แชร์

2 อนุสาม

ผู้เขียน: บ้านเขมปัณณ์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-06 23:04:29

จนเสียขวัญ นางพอจะล่วงรู้ว่าการนั่งเกี้ยวเข้าคฤหาสน์สกุลใหญ่ซึ่งทำการค้าทั้งแคว้นและต่างแดน นับว่าเป็นความโชคดียิ่ง และนางกำลังจะเป็นอนุคนใหม่ของเจ้าบ้านวัยสี่สิบเศษ อีกฝ่ายคือ มู่ป๋อจาง บุรุษที่ขุนนางในราชสำนักยังต้องเกรงใจ

        และทั้งนี้ หญิงสาวไม่ได้อ่อนหัดเรื่องการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งของสตรีและบุรุษ นับแต่มาอยู่ในร่างนี้ เป็นเวลาเกือบหนึ่งปีเต็มที่นางถูกอบรมอย่างหนัก ทั้งเตรียมพร้อมเพื่อทำให้ร่างกายงดงามแสนอรชรเป็นที่ต้องตาต้องใจบุรุษเพศ หรือแม้แต่สตรีด้วยกัน เพื่อซื้อไปเป็นอนุในเรือน ส่วนมากก็เพื่อประดับบารมี ให้พวกนาง ร้องรำเพลง ต้อนรับแขกคนสำคัญ หรือไม่ก็มีไว้สำหรับระบายความใคร่ บางครอบครัวยังแบ่งบันอนุตนกับคนในเรือน ระหว่างพี่น้อง หรือ   แม้กระทั่งบิดากับบุตรชาย เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นอนุ อย่างไรก็เป็นสตรีที่มีเกียรติมากกว่าสาวใช้ห้องข้างเพียงเล็กน้อย ถึงอย่างนั้น หากเปรียบกับนางโลม สตรีเหล่านี้ย่อมสามารถลืมตาอ้าปากได้ ทั้งยังมีสาวใช้ไว้คอยปรนนิบัติ ได้รับเงินเดือน มีเรือนของตน หรือบางคนวาสนาดีสักหน่อย เมื่อใดมอบทายาทชายให้แก่สามี พวกนางย่อมมีชะตาชีวิตที่ดีราวกับหงส์ติดปีก  

        เมื่อนั่งเกี้ยวเจ้าสาวมาได้สักระยะหนึ่ง เหมียวจื่อเผยก็ถูกขู่แกมบังคับให้ไปขึ้นรถม้าที่จอดรออยู่ แน่นอน เรื่องนี้มีบางสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล

        “แม่บ้านเกิดสิ่งใดติดขัดเยี่ยงนั้นหรือ” เหมียวจื่อเผยถามสตรีวัยกลางคน

        แม่บ้านถอนหายใจออกมาหลายเฮือกใหญ่ เงินนางก็รับมาแล้ว อีกทั้งเรื่องนี้ ผู้อยู่เบื้องหลัง กำชับนางว่า ห้ามเปิดปากบอกสิ่งใดเด็ดขาด

        “ข้าไม่ทราบ รู้แต่ว่า เมื่อนั่งเกี้ยวออกจากตรอกสำนักโคมเขียว ก็ให้เจ้าขึ้นรถม้า และจะมีคนพาไปยังสถานที่หนึ่ง”

        “ตะแต่ ข้าสมควรได้เข้าคฤหาสน์สกุลมู่!”

        “ฮึ... ฝันสูงส่งเกินไปหรือเปล่า หากนางโลมเช่นเจ้าสามารถลืมตาอ้าปากในคฤหาสน์สกุลมู่ได้ เยี่ยงนั้นสาวใช้เฝ้าห้องเก็บฝืน และหญิงตักมูลเจ้านาย คงเป็นฮูหยินได้สินะ”

        และเหมียวจื่อเผยไม่ได้คิดต่อความยาวสาวความยืดกับอีกฝ่าย นางได้แต่เงียบ คิดถึงสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ และแน่นอนนางต้องหลักแหลม หาวิธีเอาตัวรอดให้ได้ มิเช่นนั้น คนที่ทำเรื่องชั่วช้าต่อนางคงสาสมใจ กับสิ่งที่ตนต้องการให้นางเป็นหมากตัวเล็กๆ ที่ถูกทิ้งไปอย่างไร้ความหมาย

