ปึง!
เสียงประตูเหล็กบานหนักปิดลงทันทีเมื่อกลุ่มทหารและหนึ่งชาวบ้านเข้ามายังด้านใน ดูเหมือนว่าส่วนที่พวกเขาอยู่จะเป็นโกดังเก็บสินค้า
เฉินเฟิงกระชับฮู้ดด้วยความประหม่า เป็นครั้งแรกที่รู้สึกอึดอัดกับการใกล้ชิดคนแปลกหน้า ทั้งยังเป็นสถานการณ์ไม่ปกติ
ตึง ๆ
กรร…
แกรก ๆ
เสียงทุบประตูและเสียงคำรามในลำคอมีมากกว่าหนึ่ง ก่อนหน้านี้บางส่วนก็เดินตามรถของโจเซฟมาตั้งแต่หน้าโรงงานอยู่แล้ว ยิ่งพอได้ยินเสียงพูดคุย พวกมันก็เริ่มเดินเร็วขึ้น พอเฉินเฟิงเข้ามาสมทบก็มีประมาณมากชนิดที่ว่าควรหาที่หลบภัยก่อน
“เดี๋ยวจะออกไปเคลียร์ข้างนอกให้” ตุ่นวางกระเป๋าสัมภาระไว้ที่พื้น เตรียมหาช่องหน้าต่างปีนออกไปจัดการ ประตูโกดังเป็นบานเลื่อนเหล็ก มันใหญ่ไป เปิดทีคงได้วิ่งกรูกันเข้ามาแน่
“ไม่ต้องหรอก พวกมันเป็นแค่ซอมบี้ธรรมดา” โจเซฟส่ายหน้าไม่เห็นด้วย แค่พวกเขาเดินเข้าไปในตัวโกดังให้ห่างประตูหน่อย เดี๋ยวพวกมันก็เลิกทุบไปเอง แต่ถ้าออกไปฆ่ามัน เสียงและกลิ่นจะเป็นตัวเรียกซอมบี้ในละแวกนี้มาเพิ่มแทน
นอกจากนี้การมีซอมบี้อยู่ด้านนอกยังใช้เป็นเครื่องส่งสัญญาณชั้นดีหากมีมนุษย์คนอื่นเข้ามาใกล้
“พวกเราจะไปเดินสำรวจด้านใน คุณจะไปด้วยกันไหม” ทีโอเอ่ยถามเพื่อนร่วมทีมชั่วคราว
“...” เฉินเฟิงพยักหน้ายอมรับคำชวน ลงเรือลำเดียวกันแล้วก็มีแต่ต้องเดินหน้า ถ้าหากปฏิเสธอาจถูกสงสัยและถูกจับตามอง
ตัวโกดังเก็บสินค้าของโรงงานน้ำตาลแห่งนี้ไม่ต่างจากภาพที่ชายหนุ่มเคยเห็นในโทรทัศน์หรือสารคดีที่ทำออกมาเพื่อให้คนทั่วไปได้เห็นถึงกระบวนการทำงานของโรงงานอุตสาหกรรม ยังดีที่ถูกก่อสร้างด้วยปูน ถ้าหากเป็นสเตนเลสอาจไม่สามารถรับมือกับซอมบี้จำนวนมากได้ ตัวหลังคาสูงเกือบหกเมตรทำให้ที่นี่ทั้งกว้างและโปร่ง ภายในบรรจุกระสอบน้ำตาลซ้อนกันมากกว่า 20 กระสอบ กล่องกระดาษอีกจำนวนมาก มันถูกเรียงสูงเป็นชั้นและแบ่งเป็นล็อกเพื่อสะดวกในการจัดเก็บรวมถึงการแยกประเภท
เฉินเฟิงเปิดประสาทสัมผัสการได้ยินให้มากที่สุด นอกจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มทหารด้านหน้ากับเสียงซอมบี้ทุบประตูทางด้านหลังก็ไม่มีเสียงอื่นอีก
หูของเขาก็ยังได้ยินปกติดีนี่นา…
แล้วทำไมก่อนหน้านี้ถึงได้เงียบกริบเลยล่ะ?
