“อึก” ฟังมาถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็เผลอกลืนน้ำลายเพราะตื่นเต้น
นี่มันอย่างกับนิยายแฟนตาซีตามเว็บไซต์ชื่อดังเลยนี่นา
“แล้วทำไมถึงไม่มีการแจ้งเตือนจากภาครัฐเลยล่ะครับ” ออกข่าวโทรทัศน์ก็ยังดี ไม่ใช่เตือนแค่ประกาศจากทางวิทยุกระจายเสียง เรื่องนี้มันใหญ่โตและร้ายแรงมาก ๆ เลยนะ
“อันนี้จากข่าววงในนะครับ เดิมทีเชื้อไวรัสชนิดนี้มันจะกระจายอยู่ในกลุ่มคนที่ติดเชื้ออยู่ก่อนแล้ว และที่ไหนมีคนติดเชื้อก็ต้องมีสถานกักกันหรือสถานพยาบาลรองรับ ในตอนแรกเราไม่รู้ว่าเชื้อมันกลายพันธุ์ จึงได้นำศพผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีและนำไปฝังรวมกันเหมือนที่หลายประเทศทำ แต่วันดีคืนดีศพพวกนั้นกลับลุกขึ้นมาจากหลุมและไล่กัดเจ้าหน้าที่ กลายเป็นการส่งต่อไวรัสอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยบนเตียงเองก็กลายเป็นซอมบี้เช่นเดียวกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทุกที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้อย่างทันท่วงที จึงได้แต่ผลักภาระให้แต่ละจังหวัดบริหารจัดการในส่วนของตนเองไปก่อน” ทีโอค้อมตัวลงเล็กน้อยป้องปากกระซิบ
นัยก็คือถ้าจังหวัดจัดการไม่ดีก็จะเป็นอย่างที่เขาเผชิญอยู่สินะ
ต้องโทษว่าเขาอยู่ชนบทจึงรู้ข่าวช้าหรือ?
“ได้ข่าวว่าพวกคนใหญ่คนโตระดับนายกรัฐมนตรีหรือทหารยศสูง ๆ ต่างใช้เครื่องบินส่วนตัวหนีออกนอกประเทศไปหมดแล้วครับ เพราะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ อีกทั้งพวกซอมบี้น่ะ ถ้าไม่จัดการที่หัวมันก็จะไม่มีวันตาย ตาแก่พวกนั้นเลยหอบสมบัติหนีตั้งแต่รู้ว่าหลายจังหวัดมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าที่จะควบคุมไหว”
“แต่เป็นแบบนี้จะหนีไปไหนได้?” ถ้าต้นเหตุคือฝนอุกกาบาต เรื่องซอมบี้นี่คงไม่จบแค่ในประเทศของเขาหรอก คงเป็นเหมือนกันทั้งโลก
“ไม่รู้สิครับ” ชายหนุ่มยักไหล่ คนพวกนั้นไปที่ไหนเขาก็สุดรู้ นอกจากหนีไปอยู่ในเกาะส่วนตัวที่ไม่มีคนเลยล่ะมั้งถึงจะมีชีวิตรอด
“ถ้าอย่างนั้นเรื่องการช่วยเหลือ…” จะยังมีอยู่อีกหรือ
เฉินเฟิงมุ่นคิ้ว แบบนี้ก็เท่ากับพวกเขาต้องดิ้นรนหาทางรอดกันเอง?
“ที่เมืองหลวงมีค่ายของกลุ่มรัฐบาลที่ยังเหลืออยู่ ร่วมมือกับทหารและประชาชนให้ความช่วยเหลือผู้ที่ไม่ติดเชื้ออยู่ครับ เรียกว่าค่ายพันธมิตรเพราะได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย ตามจังหวัดต่าง ๆ เองก็เริ่มตั้งค่ายของตัวเองเป็นการให้ความช่วยเหลือชั่วคราว ส่วนพวกเราไม่ใช่ทหารประจำการ แต่เป็นทหารรับจ้างที่จะรับงานจากฐานของกลุ่มพันธมิตรหรือฐานตามต่างจังหวัดอีกที” แต่ก็เพิ่งรับงานนี้เป็นงานที่สี่ เรียกได้ว่าไม่ได้มีผลงานโดดเด่นนัก วันสิ้นโลกมันเพิ่งจะเริ่มเองนี่นา
“ส่วนการช่วยเหลือถึงแหล่งคงต้องรออีกสักพัก แต่ละค่ายยังคงอยู่ในช่วงปรับตัว ถ้าประชาชนสามารถไปที่ค่ายได้ด้วยตัวเอง พวกเขาก็พร้อมจะรับไว้” หมายความว่าอีกสักพักถึงจะมีความช่วยเหลือ
“แล้วที่นี่มีค่ายที่ว่าไหมครับ ต้องเดินทางเข้าเมืองหรือว่าอยู่ในอำเภออื่น พวกคุณพอจะทราบหรือเปล่า” ถ้าพวกเขาไปอยู่ที่นั่นคงจะดีกว่า ยิ่งตอนนี้อาหารที่สะสมไว้ก็มีจำกัด
อีกทั้งตามค่ายที่จัดตั้งแบบนี้ต้องมีการรวบรวมอาวุธแน่นอน ความปลอดภัยย่อมมากกว่าการอาศัยอยู่บนภูเขา เขาอยากนอนหลับอย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีซอมบี้บุกมางับคอตอนไหน
“เหมือนจะมีนะครับ อยู่ในตัวอำเภอเมืองเลย ดูเหมือนส.ส.ในพื้นที่จะเป็นคนรวบรวมทหารและประชาชนจัดตั้งค่ายชั่วคราว ผมได้ยินคนในเมืองพูดว่ากำลังขยับขยายและเร่งให้ความช่วยเหลือตามหมู่บ้านใกล้เคียง”
“ขอบคุณมากเลยครับ” รู้อย่างนี้เขาค่อยอุ่นใจหน่อย
“คุณจะเดินทางไปขอความช่วยเหลือที่ค่ายในตัวเมืองจังหวัดเหรอครับ” ทีโอที่อธิบายเพลินก็ชวนคุยต่อ
“ครับ” เฉินเฟิงพยักหน้ายอมรับว่าตนจะเดินทางเข้าเมือง
“ก็ดีนะครับ ยังไงการอยู่รวมกันก็สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้มากกว่า” ไม่เหมือนพวกเขาที่เป็นพวกหมาป่าเดียวดาย ถ้าไม่มีโจเซฟที่เป็นหัวหน้ากลุ่มทั้งลากทั้งเข็นก็คงไม่มีทางมารวมกลุ่มกันได้ แถมยังไม่อยากยึดโยงกับทหารแบบเต็มตัว เลือกรับงานแบบทหารรับจ้าง
“แค่ตอนนี้หรือเปล่าที่ดี” หงส์ค่อนขอด
“หงส์” โจเซฟปราม
“เรื่องจริงนี่ เพิ่งจะเกิดโรคระบาดได้ไม่เท่าไร พวกเบื้องบนก็หนีตายกันยิ่งกว่ามดโดนน้ำร้อนลวก หงส์ไม่ได้จะว่าคนที่เขายังให้ความช่วยเหลืออยู่หรอกนะ แต่พวกมันบางตัวก็ไม่ได้ดีเด่อะไรเลย ฉากหน้าก็ทำเป็นให้ความช่วยเหลือ เบื้องหลังก็เอาเปรียบลูกน้อง แน่จริงก็ออกไปสู้เองสิ ซอมบี้สักตัวน่ะ เคยฆ่าหรือเปล่า ไม่ใช่เอะอะก็ลงโทษ ๆ ๆ เวลาที่ทำภารกิจผิดพลาด”
“ไม่เป็นไรนะ” ตุ่นเดินเข้าไปกอดแฟนสาวไว้แนบอก รู้ดีว่าอีกคนกำลังโกรธแทนตนเอง “เรื่องมันผ่านมาแล้ว ไม่ต้องคิดมากนะ ตอนนี้ตุ่นก็อยู่กับหงส์แล้วนี่ไง”
