Home / รักโบราณ / วสันต์ในห้วงฝัน / บาดแผลที่ไม่อาจลืม

Share

บาดแผลที่ไม่อาจลืม

last update Last Updated: 2024-10-21 19:08:46

ท้องฟ้าเหนือกองทัพต้าหยางยังคงแต้มด้วยสีหม่นของเมฆหมอกที่ลอยคลุมราวกับเงาแห่งความอึมครึมภายในใจของใครบางคน แม้ว่าการเดินทัพของกองทัพกล้าจะเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเสียงแห่งความภาคภูมิใจ แต่สำหรับแม่ทัพใหญ่ “จางชิงหยวน” แล้วนั้นความรู้สึกของเขากลับไม่ได้สะท้อนภาพแห่งชัยชนะนั้นเลย

จางชิงหยวนขี่ม้าสูงสง่านำหน้าเหล่าทหารที่กลับมาจากการยึดครองหัวเมืองทางตะวันออก ทหารแต่ละคนดูมีความสุขและโล่งใจที่สามารถกลับมาเยือนบ้านเมืองได้อีกครั้งหลังจากการสู้รบอันยาวนาน เสียงพูดคุยและรอยยิ้มที่แสดงถึงความปลอดภัยทำให้บรรยากาศดูสดใส แต่จางชิงหยวนกลับไม่มีความรู้สึกร่วมใดๆ กับพวกเขาเลยสักนิด

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของแม่ทัพหนุ่มทอดมองออกไปยังเส้นขอบฟ้าไกล ท่ามกลางหมอกหนาที่ปกคลุมแผ่นดินเบื้องหน้า แต่สิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่ความยินดีใดๆ หากแต่เป็นภาพจำในอดีตที่กัดกินจิตใจของเขามานานถึงสามปี ภาพของเพลิงสงคราม เสียงกรีดร้อง ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีวันหวนคืน และใบหน้าของคนรักที่ไม่อาจลืมเลือนไปได้

สามปีก่อน...

ควันไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เสียงโห่ร้องของศัตรูจากแคว้นเสียนหู่ดังกลบเสียงลมและเสียงฟ้าร้องรอบๆ พวกมันบุกเข้ามายังค่ายทหารของแคว้นต้าหยาง เพลิงสงครามลุกลามไปทุกทิศทาง ร่างทหารหลายคนล้มลงกลางสนามรบ เปื้อนดินด้วยเลือดแดงฉาน

เสียงดาบปะทะกันดังกึกก้องท่ามกลางความโกลาหล แต่มนต์ดำที่ถาโถมใส่กองทัพต้าหยางในวันนั้นคือสิ่งที่ทำลายขวัญกำลังใจของพวกเขามากที่สุด มันเป็นวิชาลับที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน พลังแห่งความมืดนั้นเปรียบเสมือนพายุที่พร้อมจะกลืนกินทุกสิ่งที่ขวางหน้า

ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดุเดือด จางชิงหยวนมองเห็นแสงสีดำวาบขึ้นมาในท้องฟ้าด้านหน้า ร่างของ “ไป๋ซูเหม่ย” หญิงสาวผู้เป็นที่รักของเขายืนอยู่ท่ามกลางสนามรบ นางกำลังยืนเผชิญหน้ากับศัตรูคนหนึ่ง รองแม่ทัพหวงหมิงเจ๋อจากแคว้นเสียนหู่ ผู้ใช้มนต์ดำที่ทรงพลังที่สุดของฝ่ายศัตรู

ดวงตาของไป๋ซูเหม่ยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นางไม่เคยต้องเผชิญกับพลังมนต์ดำมาก่อน จางชิงหยวนรีบพุ่งเข้าไปหานางพร้อมกับตะโกนเรียก

“เหม่ยเอ๋อร์!”

แต่ทว่าเสียงของเขาถูกกลบไปด้วยเสียงคำรามของมนต์ดำที่ฟาดใส่ร่างของนาง แสงสีดำพุ่งเข้าใส่ไป๋ซูเหม่ยราวกับสายฟ้าที่โหมกระหน่ำ

ร่างของหญิงสาวกระเด็นลอยไปตามแรงกระแทก ก่อนที่จะตกลงสู่พื้น จางชิงหยวนวิ่งไปถึงตัวนางทันที หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความกลัว เขาทรุดตัวลงข้างๆ ร่างที่นอนแน่นิ่งของนาง

ไป๋ซูเหม่ยนอนอยู่ท่ามกลางเพลิงสงครามและเสียงดาบที่ยังคงดังก้องรอบตัว ร่างกายของนางเริ่มเย็นเยียบลงเรื่อยๆ ดวงตาคู่งามที่เคยเปล่งประกายกลับบรรจงปิดอย่างสนิท

จางชิงหยวนเอื้อมมือที่สั่นเครือไปสัมผัสใบหน้างามของไป๋ซูเหม่ย ความเจ็บปวดราวกับดาบที่กรีดลงไปในหัวใจ ความโศกเศร้าครอบงำเขาจนแทบหายใจไม่ออก ภาพของคนรักที่จากไปอย่างไม่มีวันหวนคืนยังคงชัดเจนในจิตใจของเขา ร่างของนางที่เคยนุ่มนวลและอบอุ่นกลับกลายเป็นร่างไร้ชีวิต หัวใจของเขาพลันรู้สึกราวกับถูกฉีกเป็นชิ้นๆ

เขามองไปทั่วสนามรบ ในขณะที่ความสับสนวุ่นวายยังคงดำเนินต่อไป แต่ในหัวของเขามีคำถามหนึ่งที่ผุดขึ้นมาตลอดเวลา

“พวกมันต้องมีหนอนบ่อนไส้ช่วยทะลวงค่ายของเราจากภายใน...”

จางชิงหยวนไม่เชื่อว่าการโจมตีครั้งนั้นเป็นเพียงแค่แผนการธรรมดา ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนเป็นการวางแผนอย่างดีและรู้ทันทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขา

“ว่าแต่มันผู้นั้นเป็นใคร!?” เขารู้ว่าต้องมีใครบางคนที่ช่วยเหลือศัตรูจากภายใน และเขาจะไม่ยอมปล่อยให้คนทรยศผู้นั้นหลุดรอดไปได้

เขาเอื้อมมือสัมผัสร่างไร้วิญญาณของไป๋ซูเหม่ยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะค่อยๆ ปล่อยมือ หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความแค้น “ข้าจะต้องหาคนทรยศให้ได้... และข้าจะล้างแค้นให้เจ้า เหม่ยเอ๋อร์”

เสียงฝีเท้าม้าของกองทหารต้าหยางยังคงดังเป็นจังหวะขณะที่พวกเขาเดินทางกลับบ้านหลังจากชัยชนะเหนือหัวเมืองทางตะวันออก แต่สำหรับจางชิงหยวน ชัยชนะครั้งนี้กลับไม่ได้ช่วยให้หัวใจของเขาสงบลงได้เลย ใบหน้าของเขายังคงเคร่งขรึม ดวงตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความคิดถึงและความแค้นที่ยังไม่ได้รับการชำระ

“ท่านแม่ทัพ” เสียงของตวนหลี่ รองแม่ทัพคนสนิท ดังขึ้นจากข้างๆ เขา “ท่านยังคงคิดถึงเรื่องเดิมอยู่ใช่หรือไม่ขอรับ?”

