หลี่ซินสะบัดอาภรณ์ออกมาจากร้านผ้าอันดับหนึ่ง ตามด้วยอีอี สองนายบ่าวรีบขึ้นรถม้า ได้ยินเสียงกรีดร้องของสวีเหมียว ช่างเหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้องเสียจริง
"สมน้ำหน้านาง ข้าไม่ตบนางถือว่าบุญมากแล้ว ให้นางเหมาผ้าทั้งร้านไปเสีย" หลี่ซินเอ่ยอย่างสาแก่ใจ
"พระชายาแล้วชุดท่านเล่า"
หลี่ซินจำได้ว่าสินเดิมของเจ้าสาวมีผ้าอยู่หลายพับ น่าจะใช้ประโยชน์ได้
"วันพรุ่ง เจ้านำผ้าไปให้ร้านผ้าตัดชุดให้ข้าแล้วกัน"
"เพคะ"
ก่อนกลับจวนหลี่ซินไม่ลืมให้อีอีลงไปซื้อน้ำตาลปั้นให้สองแฝด เมื่อกลับไปถึงจวนพบว่าสองแฝดคัดตำราเรียน หลี่ซินถือน้ำตาลปั้นไปฝากเด็กทั้งสองคนดีใจมาก
"ขอบคุณท่านแม่"
"เด็กดี รีบคัดตำราแล้วเข้านอน คืนนี้ข้าจะนอนกับพวกเจ้าด้วย"
"ขอบคุณท่านแม่" เด็กทั้งสองหอมแก้มหลี่ซิน ทำให้แม่นมจางถึงกับยิ้มไปด้วย อีอีก็เช่นกัน นางลืมภาพพระชายาเคยทรมานเด็ก ๆ ยามนี้มีแต่เทพธิดาใจดี นางมารร้ายได้หายไปจากจวนอ๋องแล้ว
ยามนี้ฤดูหนาวได้ย่างกรายเข้ามาแล้ว เย็นนี้หลี่ซินต้องเข้าไปร่วมงานเลี้ยงบุปผา ได้ยินมาว่างานเลี้ยงบุปผาครั้งนี้ สวีฮองเฮาได้เชิญเหล่าคุณหนูตระกูลต่าง ๆ มาร่วมงานจำนวนมาก เกรงว่าคงจะหาชายารองให้เหล่าอ๋องมากกว่า
ช่วงเช้าหลังจากที่นางรับสำรับอาหารเช้าเสร็จ หญิงสาวนั่งถักผ้าพันคอให้เด็กทั้งสอง อีกทั้งปักลายกระต่ายตัวโตอย่างงดงาม นางทำได้หลายวันแล้วล่ะ วันนี้คงจะเสร็จ
หลี่ซินนอกจากจะเป็นแพทย์ที่มีฝีมือดี นางยังเย็บปักถักร้อยได้อีกต่างหาก หญิงสาวมองผ้าพันคอลายกระต่ายที่ถักทออย่างงดงาม
ตกเย็นรถม้าจวนหยางอ๋องมุ่งหน้าไปที่วังหลวง สามแม่ลูกนั่งในรถม้า หลี่ซินมองฝาแฝดสวดชุดฤดูหนาวแล้วสวมผ้าพันคอของนางอย่างงดงาม
"ขอบคุณท่านแม่ที่มอบให้พวกข้า" เสี่ยวเปยยิ้มให้มารดาเลี้ยงจนตาหยี หลี่ซินหลงในความน่ารักของเด็ก ๆ ทั้งสองคนมิได้
"เมื่อถึงงานเลี้ยง พวกเจ้าเชื่อฟังข้าแล้วกัน อย่าได้เล่นซุกซนเข้าใจรึไม่"
"ข้าทราบแล้ว" ทั้งสองเอ่ยขึ้นพร้อมกัน เด็กพวกนี้ช่างน่าชังนัก เหตุใดหลี่ซินคนเดิมถึงตาบอดทำร้ายเด็กได้ลงคอ
รถม้าจอดหน้าวังหลวง งานเลี้ยงชมบุปผาจัดขึ้นในอุทยานหลวง ยามค่ำคืนในวังจุดคบไฟตามทางให้ความสว่างไสวอย่างงดงาม
หลี่ซินเดินตามนางกำนัลนำทาง มือของนางทั้งสองข้างจับเจ้าแฝดทั้งสองคนไว้
"ชายาหยางอ๋อง ในงานมีที่สำหรับท่านหญิงท่านชาย ท่านมิต้องห่วง เชิญท่านไปนั่งด้านในเพคะ" หลี่ซินแยกกับเด็กแฝดทั้งสองไปนั่งฝั่งสตรีด้านใน ส่วนเด็กทั้งสองมองมารดาเลี้ยงอย่างไม่ละสายตา
