Share

บทที่ 110

Author: ทองประกาย
"ทำได้ดีมาก ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับฝีมือการแสดงของเจ้าแล้ว"

เจียงซุ่ยฮวนมอบเงินห้าตำลึงให้เขา "ไปล้างหน้าเสียก่อน แล้วแสดงให้เหมือนหน่อย อย่าให้ใครจับได้"

"วางใจได้ขอรับแขกผู้มีเกียรติ ข้าชอบดูละครมาตั้งแต่เด็ก การแสดงไม่มีปัญหาแน่นอน"

บ่าวตบอกตัวเอง แล้วเดินออกไปอย่างมั่นใจ

ว่านเมิ่งเยียนงุนงงกับบทสนทนาระหว่างเจียงซุ่ยฮวนกับบ่าว จึงถาม "เจ้าให้บ่าวแสดงอะไร? ทำไมเขาถึงต้องยกเว้นค่าอาหารให้เมิ่งชิงกับพวกนางด้วย? เจ้าจะเลี้ยงพวกนางหรือ?"

"ข้าไม่มีทางเลี้ยงพวกนางหรอก" เจียงซุ่ยฮวนขยิบตา "ฟังสิ"

นอกห้อง บ่าวตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความร้อนรน "เถ้าแก่! เถ้าแก่! แย่แล้ว คุณหนูหลายคนในห้องนั้นกินแล้วไม่จ่ายเงิน!"

ว่านเมิ่งเยียนตาโต ในทันใดก็เข้าใจสิ่งที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังทำ

"พวกเราไปดูความสนุกที่ริมหน้าต่างกันเถอะ" เจียงซุ่ยฮวนจูงว่านเมิ่งเยียนไปที่ริมหน้าต่าง เปิดหน้าต่างมองลงไปข้างล่าง

หน้าต่างบานนี้อยู่ในตำแหน่งที่ดี พอดีมองเห็นเมิ่งชิงกับพวกเดินออกจากประตูใหญ่ของเยว่ฟางโหลวพร้อมเสียงหัวเราะ แต่ยังไม่ทันได้เดินกี่ก้าว เถ้าแก่ของเยว่ฟางโหลวก็รีบพาคนมาขวางพวกนางไว้

เถ้าแก่โกรธจนเอ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 111

    ลูกค้าที่ยืนดูเรื่องสนุกอยู่ที่ประตูพูดว่า "ใช่แล้ว พวกเรากินที่หอเยว่ฟางมาตั้งหลายครั้ง ไม่เคยเห็นเด็กรับใช้คนไหนผิวสีทองแดงเลย คุณหนู แม้แต่จะโกหกก็ยังโกหกไม่เนียนเลย" เมิ่งชิงขบริมฝีปากแน่น ทั้งอายทั้งโกรธ ตวาดว่า "ข้าผู้เป็นหลานสาวแท้ๆ ของแม่ทัพเจิ้นหยวน จะมาโกหกเพื่อเงินแค่พันกว่าตำลึงได้อย่างไร?" ได้ยินเมิ่งชิงอ้างชื่อตระกูล เจียงซุ่ยฮวนที่นั่งมองลงมาจากหน้าต่างชั้นสองหัวเราะเยาะ แม่ทัพเจิ้นหยวนอายุปูนนี้แล้ว ยังต้องมาถูกหลานสาวทำให้อับอาย ช่างน่าอดสูเสียจริง พอได้ยินเช่นนั้น ผู้คนบนถนนก็ยิ่งวิพากษ์วิจารณ์กันใหญ่ เยาะเย้ยว่าเมิ่งชิงเป็นถึงหลานสาวแม่ทัพเจิ้นหยวน กินเลี้ยงไม่จ่ายเงินก็แล้วไป ยังโกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูท่าแม่ทัพเจิ้นหยวนจะเก่งแต่รบ แต่การอบรมลูกหลานกลับไม่ได้เรื่อง เถ้าแก่มองเมิ่งชิงตั้งแต่หัวจรดเท้า จู่ๆ ก็ชี้หน้าเมิ่งชิงพูด "ข้าจำได้แล้ว พวกเจ้านี่แหละที่มากินที่ร้านเราบ่อยๆ ทุกครั้งสั่งอาหารมากมายแต่กินแค่นิดเดียว แล้วให้คุณหนูที่มีปานบนหน้าเป็นคนจ่ายเงิน" เขาพูดอย่างดูถูก "น่าแปลกละที่พวกเจ้าหนีไม่จ่ายเงิน ที่แท้ก็เพราะวันนี้คุณหนูคนนั้นไม่ได้มา หลานสาวแม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 112

