Beranda / รักโบราณ / วาสนานี้เป็นของข้า / ๖ ตกหลุมพลางคนเจ้าเล่ห์

Share

๖ ตกหลุมพลางคนเจ้าเล่ห์

Penulis: วอลจู
last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-05 23:30:26

ไม่จู่ ๆ เพราะเหตุใดในยามนี้เขามองนางอยู่ถึงมีภาพเหตุการณ์จากค่ำคืนนั้นทับซ้อนขึ้นมากัน

เซียนหยางชินอ๋องไม่พร่ำพูดให้เสียเวลา เขาพลันถอนอาภรณ์กระตุกผ้าคาดเอวออกทันที “ข้ามีเวลาไม่มากนักถอดเสื้อผ้าของเจ้าออกซะ”

!!!!

สีหน้าของนางย่ำแย่อย่างเห็นได้ชัด ฮั่วซูเม่ยตกใจไม่คิดว่าวิธีพิสูจน์ของบุรุษผู้หรือจะหมายความว่าเช่นนี้

“ข้าท้องอยู่ตาบอดหรือไรกัน!” น้ำเสียงหวานตะโกนตอบ

หัวใจดวงน้อยพลันเต้นกระหน่ำไม่เป็นจังหวะ ทว่าฮั่วซูเม่ยกับนั่งแน่นิ่งอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับหรือลุกหนีจากไป สายตาของนางยังคงจับจ้องการกระทำของบุรุษตรงหน้าไม่วางตา

เพียงชั่วพริบตาเท่านั้นเซียนหยางพลันเปลือยเปล่าต่อหน้าสตรีผู้นี้โดนไร้ความเขินอาย

“นี่อย่างไรข้ากำลังพิสูจน์”

ตุบ!!

“เจ้าคนลามก!”

สุดท้ายแล้วความอดทนของนางก็ขาดผึงลง ฮั่วซูเม่ยคว้าหมอนโยนกระแทกใส่เซียนหยางด้วยความโมโห “ใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้!”

มุมปากหนาหยักยกขึ้นเล็กน้อย ยิ่งเห็นนางเดือดดาลโมโหแทบกระอักเลือดเช่นนี้เซียนหยางยิ่งนึกสนุก

“ไฉนคุณหนูฮั่วยังไม่คุ้นชินอีก”

เขาพลางก้าวเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้านาง “ค่ำคืนนั้นทั้งข้าและคุณหนูต่างเปลือยเปล่าทั้งคู่มิใช่หรือ”

จู่ ๆ ผู้ที่เขินอายจนใบหน้าเห่อร้อนก็คือฮั่วซูเม่ย

“หุบปากซะ!” นางขึ้นเสียงไม่พอใจ

เซียนหยางยังคงไล่ต้อนกระต่ายน้อยตกหน้า “ว่าให้ง่ายเชื่อฟังที่ข้าพูดไม่ได้หรือคุณหนู”

“ถุ้ย! ข้าฟังแล้วจะอ้วก”

“เป็นคุณหนูที่เลือกเอง”

สายตาคมกริบเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นความแข็งกร้าวเยือกเย็นทันที เซียนหยางพุ่งตรงเข้าไปผลักเรือนร่างของนางให้นอนราบลงไปกับเพียงขณะเดียวกันก็ระมัดระวังท้องของนาง

“เจ้าคนถ่อย!”

ฮั่วซูเม่ยร้องตกใจ มือทั้งสองข้างของนางพลางถูกจับรวบขึ้นเหนือหัวไม่สามารถขัดขืนหรือต่อกรได้

“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้”

“ปล่อยหรือ…รอประเดี๋ยวเถอะ”

เซียนหยางไล่สายตามองตั้งแต่เนินอกที่ดูเหมือนจะใหญ่ขึ้นจากคราวก่อนก่อนที่จะหยุดอยู่ที่หน้าท้องนู้นของนาง “ข้าจะเบา” น้ำเสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยขึ้น

ฮั่วซูเม่ยรู้แล้วว่านางคงหมดหนทางหนีได้

“รีบทำแล้วรีบไปให้พ้นหน้าข้าซะ!”

