LOGINหลายวันผ่านไปในเมืองดานังญาณิดาจมดิ่งอยู่กับกองงานออกแบบโปรเจกต์โรงแรมและบ้านพักหรูเป็นงานที่ยิ่งใหญ่และท้าทาย เธอทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจให้กับมันจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน
สายตาที่อ่อนล้าสะท้อนภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เต็มไปด้วยแบบแปลนและรายละเอียดปลีกย่อย เสียงเพลงบรรเลงเบาๆ ที่เปิดคลอเพื่อสร้างสมาธิกลับกลายเป็นเสียงรบกวนในความรู้สึก เพราะไม่ว่าจะพยายามจดจ่ออยู่กับงานมากแค่ไหน ภาพใบหน้าคมคายของธันวาก็ยังคงผุดขึ้นมาในห้วงความคิดอยู่ตลอด
ยิ่งงานหนักมากเท่าไหร่ ความเครียดก็ยิ่งเกาะกุมจิตใจมากขึ้นเท่านั้นและเมื่อความเครียดพุ่งถึงขีดสุด สิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวของญาณิดาอย่างห้ามไม่ได้ คือคำพูดของธันวาในคืนนั้นวิธีคลายเครียดเธอคิดถึงมันซ้ำๆ ราวกับคำนั้นเป็นกุญแจที่ไขไปสู่ความทรงจำอันเร่าร้อนที่เธอพยายามจะลืมเลือน
คืนนั้นความมึนเมาเข้าครอบงำสติสัมปชัญญะของเธอ ญาณิดาจำได้ว่าเธอรู้สึกว่างเปล่าแค่ไหน หลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากเรื่องงาน
เกือบหนึ่งเดือนก่อนหน้า
“ถ้ายังไม่อยากกลับ และยังไม่หายเครียด ผมมีวิธีคลายเครียดที่ผมมักใช้ประจำนะครับ”
“วิธีอะไรคะ”
“นอนกับใครสักคน”
“คุณธันวานี่คุณกำลังชวนฉันนอนด้วยเหรอคะ”
“ก็ถ้ามันช่วยให้คุณคลายเครียดได้ และมันจะเป็นแค่คืนเดียว One night stand ไม่มีผูกมัด และผมจะไม่มาเจอคุณที่นี่อีก ถ้าคุณไม่ต้องการ”
“ก็ได้ค่ะ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะทำให้ฉันหายเครียดได้หรือเปล่า” ญาณิดาตอบออกไปอย่างไม่คาดคิด
จากนั้นภาพก็ตัดมาที่ห้องพักโรงแรม เธอจำได้ว่าเดินตามเขาไปอย่างง่ายดายราวกับต้องมนต์สะกด ความเหนื่อยล้าและความมึนเมาทำให้เธอไม่คิดไตร่ตรองอะไรเลย เมื่อประตูห้องเปิดออก แสงสลัวภายในห้องเผยให้เห็นเตียงขนาดใหญ่กลางห้อง ญาณิดารู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งตัว
ธันวาปิดประตูห้อง แล้วหันกลับมามองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ เขาเดินเข้ามาใกล้จนเธอถอยหลังไปชนกับประตูธันวายื่นมือมาโอบเอวแล้วดึงเธอเข้าหาตัว ใบหน้าของเขาโน้มลงมาใกล้จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดอยู่ข้างแก้ม
“ผมจะทำให้คุณลืมความเครียดทั้งหมด เชื่อใจผมนะ” เขาพูดด้วยเสียงแหบพร่า ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ ราวกับจะค้นหาคำตอบ
ญาณิดาพยักหน้าช้าๆ ความมึนเมาและความปรารถนาที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนทำให้เธอรู้สึกสับสนแต่ก็อยากรู้และอยากลอง
ธันวาจูบเธออย่างอ่อนโยนในตอนแรก ก่อนจะเพิ่มความเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ ริมฝีปากบดเบียดกันอย่างดูดดื่ม ร่างกายญาณิดาอ่อนปวกเปียกเพราะไม่เคยถูกจูบมาก่อนในชีวิต
หญิงสาวอ่อนระทวยเอนกายเข้าหาธันวาอย่างไม่รู้ตัว กลีบปากนุ่มถูกแทรกด้วยปลายลิ้นสากที่สอดเข้าไปกวาดต้อนความหวานอย่างหิวกระหาย เมื่อจูบจนพอใจเขาถอนริมฝีปากออกด้วยความเสียดาย
“คุณธันวาคะ ฉัน.....”