จางชิงหยวนเหลือบมองไปยังตวนหลี่ แววตาของเขายังคงหนักแน่น แต่แฝงด้วยความเจ็บปวดที่ไม่เคยจางหาย “ข้าไม่อาจลืมได้... ข้าจะต้องรู้ให้ได้ว่าใครคือคนทรยศ ข้าจะไม่ปล่อยให้มันหลุดรอดไปอีก”

ตวนหลี่พยักหน้าเบาๆ เขาเข้าใจดีถึงความเจ็บปวดของแม่ทัพหนุ่ม ทั้งสองต่างเคยผ่านเหตุการณ์อันโหดร้ายมาด้วยกันในวันนั้น เขาจึงรู้ว่าจางชิงหยวนไม่อาจปล่อยวางเรื่องนี้ได้ง่ายๆ

“ข้าจะช่วยท่านสืบหาความจริงเอง ท่านไม่ต้องเป็นกังวล ข้าจะไม่หยุดจนกว่าจะพบตัวคนทรยศ” ตวนหลี่ให้คำมั่นเสียงหนักแน่น

จางชิงหยวนไม่ได้ตอบกลับอะไร เพียงแต่มองออกไปยังเส้นทางที่ทอดยาวเบื้องหน้า เสียงกีบม้ายังคงดังก้องในอากาศ บรรยากาศของการเดินทางกลับเต็มไปด้วยความเงียบงัน เหล่าทหารยังคงเดินต่อไปด้วยความหวังที่จะได้พักผ่อนหลังจากการสู้รบอันยาวนาน

“ท่านแม่ทัพ” ตวนหลี่พูดขึ้นอีกครั้งเมื่อพวกเขาใกล้จะถึงจุดพักแรม “สายของเราได้ข่าวมาว่าตอนนี้แคว้นเสียนหู่เริ่มทำการเคลื่อนไหวอีกครั้ง ข้าคิดว่าเราควรตั้งค่ายชั่วคราวที่เมืองหมิงอี้ เมืองนี้เป็นเมืองหน้าด่านที่สามารถวางแผนได้ทั้งแนวรุกและรับ และยังเป็นที่อยู่ของลู่หยาง คนสนิทของพวกเราที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในการบุกโจมตีค่ายครั้งนั้น ข้าเชื่อว่าอาจจะมีเบาะแสบางอย่างที่นั่นให้เราค้นหา”

จางชิงหยวนหันมามองตวนหลี่ทันทีเมื่อได้ยินชื่อ “ลู่หยาง” หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย ความทรงจำเกี่ยวกับการหายตัวไปของลู่หยางผุดขึ้นมาในหัวของเขา ความรู้สึกว่ายังมีบางสิ่งบางอย่างที่ถูกปกปิดไว้ยังคงวนเวียนอยู่ในใจ

“ลู่หยาง...” จางชิงหยวนพึมพำเบาๆ ความคิดเกี่ยวกับการตามหาคนทรยศและการหาเบาะแสของลู่หยางเริ่มเข้ามาในหัว

“บางที... ข้าอาจจะพบสิ่งที่ข้าต้องการที่นั่น” จางชิงหยวนพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม ขณะที่สายตาของเขาจับจ้องไปยังเส้นทางข้างหน้า

“ตวนหลี่ แจ้งกองทัพให้เตรียมตัว” จางชิงหยวนสั่งเสียงเบาแต่เด็ดขาด “เราจะไปตั้งค่ายที่เมืองหมิงอี้ในยามเช้าของวันพรุ่งนี้ และข้าไม่ต้องการให้ใครชักช้า”

ตวนหลี่ยิ้มบางๆ ขณะที่ก้มหัวรับคำสั่ง “ขอรับ ท่านแม่ทัพ ข้าจะจัดการให้พร้อมในทันที”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วสันต์ในห้วงฝัน   ตอนพิเศษ 2/2

    วันรุ่งขึ้นขณะที่พวกเขาเดินชมรอบเมือง ทิวทัศน์และบรรยากาศยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม ทว่าในมุมหนึ่งของหมู่บ้านนั้นมีเสียงกระซิบกระซาบขึ้นมา ชาวบ้านบางคนที่ยังคงระแวงกับคำสาปเก่าแก่ได้เริ่มพูดถึงคำสาปที่อาจจะกลับมา นัยน์ตาหวาดระแวงของบางคนจ้องมองลู่หยวนฮวาอย่างระมัดระวัง พวกเขาเริ่มถอยหนีเมื่อเห็นนางเดินเข้าใกล้ลู่หยวนฮวารู้สึกถึงบรรยากาศที่ตึงเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความไม่สบายใจเริ่มทับถมอยู่ในใจของนาง นางหันไปพูดกับชาวบ้านเสียงนุ่ม“พวกท่าน…ไม่ต้องหวาดกลัวอีกแล้วนะเจ้าคะ คำสาปนั้นถูกล้างไปแล้ว ต่อไปนี้จะไม่มีตระกูลต้องสาปอีกต่อไปแล้ว”แต่ชาวบ้านบางคนยังคงไม่คลายความระแวง“แล้วทำไมเด็กๆ ถึงป่วยไม่มีสาเหตุในวันเดียวกับที่ท่านกลับมาเล่า?”เสียงหนึ่งดังขึ้นมาท่ามกลางกลุ่มชาวบ้าน และคนอื่นๆ เริ่มหันไปกระซิบกระซาบ พวกเขาดูคล้ายจะเชื่อคำกล่าวนั้นจางชิงหยวนเห็นภรรยารักถูกแคลนแล้วไม่สบอารมณ์นัก ก้าวเข้ามาข้างหน้า มองไปยังชาวบ้านที่ยังคงแสดงท่าทีหวาดระแวง“ข้าขอเตือนพวกท่านทั้งหลาย อย่าปล่อยให้ความกลัวและความเชื่อที่งมงายมาครอบงำความคิดของพวกท่านอีกต่อไป คำสาปนั้นได้ถูกล้างไปแล้ว และสิ่งที่เกิ

  • วสันต์ในห้วงฝัน   ตอนพิเศษ 1/2

    สามปีผ่านไป ชีวิตของลู่หยวนฮวาและจางชิงหยวนเปลี่ยนแปลงไปมาก พวกเขาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในเมืองหลวง หลังจากการแต่งงานและการล้างคำสาปสำเร็จ ทุกอย่างดูจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นพวกเขามีบุตรชายหนึ่งคน ชื่อ "จางหรง" เด็กน้อยวัยสองหนาวที่เต็มไปด้วยความสดใสและความซุกซนใบหน้าของจางหรงมีความละม้ายคล้ายคลึงกับมารดาอย่างเห็นได้ชัด แต่ทว่าดวงตาสีน้ำตาลสวยของเขานั้นสืบทอดมาจากบิดา รอยยิ้มไร้เดียงสาของเด็กน้อยเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่ทำให้ทุกคนรอบข้างรู้สึกอบอุ่นใจในขณะที่รถม้าค่อยๆ เคลื่อนตัวไปตามเส้นทางที่ลัดเลาะสู่เมืองหมิงอี้ ลู่หยวนฮวาและจางชิงหยวนต่างนั่งอยู่ในความเงียบสงบที่อบอุ่น จางหรง เด็กน้อยวัยสองหนาวที่นั่งอยู่ระหว่างพ่อแม่ แต่ดวงตาใสแจ๋วกลับจ้องมองไปที่ทิวทัศน์ภายนอกอย่างตื่นตาตื่นใจ"หม่าม๊า ดู! ดู!" จางหรงร้องออกมาอย่างตื่นเต้น ขณะที่นิ้วมือเล็กของเขาชี้ไปทางหน้าต่างรถม้า "ม้า... ม้าล้ายย... ม้าใหญ่!"ลู่หยวนฮวายิ้มพร้อมกับยื่นมือไปลูบหัวลูกน้อยอย่างอ่อนโยน "ใช่แล้ว หรงเอ๋อร์ นั่นคือลูกม้า มันวิ่งเร็วมากเลยนะ""หรงเอ๋อร์ เจ้าชอบม้าไหม?" จางชิงหยวนถามลูกชายด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ขณะยิ้มให้กั