“หึ!” มุมปากหนายักยิ้มร้าย

แม้ค่ำคืนนั้นจะผ่านพ้นมาหลายเดือนแล้วอย่างไร เสมือนว่าภาพในห้วงความทรงจำของเซียนหยางยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจลืมไปด้

กลิ่นกายหอมมิต่างจากดอกไม้

ผิวขาวเนียนนุ่มนิ่มมิต่างจากเด็ก

รูปโฉมอรชรเย้ายวน…

เซียนหยางจดจ้องริมฝีปากอวบอิ่มอยู่ครู่หนึ่งก็จะโน้มใบหน้าเข้าไปประกบจูบสอดแทรกลิ้นร้อยเข้าไปในโพรงปากหวาน

“อื้มม…!!”

นางกลับปิดปากขัดขืนไม่ยอมให้บุรุษผู้นี้ได้รุกล้ำแต่กลับต้องไปพ่ายแพ้เพียงชั่วอึดใจ เมื่อถูกขบกัดริมฝีปากจนพลันได้กลิ่นคาวเลือด

เป็นหมาหรือไร!

ฮั่วซูเม่ยสบถด่าอยู่ภายในใจ

เซียนหยางมีสติดีและครบถ้วน เขารู้ตัวว่าตอนนี้กำลังทำอันใดอยู่

เขาประกบจูบสตรีใต้อย่างรุนแรงด้วยความหื่นกระหายจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบดังสนั่นก้อง ลิ้นร้อนไล่ต้อนตวัดดูดเลียอีกฝ่ายอย่างเอาแต่ในและในขณะที่เซียนหยางอาศัยจังหวะที่นางเริ่มคล้อยตามปลดเปลือยอาภรณ์ที่กีดขวางให้พ้นทาง

ฮั่วซูเม่ยหลับตาพริ้มแหงนหน้ารับจูบ “อื้ม..อือ…”

เพราะเหตุใดร่างกายนางถึงไม่ขัดขืนกัน!?

นางเป็นนายหญิงของโรงเตี๊ยมไป๋ชานก็จริงทว่ากลับไม่เคยร่วมหลับนอนกับบุรุษใดมาก่อนนอกจากเซียนหยางชินอ๋อง

“อื้มม! …จ๊วบ!”

เซียหยางผละจูบออกอย่างอ้อยอิ่งเกรงว่าสตรีใต้ร่างจะขาดอากาศหายใจเอาได้

ภายในใจของนางรู้สึกเสียดายเล็กน้อย ทว่าฮั่วซูเม่ยกลับไม่ได้ร้องเรียกอันใด นางพลางหอบหายใจถี่จนหน้าอกกระเพื่อมสั่นไหวไปตามจังหวะ

“คิดจะยั่วยวนข้าไปถึงเมื่อไหร่กัน”

“ข้าเปล่า!”

!!!!

อารมณ์ของเซียนหยางพลุ่งพล่านจนแทบจะคลั่ง

นางเอ่ยยังไม่ทันจบประโยค จู่ ๆ ก็สัมผัสได้ว่ายอดปทุมทันของนางในตอนนี้กำลังถูกบุรุษผู้นี้ครอบครองดูดเม้มอย่าง เมามัน

“อะ…อ๊ะะ!” น้ำเสียงหวานสะดุ้งครวญครางออกมา

เซียนหยางควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ได้อีกต่อไป น้ำเสียงของนางที่เล็ดลอดออกมาเมื่อครู่ยิ่งกระตุกปลุกเร้าอารมณ์

ริมฝีปากหนาขบเม้มดูดยอดปทุมทันสีหวานเข้าปากอย่างหื่นกระหาย มืออีกข้างพลันออกแรงบีบนวดคลึงจนทะลักออกมาตามง่ามนิ้ว

นางเจ็บ…

และนางก็รู้สึกดีในคราเดียวกัน

ใบหน้าคนงามเหยเหความเสียวซ่าน ฮั่วซูเม่ยรู้สึกขนลุกซู่ไปทั่วทั้งร่าง

หากนางมีลูก..ลูกของนางจะดูดนมเช่นนี้ใช่หรือไม่

“อ๊ะ…อ๊ะเซียนหยาง!”

ฮั่วซูเม่ยหวีดร้องเสียงหลงสะดุ้งเมื่อจู่ ๆ บุรุษผู้นี้กับขบกัดยอดปทุมทันของนางจนฟันของขูดเข้าพลันรู้สึกเสียวสะท้านเล็กน้อย

“อื้มมม…” น้ำเสียงทุ้มครางแหบพร่าด้วยความพึงพอใจ

เซียนหยางชินอ๋องผละใบหน้าขึ้นมา สายตายังคงจดจ้องผลงานของตนเองที่กระทำกับหน้าอกอวบอิ่มของนางราวกับตีตราแสดงความเป็นเจ้าของไว้

“หึ! บุรุษพวกนั้นทำให้เจ้าเสียวซ่านได้เท่าข้าหรือไม่”

จู่ ๆ ในความคิดของเขาก็มีภาพของนางร่วมรักกับบุรุษผู้อื่นเขามาในหัว เซียนหยางไม่รู้ว่าในยามนี้ตนเป็นอันใดไปกันแน่

ฮั่วซูเม่ยได้ยินขมวดคิ้วไม่พอใจทันที

“ออกไปซะ!”

“ข้าถามแค่นี้โมโหแล้วหรือ”

“ท่านกำลังดูถูกข้า!” น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้น นางสบตาบุรุษตรงหน้าด้วยความจริงจัง

เซียนหยางชะงักเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นความรู้สึกวูบหนึ่งผ่านนัยน์ของสตรีใต้ร่าง “หากข้าพิสูจน์ได้ว่าบุตรในครรภ์ของเจ้าไม่ใช่ลูกข้า เมื่อถึงยามนั้นเจ้าได้กลายเป็นร่างไร้ลมหายใจแน่” เขาพลางเฉไฉพูดเรื่องอื่น

ยามนี้จะใช่หรือไม่ใช่อย่างไร

เขาก็ไม่อยากหยุดลงและลุกหนีไปได้ เซียนหยางรู้สึกปวดหนึบแก่นกายเหลือเกิน

ฮั่วซูเม่ยยกยิ้มเยาะ “เหอะ! กลัวว่าจะไม่ได้ร่วมรักกับข้าอย่างงั้นหรือ”

“เจ้า!”

“คิดว่าข้าโง่งมจนดูไม่ออกหรือไร”

นางไม่ได้โง่งมจนถึงขั้นปล่อยเนื้อปล่อยตัวตามอารมณ์ไป ฮั่วซูเม่ยวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว

นางทำกิจการจะยอมขาดทุนได้อย่างไร

พอได้ยินประโยคอวดดีของนาง อารมณ์ขุ่นเคืองในใจของเซียนหยางเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง เสมือนว่าการกระทำอ่อนโยนที่แสดงออกกับนางเสมือนเป็นการอ่อนข้อให้นาง “ในสายตาของข้าเจ้าก็เป็นเพียงสตรีไร้ค่าผู้หนึ่งเท่านั้นคุณหนูฮั่ว”

เซียหยางชินอ๋องขยับตัวต่ำลง จับเรียวขาของนางยกขึ้นพาดเอวสอบไว้ก่อนจะสอดแทรกเข้าลึกขึ้น

งดงาม

กลีบดอกไม้ตรงหน้าไฉนถึงแรกแย้มงดงามได้เพียงนี้

เขากัดฟันกรอดด้วยความปวดหนึบ

“ช้าก่อน!” ฮั่วซูเม่ยมองเห็นการกระทำแล้วร้องตกใจ “เบาแรงได้หรือไม่”

“ข้าเคยทำรุนแรงกับเจ้าด้วยหรือ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๖ ครอบครัวพร้อมหน้า