เสียงถูกกลืนหายเมื่อธันวาก้มลงปิดปากนุ่มอีกครั้ง ปลายลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากเล็กอย่างหิวกระหาย ความหวานที่ได้รับทำให้ธันวาหลงใหลจนแทบไม่อยากจะหยุด เขาผ่านผู้หญิงมามาก แต่ยังไม่มีผู้หญิง คนไหนที่กระตุ้นอารมณ์ปรารถนาของเขาให้ลุกโชนได้รวดเร็วอย่างนี้มาก่อน
ญาณิดากำลังถูกชายหนุ่มมอมเมาด้วยรสจูบที่เพิ่งเคยได้ สัมผัสเป็นครั้งแรก เขียนเรียวยกขึ้นโอบรอบลำคอแข็งแรงเอาไว้อย่างลืมตัว
กลิ่นกายหอมจากหญิงสาวทำให้ธันวาไม่อยากจะเสียเวลาอีกต่อไปแล้วเพราะตอนนี้ความต้องการของเขามันถูกกระตุ้นจนคุมตัวเองแทบไม่อยู่ เขาดันเธอลงนอนบนเตียงแล้วทับทาบลงไป กดจูบลงบนเรียวปากนุ่มอย่างเร่าร้อน ใช้ประสบการณ์ที่มีหลอกล่อจน จนญาณิดาอ่อนระทวยอีกครั้ง
เสื้อผ้าถูกจับโยนไปยังมุมห้อง ปากร้อนกดจูบไปตามลำคอระหง ฝ่ามือร้อนเกาะกุมทรวงอกอวบอิ่ม ธันวาบีบเคล้นเบาๆ ก่อนจะถอดบราเซียร์ของเธอออกอย่างชำนาญ เมื่อสัมผัสกับเนื้อเนียนนุ่มที่แท้จริง เขาก็ครางในลำคออย่างพอใจ สองมือคลึงเคล้นเบาๆ สลับกับหนักหน่วงอย่างหลงใหล ความนุ่มหยุ่นเป็นธรรมชาติทำให้เขาสติแตกกระเจิง
ญาณิดาเองก็สมองเบลอไปหมดเมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวดูดกลืนยอดถันสีสวยที่แข็งชูชันเข้าไปในโพรงปากอุ่น เขาทั้งดูดดุนและขบเม้มจนญาณิดาแอ่นร่างเข้าหาอย่างลืมตัว
“อ๊ะ!......อือคุณธันวา.....”
“เรียกแค่ธันวาก็พอนะดรีม”
ไฟพิศวาสที่ธันวาจุดขึ้นแผดเผาจนเธอแทบมอดไหม้ ด้วยริมฝีปากที่คลุกเคล้าไปทั่วร่างงามอย่างหลงใหล ริมฝีปากร้อนแนบไปกับทุกสัดส่วน จนหญิงสาวร้อนระอุไปทั่วทั้งร่างราวกับเป็นไข้
ธันวาผละจากร่างญาณิดาออกเพียงไม่กี่วินาทีเพื่อจัดการกับเสื้อผ้าของตนเองออกจนหมด เขารีบสวมถุงยางที่เตรียมมาจากนั้นก็ทับทาบกายแกร่งลงมาอีกครั้ง กดคลึงท่อนเอ็นร้อนกับกลีบกุหลาบดอกงามก่อนจะกดเข้าไปช้าๆ
“อ๊ะ!.....เจ็บ”
ญาณิดากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด รู้สึกเหมือนกำลังจะถูกแยกออกเป็นเสี่ยง เมื่อความใหญ่โตของธันวาลุกล้ำเข้ามาเพียงนิดน้ำตาของหญิงสาวไหลออกมาเป็นทาง
“ดรีม ผมไม่รู้......”
