Masuk“กรี๊ดดด!!!”
ที่สุดแล้วเธอก็กรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ก๊อกๆๆ
“น้องคริส เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” ช่างแต่งหน้ารีบเดินมาเคาะประตูห้องน้ำ
คาริสาโกรธจนตัวสั่น ในอกเดือดพล่านแต่ในสมองกลับว่างเปล่า คล้ายกับระบบประมวลผลหยุดทำงานไปชั่วขณะ แต่สิ่งที่เธอไม่สามารถห้ามหรือหยุดมันไม่ได้เลยคือน้ำตา เพราะไม่ว่าจะพยายามปาดมันออกกี่ครั้ง ก็ยังมีหยดใหม่ไหลเติมลงมาเสมอ
ก๊อกๆๆ
“น้องคริสคะ น้องคริส”
คาริสาประคองตัวเองขึ้นอย่างยากลำบากเพราะสองขาของเธอแทบไม่มีแรง ยืนมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกด้วยอาการเหม่อลอย ใจยังสั่นไม่หาย
เวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงของวันนี้ ควรเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของเธอ เป็นวันที่พ่อกับแม่ของเธอจะได้ยิ้มกว้างๆ ดีใจที่ได้เห็นเธอมีความสุข เธอควรได้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่ทุกอย่างกลับตรงกันข้ามกับภาพที่เธอวาดฝันเอาไว้อย่างสิ้นเชิง
ก๊อกๆๆ
“น้อง...”
คาริสาเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วฝืนยิ้มให้ช่างแต่งหน้าที่เธอติดต่อจองคิวเอาไว้ตั้งแต่เมื่อสี่เดือนก่อน ทุกคนตกใจเมื่อเห็นว่าใบหน้าของเธอเปื้อนน้ำตา
“มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะน้องคริส”
“นิดหน่อยค่ะ” เธอกลืนทุกอย่างกลับลงอก ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาอีกครั้ง “คริสขอยกเลิกทุกอย่างค่ะ”
“หา!”
“คริสยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด โอนเงินให้ครบจำนวนตอนนี้เลยค่ะ”
“เดี๋ยวค่ะน้องคริสคะ เรื่องมันเป็นยังไงมายังไงคะ พอบอกพวกพี่ได้ไหม”
ยิ่งถูกถาม เธอยิ่งสะอื้น แม้จะพยายามฉีกยิ้ม แต่ข้างในแตกสลายไม่มีชิ้นดี
“ไม่มีอะไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ขอโทษที่ทำให้เสียเวลาค่ะ”
แม้จะเจ็บปวด แต่ใครจะกล้าพูดว่าตอนนี้เจ้าบ่าวของเธอกำลังยืนเอาอยู่กับผู้หญิงในผับ ได้แต่ยื่นโทรศัพท์มือถือไปสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงินค่าแต่งหน้าทำผม ทั้งงานเช้าและงานเลี้ยงตอนเย็น รวมถึงรับผิดชอบในส่วนของไอ้สารนั่นด้วย แต่เดี๋ยวมันได้ชดใช้คืนอย่างสาสมแน่!
จ่ายเงินเรียบร้อยทีมช่างแต่งหน้าก็พากันเดินออกไปอย่างงงๆ สายตาของทุกคนมองมาที่เธอเริ่มกังวล แต่ไม่มีใครกล้าถาม
ตื๊ดๆ
ภูมิพัฒน์ >>> Sent VDO
ตื๊ดๆ
ภูมิพัฒน์ >>> เผื่อเก็บไว้ฟ้อง
คาริสาอ่านข้อความแล้วคาดเดาได้ทันทีว่าคลิปวิดีโอที่ภูมิพัฒน์ส่งมาคือคลิปวิดีโออะไร เธอไม่พร้อมจะเปิดดูจึงตัดสินใจปิดหน้าจอแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบเบียร์ออกมาเปิดดื่ม ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ไปเรื่อยๆ
ปัก!