“มีอะไรผิดปกติไหมตุ่น” โจเซฟสอบถาม
ในกลุ่มของเขา ตุ่นที่มีใบหูของสุนัขนั้นมีหูดีที่สุด และการดมกลิ่นก็ยอดเยี่ยม แต่สัญชาตญาณระวังภัยกลับสู้หงส์ที่เป็นกวางไม่ได้
“ไม่ครับ ผมไม่ได้ยินเสียงหรือกลิ่นอะไรเลย” ตุ่นส่ายหน้า “แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีพวกซอมบี้วิวัฒนาการไหม” เจ้าพวกนั้นบางครั้งก็มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง หากไม่ระวังตัวอยู่ตลอดเวลาอาจกลายเป็นอาหารมันได้ง่าย ๆ
ซอมบี้วิวัฒนาการ?
“เอ่อ คือ…” เวลานั้นเองเฉินเฟิงจึงเริ่มพูดคุยขึ้นเป็นครั้งแรก ชายหนุ่มสูดหายใจลึก ๆ เขาอยากรู้ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สิ่งที่กำลังเผชิญอยู่นี้สามารถกลับมาสู่ภาวะปกติได้ไหม และต้องใช้เวลากี่เดือนหรือกี่ปี
“ครับ” นิโคลัสชะลอเท้าเพื่อให้ตนเดินเป็นจังหวะเดียวกันกับคนแปลกหน้า
ทีโอลอบมองโจเซฟ ทั้งสองคนสบสายตากัน ในแววตาของคนทั้งคู่ปรากฏร่องรอยของความประหลาดใจ
นิโคลัสยอมคุยกับคนอื่น?
ไม่สิ ก่อนหน้านี้ก็เป็นคนช่วยยิงซอมบี้ให้ด้วยเหมือนกัน
หมอนี่ที่ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวมาตลอดเนี่ยนะ จะยื่นมือช่วยคนที่ไม่รู้จักกัน
แปลกมากเกินไปแล้ว!?
“สถานการณ์นี้มันคืออะไรเหรอครับ ทำไมถึงมี เอ่อ ซอมบี้โผล่ออกมา ไหนจะการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายแบบคุณอีก แล้วทางรัฐบาลมีแผนการรับมือในเรื่องนี้ยังไงบ้าง พวกผมที่เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาต้องไปรายงานตัวหรือเปล่า” เฉินเฟิงถามทุกคำถามที่เขาสงสัยในคราวเดียว
นิโคลัสหันหน้าไปหาทีโอ นัยน์ตาคมหรี่ลงราวกับจะบอกว่าให้คนที่มีความสามารถด้านการพูดมาอธิบายในเรื่องนี้จะดีกว่า
“...?” ทีโอ
เขาเรอะ!
ชายหนุ่มร่างสูงพยักหน้ายืนยัน
ไหงกลายเป็นหน้าที่เขา!
ชายหนุ่มร่างเล็กยกมือเกาศีรษะอย่างหัวเสียแต่ก็ยอมอธิบายโดยดี คนพวกนี้เวลาต้องไปติดต่อกับสำนักงานใหญ่ก็ชอบโบ้ยงานแบบนี้มาให้เขาอยู่เรื่อย
“จำอุกกาบาตเมื่อหลายเดือนก่อนได้ไหมครับ” เฉินเฟิงพยักหน้า เรื่องนี้เป็นข่าวโด่งดังระดับโลก ต่อให้เป็นคนเฒ่าคนแก่ที่ไม่รู้หนังสือก็ต้องได้ยินประกาศเตือนภัยครั้งใหญ่ในวันนั้น แถมหลังจากเบี่ยงทิศอุกกาบาตไปแล้ว ยังเกิดฝนดาวตกวิ่งตัดผ่านท้องฟ้าเป็นริ้ว ๆ รวมถึงความเสียหายจากเศษอุกกาบาตในบางพื้นที่อีก
“นั่นแหละครับเป็นตัวปัญหา” ทีโอ
“พวกมันมีเชื้อ?” หนุ่มชาวบ้านลองคาดเดา
“ใช่ครับ หลังจากที่มีคนกลายร่างเป็นกึ่งคนกึ่งสัตว์ นักวิทยาศาสตร์ร่วมกับแพทย์วินิจฉัยว่าเดิมทีเราก็มีโรคระบาดอยู่แล้ว และเชื้อที่มาพร้อมกับเศษอุกกาบาตในวันนั้นได้ไปกระตุ้นให้มันกลายพันธุ์และมีความสามารถที่ร้ายแรงขึ้น ส่วนคนที่มีภูมิต้านทานในระดับหนึ่งจะถูกทำให้เปลี่ยนสภาพเพื่อต่อต้านเชื้อไวรัสในร่างกาย บ้างก็ออกมาในลักษณะของรูปลักษณ์ภายนอกที่คล้ายคลึงกับสัตว์รวมถึงความสามารถ และอย่างสุดท้ายก็คือพลังพิเศษ”