เขาชะงักค้างด้วยความตกใจเพราะไม่คิดเลยว่าคนที่ยอมนอนกับเขาด้วยขอตกลงวันไนท์สแตนด์จะไม่เคยนอนกับใครมาก่อน ธันวาทั้งประหลาดใจและดีใจที่ได้เป็นคนแรกของเธอ
“ออกไปก่อนได้ไหม ฉัน.....ฉันเจ็บ”
“ผมเข้ามาแล้วก็เท่ากับตอนนี้คุณเป็นของผมแล้วนะดรีม คุณได้ได้ยินไหมคุณเป็นของผมเป็นผู้หญิงของผมคนเดียว”
“แต่ฉันเจ็บ เราหยุดแค่นี้ได้ไหม”
“ถ้าหยุดตอนนี้เราสองคนคงทรมาน มากเชื่อใจผมนะ เดี๋ยวมันจะดีขึ้นนะดรีม เชื่อผมนะ”
เพราะคำพูดที่ดูจริงใจทำให้ญาณิดาเชื่อเขาอย่างง่ายดาย หญิงสาวพยักหน้าช้าๆ ธันวาจูบซับน้ำตาจนแห้งจากนั้นก็มอบจูบหวานล้ำให้กับเธอเพื่อเป็นการปลอบใจ
“อื้อ......”
ญาณิดาครางสะท้านเมื่อเขาดันสะโพกเข้าหาร่องรักของหญิงสาวอย่างช้าๆ จนในที่สุดเธอก็รับตัวตนของเขาเข้าไปจนหมด ชายหนุ่มนิ่งค้างเพื่อให้ร่างกายของเธอได้ปรับตัวก่อนจะเริ่มขยับสะโพกอย่างช้า เนิบนาบกดวนให้ร่องสวาทของหญิงสาวโอบรัดทุกทิศทาง
เพียงไม่นานญาณิดาก็หลงลืมความเจ็บปวดแล้วความเสียวซ่านก็เข้ามาแทนที่ ร่างกายร้อนขึ้นทีละนิด ทุกจังหวะที่ธันวากระแทกเข้ามันเสียวอย่างที่ไม่เคยมาก่อน ท้องน้อยหญิงสาวหดเกร็ง ญาณิดารู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยคว้างอยู่ในท้องฟ้ากว้าง
“อ่ะ...อื้อ....ธันวา....”
หญิงสาวครางกระเส่าเพราะอารมณ์ของตนเองมันกำลังพุ่งสูง ร่องรักของเธอตอดรัดท่อนเอ็นอย่างแรงไปตามสัญชาตญาณ
“ดรีม....อ่า....แน่นไปหมดเลย ตอดดีมาก....อ่า....”
ธันวาครางแทบไม่เป็นภาษาเมื่อตัวตนของเขาถูดตอดรัดจนแทบระเบิด
“ธันวา.....ฉัน....ฉันจะไม่ไหว ช่วยฉันด้วย.....มันเหมือนใจจะขาด”
หญิงสาวครางกระท่อนกระแท่น ลมหายใจเริ่มขาดช่วงร่างกายหดเกร็งไปทุกสัดส่วน
“ปล่อยตัวตามสบายดรีม ปล่อยความรู้สึกออกมา”
“ฉัน...ธันวาฉัน...อ่ะ..อื้อ.....”
เธอกรีดร้องอย่างสุดเสียง เมื่อความสุขมาเยือนเป็นครั้งแรก ร่างสาวเกร็งกระตุกสมองมึนงงไปหมด ธันวารู้สึกถึงแรงบีบรัดจากร่องรักที่มันมากกว่าครั้งไหน เขากระแทกท่อนเอ็นร้อนเข้าไปในช่องทางรักอย่างหนักหน่วง จากนั้นเสียงแหบพร่าก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างกายกระตุกท่อนเอ็นพ่นน้ำรักออกมาจนเกือบจะล้นถุงบางใส
“อ้าห์...”
