"เห็นชัด ๆ ว่าข้าไม่เคยรู้จักกับเจ้า แต่เจ้ารู้จักกับน้องสาวของข้า หลี่หลาน" ทุกสายตามองไปที่หลี่หลาน
ภาพที่เขากับหลี่หลานนอนกอดกันอย่างชัดเจน ทุกคนในงานเลี้ยงบุปผาต่างเห็นชัดเจน รวมทั้งสวีฮองเฮา
"ไม่ใช่หม่อมฉันเพคะ ฮองเฮา มิใช่เพคะ" หลี่หลานบอกกับสวีฮองเฮา
"หลี่หลาน เจ้าช่างทำขายหน้าสกุลหลี่นัก เห็นทีข้าจะต้องกลับจวนสั่งให้บิดาลงโทษเจ้าแล้ว เจ้าทำตัวไร้ยางอาย" หลี่ซินเล่นละครไปตามน้ำ โชคดีที่นางเป็นคนฉลาดเปลี่ยนภาพวาดได้ทัน
"อีกอย่างทำตัวเสื่อมเสียต่อหน้าสวีฮองเฮา และผู้คนมากมาย ท่านพ่อไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่" หลี่ซินได้ทีก็ราดน้ำมันลงไปในกองเพลิงทันที ทุกสายตาต่างมองหลี่หลานอย่างรังเกียจไม่รักนวลสงวนตัว
"ไม่ใช่ข้านะ ไม่ใช่ข้า เป็นหลี่ซินต่างหาก" หลี่หลานยังไม่หยุดก่อความวุ่นวายอีก
"เจ้าใส่ร้ายสะใภ้ของราชวงศ์ เจ้ามีความผิดดูหมิ่นเบื้องสูง หลี่หลานข้าเห็นแก่หน้าบิดาจะไม่เอาเรื่องเจ้าก็คงไม่ได้ ฮองเฮาเพคะ หลี่หลานนางลบหลู่ราชวงศ์ พระนางต้องจัดการนะเพคะ งานเลี้ยงบุปผาครั้งนี้ พระนางเป็นคนจัดขึ้น แต่หลี่หลานกับชายแปลกหน้าดันมาก่อความวุ่นวาย พระนางจะไม่ลงโทษรึเพคะ"
หลังจากที่หลี่ซินพูดจบ ทุกคนต่างฮือฮาขึ้น แต่ก่อนหลี่ซินคือนางร้าย แต่ทว่าไม่คิดเลยว่า หลี่หลานจะร้ายกว่า ถึงขนาดให้ชายแปลกหน้ามาป่วนงานชมบุปผา
"พระนางควรลงโทษหลี่หลาน ประการแรก นางพาชายแปลกหน้ามาป่วนงานเลี้ยง ประการที่สองนางเป็นสตรีไร้ยางอายไม่รักนวลสงวนตัวเพคะ" เสียงคุณหนูสกุลต่าง ๆ เอ่ยขึ้น มีความคิดเห็นเหมือนกัน สวีเหมยกับสวีเหมียวได้แต่ถอยออกไป ไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย เหตุใดแผนการถึงได้เป็นเช่นนี้
สวีฮองเฮาไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นเช่นนี้ อุตส่าห์วางแผนมาอย่างดี
"นำตัวหลี่หลานไปโบยยี่สิบที" หลี่หลานได้ยินเช่นนั้นเข่าทรุดลงกับพื้น นางไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น
"ฮองเฮาเพคะ ไม่นะเพคะ"
"นำตัวนางไป" น้ำเสียงหนักแน่นพลันเอ่ยขึ้น นางกำนัลลากตัวหลี่หลานออกไปโบย อีกด้านหนึ่งของอุทยานหลวง ในยามค่ำคืนที่มีลมหนาวพัดมา อีกทั้งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของหลี่หลาน ส่วนชายผู้นั้นได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย งานเลี้ยงจึงได้ดำเนินต่อไป
หลี่ซินนั่งร่ำสุราดอกท้อชาววังอย่างมีความสุข คิดจะเล่นกับนางรึ นางจะสวนกลับทุกดอก ช่างสาแก่ใจยิ่งนัก
แต่ทว่าเหตุการณ์ในฝั่งสตรีสงบ แต่เหตุการณ์ฝั่งเด็กน้อยมิได้สงบ เมื่อเกิดเสียงร้องขึ้นมา แล้วเดินเข้ามาด้านใน หลี่ซินจำเสียงเสี่ยวเปาได้
"ท่านแม่ ท่านแม่" เสี่ยวเปากับเสี่ยวเปยวิ่งเข้ามาหาหลี่ซิน ทำเอาเหล่าสตรีพวกนั้นตกใจ ไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของหลี่ซินกับท่านหญิง ท่านชายจะดีถึงเพียงนี้ หกเดือนผ่านมาพวกนางได้ยินความร้ายกาจของหลี่ซินว่าให้เด็กพวกนี้กินข้าวหมา อีกทั้งยังนอนในห้องเก็บฟืน เรื่องที่ได้ยินคือเรื่องลวงงั้นรึ
"เหตุใด พวกเจ้าถึงร้องไห้" นางมองเสี่ยวเปา เสี่ยวเปยร้องไห้
"เสี่ยวเทียน แย่งผ้าพันคอของพวกข้าแล้วโยนลงทะเลสาบ" ปากน้อย ๆ ของเสี่ยวเปยเอ่ยออกมา หลี่ซินพลันเข้าใจแล้ว
"ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันขอตัว"
"หลี่ซินกลับมาก่อน เรื่องเล็กน้อยของเด็ก ๆ เล่นกัน" สวีฮองเฮาพลันตรัสขึ้นมา หลี่ซินปรายตามองสวีเหมย
"เสี่ยวเทียนรังแกเสี่ยวเปาของหม่อมฉันมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้หม่อมฉันยอมมิได้" หลี่ซินเอ่ยขึ้นแล้วกุมมือเด็กทั้งสองมุ่ง
ทำให้สตรีหลายคนรีบตามหลี่ซินไป พวกนางอยากรู้สตรีร้ายกาจอันดับหนึ่งจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
สวีเหมยรีบตามไปดูบุตรชายเช่นกัน
หลี่ซินมาถึงพบว่าเสี่ยวเทียนกับคุณชายน้อยสกุลต่าง ๆ กำลังตัดผ้าพันคอของเสี่ยวเปาเสี่ยวเปย ผืนหนึ่งตกลงทะเลสาบไปแล้ว
"พวกเจ้าเป็นเด็ก เหตุใดถึงอันธพาลเพียงนี้" หลี่ซินมองเด็กพวกนั้น คนอื่นต่างหวาดกลัว ยกเว้นเสี่ยวเทียนคนเดียว
"เจ้าไปกับข้า ดูสิสวีฮองเฮาจะตัดสินอย่างไร" หลี่ซินพยายามจะจับเสี่ยวเทียน
"ท่านย่ารักข้า ไม่มีทางทำร้ายข้า" เสี่ยวเทียนเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวฝ่ายตรงข้ามแม้แต่น้อย
"อย่ายุ่งกับลูกข้านะ" สวีเหมยตามมาทัน
"ดี นำตัวเสี่ยวเทียนไปให้ฮองเฮาตัดสิน" สวีเหมยไม่ขัดขืน เพราะถึงอย่างไรสวีฮองเฮาไม่มีทางลงโทษพนัดดาอย่างเสี่ยวเทียนหรอกนะ
"ได้"
เมื่อทุกคนต่างอยู่ตรงหน้าพระพักตร์สวีฮองเฮา เรื่องนี้ ฮองเฮาไม่มีทางลงโทษเสี่ยวเทียนแน่นอน เพราะเสี่ยวเทียนเป็นโอรสของฝูอ๋อง ผู้ซึ่งเป็นโอรสของสวีฮองเฮา
เมื่อเท้าความได้ว่า สองฝาแฝดต่างเล่นกันในศาลา เสี่ยวเทียนแย่งผ้าพันคอลายกระต่ายแล้วเหยียบแล้วโยนลงน้ำอีกทั้งฉีกจนขาด ทำให้สองแฝดเสียใจมาก ทุกสายตาต่างมองที่สองแฝดอย่างน่าเห็นใจ แต่เสี่ยวเทียนก็ร้ายกาจไม่เบา ชอบรังแกคนอ่อนแอกว่า เขานึกชังหน้าสองแฝดตลอดไม่รู้เพราะเหตุใด
"ข้าจะให้เสี่ยวเทียนตัดตำราแล้วกัน เป็นการลงโทษเขา นี่คือความผิดครั้งแรก"
สวีฮองเฮาตรัสขึ้น ทุกคนต่างรู้อยู่แล้วว่าพระนางไม่สามารถลงโทษเสี่ยวเทียนได้ หลี่ซินพลันยิ้มเย็น นางนึกแล้วต้องเป็นเช่นนี้
"พระนาง บุตรจะดี จะเลวล้วนอยู่ที่มารดาอบรมสั่งสอน ท่านชายน้อยเสี่ยวเทียนมีนิสัยเช่นนี้ เกรงว่าชายาฝูอ๋องไร้การอบรมสั่งสอนบุตร บุตรถึงได้มีนิสัยชอบรังแกผู้อื่น
ต่อไปวันข้างหน้านางได้เป็นฮองเฮา จะสั่งสอนบุตรอย่างไรให้เมตตาประชาชน"
"เจ้าหมายความว่าอย่างไร" สวีฮองเฮาแคลงใจในคำพูดหลี่ซิน
หญิงสาวพลันยิ้มเย็นขึ้นมา
"หม่อมฉันคิดว่า การลงโทษเสี่ยวเทียนคือการลงโทษปลายเหตุ ต้นเหตุคือชายาฝูอ๋องต่างหาก"
"เจ้า..." สวีเหมยถึงกับพูดไม่ออก เด็กจะเป็นเช่นไร ล้วนเป็นเพราะผู้ใหญ่อบรมสั่งสอน อย่างเช่นเสี่ยวเทียนนิสัยก้าวร้าว แสดงว่าสวีเหมยให้ท้ายตลอด
ความจริง จีฮูหยินถูกเชิญตัวมาในวังหลวงเช่นกัน นางสารภาพความจริงต่อหน้าฝ่าบาท เพราะลูกของนางตาย นางจึงได้ขอลูกของสหายมาเลี้ยง แต่ผู้ใดจะไปคิดว่าจีหนิงจะเป็นแฝดน้องมาอาศัยจวนจี หากรู้เช่นนี้นางคงจะดูแลจีหนิงเช่นกันจีเยียนเสียใจอย่างหนักที่รู้ความจริง แต่เขาก็ไม่ได้ต่อว่าจีฮูหยิน วันนั้นชินอ๋องกับรัชทายาทจับคนร้ายได้ เพราะไปซ่อนตัวในตำหนักของอ้ายกุ้ยเฟย จึงพาตัวอ้ายกุ้ยเฟยมาเข้าเฝ้าฝ่าบาท อีกทั้งมียาพิษของเจียงหนานในตำหนักของอ้ายกุ้ยเฟย"เป็นเจ้าที่บงการทำร้ายรัชทายาทฉางอัน เหตุใดเจ้าถึงทำเช่นนี้" เซียวเจียงตบหน้าอ้ายกุ้ยเฟยอย่างแรง"ข้าทำแล้วอย่างไร แม้แต่จางฮองเฮาข้าก็วางยานาง" อ้ายกุ้ยเฟยเหมือนคนบ้า นางยังไม่สำนึก"ดี ถอดยศอ้ายกุ้ยเฟย ขังนางไว้ตำหนักเย็นชั่วชีวิต" อ้ายกุ้ยเฟยโดนลากออกไป"ปล่อยนะ !!!" สรุปแล้วที่ฮองเฮาประชวรพระอ้ายกุ้ยเฟยเซียวเจียงทำใจไม่ได้ อีกทั้งเสบียงเมืองจินนั้นที่หายไปเพราะฝีมือเจิ้งอ๋อง อีกทั้งเจิ้งอ๋องยังเป็นคนทำร้ายชินอ๋องในงานเทศกาลล่าสัตว์ หลักฐานเยอะเพียงนี้"ถ่ายทอดคำสั่งเราไป ปลดเจิ้งอ๋องให้เป็นทาสนอกเมือง คนจวนอ๋องหากเป็นชายให้เป็นทาส หากเป็
งานพระราชสมภพของฝ่าบาท งานพระราชสมภพฝ่าบาทก็มาถึงจีหลานสวมชุดสีม่วงลายเหนือเมฆ อีกทั้งทำผมเมฆเหินปัดไปข้างหนึ่ง อากาศวันนี้เเจ่มใสยิ่งนัก ชินอ๋องสาวเท้าเข้ามาหานาง มองภรรยาเอกด้วยความรัก นางมองชุดสีม่วงของเขาลายเดียวกันกับนาง งานชุดคู่ก็มางานพระราชสมภพของฝ่าบาทจัดขึ้นในยามบ่ายของวันนั้น จีหลานนั่งข้างชินอ๋องตามเดิม ทุกสายตามมองทั้งคู่เป็นคู่รักที่ข้าวใหม่ปลามัน ชินอ๋องทั้งป้อนขนมจีหลานชายาเอกเจิ้งอ๋องนั่งไม่สบอารมณ์ เจิ้งอ๋องไม่เคยเอาใจนางเลยเเม้แต่น้อย อวิ๋นเหยาจีหลานอย่างน่าอิจฉา รัชทายาทแคว้นฉางอันก็มาร่วมงานพระราชสมภพครั้งนี้ด้วย ในงานนั้นมีสาวงามออกมาร่ายรำ ส่วนฝ่าบาทนั้นจะมากับอ้ายเฟย หลินเฟย จางฮองเฮานั้นประชวรพักอยู่ในตำหนักชายาเอกรัชทายาทหันไปยิ้มให้กับจีหลานอย่างเป็นมิตรจู่ ๆ ลูกธนูเฉียดผ่านใบหน้าของจีหลานไป จากนั้นมีกลุ่มนักฆ่าปรากฏตัวขึ้นมาทั้งหมดพุ่งเป้าไปที่รัชทายาทของฉางอัน เหล่าขุนนางและฝูงชนต่างหนีตายอลหม่าน จีหลานซ่อนอยู่หลังฉากกันกับชายาเอกรัชทายาทรัชทายาทฉางอันพลันต่อสู้กับนักฆ่า พวกมันใช้มีดสั้นแทงที่หน้าอกด้านขวาของเขาแล้วหายไป พร้อมระเบิดควัน"ร
งานแต่งชินอ๋องกับจีหลาน งานแต่งของจีหลานกับชินอ๋องก็มาถึง จีหลานในชุดเจ้าสาวสีแดงเพลิง ใบหน้าแต่งด้วยเครื่องประทินโฉมอย่างงดงาม "ลูกแม่ช่างงามยิ่งนัก" จีฮูหยินมองบุตรสาวผ่านคันฉ่อง จีหลานงดงามจริง ๆ "คุณหนูรองช่างงดงามเสียจริง" แม่สื่อยังเอ่ยปากชมจีหลาน "เจ้าบ่าวมาแล้วเจ้าค่ะ ชินอ๋องขี่มาม้ารับท่านเองเลยนะเจ้าคะ" บ่าวเข้ามารายงาน ในขณะนั้นเอง สาวใช้นางหนึ่งเข้ามาประชิดตัวจีหลาน