    ถนนหน้าเยว่ฟางโหลวเต็มไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลมา ผู้มามุงดูมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรู้ว่าคนที่กินแล้วไม่จ่ายเงินคือหลานสาวแท้ๆ ของแม่ทัพเจิ้นหยวน เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของชาวบ้านก็ยิ่งดังขึ้น เมิ่งชิงและพวกแทบจะจมอยู่ในน้ำลายกระเด็นจากคนมุง ต่างเอาแขนเสื้อบังหน้า อยากจะหาหลุมซ่อนตัว เมิ่งชิงอยากจะออกไปตามหาว่านเมิ่งเยียน แต่กลับพบว่าแทบจะเบียดออกไปไม่ได้ ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้คนมักจะทนไม่ไหวจนแสดงธาตุแท้ออกมา สตรีข้างๆ โทษเมิ่งชิงด้วยความโกรธ "ล้วนเป็นความผิดของเจ้า ข้าบอกแล้วให้ส่งคนไปตามว่านเมิ่งเยียน เจ้าไม่ยอม ยังบอกว่าไม่อยากเห็นหน้านาง ตอนนี้เรื่องวุ่นวายขนาดนี้ หากท่านพ่อข้ารู้เข้า ต้องกักบริเวณข้าครึ่งปีแน่!" เมิ่งชิงกำลังหงุดหงิดอยู่แล้ว พอได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งโมโห ผลักสตรีผู้นั้นอย่างแรง "เจ้าคิดว่าข้าสบายนักหรือ? ท่านปู่ข้าเกลียดที่สุดคือคนที่ชอบเอาเปรียบผู้อื่น หากท่านรู้ว่าข้ากินแล้วไม่จ่ายเงิน ต้องลงโทษข้าตามกฎของตระกูลแน่!" พูดจบ เมิ่งชิงก็เห็นร่างของว่านเมิ่งเยียนในฝูงชน นางดีใจจนแทบบ้า ตะโกนเสียงดัง "เมิ่งเยียน!" ฝูงชนแหวกทางให้ ว่านเมิ่งเยียนเดินมาหยุดตรงหน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 113

    เจียงซุ่ยฮวนร้องอย่างตกใจ "อ้าว! คนที่กินเลี้ยงไม่จ่ายเงินจะใช่เจ้าหรือไม่?" สีหน้าเมิ่งชิงแดงบ้างซีดบ้าง ขบฟันแน่นพูด "นี่เป็นความเข้าใจผิด ข้าไม่ได้กินแล้วไม่จ่ายเงิน!" "อย่างนั้นหรือ? ข้าเห็นไม่เหมือนเป็นความเข้าใจผิดเลยนะ" เจียงซุ่ยฮวนแสดงท่าทีเห็นใจเล็กน้อย แต่ดวงตากลับวาววับด้วยรอยยิ้ม "น่าเสียดายจริงๆ" "เสียดายอะไร?" เมิ่งชิงงุนงง จ้องเจียงซุ่ยฮวนอย่างดุร้าย เจียงซุ่ยฮวนพยายามกดมุมปากที่จะยกขึ้น "ตามที่ข้ารู้มา พวกเจ้าหลายคนยังไม่ได้แต่งงานใช่หรือไม่?" เมิ่งชิงพูดอย่างหยิ่งผยอง "ใช่แล้ว ตระกูลพวกเราดีถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าต้องเลือกคู่ครองในอนาคตอย่างดี" "ไม่เหมือนเจ้า หย่าจากองค์ชายหนานหมิงแล้ว ยังตัดขาดกับจวนหย่งอ๋อง ตกอับถึงเพียงนี้ ข้าว่ามีแต่ขอทานบนถนนที่ยอมแต่งกับเจ้า" เมิ่งชิงพูดจบก็หัวเราะคิกคัก เจียงซุ่ยฮวนก็หัวเราะ "ข้าว่าเจ้าควรเป็นห่วงตัวเองกับเพื่อนๆ ของเจ้ามากกว่า" นางมองผู้คนรอบข้าง ยิ้มให้เมิ่งชิง "วันนี้เรื่องที่พวกเจ้ากินเลี้ยงไม่จ่ายเงินอื้อฉาวถึงเพียงนี้ พรุ่งนี้คงแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวง ไม่รู้ว่าบรรดาขุนนางผู้สูงศักดิ์ในเมืองหลวง ผู้ใดจะยอมรับ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 114

    เมิ่งชิงถามออกมาอย่างไม่รู้ตัว "เจ้ารู้ได้อย่างไร?" "หึ ไม่อยากให้คนรู้ ก็อย่าทำเสียตั้งแต่แรก" ว่านเมิ่งเยียนชายตามองเมิ่งชิงอย่างเย็นชา แล้วพูดกับเจียงซุ่ยฮวน "ซุ่ยฮวน พวกเราไปกันเถอะ" "อืม" ทั้งสองหันหลังเดินจากไป ไม่สนใจเมิ่งชิงกับพวกอีก พวกนางที่ติดอยู่ท่ามกลางฝูงชนแทบจะสิ้นหวัง นอกจากเมิ่งชิง คนอื่นๆ ล้วนเสียใจมาก ที่แต่ก่อนปฏิบัติต่อว่านเมิ่งเยียนเช่นนั้น หากไม่ทำเช่นนั้น วันนี้ก็คงไม่ต้องมาพบจุดจบเช่นนี้ เถ้าแก่เห็นพวกนางหาเงินมาจ่ายไม่ได้จริงๆ จึงส่งคนไปที่บ้านของพวกนาง เล่าเรื่องที่พวกนางกินแล้วไม่จ่ายเงิน แม่ทัพเจิ้นหยวนโกรธจัด สั่งคนไปรับตัวเมิ่งชิงกลับมาทันที ใช้แส้เฆี่ยนเมิ่งชิงอย่างรุนแรง ไม่ว่ามารดาของเมิ่งชิงจะขอร้องอย่างไรก็ไม่ฟัง เฆี่ยนจนเมิ่งชิงแทบลุกไม่ขึ้น แล้วขังไว้ในห้องห้ามออกมา คนอื่นๆ ก็ถูกลงโทษเช่นเดียวกัน เมื่อเจียงซุ่ยฮวนรู้เรื่องนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงของวันรุ่งขึ้นแล้ว หงหลัวได้ยินมาจากในเมือง จึงเล่าให้เจียงซุ่ยฮวนฟังอย่างมีอรรถรส เจียงซุ่ยฮวนจิบชา แค่นหัวเราะเย็นชา "สมควรแล้ว" เมิ่งชิงกับพวกเอาเปรียบว่านเมิ่งเยียนมานาน ถึงเวลาที่ต้องชดใ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 115

    "เด็กน้อย พวกเราเป็นคนมีชีวิต ไม่ใช่งานศิลปะที่สลักจากหิน ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ อย่าเข้มงวดกับตัวเองมากนัก" เจียงซุ่ยฮวนปลอบ หลังแต่งหน้าเสร็จ หยิ่งเถาช่วยว่านเมิ่งเยียนเกล้าผมทรงหลวมๆ ดูน่ารักมีชีวิตชีวา สุดท้ายเจียงซุ่ยฮวนหยิบกระโปรงสีเขียวอมเทาของตนให้ว่านเมิ่งเยียนเปลี่ยน ใบหน้าของว่านเมิ่งเยียนงดงามอยู่แล้ว พอแต่งหน้าแล้วยิ่งดูสง่างามเหนือโลกีย์ ดูสะอาดตาและสวยงาม แต่งตัวเช่นนี้ สวยกว่าเมื่อครู่มากนัก เจียงซุ่ยฮวนพอใจยิ่ง ว่านเมิ่งเยียนมองตัวเองในกระจกอย่างตกตะลึง พึมพำ "ที่แท้ข้าก็สวยได้ถึงเพียงนี้" เจียงซุ่ยฮวนตบบ่านาง "หญิงสาวที่มั่นใจในตัวเองนั่นแหละสวยที่สุด" พวกนางนั่งรถม้าไปจวนเสวีย ระหว่างทางเจียงซุ่ยฮวนถามลอยๆ "เจ้าส่งบัตรเชิญไปจวนเสวียหรือยัง?" ว่านเมิ่งเยียนสูดลมหายใจเฮือก ตกใจ "ข้าลืมไป แย่แล้วๆ คราวนี้คุณชายเสวียต้องมีความประทับใจที่แย่กับข้าแน่ๆ" เจียงซุ่ยฮวนปลอบ "อย่ากังวลไปเลย เดี๋ยวพวกเราไม่ต้องเข้าไป เจ้าแค่อธิบายให้คุณชายเสวียเข้าใจที่หน้าประตูก็พอ" "เมิ่งชิงกับพวกนางแกล้งเจ้าเช่นนั้น ทำลายชื่อเสียงของเจ้า เจ้าร้อนใจจนลืมส่งบัตรเชิญล่วงหน้า ก็เป็น

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 116

    ทั้งสองหันไปมองเจียงซุ่ยฮวนพร้อมกัน เจียงซุ่ยฮวนพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน "คุณชายเสวียช่างยุ่งจริงๆ" นางหันไปยิ้มให้ว่านเมิ่งเยียน "วันนี้ยังเช้าอยู่ พวกเราไปหาร้านน้ำชาดื่มชากันเถอะ" ว่านเมิ่งเยียนฝืนยิ้ม "ดี" ดวงตาของเสวียหลิงฉายแววประหลาดใจ "เจ้าคือเจียงซุ่ยฮวน ธิดาแท้ๆ ของท่านโหว?" เจียงซุ่ยฮวนเลิกคิ้ว "ท่านรู้จักข้า?" เสวียหลิงพยักหน้า "เมื่อไม่นานในงานอภิเษกขององค์ชายหนานหมิง ข้าเคยเห็นเจ้าที่วังหนานหมิง" เขาทำท่าเหมือนเห็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตได้ "ได้ยินฮูหยินท่านเสนาบดีบอกว่าเจ้ามีวิชาแพทย์?" เจียงซุ่ยฮวนไม่รู้จักฮูหยินท่านเสนาบดีคนไหน แต่ช่วงก่อนหน้านี้มีสตรีผู้สูงศักดิ์ท่าทางสง่างามคนหนึ่งมาให้นางรักษา และชื่นชมวิชาแพทย์ของนางไม่หยุด หากนางเดาไม่ผิด สตรีผู้นั้นคงเป็นฮูหยินท่านเสนาบดี "ใช่ พอรู้บ้างเล็กน้อย" เจียงซุ่ยฮวนยิ้มไม่เต็มใจ ดึงแขนว่านเมิ่งเยียนเตรียมจะจากไป "รอก่อน!" เสวียหลิงรีบขวางหน้าพวกนางไว้ พูดกับเจียงซุ่ยฮวน "ขออภัยคุณหนูเจียง เมื่อครู่ข้าเสียมารยาท" เจียงซุ่ยฮวนกอดอก พูดเสียงเย็น "คุณชายเสวีย ข้ามากับเมิ่งเยียน หากท่านจะขอโทษ ก

