มีผลต่อฝูอ๋องจริง ๆ ผู้ใดก็รู้ว่าวันข้างหน้าฝูอ๋องต้องเป็นรัชทายาทอย่างแน่นอน ทำให้สวีฮองเฮามองหน้าหลานสาวตัวเอง สวีเหมยรู้สึกใจคอไม่ดีนักเมื่อเห็นสายตาสวีฮองเฮามองนางเช่นนี้
หลี่ซินเผยอยิ้มเล็กน้อยได้ผลจริง ๆ ด้วย เพียงแค่ เอ่ยถึงตำแหน่งรัชทายาทในอนาคต สวีฮองเฮามีความคิดที่จะรักษาหน้าฝูอ๋อง
"ชายาฝูอ๋อง เจ้าไม่อบรมสั่งสอนเสี่ยวเทียนให้ดี ปล่อยให้มารังแกคนอื่น เจ้ามีความผิด อย่างที่ชายาหยางอ๋องกล่าวจริง ๆ"
สวีฮองเฮาถอนหายใจ
"นำตัวชายาฝูอ๋องไปโบยยี่สิบที" พอสวีฮองเฮาตรัสออกมาเช่นชายาฝูอ๋องตกใจไม่น้อย
"ท่านป้าเพคะ ท่านป้าไม่นะเพคะ"
"ท่านแม่ ท่านแม่ ปล่อยแม่ข้านะ ยายแก่แร้งทึ้งปล่อยแม่ข้าเดี๋ยวนี้" ทุกคนต่างตกใจกับคำพูดของเด็กห้าขวบ อย่างเสี่ยวเทียน เขาไปจำคำพูดบ้าบอนี้มาจากไหน ถ้ามิใช่มารดาเสี้ยมสอนบุตร
สวีฮองเฮาแทบจะเป็นลม พนัดดาของนางมีตำพูดที่แย่ พระนางรับมิได้
"นับแต่นี้ เสี่ยวเทียนจะอยู่วังหลวงกับข้าสักระยะ แยกเสี่ยวเทียนกับชายาฝูอ๋องออกจากกัน"
"ท่านแม่" เสี่ยวเทียนร้องไห้ขี้มูกโปร่ง เสี่ยวเปาเสี่ยวเปยพลันแอบสาแก่ใจไม่น้อย ถ้าไม่เพราะมารดามาทวงความยุติธรรมให้ พวกเขาคงร้องไห้ไม่หยุดแน่นอน
สวีฮองเฮายุติงานเลี้ยงบุปผาในค่ำคืนนั้น อีกทั้งยังมอบของเล่นล้ำค่าให้เด็กแฝดสองคน ภายในรถม้า หลี่ซินนั่งตรงกลาง โอบกอดเด็กแฝดทั้งสอง อย่างมีความสุข ในที่สุดนางก็ให้สวีเหมยได้รับบทเรียน ไม่คิดจริง ๆ เลยว่าสวีฮองเฮาจะคล้อยตาม หลี่ซินมีความสามารถหลายอย่างจริง ๆ
บนหลังคาที่มีความสูงอย่างมากร่างหนาทั้งสามคน ยืนมองรถม้าออกนอกวังหลวง
"ท่านอ๋องดูท่าพระชายาจะรัก ท่านหญิงท่านชายมาก ในงานเลี้ยง นางทวงความยุติธรรมให้ทั้งสอง" องครักษ์เงาอย่างอี้โจอย่างขึ้น หลายวันมานี้พระชายาเปลี่ยนไปมาก
หยางอ๋องมองรถม้าเข้าตรอกไปสุดตา ทุกอย่างที่นางพูดในศาลาอุทยานหลวง เขาได้ยินหมดแล้ว ไม่น่าเชื่อว่านางจะเปลี่ยนไปแล้ว หรือว่านางต้องการจะเรียกร้องความสนใจจากเขา
แต่ทว่าแววตาสีหน้า ท่าทางที่นางมองเด็กแฝด มันออกมาจากใจนางจริง ๆ ไม่ ๆ นางแค่แสดงละครงิ้ว เขาจะไม่มีวันเชื่อนางเป็นอันขาด
"พระชายาคงจะกลับตัวกลับใจแล้ว" อี้ชางเห็นด้วยกับอี้โจ เพราะเขาเฝ้าที่จวนอ๋องมาหลายวัน จึงเห็นนิสัยของหลี่ซินหลายอย่าง แตกต่างจากเดิมมาก
"รอดูนางต่อไป ยามนี้ข้าจะกลับจวนก่อน" กล่าวจบ สามบุรุษหายไปท่ามกลางความมืดมิดในคือที่ไร้แสงจันทร์