    ผู้ใดกันเอ่ยปากจะเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนบุตรสาวให้ดีไม่ตามใจนางจนเสียคนเกรงว่าคงเป็นฮั่วซูเม่ยกระมังที่หูฝาดได้ยินผิดไปเอง หากเอ่ยถึงเซียนหยางคนผู้นั้นน่ะหรือ…นางไม่เคยเห็นเขาปฏิเสธอาหนี่ว์เลยแม้แต่สักครึ่งคำด้วยซ้ำ“ท่านพ่อ!”น้ำเสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยขึ้นเสียงดังพลางกระโดดวิ่งเต้นตามหาผู้เป็นบิดาของตน“ท่านพ่ออยู่ที่ใดเพคะ!”“ท่านพ่อเจ้าค่ะ!”ฮั่วซูเม่ยถอนหายใจเฮือกใหญ่ พอนางได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้พลันรู้สึกปวดหัวตุบ ๆ ขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ “อาหนี่ว์! เสียงเจ้าดังจนทำเขาตกใจตื่นแล้ว”“เอะ! แอ้ๆๆ แอ้!” เสียงของเด็กทารกในห่อผ้าสะดุ้งพลันหวีดร้องไห้จ้าด้วยความตกใจเมื่อถูกรบกวน“น้องข้าตื่นแล้วหรือ” ซูหนี่ว์หยุดชะงักก่อนตะโกนถามออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ก็ใช่น่ะซิ!” ฮั่วซูเม่ยตะโกนตอบ“ชู่ว์~~ เข้าใจนางหน่อยอาหยวน พี่สาวของเจ้าก็เป็นคนเสียงดังเช่นนี้” ฮั่วซูเม่ยพลางอุ้มเด็กน้อยในห่อผ้าขึ้นแนบอก เกลี้ยกล่อมให้หยุดร้องไห้“ท่านแม่!”ซูหนี่ว์ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ตรงหน้ามารดา สายตาของนางมองเลยสอดส่องเข้าไปในห่อผ้าอย่างไม่วางตา “ส่งมาให้ข้าเถอะ”“…..”“แอ้! แอ้ๆๆๆ” ทารกยังคงตะเบ่งเสียงร้องไม่

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๕ บทสรุปของทุกอย่าง

    ‘หนึ่ง…คำนับฟ้าดิน’‘สอง…คำนับบิดามารดา’‘สาม…คำนับกันและกัน’‘ส่งตัวเข้าหอ’เสียงของแม่สื่อร้องตะโกนดังก้องประกาศขั้นตอนพิธีการสำคัญต่าง ๆ ตามหน้าที่ขนบธรรมเนียมผ่านมาเกือบปีแล้วในที่สุดก็ถึงเวลาเหมาะสมสำหรับ งานมงคลสมรสอย่างเป็นทางการเสียทีระหว่างเซียนหยางชินอ๋องและฮั่วซูเม่ยโดยมีฟ่านฮองเฮาจื่อฮ่องเต้เป็นผู้จัดการให้ทั้งสิ้นไม่ว่าจะสามหนังสือหรือหกพิธีการจัดแจงตามให้เหมาะสมในเมื่อฮั่วซูเม่ยตัดขาดไม่เกี่ยวข้องออกจากจวนสกุลฮั่วมานานแล้ว ดังนั้นฟ่านฮองเฮาจึงเป็นแม่งานฝ่ายเจ้าสาวให้ส่วนเซียนหยางชินอ๋องนั้นแม้ตอนแรกเขาเอ่ยปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเองทว่ากับถูกจื่อฮ่องเต้ข่มขู่หากไม่ได้ทำให้น้องชายร่วมอุทรผู้เดียวเกรงว่าตอนตายลงโลงไปคงไม่หลับตาแน่เป็นเช่นนี้แล้วคนทั้งคู่จึงไม่สามารถเอ่ยขัดได้เลยแม้แต่สักครึ่งคำจื่อฮ่องเต้นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรสวมใส่อาภรณ์สีทองแล้วยังปักด้วยดิ้นทองเป็นลวดลายมังกรน่าเกรงขามอีกหน เคียงข้างด้วยฟ่านฮองเฮาสวมใส่อาภรณ์ที่ตัดเย็บอย่างประณีตในชุดสีทองประดับลวดลายสวยงามเช่นกันเหล่าขุนนางสูงต่ำทั้งหลายและแขกมากมายต่างรายล้อมอยู่รอชื่นชมความงดงามของคู่บ่า