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 117

    “อะไรนะ?” สีหน้าของเสวียหลิงซีดขาว รีบสาวเท้าก้าวยาวกลับเข้าไปในจวนทันทีเจียงซุ่ยฮวนกับว่านเมิ่งเยียนมองหน้ากัน ก่อนจะเดินตามเข้าไปเมื่อทั้งสามมาถึงหน้าเตียงของมารดาเสวียหลิง ก็เห็นร่างของนางซูบผอม หน้าซีดคล้ำ และร่างกายสั่นกระตุกไม่หยุด เลือดสดๆ ไหลซึมออกจากปากอย่างช้าๆเสวียหลิงเห็นดังนั้นก็คุกเข่าลงข้างเตียง จับมือของมารดาไว้แน่นแล้วพูดว่า "ท่านแม่ ข้าพาแพทย์มาช่วยท่านแล้ว โปรดอดทนไว้ก่อน"แต่ดูเหมือนมารดาของเสวียหลิงจะไม่ได้ยินคำพูดของเขาเลย มีเพียงร่างที่ยังคงกระตุกต่อไปเจียงซุ่ยฮวนไม่พูดพร่ำใดๆ รีบดันตัวเสวียหลิงออกไป แล้วนำหมอนหยกที่อยู่ใต้ศีรษะของมารดาออก เปลี่ยนเป็นหมอนผ้านุ่มแทน จากนั้นปลดเสื้อของนางเล็กน้อยเพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น ก่อนจะจับปากของนางให้เปิดออกเพื่อตรวจดู จึงพบว่านางกัดลิ้นตัวเองจนเลือดไหลเจียงซุ่ยฮวนหยิบยาห้ามเลือดออกมาโรยลงไปบนบาดแผล จากนั้นใช้ผ้าเช็ดรอยเลือดที่มุมปากของนางอย่างระมัดระวังเสวียหลิงตกใจร้องถามว่า "เจ้ากำลังทำอะไร?"เจียงซุ่ยฮวนพูดโดยไม่หันกลับไป "หมอนหยกแข็งเกินไป อาจทำให้ศีรษะแม่เจ้าได้รับบาดเจ็บได้ ปลดเสื้อเพื่อช่วยให้หายใจสะด

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 118

    บนเครื่องมือปรากฏว่ามีปรสิตยาวประมาณสามเซนติเมตรอยู่ในร่างกายของท่านท่านแม่เสวีย ซึ่งกำลังกดทับเส้นประสาทของนาง ส่งผลให้ท่านท่านแม่เสวียเกิดอาการกระตุกไม่หยุดเจียงซุ่ยฮวนสูดหายใจลึก ดูท่าว่าคงต้องผ่าตัดนำปรสิตในร่างของท่านแม่เสวียออกมาให้ได้นางฉีดยาสลบให้ท่านแม่เสวีย รอจนกระทั่งนางหมดสติไป นางจึงเริ่มทำความสะอาดห้องผ่าตัดอย่างละเอียด และเปลี่ยนชุดผ่าตัดเพื่อเริ่มต้นการผ่าตัดกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่รุนแรงแทรกซึมเข้าสู่โพรงจมูก ขณะนั้นเด็กในครรภ์ของเจียงซุ่ยฮวนกลับขยับตัวขึ้นมาเล็กน้อยนี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกถึงการดิ้นของเด็ก แต่ไม่มีเวลาจะดีใจ นางลูบท้องพลางพูดเบา ๆ ว่า “เจ้าเป็นเด็กดี รอให้แม่ทำงานนี้เสร็จก่อน แล้วแม่จะพาเจ้าไปกินอาหารดี ๆ”สิ้นเสียงพูด เด็กในครรภ์ก็หยุดขยับทันทีเจียงซุ่ยฮวนยิ้มอย่างโล่งอก หยิบมีดผ่าตัดขึ้นมาและเริ่มทำการผ่าตัดแม้ว่านางจะไม่ได้ทำการผ่าตัดมาหลายเดือนแล้ว แต่มือของนางยังคงมั่นคง นางดำเนินการผ่าตัดอย่างเป็นระเบียบโดยลำพังนางค่อย ๆ คีบปรสิตออกมาอย่างระมัดระวัง แล้วโยนมันลงในถาดที่อยู่ข้าง ๆ จากนั้นจึงเริ่มเย็บแผล แผลที่เย็บนั้นแน่นหนาและละเอ

