เช้าวันต่อมา...
ภายในห้องอาหารสุดหรูของตระกูลเฮนเดอร์สัน แคทเธอรีนนั่งหัวโต๊ะแทนสามี เพราะลาซาลอสมีธุระต้องบินไปประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เช้ามืด
ชาร์ลีนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวที่เขานั่งเป็นประจำ แต่ไลลากลับถูกแคทเธอรีนเรียกให้มานั่งอีกฝั่งหนึ่ง ไม่ยอมให้หญิงสาวนั่งใกล้กับลูกชายของตนเอง
“ตอนนี้แม่ได้ผู้หญิงทั้งสิบที่จะมาชิงตำแหน่งเจ้าสาวของลูกแล้วนะชาร์ลี”
“ครับ”
ชาร์ลีตอบรับเสียงเรียบ สีหน้าไม่ได้มีความยินดียินร้ายอะไรเลย ซึ่งนั่นก็ทำให้ไลลาที่ลอบมองอยู่พอใจ เพราะทำให้หล่อนรู้ว่าชาร์ลีรักหล่อนเพียงคนเดียว
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะลูก ไม่ตื่นเต้นเลยเหรอ”
“ไม่ครับ”
แคทเธอรีนรู้ทันความคิดของชาร์ลี จึงพูดดักคอขึ้น “ถึงลูกจะไม่ตื่นเต้น แต่แม่ตื่นเต้นมาก ดังนั้นในงานเลี้ยงเย็นวันนี้ ลูกจะต้องเลือกหนึ่งในสิบสาวสวยพวกนั้นมาเป็นเจ้าสาวของตัวเอง ซึ่งแม่อยากจะให้ลูกพิถีพิถันในการเลือกให้มากที่สุด”
“ครับ”
คนเป็นแม่หมั่นไส้ลูกชายในอกนักที่ทำหน้าเย็นชา น้ำเสียงเฉยเมย แต่ก็ไม่รู้จะจัดการยังไงดี จึงเลือกที่จะหันมาพูดคุยกับลูกสาวบุญธรรมแทน
“เธอก็ต้องมาร่วมงานเลือกคู่ของพี่ชายเธอด้วยนะไลลา”
เพล้งงงง
ช้อนในมือเล็กของไลลาหลุดจากอุ้งมือลงกระแทกจานจนเกิดเสียงดัง
“ไลลาเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
ชาร์ลีรีบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ทั้งน้ำเสียงทั้งแววตานั้นบอกให้รู้ได้เป็นอย่างดีว่าไลลาเป็นคนพิเศษสำหรับตนเองแค่ไหน
“ไม่... ไม่เป็นไรค่ะพี่ชาร์ล”
ไลลาตอบ ก่อนจะช้อนตามองแคทเธอรีนอย่างกล้าๆ กลัว
“เอ่อ... หนูไม่มาร่วมงานไม่ได้เหรอคะท่านแม่”
“ทำไมล่ะ”
“คือหนู... อยากจะพักผ่อนน่ะค่ะ และอีกอย่างหนึ่ง งานนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับหนูเลย”
“แต่ฉันว่าเธอควรจะมาเป็นกำลังใจให้พี่ชายของเธอนะ ไลลา”
แคทเธอรีนเน้นคำว่าพี่ชายชัดเจน เพื่อให้คู่สนทนารู้ว่า ทั้งสองคนเป็นได้แค่พี่ชายกับน้องสาวเท่านั้น
“ค่ะ ท่านแม่”
แคทเธอรีนยิ้มบางๆ อย่างพึงพอใจ ก่อนจะเลื่อนสายตาไปจ้องหน้าลูกชายแทน
“พ่อชาร์ลอยากจะดูรูปถ่ายของผู้หญิงทั้งสิบคนก่อนไหม แม่จะได้ให้เลขาฯ ส่งไปให้ที่ธนาคาร”
“ไม่ครับ”
“พ่อชาร์ลคงต้องการตื่นเต้นทีเดียวในตอนเย็นใช่ไหมล่ะ”
แคทเธอรีนอมยิ้มชาร์ลีเงยหน้าขึ้นจากจานอาหารเช้า สบตากับมารดา และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“เพราะมันไม่ใช่เรื่องสำคัญต่างหากล่ะครับ สำหรับผม ตอนนี้ใครจะมาเป็นเจ้าสาวก็เหมือนๆ กันทั้งหมดนั่นแหละ” ยิ่งใกล้ถึงเวลาที่ตนเองต้องแยกจากไลลา เขาก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดทรมาน “ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”
แคทเธอรีนหน้าเครียดขึ้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา นอกจากผงกศีรษะอนุญาตตามความต้องการของลูกชาย
ชาร์ลีเลื่อนสายตาจากมารดามามองหน้าไลลา และทั้งคู่ก็สบตากันอยู่เสี้ยววินาที ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกไปจากห้องอาหาร ไลลากำลังจะลุกตาม แต่แคทเธอรีนรั้งเอาไว้
“จะไปไหนล่ะไลลา”
“หนูอิ่มแล้วค่ะท่านแม่”
“นั่งอยู่เป็นเพื่อนฉันก่อน”
“แต่ว่า...”
ไลลาเต็มไปด้วยความลำบากใจ เพราะต้องการจะออกไปพบชาร์ลีก่อนที่เขาจะไปทำงาน
“นั่งอยู่กับฉันก่อน”
เสียงของแคทเธอรีนเข้มข้นขึ้น จนหล่อนหมดทางปฏิเสธได้อีก “ค่ะ ท่านแม่”
แคทเธอรีนระบายยิ้มพึงพอใจ
“เธอทำได้ดีมาก ช้องนาง”
เกสรากล่าวชมเชยหล่อนหลายต่อหลายครั้ง หลังจากรู้ว่าหล่อนสามารถเข้ารอบสิบคนสุดท้ายได้สำเร็จ ในขณะที่หล่อนเองกลับไม่ค่อยดีใจสักเท่าไร
‘ก็ฉันบอกแล้วไงว่า ถึงเธอจะผ่านทุกด่านมาแล้ว แต่ฉันไม่มีทางเลือกเธอ กลับไปซะเถอะ เธอไม่ใช่สเปคของฉัน’
คำพูดของชาร์ลียังดังก้องอยู่ในหู และมันก็ลดทอนความมั่นใจของหล่อนให้ติดลบลงทุกขณะ
“ทำหน้าให้มันดีใจหน่อยสิ ช้องนาง”
“ค่ะ อาเกส”
หล่อนจำต้องฝืนยิ้มออกมา ขณะมองช่างแต่งหน้ากับช่างทำผมเลือกชุดราตรีที่จะให้หล่อนสวมใส่ในค่ำคืนนี้
“สีชมพูก็สวยหวานดีนะคะคุณเกส” เชอร์รี่ซึ่งเป็นสาวประเภทสองเอ่ยขึ้น
“แต่ฉันว่าสีแดงดูเผ็ดกว่านะ”
กะทิสาวประเภทสองอีกคนแย้งขึ้น
“ไม่สวยทั้งสองชุดนั่นแหละ”
เกสราปฏิเสธเสียงดังฟังชัด ก่อนจะเดินไปหยุดชุดราตรีสีทองขึ้นมาชูให้เห็น
“ชุดนี้เหมาะที่สุด เรียบหรู ดูแพง และสมกับเป็นว่าที่เจ้าสาวของผู้ชายที่ทั้งหล่อทั้งรวยอย่างคุณชาร์ลี เฮนเดอร์สัน”
คุณอาของหล่อนระบายรอยยิ้มพึงพอใจ ในขณะที่หล่อนทำหน้ากระอักกระอ่วนใจ เพราะชุดราตรีสีทองแนบเนื้อมันยาวกรอมข้อเท้าก็จริง แต่มันผ่าสูงจนถึงขาอ่อน แถมตรงช่วงหน้าอกก็ยังคว้านลึกจนทำให้ก้มหน้าไม่ได้เลย เพราะเต้านมคงจะทะลักออกมาทั้งหมด
“ชุดนี้... มันผ่าสูงไปนะคะอาเกส”
“ไม่ได้ผ่าสูงไปหรอกน่ะ เชื่ออาเถอะ ใส่ชุดนี้แล้ว เธอเกิดแน่ช้องนาง”
“นาง...”