หลี่ซินในอาภรณ์สีแดงลายบุปผางาม มาถึงนั่งประจำที่ของนาง ทุกคนต่างมองนางมารร้ายอันดับหนึ่งของแคว้นชิง ไม่น่าเชื่อว่าหลายวันมานี้ นางจะเป็นคนดี บางคนถึงขั้นพูดว่า เมื่อหลายวันก่อนสวีเหมียวหลานสาวฮองเฮาถึงขนาดยั่วโมโห หลี่ซินที่ร้านผ้าอันดับหนึ่ง ผลสุดท้ายหลี่ซินหลอกให้นางเหมาผ้าทั้งร้าน จากนางร้าย เป็นคนมีสติมากขึ้น ทุกคนต่างมองนางด้วยสายตาที่แปลกกว่าเดิม
สวีฮองเฮาเสด็จทุกคนต่างถวายพระพร พระนางให้ทุกคนนั่งตามเดิม ใบหน้าพระนางงดงามยิ่งนัก พระนางนั่งประจำที่ มุมปากหยักโค้งยิ้มให้กับทุกคน แต่งกายอย่างงดงามสมกับเป็นฮองเฮาของราชวงศ์จริง ๆ
"ทุกคนตามสบาย"
"ขอบพระทัยฮองเฮาเพคะ"
สาวงามต่างออกมาร่ายรำอย่างงดงาม งานเลี้ยงดำเนินไปเรื่อย ๆ สวีเหมยยังเจ็บแค้นใจวันนั้น ที่ม้าของนางคลั่ง ต้องเป็นฝีมือของหลี่ซินแน่นอน สวีเหมียวเช่นกัน สองพี่น้องต่างสบตากัน หลี่หลานก็มาร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ด้วย มุมปากงามเผยอยิ้ม
นางกำนัลเข้ามากราบทูลฮองเฮา ว่ามีชายผู้หนึ่งบอกว่าเคยได้เสียกับชายาหยางอ๋อง ร้องตะโกนที่หน้าอุทยาน
"ชายาหยางอ๋อง มีคนมาหาเจ้า เจ้าไปที่หน้าอุทยานเดี๋ยวนี้" สวีฮองเฮาพลันตรัสขึ้นมา ทุกสายตาต่างมองไปหลี่ซิน
ทุกคนอยากรู้ว่าหลี่ซินมีเรื่องอันใดอีก ด้านหลี่ซินรู้แล้วว่าจะต้องมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น นางเตรียมที่จะรับมือไว้แล้ว
"หม่อมฉันจะออกไปดูเพคะ" นางลุกขึ้นแล้วออกไปทางหน้าอุทยานหลวง ทุกคนต่างเดินตามไปด้วย
"หลี่ซิน เหตุใด ท่านถึงลืมข้าได้ลงคอเล่า" ชายผู้นั้นเหมือนในภาพนั้นเป๊ะ หลี่ซินยิ้มใจดีสู้เสือ
"ข้าไม่เคยรู้จักเจ้า เจ้าอย่าได้พูดส่งเดช ข้าวปลากินส่งเดชได้ แต่คำพูดนั้นไม่ได้" นางเอ่ยอย่างจริงจัง
ชายผู้นั้นไม่ลดละความพยายามที่จะให้หลี่ซินเสียหน้า ทุกคนต่างมองหลี่ซินกับชายผู้นั้นสลับกันไปมา
"ชายาหยางอ๋องนี่มันอะไรกัน" สวีฮองเฮาคิดในใจเข้าทางนางพอดี ถ้าเกิดหลี่ซินทำผิด สามารถปลดนางจากการเป็นชายาหยางอ๋อง
"ข้าถูกใส่ร้าย ข้าไม่รู้จักเขา" นางคือผู้บริสุทธิ์
"ข้ามีหลักฐาน" ชายผู้นั้นหยิบกระดาษขึ้นมาชูให้ทุกคนดู
ในใจของหลี่หลานดีใจจนเนื้อเต้น คราวนี้นังสารเลวได้ตายแน่
แต่ทว่าเมื่อทุกคนดูกระดาษแผ่นนั้น คนที่อยู่ในภาพคือหลี่หลาน "หลี่หลาน นี่มันชายคนรักเจ้าใช่รึไม่" หลี่ซินเอ่ยขึ้น ทุกคนเบนสายตาไปทางหลี่หลานสวีเหมย กับสวีเหมียวก็เช่นกัน เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร
ความจริง จีฮูหยินถูกเชิญตัวมาในวังหลวงเช่นกัน นางสารภาพความจริงต่อหน้าฝ่าบาท เพราะลูกของนางตาย นางจึงได้ขอลูกของสหายมาเลี้ยง แต่ผู้ใดจะไปคิดว่าจีหนิงจะเป็นแฝดน้องมาอาศัยจวนจี หากรู้เช่นนี้นางคงจะดูแลจีหนิงเช่นกันจีเยียนเสียใจอย่างหนักที่รู้ความจริง แต่เขาก็ไม่ได้ต่อว่าจีฮูหยิน วันนั้นชินอ๋องกับรัชทายาทจับคนร้ายได้ เพราะไปซ่อนตัวในตำหนักของอ้ายกุ้ยเฟย จึงพาตัวอ้ายกุ้ยเฟยมาเข้าเฝ้าฝ่าบาท อีกทั้งมียาพิษของเจียงหนานในตำหนักของอ้ายกุ้ยเฟย"เป็นเจ้าที่บงการทำร้ายรัชทายาทฉางอัน เหตุใดเจ้าถึงทำเช่นนี้" เซียวเจียงตบหน้าอ้ายกุ้ยเฟยอย่างแรง"ข้าทำแล้วอย่างไร แม้แต่จางฮองเฮาข้าก็วางยานาง" อ้ายกุ้ยเฟยเหมือนคนบ้า นางยังไม่สำนึก"ดี ถอดยศอ้ายกุ้ยเฟย ขังนางไว้ตำหนักเย็นชั่วชีวิต" อ้ายกุ้ยเฟยโดนลากออกไป"ปล่อยนะ !!!" สรุปแล้วที่ฮองเฮาประชวรพระอ้ายกุ้ยเฟยเซียวเจียงทำใจไม่ได้ อีกทั้งเสบียงเมืองจินนั้นที่หายไปเพราะฝีมือเจิ้งอ๋อง อีกทั้งเจิ้งอ๋องยังเป็นคนทำร้ายชินอ๋องในงานเทศกาลล่าสัตว์ หลักฐานเยอะเพียงนี้"ถ่ายทอดคำสั่งเราไป ปลดเจิ้งอ๋องให้เป็นทาสนอกเมือง คนจวนอ๋องหากเป็นชายให้เป็นทาส หากเป็
งานพระราชสมภพของฝ่าบาท งานพระราชสมภพฝ่าบาทก็มาถึงจีหลานสวมชุดสีม่วงลายเหนือเมฆ อีกทั้งทำผมเมฆเหินปัดไปข้างหนึ่ง อากาศวันนี้เเจ่มใสยิ่งนัก ชินอ๋องสาวเท้าเข้ามาหานาง มองภรรยาเอกด้วยความรัก นางมองชุดสีม่วงของเขาลายเดียวกันกับนาง งานชุดคู่ก็มางานพระราชสมภพของฝ่าบาทจัดขึ้นในยามบ่ายของวันนั้น จีหลานนั่งข้างชินอ๋องตามเดิม ทุกสายตามมองทั้งคู่เป็นคู่รักที่ข้าวใหม่ปลามัน ชินอ๋องทั้งป้อนขนมจีหลานชายาเอกเจิ้งอ๋องนั่งไม่สบอารมณ์ เจิ้งอ๋องไม่เคยเอาใจนางเลยเเม้แต่น้อย อวิ๋นเหยาจีหลานอย่างน่าอิจฉา รัชทายาทแคว้นฉางอันก็มาร่วมงานพระราชสมภพครั้งนี้ด้วย ในงานนั้นมีสาวงามออกมาร่ายรำ ส่วนฝ่าบาทนั้นจะมากับอ้ายเฟย หลินเฟย จางฮองเฮานั้นประชวรพักอยู่ในตำหนักชายาเอกรัชทายาทหันไปยิ้มให้กับจีหลานอย่างเป็นมิตรจู่ ๆ ลูกธนูเฉียดผ่านใบหน้าของจีหลานไป จากนั้นมีกลุ่มนักฆ่าปรากฏตัวขึ้นมาทั้งหมดพุ่งเป้าไปที่รัชทายาทของฉางอัน เหล่าขุนนางและฝูงชนต่างหนีตายอลหม่าน จีหลานซ่อนอยู่หลังฉากกันกับชายาเอกรัชทายาทรัชทายาทฉางอันพลันต่อสู้กับนักฆ่า พวกมันใช้มีดสั้นแทงที่หน้าอกด้านขวาของเขาแล้วหายไป พร้อมระเบิดควัน"ร
งานแต่งชินอ๋องกับจีหลาน งานแต่งของจีหลานกับชินอ๋องก็มาถึง จีหลานในชุดเจ้าสาวสีแดงเพลิง ใบหน้าแต่งด้วยเครื่องประทินโฉมอย่างงดงาม "ลูกแม่ช่างงามยิ่งนัก" จีฮูหยินมองบุตรสาวผ่านคันฉ่อง จีหลานงดงามจริง ๆ "คุณหนูรองช่างงดงามเสียจริง" แม่สื่อยังเอ่ยปากชมจีหลาน "เจ้าบ่าวมาแล้วเจ้าค่ะ ชินอ๋องขี่มาม้ารับท่านเองเลยนะเจ้าคะ" บ่าวเข้ามารายงาน ในขณะนั้นเอง สาวใช้นางหนึ่งเข้ามาประชิดตัวจีหลาน หมายใช้มีดสั้นกรีดที่ใบหน้านาง จีหลานสาดผงบางอย่างเข้าตาสาวใช้นางนั้น จนนางล้มลงกับพื้น"เด็ก ๆ มาจับตัวนางไว้" จีฮูหยินพลันเรียกบ่าวชายเข้ามา จีหลานมองสตรีนางนั้นดิ้นพล่านราวกับโดนน้ำลวกบะหมี่สาดเข้าใบหน้า"บอกมาเจ้าเป็นผู้ใดคิดทำร้ายข้า" หากเมื่อสามวันก่อนชินอ๋องไม่มอบผงพิษป้องกันตัวให้นาง นางคิดว่านางคงได้ตายไปแล้วกระมัง ชินอ๋องคาดเดาได้ถูกต้องเสียจริง ว่าเจิ้งอ๋องไม่ปล่อยให้งานแต่งงานเกิดขึ้นเป็นอันขาด เขาจะแค้นอะไรนางนักหนาสตรีนางนั้นลักลอบเข้ามาปลอมเป็นสาวใช้ของจวนจี หมายจะสังหารจีหลาน สุดท้ายนักฆ่าก็กัดลิ้นตัวเองตาย"นางตายแล้ว" "นำศพนางไปทิ้ง" จีฮูหยินพลันเอ่ยขึ้น "อย่าไปเสียเวลา" เเม่สื
ตามหาแฝดองค์หญิงเยว่หนิง "พวกท่านว่าอันใดนะ" จู่ ๆ มีบุรุษแต่งกายชุดน้ำเงินเข้ามา เยว่ชางมองเขา บุรุษผู้นั้นสวมหน้ากาก เยว่ชางชักกระบี่ขึ้นมา นึกว่าเป็นคนของแคว้นเจียงหนาน"ช้าก่อน" ชายผู้นั้นถอดหน้ากากออก ทำให้เยว่ชางกับแม่นมหวังตกใจอย่างมาก นั่นมันรัชทายาทของพวกเขาเยว่เจิ้ง"รัชทายาท ท่านยังไม่ตาย" ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน "ใช่ข้ายังไม่ตาย ข้ามาแคว้นเซิ้งตั้งแต่ฉางอันล่มสลาย..." จากนั้นเยว่เจิ้งจึงเล่าเรื่องราวที่เขามาเป็นอาจารย์พิณของแคว้นเซิ้ง เนื่องจากเขากับรัชทายาทเซิ้งเป็นสหายสนิทกันมาก เยว่เจิ้งมาที่แคว้นเซิ้งได้หลายเดือน ได้ข่าวกันตายของจีหนิงว่านางตกสระบัว ข่าวว่านางพลันตกเอง แต่ไม่คิดว่าน้องสาวของเขาจะโดนคนชั่วสังหาร อย่างเยียนหยาง เยว่เจิ้งในตอนนั้นเป็นแค่อาจารย์พิณ พอเขารู้ว่าคนสกุลจีนำศพจีหนิงไว้นอกเมือง เขาไปเซ่นไหว้นางเป็นบางครั้งแต่ที่เขาเข้าไปหาค้นในศพของนาง หวังจะหาสมบัติ คนจวนจีบางคนยังไม่รู้ว่าสมบัติของนางอยู่ที่ใด จึงวานรัชทายาทเซิ้งให้ชินอ๋องรอบเข้าไปในเรือนของนาง พบว่าสมบัติบางส่วนอยู่กับจีหลานเขาขอร้องให้รัชทายาทเซิ้งช่วยเขาโดยการให้ชินอ๋องทำอย่างไร