Latest chapter

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 578

    ชายร่างยักษ์ถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจนแทบดูไม่ออกว่าเดิมมีหน้าตาเป็นเช่นไรมิหนำซ้ำ เลือดกำเดายังไหลทะลักไม่หยุด แขนทั้งสองไร้ความรู้สึก แม้แต่จะเช็ดเลือดออกจากใบหน้ายังไม่อาจกระทำได้เขาจ้องเจียงซุ่ยฮวนด้วยสายตาเจ็บใจ “เมื่อครู่นั้น…”—พูดได้เพียงสองคำ เลือดกำเดาก็ไหลย้อนเข้าปาก เขาสะอึกแล้วถ่มถุยออกมา “แหวะ! แหวะ! ช่างน่าขยะแขยงนัก!”น้ำลายปนเลือดแทบจะพ่นใส่เจียงซุ่ยฮวน นางแสดงสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์ ยกมือบังคับศีรษะของเขาให้หันไปทางอัฒจันทร์น้ำลายและเลือดกระเซ็นกระจาย ผู้ชมพากันหวีดร้องหลบหนี บางคนร้องเสียงหลง โดยเฉพาะหญิงสาวในชุดชมพูผู้หนึ่งที่ทนไม่ไหว โยนผ้าเช็ดหน้าขึ้นเวที “เอาผ้านี่อุดจมูกเขาซะ ข้ายินดีให้หนึ่งพันตำลึง!”“ตกลง” เจียงซุ่ยฮวนก้มลงหยิบผ้าจากพื้น ยัดเข้าไปในรูจมูกของชายร่างยักษ์อย่างไม่ลังเลในที่สุดชายผู้นั้นก็หยุดพ่นน้ำลาย เขาพูดเสียงอู้อี้ผ่านผ้าที่ยัดจมูก “เมื่อครู่นั้นข้าแค่ประมาทไป หากเจ้ากล้าพอ จงต่อแขนข้าให้กลับเข้าที่ เราจะสู้กันใหม่!”เจียงซุ่ยฮวนทรุดกายนั่งลง บีบหัวเขาแนบพื้น “ข้ามิได้ว่างนัก หากเจ้าตอบคำถามของข้า ข้าจะ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 577

    บุรุษร่างยักษ์ร้องโอดโอย พลางยกมือกุมใบหน้า ถอยหลังเซถลาไปหลายก้าวพลันมีเสียงโห่ร้องอย่างขัดเคืองดังลั่นจากบนอัฒจันทร์“นี่มันเรื่องอะไร! ร่างกายใหญ่โตปานนี้ยังสู้หญิงไม่ได้อีกหรือ!”“ใช่แล้ว! อ่อนแอเกินไปแล้วกระมัง!”“ลุกขึ้นสิ! ข้าลงพนันหมดหน้าตักไว้กับเจ้าเลยนะ!”ดูท่าคนเหล่านี้ล้วนวางเดิมพันไว้ที่ชายร่างใหญ่ผู้นั้นทั้งสิ้นก็ไม่แปลก...ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ต่างกันลิบลับ ใครบ้างเล่าจะเชื่อว่าสตรีอย่างเจียงซุ่ยฮวนจะชนะเขาได้ชายร่างใหญ่เช็ดมุมปากของตนเอง เห็นรอยเลือดติดปลายนิ้วก็นัยน์ตาแข็งกร้าวขึ้นมา “ดูท่าข้าคงประเมินเจ้าต่ำไปเสียแล้ว”แต่เดิมเขาเข้าใจว่านางก็เป็นแค่หญิงชาวบ้านธรรมดา ไยเลย...ผ่านไปไม่กี่กระบวนท่า ก็รู้แล้วว่านางหาใช่คนที่เขาจะประมาทได้เจียงซุ่ยฮวนบิดข้อมือเบา ๆ พลางกล่าวเย้ยหยัน “ถูกแล้ว...เจ้ามันตาบอด”ชายร่างใหญ่ลุกพรวดขึ้นจากพื้น แผดเสียงคำรามแล้วพุ่งตรงเข้าหานางด้วยแรงทั้งหมดเจียงซุ่ยฮวนเบี่ยงกายหลบไปด้านข้าง มือข้างหนึ่งยันเสาเวทีไว้แล้วดีดตัวลอยขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะเหวี่ยงเท้าเข้าใส่ใบหน้าชายผู้นั้นอีกคราชายร่างยักษ์ล้มตึงลงกับพื้น เลือดกำเดาไห

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 576

    “สู้กัน! สู้กันสิ!”“ปลุกนางให้ลุกขึ้นมา!”“อย่าเสียเวลา! เร็วเข้า ให้หล่อนลุกขึ้นมาสู้!”เจียงซุ่ยฮวนรู้สึกตัวตื่นจากเสียงอึกทึกโกลาหลรอบกาย เสียงเหล่านั้นดั่งคลื่นซัดถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ประหนึ่ง...จะเร่งให้นาง...สู้รึ!?นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้น พบว่าตนเองกำลังนอนคว่ำอยู่บนพื้นคล้ายลานประลอง ลานแห่งนี้เป็นวงกลม กว้างพอจะรองรับคนได้ราวสิบคนรอบลานประลองมีผู้คนมากมายนับร้อยราย กำลังส่งเสียงร้องตะโกนโห่อย่างบ้าคลั่งจากเครื่องแต่งกายดูแล้ว ล้วนเป็นบรรดาผู้มีฐานะจากเมืองหลวง สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น คำตะโกนเร่งเร้าดังไม่ขาดสายแรกเริ่ม เจียงซุ่ยฮวนยังงุนงงอยู่มาก นางเพิ่งอยู่หน้าจวนแท้ ๆ เหตุใดจึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้เล่า?เมื่อนางค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ฝูงชนโดยรอบก็ยิ่งโห่ร้องเสียงดังกระหึ่มกว่าเดิม“เสียงหนวกหูเสียจริง”นางยกมือกุมขมับ พลางพิจารณาสภาพแวดล้อมรอบกายอย่างตั้งใจสถานที่แห่งนี้...ดูเหมือนจะคุ้นตาอยู่บ้างทันใดนั้น ดวงตาของเจียงซุ่ยฮวนเบิกโพลง ใช่แล้ว! นางจำได้ ที่นี่นางเคยมาเยือนเมื่อหลายปีก่อน เจ้าของร่างเดิมถึงกับวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเพราะทนเห็นความโหดร้าย

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 575

    ปู้กู่ถูกคานไม้ที่ถล่มลงมาทับขาจน เจ็บมีสีหน้าบิดเบี้ยวไปทั้งใบหน้า องครักษ์ลับทั้งหลายเมื่อเห็นดังนั้นจึงกรูกันเข้าไป หวังจะยกคานไม้ออกให้พ้นจากขาของเขาทว่าเปลวเพลิงยังไม่สงบลงโดยสิ้นเชิง ความเสี่ยงที่จะเกิดไฟลุกซ้ำยังมีอยู่ทุกเมื่อ จึงจำต้องแบ่งกำลังครึ่งหนึ่งไว้ดับไฟ อีกครึ่งเข้าไปช่วยปู้กู่คานไม้ที่ถล่มลงมานั้นหนักหนายิ่งนัก แถมยังร้อนจนแทบจับต้องไม่ได้ การจะยกขึ้นจึงยากเย็นนัก ปู้กู่เหงื่อเต็มหน้า พร่ำครางเสียงต่ำ “อย่าห่วงข้าเลย รีบไปช่วยคนในเรือนก่อน!”องครักษ์ผู้หนึ่งวิ่งเข้าไปดูในเรือน แล้วรีบวิ่งกลับออกมารายงาน “ในเรือน...ไม่มีใครอยู่แล้ว!”“ว่าอะไรนะ!?” ปู้กู่กัดฟันกรอด “บัดซบ! ปล่อยให้มันหนีไปได้!”เจียงซุ่ยฮวนเมื่อได้ยินว่าข้างในว่างเปล่า ทั้งโกรธทั้งโล่งใจ โกรธที่หลี่ลี่หลบหนีไปได้ แต่โล่งใจที่เขายังมีชีวิตอยู่องครักษ์ที่อยู่ข้างกายนางเอ่ยถามอย่างเกรงใจ “พระชายา ขออนุญาตไปช่วยท่านปู้กู่ก่อนจะได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“ไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนก็เป็นห่วงปู้กู่ไม่น้อย หากปล่อยให้คานไม้นั้นกดทับอยู่นาน เกรงว่าจะยิ่งแย่ลง“ขอบพระคุณพระชายา กระหม่อมจะรีบกลับมาโดยเร็วพ่ะย่ะค่