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๔ บุตรสาวหน้าตาคล้ายนาง

    ต้นฤดูไม้ใบผลิอากาศหนาวเริ่มคลายลงบ้างแล้ว ในขณะที่ช่วงยามนี้จวนชินอ๋องกำลังวุ่นวายบ่าวรับใช้และหมอหญิงหลาย สิบคนต่างกำลังเดินเข้าออกจากเรือนหลักหนึ่งทำหน้าที่ของตนเองเพียงเพราะฮั่วซูเม่ยสตรีของเซียนหยางชินอ๋องเจ็บท้องใกล้จะ คลอดแล้ว“อดทนอีกนิดเพคะ” ชิงอันพลางเอ่ยบอกอาการเป็นระยะฮั่วซูเม่ยนอนอยู่บนเตียง สภาพใบหน้าหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดฝาด “มารดาจะตายแล้ว!”นางรู้สึกหน่วงที่ท้องและเจ็บจริง ๆ“ใจเย็นเถอะ ๆ อีกไม่นาน” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นปลอบใจเซียนหยางยืนอยู่ข้างๆ เตียง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกระวนกระวายและไม่สามารถทำอะไรได้มากนอกจากจับมือนาง ไว้แน่นราวกับหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดนั้นได้เซียนหยางเห็นสภาพของนางเช่นนี้มาสองชั่วยามได้แล้ว หากเขาเจ็บแทนได้คงดีไม่น้อย“เมื่อไหร่นางจะคลอด”“…..”หมอหญิงสามสี่คนที่ตรวจดูอาการพอได้ยินน้ำเสียงทุ้มของชินอ๋องเอ่ยขึ้นนิ่ง ๆ จึงสะดุ้งตาม ๆ กัน “อีกไม่นานเจ้าค่ะ"อีกไม่นาน?“ข้าถามว่าเมื่อไหร่” สายตาคมกริบพลันปรายไปมอง ฉายความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด“เกรงว่าทารกน้อยผู้นี้คงจะตัวใหญ่ไม่น้อยถึงขั้นไม่ยอมออกเลยทำให้หวางเฟยเจ็บปวดไม่น้อย”

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๓ วันส่งท้ายปี

    พอได้ยินประโยคนี้แล้วฮั่วซูเม่ยตกใจเล็กน้อยก็จะปรายสายตาเหลียวไปมองเซียนหยางอยู่ข้าง ๆ ที่เอ่ยแทรกขึ้น“เกรงว่าคงทำให้พี่สะใภ้ผิดหวังแล้ว” เซียนหยางไม่มีทางยอมแน่ บุตรของเขาที่กำลังเกิดจากฮั่วซูเม่ยสมควรเรียกเขาว่าบิดาแค่เพียงผู้เดียวเท่านั้นสีหน้าของฟ่านฮองเฮาผิดหวังเล็กน้อย “เช่นนั้นหรือ” นางมีความรู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยผู้นี้ตั้งแต่ในครรภ์จริง ๆ ดูท่าแล้วออกมาคงหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มไม่น้อย“คงไม่เป็นอันใดกระมัง” นางหันไปพูดกับเซียนหยางก่อนจะปรายสายมากลับมามองสตรีตรงหน้าฮั่วซูเม่ยถือวิสาสะจับมือของฟ่านฮองเฮาไว้ก่อนจะวางลงบนท้องของตนเอง “ไฉนเจ้าเด็กนี้เขาจะไม่ดีใจกันมีท่านป้าเป็นถึงฮองเฮางดงามเพียงนี้” นางไม่ได้คิดมากอันใดอยู่แล้ว เพียงแค่มีคนเอ็นดูเจ้าเด็กคนนี้ตั้งแต่ในครรภ์ก็นับว่าเกินไปสักหน่อยแล้วจื่อฮ่องเต้พลางเดินเข้ามาโอบไหล่ภรรยาไว้ “หากเจ้าอยากมีนักเช่นนั้นให้ข้าลงมือได้เลยหรือไม่”ไฉนนางจะไม่อยากมีกัน…ว่ากันตามตรงแล้วเขาและนางก็ตบแต่งกันมาหลายปีแล้ว แต่กลับไม่มีวี่แววเลยว่าผู้เป็นภรรยาจะตั้งครรภ์เสียทีด้วยสุขภาพของนางที่เป็นอยู่ตอนนี้ฟ่านฮองเฮาส่ายหน้าพลางถอนหายใจ “สุขภาพข