หลี่ซินพลันถอดรองเท้าให้เด็กทั้งสองคน อีกทั้งห่มผ้าให้อย่างหนา ส่วนนางนอนอีกเตียงไม้หลังหนึ่ง บรรยากาศในเรือนเต็มไปด้วยความอบอุ่นของเตาไฟที่จุด
ดวงตาดอกท้อมองคนงามที่หลับอย่างสบาย หยางอ๋องนึกรังเกียจนางนัก วันนี้มีเหตุการณ์หลายอย่าง เหตุการณ์แรกภาพวาดนั้น เป็นของหลี่หลานจริงรึ หรือเป็นของนาง
ดูเหมือนว่าทรวงอกของนางมีบางอย่างซ่อนอยู่ หยางอ๋องค่อย ๆ ล้วงมันออกมา พบว่าเป็นภาพวาดของนางนอนกับอีกชายคนหนึ่ง
ดวงตาหยางอ๋องมีเปลวไฟลุกโชนขึ้นมาอย่างน่ากลัว ในงานเลี้ยงบุปผา หยางอ๋องเห็นคนมาก่อกวนงาน บอกว่านอนกับหลี่ซิน แต่พอล้วงกระดาษออกมาพบว่าเป็นหลี่หลาน แสดงว่าหลี่ซินเคยเป็นกับบุรุษคนนั้น แต่ซ้อนแผนเปลี่ยนภาพวาดเป็นภาพหลี่หลานแทน
ความเจ้าเล่ห์ของนางยังเหมือนเดิม นางยังกล้าหลอกเขา การแต่งงานเขากับนางเกิดขึ้นเพราะสมรสราชทาน ถ้าบิดาของนางไม่เป็นราชครู มีรึน้ำหน้าอย่างนางจะได้แต่งกับเขา สตรีชั่วร้ายในแคว้นชิงอย่างนาง แม้แต่ถือรองเท้าให้เขาก็ยังไม่คู่ควร
หยางอ๋องเพียงคิดว่าหลี่ซินเป็นเพียงสตรีที่ร้ายกาจ ไม่คิดว่านางจะเป็นสตรีร่านราคะ เสียตัวให้ชายอื่น แล้วล้างน้ำใส่ตะกร้าแต่งเข้าจวนอ๋อง
หลี่ซินพลันรู้สึกหนาวสั่น เปลือกตางามที่เต็มไปด้วยแพรขนตาที่หนาลืมตาขึ้นมา พบว่านางโดนน้ำจนเปียก คนที่ทำร้ายนางคือ บุรุษผู้นี้มีใบหน้าหล่อเหลาเหมือนถอดแบบมาจากภาพวาด
เขาคือหยางอ๋องนั่นเอง ฉู่อวี้นั่นเอง
"ท่านสาดน้ำใส่ข้า" ยามค่ำคืนที่หิมะตก หยางอ๋องสาดน้ำใส่นางจนเปียก อีกทั้งยังพานางมาอีกห้องหนึ่งด้วย ห้องนี้ไม่กว้างไม่ใหญ่
"เจ้ามันสารเลว ถ้าข้าไม่มาวันนี้ จะได้เห็นสิ่งที่เจ้าทำเลวรึ" หยางอ๋องชูภาพวาดแผ่นนั้น หลี่ซินถึงกับตกใจ
นางไม่คิดว่าการเอาภาพวาดเก็บไว้กับตัว จะเป็นภัย อีกทั้งไม่คิดว่า เขาจะกลับมาเร็วขนาดนี้ เขาอยู่เมืองจินมิใช่รึ
"ท่านจะทำอะไร ปล่อยข้านะ ท่านเกลียดข้าไม่ใช่รึ" หยางอ๋องบีบข้อมือนางอย่างแรง จนเป็นรอยแดง
"ข้าจะคิดบัญชีแค้นกับเจ้า โทษฐานเจ้าหลอกลวงข้า"
หลี่ซินพลันไออย่างเจ็บปวด เหตุใดเขาต้องร้ายกับนางด้วย นางเป็นคนดีแล้ว
"ท่านอ๋อง ข้าไม่ได้รังแกสองแฝดแล้ว ปล่อยข้าเถอะ" หยางอ๋องมองใบหน้างามที่เอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตา ใช้มารยาหญิง คิดว่าเขาจะหลงกลนางรึ
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล