หน้าหลัก / โรแมนติก / วิวาห์บังคับรัก / บทที่ 3 การทำงาน /คนละคน

แชร์

บทที่ 3 การทำงาน /คนละคน

ผู้เขียน: ผกายมาส
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-06 04:52:52

บทที่ 3 การทำงาน /คนละคน

กลับมาเข้าสู่ปัจจุบัน

อีกแค่เก้าเดือน ฉันต้องแต่งงานกับพี่ฉัตรแล้วสินะ เห้อ!

“ ดูทำหน้าเข้า เป็นอะไร แฟนไม่โทรหาหรือไง! ”

“ เปล่า ก็แค่ไม่อยากจะแต่งงานนะ ” ฉันพูดออกไปให้เพื่อนทั้งสามฟัง

ตั้งแต่มาฝึกทหารพรานจนตอนนี้เข้ารับราชการแล้ว ฉันก็มีเพื่อนสนิทมากๆ ในกรมสามคน มี ฟ้า ฝน ฝ้าย เราคุยกันถูกคอมากเลยสนิทกัน ขนาดเพิ่งเข้ามาเป็นทหารพรานเองนะ เหมือนสนิทกันมาจากชาติปางก่อนแหนะ พูดจับเล่นได้ทุกเรื่อง

ในค่ายทหารพรานที่ฉันอยู่คือค่ายXX มีทหารพรานชายประมาณห้าคนเป็นคนที่มียศใหญ่คอยสั่งการพวกเรา ที่เหลือเป็นหญิงทั้งหมดสามสิบคน การทำงานจะแบ่งกัน อยู่ในห้องธุรการหน้าคอมแอร์เย็นๆ สิบคน เข้าป่าลาดตะเวรสิบคนและอีกสิบคนจะหยุดพัก การทำงานและวันหยุดพักจะมีแค่สิบวัน คือสลับวนเวียนไป แต่ละกลุ่มจะเรียกเป็น หมู่หนึ่ง หมู่สอง หมู่สาม

ก่อนออกลาดตะเวรทุกครั้งจะมีการเซ็นหนังสือยินยอม เพราะแค่ก้าวออกจากค่ายก็อันตรายแล้ว ถ้ามีหนังสือยินยอมมันจะไม่ต้องมีปัญหาภายหลัง หากเกิดการสูญเสียใดๆ แต่มันจะมีค่าชดเชยให้นะ และให้เราบอกว่าต้องการยกให้ใคร คนที่ไม่มีครอบครัวก็ยกให้แฟน คนที่มีครอบครัวก็ยกให้พ่อแม่

ส่วนมากทหารพรานหญิงจะไม่มีที่ผ่านการมีลูกมาแล้ว จะมีแค่คนโสด คนมีแฟน และแต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตร ในค่ายXX นะ แต่ค่ายอื่นอาจจะมีเพราะทำงานสบายๆในห้องแอร์เย็นๆ แต่ค่ายของเรานั้นมันตั้งอยู่ข้างในป่า ไม่ได้ติดถนนใหญ่ เส้นทางขรุขระ รอบๆ เป็นป่าทึบ อยู่ใกล้หมู่บ้านแห่งหนึ่ง คนต้องพร้อมตลอดเวลา เลยเลือกเอาคนที่แข็งแกร่งมา

ตอนสมัครมีคนเยอะมากและพวกเขาก็รับมาก แต่พอเข้าบรรจุใช่ว่าทุกคนจะอยู่ที่เดียวกัน เขาจะแบ่งให้แค่ละค่าย ค่ายทหารพรานหญิงจะน้อยกว่าทหารพรานชาย ทหารพรานหญิงจะรับน้อยกว่าทหารนพรานชายเหมือนกัน

***ที่พิมพ์เกี่ยวกับทหารพราน ในค่ายทหาร การปฎิบัติหน้าที่ทุกอย่างที่พิมพ์ไป ไม่ได้อ้างมาจากความจริง แค่เสริมเติมแต่งไปเอง มันคือการสมมุติขึ้นมาแต่ทางค่ายทหารพรานชายมันจะมีจริงๆ นะถ้าจำไม่ผิด เรื่องนี้แต่งมาไม่ได้อ้างอิงจากความจริง พิมพ์ขึ้นมาเองล้วนๆ คนที่รู้จริงในเรื่องทหารอย่าว่ากันนะคะ ไม่ใช่ว่าไม่อยากเอาข้อมูลจริงๆ มาเผยแพร่นะคะเพราะในกูเกิลจะมีให้คันหาอยู่แล้ว แต่ไรต์ไม่ได้แต่งเน้นความจริงหรือเกี่ยวกับทางราชการเยอะและกลัวจะไม่เป็นผลดีเลยเลือกจะสร้างขึ้นมาเอง เป็นเพียงการสมมุตินะคะ***

***ขอแทนสามจังหวัดว่า จังหวัดA จังหวัดB จังหวัดC นะคะ ***

“ คู่หมั้นแกดูดีขนาดนั้นมีอะไรต้องให้กังวลอีก ” ฝนพูดขึ้น

ใช่ว่าพวกเธอจะเคยเห็นพี่เขาตัวจริงๆสักหน่อย ก็แค่เห็นผ่านๆในเฟซบุ๊กเอง

“ ก็เราทั้งคู่ไม่ได้รักกันไง ”

“ อยู่ไปก็รักกันเองแหละ ”

“ ขนาดคุยกันมาปีกว่าแล้วนะ ยังไม่รู้สึกผูกพันธ์อะไรเลย ” ฉันพูดพร้อมยักไหล่

“ จะผูกพันธ์บ้าบออะไรกัน โทรคุยกันแค่หนึ่งถึงสองนาทีนี่อะนะ ” ฝ้ายพูดขึ้น

ทั้งสามคนจะรู้เพราะเราสี่คนพักห้องเดียวกัน เพื่อนคุยโทรศัพท์กับแฟนกันเป็นชั่วโมงๆ ก็มีแต่คู่ฉันที่คุยกันทุกวัน วันละสามนาทีมากสุดอะ

แล้วเมื่ออาทิตย์ก่อนเพิ่งจะนัดไปคุยกันเรื่องที่จะทำความคุ้นเคยให้มากกว่านี้ที่สวนสาธารณะของจังหวัดB ซึ่งนัดกันคนละครี่งทาง พี่เขาบรรจุอยู่ในค่ายทหารYY ที่จังหวัดC และฉันทำงานอยู่ในค่ายทหารพรานหญิงXX อยู่จังหวัดA

“ แล้วที่ขอลาครึ่งวันไปนัดพบคู่หมั้นอะ แกยังไม่เล่าเลยนะ สรุปว่ายังไง ” ฟ้าพูด

“ ก็แค่แลกเปลี่ยนอะไรกันเล็กน้อยเพื่อต้องการความคุ้นชิน ต่อไปแต่งงานกันจะไม่ได้เกร็ง ”

“ แต่นี่มันก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ ฉันก็ไม่เห็นว่าพวกแกจะคุยกันเยอะกว่าเก่าเลย ” เพื่อนใส่ใจแหละดูออก ไม่งั้นจะจับตามองเหรอ? จะรู้ได้ไง!! 

“ อืม ก็ใช่ ” ฉันพยักหน้า

วันนี้หมู่สองอย่างพวกเราทำงานในห้องธุรการมาครบสิบวันแล้ว พรุ่งนี้ต้องออกลาดตะเวนในป่า หมู่สามที่หยุดพักก็จะกลับมาทำงานในห้องธุรการแทน แล้วหมู่หนึ่งที่ออกจากลาดตะเวรในป่าจะได้ลาหยุดพักสิบวัน มันก็จะวนเวียนอยู่แบบนี้

“ งั้นฉันขอไปคุยกับแฟนก่อนนะ พรุ่งนี้เข้าป่าไม่ค่อยไม่สัญญาณอะ ”