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๒ เริ่มเข้าที่เข้าทาง

    “กลับมาแล้วหรือ”ฮั่วซูเม่ยรออยู่ในเรือนไม่ยอมนอนอยู่นานสองนานพอเห็นประตูถูกผลักเข้ามาปรากฏเรือนร่างกำยำคุ้นเคย นางจึงปากถามพลางลุกเดินเข้าไปหาเซียนหยางพลันถอยหลังหนี“ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าไม่ต้องรอ ไฉนยังไม่นอนอีก” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างเรียบนิ่ง สายตาคมกริบไล่สำรวจนางตั้งแต่บนลงร่างจงใจยั่วยวนเขาหรอกหรือ?อาภรณ์ชุดนอนผืนบางแนบสนิทไปกับเรือนร่างจนมองเห็นส่วนโค้งเว้าทุกส่วน เรือนผมดำปล่อยสยายยาวอยู่หลัง“บอกแล้วอย่างไรว่าจะรอ” ใบหน้าคนงามระบายยิ้มกว้าง นางมองเข้าไปในนัยน์ตาคมกริบคู่นั้นจึงเห็นความรู้สึกผิดที่ถูกกลบเกลื่อนเอาไว้เล็กน้อย“……” “ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือไม่” ฮั่วซูเม่ยเดินไปอีกครั้งแต่เซียนหยางก็พลันถอยห่างอีก นางจึงขมวดคิ้วมุ่นทันทีคราแรกที่บุรุษผู้นี้ทำเช่นนี้นางจึงคิดเสียว่าเขาอาจจะตกใจก็ได้ ทว่าพอเป็นเช่นนี่ฮั่วซูเม่ยรู้ว่าเริ่มไม่ปกติแล้ว“เนื้อตัวข้าสกปรกยังไม่ทันได้อาบน้ำ” เซียนหยางเอ่ยอย่างเร่งรีบเกรงว่านางจะเข้าใจผิดเอาได้หาว่าเขารังเกียจฮั่วซูเม่ยไล่สายตาสำรวจสังเกตจึงพบว่าฝ่ามือของบุรุษผู้นี้นั้นมีคราบสีแดงคลายเลือดแห้งติดอยู่ ดวงตาเมล็ดซิ่งค่อย ๆ เงยขึ้นส

  • วาสนานี้เป็นของข้า   ๓๑ เป็นรองเพียงนาง

    การแต่งงานของฮั่วซูเม่ยและเซียนหยางถูกจื่อฮ่องเต้กำหนดไว้ล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงอย่างไรเซียนหยางก็เป็นน้องชายร่วมอุทรผู้เดียวของจื่ออ๋องเต้ย่อมต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่ไม่น้อยหน้าผู้ใดแน่จื่ออ๋องเต้นั่งพูดคุยอยู่จวนชินอ๋องต่อราวหนึ่งก้านธูปเห็นว่าคงรบกวนเวลาพักผ่อนของน้องสะใภ้มากเกินไปจึงไม่รั้งอยู่ต่อ “วันหน้าเจ้าก็พานางเข้าวังไปพบพี่สะใภ้เสีย”ฮั่วซูเม่ยระบายยิ้มจาง ๆ “เกรงว่าคงจะรบกวนฝ่าบาทเกินไปแล้วเพคะ”“เหอะ! รบกวนอันใดกันนับว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”ในความคิดของนางจื่อฮ่องเต้ผู้นี้เป็นถึงผู้ปกครองแคว้นเหนือกว่าผู้คนหลายพันหลายหมื่นชีวิตแต่กลับไม่หยิ่งทะนงถือตัวเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกประหม่าในคราแรกจึงคลายลงไปหมดสิ้นเซียนหยางกำลังจะอ้าปากปฏิเสธแล้วแต่พอเหลียวเห็นรอยยิ้มของสตรีข้างกายเป็นอันต้องกลืนคำพูดนั้นลงท้องไป เกรงว่าหากนางอยู่แต่จวนคงเบื่อหน่ายไม่น้อยได้พูดคุยกับผู้อื่นคงดี“เจ้าอยากไปหรือไม่”ฮั่วซูเม่ยพลางทำท่าครุ่นคิดสักเล็กน้อย “หากเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วเช่นนั้นข้าสมควรต้องคารวะพี่สะใภ้เสียหน่อยแล้ว”“ดี!” จื่อฮ่องเต้ตอบรับหัวเราะเบา ๆ “นางต้องเอ็นดูเจ้าเหม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status