ช่วงเย็นของวัน...
ด้วยความหวังเล็กๆ ว่าแดนดินอาจจะมีช่องทางหรือคอนเนคชั่นที่จะช่วยให้เธอปิดดีลสำคัญได้ มิเชลตัดสินใจที่จะไปหาแดนดินที่บาร์ เมื่อเธอเดินทางมาถึงบาร์หรูอีกครั้ง บรรยากาศภายในยังคงคึกคักและเต็มไปด้วยแสงสีสลัว เธอสอดส่ายสายตามองหาแดนดิน และในที่สุดก็พบเขานั่งอยู่ที่โต๊ะในโซน VIP กับลูกค้าหญิงสูงวัยคนหนึ่งที่ดูมีฐานะ มิเชลรู้สึกใจหายเล็กน้อย แต่ก็เลือกที่จะเชื่อมั่นในคำพูดของเขา เธอเดินไปยังโต๊ะ VIP อีกตัวที่ไม่ไกลกันมากนัก และนั่งลงรอคอยอย่างใจเย็น พลางสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ แดนดินดูเอาใจใส่ลูกค้าคนนั้นเป็นอย่างดี พูดคุยด้วยรอยยิ้มและท่าทางที่สุภาพ เวลาผ่านไปไม่นานนัก แดนดินก็ลุกขึ้นจากโต๊ะลูกค้าและเดินตรงไปยังทางออกที่เชื่อมกับโรงรถ มิเชลเห็นดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นและเดินตามเขาไปอย่างเงียบๆ ความสงสัยและความคาดหวังปะปนอยู่ในใจ ทันทีที่มิเชลเดินตามมาถึงโรงรถ แสงไฟสลัวจากหลอดไฟนีออนสีส้มส่องให้เห็นรถสปอร์ตคันหรูของแดนดินจอดอยู่ เขาเปิดประตูรถและกวักมือเรียกเธอเบาๆ มิเชลก้าวเข้าไปในรถด้วยความงุนงง ก่อนที่แดนดินจะปิดประตูและหันมาเผชิญหน้ากับเธอในความมืดสลัว "เธอรอฉันนานไหม?" แดนดินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด "ไม่นานเท่าไหร่" มิเชลตอบสั้นๆ มองสำรวจใบหน้าของเขาในความมืด "เมื่อกี้... ลูกค้าของนายเหรอ" "อืม" แดนดินพยักหน้า "คุณนายสมใจ... เธอสนใจลงทุนในคอนโดหรูอยู่พอดี ฉันเลยลองคุยกับเธอเรื่องเพ้นท์เฮ้าส์ที่เธอดูแล" มิเชลเบิกตากว้างเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ "จริงเหรอ? นายช่วยฉันได้จริงเหรอ" "ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันจะช่วยเธอ" แดนดินยื่นมือมาจับมือของมิเชลไว้เบาๆ "ฉันคุยกับเธอคร่าวๆ แล้ว เธอสนใจมาก พรุ่งนี้เธออยากจะให้เธอเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม" หัวใจของมิเชลเต้นแรงขึ้นด้วยความดีใจและความหวัง "จริงเหรอแดนดิน! ขอบคุณนายมากนะ ฉันไม่รู้จะตอบแทนนายยังไงเลย" "ไม่จำเป็นต้องตอบแทนอะไรหรอก" แดนดินยิ้มบางๆ ในความมืด "ฉันแค่อยากช่วยเธอ... และอยากใช้เวลากับเธอด้วย" ความเงียบโรยตัวลงระหว่างทั้งสองอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ได้อึดอัดเหมือนรอบก่อน "ขอบคุณนะถ้าฉันปิดดีลได้ฉันจะแบ่งเปอร์เซ็นให้นาย" "ไม่ต้องแบ่งให้ฉันหรอก" "แต่ว่า...." "ถ้าเธออยากจะเเบ่งเปอร์เซ็นให้ฉันเพื่อให้ฉันเลิกทำงานที่นี่เร็วขึ้นก็ไม่จำเป็น" แดนดินเอ่ยพร้อากับมองใบหน้าของหญิงสาวอย่างเดาออกว่าเธอคิดอะไรอยู่ "ทำไมนายถึงยังเลือกที่จะทำงารที่นี่ทั้งที่เปอร์เซ็นที่ฉัรจะแบ่งให้มันก็มากพอที่นายจะตั้งตัวได้" มิเชลตัดสินใจถามคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจ แดนดินถอนหายใจเบาๆ "ฉันบอกเธอแล้ว ว่าฉันตั้งใจจะเก็บเงิน" "ก็นี่ไง เปอร์เซ็นที่ฉันจะแบ่งให้นานให้มันน้อยเกินไปฉันแบ่งให้เพิ่มได้นะ?" มิเชลถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น "ฉันอยากเก็บเงินด้วยน้ำพักน้ำแรงของฉันเอง" แดนดินกระชับมือของเธอแน่นขึ้น "ตอนนี้... เชื่อใจฉันก่อนได้ไหม เชื่อใจว่าสิ่งที่ฉันทำ มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอคิด" มิเชลมองลึกเข้าไปในดวงตาของแดนดิน พยายามค้นหาความจริงใจในนั้น เธอรู้สึกถึงความจริงจังในน้ำเสียงของเขา "ฉันอยากเชื่อใจนายนะแดนดิน" มิเชลเอ่ยเสียงแผ่ว "แต่มันยาก... ฉันไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน" "ฉันรู้" แดนดินตอบด้วยความเข้าใจ "ฉันจะไม่เร่งรัดเธอ... แต่ขอแค่เธอเปิดใจให้ฉันบ้าง" ทั้งสองเงียบไปอีกครั้ง แสงไฟจากภายนอกส่องลอดเข้ามาในรถ ทำให้เห็นใบหน้าของกันและกันได้รางๆ แววตาของทั้งคู่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน "ขอบคุณนะ... สำหรับทุกอย่าง" มิเชลเอ่ยทำลายความเงียบ "ฉันเต็มใจเสมอ... สำหรับเธอ" แดนดินตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ก่อนจะค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาใกล้ มิเชลหลับตาลงอย่างเต็มใจ รอคอยสัมผัสที่เธอโหยหา ริมฝีปากของแดนดินแตะลงบนริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนที่จูบนั้นจะค่อยๆ ลึกซึ้งและเร่าร้อนขึ้น ความรู้สึกสับสนและความกังวลเมื่อครู่มลายหายไป เหลือเพียงความปรารถนาและความเสน่หาที่ทั้งสองมีให้กัน... ในโรงรถที่เงียบสงัด แสงไฟสลัวและอารมณ์กามในตัวของทั้งคู่ที่เริ่มปะทุขึ้น"ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ฮึก~ " มิเชลเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือพร้อมกับเอื้อมมือสัมผัสใบหน้าคมคายเบาๆ ราวกับอยากจะรู้ว่านี่คือความฝันหรือความจริงก่อนที่น้ำตาที่กลั้นไว้จะไหลออกมา"จะร้องทำไม ร้องไห้เดียวก็ไม่สวยหรอก" แดนดินเอ่ยอย่าลเอ็นดูพร้อมกับใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้เธอ"นายหายไปไหนมา รู้ไหมฉันคิดถึงนายแค่ไหน" มิเชลเอ่ยพร้อมกับใช้กำปั้นน้อยๆ ทุบที่อกแกร่ง"โอ่ๆๆๆ ฉันกลับมาแล้วนี่ไงต่อไปนี้จะไม่ไปไหนอีกแล้ว""พูดแล้วนะ" มิเชลเอ่ยพร้อมกับซุกหน้ากับอกแกร่งทั้งคู่สบสายตากันอีกครั้งโดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ แดนดินค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมา ริมฝีปากของเขาทาบทับลงบนริมฝีปากของมิเชลอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จูบนั้นจะค่อยๆ ลึกซึ้งและเร่าร้อนขึ้น ด้วยความโหยหาที่สะสมมาตลอด 3 ปี ผ่านจูบที่เต็มไปด้วยความคิดถึงและความปรารถนาสองมือเรียวของมิเชลยกขึ้นมาคล้องคอร่างสูงเอาไว้หลวมๆ ขณะที่มือแกร่งของแดนดินเองก็เริ่มลูบไล้เรือนร่างบองเธอผ่านชุดเดรสตัวสวยสองร่างค่อยๆ เอนตัวลงบนผืนทรายขณะที่ริมฝีปากร้อนยังคงเกี่ยวพันกันอยู่อย่างดูดดื่มอย่างไม่มีใครยอมใครพร้อมกับที่ทั้งคู่เริ่มปลดเปลือยเสื้อผ้าให้กันและกันอย่างรีบร้อนสอ
3 ปีผ่านไป...นับตั้งแต่วันที่ถูกพากลับคฤหาสน์ศิริพันธ์ ชีวิตของมิเชลก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง อิสระที่เคยมีถูกจำกัดทันทีเมื่อเธอเหยียบเข้ามาในบ้าน ไม่ว่าเธอจะขยับตัวไปทางไหนก็มีแต่ลูกน้องของผู้เป็นแม่คอยจับตาดูอยู่ตลอดเวลาเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมาทำงานที่บริษัทของครอบครัวและสวมบทบาททายาทบริษัทอย่างเต็มตัว ภายใต้การจับตามองของผู้เป็นแม่อย่างเข้มงวด ราวกับว่าคุณหญิงเขมจิราหวาดกลัวว่าลูกสาวคนเล็กจะหวนกลับไปสู่ "ทางเดินที่ผิด" อีกครั้งยิ่งเมื่อผู้เป็นแม่ไปสืบมาว่าแดนดินเป็นหนุ่มบาร์โฮส์มันก็แทบทำให้ผู้เป็นแม่ลมจับขึ้นมาทันทีการติดต่อกับแดนดินก็กลายเป็นศูนย์เช่นกัน มิเชลพยายามส่งข้อความ โทรศัพท์ หาแดนดินเพื่อถรมไถ่แต่ทุกช่องทางก็ถูกตัดขาด ราวกับว่าแดนดินได้หายตัวไปจากโลกของเธออย่างสิ้นเชิง ความคิดถึงประดังเข้ามาในใจเธอในทุกวัน โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่ความเหงาเกาะกินหัวใจเธอนึกถึงแต่เพียงใบหน้าและแววตาที่อ่อนโยนของเขาจนกระทั่งวันนี้...ในที่สุด ผู้เป็นแม่ก็ได้ยกเลอกให้ลูกน้องเลิกติดตามเธอและยอมให้เธอไปเที่ยวพักผ่อนได้ต่มลำพัง เพราะคิดว่าเวลาที่ผ่านมานานถึง 3 ปี คงจะทำให้ความสัมพันธ์
เช้าวันต่อมา.... แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนหรู มิเชลและแดนดินยังคงนอนกอดกันอยู่บนเตียงกว้างอย่างแนบชิด ใบหน้าของทั้งคู่ดูอยู่มกล้กันเพียงแค่ไม่ถึงคืบ....แต่ความสงบนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเสียงกริ่งประตูห้องดังขึ้นซ้ำๆ ทำให้ปลุกทั้งคู่จากการหลับไหลมิเชลค่อยๆ ลืมตาขึ้นด้วยความงัวเงีย เธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าใครมาแต่เช้า"ใครกัน?" เธอเอ่ยพึมพำแดนดินขยับตัวเล็กน้อยแล้วลืมตาขึ้นเช่นกัน "เดียวไปดูให้" ยังไม่ทันที่แดนดินจะได้ลุกจากเตียง เสียงเคาะประตูก็ดังกระหน่ำตามมาด้วยเสียงเรียกที่คุ้นเคย"มิเชล! เปิดประตูเดี๋ยวนี้!" เสียงของคุณหญิงเขมจิราดังลั่นมาจากหน้าห้อง พร้อมด้วยเสียงทุ้มต่ำของไมเคิลพี่ชายของเธอ"มิเชลอยู่ไหม เปิดประตูให้พี่กับแม่หน่อย"มิเชลเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอรีบลุกจากเตียงอย่างรวดเร็วและหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่อย่างร้อนรนทันทีพร้อมกับที่แดนดินก็รีบหยิบกางเกงมาสวมใส่"แย่แล้ว! แม่กับพี่ไมเคิลมาได้ยังไง!"ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร เสียงประตูห้องก็ถูกเปิดพรวดเข้ามา คุณหญิงเขมจิราและไมเคิลยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าตกตะลึงเมื่อเห็นภาพของมิเชลที่สวมชุดนอนหลุดรุ่ยแ
"อื้ออออ~ " ร่างบางเม้มปากแน่นพร้อมกับครางออกมาเสียงกระเส่าอย่างเสียวซ่านเมื่อลำเอ็นร้อนเสียบเข้ามาในรูรักของเธออีกครั้ง "ตอดดีชิป" แดนดินเอ่ยพร้อมกับขบกรามแน่นก่อนที่เขาจะล็อคเอวบางไว้และเริ่มรัวตอกกระแทกท่อนเอ็นร้อนใส่รูรักของเธออย่างถี่ยิปด้วยอารมณ์กามที่พลุ่งพล่าน "อ้ะๆๆๆ เสียว" มิเชลเอ่ยเสียงกระเส่าพร้อมกับมองท่อนเอ็นร้อนที่เสียบเข้าเสียบออกรูรักของเธออย่างไม่ยั้ง "ฉันก็เสียว มิเชล" แดนดินเอ่ยเสียงทุ่มต่ำพร้อมกับขบกามแน่น มือแกร่งล็อคเอวบางไว้แน่นกว่าเดิมพร้อมกับตอกกระแทกท่อนเอ็นร้อนเข้าไปยังรูรักของเธออย่างสุดแรง ตับ ตับ ตับ!!! เสียงท่อนเอ็นร้อนตอกกระแทกรูรักและเสียงครางของร่างบางยังคงดังสนั่นไปทั่วห้องจนเกิดเป็นเสียงลามก ดวงตาคู่สวยมองใบหน้าหล่อเหล่าของแดนดินที่ตอนนี้มีเม็ดเหงื่อผุดออกมาด้วยแววตาที่หยาดเยิ้ม มือเรียวลูบไล้ไปทั่วแผ่นอกกว้างพร้อมกับถ่างสองเรียวขาออกให้กว้างขึ้นเพื่อให้คนตัวสูงตอกกระแทกท่อนเอ็นร้อนได้ถนัดขึ้น"ตอดดีชิป" แดนดินเอ่ยเสียงทุ้มต่ำเมื่อภายในโพรงรักของเธอตอดลำเอ็นร้อนเขาถี่ยิปมือหนาเลื่อนมาบีบขยำหน้าอกอวบอิ่มทั้งสองข้างของหญิงสาวที่กำลังกร
"งั้นนายก็นอนเฉยๆ " มิเชลเอ่ยก่อนตะเปลี่ยนมานั่งคร่อมขาแกร่งของเขาไว้แทน "จะขย่มฉันเองรึไง? " แดนดินเอ่ยอย่างหยอกล้อพร้อมกับจับลำเอ็นร้อนเขี่ยร่องเสียวของหญิงสาวเล่น "อื้อออ อย่าเเกล้ง" มิเชลเอ่ยด้วยสีหน้าเสียวซ่านก่อนจะเริ่มใช้ร่องเสียวถูไถลำเอ็นร้อนของชายหนุ่มด้วยจังหวะเนิบนาบ "อ่าาา เสียวชิป" แดนดินเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพร้อมกับเอื้อมมือมาบีบขยำหน้าอกอวบอิ่มที่กระเพื่อมไปตามแรงของหญิงสาว มิเชลไม่เอ่ยตอบพร้อมกับเร่งบดขยี้ร่องเสียวกับลำเอ็นร้อนไวขึ้นเมื่อเธอรู้สึกเสียวซ่านจนทนไม่ไหวก่อนจะรีบจับท่อนเอ็นร้อนมาจ่อกับรูรักของตนเองเเละนั่งบงไปสุดลำ ส๊วบ!!! "อ่าาาา ลึกจัง" มิเชลเอ่ยครางเสียงกระเส่าก่อนจะเริ่มขย่มสะโพกสวยใส่ท่อนเอ็นร้อนของชายหนุ่มอย่างถี่ยิปด้วยอารมณ์กามที่พลุ่งพล่านอย่างหยุดไม่อยู่ "อ่าาา เธอจะฆ่าฉันรึไง" เเดนดินเอ่ยเสียงทุ่มต่ำพร้อมขบกรามแน่นอย่างเสียวซ่านสายตาคมมองท่อนเอ็นร้อนของตนเอลที่ถูกรูรักกระแทกขึ้นลงอย่างเสียวจับใจ ร่างบางตอกกระแทกต่อรักของชายหนุ่มอย่างถี่ยิป อย่างไม่ยั้งอยู่สักพักก่อนที่เธอจะเริ่มชะลอความเร็วลงและหมุนควงลำเอ็นร้อนเป็นวงกลมแทนสล
ณ คอนโดหรูของมิเชล... หลังจากที่ขึ้นมาถึงห้อง มิเชลก็รีบมาอาบน้ำชำระร่างกายของตัวเองก่อนที่สายตาของเธอจะเหลือบไปเห็นร่างเปลือยเปล่าของตนเอลในกระจก "ตาบ้านั้นชาติที่แล้วเป็นปิงรึไง" มิเชลเอ่ยด้วยใบหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นรอยรักทั่วเนินอกที่ชายหนุมได้ฝากเอาไว้ 3 ชั่วโมงผ่านไป แกร้ก~ เสียงประตูคอนโดถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงของแดนดินที่เดินเข้ามาภายในห้อง "มาแล้วหรอ? " เสียงหงานของมิเชลดังขึ้นจากในห้องนอนพร้อมกับเปิดประตูห้องนอนออกมา แดนดินมองร่างอรชรในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าซาตินตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก "มองอะไร" มิเชลเอ่ยถามด้วยใบหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นสายตาของชายหนุ่ม แดนดินไม่ได้เอ่ยตอบแต่เอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของมิเชลอย่างแผ่วเบา ก่อนจะรั้งใบหน้าสวยเข้ามาใกล้ ริมฝีปากของแดนดินค่อยๆ โน้มลงมาประทับริมฝีปากของมิเชลอย่างเร่าร้อนและดูดดื่มด้วยอารมณ์กามที่พลุ่งพล่าน มือเรียวของมิเชลยกขึ้นโอบรอบคอของแดนดิน ส่วนมือแกร่งของเขาก็โอบกระชับร่างบางของเธอแน่นขึ้น ก่อนที่แดนดินจะอุ้มร่างบางเดินเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับค่อยๆ ทิ้งตัวเธอลงกับเตียงนอนหรู ทั้งคู่ต่างเ
"นายอยากได้ค่าตอบแทนเป็นอะไร?" มิเชลเอ่ยถามพร้อมกับช้อนสายตามองชายหนุ่มอย่างยั่วยวน"เธอรู้อยู่แล้ว มิเชล" แดนดินเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้งก่อนจะรั้งใบหน้าสวยเข้ามาใกล้และประกบจูบอีดครั้งเรียวลิ้นของทั้งคู่เกี่ยวพันกันอย่างดูดดื่มพร้อมกับที่ทั้งคู่ช่วยกันปลดเปลือเสื้อผ้าของกันและกันอย่างเร่งรีบ"แล้วนายไม่กลับไปทำงานต่อหรอ" ร่างบางเอ่ยถามเสียงแหบพร่า มองชายหนุ่มที่เอื้อมมือมาปรับเบาะเธอให้เอนลงก่อนจะมาคร่อมตัวเธอไว้"ทำ...แต่ขอรับค่าจ้างก่อน""อย่าคิดแพงหละ " ร่างบางเอ่ยพร้อมลูบไล้ท่อนเอ็นร้อนขนาดใหญ่ของแดนดินที่แข็งทื่อ"ได้ค่านายหน้าตั้งเยอะ ขอคิดแพงหน่อยแล้วกัน" ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับใช้ปลายหัวเห็ดเขี่ยร่องเสียวของร่างบางขึ้นลง "ก็ได้ อื้อออ" ร่างบางเอ่ยก่อนจะถ่างขาออกให้กว้างขึ้นชายหนุ่มจับท่อนเอ็นร้อนเลื่อนมาจ่อยังรูรักก่นจะเสียบท่อนเอ็นร้อนเข้าไปจนสุดลำส๊วบ!!!"อื้อออ จุกจัง" หญิงสาวเอ่ยครางเสียงกระเส่าที่ถูกท่อนเอ็นร้อนของชายหนุ่มกระแทกมาจนสุดลำจนเธอรู้สึกจึกไปทั่วท้องน้อย"ยังไม่ชินอีกรึไง อ่าา" แดนดินเอ่ยถามพร้อมกับคำรามออกมาเล็กน้อยก่อนจะเริ่มซอยรูรักของหญิงสาวอย่างถี่ยิป"อ้
ช่วงเย็นของวัน...ด้วยความหวังเล็กๆ ว่าแดนดินอาจจะมีช่องทางหรือคอนเนคชั่นที่จะช่วยให้เธอปิดดีลสำคัญได้ มิเชลตัดสินใจที่จะไปหาแดนดินที่บาร์ เมื่อเธอเดินทางมาถึงบาร์หรูอีกครั้ง บรรยากาศภายในยังคงคึกคักและเต็มไปด้วยแสงสีสลัว เธอสอดส่ายสายตามองหาแดนดิน และในที่สุดก็พบเขานั่งอยู่ที่โต๊ะในโซน VIP กับลูกค้าหญิงสูงวัยคนหนึ่งที่ดูมีฐานะ มิเชลรู้สึกใจหายเล็กน้อย แต่ก็เลือกที่จะเชื่อมั่นในคำพูดของเขา เธอเดินไปยังโต๊ะ VIP อีกตัวที่ไม่ไกลกันมากนัก และนั่งลงรอคอยอย่างใจเย็น พลางสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ แดนดินดูเอาใจใส่ลูกค้าคนนั้นเป็นอย่างดี พูดคุยด้วยรอยยิ้มและท่าทางที่สุภาพ เวลาผ่านไปไม่นานนัก แดนดินก็ลุกขึ้นจากโต๊ะลูกค้าและเดินตรงไปยังทางออกที่เชื่อมกับโรงรถ มิเชลเห็นดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นและเดินตามเขาไปอย่างเงียบๆ ความสงสัยและความคาดหวังปะปนอยู่ในใจ ทันทีที่มิเชลเดินตามมาถึงโรงรถ แสงไฟสลัวจากหลอดไฟนีออนสีส้มส่องให้เห็นรถสปอร์ตคันหรูของแดนดินจอดอยู่ เขาเปิดประตูรถและกวักมือเรียกเธอเบาๆ มิเชลก้าวเข้าไปในรถด้วยความงุนงง ก่อนที่แดนดินจะปิดประตูและหันมาเผชิญหน้ากับเธอในความมืดสลัว "เธอรอฉันนานไหม?"
"เอาออกไปได้แล้ว" มิเชลเอ่ยด้วยใบหน้าแดงก่ำก่อนจะผลักออกแกร่งให้ออกไปแต่ก็ไม่เป็นผล "ไม่อยากต่อหรอ? " แดนดินเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับดูดเม้นเนินอกสวย "ไม่แล้ว ฉันต้องไปหาลูกค้ามาซื้อคอนโดแทนคุณจีน่า ขืนฉันขายไม่ออกต้องได้กลับไปทำงานที่บ้านแน่" มิเชลเอ่ยด้วยดวงตาที่ตกวูบไปเมื่อนึกถึงเรื่องที่สัญญากับครอบครัวเอาไว้และนี่ก็เป็นโอกาสครั้งาดท้ายของเธอ "งั้นถ้าฉันช่วยเธอได้หละ? " แดนดินเอ่ยพร้อมกับค่อยๆ ถอดท่อนเอ็นร้อนที่ยังคงแข็งทื่อออกจากรูรักของเธออย่างอ้อยอิ่งพร้อมกับเปลี่ยนไปเป็นนั่งพิงพนักโซฟาแทน "ยังไง? " มิเชลเอ่ยด้วยใบหน้าสงสัยก่อนจะลุกขึ้นมานั่งมองหน้าอีกฝ่าย "ลูกค้าที่มาที่บาร์ส่วนมากก็มีแต่คนมีเงินกันทั้งนั้น" "นายจะช่วยฉันขายหรอ? " ร่างบางเอ่ยถามด้วยดวงตาเบิกกว้างอย่างมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง "ก็ถ้าคุณยอมต่อ คืนนี้ผมก็จะไปลองคุยกับพวกคุณหญิงคุณนายพวกนั้นให้" แดนดินเอ่ยด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับใช้มือแกร่งเชยครางมนของร่างบางขึ้นให้มาสบตากับเขามิเชลยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนไปนั่งอยู่กลางหว่างขาจองชายหนุ่มแทน "ซี๊ดดดด~ " ร่างสูงคำรามออกมาอย่างเสียวจับใจ