มีคนตามหาองค์หญิงแคว้นฉางอันที่ล่มสลาย จีหลานได้ยินหมดทุกถ้อยคำ นางคือคนของแคว้นฉางอัน ไม่ได้เป็นญาติกับคนจวนจีจริง ๆ จีเยียนจึงไม่สนใจศพของนางเมื่อครั้งก่อนจีหลานได้รู้ความจริงแล้ว ใบหน้างามพลันปาดน้ำตา นางจึงกลับไปเรือนตัวเองอย่างช้า ๆหลังจากที่เยว่ชางได้รู้ความจริงแล้ว เขามุ่งหน้าไปที่วังหลวงแคว้นเซิ้ง ต้องการพบฝ่าบาทแคว้นเซิ้ง เพราะต้องการเอาคนผิดอย่างเยียนหยางมารับผิดชอบฝ่าบาทแคว้นเซิ้งได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากเยว่ชาง เยว่ชางเข้าเฝ้าฝ่าบาทและบอกฐานะจริงของเขา เขาไม่ได้เป็นพ่อค้าเกลือ แต่เป็นขุนนางในวังหลวงแคว้นฉางอัน และเป็นพระญาติกับห่าง ๆ กับฝ่าบาทแคว้นฉางอัน อีกทั้งครั้งหนึ่งรัชทายาทแคว้นเซิ้งกับแคว้นฉางอันเคยเรียนสำนักด้วยกัน และเป็นสหายกัน ยามนี้ฝ่าบาทแคว้นเซิ้งไม่รู้ว่ารัชทายาทเซิ้งไปอยู่ที่ใด หลังจากแคว้นฉางอันล่มสลายแต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจนั่งก็คือคุณหนูห้าจีหนิงไม่ใช่จีหนิง ญาติของคนสกุลจี แต่เป็นเยว่หนิงองค์หญิงแห่งแคว้นฉางอัน ที่ปลอมตัวมาลี้ภัยจวนสกุลจี จีเยียนเห็นแก่เงินที่เยว่ชางมอบให้จึงรับปากจะดูแลเยว่หนิงอย่างดี สุดท้ายเยียนหยางก็ผลักเยว่หนิงตกสร
ความวุ่นวายในจวนจี ในวันนั้นเองจีเยียนไปที่เรือนของอนุเซี่ย เซี่ยหรันดูแลบุตรสาว ยามนี้จีเหมยป่วยหนักไม่สบายอย่างมาก กระนั้นคนเป็นมารดาจึงคอยเช็ดตัวให้บุตรสาวโครม !!! เสียงถีบประตูเรือนเข้ามาอย่างแรง ทำให้อนุเซี่ยนั้นพลันมองผู้มาเยือน เซี่ยหรันดีใจมากที่จีเยียนมาหา"ท่านพี่" เซี่ยหรันลุกไปหาเขา แต่ทว่านางโดนตบหน้าจนใบหน้าหันไปอีกทาง"เกิดอันใดขึ้น" เซี่ยหรันยังคงไม่รู้ตัว"เซี่ยหรันหลายปีมานี้ ข้าดีกับเจ้าอย่างมาก ข้ารักเจ้าและบุตรของเจ้ามากกว่าภรรยาเอกเสียอีก เหตุใดจิตใจเจ้าถึงได้มีความริษยา ทำร้ายจีฮูหยินกับเด็กในท้องของนาง"จีเยียนรู้สึกผิดหวังเเละเสียใจอย่างมาก เซี่ยหรันนางเงียบ นิสัยนางเขารู้ดี นางเงียบนางทำจริง ๆ ด้วย"เก็บของ เจ้ากับลูกจงไปใช้ชีวิตอยู่ที่วัดฉินเถอะ" จีเยียนกำลังจะก้าวออกจากธรณีประตู แต่เซี่ยหรันกอดเขาจากด้านหลัง นางรักเขามาก"ข้าผิดไปแล้ว" "ไปสำนึกตัวเองเถอะ" จีเยียนก็เสียใจเหมือนกัน ที่เซี่ยหรันเป็นคนใจดำเพียงนี้ เขาไม่สังหารนางก็บุญแล้ว...คืนนั้นจีเยียนดูแลจีฮูหยิน เขาพลันรู้สึกผิดต่อนางไม่น้อย นับจากนี้เขาจะดีต่อนางให้มาก เพื่อทดแทนเวลาหลายปีท