คงเห็นว่าฉันเงียบไม่ค่อยอยากจะพูดถึงคู่หมั้น เพื่อนๆเลยต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง

พอเริ่มคุยกัน ฉันจะแทนตัวเองว่าหนูกับพี่ฉัตร ส่วนพี่เขาจะแทนตัวเองว่าพี่ปกติและจะเรียกฉันว่ามุก แต่เวลาพี่เขาอารมณ์ไม่ดีหรือแบบโกรธเพราะฉันดื้อ พี่เขาจะเรียกแทนว่า เธอ แทนตัวเองว่า ฉัน พอได้ยินแบบนี้คือรู้เลยแหละ ตัวฉันก็เงียบปากไปชั่วขณะ

ครืดๆๆ

( โทรเข้า >> พี่ฉัตรคนเย็นชา )

มาแปลกแฮะ วันนี้โทรมาตอนเที่ยง ปกติจะโทรค่ำๆ ไม่ก็ดึก หรือบางวันตอนเช้าตรู่

พอเห็นว่ามันดังอยู่นานแล้วกลัวสายจะตัดไป นิ้วเรียวกดรับสายพร้อมส่งเสียงห้วนออกไปทันที เนื่องด้วยมาจากการที่ไม่สบอารมณ์ เห็นเบอร์เขาแล้วหงุดหงิดใจขึ้นมาทันที

( ฉัน : ว่าไง )

( พี่ฉัตร : พูดใหม่สิ! )

( ฉัน : เหอะ! )

( พี่ฉัตร : พูดใหม่! )

( ฉัน : ว่าไงคะ )

( พี่ฉัตร : ค่อยหน้าฟังหน่อย ทำอะไรอยู่ )

( ฉัน : ทำงาน )

( พี่ฉัตร : สอนไม่เคยจำ บอกว่าให้พูดมีหางเสียงด้วยไง )

( ฉัน : ค่ะ ทำงานอยู่ค่ะ )

( พี่ฉัตร : กินข้าวยัง )

( ฉัน : ยัง…ค่ะ )

( พี่ฉัตร : ทำไมต้องพูดทิ้งระยะห่างด้วย หัดพูดบ่อยๆสิจะได้ชิน แต่ก็สอนมาปีกว่าแล้วนะ ทำไมไม่รู้จักจำ )

( ฉัน : เฮ้อ! พี่โทรมาทำไม หรือจะโทรมาคุยแค่เรื่องนี้ จะสอนกริยามารยาทอีกหรือไง )

( พี่ฉัตร : ดูพูดเข้า! พี่โทรหาคู่หมั้นตัวเองไม่ได้เหรอ )

( ฉัน : ก็ได้ )

( พี่ฉัตร : มุกทำไมสอนยากจัง )

ฉัน : เห้อ! ฟังข้ามๆบ้างก็ได้พี่ เชอะ! จับผิดอยู่นั้นแหละ )

( พี่ฉัตร : ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนี้เลยนะ.. ว่าแต่พรุ่งนี้กลับบ้านไหม เพื่อนพี่แต่งงานน่ะ )

( ฉัน : เพื่อนพี่ ไม่ใช่เพื่อนหนูสักหน่อย จะให้กลับไปทำไมอะ )

( พี่ฉัตร : ยัยเด็กคนนี้ดูพูดเข้า ก็มุกเป็นคู่หมั้นพี่ไง จะพาไปงานแต่งเพื่อนพี่ก็ไม่เห็นแปลก )

( ฉัน : มันแปลกตั้งแต่พี่เอ่ยชวนหนูแล้วนะ ปกติไปคนเดียวไม่ใช่หรือไง )

( พี่ฉัตร : มุก! เราคุยกันว่ายังไง ลืมแล้วเหรอ )