“ทำตามที่อาบอก แล้วทุกอย่างจะดีเอง ลืมไปแล้วหรือไงว่าเป้าหมายของเธอคืออะไร”
หล่อนทำได้แค่เพียงนิ่งเงียบ และก้มหน้าลงมองมือที่ประสานกันบนตักของตนเองเท่านั้น
ไลลาแอบเอาโทรศัพท์มือถือติดตัวเข้ามาในห้องน้ำ จากนั้นก็ส่งข้อความหาชาร์ลีเป็นเชิงตัดพ้อ
ไลลาพูด... “พี่ชาร์ลคะ น้องเจ็บเหลือเกินค่ะ น้องไม่รู้ว่าจะทนฝืนยิ้มอยู่ได้ไหม เวลาที่เห็นพี่ชาร์ลเลือกผู้หญิงสวยๆ พวกนั้นมาเป็นเจ้าสาว”
ชาร์ลีพูด... “ไลลาอย่าคิดมากนะครับ ผู้หญิงโชคร้ายคนนั้นจะเป็นแค่เพียงหุ่นเชิดของเราสองคนเท่านั้น เพราะพี่รักไลลาคนเดียว เชื่อใจพี่นะไลลา”
ไลลาพูด... “ค่ะ น้องจะเชื่อใจพี่ชาร์ลค่ะ น้องรักพี่ชาร์ลมากนะคะ ถ้าไม่มีพี่ น้องคงอยู่ต่อไปไม่ได้”
ชาร์ลีพูด... “พี่ก็เช่นกัน พี่รักไลลามาก เราสองคนจะมีกันและกันตลอดไปครับ”
ไลลาพูด... “น้องคิดถึงพี่ชาร์ลจังเลยค่ะ คืนนี้ก่อนเริ่มงานเลี้ยงงี่เง่าน่าเบื่อนั่น พี่มาหาน้องที่ห้องสมุดนะคะ น้องจะรอพี่อยู่ที่นั่นค่ะ”
ชาร์ลีพูด... “ตกลงครับไลลา แล้วเจอกันนะครับ”
ไลลาส่งสติกเกอร์รูปหัวใจไปให้กับชาร์ลีเป็นการจบบทสนทนาลับ จากนั้นหล่อนก็หย่อนโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋ากระโปรงยาว และเดินออกไปจากห้องน้ำ ดวงหน้านวลเต็มไปด้วยรอยยิ้มพึงพอใจมากมาย
ช้องนางที่ยืนทอดสายตามองออกไปยังสวนสวยผ่านระเบียงห้องนอนสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อถูกอ้อมแขนอบอุ่นที่แสนคุ้นเคยสวมกอดเข้ามาทางด้านหลัง“อุ้ยยย คุณชาร์ล...”คนตัวโตที่เพิ่งกลับจากทำงานระดมจูบซอกคอระหง “คิดถึงจังเลยครับที่รัก...”“แหม เราเพิ่งห่างกันแค่แปดชั่วโมงเองนะคะ”“แค่ชั่วโมงเดียว ผมก็จะขาดใจตายอยู่แล้วล่ะ”ร่างของหล่อนถูกจับให้หมุนกลับมาเผชิญหน้ากับสามีสุดหล่อ เขาโน้มหน้าลงมาจูบหน้าผากแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนเลยลงมาจูบปากอิ่ม สาวน้อยเผยอปากรับจูบตอบ“แอบไปกินน้ำผึ้งมาหรือเปล่าเนี่ย ทำไมปากหวานจัง”“คุณชาร์ลน่ะ...”หล่อนระบายยิ้มเอียงอาย สองพวงแก้มแดงระเรื่อ หัวใจพองฟูคับแน่นอก ตั้งแต่กลับมาเลแวนต้าอีกครั้ง ชีวิตของหล่อนก็เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียวชาร์ลีรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้เอาไว้กับหล่อนตอนที่ตามไปง้อที่เมืองไทยเป็นอย่างดี เขาปฎิบัติตัวกับหล่อนด้วยความรัก เอาใจใส่ และทำหน้าที่ของสามีที่ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แถมคำว่ารักจากปากของเขาก็ยังกระซิบพร่ำบอกข้างหูทุกค่ำคืนหล่อนมีความสุข... จนไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่กำลังได้รับอยู่มันคือความจริง“คิดถึงผมไหม...” เขาก้มหน้าหล่อๆ ล
บนเตียงนอนของหล่อนยุ่งเหยิงยับเยิน เมื่อสองร่างเปลือยเปล่ากำลังคลุกเคล้าโรมรันกันอย่างดุเดือด กายสาวบิดเร่าๆ เมื่อถูกชาร์ลีปลุกเร้าจนร้อนราวกับเปลวเพลิงเขาจูบ เขาดูดปาก ล้วงลิ้นร้อนๆ เข้ามาหา รัดรึงลิ้นเล็กอย่างหื่นกระหาย ส่วนฝ่ามือก็ลูบไล้บีบเคล้นเต้านมหนักหน่วง กายสาวดิ้นเร่าๆ ด้วยความเสียดเสียวทรมาน เสี้ยวสติหนึ่งพยายามจะต่อต้าน แต่ก็ถูกปัดเป่าจนจางหาย ตอนนี้ในหัวของหล่อนมีแต่ความว่างเปล่า“อา... อ๊า...”หล่อนหยัดหน้าอกอวบขึ้นสูงตอบรับนิ้วยาวที่กำลังบี้บดอยู่กับปลายถัน เขาเอาทั้งสองมือดึงยอดทรวงเอาไว้ สนุกสนานกับการเห็นมันค่อยๆ แข็งเป็นไตสู้นิ้วมือ“อา... อา... คุณชาร์ลขา... อ๊า...”รอยยิ้มพึงพอใจระบายเต็มใบหน้าหล่อเหลา ยิ่งเห็นหล่อนดิ้นพล่านด้วยความกระสัน เขาก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักนิ้วและฝ่ามือที่คุกคามเต้าอวบยิ่งขึ้น“ได้โปรด... คุณชาร์ลขา... อา...” หล่อนวิงวอนเขาทั้งทางร่างกายและสายตา“รู้ไหม... เธอเป็นผู้หญิงที่น่าเสพสุขด้วยเหลือเกิน ช้องนาง...”หล่อนไม่เข้าใจความหมายของเขานัก เพราะตอนนี้สมองว่างเปล่า สิ่งเดียวที่รับรู้ได้ก็คือสัมผัสสวาทจากผู้ชายบนร่างเท่านั้น“ได้โปรด... นางร้อน..
