เมื่อมิเชลคุณหนูบ้านรวยผู้เพียบพร้อมไปหมดทุกอย่างดันมีปัญหากับที่บ้านจนต้องหนีพักเรื่องปวดหัวไปเที่ยวทะเลคนเดียวและได้เจอเข้ากับแดนดินที่เป็นพ่อหนู่มบาร์โฮสตัวท๊อปจนเผลอตัวเผลอใจไปมีวันไนท์สแตนด์กับเขา....แต่การเผลอใจครั้งนี้มันดันไม่จบแค่ครั้งเดียว
Voir plusณ คฤหาสน์หรูของตระกูล ศิริพันธ์...
เสียงทะเลาะกันของมิเชล หรือ นภัสสร ศิริพันธ์ ลูกคนเล็กของตระกลู ศิริพันธ์ เจ้าของบริษัทสกิลแคร์ที่ดังเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย และ คุณหญิงเขมจิรา ศิริพันธ์ ดังลั่นไปทั่วทั้งห้องโถมจนเล่าแม่บ้านไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง "มิเชลบอกแล้วไงคะว่ามิเชลจะเลือกทางเดินของตัวเอง!! " "ทางเดินของแกก็คือการไปเป็นนายหน้าคอนโดโง่ๆ งั้นหรอเลิกทำตัวนอกคอกได้แล้วมิเชล! " คุณหญิงเขมจิราตวาดลั่นอย่างเหลืออดที่เขาพยายามให้ลูกสาวของตนเองมาสานต่อบริษัทของที่บ้านไม่ได้เสียที "แม่ก็มีพี่ไมเคิลอยู่แล้วแม่ก็ให้พี่ทำไปสิ! " หญิงสาวเอ่ยเถียงอย่างไม่ยอมเช่นกัน ...แต่ในขณะที่ทั้งคู่กำลังทะเลาะกันอยู่นั้นเสียงทุ่มต่ำทรงอำนาจก็ดังขึ้นพร้อมกับชายวัยกลางคนอย่าง ชาญศักดิ์ ศิริพันธ์ ที่พึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับลูกชายคนโต ไมเคิล ฉัตรนรงค์ ศิริพันธ์ "เถียงอะไรกันเสียงดังไปถึงหน้าบ้าน" "คุณก็ดูลูกสาวคุณสิคะไม่ยอมมาช่วยงานที่บ้านแต่ไปยืนตากหน้าขายคอนโดอยู่ได้ วันนี้ฉันไปเจอกำลังเสนอขายให้คุณหญิงรัศมีรู้ไหมฉันอายแค่ไหน" "ทำงานสุจริตมันน่าอายตรงไหนกันคะ แล้วอีกอย่างโครงการที่มิเชลขายมันก็เป็นคอนโดระดับลัคชูรี่" "พอได้แล้ว! " ผู้เป็นพ่อเอ่ยเสียงดังลั่นก่อนจะหันไปมองหน้าลูกสาวและเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงออกคำสั่ง "ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปแกห้ามไปเป็นนายหน้าขายคอนโดอีกเข้าใจไหม! " "ไม่ค่ะ ยังไงมิเชลก็จะทำต่อ" "มิเชล" เสียงทุ่มของผู้เป็นพี่เอ่ยเรียกอย่างห้ามปราม "ก็มิเชลพูดจริง ยังไงมิเชลก็จะทำต่อ! " หลังจากเอ่ยจบหญิงสาวก็รีบวิ่งออกจากบ้านทันที เช้าวันต่อมา.... เสียงทะเลาะของเธอกับที่บ้านยังคงดังก้องอยู่ในหัว แม้ว่ารถตู้ของบริษัททัวร์จะแล่นออกมาจากกรุงเทพฯ ได้หลายชั่วโมงแล้วก็ตาม จากเรื่องเมื่อวานทำให้เธอตัดสินใจหนีจากทุกสิ่งทุกอย่างมาพักผ่อนที่ทะเลคนเดียว โดยผ่านทริปทัวร์ที่เธอพึ่งจองเมื่อคืนอย่างกะทันหัน เมื่อเดินทางมาถึงเกาะแห่งหนึ่งยังภาคใต้ มิเชลรู้สึกถึงลมทะเลที่พัดมาปะทะใบหน้าเบาๆ กลิ่นเค็มของน้ำทะเลและความสดชื่นของอากาศช่วยให้ความตึงเครียดในใจเธอผ่อนคลายลงบ้าง เธอเดินตามไกด์ของทัวร์ไปยังรีสอร์ทที่ตนพัก ก่อนจะจัดการเก็บกระเป๋าแล้วออกมาเดินเล่นริมหาดทรายอย่างต้องการจะลืมเรื่องทั้งหมดที่กรุงเทพทิ้งไป ...