( ฉัน : ก็รู้ แต่หนูก็เห็นว่าคุยกันปกติเหมือนหนึ่งปีที่ผ่านมานะ พอคุยกันได้ไม่กี่คำพี่ก็จะวางสายทุกครั้ง จะเอาอะไรมาสนิท จะเอาอะไรมาคุ้นเคยกัน )

( พี่ฉัตร : ก็นี่ไง พี่พยายามทำแล้ว ชวนมุกไปออกงานไง )

( ฉัน : หนูไม่ว่าง พรุ่งนี้ต้องเข้าป่าสิบวันหลังจากนั้นถึงจะพัก )

( พี่ฉัตร : ลาได้ไหม )

( ฉัน : ไม่ได้หรอก )

( พี่ฉัตร : ทำไมไม่ได้ )

( ฉัน : จะไปรู้เหรอ? )

( พี่ฉัตร : ทำไมต้องใส่อารมณ์เวลาพูด )

( ฉัน : หงุดหงิดตั้งแต่พี่โทรมาแล้วแหละ )

( พี่ฉัตร : … )

พอพูดแบบนี้ออกไป คนปลายสายก็เงียบไปเลย ทำให้ฉันรู้สึกผิด รีบเอามือตีปากทันที แต่ฉันมันเป็นคนที่คิดอะไรได้ก็จะพูดทันทีโดยที่ยังไม่ทันไตร่ตรอง แล้วมารู้สึกผิดทีหลัง และมาคิดได้ว่าพูดแรงไป

( ฉัน : เอ่อ…ว่าแต่พี่กินข้าวยัง )

( พี่ฉัตร : กินแล้ว )

(ฉัน : แล้วไม่ทำงานเหรอวันนี้ )

( พี่ฉัตร : ทำแต่ตอนนี้พักเที่ยง งั้นแค่นี้ก่อนนะ )

( ฉัน : เดี๋ยวๆ นี่โกรธใช่ไหม )

( พี่ฉัตร : เปล่า พี่รู้ว่าตัวเองมันน่ารำคาญ แต่ไม่เป็นไรหรอกพี่เข้าใจมุกดี )

( ฉัน : ขอโทษ ก็มันหงุดหงิดอะ คนอื่นเค้าคุยกับแฟนกันเป็นชั่วโมง แล้วนี่เราสองคนก็หมั้นกันแล้ว คุยกันทีเหมือนคนแปลกหน้าอะ อีกไม่กี่เดือนก็จะแต่งงานกันแล้วด้วย )

( พี่ฉัตร : แล้วจะให้พี่ทำไง )

( ฉัน : พี่เคยมีแฟนมาก่อนหนิ ต้องรู้อยู่แล้วว่าควรคุยอะไรกันบ้าง ควรทำยังไง หาเรื่องอะไรมาคุย ทำนองนี้ )

( พี่ฉัตร : แต่เราทั้งคู่หมั้นกันโดยที่ยังไม่คบ ยังไม่รัก ยังไม่เป็นแฟนกันเลยนะ พี่ก็ทำตัวไม่ถูกสิ )

( ฉัน : พี่ก็คิดว่าหนูเป็นพี่เพลงก็ได้ )

( พี่ฉัตร : มุก! ทำไมถึงต้องโยงเพลงมาเกี่ยวด้วย ถ้าเธอพูดแบบนี้อีก ไม่ต้องมาคุยกันเลย มุกกับเพลงจะแทนกันได้ไง มันคนละคนกันนะ มุกก็คือมุก เพลงก็คือเพลง ความรู้สึกมันต่างกันนะ มันเรื่องของเราสองคนไม่ต้องเอาคนอื่นมาเกี่ยวได้ไหมอะ )

( ฉัน : ขอโทษ ๆ พูดไปแบบไม่ทันได้คิดอะ )

( พี่ฉัตร : แบบนี้ประจำแหละ ก่อนพูดควรไตร่ตรองให้ดีก่อนนะ แล้วมันไม่ใช่ครั้งแรกด้วยนะ มุกพูดแบบไม่คิดมาหลายรอบแล้ว )

