แชร์

บทที่19

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-16 17:03:47

บทที่ 19 นับหนึ่งด้วยตนเอง

ค่ำคืนหนึ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาในร้าน ครัววสันต์ ที่ปิดไฟเกือบหมด เหลือเพียงแสงตะเกียงที่หยางมี่จุดไว้ในครัวเล็ก ๆ นางกำลังล้างถ้วยชามหลังจากวันที่ยุ่งเหยิง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินเข้ามาในร้าน

“ร้านปิดแล้วเจ้าค่ะ” หยางมี่เอ่ยโดยไม่ได้เงยหน้ามอง แต่เสียงที่ดังตอบกลับมาทำให้นางชะงัก

“มี่เอ๋อร์…”

เสียงทุ้มนั้นช่างคุ้นเคย ราวกับลมหนาวที่พัดพาความทรงจำเก่า ๆ กลับมาหานาง หยางมี่หันขวับไป เผชิญหน้ากับจางกุนเหยา ผู้เป็นอดีตสามี

“ท่าน…” นางเอ่ยอย่างตกใจ ก่อนจะรีบดึงตัวเองกลับมาสู่ความสงบนิ่ง “เหตุใดท่านจึงมาที่นี่” แม้ว่านางจะเปิดร้านอาหารในเมืองหลวง แต่เมืองหลวงกว้างใหญ่ ร้านของนางเป็นร้านเล็ก ๆ คนที่มาทานก็เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา และตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีชื่อของเขากระทบหูนางเลยสักครั้ง

จางกุนเหยายืนมองนางอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าที่เคยสง่างามตอนนี้กลับดูโทรมลง เขาดูเหมือนคนที่ผ่านเรื่องหนักหนามามากมาย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและความรู้สึกผิด

“ข้ามีเรื่องอยากพูดกับเจ้า” เขากล่าว น้ำเสียงหนักแน่นแต่ก็แฝงความอ่อนโยนไว้

หยางมี่ยืนนิ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • วสันต์ค่อยๆเลือนหายไป   บทที่ 20

    บทที่ 20 ความจริง “แล้วท่านคิดว่าคำพูดของท่านจะลบล้างสิ่งที่ข้าต้องเผชิญหรือ” นางถามเสียงเย็นชา “ข้าถูกท่านทอดทิ้ง ถูกทำร้ายทั้งกายและใจ ข้าต้องต่อสู้เพียงลำพังเพื่อยืนขึ้นใหม่ แล้ววันนี้ท่านกลับมาบอกข้าว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะท่านต้องการปกป้องข้า”จางกุนเหยาก้มหน้าลง ราวกับไม่อาจสบตานางได้อีก “ข้าไม่หวังให้เจ้าจะยกโทษให้ข้า ข้ารู้ว่าข้าผิด แต่ข้าอยากให้เจ้ารู้ความจริง ข้าไม่เคยหยุดรักเจ้าเลย”หยางมี่ยิ้มเยาะ รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความขมขื่น“บางครั้งความจริงก็ไม่จำเป็นหรอก เพราะมันไม่ได้เปลี่ยนสิ่งที่ข้าต้องเผชิญในช่วงเวลาที่ผ่านมา”จางกุนเหยามองนางอย่างสิ้นหวัง “เจ้าคงไม่กลับมาหาข้าอีกใช่หรือไม่”หยางมี่ยืนขึ้น มองเขาด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว “ข้าเลือกทางของข้าแล้ว ท่านเองก็ควรอยู่บนเส้นทางของท่าน อย่ามารั้งข้าไว้อีกเลย”คำพูดนั้นทำเอาจางกุนเหยานิ่ง เขาทำได้เพียงมองดูนางเดินกลับเข้าครัว ปล่อยให้เขายืนอยู่ในความเงียบและความเจ็บปวดที่เขาเป็นผู้ก่อขึ้นเองเรื่องราวทั้งหมดนี้เริ่มมาจากเขาความจริงในคืนนี้จากปากอดีตสามี ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรสำหรับหยางมี่ นางยังคงเลือกที่จะเดินต่อไปบนเส้นทา