เฉินเฟิงมองคนทั้งคู่กอดกันไม่สนสายตาใคร ระหว่างนี้ในสมองก็ต้องตีความประโยคนั้นของหญิงสาวอีกที หรือว่าการไปอยู่ในค่ายจะเป็นเรื่องที่ควรพับเก็บไว้ก่อน
“ยังหรอกครับ ต้องรอให้จัดการเจ้านี่ได้ก่อน” ขนาดว่ายืนแช่เท้าอยู่ในลาวาก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์ อึดถึกอย่างที่สิงหาบอกไว้จริงๆ[ นั่นสิ ทางนี้ใกล้กำจัดฝูงซอมบี้เสร็จแล้ว หากต้องการการสนับสนุนก็เรียกได้ทุกเมื่อ ]ทันทีที่จอมพลเรือใหญ่แห่งประเทศ A วางสายไป ก็มีข้อความใหม่เข้ามาต่อ[ หัวหน้า ให้เริ่มได้เลยหรือเปล่า ]โจเซฟได้รับสายจากนิโคลัสก็จ้องมองปากปล่องภูเขาไฟใต้ทะเลที่มีการปะทุเพียงเล็กน้อยพร้อมกับธารลาวาไหลที่ลงมาเอื่อยๆ แค่นี้จะไปพอสังหารศัตรูได้อย่างไร“ทีมระเบิดภูเขาลุยงานเลย” คนเป็นหัวหน้าใคร่ครวญเล็กน้อย ก่อนจะตกลงให้กลุ่มผู้มีพลังพิเศษธาตุไฟออกไปทำภารกิจนอกแคปซูล[ รับทราบครับ/ค่ะ ]“ระวังตัวด้วยนะครับ” เฉินเฟิงปลดเข็มขัดนิรภัยพลางสวมกอดคนรักจากด้านหลัง “ถ้าเห็นท่าไม่ดีให้รีบกดปุ่มฉุกเฉินที่ชุดเลยนะ”“ครับ พี่จะระวังตัว” คุณหมอหมีรั้งใบหน้าเจ้ากระต่ายเข้ามาจูบ กักตุนกำลังใจไว้เต็มเปี่ยม “อาเฟิงเองก็อย่าทำอะไรโลดโผนนักนะ” ช่วงเวลาที่ให้บังคับเรือแคปซูลเองก็ไม่รู้จะซนอะไรบ้าง“วางใจได้เลยครับ ผมไม่โลดโผนเหมือนมังคุดหรอก” อดีตผู้ช่วยเชฟยิ้มหัวเราะ กดจมูกลงแก้มคนรักฟอดใหญ่ “รักพี่นิคนะ
[ ภูเขาไฟจะระเบิดแล้วเหรอคะหัวหน้า! ] หงส์ส่งข้อความตอบกลับมา น้ำเสียงเจือไปด้วยความยินดี“อืม ใกล้แล้ว เตรียมพร้อมได้เลย” ถ้าได้รับความกระทบกระเทือนหนักๆ สักครั้งต้องกระตุ้นให้มันปะทุได้แน่[ รับทราบค่ะ ]ดาริณีได้ยินคำสั่งของสามีก็ใช้หอยเม่นทะเลต้อนหมีน้ำให้ไปยังจุดที่ต้องการอีกแรง โดยที่ด้านบนมีหงส์และผู้มีพลังพิเศษธาตุน้ำแข็งคนอื่นๆ กำลังช่วยกันสร้างกรงน้ำแข็งขนาดมหึมากว่าแผ่นที่แล้ว เอาให้เจ้าหมีน้ำต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการหนีออกมาเลยตูม!!!อ๊าาาาาาาาา!!!หมีน้ำที่กำลังสนใจหอยเม่นไม่ทันสังเกตเห็นธารน้ำแข็งก้อนใหม่ มันดิ้นทุรนทุรายหมายจะสลัดแผ่นน้ำแข็งให้หลุดดังที่เคยทำสำเร็จในคราวก่อน… เพียงแต่ครั้งนี้อาจไม่ง่ายดายนักเฉินเฟิงยิงเมล็ดต้อยติ่งเข้าปากหมีน้ำ โดยครั้งนี้ใส่พลังไปมากถึงสองในสามส่วน ทำให้ความสนใจทั้งหมดของมันคือการใช้กรงเล็บแหลมคมฉีกริมฝีปากตนเอง หวังจะเอาสิ่งแปลกปลอมออกมาคึ่กๆๆๆเมื่อความสนใจถูกดึงไปชั่วขณะ กองหินหนาหนักหลายพันตันก็กดลงมาจากด้านบนทันที และยังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ราวกับจะระเบิดปากปล่องภูเขาไฟใต้ทะเลให้เหี้ยนเตียนกว่าหมีน้ำจะรู้ตัว น้ำหนักที่กดทั
เขาที่ปรามาสการอยู่รวมกันเป็นฝูงอย่างพวกมนุษย์กลับสร้างร่างโคลนที่มีความคล้ายคลึงมนุษย์ทั้งความคิดและสติปัญญาไว้คอยรับใช้เคียงกายเป็นความรู้สึกย้อนแย้งที่ยากจะอธิบายจริงๆตูม!!“เกิดอะไรขึ้น” เกรย์สันตกอยู่ในภวังค์ความคิดทำให้ไม่ทันเห็นว่าขณะนี้หมีน้ำได้ถูกกดทับลงใต้ธารน้ำแข็งพร้อมด้วยหินกองใหญ่อีกคราแต่ที่แปลกตาไปจากเดิมคือการที่ธารลาวาสีส้มแดงกำลังปะทุจากปล่องภูเขาไฟที่ตนมั่นใจว่ามันได้มอดดับไปแล้ว“ดูเหมือนว่าแรงสั่นสะเทือนจะทำให้ภูเขาไฟตื่นขึ้นมาอีกครั้งครับ”“ไม่มีทาง ไม่มีร่องรอยการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก แรงแค่นี้ไม่ทำให้ภูเขาไฟที่มอดไปแล้วมีปฏิกิริยาได้”“ไม่สิ… ไปตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียม ดูว่าช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์อุกกาบาตตกลงมาที่โลกหรือเปล่า” หากมีอุกกาบาตพุ่งชนรอยเลื่อนที่ยังมีชีวิตในช่วงเวลาที่ตนกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมแผนจนละเลยการตรวจสอบละก็…W03 ผลุนผลันออกไปยังห้องคอมพิวเตอร์ที่ครั้งหนึ่งเคยจ้างแฮ็กเกอร์ฝีมือดีมาวางระบบสอดแนมเครือข่ายของศูนย์วิจัยดาราศาสตร์ไว้ใช้งาน แต่หลังจากรู้ตัวว่ากำลังถูกสอดแนมก็ไม่ได้ใช้งานในส่วนนี้อีกตั้งแต่รู้ว่าการโคลนเหล่านัมเบอร์ประสบควา
“...อืม” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันราวกับมีอะไรสักอย่างไม่ถูกต้อง หากเปลี่ยนจากแร็กคูนเป็นลิงอาจทำให้ภาพที่ได้ดูองอาจสง่างาม แต่พอมาอยู่ในร่างแร็กคูนอ้วนพุงกลมราวกับถูกตัดไข่…ช่างเถอะ เป็นกำลังสำคัญได้ก็พอ รูปลักษณ์ภายนอกน่าเอ็นดูก็ถือเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งได้เหมือนกัน เขาจะไม่บูลลี่พุงกลมๆ น่าจกนั่นก็แล้วกัน…แต่ก็อยากแนะนำให้ลูกชายพามันไปออกกำลังกายสักหน่อย เกิดเป็นไขมันอุดตันในเส้นเลือดขึ้นมาจะลำบากมังคุดไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกบูลลี่พุงกะทิที่แสนภาคภูมิใจ เจ้าตัวอ้วนยังคงออกลวดลายศิลปะป้องกันตัวประจำชาติอย่างถึงพริกถึงขิงหากท่าทางไหนมีชื่อสัตว์ชนิดอื่นอยู่ในท่วงท่าด้วยก็จะเปลี่ยนให้เข้ากับตนมากที่สุดมังคุดเป็นคนใช้ ต้องใช้ชื่อมังคุดสิ!กี๊ซ! (หักคอมังคุด!)เอ๊ะ ชื่อท่านี้รู้สึกแปลกๆ แฮะ?…การต่อสู้ของแก๊งฟลายอิงฟิชและหมีน้ำใต้มหาสมุทรยังคงดำเนินต่อไป การกดทับด้วยหินและธารน้ำแข็งไม่สามารถทำอะไรมันได้ ไม่ถึงหนึ่งนาทีต่อมาก็มันก็ใช้แรงกำลังทำลายและผลักหินที่ทับถมอยู่ออกจากตัวได้สำเร็จ“เน้นโจมตีจุดเดียวไปก่อน” โจเซฟพยายามสแกนสอดส่องความเคลื่อนไหวใต้ท้องมหาสมุทร หวังหาโอกาสพลิกสถานการ
กรรรซ์!!! แฮ่!!!ซอมบี้จำนวนร่วมสองร้อยตัวเกาะเกี่ยวเรือรบไว้ไม่ปล่อย ทำให้น้ำหนักของตัวเรือเพิ่มขึ้น ระดับความสูงจึงลดต่ำลงทุกขณะ การกำจัดด้วยปืนหรือพลังพิเศษอย่างเดียวไม่เพียงพอ เมื่อกำจัดได้แล้วต้องนำซากศพมันทิ้งลงไปด้วย ไม่อย่างนั้นหากหมีน้ำโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เรือได้แตกเป็นเสี่ยงจริงๆ แน่“ทีมหนึ่งสนับสนุนการโจมตีของกลุ่มฟลายอิงฟิชต่อไป ส่วนทีมสองออกไปจัดการกับซอมบี้ด้านนอก ปัง!” จอมพลเรือโคลตันคว้าอาวุธปืนข้างกายยิงออกไปทางด้านกระจกที่เปิดไว้ ซอมบี้ที่กำลังโผล่ศีรษะขึ้นมาหงายหลังจบชีวิตโดยที่ยังไม่มีโอกาสได้แตะต้องใครแม้แต่ปลายเล็บ “จัดตั้งทีมเก็บกวาดด้วย อย่าให้มีซากศพอยู่บนเรือมากเกินไป”“อ๊ะ มังคุดออกไปที่ดาดฟ้าเรือแล้ว” สิงหาคอยสอดส่องมองการต่อสู้บนดาดฟ้าเรืออยู่ตลอด ทันเห็นแร็กคูนตัวอ้วนกลมออกวิ่งไปตวัดกรงเล็บใส่ซอมบี้ช่วยให้ทหารรายหนึ่งรอดจากการถูกกัดไปได้อย่างหวุดหวิด ทั้งยังจับทุ่มโยนลงไปในมหาสมุทรเบื้องล่าง เก็บกวาดซากศพไปในตัว“รู้งานดีจริงๆ” โคลตันไม่ได้ขังสัตว์เลี้ยงของลูกชายเพราะได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยและสามารถเรียกใช้งานได้หากมีเหตุจำเป็น ถึงอย่างนั้นก็ไม่ค
หวืดโจเซฟบังคับแคปซูลไปพร้อมกับคอยประเมินการต่อสู้ หากพบว่าลำไหนกำลังจะพลาดท่าถูกโจมตีถึงชีวิต ก็จะใช้พลังพิเศษของตนเองดึงยานลำนั้นหลบให้พ้นวิถี ทำให้จนบัดนี้ก็ยังไม่มีผู้เสียชีวิตแม้จะสู้กันมามากกว่า 20 นาทีแล้วก็ตามทหารที่อยู่บนเรือเองก็ผลัดกันหยิบบาซูก้าและปืนเลเซอร์ออกมาช่วยสนับสนุน และเมื่อไหร่ที่มันดำดิ่งสู่ก้นมหาสมุทรก็จะเจออีกทีมรอต้อนรับอยู่เช่นเดิม จากที่ไร้รอยขีดข่วนก็เริ่มมีรอยถลอกประปรายถึงจะไม่เจ็บแต่ก็สร้างความรำคาญให้หมีน้ำยักษ์ไม่น้อยอ๊าาาาาาาาาา!!!เฉินเฟิงยกมือปิดหูขณะใช้สาหร่ายทะเลพันธนาการขาข้างหนึ่งของมันไว้กับภูเขาใต้ทะเลลูกหนึ่ง เสียงร้องพร้อมคลื่นกระแทกใต้น้ำทำให้แคปซูลหลายลำกระเด็นไปคนละทิศละทางยังดีที่ตัวกระจกนั้นมีความหนามากพอ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดรอยร้าวและถูกแรงดันน้ำบีบอัดจนต้องสละแคปซูลหนีตายเมื่อกลับมาอยู่ใต้น้ำ สัตว์ยักษ์ก็มีความว่องไวมากกว่าอยู่บนอากาศ น่าเสียดายที่เกรย์สันทำได้เพียงแค่ขยายร่างและคงความสามารถเหมือนตัวต้นแบบของมันไว้ได้เท่านั้น ไม่สามารถดัดแปลงให้มีปีกหรือใช้พลังได้ดั่งเช่นมนุษย์ที่มีพลังพิเศษพรึ่บ!สาหร่ายทะเลคว้าจับขาท่อนอวบอีก