( ฉัน : หนูขอโทษไปแล้วนะ ทำไมพี่ยังพูดใส่อารมณ์อยู่อีก เหอะ หนูรู้ว่าคนละคน ก็ใช่หนูกับพี่ได้หมั้นกันแบบสายฟ้าแลบ ความรู้สึกดี ๆ ต่อกันเลยไม่มี ทุกครั้งที่คุยกันก็ฝืนใจ ไม่ใช่พี่เพลงที่เป็นอดีตคนรักพี่อะ ที่รักกันปานจะกลืน แค่่ก็พูดถึงไม่ได้เลยนะ )

( พี่ฉัตร : มุก พี่ว่ายิ่งคุยกันมันยิ่งบานปลาย เอาไว้พี่จะโทรหาอีกทีนะ )

แล้วพี่เขาก็กดวางสายไป โดยที่ฉันไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เชอะ พอพูดถึงแฟนเก่า อารมณ์เสียใส่เราทันที ก็รู้ว่ามันแทนกันไม่ได้ แต่แค่บอกว่าทำให้เหมือนตอนคุยกับพี่เพลงเอง …. ฉันพูดอะไรผิดไป ไอ้คนเย็นชา เจ้าระเบียบ ไอ้คนไม่มีหัวใจ 

❤️_________❤️

นามปากกาผกายมาส

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • วิวาห์บังคับรัก   บทที่ 14 เมา / งอแง

    บทที่ 14 เมา / งอแงแอบดีใจที่เจอคนรักเก่า ถึงจะกลายเป็นอีกสถานะก็เถอะ แต่ก็ร่วมแสดงยินดีกับเธอด้วย… ถ้าเธอมีความสุขเขาก็พลอยมีความสุขด้วย ถึงไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วแต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ยอมรับว่าในใจลึกๆ ยังคงมีเยื่อใยต่อเธอแต่ก็รู้ว่าอะไรควรอะไรที่ไม่ควร เลยเลือกจะเก็บมันเอาไว้ พอแยกกับคู่หมั้นสาว เขามานั่งกินเหล้ากับเพื่อนได้สี่ถึงห้าแก้ว ในหัวมันก็ไหลลื่นพลันคิดได้เรื่องตอนที่สะบัดมือของมุกในตอนนั้น เพราะความเคยชินที่เมื่อก่อนสนใจแค่คนตรงหน้า ทำให้ลืมบางอย่างไป คิดได้ดังนั้นสายตาเขาก็มองไปทั่วในห้องนี้ พยายามสอดส่องแต่ก็ไม่เจอ ไม่รู้ว่าไปแอบอยู่ตรงไหนหรือจะโกรธเรื่องตอนนั้น แต่เขามันไม่ได้เรื่องจริงๆ ตอนแรกกะจะพามุกมาเปิดตัวและทำให้คนอื่นรู้ว่าเขาก็มีคนรู้ใจแล้ว มีคนรักใหม่แล้ว แต่ความรู้สึกในตอนนั้นมันกลับเห็นแก่ตัว ละเลยอีกคนไป ป่านนี้ไม่รู้มุกจะเป็นไงบ้างเฮ้อ! อยากจะทึ้งหัวเองซะเหลือเกินในตอนนี้ ความรู้สึกดีๆที่มีต่อมุกมันก็ไม่ธรรมดาตั้งแต่ตอนที่มุกหายไปเข้าป่า ตอนนั้นเขากลับรู้สึกว่าขาดอะไรไป ถึงแม้จะคุยกันแต่ละทีก็แค่เวลาเพียงสั้นๆ และเขาก็เอาคำพูดที่เธอทิ้งท้ายมา

