เข้าสู่ระบบเช้าวันใหม่ภายในห้องพักสุดหรูของโรงแรมญาณิดารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวตุบๆ เปลือกตาที่หนักอึ้งลืมขึ้นช้าๆ ภาพแรกที่เห็นคือเพดานสีขาวสะอาดตา เธอมองไปรอบๆ ห้องที่ดูไม่คุ้นเคย ก่อนจะก้มลงมองร่างกายของตัวเองที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา
ความรู้สึกเย็นวาบแล่นไปทั่วร่างเมื่อตระหนักว่าเธอกำลังนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงที่ไม่ใช่ของตนเอง ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนย้อนกลับเข้ามาในความคิดทีละน้อย เธอออกไปดื่มจนเมาจากนั้นก็เจอกับผู้ชายที่ชื่อธันวาจากนั้นก็ตกลงจะมีความสัมพันธ์กับเขาแบบวันไนท์สแตนด์
ญาณิดารีบพลิกตัวหันไปมองข้างกาย พบว่าธันวากำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่ดูสงบนิ่ง หญิงสาวตกใจและประหลาดใจกับความกล้าบ้าบิ่นของตัวเองเมื่อคืน ไม่คิดเลยว่าเพราะความเครียดจะทำให้เธอทำในสิ่งที่น่าอายแบบนั้นออกไปได้
ใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าวด้วยความอับอายปนความรู้สึกผิดที่ทำตัวง่ายๆ กับคนที่เพิ่งเจอกันสองครั้ง ญาณิดารีบตั้งสติอย่างรวดเร็วแล้วพยายามขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนอย่างเงียบที่สุดเพื่อไม่ให้ธันวาตื่น
เธอหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมใส่ มือไม้สั่นเทาด้วยความรีบเร่ง เมื่อสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เธอหยิบธนบัตรใบละหนึ่งพันบาทออกมาห้าใบแล้ววางลงบนโต๊ะข้างเตียงอย่างรวดเร็วสำหรับค่าเสียเวลาของเขาเมื่อคืน เธอคิดว่ามันน่าจะเพียงพอสำหรับบริการที่เขาเสนอให้
ญาณิดาเดินไปหยิบกระดาษโน้ตและปากกาที่วางอยู่เคาน์เตอร์เธอเขียนข้อความสั้นๆ อย่างรวดเร็วด้วย
“ขอบคุณสำหรับวิธีคลายเครียดนะคะ หวังว่านี่จะเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายเมื่อคืนนี้”
เธอวางกระดาษโน้ตทับธนบัตรไว้อย่างระมัดระวัง ก่อนจะหันไปมองธันวาที่ยังคงหลับใหลเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบที่สุด
เมื่อก้าวพ้นประตูห้องมาได้ ญาณิดารีบเดินตรงไปยังลิฟต์ด้วยหัวใจยังคงเต้นรัว หญิงสาวลงลิฟต์มาถึงชั้นล่าง เดินตรงไปที่ทางออกของโรงแรม แล้วเรียกแท็กซี่คันแรกที่จอดรออยู่ข้างหน้า เมื่อขึ้นรถได้แล้ว เมื่อบอกจุดหมายปลายทางกับคนขับ แล้วเอนตัวพิงเบาะ หลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย พยายามสลัดภาพเหตุการณ์เมื่อคืนออกจากความคิด
ในเวลาเดียวกันนั้นภายในห้องพักของโรงแรมธันวาก็รู้สึกตัวตื่น เขายันกายลุกขึ้นนั่งบนเตียง หันไปมองข้างกายที่ว่างเปล่า ใบหน้าของเขาประดับด้วยรอยยิ้มบางๆ เมื่อไม่เห็นญาณิดาอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกแปลกใจเพราะไม่คิดว่าเธอจะรีบร้อนออกไปแบบนี้ เขาคิดญาณิดาคงไม่คิดจะสานต่อความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์ที่ตกลงกันไว้แต่แรกซึ่งมันก็เป็นไปตามที่เขาต้องการ
ธันวาขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง เตรียมตัวจะไปเข้าห้องน้ำ แต่สายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับธนบัตรและโน้ตที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ขอบคุณสำหรับวิธีคลายเครียดนะคะ หวังว่านี่จะเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายเมื่อคืนนี้”
ธันวาอ่านข้อความนั้นจบแล้วก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดังไปทั่วห้องเธอคงคิดว่าเขาเป็นผู้ชายที่ออกมานั่งดื่มนั่งคุยกับผู้หญิงเพื่อนหวังสิ่งนี้เป็นการตอบแทน
ชายหนุ่มเดินไปเปิดผ้าม่านออก แล้วยืนมองวิวทิวทัศน์ของเมืองกรุงเทพฯ เบื้องล่าง ความคิดของเขาล่องลอยไปถึงญาณิดา เขายอมรับว่าเมื่อคืนที่ได้อยู่กับเธอ มันมีความสุขมากจริงๆ ไม่ใช่แค่ความสุขทางกายเท่านั้น แต่ยังมีอะไรบางอย่างในตัวเธอที่ดึงดูดเขาได้อย่างประหลาด
เพราะเธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขาเคยเจอมา เธอมีความมุ่งมั่น ความเด็ดเดี่ยว และความตรงไปตรงมา แม้จะดูเป็นคนอ่อนโยน แต่เธอก็มีความเข้มแข็งซ่อนอยู่ภายในนั้น เขาชอบที่เธอแสดงออกถึงความรู้สึกได้อย่างตรงไปตรงมาและไม่เสแสร้ง
เขาพิงศีรษะกับขอบหน้าต่างแล้วหลับตานึกถึงใบหน้าแดงก่ำและคำพูดที่เธอตอบตกลงไปกับเขาอย่างไม่คาดคิดล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้เขาประทับใจ
“เธอนี่มันน่าสนใจจริงๆ” ธันวาพึมพำกับตัวเอง
เขาจำได้ว่าเธอเล่าเรื่องที่ถูกศิวกรแย่งผลงานและความตั้งใจที่จะพิสูจน์ตัวเองในบริษัทที่ใหญ่กว่านี้ ธันวายิ้มมุมปากเล็กน้อย เขามีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในหัว
“คงต้องหาโอกาสแบบนี้อีกสินะ” ธันวาพูดกับตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาคิดว่าเรื่องราวระหว่างเขากับญาณิดาคงไม่ได้จบลงแค่คืนเดียวอย่างแน่นอน เขามีแผนการบางอย่างในใจ และจะต้องทำให้ได้พบกับญาณิดาอีกครั้งในไม่ช้า
เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่วิธีคลายเครียดชั่วคราวอีกต่อไป แต่เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างในตัวญาณิดาที่ทำให้เขาอยากจะรู้จักเธอให้มากขึ้น อยากจะเข้าไปอยู่ในชีวิตของเธอให้ลึกซึ้งกว่านี้
ธันวาเก็บธนบัตรและกระดาษโน้ตใส่กระเป๋ากางเกงอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายเตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่ที่กำลังจะมาถึง วันที่เขาจะต้องเริ่มต้นแผนการที่จะพาญาณิดาเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