       

        ซึ่งฝ่ายเถ้าแก้เนี้ยที่ดูแลนางก่อนหน้านั้น เล่าสิ่งต่างๆ ให้ฟังมากมาย บอกวิธีการรับมือพวกจิตใจอำมหิต กระทั่งโชคชะตาลิขิตให้นางมีเส้นทางของตน ซึ่งยามนี้ย่อมต้องเล่นบทปัญญาทึบ แสร้งบีบน้ำตาและทำให้ตนดูน่าสงสารสักหน่อย เพื่อให้พวกตัวร้ายตายใจ ก่อนที่นางจะถูกส่งตัวไปยังตำหนักน้ำพุซีเฉอ เพื่อที่ในภายภาคหน้า นางจะเป็นอนุสามในโลกนิยายนี้ โดยที่ไม่ได้ตายโหงตั้งแต่ต้นเรื่อง เหมือนนิยายเรื่องเก่าซึ่งถูกเขียนไว้

        ย้อนเวลากลับไปราวๆ สามเดือนก่อน!

        โลกปัจจุบัน

        เหมียวจื่อเผย คือนักเขียนสาววัยเฉียดสามสิบ และถือเป็นช่วงขาลงของอาชีพ เพราะถูกเพื่อนรักกับสามีอีกฝ่ายที่เป็นบรรณาธิการต้นฉบับให้เธอลอกพลอตอย่างหน้าด้านๆ และงานของคนพวกนั้นกลับดังกว่า อีกทั้งมีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ มีเพื่อนในวงการเป็นขโยง ฝ่ายเธอที่เป็นมือใหม่ และแทบไม่ได้รู้จักพวกหน้าเนื้อใจเสือมาก่อน จึงถูกเอาเปรียบสารพัด สุดท้ายกลายเป็นคนผิด เมื่อผลงานหญิงสาวออกนำเสนอ ทั้งรูปแบบการขายแบบรายตอน และงานอีบุ๊ค ก็โดนจับผิด กล่าวหาว่าเธอ ยำนิยายเพื่อนและบรรณาธิการอย่างไม่มีหัวคิด

        เพื่อความอยู่รอด เหมียวจื่อเผยจึงต้องการหาผลงานที่แตกต่าง หญิงสาวเลือกเขียนแนวอีโรติก เน้นฉากหวือหวาเร่าร้อน พร้อมขยี้เรื่องการมีความสัมพันธ์อันหมิ่นเหม่ และรักต้องห้าม แม้จะทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ หากสุดท้ายเธอพบความจริงว่า โลกในตัวหนังสือเมื่อต้องทำงานคนเดียว มันมีความเปลี่ยวเหงา ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ซ้ำร้ายแฟนหนุ่มที่คบหากัน พยายามหาเรื่องทะเลาะ ทั้งบอกว่าเธอไม่ค่อยมีเวลาให้เขา เอาแต่หมกหมุ่นเรื่องใต้สะดือเกินไป

        กระนั้นเหมียวจื่อเผยดึงดันจะแต่งงานกับอีกฝ่ายให้ได้ เนื่องจากทั้งคู่วางแผนนี้ไว้นานแล้ว แต่เรื่องย่ำแย่หนัก เมื่อแฟนหนุ่มหายตัวไปเสื้อดื้อๆ ในวันแต่งงาน สาเหตุเพราะญาติเธอจับได้ว่า อีกฝ่ายมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพี่สะใภ้ของเหมียวจื่อเผย

        แน่นอนหญิงสาวสติแตก ไม่อาจทนรับรู้เรื่องราวต่างๆ ได้อีก ซ้ำร้ายยังถูกสายตาผู้อื่นดูถูกเหยียดหยามว่า เป็นเพราะเหมียวจื่อเผย ไร้เสน่ห์ ทั้งกดขี่ข่มเหงน้ำใจเจ้าบ่าวตนเสมอ ด้วยอีกฝ่ายมีฐานะต้อยต่ำกว่า นอกจากนั้น ยังเป็นเธอที่ตีแต่ชีวิตบัดซบของเขา มาขายเป็นนิยายจนทำให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง

        ในวันที่เหมียวจื่อเผยพอจะรวบรวมแรงกายได้ เพื่อสะสางเรื่องราวอันบัดซบ เธอตั้งใจเคลียร์ของแฟนหนุ่มออกจากคอนโด จู่ๆ ฝ่ายชายกลับมาพร้อมพี่สะใภ้ คนทั้งคู่หน้าด้านถึงขั้นกล้าขอเงินจากเธอ และต้องการแบ่งทรัพย์สินต่างๆ ไป โดยอ้างว่าเขาสมควรที่จะได้มัน จึงทำให้เกิดการทะเลาะรุนแรง สุดท้าย เหมียวจื่อเผยถูกเจ้าบ่าว และพี่สะใภ้ พลั้งมือทำร้ายหนัก และเธอพลัดตกคอนโดสูง!

        แน่นอน เหมียวจื่อเผยไม่ได้อยากตาย เธอยังอยากใช้ชีวิตต่อ ต้องการพบรักแท้สักครั้งในชีวิต ปรารถนาความซาบซ่านสยิวใจกับบุรุษด้วยตัณหา เสพรักกันด้วยราคะอย่างเช่นนิยายที่เขียนเอาไว้ ทว่าคนชั่วทั้งสองกลับเป็นต้นเหตุให้เหมียวจื่อเผยต้องจบชีวิตก่อนวัยอันควร

        ในห้วงสุดท้ายก่อนวิญญาณออกจากร่าง เหมียวจื่อเผย อธิษฐานว่า หากชาติหน้ามีจริงขอให้ได้พบกับบุรุษที่เพียบพร้อมด้านฐานะ หน้าตาหล่อเหลา มีความรอบรู้ ชาญฉลาด เปี่ยมด้วยอำนาจบารมี ร่ำรวย แข็งแรง เป็นผู้อ่อนเยาว์ ที่สำคัญต้องรักเธออย่างสุดหัวใจ!

        กระทั่งลืมตาขึ้นอีกครั้ง เหมียวจื่อเผยต้องหัวเราะทั้งน้ำตา

หญิงสาวมาอยู่ในโลกคล้ายจีนโบราณ เป็นวิญญาณสิงร่างสตรีโฉมงามที่มีชื่อแซ่เดียวกัน เพียงแต่อยู่ที่โลกคู่ขนาน ซึ่งมีระยะเวลาห่างกันนับพันปี!

        ภาพต่างๆ ย้ำย้อนไปมา และเสียงแม่เล้าก็กล่าวเตือนสติ

        “อาเผย เป็นอนุผู้อื่น อย่างไรก็คงดีกว่าเป็นนางโลมในหอคณิกาข้า”

        หญิงสาวมองไปยังแม่เล้าที่ดูแลนางมาหลายปี นับแต่ถูกพ่อค้าทาสชิงตัวมาจากโจรป่า และเอ่ยว่า “อย่างน้อย ทำงานกับท่าน ข้าก็มีข้าวกินสามมื้อ ได้แต่งตัวงดงาม และมีเงินมีทองใช้สอยไม่ขาดมือ”

        “โถ เด็กโง่ เป็นอนุสกุลมู่แล้ว ประสงค์สิ่งใด ย่อมต้องไขว่คว้ามาให้ได้ ขอเพียงหัดใช้ความงาม กับเรือนร่างให้เป็น บุรุษแซ่มู่ล้วนมีดีทุกคน ขอเพียงเจ้ากุมหัวใจพวกเขาให้ได้ อีกอย่าง คณิกาที่ก้าวออกจากสำนักของข้าไป หากไม่ร่ำรวยจงอย่ากลับมาให้เห็นหน้าอีก มันคือกฏของที่นี่”