  • วิวาห์บังคับรัก   บทที่ 13 ไม่สนใจกันเลย นอกจากแฟนเก่า

    บทที่ 13 ไม่สนใจกันเลย นอกจากแฟนเก่าตอนแรกพกความมั่นใจมาเต็มร้อย แต่ตอนนี้เหลือเกือบศูนย์ ไม่น่าเลย ไม่น่ามาตั้งแต่เเรก รู้สึกเริ่มประหม่าเพราะเห็นคนเยอะมากและแน่นอนว่าแต่ละคนแต่งตัวมาสวยๆ กันทั้งนั้น ชุดเดรสมาพร้อมรองเท้าคัทชูไม่ก็ส้นสูง มองยังไงก็เข้ากับชุด พอมองมายังตัวเองรู้สึกประหม่ามาก ไม่ค่อยมั่นใจ แต่ก็พยายามยิ้มเข้าไว้หึก! อย่าคิดว่าตัวเองจะได้ฉายเดี่ยวเลยนะ ตอนแรกว่าจะต่างคนต่างเดินแต่ฉันจะเป็นที่น่าจับตามองที่สุดแน่ๆด้วยเพราะชุดที่ใส่มามันแตกต่างจากคนอื่นแล้วคิดได้ดังนั้น ก็เดินไปชิดใกล้พี่ฉัตร พร้อมเอามือคล้องแขน พี่เขาสะดุ้งเล็กน้อยเพราะตอนนั้นน่าจะเหม่อลอยถึงแฟนเก่าละมั้ง!! น่ามันไส้เนอะ เลิกกันแล้วยังจะติดต่อกันอีกเหรอ!? ยังจะเป็นเพื่อนกันได้เนอะ!!! ถ้าเป็นฉันคือจบก็จบ ที่รู้ๆมาพี่เพลงเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อนพี่ฉัตรเดินช้าๆ เหมือนสโลโมชั่นหรือพี่เขายังจะยอมรับไม่ค่อยได้ เลิกกันไปก็เป็นปีๆ แล้ว ถ้าพี่เพลงยังรู้สึกดีกับพี่ฉัตรคงไม่แต่งงานหรอก ว่าแต่ทั้งสองคนเลิกกันทำไมนะ อยากรู้ขึ้นมาแล้วสิ!! พี่ฉัตรตอนนี้สายตาละห้อยเชียว! เหมือนจะมีความอาลัยอาวรณ์ นี่ขนาดฉันที่เป็นคู่หมั

  • วิวาห์บังคับรัก   บทที่ 12 ชวนไปงานแต่งแฟนเก่า

    ​​​​​​บทที่ 12 ชวนไปงานแต่งแฟนเก่าบ้านทุกหลังสองชั้นหมด พอเดินเข้าไปในบ้านขวามือก็จะมีโซฟา มีโต๊ะตั้งทีวี ข้างๆ สามารถวางรูปถ่ายได้ มีหน้าต่างหลายบาน ส่วนห้องน้ำอยู่ใกล้บันได แล้วตรงข้ามก็คือห้องครัว จริงๆ เปิดประตูมาโบราณเขาว่าห้ามให้ครัวตรงกับประตูหน้านะ แต่ลืมไปแล้วว่าเพราะอะไรถึงห้าม แต่บ้านพักพี่ฉัตรเขามีฉากกั้นก่อนถึงครัวนะเป็นตู้ขนาดใหญ่ พอเดินไปสำรวจ ตู้นั้นก็ใส่หม้อ จาน แก้วน้ำ ของที่ยังไม่เคยใช้ หลังตู้ที่หันออกไปข้างนอก พี่ฉัตรตกแต่งด้วยการเอารูปภาพมาแขวน เป็นรูปที่ตัวพี่เขารับยศ รับปริญญา อะไรงี้ ส่วนประตูหลัง ขวามือจะอยู่ใกล้ห้องน้ำ ซ้ายมือจะอยู่ใกล้ครัว“ถ้าสำรวจเสร็จแล้วก็ตามขึ้นมาข้างบนนะ” พี่ฉัตรพูดทิ้งท้ายไว้แล้วพาตัวเองขึ้นไปชั้นบนทันที ฉันค่อยๆ เดินขึ้นไปชั้นบน ก็เจอห้องน้ำก่อนเลย มันจะตรงกับห้องน้ำด้านล่าง เจอห้องนอนอีกสองห้อง ห้องหนึ่งกว้าง อีกห้องเล็กกว่า“ให้หนูนอนห้องไหนเหรอ?” เดินไปถามที่ห้องกว้าง เพราะประตูเปิดอยู่ และมีพี่ฉัตรอยู่ในห้อง“ก็ห้องนี่ไง”“อื้อ ให้หนูนอนแยกก็ได้นะ”“กลัวอะไร!” พี่ฉัตรนั่งลงบนเก้าอี้ที่ไว้สำหรับนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ แล้วหันหน