“คุยแต่เรื่องซีรีส์ไม่ก็พวกหนังฆาตกรรมสยองขวัญที่เข้าฉายก่อนวันสิ้นโลก แถมเป็นพวกสายโซเชียลเหมือนกันก็เลยค่อนข้างมีเรื่องคุยเยอะ” ผิดกับเขาที่ชอบดูพวกสตรีมเมอร์หรือไม่ก็เล่นเกมออนไลน์มากกว่า จึงไม่ค่อยเข้าใจคำสแลงที่มีความหมายยาก ๆ ที่ทั้งสองคนใช้พูดคุยตลอดการเดินทาง“ก็ทำตัวสมกับเป็นวัยรุ่นดี” โจเซฟไม่ได้ออกความเห็นหากทั้งสองคนจะสนิทกัน เหมือนไอซ์จะปรับปรุงทัศนคติและความคิดของตัวเองได้บ้างแล้ว ส่วนเลวี่ถึงจะมีทีโอที่เคยเป็นรูมเมตอยู่ในกลุ่มด้วย แต่เพราะความรู้สึกที่มีให้กันนั้นเป็นไปในลักษณะของการชอบพอ ย่อมต้องมีเรื่องที่ไม่สามารถพูดกับอีกฝ่ายได้ หากมีคนให้ปรับทุกข์เรื่องส่วนตัวหรือแม้แต่เรื่องของทีโอก็คงจะดีไม่น้อย“ก็ไม่ได้ว่าอะไร…” ปากบอกไม่ว่าอะไร แต่น้ำเสียงกลับเบาลง ทั้งยังก้มหน้า ใช้เท้าเขี่ยหิมะเล่นราวกับเด็กน้อย ที่ถูกเพื่อนหยิบของเล่นที่ตนถูกใจไปแล้วทำอะไรไม่ได้“อะไรกัน เหงาเหรอเจ้าหนูทีโอ” โจเซฟแกล้งแหย่“ไม่ได้เหงาสักหน่อย หมอนั่นมีเพื่อนเพิ่มก็ดีแล้ว จะได้บ่นผมน้อยลง” คนปากแข็งยังคงง้างเท่าไรก็ง้างลำบากอยู่วันยังค่ำ แม้จะเริ่มสำรวจท่าทีของเลวี่มากขึ้น แต่ความไม่กล้าที่บ
พวกเขาเลือกที่จะจอดรถห่างจากหมู่บ้านครูเมตตาไปประมาณ 3 กิโลเมตร ให้พ้นระยะการได้ยินของมนุษย์กลายพันธุ์ พอเช็กว่าไม่มีคนหรือสัตว์ประหลาดอยู่ในละแวกนี้ถึงค่อยยอมให้ไอซ์ใช้พลังนำปลานกกระจอกออกมาจากมิติ จากนั้นดาริณีก็นำเชือกท้ายรถมาผูกปลาทั้งสองเข้าด้วยกันแล้วเดินลากมันไปยังทางเข้าหมู่บ้านด้วยตัวคนเดียว คนที่เหลือก็ช่วยกันกรุยทางไม่ให้หญิงสาวเดินลำบากวิทย์ตกใจแทบตายเมื่อเปิดประตูมาแล้วเจอสมาชิกในทีมของโจเซฟลากสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ติดมือกลับมาด้วย หลังจากพิจารณากันอยู่ครู่หนึ่งวิทย์ก็ขอให้ลากปลาพวกนี้ไปวางไว้ที่สนามหญ้าหน้าสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ด้วยความใหญ่โตใกล้เคียงกับรถบรรทุกขนาดเล็กของปลาบินทั้งสองตัว ย่อมดึงดูดความสนใจของเด็ก ๆ ในบ้านได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ก็พยายามมาด้อม ๆ มอง ๆ เผื่อจะได้รับส่วนแบ่งมาสักคำสองคำเช่นกันเนื่องจากคนในค่ายของวิทย์นั้นมีเพิ่มมาพอสมควร อีกทั้งเด็กน้อยทั้งหลายก็ยังอยู่ในวัยกำลังโต ปลา 1 ตัวโดยไม่ตัดแบ่งสักส่วนจึงตกเป็นของหมู่บ้านครูเมตตาไปโดยปริยายจากนั้นก็ขอให้ไอซ์อยู่ที่บ้านครูเมตตาก่อนสักวันสองวัน พวกเขายังมีธุระที่ต้องไปต่อ ซึ่งไอซ์ก็ไม่ได