แต่ในระหว่างที่เธอเดินคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้น เธอก็ได้ชนเข้ากับชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคนหนึ่งที่เดินส่วนกับเธอมาพอดี "ขอโทษค่ะ/ขอโทษครับ" "อ้าวเป็นคนไทยหรอครับ" เสียงทุ่มของแดนดิน หรือ กฤติน ชัยวิวัช "ใช่ค่ะ ดีใจจังนึกว่าทริปนี้มีแต่ต่างชาติเสียอีก" มิเชลเอ่ยด้วยรอยยิ้มหวานอย่างดีใจที่เธอจะมีเพื่อนเพิ่มในทริป "ผมก็เหมือนกัน ผมชื่อแดนดินนะครับ" "ฉันมิเชลค่ะ" หลังจากที่ทั้งคู่แนะนำตัวกันเสร็จก็ต่างพากันเดินเล่นและพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ อย่างสนุกสนานและพากันไปทำกิจกรรมต่างๆ ที่ทางทัวร์ได้จัดไว้ให้ ทั้งดำน้ำดูปะการัง พายเรือคายัค จนกระทั่งถึงมื้อเย็นที่ทุกคนมารวมตัวกันที่ร้านอาหารริมหาด มิเชลนั่งอยู่โต๊ะริมหน้าต่างคนเดียว มองคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งอย่างเหม่อลอย "ไปเดินเล่นกันไหมครับ?" เสียงทุ้มต่ำของแดนดินดังขึ้นข้างๆ ทำให้มิเชลหลุดจากภวังค์ "อ๋อ ได้สิ" มิเชลตอบและยิ้มบางๆ พร้อมกับลุกขึ้นไปเดินเล่นริมชายหาดในยามค่ำคืนกับชายหนุ่ม "ทำไมถึงมาเที่ยวคนเดียวหรอครับ?" "ทะเลาะกับที่บ้าน แล้วนายหละ?" "ผมแค่เหนื่อยๆ เลยอยากลองมาพักผ่อนสักวันสองวัน" หลังเอ่ยจบบทสนทนาของทั้งคู่ก็เงียบไป มีเพียงแต่เสียงคลื่นซัดฝั่งดังเป็นจังหวะ และแสงจันทร์ที่ส่องสว่างบนผืนทราย พวกเขาเงียบกันไปนาน ต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเองก่อนที่มิเชลจะเริ่มเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ "ขอบคุณนะคะสำหรับการเป็นเพื่อนคุย ตลอดทริปนี้" "เช่นกันครับ" แดนดินเอ่ยพร้อมหันมายิ้มให้เธอ สายตาของทั้งสองสบกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ดวงตาของแดนดินดูอบอุ่นและอ่อนโยน มิเชลรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าไปในแววตาคู่นั้นอย่างห้ามไม่อยู่ หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ฮึก~ " มิเชลเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือพร้อมกับเอื้อมมือสัมผัสใบหน้าคมคายเบาๆ ราวกับอยากจะรู้ว่านี่คือความฝันหรือความจริงก่อนที่น้ำตาที่กลั้นไว้จะไหลออกมา"จะร้องทำไม