  • วสันต์ค่อยๆเลือนหายไป   บทที่19

    บทที่ 19 นับหนึ่งด้วยตนเอง ค่ำคืนหนึ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาในร้าน ครัววสันต์ ที่ปิดไฟเกือบหมด เหลือเพียงแสงตะเกียงที่หยางมี่จุดไว้ในครัวเล็ก ๆ นางกำลังล้างถ้วยชามหลังจากวันที่ยุ่งเหยิง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินเข้ามาในร้าน“ร้านปิดแล้วเจ้าค่ะ” หยางมี่เอ่ยโดยไม่ได้เงยหน้ามอง แต่เสียงที่ดังตอบกลับมาทำให้นางชะงัก“มี่เอ๋อร์…”เสียงทุ้มนั้นช่างคุ้นเคย ราวกับลมหนาวที่พัดพาความทรงจำเก่า ๆ กลับมาหานาง หยางมี่หันขวับไป เผชิญหน้ากับจางกุนเหยา ผู้เป็นอดีตสามี“ท่าน…” นางเอ่ยอย่างตกใจ ก่อนจะรีบดึงตัวเองกลับมาสู่ความสงบนิ่ง “เหตุใดท่านจึงมาที่นี่” แม้ว่านางจะเปิดร้านอาหารในเมืองหลวง แต่เมืองหลวงกว้างใหญ่ ร้านของนางเป็นร้านเล็ก ๆ คนที่มาทานก็เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา และตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีชื่อของเขากระทบหูนางเลยสักครั้งจางกุนเหยายืนมองนางอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าที่เคยสง่างามตอนนี้กลับดูโทรมลง เขาดูเหมือนคนที่ผ่านเรื่องหนักหนามามากมาย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและความรู้สึกผิด“ข้ามีเรื่องอยากพูดกับเจ้า” เขากล่าว น้ำเสียงหนักแน่นแต่ก็แฝงความอ่อนโยนไว้หยางมี่ยืนนิ

  • วสันต์ค่อยๆเลือนหายไป   บทที่18

    บทที่ 18 พระเอกหรือลาโง่ เจียงซีเว่ยถอนหายใจ นางเองก็เคยคิดว่าจางกุนเหยาเป็นคนดี เป็นพระรองผู้น่าสงสาร แต่ตอนนี้นางก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านาง พอกลายเป็นพระเอกจริง ๆ ก็เป็นเพียงชายโง่ที่เพิ่งรู้ใจตัวเองตอนสายเกินไป “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหยางมี่ ไม่ใช่ข้า”แล้วสุดท้ายเขาก็พยักหน้า“อาเหยาเจ้ารับปากแล้วจะให้เวลาหยางมี่” อี้หยางเฉิงจับไหล่สหายและออกแรงดันเล็กน้อยให้ถอยออกไปหลายก้าว “แต่นี่มันก็หลายเดือนแล้ว ร้านก็เปิดกิจการไปด้วยดี ข้าเป็นสามีของนาง นางควรอยู่กับข้า”หลังจากเขาส่งคนออกตามหาภรรยา ไม่ว่าจะใช้ทหารมือดี หรือแม้แต่สายลับของกองทัพ ก็หาหยางมี่ไม่เจอ จนวันที่อี้หยางเฉิงเอาหนังสือรับรองมาให้เขาลงนาม เขาถึงรู้ว่าหยางมี่อยู่ในความดูแลของเจียงซีเว่ย อี้หยางเฉิงขอร้องให้เขาจัดการเรื่องวุ่นวายให้เรียบร้อยแล้วค่อยมาคุยกับเจียงซีเว่ยว่าจะทำเช่นไรต่อ เขาก็จัดการทุกอย่างหมดแล้ว ขอพบเจียงซีเว่ยเพื่อขอที่อยู่ของภรรยาแต่นางก็ยังไม่ยอมคุยกับเขา จนเขาทนไม่ไหวอีกต่อไปถึงได้บุกมาถึงจวนเจียงซีเว่ยหัวเราะเบา ๆ ดวงตาของนางสะท้อนแสงโคมราวกับจะแฝงความเย้ยหยัน “สามีงั

  • วสันต์ค่อยๆเลือนหายไป   บทที่ 17

    บทที่ 17 ทนไม่ไหวอีกต่อไปจางกุนเหยาเร่งฝีเท้าเข้าไปในจวนแม่ทัพในทันทีที่มาถึง เขาไม่สนใจแม้แต่บ่าวรับใช้ที่เข้ามาขวาง เพียงสะบัดแขนเล็กน้อยก็สามารถหลบหลีกไปได้โดยง่าย“คุณชาย ท่านเข้าไปเช่นนี้ไม่ได้…”“บอกเจียงซีเว่ยว่าข้าขอพบ!” เขากล่าวเสียงเข้ม ทำให้บ่าวรับใช้ที่พยายามขวางหน้ารีบถอยไปอย่างหวาดหวั่นไม่นานนัก ร่างของเจียงซีเว่ย ฮูหยินแม่ทัพก็ปรากฏตัวขึ้น นางยืนกอดอกมองเขาด้วยสายตาเรียบนิ่ง แต่แววตากลับซ่อนรอยขบขันไว้เล็กน้อย“จางกุนเหยา เจ้าถึงกับบุกเข้ามาในจวนของข้าเช่นนี้เชียวรึ” นางกล่าวเสียงเย้ยหยัน“เว่ยเว่ย…” เขากัดฟันแน่น “เจ้าซ่อนหยางมี่ไว้หรือไม่”นางกระพริบตาช้า ๆ รอยยิ้มบนริมฝีปากบางยิ่งชัดขึ้น “เหตุใดท่านจึงคิดว่าข้าจะซ่อนนางไว้ล่ะ”“เพราะข้ารู้!”“อาเหยา เจ้ารับปากข้าแล้ว” อี้หยางเฉิงกระโดดลงจากหลังม้า เขารีบควบม้ากลับมาจากค่ายฝึกทหารหลังจากสหายเขาผลุนผลันออกจากค่ายเว่ยเว่ยหัวเราะเบา ๆ “ในเมื่อรู้อยู่แล้ว ใช่ ข้าซ่อนนางเอาไว้เอง ข้าจะซ่อนนางไว้เพื่อไม่ให้สามีเลว ๆ อย่างเจ้าเจอนาง”จางกุนเหยาไม่ตอบ แต่สายตาของเขาฉายแววคาดคั้น“เว่ยเอ๋อร์…” อี้หยางเฉิงเรียกภรรยาอย่างใจเ

  • วสันต์ค่อยๆเลือนหายไป   บทที่ 16

    บทที่ 16 ครัววสันต์เพียงแค่ไม่กี่วันที่ฝากหนังสือทำการค้าให้แม่ทัพอี้ไป ก็ได้รับตราประทับรับรองให้เปิดร้านค้าขายได้กลับมา หยางมี่ตัดสินใจแล้ว นางจะเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ที่เมืองหลวงนี้ แม้นางจะไม่เคยทำสิ่งนี้มาก่อน แต่การทำอาหารคือสิ่งที่นางรักและถนัดตั้งแต่วัยเยาว์ ความทรงจำกับมารดาในครัวเล็ก ๆ ของเรือนเดิมยังคงอบอุ่นในหัวใจ“ข้าเชื่อว่าเจ้าจะทำได้” เว่ยเว่ยกล่าว พลางสั่งให้คนช่วยยกถุงข้าวสารเข้ามาในครัวของเรือนเล็ก เว่ยเว่ยยังคงเป็นกำลังสำคัญที่สนับสนุนนางไม่เปลี่ยน แม้จะใช้เพียงนิ้วชี้สั่งงาน ตามคำสั่งของอี้หยางเฉิง ไม่เช่นนั้นจะไม่ให้เว่ยเว่ยออกจากจวนหยางมี่พยักหน้า มองดูสิ่งของที่นางสั่งมาเพื่อตั้งร้าน “มันคงไม่ง่าย แต่ข้าต้องลอง ข้าอยากยืนด้วยตัวเองจริง ๆ สักครั้ง”เว่ยเว่ยหัวเราะเบา ๆ“เจ้ามีฝีมือในการทำอาหารดีเยี่ยม ข้าเชื่อว่าผู้คนจะหลั่งไหลมาลิ้มรสอาหารของเจ้าแน่ ๆ”หลายวันต่อมา ร้านอาหารเล็ก ๆ ของหยางมี่ก็เปิดขึ้นริมถนนสายหนึ่งในเมือง ชื่อร้านเขียนด้วยลายมือของหยางมี่เอง “ครัววสันต์” ชื่อที่นางตั้งเพื่อเตือนใจว่าฤดูวสันต์ที่ผ่านพ้นไปแล้วนั้น ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นจุดเ

  • วสันต์ค่อยๆเลือนหายไป   บทที่ 15

    บทที่ 15 พี่น้องต่างสายเลือดหนึ่งเดือนผ่านไป นับตั้งแต่หยางมี่เดินออกจากจวนตระกูลจาง ชีวิตใหม่ของนางเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่ายและเงียบสงบในเรือนเล็ก ๆ ท้ายเมือง แต่ความเงียบงันนั้นไม่อาจดับไฟแห่งความตั้งใจในใจของนางได้ นางมักคิดถึงสิ่งที่เว่ยเว่ยพูดว่าควรเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่เริ่มต้นเช่นไรดีถึงจะหาเงินมาคืนเว่ยเว่ยได้“ข้าชอบรสมือเจ้า หากทำขาย ข้าว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า” มือบางตักผัดผักหมูสามชั้นเข้าปาก เป็นอีกวันที่เจียงซีเว่ยนั่งรถม้ามาอีกฝากของเมืองหลวงเพื่อมาฝากท้องกับแม่ครัวคนโปรดหยางมี่ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อละเลียดฟังคำพูดของเจียงซีเว่ย นางขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”เจียงซีเว่ยวางตะเกียบลง ถอนหายใจอย่างอ่อนใจ “ข้าหมายถึงเจ้าทำอาหารอร่อย หากเปิดร้านขายต้องขายดีแน่”หยางมี่พยักหน้าอย่างเข้าใจ “อ้อ เช่นนั้นหรือ”“ใช่”“แต่ข้าไม่มีทุนเปิดร้าน”“หากเจ้าคิดจะเปิดร้านจริง ๆ ข้าจะออกทุนให้”หยางมี่เงียบไปครู่หนึ่ง ที่ให้มาคราวก่อนก็มากมายจนไม่รู้จะหาจากไหนมาใช้คืน “เจ้าทำไมต้องช่วยข้าขนาดนี้”เจียงซีเว่ยยกยิ้มเล็ก ๆ “เจ้าเป็นสหายเพียงคนเดียวของข้า และอีกอ

  • วสันต์ค่อยๆเลือนหายไป   บทที่ 14

    บทที่ 14 พลิกแผ่นดินหาภรรยาเสียงฝีเท้ากระชั้นชิดดังสะท้อนอยู่ในโถงใหญ่ของจวนสกุลจาง บรรยากาศตึงเครียดและอึมครึมราวกับพายุที่ตั้งเค้าก่อนจะโหมกระหน่ำ ทุกผู้คนต่างไม่กล้าหายใจแรง เมื่อร่างสูงในอาภรณ์มงคลเต็มยศก้าวเข้ามา ดวงตาของเขาแดงก่ำ รัศมีรอบกายแผ่ไอสังหารจนเหล่าข้ารับใช้ตัวสั่นเทา“ฮูหยินเล็กอยู่ที่ไหน” คนทั้งคนจะหายไปได้อย่างไรน้ำเสียงทรงอำนาจของจางกุนเหยาดังก้องไปทั่วทั้งจวนบ่าวไพร่ต่างก้มหน้าหลบสายตาดุกร้าว ไม่มีใครกล้าตอบคำถามที่แม้แต่ฮูหยินใหญ่เองก็ไม่คิดว่าจะถูกถามเช่นนี้หยางมี่หายตัวไปแล้ว…นางหายไปตั้งแต่เมื่อไร ไม่มีใครรู้ว่านางออกจากจวนไปตอนไหน หรือเดินทางไปที่ใด สิ่งที่เหลือไว้มีเพียงกล่องไม้เล็ก ๆ ที่ใส่เครื่องประดับทั้งหมดของนางวางทิ้งไว้บนโต๊ะ สินเดิมที่มีไม่มากตอนแต่งเข้ามานางก็ไม่หยิบติดตัวไป“ท่านแม่ ข้าถามอีกครั้งนางอยู่ที่ไหน!” จางกุนเหยากัดฟันแน่น น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบ ดวงตาเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ ทว่าเบื้องลึกนั้นมีเพียงความร้อนรนกระวนกระวายที่ยากจะปิดบังจางหลัน ผู้เป็นมารดาที่เฝ้ามองเหตุการณ์มาโดยตลอด ยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างเชื่องช้า ดวงตาของนางฉายแววเย้

  • วสันต์ค่อยๆเลือนหายไป   บทที่ 13

    บทที่ 13 หวังดีหยางมี่นั่งอยู่ในโรงน้ำชาเล็ก ๆ ริมถนนสายหนึ่งนอกตัวเมือง นางคลายผ้าคลุมศีรษะออกเล็กน้อย เผยให้เห็นใบหน้าที่ดูอ่อนล้าแต่ยังคงความงดงาม สายตาของนางทอดมองออกไปยังถนนเบื้องหน้า ราวกับกำลังชั่งใจว่าจะก้าวต่อไปอย่างไรในชีวิตใหม่“มี่เอ๋อร์” หยางมี่สะดุ้งจนสุดตัว แต่เสียงคุ้นเคยที่ดังขึ้นจากด้านหลัง นางหันไปมองและต้องประหลาดใจเมื่อเห็นหญิงสาวคนหนึ่งในชุดเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ใบหน้าของนางยิ้มแย้มและดวงตาคมกริบ ไม่มีใครอื่นอีกแล้วที่มีลักษณะรูปลักษณ์เช่นนี้ที่นางรู้จัก “เว่ยเว่ย…” หยางมี่เอ่ยชื่อออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” ท่านแม่ทัพปล่อยภรรยาที่หวงแหนออกมาข้างนอกคนเดียว เป็นไปได้หรือเจียงซีเว่ยยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามนาง “ข้าต่างหากที่ควรถามว่าเจ้าเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ ในสภาพที่ดูเหมือนคนหนีอะไรบางอย่าง เจ้าหนีอะไรอยู่หรือมี่เอ๋อร์”หยางมี่นิ่งไปสักพัก ก่อนจะหลุบตามองถ้วยชาตรงหน้า “ข้าตัดสินใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ข้าไม่ต้องการอยู่ในที่ที่ไม่มีที่สำหรับข้าอีกต่อไป”เจียงซีเว่ยถอนหายใจเบา ๆ “เจ้าคิดจะเริ่มต้นใหม่ด้วยการหนีอย่างนั้

  • วสันต์ค่อยๆเลือนหายไป   บทที่ 12

    บทที่ 12 นางหายไป ในเช้าวันหนึ่งที่สายหมอกปกคลุมไปทั่วจวน ผู้คนในจวนสกุลจางต่างพากันยุ่งอยู่กับงานของตน อีกไม่กี่ชั่วยามขบวนเจ้าสาวก็จะมาถึงแล้ว จนกระทั่งสาวใช้คนสนิทของหยางมี่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในเรือนใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก“ฮูหยิน…ฮูหยินเล็กหายไปเจ้าค่ะ!”คำพูดนั้นทำให้จางกุนเหยาที่กำลังตรวจความเรียบร้อยของงานอยู่ในห้องโถงหยุดชะงัก เขาเงยหน้าขึ้นมองสาวใช้ด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ “เจ้าว่าอะไรนะ”สาวใช้ทรุดตัวลงกับพื้น น้ำเสียงของนางสั่นเครือ “ข้าหาไปทั่วเรือนแล้วเจ้าค่ะ แต่ไม่พบฮูหยินเล็กเลย แม้แต่ห้องของนางก็ว่างเปล่า ข้า…ข้ากลัวว่านางจะไปแล้ว…”คำว่า ‘ไปแล้ว’ราวกับสายฟ้าที่ฟาดลงกลางใจ จางกุนเหยาวางทุกสิ่งลงทันที ก่อนจะรีบลุกขึ้นและออกจากเรือนใหญ่ เขาเดินตรงไปยังเรือนนอนของหยางมี่ ประตูห้องเปิดอยู่เพียงครึ่ง ใบหน้าของเขาเคร่งเครียด ราวกับกลัวว่าจะเห็นความว่างเปล่าที่เขาคาดคิดเมื่อเข้าไปในห้อง ภายในนั้นไม่มีร่องรอยของนางเลย ข้าวของสำคัญของหยางมี่หายไปบางส่วน บนโต๊ะเขียนหนังสือที่นางเคยใช้ ยังมีเพียงกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่มือของเขาสั่นเล็กน้อยขณะหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status