  • วิวาห์บังคับรัก   บทที่ 11 ขอโทษ / อยากกินน้ำแดง

    บทที่ 11 ขอโทษ / อยากกินน้ำแดงหลังจากนั้นพี่ฉัตรก็ไปช่วยขนของขึ้นรถตัวเอง ตอนแรกพี่เขาไม่ได้พารถมาหรอก แต่พี่เขาบอกเพื่อนสนิทตอนที่กลับพร้อมทุกคนว่าให้กลับไปถึงค่ายแล้วเอารถเก๋งกลับมารับที่นี่ด้วยไอย๊า ลงทุนเกินปุยมุ้ยอะ ใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วโมงแหนะเพราะต้องข้ามจังหวัดไง แต่ก็แอบใช้แรงเพื่อนอะแหละ พอฉันออกมานอกเต้นท์หมอ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนหันหลังให้อยู่“ พี่ๆ หนูขอโทษค่ะ ” หญิงสาวคนนั้นหันกลับมาพร้อมพนมมือขึ้นไหว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา แต่ฉันจำได้ว่าเธอคือคนที่ผลักฉันให้ตกน้ำในวันนี้“ อืม ไม่เป็นไรหรอก ” “ ขอบคุณนะคะ ที่ไม่เอาเรื่องหนู ฮื่อๆ หนูรู้เท่าไม่ถึงการณ์เองค่ะ อึก ” เธอฉวยมือฉันไปกุม สายตามองฉันอย่างเว้าวอน“ อืม คราวหลังห้ามทำแบบนี้อีกนะ ถ้าเป็นคนอื่น เธอคงติดคุกหัวโตแน่ๆ ทำอะไรก็ให้นึกถึงครอบครัวบ้าง ” “ ค่ะ ฮื่อๆ พี่ไม่ถามเหรอคะว่าหนูทำไปเพราะอะไร ” “ ว่าจะไม่ถาม แต่ถ้าเธออยากบอก ก็บอกมาเถอะ ” “ คือหนูคิดว่าพี่กับพี่ก็อตเป็นอะไรกันค่ะ หนูชอบพี่ก็อตเลยเกิดอารมณ์ชั่ววูบแบบเด็กถูกแย่งของอะค่ะ หนูเลยริษยาผลักพี่ตกน้ำ ” “ น่าตกใจนะ ว่าแต่ใครคือพี่ก็อตเหรอ? ”“