ร้องไห้เดียวก็ไม่สวยหรอก" แดนดินเอ่ยอย่าลเอ็นดูพร้อมกับใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้เธอ"นายหายไปไหนมา รู้ไหมฉันคิดถึงนายแค่ไหน" มิเชลเอ่ยพร้อมกับใช้กำปั้นน้อยๆ ทุบที่อกแกร่ง"โอ่ๆๆๆ ฉันกลับมาแล้วนี่ไงต่อไปนี้จะไม่ไปไหนอีกแล้ว""พูดแล้วนะ" มิเชลเอ่ยพร้อมกับซุกหน้ากับอกแกร่งทั้งคู่สบสายตากันอีกครั้งโดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ แดนดินค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมา ริมฝีปากของเขาทาบทับลงบนริมฝีปากของมิเชลอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จูบนั้นจะค่อยๆ ลึกซึ้งและเร่าร้อนขึ้น ด้วยความโหยหาที่สะสมมาตลอด 3 ปี ผ่านจูบที่เต็มไปด้วยความคิดถึงและความปรารถนาสองมือเรียวของมิเชลยกขึ้นมาคล้องคอร่างสูงเอาไว้หลวมๆ ขณะที่มือแกร่งของแดนดินเองก็เริ่มลูบไล้เรือนร่างบองเธอผ่านชุดเดรสตัวสวยสองร่างค่อยๆ เอนตัวลงบนผืนทรายขณะที่ริมฝีปากร้อนยังคงเกี่ยวพันกันอยู่อย่างดูดดื่มอย่างไม่มีใครยอมใครพร้อมกับที่ทั้งคู่เริ่มปลดเปลือยเสื้อผ้าให้กันและกันอย่างรีบร้อนสอ
3 ปีผ่านไป...นับตั้งแต่วันที่ถูกพากลับคฤหาสน์ศิริพันธ์ ชีวิตของมิเชลก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง อิสระที่เคยมีถูกจำกัดทันทีเมื่อเธอเหยียบเข้ามาในบ้าน ไม่ว่าเธอจะขยับตัวไปทางไหนก็มีแต่ลูกน้องของผู้เป็นแม่คอยจับตาดูอยู่ตลอดเวลาเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมาทำงานที่บริษัทของครอบครัวและสวมบทบาททายาทบริษัทอย่างเต็มตัว ภายใต้การจับตามองของผู้เป็นแม่อย่างเข้มงวด ราวกับว่าคุณหญิงเขมจิราหวาดกลัวว่าลูกสาวคนเล็กจะหวนกลับไปสู่ "ทางเดินที่ผิด" อีกครั้งยิ่งเมื่อผู้เป็นแม่ไปสืบมาว่าแดนดินเป็นหนุ่มบาร์โฮส์มันก็แทบทำให้ผู้เป็นแม่ลมจับขึ้นมาทันทีการติดต่อกับแดนดินก็กลายเป็นศูนย์เช่นกัน มิเชลพยายามส่งข้อความ โทรศัพท์ หาแดนดินเพื่อถรมไถ่แต่ทุกช่องทางก็ถูกตัดขาด ราวกับว่าแดนดินได้หายตัวไปจากโลกของเธออย่างสิ้นเชิง ความคิดถึงประดังเข้ามาในใจเธอในทุกวัน โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่ความเหงาเกาะกินหัวใจเธอนึกถึงแต่เพียงใบหน้าและแววตาที่อ่อนโยนของเขาจนกระทั่งวันนี้...ในที่สุด ผู้เป็นแม่ก็ได้ยกเลอกให้ลูกน้องเลิกติดตามเธอและยอมให้เธอไปเที่ยวพักผ่อนได้ต่มลำพัง เพราะคิดว่าเวลาที่ผ่านมานานถึง 3 ปี คงจะทำให้ความสัมพันธ์