“พ่อรอนางนานไหม...” หางเสียงของหล่อนจางหายวับไปทันตา เมื่อสายตามองเห็นว่าบิดาไม่ได้อยู่ตามลำพัง แต่กำลังนั่งคุยอยู่กับชาร์ลีอย่างออกรสออกชาติหล่อนหน้าซีดเผือด รู้สึกเหมือนกับว่าพื้นดินใต้ฝ่าเท้ากำลังจะเคลื่อนตัวออกจากกัน“พ่อคะ อย่าไปคุยกับเขาค่ะ”“อ้าว ทำไมพูดถึงสามีตัวเองแบบนี้ล่ะนาง”คำถามของบิดา ทำให้ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หล่อนจ้องมองชาร์ลีที่นั่งกอดอกยิ้มร่าด้วยความไม่พอใจเขาไม่ควรดึงพ่อของหล่อนเข้ามาเกี่ยวข้อง และที่สำคัญ เขาควรจะกลับไปเลแวนต้าได้แล้ว“คุณชาร์ลไม่ใช่สามีของนางหรอกค่ะพ่อ เราเป็นแค่...”ชาร์ลีไม่คิดจะรอให้หล่อนพูดจบ เขาลุกขึ้น และเดินเข้ามารั้งร่างสาวเข้าสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันเกิดขึ้นเร็วมากจนหล่อนต่อต้านไม่ทันร่างสาวถลาเข้าสู่อ้อมแขนอบอุ่นไม่ต่างจากลูกนกโผเข้าสู่อ้อมอกของมารดาเลย“ฉันรู้หรอกว่าทำให้เธอเข้าใจผิด แต่ก็อธิบายไปแล้วนี่ว่าฉันมีแต่เธอคนเดียว ไม่มีใครทั้งนั้น ทำไมยังไม่เลิกงอนอีกล่ะ”แล้วเขาก็ก้มลงจูบกระหม่อมของหล่อน โดยที่หล่อนทำได้แค่ยืนตัวแข็งทื่อ“ก็อย่างที่ผมเล่าให้คุณพ่อฟังนั่นแหละครับ ตอนแรกผมไม่ได้ตั้งใจจะรักลูกสาวของคุณพ่อหรอกครับ แต่พ
“อ้าว คุณชาร์ลี มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย”เกสราได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็ออกมาดู แล้วก็เห็นชาร์ลียืนอยู่กลางห้องโถงของบ้าน สีหน้ากำลังบูดบึ้งได้ทีเลยทีเดียว“สักพักแล้วล่ะครับ”“แล้วนี่ช้องนางไปไหนล่ะคะ หรือว่าไปยกน้ำมาให้คะ”ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะต้องวิ่งตามหลังผู้หญิงคนไหน แต่ช้องนางทำให้เขาเป็นบ้า“วิ่งหนีผมไปแล้วครับ”“ตายจริง ปกติช้องนางเป็นเด็กมีเหตุผลนี่นา ไม่น่าทำตัวงี่เง่าแบบนี้นะคะ”“เธอทำครับ ทำทุกอย่างที่ผู้หญิงงี่เง่าเจ้าน้ำตาคนหนึ่งจะทำได้เลยทีเดียว และผมก็บ้ามากที่อดทนง้อได้นานถึงขนาดนี้”เกสราอมยิ้ม ก่อนจะเชื้อเชิญให้ชาร์ลีนั่งลงบนโซฟา “ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันนะคะ ช้องนางน่ะ เป็นเด็กจิตใจดี และมีเหตุผลเสมอค่ะ ถ้าบอกให้เธอเข้าใจ ฉันว่าเธอจะอ่อนลงค่ะ”“แต่ผมก็บอกไปแล้วว่าผมมาตามกลับเลแวนต้า แต่เธอก็ยังงี่เง่าไม่ยอมท่าเดียว”“งั้นคุณชาร์ลีก็ไม่ต้องไปใส่ใจอะไรช้องนางแล้วล่ะค่ะ ก็หย่าๆ กันไปเลยตามที่เธอต้องการเถอะค่ะ”“ผมจะทำอย่างนั้นได้ยังไงกันล่ะครับ”เกสราจ้องหน้าของชายหนุ่มสูงศักดิ์ มองอย่างรอคอยคำตอบ และก็เ