  • วิวาห์บังคับรัก   บทที่ 10 เป็นห่วง / หมั่นเขี้ยว

    บทที่ 10 เป็นห่วง / หมั่นเขี้ยว“ ยัยมุกๆ แกโอเคไหม ยัยมุก ” เสียงเพื่อนดังใกล้หู ฉันค่อยๆ ปรือตาขึ้น“ มุกเป็นไงบ้าง โอเคไหม ” พี่ฉัตรวิ่งเข้ามา ทุกคนค่อยๆ ขยับออกเพราะพี่เขายกมือขึ้นไล่ให้ถอยออกห่างๆ แต่สายตาเขาจ้องมองมาที่ฉันที่นอนนิ่งๆ หายใจแรง“ อือ ” ฉันพยักหน้า“ ไปหาหมอเถอะ ” ใบหน้าของพี่เขาดูกังวลมาก ช้อนตัวฉันขึ้นอุ้ม“ เอ่อ…ฝ้ายกับฝนช่วยไปเอาชุดมุกมาหน่อยนะ ส่วนฟ้าใช่ไหม…ตามพี่มา ” พี่เขาหันไปหาเพื่อนๆ ฉันแล้วพูดขึ้น“ พี่ฉัตร หนูไม่เป็นอะไรมากแล้ว ” แขนเรียวตวัดโอบคอแกร่งไว้อย่างคนหมดแรง แต่ยังกลัวว่าตัวเองจะตกเลยหาที่ยึดเอาไว้“ ไม่ได้ ให้หมอตรวจหน่อยก็ดีนะ ว่าแต่ตกลงไปได้ไง ไม่เห็นเหรอ ป้ายออกจะใหญ่ว่าตรงนั้นคือบ่อเลี้ยงปลา ” “ เห็น หนูแค่ช่วยหมา แต่ดันลื่นตกลงไปอะ ” “ ลื่นเหรอ? ลื่นลงไปเสียงดังเหมือนกระโดดหรือไง ” พี่ฉัตรพูดออกมาเหมือนจะไม่เชื่อ“ พอเลย เมื่อกี้มีเด็กคนหนึ่งมาบอกว่าพี่สาวของเธอเป็นคนผลักแกยัยมุก ” ฟ้าที่เดินตามมาโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงโมโห“ เดี๋ยวฟ้าช่วยเล่าให้พี่ฟังหน่อย ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ” พี่ฉัตรหันไปหาฟ้า“ ค่ะ ” “ พี่ต้องเชื่อหนูนะ ว่าหนูลื่นตกล

  • วิวาห์บังคับรัก   บทที่ 9 โดนผลัก

    บทที่ 9 โดนผลัก05:00 น.เสียงนกหวีดดังขึ้น ปลุกทุกคนที่นอนให้ตื่นขึ้นทันที พร้อมกันรีบพับห่ม แต่ก็ได้แต่ทำอะไรไม่ถูก เพราะตอนแรกเหมือนจะสะลึมสะลือ พอตาแจ้งก็ต้องหยุดชะงักเพราะนี่ไม่ใช่ค่ายของตัวเอง“ ทหารทุกนายตื่นได้แล้ว อีกยี่สิบนาทีจะต้องมารวมกันที่เดิมแล้วนะ ตอนนี้ให้เวลาเก็บของ สัมภาระทุกอย่าง แล้วล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวมาวางแผนช่วยคนกันต่อ ” เสียงโทรโข่งก็ดังขึ้นพวกเราก็รีบจัดแจงของต่างๆ ผ้ายางที่กั้นกำแพงก็เก็บเข้ากระเป๋าหมด จัดเก็บของจนครบ ไม่ลืมที่จะสวมเสื้อแขนยาวสีดำที่มีชื่อและตราของค่าย จัดแต่งใส่ไว้ในกางเกงให้ครบ และพากันไปเข้าห้องน้ำ ผู้หญิงจะเข้านานกว่าผู้ชาย มันโชคดีที่ไม่ต้องเก็บอะไรเยอะด้วยระหว่างรอเข้าห้องน้ำต่อจากพี่ๆ ในค่ายที่เข้ากันเกือบทุกคนแล้ว สักพักมีพวกผู้ชายจากค่ายทหารพรานมาเข้าห้องน้ำด้วย“ ใครเข้าต่อเหรอ ”“ ฉันเอง ” ฉันพูดขึ้น“ ให้เราก่อนได้ไหม พอดีเราปวดท้องหนักมาก ”“ เอ่อ… ” ด้วยความใจอ่อนก็ให้ผู้ชายคนนั่นเข้าก่อน หลังจากฟ้าออกมา เหลือแค่ฉันที่ยังไม่ได้เข้าห้องน้ำในตอนนี้“ อ้าว ทำไมมุกไม่เข้าไปอะ ” พี่หวานถามขึ้น“ เอ่อ …คนเมื่อกี้เขาบอกปวดหนัก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status