เช้าวันต่อมา.... แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนหรู มิเชลและแดนดินยังคงนอนกอดกันอยู่บนเตียงกว้างอย่างแนบชิด ใบหน้าของทั้งคู่ดูอยู่มกล้กันเพียงแค่ไม่ถึงคืบ....แต่ความสงบนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเสียงกริ่งประตูห้องดังขึ้นซ้ำๆ ทำให้ปลุกทั้งคู่จากการหลับไหลมิเชลค่อยๆ ลืมตาขึ้นด้วยความงัวเงีย เธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าใครมาแต่เช้า"ใครกัน?" เธอเอ่ยพึมพำแดนดินขยับตัวเล็กน้อยแล้วลืมตาขึ้นเช่นกัน "เดียวไปดูให้" ยังไม่ทันที่แดนดินจะได้ลุกจากเตียง เสียงเคาะประตูก็ดังกระหน่ำตามมาด้วยเสียงเรียกที่คุ้นเคย"มิเชล! เปิดประตูเดี๋ยวนี้!" เสียงของคุณหญิงเขมจิราดังลั่นมาจากหน้าห้อง พร้อมด้วยเสียงทุ้มต่ำของไมเคิลพี่ชายของเธอ"มิเชลอยู่ไหม เปิดประตูให้พี่กับแม่หน่อย"มิเชลเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอรีบลุกจากเตียงอย่างรวดเร็วและหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่อย่างร้อนรนทันทีพร้อมกับที่แดนดินก็รีบหยิบกางเกงมาสวมใส่"แย่แล้ว! แม่กับพี่ไมเคิลมาได้ยังไง!"ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร เสียงประตูห้องก็ถูกเปิดพรวดเข้ามา คุณหญิงเขมจิราและไมเคิลยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าตกตะลึงเมื่อเห็นภาพของมิเชลที่สวมชุดนอนหลุดรุ่ยแ
"อื้ออออ~ " ร่างบางเม้มปากแน่นพร้อมกับครางออกมาเสียงกระเส่าอย่างเสียวซ่านเมื่อลำเอ็นร้อนเสียบเข้ามาในรูรักของเธออีกครั้ง "ตอดดีชิป" แดนดินเอ่ยพร้อมกับขบกรามแน่นก่อนที่เขาจะล็อคเอวบางไว้และเริ่มรัวตอกกระแทกท่อนเอ็นร้อนใส่รูรักของเธออย่างถี่ยิปด้วยอารมณ์กามที่พลุ่งพล่าน "อ้ะๆๆๆ เสียว" มิเชลเอ่ยเสียงกระเส่าพร้อมกับมองท่อนเอ็นร้อนที่เสียบเข้าเสียบออกรูรักของเธออย่างไม่ยั้ง "ฉันก็เสียว มิเชล" แดนดินเอ่ยเสียงทุ่มต่ำพร้อมกับขบกามแน่น มือแกร่งล็อคเอวบางไว้แน่นกว่าเดิมพร้อมกับตอกกระแทกท่อนเอ็นร้อนเข้าไปยังรูรักของเธออย่างสุดแรง ตับ ตับ ตับ!!! เสียงท่อนเอ็นร้อนตอกกระแทกรูรักและเสียงครางของร่างบางยังคงดังสนั่นไปทั่วห้องจนเกิดเป็นเสียงลามก ดวงตาคู่สวยมองใบหน้าหล่อเหล่าของแดนดินที่ตอนนี้มีเม็ดเหงื่อผุดออกมาด้วยแววตาที่หยาดเยิ้ม มือเรียวลูบไล้ไปทั่วแผ่นอกกว้างพร้อมกับถ่างสองเรียวขาออกให้กว้างขึ้นเพื่อให้คนตัวสูงตอกกระแทกท่อนเอ็นร้อนได้ถนัดขึ้น"ตอดดีชิป" แดนดินเอ่ยเสียงทุ้มต่ำเมื่อภายในโพรงรักของเธอตอดลำเอ็นร้อนเขาถี่ยิปมือหนาเลื่อนมาบีบขยำหน้าอกอวบอิ่มทั้งสองข้างของหญิงสาวที่กำลังกร
"งั้นนายก็นอนเฉยๆ " มิเชลเอ่ยก่อนตะเปลี่ยนมานั่งคร่อมขาแกร่งของเขาไว้แทน "จะขย่มฉันเองรึไง? " แดนดินเอ่ยอย่างหยอกล้อพร้อมกับจับลำเอ็นร้อนเขี่ยร่องเสียวของหญิงสาวเล่น "อื้อออ อย่าเเกล้ง" มิเชลเอ่ยด้วยสีหน้าเสียวซ่านก่อนจะเริ่มใช้ร่องเสียวถูไถลำเอ็นร้อนของชายหนุ่มด้วยจังหวะเนิบนาบ "อ่าาา เสียวชิป" แดนดินเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าพร้อมกับเอื้อมมือมาบีบขยำหน้าอกอวบอิ่มที่กระเพื่อมไปตามแรงของหญิงสาว มิเชลไม่เอ่ยตอบพร้อมกับเร่งบดขยี้ร่องเสียวกับลำเอ็นร้อนไวขึ้นเมื่อเธอรู้สึกเสียวซ่านจนทนไม่ไหวก่อนจะรีบจับท่อนเอ็นร้อนมาจ่อกับรูรักของตนเองเเละนั่งบงไปสุดลำ ส๊วบ!!! "อ่าาาา ลึกจัง" มิเชลเอ่ยครางเสียงกระเส่าก่อนจะเริ่มขย่มสะโพกสวยใส่ท่อนเอ็นร้อนของชายหนุ่มอย่างถี่ยิปด้วยอารมณ์กามที่พลุ่งพล่านอย่างหยุดไม่อยู่ "อ่าาา เธอจะฆ่าฉันรึไง" เเดนดินเอ่ยเสียงทุ่มต่ำพร้อมขบกรามแน่นอย่างเสียวซ่านสายตาคมมองท่อนเอ็นร้อนของตนเอลที่ถูกรูรักกระแทกขึ้นลงอย่างเสียวจับใจ ร่างบางตอกกระแทกต่อรักของชายหนุ่มอย่างถี่ยิป อย่างไม่ยั้งอยู่สักพักก่อนที่เธอจะเริ่มชะลอความเร็วลงและหมุนควงลำเอ็นร้อนเป็นวงกลมแทนสล
ณ คอนโดหรูของมิเชล... หลังจากที่ขึ้นมาถึงห้อง มิเชลก็รีบมาอาบน้ำชำระร่างกายของตัวเองก่อนที่สายตาของเธอจะเหลือบไปเห็นร่างเปลือยเปล่าของตนเอลในกระจก "ตาบ้านั้นชาติที่แล้วเป็นปิงรึไง" มิเชลเอ่ยด้วยใบหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นรอยรักทั่วเนินอกที่ชายหนุมได้ฝากเอาไว้ 3 ชั่วโมงผ่านไปแกร้ก~ เสียงประตูคอนโดถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงของแดนดินที่เดินเข้ามาภายในห้อง"มาแล้วหรอ? " เสียงหงานของมิเชลดังขึ้นจากในห้องนอนพร้อมกับเปิดประตูห้องนอนออกมาแดนดินมองร่างอรชรในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าซาตินตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก"มองอะไร" มิเชลเอ่ยถามด้วยใบหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นสายตาของชายหนุ่ม แดนดินไม่ได้เอ่ยตอบแต่เอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของมิเชลอย่างแผ่วเบา ก่อนจะรั้งใบหน้าสวยเข้ามาใกล้ ริมฝีปากของแดนดินค่อยๆ โน้มลงมาประทับริมฝีปากของมิเชลอย่างเร่าร้อนและดูดดื่มด้วยอารมณ์กามที่พลุ่งพล่าน มือเรียวของมิเชลยกขึ้นโอบรอบคอของแดนดิน ส่วนมือแกร่งของเขาก็โอบกระชับร่างบางของเธอแน่นขึ้น ก่อนที่แดนดินจะอุ้มร่างบางเดินเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับค่อยๆ ทิ้งตัวเธอลงกับเตียงนอนหรู ทั้งคู่ต่างเร่งปลดเปลือยเสื้อ
Commentaires