หมายใช้มีดสั้นกรีดที่ใบหน้านาง จีหลานสาดผงบางอย่างเข้าตาสาวใช้นางนั้น จนนางล้มลงกับพื้น"เด็ก ๆ มาจับตัวนางไว้" จีฮูหยินพลันเรียกบ่าวชายเข้ามา จีหลานมองสตรีนางนั้นดิ้นพล่านราวกับโดนน้ำลวกบะหมี่สาดเข้าใบหน้า"บอกมาเจ้าเป็นผู้ใดคิดทำร้ายข้า" หากเมื่อสามวันก่อนชินอ๋องไม่มอบผงพิษป้องกันตัวให้นาง นางคิดว่านางคงได้ตายไปแล้วกระมัง ชินอ๋องคาดเดาได้ถูกต้องเสียจริง ว่าเจิ้งอ๋องไม่ปล่อยให้งานแต่งงานเกิดขึ้นเป็นอันขาด เขาจะแค้นอะไรนางนักหนาสตรีนางนั้นลักลอบเข้ามาปลอมเป็นสาวใช้ของจวนจี หมายจะสังหารจีหลาน สุดท้ายนักฆ่าก็กัดลิ้นตัวเองตาย"นางตายแล้ว" "นำศพนางไปทิ้ง" จีฮูหยินพลันเอ่ยขึ้น "อย่าไปเสียเวลา" เเม่สื
ตามหาแฝดองค์หญิงเยว่หนิง "พวกท่านว่าอันใดนะ" จู่ ๆ มีบุรุษแต่งกายชุดน้ำเงินเข้ามา เยว่ชางมองเขา บุรุษผู้นั้นสวมหน้ากาก เยว่ชางชักกระบี่ขึ้นมา นึกว่าเป็นคนของแคว้นเจียงหนาน"ช้าก่อน" ชายผู้นั้นถอดหน้ากากออก ทำให้เยว่ชางกับแม่นมหวังตกใจอย่างมาก นั่นมันรัชทายาทของพวกเขาเยว่เจิ้ง"รัชทายาท ท่านยังไม่ตาย" ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน "ใช่ข้ายังไม่ตาย ข้ามาแคว้นเซิ้งตั้งแต่ฉางอันล่มสลาย..." จากนั้นเยว่เจิ้งจึงเล่าเรื่องราวที่เขามาเป็นอาจารย์พิณของแคว้นเซิ้ง เนื่องจากเขากับรัชทายาทเซิ้งเป็นสหายสนิทกันมาก เยว่เจิ้งมาที่แคว้นเซิ้งได้หลายเดือน ได้ข่าวกันตายของจีหนิงว่านางตกสระบัว ข่าวว่านางพลันตกเอง แต่ไม่คิดว่าน้องสาวของเขาจะโดนคนชั่วสังหาร อย่างเยียนหยาง เยว่เจิ้งในตอนนั้นเป็นแค่อาจารย์พิณ พอเขารู้ว่าคนสกุลจีนำศพจีหนิงไว้นอกเมือง เขาไปเซ่นไหว้นางเป็นบางครั้งแต่ที่เขาเข้าไปหาค้นในศพของนาง หวังจะหาสมบัติ คนจวนจีบางคนยังไม่รู้ว่าสมบัติของนางอยู่ที่ใด จึงวานรัชทายาทเซิ้งให้ชินอ๋องรอบเข้าไปในเรือนของนาง พบว่าสมบัติบางส่วนอยู่กับจีหลานเขาขอร้องให้รัชทายาทเซิ้งช่วยเขาโดยการให้ชินอ๋องทำอย่างไร