ช่วงที่มีโรคระบาดนอกจากเชื้อไวรัสแล้ว สิ่งแปลกปลอมที่เรารับเข้ามาในร่างกายก็มีแค่วัคซีนที่รัฐบาลแจกจ่ายเท่านั้น“ถ้าใช่จริงเขาก็คงอยากจะยกระดับมนุษย์ให้พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งล่ะมั้ง” โจเซฟไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีที่มีคนบางกลุ่มคิดว่าพวกเขาเป็นหนูทดลองในกรงสีน้ำเงินใบนี้ “หรือตีความอีกอย่าง… คงมีคนหวังให้โลกวุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่มาตั้งแต่แรก”“มีแต่เรื่องน่าปวดหัวทั้งนั้นเลย” เฉินเฟิงยกมือปิดตาแหงนคอพิงกับพนักโซฟา รู้สึกอ่อนล้าไปทั้งกายและใจ วันสิ้นโลกที่เขากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว“เหมือนการรีเซตโลกใหม่” ทำลายระบบของมนุษย์ให้สิ้นซาก ให้สัตว์กลับมามีอำนาจปกครองถิ่นของตนอย่างที่เคยเป็นเมื่อครั้งอดีตกาล แบ่งพื้นที่อยู่อาศัยกันให้พอดีกับความต้องการ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในมือให้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะคุ้มได้ก่อนทีจะมองหาทรัพยากรชิ้นใหม่“...” สิงหาเป็นนักวิทยาศาสตร์ เขาย่อมเข้าใจดีว่าการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้นสำคัญมากแค่ไหน ปัญหาก่อนหน้านี้อาจไม่ได้ส่งผลกระทบในยุคสมัยของพวกเขามากนัก แต่คนที่จะรับกรรมก็คือเด็กรุ่นหลังที่ถูกผู้ใหญ่ถลุงทรัพยากรไปอย่างละโมบโลภมากการที่โลกร้
“ตอนที่ผมยังเด็กและเป็นแค่นักหัดวิจัยโนเนมเมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน มีโครงการหนึ่งที่โด่งดังมากในวงการนักวิทยาศาสตร์ เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนโดยเฉพาะ... พวกคุณรู้จักคำว่าโลกร้อนใช่ไหมครับ” สิงหาหันมาถามแขกก่อน เขาเคยได้ยินว่าชาวบ้านบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโลกร้อนคืออะไร ไม่รู้แม้กระทั่งว่าการกระทำของตนเองนั้นทำร้ายโลกที่เราอาศัยอยู่ไปมากน้อยแค่ไหน“เคยได้ยินสิ” มีการรณรงค์อยู่ทั่วทุกที่ ขอแค่เป็นคนที่อยู่ในโลกโซเชียลต้องมีผ่านตาสักครั้งแน่นอน“เพราะกิจกรรมในแต่ละวันของมนุษย์นั้นส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อโลกเพิ่มมากขึ้นในระดับที่เรียกได้ว่ามหาศาล พวกคุณคงเคยได้ยินเรื่องธารน้ำแข็งขั้วโลกที่ละลาย ทำให้แบคทีเรียที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายล้านปีก่อนกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งใช่ไหมครับ นั่นนับเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความตระหนกให้กับพวกเรานักวิจัยเป็นอย่างมากโครงการที่กล่าวมาจึงถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเตรียมรับมือกับอนาคต ผมไม่รู้รายละเอียดเชิงลึกมากนัก รู้แค่ว่าหลังจากที่มีการคัดนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งไปเข้าร่วมการประชุมที่ต่างประเทศ เมื่อพวกเขากลับมาก็ไม่ได้ออกมาเผยแพร่การประชุมก