  • วสันต์ในห้วงฝัน   ย้ายจวน

    แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านม่านหมอกบางๆ ที่ปกคลุมจวนตระกูลลู่ ท่ามกลางความเงียบสงบของสถานที่แห่งนี้ ลู่หยวนฮวายืนอยู่เบื้องหน้าจวนที่เคยเป็นทั้งบ้านและที่หลบภัยของนางมาตั้งแต่วัยเยาว์ รอบตัวมีเพียงเสียงลมเบาๆ พัดผ่านต้นไม้และดอกไม้ที่เคยเป็นความสุขของนางในอดีตวันนี้จวนตระกูลลู่ดูเหมือนจะเงียบงันกว่าทุกครั้ง นางยืนอยู่ตรงลานกว้าง มองไปยังประตูที่นางเคยเดินผ่านครั้งแล้วครั้งเล่า นางจำได้ดีถึงความรู้สึกในทุกครั้งที่นางกลับมาจากการเดินทางจวนแห่งนี้เคยเป็นที่พักใจของนาง แต่บัดนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว จวนนี้ไม่ใช่ที่หลบภัยของนางอีกต่อไป มันกลับกลายเป็นเพียงเงาของความทรงจำที่นางต้องละทิ้งลู่หยวนฮวาหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าที่จะก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก แม้จะมีความเศร้าและความเจ็บปวดที่ยังคงซ่อนอยู่ในใจ นางรู้ดีว่าการปิดจวนตระกูลลู่เป็นการตัดสินใจที่จำเป็น นางต้องเริ่มต้นใหม่ ชีวิตของนางไม่สามารถถูกผูกมัดไว้กับอดีตอีกต่อไปจางชิงหยวนยืนอยู่ไม่ไกลจากนาง เขามองนางด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเข้าใจและห่วงใย เขารู้ดีว่าการละทิ้งจวนแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับลู่หยวนฮวา แต่เขาเชื่อ

  • วสันต์ในห้วงฝัน   การกลับบ้านที่ไม่สมบูรณ์

    ลู่หยวนฮวายืนอยู่ท่ามกลางเสียงฝีเท้าของทหารต้าหยางที่กำลังเคลื่อนทัพกลับ เงาของดวงอาทิตย์ที่ตกดินทอดยาวไปไกล บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบงันของชัยชนะ แต่ในหัวใจของนางกลับรู้สึกถึงความสูญเสียที่ยากจะลบเลือนนางก้มลงมองห่อผ้าที่อยู่ในมือ ข้างในนั้นคืออัฐิของลู่หยาง พี่ชายที่เคยยืนหยัดเพื่อปกป้องนางมาตลอดชีวิต บัดนี้กลับเหลือเพียงเถ้าถ่านที่ไร้ลมหายใจน้ำตาของนางไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว ขณะที่นางเดินตามหลังทัพต้าหยาง มือของนางกำห่อผ้านั้นไว้แน่น นางรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของความสูญเสียที่ถ่วงหัวใจของนางจนแทบยืนไม่อยู่หัวใจของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถทำตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับป้าหลี่ได้"ข้าพูดไว้...ว่าข้าจะจูงมือพี่ใหญ่กลับบ้านพร้อมกัน แต่ตอนนี้ ข้ากลับนำเพียงเถ้ากระดูกของเขากลับไป..."ลู่หยวนฮวาพึมพำเบาๆ ขณะที่มองเถ้ากระดูกในมือของตน นางรู้สึกถึงความหนักหน่วงของความรับผิดชอบที่นางไม่อาจทำได้ตามที่หวัง ความเจ็บปวดจากความสูญเสียที่ท่วมท้นไม่อาจหยุดยั้งน้ำตาที่ไหลออกมาได้จางชิงหยวนที่เดินตามอยู่ไม่ห่าง สังเกตเห็นท่าทีเศร้าสร้อยของนาง เขาเดินเข้ามาใกล้ วางมือเบาๆ ลงบนไหล

  • วสันต์ในห้วงฝัน   การต่อสู้ครั้งสุดท้าย

    ลู่หยางปรากฏตัวขึ้น ท่ามกลางสนามรบที่แสงจันทร์ลอยเลือนราง ใบหน้าของเขาฉายแววเคร่งขรึม สายตาจ้องมองหวงหมิงเจ๋อ ดาบในมือของเขาสะท้อนแสงอ่อนๆ จากดวงจันทร์ความคิดในหัวของเขาไม่ได้มีเพียงการต่อสู้กับหวงหมิงเจ๋อเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความรู้สึกสับสนที่คอยตามหลอกหลอนในใจการตัดสินใจที่จะเสียสละเพื่อแก้ไขความผิดในอดีตและปกป้องคนที่เขารักในปัจจุบันทุกสายตาจับจ้องไปที่ลู่หยาง เมื่อหวงหมิงเจ๋อหันมามอง ความดุร้ายในแววตาของหวงหมิงเจ๋อส่งผลให้ความตึงเครียดเพิ่มพูนขึ้น ขณะที่ลู่หยางยังคงเดินมาด้วยความมั่นใจในตัวเอง ใบหน้าไร้ความหวาดหวั่น ทว่าในใจเขายังคงกังวลถึงน้องสาวที่อยู่ท่ามกลางความอันตรายของค่ายกล ความรู้สึกปกป้องที่มีต่อลู่หยวนฮวาทำให้เขารู้ว่าการเสียสละครั้งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อรักษาความปลอดภัยของนางความเงียบระหว่างลู่หยางและหวงหมิงเจ๋อนั้นกลับสร้างความตึงเครียดจนทนไม่ไหว ทุกคนในสนามรบรู้ดีว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้จะเป็นจุดสำคัญที่อาจกำหนดชะตากรรมของสงคราม แต่ก่อนที่หวงหมิงเจ๋อจะทันได้ก้าวไปข้างหน้า จางชิงหยวนที่ยืนไม่ห่างออกไปสังเกตเห็นเจตนาของหวงหมิงเจ๋อทันทีความโกรธและความแค้นที่สั่

  • วสันต์ในห้วงฝัน   ความในใจของลู่หยาง

    ลู่หยางปรากฏตัวขึ้น ท่ามกลางสนามรบที่แสงจันทร์ลอยเลือนราง ใบหน้าของเขาฉายแววเคร่งขรึม สายตาจ้องมองหวงหมิงเจ๋อ ดาบในมือของเขาสะท้อนแสงอ่อนๆ จากดวงจันทร์ทุกสายตาจับจ้องไปที่ลู่หยาง เมื่อหวงหมิงเจ๋อหันมามอง แต่ยังไม่ทันที่หวงหมิงเจ๋อจะได้พูดอะไร สายตาของทั้งสองประสานกัน ความเงียบชั่วขณะนั้นกลับสร้างความตึงเครียดครึ่งชั่วยามที่แล้ว...ลู่หยางยืนอยู่ลำพังท่ามกลางเงามืดของป่า รอบตัวเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมเบาๆ ที่พัดผ่านกิ่งไม้และเสียงใบไม้ที่ปลิวตามลม ความเงียบในยามนี้กลับยิ่งทำให้หัวใจของเขาหนักอึ้ง ความคิดในหัวของเขาวนเวียนไปกับภาพความหลังที่ไม่อาจลบเลือน ทั้งพ่อแม่ที่จากไป และซูเหม่ย คนรักที่เขาไม่เคยลืมเลือนเขายืนก้มมองม้วนกระดาษโบราณที่เขาถืออยู่ในมือ ตำราลับของตระกูลที่บอกวิธีล้างคำสาปได้อย่างละเอียด บางทีนี่ควรจะเป็นความหวังของตระกูล ความหวังที่จะยุติคำสาปที่คอยตามหลอกหลอนสายเลือดของเขามานาน แต่สำหรับลู่หยางแล้ว มันกลับไม่ใช่เช่นนั้นอีกต่อไปคำสาปที่ผูกพันสายเลือดแห่งตระกูลลู่เกิดจากความโลภและความเห็นแก่ตัวของบรรพบุรุษผู้กระทำผิดต่อแผ่นดิน การล้างคำสาปนี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อผู้ส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status