มีคนตามหาองค์หญิงแคว้นฉางอันที่ล่มสลาย จีหลานได้ยินหมดทุกถ้อยคำ นางคือคนของแคว้นฉางอัน ไม่ได้เป็นญาติกับคนจวนจีจริง ๆ จีเยียนจึงไม่สนใจศพของนางเมื่อครั้งก่อนจีหลานได้รู้ความจริงแล้ว ใบหน้างามพลันปาดน้ำตา นางจึงกลับไปเรือนตัวเองอย่างช้า ๆหลังจากที่เยว่ชางได้รู้ความจริงแล้ว เขามุ่งหน้าไปที่วังหลวงแคว้นเซิ้ง ต้องการพบฝ่าบาทแคว้นเซิ้ง เพราะต้องการเอาคนผิดอย่างเยียนหยางมารับผิดชอบฝ่าบาทแคว้นเซิ้งได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากเยว่ชาง เยว่ชางเข้าเฝ้าฝ่าบาทและบอกฐานะจริงของเขา เขาไม่ได้เป็นพ่อค้าเกลือ แต่เป็นขุนนางในวังหลวงแคว้นฉางอัน และเป็นพระญาติกับห่าง ๆ กับฝ่าบาทแคว้นฉางอัน อีกทั้งครั้งหนึ่งรัชทายาทแคว้นเซิ้งกับแคว้นฉางอันเคยเรียนสำนักด้วยกัน และเป็นสหายกัน ยามนี้ฝ่าบาทแคว้นเซิ้งไม่รู้ว่ารัชทายาทเซิ้งไปอยู่ที่ใด หลังจากแคว้นฉางอันล่มสลายแต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจนั่งก็คือคุณหนูห้าจีหนิงไม่ใช่จีหนิง ญาติของคนสกุลจี แต่เป็นเยว่หนิงองค์หญิงแห่งแคว้นฉางอัน ที่ปลอมตัวมาลี้ภัยจวนสกุลจี จีเยียนเห็นแก่เงินที่เยว่ชางมอบให้จึงรับปากจะดูแลเยว่หนิงอย่างดี สุดท้ายเยียนหยางก็ผลักเยว่หนิงตกสร
ความวุ่นวายในจวนจี ในวันนั้นเองจีเยียนไปที่เรือนของอนุเซี่ย เซี่ยหรันดูแลบุตรสาว ยามนี้จีเหมยป่วยหนักไม่สบายอย่างมาก กระนั้นคนเป็นมารดาจึงคอยเช็ดตัวให้บุตรสาวโครม !!! เสียงถีบประตูเรือนเข้ามาอย่างแรง ทำให้อนุเซี่ยนั้นพลันมองผู้มาเยือน เซี่ยหรันดีใจมากที่จีเยียนมาหา"ท่านพี่" เซี่ยหรันลุกไปหาเขา แต่ทว่านางโดนตบหน้าจนใบหน้าหันไปอีกทาง"เกิดอันใดขึ้น" เซี่ยหรันยังคงไม่รู้ตัว"เซี่ยหรันหลายปีมานี้ ข้าดีกับเจ้าอย่างมาก ข้ารักเจ้าและบุตรของเจ้ามากกว่าภรรยาเอกเสียอีก เหตุใดจิตใจเจ้าถึงได้มีความริษยา ทำร้ายจีฮูหยินกับเด็กในท้องของนาง"จีเยียนรู้สึกผิดหวังเเละเสียใจอย่างมาก เซี่ยหรันนางเงียบ นิสัยนางเขารู้ดี นางเงียบนางทำจริง ๆ ด้วย"เก็บของ เจ้ากับลูกจงไปใช้ชีวิตอยู่ที่วัดฉินเถอะ" จีเยียนกำลังจะก้าวออกจากธรณีประตู แต่เซี่ยหรันกอดเขาจากด้านหลัง นางรักเขามาก"ข้าผิดไปแล้ว" "ไปสำนึกตัวเองเถอะ" จีเยียนก็เสียใจเหมือนกัน ที่เซี่ยหรันเป็นคนใจดำเพียงนี้ เขาไม่สังหารนางก็บุญแล้ว...คืนนั้นจีเยียนดูแลจีฮูหยิน เขาพลันรู้สึกผิดต่อนางไม่น้อย นับจากนี้เขาจะดีต่อนางให้มาก เพื่อทดแทนเวลาหลายปีท