หัวหน้าหน่วยหรือคนที่ทำคุณประโยชน์ให้กับค่ายพันธมิตรจะมีสวัสดิการที่ทางค่ายมอบให้แตกต่างกันไป อย่างสิงหาที่เป็นถึงระดับหัวหน้าก็ได้รับเสบียงอาหาร แต้มคะแนนรายเดือน การเข้าถึงข้อมูลสำคัญ การรักษาพยาบาล และบ้านประจำตำแหน่งสิงหาไม่ค่อยได้เข้ามาที่บ้านหลังนี้บ่อยนัก ภายในบ้านจึงมีเฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ชิ้น เพราะเจ้าของบ้านมักจะหมกตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อเฝ้างานวิจัยมากกว่า เมื่อต้องต้อนรับแขกคนสำคัญ นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะจึงต้องผันตัวมาเป็นพ่อบ้านเต็มรูปแบบ“ชาล็อต ขอผ้าขนหนูแห้งหน่อย” ก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มกำลังง่วนอยู่กับการถูพื้นด้วยน้ำอุ่น แต่เขาดันถอยหลังไปชนถังน้ำจนมันหกราดไปทั้งบ้านออด~“อ๊ะ มากันแล้ว” สิงหาสะดุ้งเฮือก รีบลุกขึ้นแล้วก้าวไปที่ประตูโดยลืมไปว่าพื้นในบ้านยังคงเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ และทันทีที่สลิปเปอร์สำหรับใส่ในบ้านเหยียบของเหลวลงไป…พรืด! ตุบมีแต่เสียงก็เดาได้ว่าเด็กหนุ่มได้ลื่นก้นกระแทกพื้นไปแล้วเรียบร้อย“ขอโทษครับ ให้แขกเห็นภาพไม่น่าดูซะแล้ว” สิงหาในสภาพเปียกโชกไปทั้งตัวเดินออกมาเปิดประตูรั้ว ฝ่ามือข้างหนึ่งลูบสะโพกตัวเองป้อย ๆ ผายมือให้แขกทั้งสามเดินเข้ามาในตัวบ้าน
“เดี๋ยวผมลองไปถามท่านนายพลเอง” โจเซฟว่าจบก็เตรียมจะเดินไปที่หน่วยทหาร ไอซ์จึงรีบวิ่งตามไปติด ๆ“แน่ใจนะว่าดูแลไหว” นิโคลัสหันไปมองทีโอที่เสนอแผนการนี้ขึ้นมา“ก็ดูเหมือนจะสำนึกได้บ้างแล้ว คงไม่มาก่อเรื่องหรอกมั้ง” ทีโอยักไหล่“คิดยังไงถึงจะพาเขาไปด้วย” ปกติเห็นเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน มาวันนี้กลับเสนอให้ไปเยี่ยมบ้านกันเสียอย่างนั้น“ปลาบินสองตัวเลยนะพี่นิค แบ่งให้สามหมู่บ้านได้สบายเลย” แถมยังอยู่ในสภาพสดใหม่อีกต่างหาก“แต่นั่นเป็นผู้มีพลังมิติที่มีเพียงคนเดียวในค่ายนะ” เจ้ากระต่ายไม่คิดว่าท่านนายพลจะยอมให้หลานชายออกไปด้านนอกอีก“ก็ไม่แน่นะครับ ตอนนี้ขอแค่เป็นหัวหน้าเราไปพูด ผมคิดว่าท่านนายพลต้องฟัง ระหว่างที่พวกเราไปบ้านบนภูเขาก็ให้ไอซ์พักอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไปก่อน” ไม่ได้มีความคิดจะเปิดเผยเรื่องเส้นทางลับแลกเปลี่ยนสิ่งของหรือที่ตั้งของหมู่บ้านในสมาพันธ์ผู้รอดชีวิต“เนื้อปลาหลังรถเราก็มีพอแค่กินกันในบ้านบนภูเขา แต่ถ้ามีเยอะ ๆ คงพอแบ่งให้กับอีกสามหมู่บ้านได้แน่ หน้าหนาวแบบนี้อาหารยิ่งมีเยอะเท่าไรก็ยิ่งดี” เขาอยากให้เด็ก ๆ ที่บ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าได้กินเนื้ออย่างเต็มปากเต็มคำเหม