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 574

    ครั้นได้ยินคำว่า “ไฟไหม้” ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่ในห้วงนิทราของเจียงซุ่ยฮวนพลันสลายหายไปสิ้น หัวใจพลันเต้นโครมครามราวจะหลุดจากอกนางลุกพรวดจากที่นอน คว้าผ้าคลุมขนกระต่ายที่วางอยู่ข้างหมอนมาสวมอย่างลวก ๆ แล้วรีบลงจากเตียงในขณะเดียวกัน ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดอย่างรุนแรง หยิ่งเถาวิ่งพรวดเข้ามาทั้งที่ยังทรงตัวไม่ทันดี จึงพลาดล้ม “โครม” ลงกับพื้นหยิ่งเถาไม่ทันได้ลุกขึ้นก็รีบเงยหน้าร้องบอกเสียงลั่น “คุณหนู! รีบออกไปเถิด! ข้างนอกเกิดไฟขึ้นแล้ว!”เจียงซุ่ยฮวนรีบสวมรองเท้า ก้าวยาว ๆ ตรงเข้าไปฉุดหยิ่งเถาขึ้นจากพื้น แล้วจูงมือนางวิ่งออกไปทันทีมือของเจียงซุ่ยฮวนที่กำมือหยิ่งเถานั้นสั่นน้อย ๆ นางถามเสียงเร่งร้อน “เสี่ยวถังหยวนเล่า?”“คุณชายน้อยปลอดภัยดีเพคะ แม่นมเห็นก่อนจึงรีบพาออกไปหลบแล้วเพคะ” หยิ่งเถารีบตอบครั้นรู้ว่าลูกน้อยปลอดภัย เจียงซุ่ยฮวนจึงค่อยสงบลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “แล้วไฟเกิดที่ใด?”“เป็นห้องพักของท่านอาจารย์เพคะ” หยิ่งเถาตอบเจียงซุ่ยฮวนถึงกับชะงัก ห้องของฉู่เฉินหรือ!? แล้วหลี่ลี่ก็ยังอยู่ในนั้นด้วย!นางจึงเร่งฝีเท้าวิ่งออกไป ทว่าเพิ่งออกจากประตู ก็มีควันไฟใน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 573

    หากฝืนปลุกเขาขึ้นมาในยามนี้ เกรงว่าจะทำให้สติแตกเสียจนอาละวาดคลุ้มคลั่ง“ดูท่าคงต้องปล่อยให้ฟื้นขึ้นเองแล้วกระมัง” เจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วเอ่ยเรียกจากในห้องว่า “ปู้กู่ เข้ามาหาข้าสักประเดี๋ยวสิ”ปู้กู่เปิดประตูเข้ามาทันที “พระชายา มีสิ่งใดจะทรงบัญชาหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจียงซุ่ยฮวนชี้ไปยังบุรุษที่นอนอยู่บนพื้น “เจ้ารู้จักบุรุษผู้นี้หรือไม่?”ปู้กู่หลับตานิ่ง พยายามรื้อค้นความทรงจำอย่างเคร่งเครียด ทว่านึกอยู่เนิ่นนานก็ยังคิดไม่ออกเจียงซุ่ยฮวนจึงกล่าวเป็นเชิงเตือน “ชายผู้นี้ผิวขาวซีดผิดธรรมชาติ คงมิได้ออกไปพบแสงตะวันมาเป็นเวลานานแล้ว”ปู้กู่นั่งย่อตัวลง เพ่งพินิจใบหน้าของบุรุษผู้นั้นอย่างละเอียด กระทั่งครู่หนึ่ง ก็อุทานเสียงเบา “ซี้ด…”“นึกออกแล้วหรือ?” เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยถามปู้กู่ชี้ไปที่บุรุษผู้นั้นด้วยแววตาตกตะลึง “ผู้นี้ชื่อหลี่ลี่ เมื่อสิบปีก่อน เคยเป็นหนี้หอพนันถึงหนึ่งแสนตำลึง แล้วบุกเข้าไปปล้นคฤหาสน์ของพ่อค้าผู้มั่งคั่ง”“หากเพียงแค่ปล้นก็คงไม่ถึงกับร้ายกาจนัก เขากลับอาศัยฝีมือที่เหนือกว่าฆ่าล้างทั้งครอบครัวพ่อค้านั้น รวมแล้วกว่ายี่สิบชีวิต”เจียงซุ่ยฮวนสีหน้าหม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 572

    เจียงซุ่ยฮวนโดยสารรถม้ากลับถึงจวน พอเปิดม่านลงจากรถ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นปู้กู่ยืนอยู่เบื้องหน้าพร้อมผู้ติดตามนับสิบคน“เหตุใดเจ้าจึงพาผู้คนมากมายมาด้วย?” นางเหลือบมองแคร่ไม้ด้านหลังพลางถามปู้กู่รีบเอ่ยอย่างร้อนรน “พระชายา พอได้ข่าวว่าเส้นทางขากลับถูกเฉียนจิงอี๋สกัดไว้ กระหม่อมก็ตั้งใจจะนำคนไปช่วย แต่ไม่นานก็ทราบว่าท่านเสด็จกลับมาเสียแล้ว”“อืม...ตอนนี้ไม่มีอันใดแล้ว ให้พวกเขาแยกย้ายกันไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนโบกมือ นางยังเร่งรีบอยากกลับเข้าเรือนเพื่อสอบปากคำฉู่เฉินตัวปลอมปู้กู่สั่งให้คนที่มาด้วยกันกลับไป ทว่าตนเองกลับยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเจียงซุ่ยฮวนจึงถามขึ้น “เหตุใดเจ้ายังไม่ไปเล่า?”ปู้กู่เอ่ยว่า “พระชายา ขอพระองค์โปรดแจ้งกระหม่อมเถิด เฉียนจิงอี๋ขวางรถพระองค์ไว้ด้วยเหตุใด?”เจียงซุ่ยฮวนเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วกล่าวทิ้งท้ายว่า “ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา ที่สำคัญคือแววตาที่เขามองข้ามันช่างประหลาด เจ้ารีบส่งคนไปสืบข่าวเขาสักหน่อยเถิด”ปู้กู่สีหน้าหนักแน่น “เฉียนจิงอี๋ผู้นี้มิใช่คนธรรมดาแน่ หอพนันซิ่งหลงของตระกูลเขากระจายอยู่ทั่วแคว้นต้าเหยียน และเขาเอง...ดูเหมือนจะมีธ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 571

    เจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วกดเสียงต่ำลงพลางกระซิบว่า “วางใจเถิด...ตอนนี้ไม่มีแล้ว”แววตาขององครักษ์ลับยังเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าเจียงซุ่ยฮวนเพียงยิ้มอย่างเงียบงัน หาได้กล่าวคำใดอีกไม่นานนัก เฉียนจิงอี๋ก็เดินออกจากรถม้าด้วยท่วงท่าสงบ มือไพล่หลังไว้ ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ากลับจางหายไปจนหมดสิ้น หางตายังพลันกระตุกเล็กน้อยเขาเห็นกับตาตนเองว่าเหล่าองครักษ์ลับจับคนยัดใส่รถม้า แล้วเขายังไล่ตามมาตลอดทางจากหอพนัน สายตาไม่เคยละไปที่อื่นเลยแม้แต่น้อยแต่เหตุใดคนผู้นั้นจึงหายไปเสียได้?เจียงซุ่ยฮวนยิ้มถาม “เห็นผู้ใดหรือไม่?”แววตาเฉียนจิงอี๋เย็นเยียบสั่นไหวเล็กน้อย ประหนึ่งกำลังครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ เมื่อสบเข้ากับรอยยิ้มของเจียงซุ่ยฮวน เขาจึงยกยิ้มบาง ๆ “ขออภัยด้วยคุณหนู ข้าคงตาฝาดไป”เขาหยิบตั๋วเงินใบหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นสองมือส่งให้เจียงซุ่ยฮวน “เชิญคุณหนูรับของเล็กน้อยเป็นการขออภัย”ท่าทีของบุรุษผู้นี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนัก ไม่เสียแรงเป็นทายาทหอพนันโดยแท้ ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังจะเอื้อมมือไปรับ กลับพบว่าตั๋วเงินในมือเขานั้นมิใช่ใบละแค่แสนตำลึง...แต่เป็นถึงสองแสนตำลึงเจียงซุ่ยฮวนชักมือกลั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 570

    ควันสีเทาลอยฟุ้งขึ้นมา ลูกประคำที่เฉียนจิงอี๋ปาออกไปยังคงสภาพสมบูรณ์ แต่กลับฝังลึกอยู่กลางหลุมใหญ่บนพื้นแค่ลูกประคำธรรมดา กลับสามารถก่อความเสียหายได้ถึงเพียงนี้ ต้องมีพลังภายในลึกล้ำถึงเพียงใดกันแน่สีหน้าของเจียงซุ่ยฮวนพลันเคร่งขรึม ขณะเดียวกัน เหล่าองครักษ์ลับที่ล้อมรถม้าอยู่ก็ล้วนตั้งท่าเตรียมพร้อมด้วยท่าทีตึงเครียดแต่ก่อนพวกเขาเคยได้ยินชื่อของเฉียนจิงอี๋มาบ้าง รู้เพียงว่าเขาเป็นทายาทของหอพนันซิ่งหลง เป็นผู้มีอุปนิสัยเงียบขรึม หาได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนบ่อยนักกระทั่งได้พบกับตัวจริงในวันนี้ จึงรู้ว่าบุรุษผู้นี้...มิใช่คนธรรมดาแน่นอน“แม่นางผู้นี้ ข้าไร้เจตนาจะสร้างความลำบากแก่ท่าน เพียงแต่ในฐานะทายาทของหอพนันซิ่งหลง ข้าย่อมไม่อาจเพิกเฉยมองลูกค้าถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตา...ท่านว่าใช่หรือไม่?” เฉียนจิงอี๋ยิ้มละไม รอยยิ้มนั้นดูสุภาพอ่อนโยน หากแต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันจาง ๆ อย่างยากจะหยั่งถึงองครักษ์ลับทั้งหกยังคงเฝ้ารอบรถม้า หนึ่งในนั้นค่อย ๆ ถอยหลังออกไป แล้วอาศัยจังหวะชุลมุนลับหายไปในพริบตาเฉียนจิงอี๋เห็นดังนั้น จึงหัวเราะพลางถามว่า “หืม? ถึงกับต้องไปตามกำลังเสริมเชียวหรือ? หรื

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status