ร่างกายของธันวากระตุกอย่างสุขสมและยาวนานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ดรีมคุณวิเศษมาก ขอบคุณที่มอบสิ่งที่พิเศษสุด ผมมีความสุขมาก ไม่เคยมีใครทำให้ผมดีอย่างนี้มาก่อน”
เขาถอนตัวตนออกแล้วดึงถุงยางทิ้ง จากนั้นรั้งให้เธอมานอนแนบอกอย่างอ่อนโยน
“หายเครียดแล้วใช่ไหม”
“หะ...หายแล้ว” หญิงสาวตอบอย่างอาย ช่วงเวลาที่มีความสุขมันทำให้เธอหลงลืมความเครียดไปโดยสิ้นเชิง แม้รู้ว่ามันแค่ชั่วครู่แต่ก็รู้สึกดี
“เมื่อกี้คือการทำให้คุณหายเครียด จากนี้มันคือการทำให้เรามีความสุขด้วยกัน”
“คุณหมายความว่าอะไรคะ”
“เดี๋ยวก็รู้”
เข้าสัปดาห์ที่สองของการมาทำงานที่ปราณบุรีตอนนี้งานของญาณิดาคืบหน้าไปมากอีกเพียงไม่กี่วันเธอก็จะได้กลับไปอยู่กรุงเทพแล้ว หญิงสาวเลยอยากจะใช้เวลาที่นี่อย่างเต็มที่หลังจากเลิกงานแล้วญาณิดาก็ทานอาหารที่ห้องอาหารของรีสอร์ทจากนั้นก็กลับมาที่บ้านพัก เธอหยิบชุดว่ายน้ำแบบบิกินี่สีม่วงพาสเทลตัวจิ๋วขึ้นมาสวมก่อนจะลงไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำบ้านพักของเธอเป็นบ้านพักหลังริมสุดมีความมิดชิดเป็นส่วนตัวมาก ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่หญิงสาวก็ลงว่ายน้ำอยู่ตลอดเธอรู้สึกผ่อนคลายเวลาที่ตัวเองแช่อยู่ในสระน้ำแม้จะแหวกว่ายอยู่คนเดียวแต่ก็รู้สึกมีความสุขมากๆ เธอนอนหงายทรงตัวอยู่เหนือผืนน้ำตามองขึ้นไปบนฟ้ามองดวงจันทร์ที่คืนนี้มันกลมโตสวยงามมากกว่าคืนไหน แล้วก็คิดถึงคนที่อยู่ไกลออกไปอีกไม่นานเธอกับเขาก็คงจะได้มาอยู่ด้วยกันหญิงสาวกำลังเพลิดเพลินกับบรรยากาศแต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อมีเสียงเหมือนใครกำลังลงมาในสระ เธอรีบพลิกตัวแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้คนที่เธอคิดถึงอยู่นั้นยืนห่างออกไปเพียงนิด“ธันวา” เธอเรียกเขาด้วยความดีใจก่อนจะว่ายเข้าไปใกล้และกอดด้วยความคิดถึง“คิดถึงจัง”“ดรีมก็คิดถึงคุณค่ะ น่าจะบอกก่อนว่าจะมาเหนื่
กลับจากเวียดนามครั้งนี้ญาณิดาคิดว่าสายตาที่คนในบริษัทมองเธอเปลี่ยนไป บางคนมองหน้าเธอแล้วก็กระซิบกระซาบกันทำให้หญิงสาวรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เธอรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาพูดกันนั้นก็น่าจะเป็นเรื่องที่เธอกับธันวากำลังคบกันอยู่หญิงสาวเดินเข้ามาในแผนกด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่“พี่สุคะเรื่องของดรีมนี่เขารู้กันทั้งบริษัทแล้วใช่ไหมคะ”“ใช่จ้ะ ก็มีพวกวิศวกรที่เขาไปทำงานเวียดนามเจอดรีมกับคุณธันวาเรื่องมันก็เลยรู้กระจายเป็นวงกว้าง แต่ดรีมไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ พวกเขามองดรีมก็เพราะอิจฉา แล้วเป็นยังไงบ้างไปเวียดนามครั้งนี้ทุกอย่างโอเคมั้ย”“ค่ะพี่สุ เดือนหน้าคุณธันวาก็จะกลับมาอยู่ที่เมืองไทยแล้วก็บินไปดูเป็นระยะไม่ได้อยู่ที่นั่นถาวรแล้ว”“พี่ดีใจด้วยนะ ในที่สุดก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันสักที”“ดรีมก็ดีใจค่ะ และรอให้ถึงวันนั้นเร็วๆ พี่สุคะดรีมมีอีกเรื่องที่ยังไม่ได้บอกพี่สุ”“มีความลับอะไรจะบอกพี่เหรอ” สุกัญญายิ้มก่อนจะขยับเก้าอี้มาใกล้ๆ เพื่อตั้งใจฟัง“ตอนนี้ดรีมกับคุณธันวาเราจดทะเบียนสมรสกันแล้วนะคะ”“เป็นข่าวดีเลยทีเดียว พี่ดีใจด้วยนะคุณธันวาเป็นคนดีมากและดรีมก็เหมาะสมกับเขามาก ทั้งสวยทั้งเก่งแล้วยังท
ญาณิดาอาบน้ำอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าธันวาจะตามเข้ามาในห้องน้ำ เธออาบเสร็จก่อนเวลาที่เขากำหนดและเมื่อเดินออกมาก็เห็นว่าตอนนี้ธันวานั่งรออยู่บนโซฟาเขานุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวไว้เพื่อจะรอเข้าห้องน้ำต่อจากคนรัก“ผมซื้อเบียร์ที่คุณชอบมาด้วย อยู่ในตู้เย็น คุณกินระหว่างรอผมอาบน้ำนะ แต่อย่าเพิ่งเมาก่อนล่ะ” ชายหนุ่มพูดกับคนรักก่อนจะรีบเปิดประตูห้องน้ำแล้วเดินเข้าไปเมื่อธันวาเข้าห้องน้ำไปแล้วญาณิดาก็หยิบชุดนอนมาสวมก่อนจะเดินมาที่ตู้เย็นหยิบเบียร์มาสองกระป๋องก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาเปิดทีวีดูไม่นานธันวาก็อาบน้ำเสร็จแล้วนั่งลงข้างๆ“ธันวาไปใส่เสื้อก่อนดีไหม”“ใส่ทำไมล่ะเดี๋ยวก็ต้องถอด”“นี่กะจะทำแบบนั้นอย่างเดียวเลยหรือไง ไม่คิดจะคุยกันหน่อยเหรอคะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะ”“เรามีเวลาคุยกันอีกเยอะ แต่ตอนนี้ขอก่อนนะ อดทนมานานตั้งเดือน”พูดจบเขาก็จูบอย่างเร่าร้อนจนหญิงสาวไม่ทันตั้งตัวแต่เธอก็ยอมให้เขาจูบไปตามใจปรารถนาเพราะตัวเธอเองก็คิดถึงเขามากเช่นกันธันวาจับให้ญาณิดานั่งลงบนโซฟาก่อนจะพลิกตัวเองคุกเข่าลงบนพื้นแล้ว ถอดชั้นในสีหวานออกแล้วจับเรียวขาข้างหนึ่งพาดไว้บนบ่าก้มใบหน้าเข้าใกล้ ลากปลายลิ้นร้อนบนกลีบกุหล
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ววันนี้ก็ครบหนึ่งเดือนที่ญาณิดาสัญญาว่าจะมาหาคนรักที่เวียดนามเมื่อลงจากเครื่องก็เห็นว่าธันวาเธอมารอรับอยู่แล้ว หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปหาเขาด้วยความคิดถึงที่มีท่วมท้น“ธันวาคิดถึงจัง” หญิงสาวโผเข้ากอดขณะที่ธันวาก็อ้าแขนรับทั้งสองกอดกันแน่นส่งผ่านความรู้สึกผ่านอ้อมกอด“ผมก็คิดถึงดรีมครับ เหนื่อยไหม”“ไม่เลยค่ะดรีมหลับมาตลอดเลย คุณล่ะช่วงนี้งานเป็นยังไงบ้างคะ”“ผมเคลียร์งานเรียบร้อยมีเวลาอยู่กับดรีมตลอดทั้งสามวันเลยครับ หิวหรือเปล่า”“นิดหน่อยค่ะ”“งั้นไปหาอะไรอร่อยๆ กินก่อนกลับโรงแรมนะ”“ดีค่ะ ดรีมขอร้านที่อยู่ไกลจากโรงแรมหน่อยนะคะ ไม่อยากเจอลูกน้องของคุณเท่าไหร่”“ทำไมล่ะครับเรื่องของเราไม่ใช่ความลับแล้วนะ”“ดรีมไม่รู้จะทำหน้ายังไงนี่คะ” หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้กลับมาที่นี่อีกครั้งและก็กลัวจะเจอคนรู้จักเพราะยังไม่พร้อมจะบอกสถานะของตัวเอง“ก็ทำหน้าสวยๆ แบบนี้ไงล่ะ” ธันวาหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะพาเธอเดินออกมายังรถที่จอดอยู่ธันวาขับรถพาเธอมายังร้านอาหารริมทะเลบรรยากาศดีทั้งสองนั่งทานอาหารและพูดคุยแลกเปลี่ยนถึงเรื่องราวที่ผ่านมาตลอดหนึ่งเดือน“ผมคิดถึงคุณมากเลย
แล้วก็ถึงวันที่ธันวาต้องเดินทางกลับไปทำงานที่เวียดนามโดยมีญาณิดามาส่งที่สนามบิน“อีกหนึ่งเดือนเจอกันนะคะธันวา” ญาณิดาบอกกับคนรักเพราะเธอวางแผนจะไปหาเขาที่เวียดนาม“ผมจะนับวันรอนะ แต่ถ้าผมคิดถึงดรีมก่อนผมก็จะมาหานะ”“ดรีมไม่อยากให้คุณเสียงานเพราะดรีมนะคะ”“แต่ตอนนี้งานก็คืบหน้าไปมากแล้วบางทีผมอาจจะได้กลับมาก่อนกำหนดก็ได้นะงานที่นั่นคืบหน้าไปมาก ผมคงไม่ต้องอยู่คุมงานตลอดก็ได้”“จริงเหรอคะ” ญาณิดาดีใจเพราะเธอเองก็อยากให้ธันวากลับมาอยู่ด้วย ช่วงที่เขามาอยู่เมืองไทยเป็นช่วงที่หญิงสาวมีความสุขที่สุดและถ้าเขากลับมาอยู่ตลอดก็คงจะดีมาก“ดูแลตัวเองด้วยนะคะธันวา” หญิงสาวพูดกับคนรักด้วยความเป็นห่วง“ผมสัญญาจะดูแลตัวเองดีๆ แต่ผมว่าดรีมดูแลผมได้ดีกว่านะดรีมคอยดูแลให้ผมกินยาผมก็เลยหายเร็ว” ชายหนุ่มชี้ไปบนศีรษะของตัวเองที่ตอนนี้ให้หมอที่เมืองไทยตัดไหมออกให้แล้ว“หายแล้วอย่าให้มีแผลเพิ่มล่ะ ดรีมเป็นห่วงคุณนะคะ ถ้าเป็นไปได้ดรีมก็อยากกลับไปทำงานที่นั่นพร้อมกับคุณ ดรีมอยากดูแลคุณค่ะ”“ช่างพูดแบบนี้ผมชักไม่อยากห่างดรีมเลย”“ธันวาคะดรีมรู้สึกว่าช่วงนี้คุณจะงอแงบ่อยเหลือเกิน ไหนบอกว่าทุกคนต้องมีหน้าที่รับผิ
“หญิงสาวโน้มลำคอเขาลงมาแล้วจูบไปบนริมฝีปากของเขาธันวาเข้าใจคำตอบของเธอได้อย่างดี เขาจูบตอบอย่างเร่าร้อนมือก็เคล้นคลึงหน้าอวบอิ่มอย่างไม่ปรานีเขาผละออกจากริมฝีปากที่บวมช้ำแล้วก้มลงดูดกินหน้าอกอิ่มอีกครั้ง ญาณิดาแอ่นหน้าอกให้เขาอย่างเต็มใจ ความคิดถึงและโหยหาตลอดเวลาสองสัปดาห์มันทำให้ร่างกายของเธอร้อนราวกับไฟความต้องการที่ซ่อนลึกมันมาล้นจนไม่อาจเก็บไว้ได้“ผมเข้าเลยนะดรีมไม่ไหวแล้ว”ธันวากระซิบแหบต่ำก่อนจะกดท่อนเอ็นร้อนระอุเข้าหาเธออย่างช้าๆ“อ๊ะ!.....”หญิงสาวสะดุ้งถอยหนีเพราะรู้สึกถึงความใหญ่ที่สอดเข้ามา“เมียจ๋า....ไม่เอาแค่สองอาทิตย์มันแน่นมากมันวิเศษที่สุด”ชายหนุ่มกัดฟันกรอดเมื่อส่วนปลายหยักเข้าได้เพียงครึ่งทางร่องรักของหญิงสาวก็ตอดแรงจนเขาปวดร้าวจวนเจียนระเบิด ธันวารู้สึกพอใจเป็นอย่างมากที่ร่างกายของเธอมันสร้างความเสียวซ่านให้กับเขาทั้งยังเข้าไปได้ไม่สุดเขาขยับสะโพกเข้าหา ริมฝีปากก็จูบอย่างเร่าร้อนเมื่อเข้าได้สุดทางก็เริ่มขยับเป็นจังหวะสอดประสานที่ลงตัว“อื้อ...ธันวา....อ้า....”เสียงหวานของญาณิดาครางกระเส่า ยิ่งเขาเข้าลึกเสียงนั้นก็ยิ่งครางหวาน ท่อนเอ็นร้อนเสียดสีกับโพรงอ่อนนุ่