เบียร์หมดไปกระป๋องแล้วกระป๋องเล่าจนเริ่มมึนหัว แต่เธอต้องย้อมใจเรียกความกล้าก่อนจะไปบอกความจริงกับทุกคน โดยเฉพาะกับพ่อแม่ของเธอที่พักอยู่ที่ชั้นล่าง แม้มันจะเป็นเรื่องน่าอาย แต่คนที่สมควรอายไม่ใช่เธอ
เมื่อคิดว่ามีความพร้อม เธอจึงพาตัวเองออกจากห้องพัก ประคองตัวเองเดินโซซัดโซเซแบกความเจ็บปวดและสิ้นหวังไปที่ลิฟต์ แตะปลายนิ้วลงบนชั้นล่างสุดเพราะตั้งใจจะไปที่ห้องจัดเลี้ยง สายตาพลันสะดุดกับเล็บเจลที่เพิ่งจะทำเมื่อวันก่อนแล้วยิ่งรู้สึกแตกสลาย เพราะแม้แต่ลวดลายบนเล็บของเธอก็ยังเป็นชื่อของเธอกับเขา
ติ๊ง!
คาริสาก้าวออกจากลิฟต์ทั้งน้ำตา เดินตรงไปที่ห้องจัดเลี้ยง ซึ่งด้านนอกมีทีมงานนับสิบชีวิตอดหลับอดนอนเพื่อช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ การปรากฏตัวของเธอทำให้ทุกคนหันมามองด้วยความตกใจ
ใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตา ท่าทางการเดิน หรือแม้แต่กระป๋องเบียร์ในมือเป็นสัญญาณที่บอกให้ทุกคนรู้ว่าสถานการณ์ไม่ปกติ
“คุณคริสคะ”
“รบกวนทุกคนออกไปก่อนค่ะ”
“คือว่า...”
“คริสจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง แต่ไม่ต้องทำต่อแล้วค่ะ” กล้ำกลืนฝืนพูดจนจบประโยค
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะคุณคริส”
“ออกไปค่ะ” เธอย้ำอีกครั้งพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบห้องจัดเลี้ยง ทีมงานออแกไนซ์พากันเลิ่กลั่กก่อนจะเชื่อฟังคำสั่งของหัวหน้าทีมที่รีบสะบัดมือไล่ ส่งสัญญาณให้ทุกคนรีบออกไปตามที่เธอต้องการ
รอจนประตูห้องจัดเลี้ยงปิดลงเธอจึงถอนหายใจ พาตัวเองมายืนอยู่ท่ามกลางดอกกุหลาบสีขาวที่เธอชอบ ชื่นชมบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักและความโรแมนติก สูดกลิ่นของความอบอุ่น ทั้งหมดนี้ควรทำให้เธอยิ้มได้ แต่ไม่เลยสักนิด หัวใจของเธอกำลังทุกข์ระทม รสชาติของการถูกหักหลังมันขมเสียยิ่งกว่าการกลืนบอระเพ็ด
โรงแรมอินทูทัชห้อง 1203คาริสากวาดสายตามองไปรอบห้องพักที่จองเอาไว้แล้วเหยียดยิ้ม ก้าวเท้าตรงเข้าไปด้านในเพราะตั้งใจนัดพบกับปัตถ์พงษ์ที่นี่โดยเฉพาะเธอตั้งใจเลือกห้องนี้เพราะมันเป็นที่วิวดีที่สุด และที่สำคัญมันห้องพักที่ครั้งหนึ่งเคยเกือบเป็นห้องหอของเธอกับมัน!