หลังจากร้องไห้มาตลอดทางจนคนขับรถแท็กซี่ต้องหยิบกระดาษทิชชูยื่นมาให้ซับน้ำตา หล่อนก็ก้าวลงจากรถด้วยความอ่อนแรงหลังจากจ่ายค่าโดยสารเสร็จแล้ว“คุณชาร์ลยังต้องการอะไรจากนางอีก... แค่นี้นางยังเจ็บไม่พอหรือไง...”หลังมือเล็กยกขึ้นป้ายน้ำตาออกจากแก้มนวลหลายครั้งเพราะต้องการให้มันแห้งเหือด หล่อนไม่ต้องการให้คนในบ้านเห็นความอ่อนแอของตนเองช้องนางกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน แต่แล้วเสียงแตรรถยนต์ก็แผดเสียงดังลั่น หล่อนสะดุ้งตกใจจนต้องหันกลับไปมอง และก็เห็นชาร์ลีก้าวลงมาจากรถคนนั้นหล่อนช็อกค้าง สองขาอ่อนเปลี้ยจนก้าวหนีไปไหนไม่ได้ หล่อนเห็นเขาหยิบเงินหลายใบยื่นให้กับมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขับนำหน้ามา ก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาหาหล่อนหนีสิ...หล่อนสั่งตัวเอง แต่ขาไม่ยอมขยับ จนกระทั่งเขาก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้า กลิ่นอายอันตรายของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก หน้างามซีดเผือดไร้สีเลือด“คุณชาร์ล...”เขาโน้มหน้าต่ำลงมาหา และกระซิบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่ข้างใบหูของหล่อน“เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก ช้องนาง”หล่อนตัวสั่นเทา หัวใจก็สั่นสะท้าน ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองคนใจร้าย มองอย่างอยากรู้ว่าเขาจะทำร้ายกันไม่พอหรือไง ถึงไม่สนใจตอบค
“พอนางมีรายได้แล้ว นางจะ... ผ่อนใช้หนี้คุณชาร์ลค่ะ”“ฉันไม่ได้ต้องการเงินขี้ปะติ๋วของเธอหรอก เพราะกว่าเธอจะใช้หนี้สินที่อาของเธอเอาจากท่านแม่ของฉันครบ ฉันก็ขึ้นไปนอนเล่นบนสวรรค์ไม่รู้กี่ปีแล้วมั้ง” เขาประชดประชันด้วยน้ำเสียงดุกระด้างน่าหวาดกลัว“งั้นนางจะหัดซื้อลอตเตอรี่ก็แล้วกันค่ะ”คนที่ขับรถอยู่หันขวับมามองด้วยความแปลกใจ “ทำไมต้องซื้อลอตเตอรี่ด้วย ชอบเสี่ยงโชคด้วยหรือเธอน่ะ”“เปล่าค่ะ นางไม่ได้ชอบเสี่ยงโชค แต่นางต้องการถูกรางวัลที่หนึ่ง เพื่อที่จะได้มีเงินไปใช้หนี้คุณชาร์ลไงคะ”นี่เขาหัวเราะทำไมกันนะ หล่อนพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอหล่อนช้อนตาขึ้นมองเขา ก็พบว่าเขาหัวเราะจนหน้าดำหน้าแดงเลยทีเดียว ก่อนจะละสายตาจากท้องถนนมามองหล่อน“ทำไมเธอละโมบแบบนี้ล่ะ เธอถูกรางวัลที่หนึ่งมาแล้วครั้งหนึ่ง ควรจะให้คนอื่นเขาบ้าง อย่าใจแคบนักเลย”“นางไม่เคยซื้อลอตเตอรี่มาก่อนเลยในชีวิต แล้วนางจะถูกรางวัลที่หนึ่งได้ยังไงกันคะ”“ก็ฉันไงล่ะ ลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งของเธอ”เขาอมยิ้มแพรวพราว และเมื่อเห็นเครื่องหมายคำถามบนใบหน้าของหล่อนจึงอธิบายต่อ“การที่เธอได้ฉันเป็นสามีก็ไม่ต่างจากการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หน