไม่มีอะไรที่สำคัญเขามักจะไม่พูดหรือโทรหาคนเป็นพ่ออย่างแน่นอน
"ผมจะกลับมาอยู่ไทย" น้ำเสียงเรียบนิ่งพูดขึ้นสั้นๆ
"พ่อดีใจนะ ที่สิงห์ทำใจได้แล้ว พ่อจะจัดการทุกอย่างให้" น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดีใจ นานกี่ปีแล้วนะที่ลูกชายเขาไปอยู่ที่ต่างประเทศตั้งแต่วันนั้น
"ขอบคุณครับพ่อ" นิ้วเรียวกดวางสาย แล้วนั่งพิงเบาะก่อนที่จะหลับตาลง 'ลาก่อนดอกแก้ว ผมจะเก็บคุณเอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ' ได้เวลาที่เขาต้องเริ่มชีวิตใหม่เสียที
สิบปีที่แล้ว
หน้าห้องฉุกเฉิน
เสียงผละประตูที่เปิดออกมาจากห้องฉุกเฉิน ทำให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่หน้าห้องรีบลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินไปหาพยาบาลสาวที่กำลังยืนนิ่งก่อนจะพูดออกมาด้วนน้ำเสียงที่บอกถึงความเสียใจ
"เสียใจด้วยจริงๆนะคะ แต่ทีมแพทย์พยายามกันสุดความสามารถแล้วจริงๆค่ะ" มือเล็กประสานกันบีบแน่นจนเกร็งไปหมด ก่อนจะพูดประโยคถัดไปเมื่อเห็นว่าญาติยังคงยืนนิ่ง
ใบหน้าหล่อซุกลงไปเชยชมเนินอวบที่บอบช้ำจากการร่วมรักกันกับเขาที่แสนยาวนาน เรียวลิ้นสากตวัดเลียตามรอยแยกของกลีบเนื้องามที่เขาหลงใหล จนน้ำอิงต้องครางกระเส่าออกมาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่"อื้อ...เฮีย"สิงห์ยังคงตั้งหน้าตั้งตาใช้ปากดูดเม้มปุ่มกระสันสีสวยแรงๆ ปรนเปรอจนเธอเกร็งกระตุกซ้ำๆ แต่เขาก็ยังไม่หยุดก่อนจะใช้ลิ้นสากเข้าไปทักทายผนังเนื้ออ่อนด้านใน จนร่างบางเกร็งกระตุกอีกครั้ง..น้ำหวานไหลออกมาให้เขาได้ดูดดื่มจนหนำใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่นอนดิ้นพล่านด้วยความกระสันซ่านจนเนินอกอวบกระเพื่อมไหวไปตามแรงหอบหายใจ ดวงตาที่ฉ่ำปรือกำลังเรียกให้เขาเอาตัวตนสอดใส่ 'เดี๋ยวนี้' แน่ๆปากหยักกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจกับใบหน้าของคนที่นอนหอบอยู่ก่อนจะก้มลงไปจูบริมฝีปากอิ่ม ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปเกี่ยวเกี่ยวตวัดลิ้นนุ่มในโพรงปากหวาน มือทั้งสองยกขึ้นมาบีบเคล้นความนุ่มนิ่มทั้งสองย้ำๆ ก่อนจะขยำไปทั่วเรือนร่างบาง ปลุกเร้าอารมณ์สวาทขึ้นมาอีกครั้ง"อื้มม...""อื้อ...อ"เสียงครางต่ำในลำคอดังขึ้นทันทีที่สิงห์กดแก่นกายใหญ่เข้าไปในช่องทางรักที่คับแน่นอีกครั้ง สองแขนแกร่งยันกายสองข้าง แล้วก้มลงมองที่จุดเชื่อมติดกัน
ตอนพิเศษNCร่างหนาที่เห็นแก้มขาวๆกลายเป็นสีแดงระเรื่อก็จับร่างบางพลิกให้นอนหงายแล้วขึ้นคร่อมกดร่างไว้บนเตียงนุ่มจ้องมองไปนัยน์ตาใสที่ตอนนี้กำลังหลบสายตาของตนเองอยู่"ไม่ตอบต้องโดนทำโทษนะคะ""คนเจ้าเล่ห์..."มือใหญ่ลูบไล้กลีบปากงามทั้งบนและล่างอย่างเนิบนาบก่อนจะก้มดูดดึงแล้วสอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวพันเรียวลิ้นนุ่มอย่างดูดดื่มสลับบดจูบอย่างเร่าร้อนทำให้น้ำลายสีใสไหลเลอะมุมปากของทั้งสอง ภาพที่ทั้งสองเห็นยิ่งทำให้อารมณ์พุ่งสูงขึ้นอีกเท่าตัว มือเล็กหนึ่งข้างสอดเข้าไปขยุ้มเส้นผมดำในขณะที่อีกมือลากไล้สัมผัสแผ่นอกแกร่งภายใต้ชุดนอนบางสีเข้ม ลมหายใจถูกพ่นแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อน้ำอิงสัมผัสได้ว่า มือใหญ่ทั้งสองกำลังทำหน้าที่ปลดเปลื้องเสื้อผ้าเนื้อบางให้พ้นจากร่างขาวเนียนของเธออย่างเร่งรีบสิงห์ก้มใบหน้าหล่อซุกไซ้หาคู่เนินอกอวบแล้วใช้ริมฝีปากร้อนขบเม้มทิ้งรอยแดงทั่วอกสวย มือใหญ่บีบเคล้นอกอวบอย่างหนักหน่วงตามแรงกระสันที่พุ่งสูงก่อนจะดันร่างของตนเองให้ผละออกจากร่างบางกระดุมเสื้อของชุดนอนถูกปลดออกอย่างรวดเร็ว ยืนอวดกล้ามหน้าท้องแน่น มันดูเซ็กซี่แล้วยิ่งร้อนแรงมากขึ้นเมื่อน้ำอิงเห็นรอยสักที่สีข้างด้า
Trigger WarningฺBlood,Murder /เลือด/การฆาตกรรมการทรมาน /ศพตามร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยช้ำและร่องรอยของการทุบตีนอนเอาใบหน้าเปื้อนเลือดแนบไปกับพื้นดินที่มีแผ่นพลาสติกอย่างหนาปูรองเป็นบริเวณกว้าง"ยิ่งมึงเงียบ มึงก็จะยิ่งโดนทรมาน..แต่ถ้ามึงบอกกูว่าใครส่งมึงมา กูจะสงเคราะห์ให้มึงได้ตายเร็วขึ้น""..." เบ้าตาบวมปูดจนปิดลูกกะตาไปหนึ่งข้าง เหลือบตาขึ้นมองคนร่างบางด้วยความเกรงกลัวแต่ถึงแบบนั้น เขาก็ยังไม่ยอมพูดออกมาว่าใครเป็นคนสั่งน้ำอิงยื่นมือเล็กที่สวมใส่ถุงมือกระชากเส้นผมที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดให้เงยหน้ามองมาที่ตนเอง ก่อนจะหยิบมีดปลายหยักไม่ได้มีความคมมากนักแต่นั่นก็เป็นเหล็กเนื้อดีที่ถูกตีด้วยฝีมือช่างตีเหล็กที่มีฝีมือดีที่สุดในอิตาลี จ่อปลายแหลมไปที่ลูกกะตาแล้วค่อยๆทิ่มลงไปอย่างช้าๆและลึกลงไปจนเกือบครึ่งเล่ม"อ๊ากกก!! ฆ*ากูซะ มึงฆ*ากูแลย" เสียงโหยหวนที่เจ็บปวดดังก้องไปทั่วบริเวณห้องใต้ดิน"แค่พูดออกมา แล้วกูจะฆ*ามึงเพื่อให้มึงพ้นจากการทรมานนี้เอง"เสียงเล็กที่ฟังดูหวานหู แต่ในเวลานี้กลับเต็มไปด้วยอำนาจและน่ายำเกรง ทำเอาลูกน้องที่ยืนอยู่ต่างพากันขนหัวลุก ไหนจะภาพที่น่าสยดสยองตรงหน้านี้อี
สามปีต่อมา"เห็นลีโอกับน้ำป่าไหม" น้ำอิงเดินออกมาบริเวณชั้นล่างของคฤหาสน์ เพื่อมองหาสองหนุ่มฝาแฝด เมื่อไม่เห็นจึงได้เอ่ยถามบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่บริเวณนี้"อยู่ที่สนามยิงปืนครับนายหญิง" หนึ่งในบอดี้การ์ดพูดพร้อมกับก้มศีรษะเพื่อหลีกเลี่ยงการมองหน้าคนเป็นนายหญิง เป็นอีกหนึ่งกฏที่บอดี้การ์ดทุกคนต้องรู้ ห้ามมองหรือสบเด็ดขาด"ขอบใจ"สนามยิงปืนปัง! ปัง! ปัง!เสียงยิงปืนหลายนัดดังไล่เลี่ยกันพุ่งไปที่เป้าที่แขวนห่างหลายสิบเมตร สองหนุ่มหน้าตาเหมือนกันต่างหันหน้ามองกันแล้วก็ยิ้มด้วยความภูมิใจ เพราะทั้งคู่ทำได้ดีมาก ก่อนจะหันหลังไปมองที่ด้านนอกห้องเก็บเสียงก็เห็นแม่ของตนเองยืนปรบมืออยู่ ทั้งสองจึงรีบวางอุปกรณ์ทั้งหมดแล้วสาวเท้าเล็กออกไปหาทันที"มีอะไรเหรอครับแม่มาหาผมสองคนถึงที่นี่เลย" ลีโอ"หนุ่มๆลืมซะแล้ว" น้ำอิงพูดพร้อมกับยิ้มน้อยๆให้กับสองแฝด"?โอ๊ะผมจำได้แล้ว" น้ำป่าเป็นคนพูดขึ้นเมื่อนึกได้ว่าต้องทำอะไร"อ๋อ ได้เวลาแล้วเหรอครับแม่" ลีโอพูดพลางก้มดูเวลาที่นาฬิกาที่ข้อมือ"แม่เผื่อเวลาให้หนุ่มๆอาบน้ำแต่งตัวหล่อๆไงครับ""งั้นไปกันครับ" น้ำป่า"ขอผมอุ้มน้องได้ไหมฮะ" ลีโอ"ทำไมจะไม่ได้ล่ะลูก""อุ้
Trigger Warningโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน"แม่จะไปไหนครับ" จังหวะที่ลีโอเดินลงมาที่ชั้นล่างพอดี และเห็นว่าแม่กำลังวิ่งออกไปที่หน้าทางออกจึงได้เอ่ยถามออกไปสองเท้าเล็กหยุดกึก! แล้วหันหลังกลับไปมองตามเสียงก่อนจะเดินไปหาแฝดคนพี่ที่มีหน้าตาเหมือนกับพ่อราวกับแกะ ดวงใจดวงน้อยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่บริเวณรอบดวงตาทั้งสองข้าง แต่เธอก็สามารถเก็บอาการได้เป็นอย่างดีก่อนจะนั่งลงยองๆแล้วตอบออกไป"แม่จะ..ไป" มือเล็กๆจับลงที่กลุ่มผมเส้นสีดำ ที่สั่นเล็กน้อย บอกถึงอารมณ์ของคนร่างบางได้เป็นอย่างดี"ไปไหนครับแม่""แม่จะรีบกลับมา ลีโอดูแลน้องด้วยนะครับ" ความรู้สึกที่เคว้งคว้างภายในใจของน้ำอิง ทำให้เธอรีบลุกขึ้นยืนก่อนจะรีบวิ่งไปที่รถทันทีหลังพูดกับลีโอ"...แม่.." ลีโอมองตามแผ่นหลังแม่ ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่สงสัย เพราะวันนี้สีหน้าของแม่ดูเหมือนคนที่กำลังจะร้องไห้ยังไงอย่างงั้นความร้อนของเปลวไฟที่มาจากรถทำให้ใบไม้แถวนั้นไหม้ไปด้วยกลุ่มควันสีดำที่กำลังลอยขึ้นบนท้องฟ้า บอกได้ถึงเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง รถกันกระสุนที่ทำมาจากวัสดุพิเศษทำให้ไฟลุกไหม้อยู่ที่บริเวณนอกตัวรถและที่ล้อยางเท่านั้
ห้าปีต่อมาเราทั้งสองคนช่วยกันเลี้ยงลูก จนกระทั่งครบหนึ่งขวบฉันกับเฮียสิงห์ก็หาพี่เลี้ยงได้อย่างเหมาะสมคนที่มีคุณสมบัติพอ ลีโอกับน้ำป่าเริ่มโตขึ้นและมีพัฒนาการที่ดีกว่าเด็กคนอื่นๆที่อายุเท่ากัน พูดชัด เรียนเก่ง ส่วนลักษณะนิสัยของลูกทั้งสอง คุยเก่ง ยิ้มง่ายฉันยังไม่เคยเห็นลูกทั้งสองโกรธกันหรืองอนกัน ไม่เคยเห็นเลยแม้สักครั้งเดียว และที่สำคัญหน้าตาของทั้งสองจะไปทางเฮียสิงห์เสียมากกว่า หล่อสุดๆสูงยาวเข่าดี โตขึ้นคงจะหล่อกว่าเฮียสิงห์แน่นอนพิธีแต่งงานถูกเลื่อนมาจัดในปีนี้ และฉันขอเฮียสิงห์ให้จัดแบบเรียบง่าย แม้เฮียสิงห์จะไม่เห็นด้วยในตอนแรกก็ตาม และในเดือนหน้าก็จะเป็นพิธีรับตำแหน่งนายใหญ่ ในส่วนของประเทศอิตาลีและไลออนเป็นคนขึ้นรับต่อจากคุณตาที่ตอนนี้ท่านได้บอกว่าสมควรแก่เวลาแล้วที่จะมีคนรับช่วงต่อจากท่าน ส่วนเฮียสิงห์เป็นนายใหญ่ดูแลในส่วนของประเทศไทยระหว่างที่เฮียสิงห์กำลังนั่งอ่านอีเมล์ที่หน้าจอของโทรศัพท์มือถือ ก็เป็นสายเรียกเข้าของน้ำอิงที่โทรเข้ามา แรงสั่นเพียงแค่เสี้ยววิเท่านั้นเฮียสิงห์ก็กดรับสายทันที"เฮียถึงไหนแล้วคะ""เฮียใกล้จะเลี้ยวทางเข้าแล้วคะ หรือหนูกับลูกอยากจะกินอะไรเพิ่ม