ในเมื่อเธอทำงานที่บริษัทในเครือของเขามันก็ไม่ยากเลยที่จะได้เจอเธออีก
ที่ผ่านมาธันวาไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายการทำงานของบริษัทในเครือมาก่อนแต่เพราะผู้หญิงที่เขาสนใจทำงานที่นั่นบางทีเขาคงต้องจัดการอะไรบางอย่าง
แต่ธันวาอยากให้โอกาสญาณิดาได้พิสูจน์ฝีมือตัวเองก่อนที่จะเข้าไปจัดการกับพนักงานที่นั่น เขามองว่าหญิงสาวเป็นคนฉลาดและคงไม่ชอบแน่ๆ ถ้าเขาจะเข้าไปก้าวก่ายเรื่องงานของเธอ
เข้าสัปดาห์ที่สองของการมาทำงานที่ปราณบุรีตอนนี้งานของญาณิดาคืบหน้าไปมากอีกเพียงไม่กี่วันเธอก็จะได้กลับไปอยู่กรุงเทพแล้ว หญิงสาวเลยอยากจะใช้เวลาที่นี่อย่างเต็มที่หลังจากเลิกงานแล้วญาณิดาก็ทานอาหารที่ห้องอาหารของรีสอร์ทจากนั้นก็กลับมาที่บ้านพัก เธอหยิบชุดว่ายน้ำแบบบิกินี่สีม่วงพาสเทลตัวจิ๋วขึ้นมาสวมก่อนจะลงไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำบ้านพักของเธอเป็นบ้านพักหลังริมสุดมีความมิดชิดเป็นส่วนตัวมาก ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่หญิงสาวก็ลงว่ายน้ำอยู่ตลอดเธอรู้สึกผ่อนคลายเวลาที่ตัวเองแช่อยู่ในสระน้ำแม้จะแหวกว่ายอยู่คนเดียวแต่ก็รู้สึกมีความสุขมากๆ เธอนอนหงายทรงตัวอยู่เหนือผืนน้ำตามองขึ้นไปบนฟ้ามองดวงจันทร์ที่คืนนี้มันกลมโตสวยงามมากกว่าคืนไหน แล้วก็คิดถึงคนที่อยู่ไกลออกไปอีกไม่นานเธอกับเขาก็คงจะได้มาอยู่ด้วยกันหญิงสาวกำลังเพลิดเพลินกับบรรยากาศแต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อมีเสียงเหมือนใครกำลังลงมาในสระ เธอรีบพลิกตัวแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้คนที่เธอคิดถึงอยู่นั้นยืนห่างออกไปเพียงนิด“ธันวา” เธอเรียกเขาด้วยความดีใจก่อนจะว่ายเข้าไปใกล้และกอดด้วยความคิดถึง“คิดถึงจัง”“ดรีมก็คิดถึงคุณค่ะ น่าจะบอกก่อนว่าจะมาเหนื่
กลับจากเวียดนามครั้งนี้ญาณิดาคิดว่าสายตาที่คนในบริษัทมองเธอเปลี่ยนไป บางคนมองหน้าเธอแล้วก็กระซิบกระซาบกันทำให้หญิงสาวรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เธอรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาพูดกันนั้นก็น่าจะเป็นเรื่องที่เธอกับธันวากำลังคบกันอยู่หญิงสาวเดินเข้ามาในแผนกด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่“พี่สุคะเรื่องของดรีมนี่เขารู้กันทั้งบริษัทแล้วใช่ไหมคะ”“ใช่จ้ะ ก็มีพวกวิศวกรที่เขาไปทำงานเวียดนามเจอดรีมกับคุณธันวาเรื่องมันก็เลยรู้กระจายเป็นวงกว้าง แต่ดรีมไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ พวกเขามองดรีมก็เพราะอิจฉา แล้วเป็นยังไงบ้างไปเวียดนามครั้งนี้ทุกอย่างโอเคมั้ย”“ค่ะพี่สุ เดือนหน้าคุณธันวาก็จะกลับมาอยู่ที่เมืองไทยแล้วก็บินไปดูเป็นระยะไม่ได้อยู่ที่นั่นถาวรแล้ว”“พี่ดีใจด้วยนะ ในที่สุดก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันสักที”“ดรีมก็ดีใจค่ะ และรอให้ถึงวันนั้นเร็วๆ พี่สุคะดรีมมีอีกเรื่องที่ยังไม่ได้บอกพี่สุ”“มีความลับอะไรจะบอกพี่เหรอ” สุกัญญายิ้มก่อนจะขยับเก้าอี้มาใกล้ๆ เพื่อตั้งใจฟัง“ตอนนี้ดรีมกับคุณธันวาเราจดทะเบียนสมรสกันแล้วนะคะ”“เป็นข่าวดีเลยทีเดียว พี่ดีใจด้วยนะคุณธันวาเป็นคนดีมากและดรีมก็เหมาะสมกับเขามาก ทั้งสวยทั้งเก่งแล้วยังท
ญาณิดาอาบน้ำอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าธันวาจะตามเข้ามาในห้องน้ำ เธออาบเสร็จก่อนเวลาที่เขากำหนดและเมื่อเดินออกมาก็เห็นว่าตอนนี้ธันวานั่งรออยู่บนโซฟาเขานุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวไว้เพื่อจะรอเข้าห้องน้ำต่อจากคนรัก“ผมซื้อเบียร์ที่คุณชอบมาด้วย อยู่ในตู้เย็น คุณกินระหว่างรอผมอาบน้ำนะ แต่อย่าเพิ่งเมาก่อนล่ะ” ชายหนุ่มพูดกับคนรักก่อนจะรีบเปิดประตูห้องน้ำแล้วเดินเข้าไปเมื่อธันวาเข้าห้องน้ำไปแล้วญาณิดาก็หยิบชุดนอนมาสวมก่อนจะเดินมาที่ตู้เย็นหยิบเบียร์มาสองกระป๋องก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาเปิดทีวีดูไม่นานธันวาก็อาบน้ำเสร็จแล้วนั่งลงข้างๆ“ธันวาไปใส่เสื้อก่อนดีไหม”“ใส่ทำไมล่ะเดี๋ยวก็ต้องถอด”“นี่กะจะทำแบบนั้นอย่างเดียวเลยหรือไง ไม่คิดจะคุยกันหน่อยเหรอคะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะ”“เรามีเวลาคุยกันอีกเยอะ แต่ตอนนี้ขอก่อนนะ อดทนมานานตั้งเดือน”พูดจบเขาก็จูบอย่างเร่าร้อนจนหญิงสาวไม่ทันตั้งตัวแต่เธอก็ยอมให้เขาจูบไปตามใจปรารถนาเพราะตัวเธอเองก็คิดถึงเขามากเช่นกันธันวาจับให้ญาณิดานั่งลงบนโซฟาก่อนจะพลิกตัวเองคุกเข่าลงบนพื้นแล้ว ถอดชั้นในสีหวานออกแล้วจับเรียวขาข้างหนึ่งพาดไว้บนบ่าก้มใบหน้าเข้าใกล้ ลากปลายลิ้นร้อนบนกลีบกุหล
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ววันนี้ก็ครบหนึ่งเดือนที่ญาณิดาสัญญาว่าจะมาหาคนรักที่เวียดนามเมื่อลงจากเครื่องก็เห็นว่าธันวาเธอมารอรับอยู่แล้ว หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปหาเขาด้วยความคิดถึงที่มีท่วมท้น“ธันวาคิดถึงจัง” หญิงสาวโผเข้ากอดขณะที่ธันวาก็อ้าแขนรับทั้งสองกอดกันแน่นส่งผ่านความรู้สึกผ่านอ้อมกอด“ผมก็คิดถึงดรีมครับ เหนื่อยไหม”“ไม่เลยค่ะดรีมหลับมาตลอดเลย คุณล่ะช่วงนี้งานเป็นยังไงบ้างคะ”“ผมเคลียร์งานเรียบร้อยมีเวลาอยู่กับดรีมตลอดทั้งสามวันเลยครับ หิวหรือเปล่า”“นิดหน่อยค่ะ”“งั้นไปหาอะไรอร่อยๆ กินก่อนกลับโรงแรมนะ”“ดีค่ะ ดรีมขอร้านที่อยู่ไกลจากโรงแรมหน่อยนะคะ ไม่อยากเจอลูกน้องของคุณเท่าไหร่”“ทำไมล่ะครับเรื่องของเราไม่ใช่ความลับแล้วนะ”“ดรีมไม่รู้จะทำหน้ายังไงนี่คะ” หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้กลับมาที่นี่อีกครั้งและก็กลัวจะเจอคนรู้จักเพราะยังไม่พร้อมจะบอกสถานะของตัวเอง“ก็ทำหน้าสวยๆ แบบนี้ไงล่ะ” ธันวาหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะพาเธอเดินออกมายังรถที่จอดอยู่ธันวาขับรถพาเธอมายังร้านอาหารริมทะเลบรรยากาศดีทั้งสองนั่งทานอาหารและพูดคุยแลกเปลี่ยนถึงเรื่องราวที่ผ่านมาตลอดหนึ่งเดือน“ผมคิดถึงคุณมากเลย
แล้วก็ถึงวันที่ธันวาต้องเดินทางกลับไปทำงานที่เวียดนามโดยมีญาณิดามาส่งที่สนามบิน“อีกหนึ่งเดือนเจอกันนะคะธันวา” ญาณิดาบอกกับคนรักเพราะเธอวางแผนจะไปหาเขาที่เวียดนาม“ผมจะนับวันรอนะ แต่ถ้าผมคิดถึงดรีมก่อนผมก็จะมาหานะ”“ดรีมไม่อยากให้คุณเสียงานเพราะดรีมนะคะ”“แต่ตอนนี้งานก็คืบหน้าไปมากแล้วบางทีผมอาจจะได้กลับมาก่อนกำหนดก็ได้นะงานที่นั่นคืบหน้าไปมาก ผมคงไม่ต้องอยู่คุมงานตลอดก็ได้”“จริงเหรอคะ” ญาณิดาดีใจเพราะเธอเองก็อยากให้ธันวากลับมาอยู่ด้วย ช่วงที่เขามาอยู่เมืองไทยเป็นช่วงที่หญิงสาวมีความสุขที่สุดและถ้าเขากลับมาอยู่ตลอดก็คงจะดีมาก“ดูแลตัวเองด้วยนะคะธันวา” หญิงสาวพูดกับคนรักด้วยความเป็นห่วง“ผมสัญญาจะดูแลตัวเองดีๆ แต่ผมว่าดรีมดูแลผมได้ดีกว่านะดรีมคอยดูแลให้ผมกินยาผมก็เลยหายเร็ว” ชายหนุ่มชี้ไปบนศีรษะของตัวเองที่ตอนนี้ให้หมอที่เมืองไทยตัดไหมออกให้แล้ว“หายแล้วอย่าให้มีแผลเพิ่มล่ะ ดรีมเป็นห่วงคุณนะคะ ถ้าเป็นไปได้ดรีมก็อยากกลับไปทำงานที่นั่นพร้อมกับคุณ ดรีมอยากดูแลคุณค่ะ”“ช่างพูดแบบนี้ผมชักไม่อยากห่างดรีมเลย”“ธันวาคะดรีมรู้สึกว่าช่วงนี้คุณจะงอแงบ่อยเหลือเกิน ไหนบอกว่าทุกคนต้องมีหน้าที่รับผิ
“หญิงสาวโน้มลำคอเขาลงมาแล้วจูบไปบนริมฝีปากของเขาธันวาเข้าใจคำตอบของเธอได้อย่างดี เขาจูบตอบอย่างเร่าร้อนมือก็เคล้นคลึงหน้าอวบอิ่มอย่างไม่ปรานีเขาผละออกจากริมฝีปากที่บวมช้ำแล้วก้มลงดูดกินหน้าอกอิ่มอีกครั้ง ญาณิดาแอ่นหน้าอกให้เขาอย่างเต็มใจ ความคิดถึงและโหยหาตลอดเวลาสองสัปดาห์มันทำให้ร่างกายของเธอร้อนราวกับไฟความต้องการที่ซ่อนลึกมันมาล้นจนไม่อาจเก็บไว้ได้“ผมเข้าเลยนะดรีมไม่ไหวแล้ว”ธันวากระซิบแหบต่ำก่อนจะกดท่อนเอ็นร้อนระอุเข้าหาเธออย่างช้าๆ“อ๊ะ!.....”หญิงสาวสะดุ้งถอยหนีเพราะรู้สึกถึงความใหญ่ที่สอดเข้ามา“เมียจ๋า....ไม่เอาแค่สองอาทิตย์มันแน่นมากมันวิเศษที่สุด”ชายหนุ่มกัดฟันกรอดเมื่อส่วนปลายหยักเข้าได้เพียงครึ่งทางร่องรักของหญิงสาวก็ตอดแรงจนเขาปวดร้าวจวนเจียนระเบิด ธันวารู้สึกพอใจเป็นอย่างมากที่ร่างกายของเธอมันสร้างความเสียวซ่านให้กับเขาทั้งยังเข้าไปได้ไม่สุดเขาขยับสะโพกเข้าหา ริมฝีปากก็จูบอย่างเร่าร้อนเมื่อเข้าได้สุดทางก็เริ่มขยับเป็นจังหวะสอดประสานที่ลงตัว“อื้อ...ธันวา....อ้า....”เสียงหวานของญาณิดาครางกระเส่า ยิ่งเขาเข้าลึกเสียงนั้นก็ยิ่งครางหวาน ท่อนเอ็นร้อนเสียดสีกับโพรงอ่อนนุ่