        แม่เล้าเอ่ยจบก็มอบของหลายสิ่งให้เหมียวจื่อเผย ทั้งยาลูกกลอนสลายการตั้งครรภ์ ยาหอม ยาคลายเครียด ยาสกัดพิษ ขี้ผึ้งเนื้อดี รวมถึงเข็มเงินสำหรับเงินฝังจุดรักษาสารพัดโรค รวมถึงบันทึกลับสนมหลันเอ๋อร์คนดัง ที่ทำให้ฮ่องเต้โปรดปราณยามร่วมรับนอนกับนาง

       

        และหลังจากขึ้นมาอยู่บนรถม้าได้สักพัก เหมียวจื่อเผยล่วงรู้ว่าจุดหมายข้างหน้ามิใช่กำแพงสูงของคฤหาสน์สกุลมู่ นางถูกพาออกนอกเมืองใหญ่ด้วยความรวดเร็ว

        เหมียวจื่อเผยกำลังจะขยับปากถามแม่บ้านและสาวใช้อีกคนที่ถูกซื้อตัวมาเพื่อให้ดูแลนาง ทว่ายามนั้นนางรู้สึกวิงเวียนศีรษะอย่างหนัก ก่อนที่ร่างจะโงนเงน และค่อยๆ สิ้นสติไป

        อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ เหมียวจื่อเผยไม่ได้ตื่นตระหนก นางพอรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้น ตอนนี้ที่ทำได้คือ เล่นไปตามบทบาทตัวละคร เพียงแต่นางจะต้องเล่นได้ดี มีชีวิตแสนสุขห้อมล้อมด้วยเหล่าบุรุษ ทั้งอายุอยู่ยืนยาวกว่าในโลกที่จากมา และบทบาทนางที่ได้รับคือ เป็นสตรีที่จุดไฟราคะบุรุษทุกคนที่โผล่มาในนิยายเรื่องนี้ให้ลุกโชน

        ซึ่งสาเหตุที่เกิดเรื่องร้ายๆ กับเหมียวจื่อเผยคือ อนุรอง เฉินปี้ ตั้งใจส่งเหมียวจื่อเผยไปยังรังโจร หวังให้พวกป่าเถื่อนทำลายโฉมนาง และย่ำยีศักดิ์ศรี ทว่าชะตาชีวิตนางกลับพลิกผลัน เมื่อมีคนผู้หนึ่งแอบเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ก่อนที่นางจะขอร้องเขาให้พาไปที่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เพื่อชำระสิ่งชั่วร้ายให้หมดไป โดยที่บ่อน้ำพุเดียวกันนี้ คือสถานที่ซึ่งบุรุษสกุลมู่จะมาชำระร่างกาย ก่อนลงเขาไปทำพิธีสำคัญ คือการคัดเลือกเจ้าบ้านน้อยคนใหม่ หรือผู้สืบทอดกิจการสกุลมู่ แทนคุณชายสามที่เคราะห์ร้ายพลัดตกหลังม้า และพิการจนต้องนั่งรถเข็น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ล่ามสวาทนางร้าย    129 เสี่ยวฟาง (8)จบ

    “เอาล่ะ... ข้าจะไม่ส่งท่านไปคุกเมืองหลวง แต่จะตัดสินโทษ และพาตัวไปยังเรือนนอกที่เมืองทางใต้ โดยห้ามไม่ให้ก้าวออกจากรั้วแม้แต่ก้าวเดียวกระทั่งสิ้นลมหายใจ” หยวนจื่อได้ยินคำพูดอันเด็ดขาด นางก็ทรุดฮวบลงไปที่พื้น และความหวังเดียวที่จะช่วยชีวิตนางได้ ย่อมเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตน นางมองไปยังหนันเฉินเทียน และส่งเสียงเรียกเขาอยากน่าสงสาร ทว่าเด็กชายที่ยืนเงียบตั้งแต่ต้น ได้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่โตเกินวัย “ท่านเลี้ยงเสี่ยวเทียนตั้งแต่แบเบาะ นั่นคือสิ่งที่ข้าย่อมตอบแทน แต่การที่ท่าน วางยามารดาผู้ให้กำเนิดข้า และขโมยข้ามานั่น ย่อมมีความผิดสถานหนัก!” หยวนจื่อลนลานสุดขีด ด้วยคาดไม่ถึงว่าตนจะถูกเปิดโปงง่ายๆ และเรื่องทั้งหมด สรุปอย่างรวบรัดได้ว่า นางเป็นหมัน จึงไม่อาจมีบุตร เลยคิดแผนส่งสาวใช้คนสนิทตนไปรับใช้ใต้เท้าหนัน พอรู้ว่าตั้งครรภ์ก็ให้ไปอยู่นอกจวน กระทั่งคลอดจึงนำทารกมาแอบอ้างว่าเป็นลูกของตน ส่วนสาวใช้โชคร้ายผู้นั้น ก็ถูกวางยาพิษพร้อมลบประวัติทั้งหมดทิ้ง ทว่าความลับไฉนจะมีในโลกนี้ และหนันจิ้งโหย่วเป็นผู้สืบรู้ ก่อนนำมาแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมคิดบัญชีนางใน

  • ล่ามสวาทนางร้าย    128 เสี่ยวฟาง (7)

    เถียนลู่ฟางหน้าซีด และตัวสั่น นางมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร อีกทั้งพยายามคิดว่า ด้วยมูลเหตุใดหยวนจื่อ ถึงต้องการให้นางรับโทษสถานหนัก ขบคิดอยู่นานจึงพอกระจ่างใจแล้วว่า หยวนจื่อผู้นี้ต้องการแพะรับบาป สร้างเรื่องคาวโลกีย์ หวังปกปิดสิ่งที่ตนกำลังจะถูกสืบค้นจากทางการ ในข้อหาส่งคนไปฆ่าหนันจิ้งโหย่ว รวมถึงคดีอื่นๆ ที่เคยกระทำไว้มากมาย และเถียนลู่ฟางทราบเรื่องนี้ได้เช่นไร นั่นเป็นเพราะนางได้ยินจากปากของหนันจิ้งโหย่ว รวมถึงสิ่งที่ไป๋รั่วรั่วบอกไว้ “ความจริงเท่านั้นจะทำให้ท่านรอดพ้นจากเรื่องร้ายๆ ครั้งนี้ อีกอย่างคุณชายรอง ก็ปรารถนาครองคู่ท่าน เรื่องนี้คงเข้าใจดีแล้ว” “แต่ข้า แต่งเข้าสกุลหนัน เป็นฮูหยินห้า” “แน่ใจว่าเป็นท่าน มิใช่ พี่สาวต่างมารดา ที่สมควรขึ้นเกี้ยวแต่งเข้าสกุลหนัน” เมือไป๋รั่วรั่วกล่าวเช่นนั้น เถียนลู่ฟางก็พอจะมองหลายสิ่งออกทีละน้อย “อย่างไร ข้าก็มีความผิดโทษฐานหลอกลวงสกุลหนัน เรื่องนี้จะเปลี่ยนแปลงได้เช่นไร” “ฟังข้าให้ดี แม่นางเถียน หนันฮูหยินไม่ได้ต้องการ เอาผิดท่าน แต่นางเพียงแค่จงใจสร้างเรื่องให้ใหญ่โตเข้าไว้ เพื่อข

  • ล่ามสวาทนางร้าย    127 เสี่ยวฟาง(6)

    การยกน้ำชาให้แก่ฮูหยินผู้เฒ่าหนัน ไม่ได้มีเรื่องยุ่งยากอันใด ฝ่ายนั้นคล้ายเบื่อขี้หน้าเถียนลู่ฟางด้วยซ้ำ ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ถูกมองในแง่ไม่ดี แสุดท้ายก็ถูกซักไซ้หลายเรื่อง และอันที่จริงเถียนลู่ฟางเกือบออกจากห้องโถงเรือนนกเป็ดน้ำได้อยู่แล้วเชียว หากหยวนจื่อ (หนันฮูหยิน / ฮูหยินหม้าย มารดาของหนันเฉินเทียน) ไม่เอ่ยถามเรื่องยากๆ ขึ้นเสียก่อน “ได้ข่าวว่า ก่อนแต่งเทียนเอ๋อร์ ฮูหยินห้าเป็นสตรีที่ซุกซนคนหนึ่ง ทั้งยังมักก่อปัญหาไม่หยุดหย่อน แม้แต่เย็บปักเสื้อผ้ายังทำไม่คล่อง ส่วนเรื่องอาหาร ก็แย่ไปหมด” เถียนลู่ฟาง ไม่แน่ใจว่าเหตุใด หยวนจื่อถึงหยิบหยกคำพูดนี้ขึ้นมา อีกอย่างนางแต่งเป็นฮูหยินห้าหลอกๆ ก็เท่านั้น กล่าวคือเป็นการแต่งแก้เคล็ด และใช่ว่าจะหลับนอน เป็นสามีภรรยากันจริงๆ กับหนันเฉินเทียนซะเมื่อไหร่ “ข้าไม่เก่งเรื่องที่หนันฮูหยินกล่าวถึง ทว่าด้านอื่น ข้าก็พอชำนาญ ขี่ม้า ยิงธนู ที่สำคัญลิ้นของข้ารับรสชาติได้ดี ตั้งแต่เด็กก็เป็นผู้ชิมอาหารที่ขายในเหลาของสกุลเถียน” “ฮึ เช่นนี้ กล่าวได้ว่าสกุลเถียนย้อมแมว หลอกจวนหนันหรือไม่ สตรีที่ไม่ได้เรื่อง หากให้แต่

  • ล่ามสวาทนางร้าย    126 เสี่ยวฟาง (5)

    หญิงสาวขยับร่างกายบนฟูกหนาหนุ่ม และยามนี้ละอายใจยิ่งนัก เนื้อตัวก็ปวดเมื่อยไปหมด พออยากขยับร่างกาย ก็รู้สึกว่าร้าวไปทั้งร่าง นางตกเป็นของหนันจิ้งโหย่ว...แน่นอน เขาไม่ใช่สามีที่นางแต่งเข้าสกุลหนัน “ท่านย่ำยีข้า หญิงสาวไม่ได้โวยวาย แต่เอ่ยอย่างเจ็บปวด” หนันจิ้งโหย่วมองนาง มองแล้วอมยิ้ม ไม่ได้ยั่วล้อ แต่มองอย่างชัดเจนว่าพึงใจที่ตนได้ร่วมรักกันอย่างสุดเหวี่ยงกับสตรีผู้นี้ “ข้าเคยบอกแล้ว เจ้าเป็นภรรยาข้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น ส่วนเสี่ยวเทียน ให้เขาเป็นน้องสามีจึงจะถูกต้องที่สุด มิอย่างนั้น เจ้าคงเป็นสตรีประหลาด ที่อยากให้เด็กน้อย ใช้มือ และลิ้นเล็กๆกับกลีบบุปผาหวานฉ่ำนั่น” ชายหนุ่มกล่าวจบประโยค นางก็ตบใบหน้าเขาไปเต็มแรง “สตรีแซ่เถียน บอกรักผู้อื่นเช่นนี้หรือ” “ทะ ท่านทำให้ข้าอับอาย จากนี้ ข้าจะสู้หน้าผู้อื่นได้อย่างไร” “หมายความถึง!” “ข้าเป็นสะใภ้เล็กคุณชายห้า หากทำเรื่องผิดศีลธรรม มิแคล้วต้องถูกลงโทษสถานหนักหรอกหรือ” “เสี่ยงฟาง หากเจ้าไม่พูด ข้าไม่พูดแล้วใครจะรู้ว่า เราเป็นผัวเมียกัน” หญิงสาวเหลืออดแล้

  • ล่ามสวาทนางร้าย    125 เสี่ยวฟาง (4)

    เรื่องทั้งหมดเป็นเช่นนั้น แล้วไฉนเขาถึง เป็นบุรุษชั่วช้าล่วงเกินเถียนลู่ฟาง อย่างผิดศีลธรรมเรื่องนี้คงต้องย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน ด้วยเถียนลู่ฟางไปพบเห็นเรื่องที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยวเข้าโดยบังเอิญ และนางยังเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยยามนั้นเถียนลู่ฟาง เป็นแม่นางน้อยที่ชอบวางยา และใช้อาวุธลับต่างๆ ซึ่งนางบังเอิญซัดใส่ร่างของหนันจิ้งโหย่ว ในระหว่างทางที่เขาหลบหนีผู้ปองร้าย ด้วยเข้าใจผิดว่าเขาคือคนที่วางยานางที่โรงเตี้ยม ทั้งที่ความจริงผู้ที่ลงมือกระทำชั่วต่อเถียนลู่ฟางคือโจวถิงกับเถียนหลิงหลิง ด้วยต้องการให้นางเสียชีวิต และไม่อาจกลับคืนสกุลเถียน ฝ่ายหนันจิ้งโหย่วก็ใช้เหตุการณ์ดังกล่าว สร้างเรื่องว่าตน ได้จากโลกนี้ไปแล้ว !ฝ่ายเถียนลู่ฟาง ทำร้ายเขาไม่พอ ยังไล่ล่าเขา ราวกับเห็นเป็นศัตรู เนื่องจากฝ่ายนั้นขโมยยาตำรับลับของนางไป และซัดจนหมดขวด ด้วยเข้าใจว่าคือ สมุนไพรต้านพิษร้ายในร่างกาย และยังมั่นใจว่าเถียนลู่ฟางคือนางมารน้อยที่ถูกส่งตัวมาเล่นงานเขา สุดท้ายทั้งคู่จึงพลัดตกเขาด้วยกันเรื่องราวต่อจากนั้น จึงค่อนข้างร้อนแรง มากด้วยเสน่หา เพราะฝ่ายหนึ่งแม้บาดเจ็บหนัก แต่หนุ่มแน่น ส่วนเถียนลู่ฟางเ

  • ล่ามสวาทนางร้าย    124 เสี่ยวฟาง(3)

    “ความสุขอันใด? แล้วข้าไปร่วมเตียงกับคนชั่วตั้งแต่เมื่อใด!” “ฮ่าๆ ๆ ก็เมื่อร่างกาย เจ้าต้องพิษ ว่านราคะของหนันฮูหยิน ข้าจำต้องยื่นมือเข้าช่วย จากนั้น สิ่งที่ควรเข้าไปอยู่ข้างใน จะได้ทำให้เราเข้ากันอย่างไม่มีอะไรขวางกั้น!” เขากล่าวสิ่งชวนฉงน แน่นอนบุรุษที่นางแต่งงานด้วยไม่ได้เติบใหญ่เป็นชายฉกรรจ์เพียงแค่ชั่วข้ามคืน ด้วยเป็นนางที่หลงกลคนเจ้าเล่ห์ บัดซบ มารดาคนสกุลหนันเถอะ! และขอให้ฟ้าดินลงโทษ คนผู้นี้ล่วงเกิน ข่มเหงนางเกินไปแล้ว “นะ นั่น!” ดวงตากลมโตจ้องไปที่กลางลำตัวบุรุษผู้นี้ ดวงตาเขาพราวระยับทีเดียว “ทักทาย มันสักหน่อยเป็นอย่างไร สองคืนก่อน เจ้าทั้งใช้ ลิ้น มือ แล้วยังดูดดื่มน้ำขาวข้น ผู้เป็นพี่ชายสามีเช่นข้า ไปตั้งหลายรอบ” “เหลวไหล ข้าไม่ใช่สตรีร่านราคะ ถึงจะทำเรื่องไร้จรรยา!” สมองของเถียนลู่ฟางขาวโพลนชั่วขณะ ยากนักที่นางจับต้นชนปลายได้ในยามนี้ ด้วยถูกว่านราคะกล่อมประสาท และยังหลงใหลต่อบุรุษตรงหน้า ริมฝีปากบางยกยิ้มมุมปาก ขับให้ใบหน้านั้นหล่อเหลาทั้งคมคายยิ่ง แต่เขากลับเป็นคนไร้ยางอายที่นางไม่อ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status