“มานานแล้วเหรอ”เอ่ยถามคนที่นั่งรอเธออยู่ด้านในอย่างใจเย็นปัตถ์พงษ์ที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว หันกลับมามองเธอด้วยสายตาเคียดแค้น“ฝีมือเธอสินะ”“ใช่ ฝีมือฉันเอง ฉันตั้งใจจองห้องนี้ไว้เพื่อนายโดยเฉพาะ ต้องจองล่วงหน้าตั้งเกือบเดือนแน่ะ” เธอบอกยิ้มๆ พร้อมกับมองอีกฝ่ายกลับไปด้วยสายตาท้าทายปัตถ์พงษ์กำหมัดแน่นด้วยความโกรธก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาเรื่องเธอทันที“อย่ามาไขสือกับฉันนะคริส”“อ้าว นายไม่ได้หมายถึงเรื่องห้องหรอกเหรอ” คาริสาแสร้งทำหน้าตาแปลกใจใส่“จะเอายังไง”“ถามฉันเหรอ”“ใช่ เลิกแล้วต่อกันไปไม่ได้หรือไง ฉันไม่ยุ่งกับเธอ เธอก็อย่ามายุ่งเรื่องของฉัน” คาริสาแทบระเบิดหัวเราะตอนได้ยิน ไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าปัตถ์พงษ์ที่ตามตื๊อจนน่ารำคาญจะพูดคำว่าเลิกแล้วต่อกันออกมาเต็มปาก“ฉันก็ไม่ได้ยุ่งเรื่องอะไรของนายสักหน่อยนี่”“อย่าคิดว่าฉันไม่ร
บริษัท ห้องประชุม 03 “ถ้าไม่มีอะไรแล้วรบกวนแก้ไขตามที่ผมแจ้ง แล้วส่งให้ผมตรวจสอบอีกทีก่อนวันศุกร์” ภากรสั่งทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมทันทีสมุทรที่ยืนรออยู่หน้าห้องประชุมเร่งฝีเท้าเดินตามกลับมาติดๆ“มีอะไร”“คนของเราบอกว่าปัตถ์พงษ์ไม่ได้กลับคอนโดมาหลายวันแล้วครับ พบล่าสุดที่ร้านกาแฟใกล้กับโรงพยาบาล ก่อนวันที่คุณภากานต์จะกลับบ้าน หลังจากนั้นก็หาตัวไม่เจออีกเลยครับ”“เช็กให้แน่ใจว่าคนใกล้ตัวมันมีใครเคลื่อนไหวอะไรบ้าง บางทีช่วงนี้ดวงมันอาจใกล้จะถึงฆาตแล้วก็ได้” ภากรกำชับเสียงเข้ม“ตรวจสอบทั้งหมดแล้วครับ ทุกคนปกติดี ไม่มีความเคลื่อนไหว ผู้หญิงที่มันคบซ้อนกันอยู่ตอนนี้มี 3 คน ทุกคนเริ่มตีตัวออกหาก ช่วงหลังมันเริ่มหยิบยืมเงินเพื่อนฝูง แต่ส่วนมากจะถูกปฏิเสธเพราะทุกคนรู้ไส้รู้พุงมันหมดครับ” สมุทรรายงานอย่างละเอียดดวงตาของภากรหรี่แคบลงเมื่อครุ่นคิด “แล้วเรื่องที่มันจะได้เลื่อนตำแหน่งล่าสุดล่ะ”“ถูกชะลอเอาไว้ตั้งแต่ที่คุณคาริสายกเลิกงานแต่งงานครับ สืบจากคนระดับสูงในบริษัทพบว่าแม่ของคุณคาริสาเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ อ้อ อัปเดตล่าสุดจากคนของเราเมื่อช่วงบ่าย แม่ของปัตถ์พงษ์เข
“คะ คุณลบคลิปนั่นเหรอ”“ค่ะ สบายใจได้แล้วนะคะ ตอนนี้มันขู่อะไรคุณไม่ได้แล้ว เลิกเป็นบ้าก่อนที่พี่คุณจะเป็นบ้าตามคุณเถอะนะคะ ถือว่าฉันขอ ฉันอยากได้เวลาเดตกับเขาบ้าง แต่คุณอาละวาดทีไร พยาบาลโทรตามเขามาโรงพยาบาลทุกทีเลยค่ะ” คาริสาบอกยิ้มๆ ยกมือขึ้นกดหัวที่ถูกก้นแก้วกระแทกเมื่อครู่ รู้ได้ทันทีว่ามันบวมขึ้นมา“พะ พี่...”ภากรถอนหายใจก่อนจะรีบเดินไปกอดน้องสาวเอาไว้ทันที เห็นแบบนั้นคาริสาจึงทิ้งตัวนั่งลงอย่างหมดแรง ขนมผิงรีบเดินมาดูอาการ“เจ็บไหมคะ”“โอ้โห ต้องถามอีกเหรอคะพี่ผิง” เสียงกระซิบของเธอทำขนมผิงต้องกลั้นหัวเราะ เพราะแม้จะเจ็บแต่ก็ยังยิ้มอารมณ์ดี“ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะคะ”“ชินแล้วค่ะ แต่ปกติพี่ก็ไม่เคยโดนอะไรปาหัวนะคะ”คาริสาเบะปากใส่ไปทีหนึ่ง“เดี๋ยวพี่ไปขอเจลพี่พยาบาลมาให้ค่ะ”“ขอบคุณค่ะ”กระซิบกระซาบพลางหัวเราะกันคิกคักๆ ในขณะที่ภากรกอดน้องสาวเอาไว้แนบอก เธอไม่พูดไม่จา เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่ก็ยอมกอดเขาเป็นครั้งแรกหลังจากที่ปั้นปึ่งและไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้มาร่วมสองเดือนคาริสามองแล้วได้แต่ยิ้ม อย่างน้อยการที่เธอเจ็บตัวครั้งนี้ก็น่าจะคุ้ม“กานต์ขอโทษค่ะพี่กร”“ช่างมันเถอะ ต่อไปน
โรงพยาบาลก๊อกๆๆภากรเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไปทันทีอย่างทุกทีคาริสารู้สึกประหม่าอยู่ไม่น้อย เพราะลึกๆ แล้วเธอก็ยังรู้สึกว่าเธอไม่ควรมา แต่หากเธอไม่มา เขาคงไม่สบายใจลำคอของคาริสาแห้งผากเมื่อเดินเข้าไปด้านในห้องพักแล้วพบกับขนมผิงนั่งอยู่ข้างเตียง เธอไม่ได้สวมชุดพยาบาล เหมือนว่าวันนี้จะรับหน้าที่มาดูแลภากานต์เป็นพิเศษ ไม่ได้ต้องทำหน้าที่พยาบาลของโรงพยาบาลพร้อมกันอย่างที่เจอกันครั้งก่อนสายตาของขนมผิงมองมาที่มือของเธอที่ภากรจับไว้ ในขณะที่เธอมองหน้าอีกฝ่าย สลับกับสายตาอิดโรยของคนที่นอนอยู่บนเตียง ห่มผ้ามิดชิดจนถึงหน้าอก“เราขอคุยกับผิงหน่อยสิ”“อืม ได้สิ”“ข้างนอกแล้วกัน” ภากรยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วรอให้เธอนำออกไป ก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มให้คาริสา “คุณรอผมแป๊บหนึ่งนะ”“ค่ะ” คาริสายิ้มให้เขาสบายใจ รอจนเขาเดินออกไป เธอจึงหันไปส่งยิ้มให้กับน้องสาวของเขาที่มองมาพอดี“สวัสดีค่ะคุณกานต์”“คุณคบกับพี่กรเหรอ”“ฉัน...” จะตอบอย่างไรดีนะ “ค่ะ”ตอบไม่ถูกก็ต้องเลือกพูดความจริงสิ พอยืนยันออกไปแล้วกลับถูกอีกฝ่ายเมินใส่ หมายความว่าอย่างไรกัน“คุณไม่ชอบฉันตรงไหนเหรอคะ” คาริสาไม่ใช่คนที่จะเมินเฉยกับเรื่องอะไร
“คลิปวิดีโอในไดร์ฟค่ะ ซื้อพื้นที่เก็บเพิ่มเติมจากปกติ ชื่อไฟล์เหมือนจะเป็นรหัสอะไรก็ไม่รู้ เปิดไฟล์ก็ต้องใช้รหัส” คาริสาชี้นิ้วไปที่หน้าจอ ที่แม้ว่าเธอจะเลือกดูเฉพาะไฟล์ที่เป็นคลิปวิดีโอแล้ว แต่ก็ยังมีเยอะมากจนตาลาย“แสดงว่าน่าจะทำมานานแล้ว แบบนี้จะรู้ได้ยังไงว่าคลิปไหนคืออะไร”“สำคัญเหรอคะ”“อ้าว ก็...”“ฟิ้ว” คาริสาผิวปากหลังจากกดเลือกทั้งหมดแล้วลบทันที “รหัสเดียวกันหมดเลยเหรอ”“ค่ะ แค่สลับจากตัวท้ายกลับขึ้นมา เดาถูกเฉย ฮ่าๆ” เธอหัวเราะด้วยความสะใจ ในขณะที่ภากรยืนอึ้งเพราะไม่คิดว่าเธอจะลบทั้งหมดไปต่อหน้าต่อตา“ถือโอกาสเคลียร์ไดร์ฟไปเลยแล้วกันนะ”“ข้อมูลนั่น...”“ช่างหัวมันเถอะค่ะ ฟิ้ว บ๊ายบาย” คาริสาโบกมือลาหน้าจอแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความภูมิใจ ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยเพราะไม่ได้ใส่ใจ มัวแต่หาข้อมูลจากภายนอกภากรถอนหายใจพลางยกมือขึ้นกุมขมับกับความแสบของเธอ“เรียบร้อยค่ะ ฉันคิดว่าไม่น่ามีที่สำรองคลิปเอาไว้ที่ไหนแล้วไหนแล้วเพราะคงไม่คิดหรอกว่าฉันจะเปิดดู”“ที่ผ่านมาคุณไม่เคยเข้าไปเช็กเลยเหรอ” ภากรอดจะถามไม่ได้“ไม่ค่ะ ผิดที่ฉันชะล่าใจมากไปเอง ไม่คิดว่ามันจะเก็บอะไรแบ
“สวัสดีค่ะพ่อ”ภากรอึ้งไปทันทีที่รู้ว่าเธอโทรหาพ่อ“คริสมีเรื่องรบกวนพ่อนิดหน่อยค่ะ คริสอยากได้ข้อมูลการเงินของปัตถ์ค่ะ”[ลูกจะเอาข้อมูลของเขาไปทำไม]“เขาติดการพนันค่ะ”[แต่เขาก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราแล้วนี่ หรือเขายืมเงินของลูกไป]“ไม่ใช่เงินคริสหรอกค่ะ แต่เป็นน้องที่คริสรู้จักค่ะ พ่อช่วยคริสหน่อยนะคะ สัญญาว่าจะเป็นเด็กดี”[ไปสัญญาหลอกแม่เราเถอะ]“พ่ออะ ช่วยคริสหน่อยนะคะ ถ้าพ่อไม่ช่วย คริสจะฟ้องแม่ว่าพ่อซุกเงินไว้ที่หนังสือเล่มที่ห้า ชั้นที่สอง”[จะสั่งฤทธิ์ให้แล้วกัน]“เมื่อไรคะ”[สามวัน]“สามสิบนาทีค่ะ”[ยัยคริส]“รักค่ะ จุ๊บๆ” คาริสาบอกอย่างอารมณ์ดีแล้วกดวางสาย ก่อนจะวางโทรศัพท์ทิ้งไว้บนโต๊ะแล้วหันกลับมาสนใจหน้าจอที่เธอตั้งใจจะเข้าเช็กอีเมล“อีเมลคุณ?”“ปัตถ์พงษ์ค่ะ”“แล้วคุณรู้พาสเวิร์ด”“แหงสิคะ แต่ฉันไม่ได้ข่มขู่เอาของมันมาหรอกนะคะ มันเป็นคนบอกฉันเองทั้งหมด จะเฟสบุ้ค ทวิตเตอร์หรือไอจี ฉันก็เข้าได้ทั้งนั้น”“เหอะ”“ขำอะไรคะ” คาริสาช้อนตามมองเพราะรู้สึกไม่พอใจเสียงแค่นหัวเราะของเขาสักเท่าไรนัก“ขำที่คุณรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมัน แต่ทำไมถึงไม่รู้ว่ามันนอกใจ” ภากรอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถา







