Beranda / โรแมนติก / วิวาห์บังคับรัก / บทที่ 5 คิดว่าจำไม่ได้เหรอ?

Share

บทที่ 5 คิดว่าจำไม่ได้เหรอ?

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-06 04:54:35

บทที่ 5 คิดว่าจำไม่ได้เหรอ?

พวกเราหมู่สองทั้งสิบเอ็ดคนเดินมาถึงก็ไม่ทันได้พักหายเหนื่อย ก็เตรียมตัวจะลงไปช่วยประชาชนก่อนเป็นอันดับแรก

ค่ายพวกเรามาด้วยสภาพโส-มม เลอะเทอะ สกปรก อิดโรย ตั้งแต่เท้าถึงขาก็เต็มไปด้วยโคลนสีแดง ใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยคราบสีดำ ที่ทาอำพลางตั้งแต่ตอนลาดละเวน

ค่ายอื่นที่มาคือสภาพดูดี มีแค่ชุดที่เปียกคงเพราะลุยน้ำหรือตากฝนแหละ

“ หวายกับหวานรอตรงนี้นะ เฝ้าสัมภาระและปืนของทุกคนไว้ด้วย ที่เหลือตามผมมา” ผู้หมวดพูดขึ้น

ที่ต้องทิ้งคนให้เฝ้าเพราะไม่สามารถไว้ใจใครได้ ปืนคือของหวงของทหารที่สุด ถ้าหายไปอาจจะมีอันตราย เพราะไม่รู้ว่าตกไปอยู่ในมือโจรหรือชาวบ้านและถ้ามันเป็นของทหารคนไหน คนนั้นต้องรับผิดชอบด้วย เขาถึงบอกว่ารักษาปืนให้รักษาเท่าชีวิต

“ ยัยมุก นั่นมันคู่หมั้นแกใช่ไหมอะ? ” ฟ้าเดินมาสะกิดแขนฉันเบา ๆ พร้อมพูดกระซิบและพยักพเยิดไปตรงหน้า

ฉันที่กำลังวางกระเป๋าที่แบกมากับปืนลงก็มองตามและมันก็จริง พี่ฉัตรกำลังพายเรือพาชาวบ้านมาส่งบนถนนที่พวกฉันยืนอยู่

“ หลีกๆ ” ฉันไม่รู้ว่าพี่ฉัตรจะเห็นไหม แต่รีบพาตัวเองไปหลบข้างหลังเพื่อน แล้วรีบวางของลง

พอเรือพี่ฉัตรมาถึงผู้หมวดค่ายเราก็เอ่ยทักภาษาราชการ ถึงไม่รู้จักแต่ก็ต้องทำความเคารพและทักทายกันอยู่ดี

ฉันพยายามก้มหน้าลงสุดๆ แอบหวังว่าพี่เขาจะไม่ทันสังเกต พอชาวบ้านขึ้นมาจากเรือ พี่ฉัตรกับเพื่อนของเขาก็พายเรือกลับไปทางเดิม

“ งั้นพวกที่เหลือตามผมมา เมื่อกี้หมู่คนนั้นบอกว่าให้พวกเราไปขนถุงยังชีพมาแจกและกล่องข้าวแกงมาให้ชาวบ้านตรงนี้ก่อน เพราะน่าจะหิวกันแล้ว” ผู้หมวดพูด

รอดไป คิดว่าต้องลุยน้ำแล้ว ไม่ใช่ว่าว่ายน้ำไม่เป็นนะ แต่น้ำน่าจะเย็นแล้วลึกประมาณอกถึงเอวเลยนะ แล้วสีมันก็เป็นสีแดงซึ่งมันคือน้ำโคลนที่ลงมาจากเขาด้วย ค่ายอื่นก็นั่งเรือกันหมด จะให้พวกเราลุยน้ำก็ใช่เรื่อง

หลังจากนั้นก็พากันไปขนถุงยังชีพกับกล่องข้าวแกงมาแจกชาวบ้าน และถามสารทุกข์สุกดิบ ถามอาการของแต่ละคน จนเวลาล่วงเลยมาบ่าย ค่ายทหารบกค่ายที่ใหญ่สุดในสามจังหวัดเรียกพวกทหารทุกค่ายให้ไปพักกินข้าวเที่ยงกัน

“ เหนื่อยมากอะ กว่าจะได้กินข้าวหิวจนไส้กิ่วแล้ว ” ฝ้ายพูดพร้อมลูบท้อง

“ อยากอาบน้ำมากตอนนี้ ตัวเหนียวหมดแล้ว” ฟ้าพูด

“ เดี๋ยวฝนก็ตก ได้อาบแน่ๆ ” ฉันพูด

“ ฉันอยากอาบแบบ สระผม ถูสบู่ ล้างนอกล้างในนะยะ เอือดไปหมดแล้ว” ฟ้าพูดต่อ

“ ฉันก็หาห้องน้ำอยู่นะ ว่าจะไปล้างหน้าสักหน่อย เมื่อกี้ดูผ่านกระจกรถทหาร แอบตกใจหน้าตัวเอง ดูไม่ได้เลย ” ฝนพูดต่อ

“ ทนเอาหน่อยน่า เดี๋ยวก็ได้กลับค่ายแล้ว ” พี่ส้มผ่านมาได้ยินจึงพูดขึ้น

“ แต่ฉันได้ยินมาว่าถ้าวันนี้ช่วยชาวบ้านที่ป่วยติดเตียงมาไม่ครบ ต้องนอนพักที่นี่นะ ” พี่ใจพูดขึ้น

พวกเราทั้งสิบคนถอนหายใจพรือใหญ่ ผู้หมวดค่ายพวกเราหายหัวไปนานแล้ว น่าจะเจอเพื่อนพ้องหรือไปแอบอยู่ตรงไหนสักแห่งแหละ ไม่สงสารลูกน้องแบบพวกเราเลย! มันน่านัก ไม่รู้แอบไปงีบหรือเปล่า?

ตอนที่เดินไปเอาข้าว พวกเราต้องแบกทั้งกระเป๋าที่หนักห้ากิโลขึ้นกับปืนที่หนักสามกิโลกว่า ขาลากกันเลยแต่ละคน ค่ายอื่นคงไว้บนรถเพราะทุกคนมาจากค่าย แต่พวกเรามาจากป่า

“ เข้าแถวๆ ” พี่ใจพูดขึ้น พวกเราพากันต่อแถวเพื่อจะรับข้าวกล่องจากพวกทหารบกที่ใส่ลายพรางสีเขียว

“ ทหารเขียวด้านหน้าหล่ออะ ” เสียงของพี่หวานที่มีอายุมากกว่าฉันหนี่งปี ยืนอยู่ข้างหน้าพวกเราพูดขึ้น

“ ไม่มีกะจิตกะใจจะส่องผู้ชายแล้วพี่ เหนื่อยแทบขาดใจตอนนี้อะ ” ฟ้าพูด

ในที่สุดก็ถึงคิวพวกเราทหารพรานหญิงรับข้าว จู่ ๆ ก็ถูกแซวกันเสียยกใหญ่ เกี่ยวกับสภาพพวกเรา จะว่าแซวจีบก็ไม่ใช่ พูดไปด้วยความสนุกปากแหละ แต่ก็นั้นแหละมีแค่ค่ายพวกเราที่เป็นผู้หญิงมาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม มีการหยอกล้อแบบยื่นกล่องข้าวให้แล้วยื่นกลับด้วย

พวกพี่ ๆ ข้างหน้าก็ดูครึกครื้นพอผู้ชายหยอกไก่ ฉันกับเพื่อนอีกสามคนพร้อมใจกันถอนหายใจและกรอกตามองบนไปตามๆ กัน

จังหวะนั้นเป็นคิวของฝ้ายที่ยืนอยู่หน้าฉันกำลังจะรับข้าว ได้ยินทหารบกตรงหน้าเหมือนจะเรียกใครคนหนึ่งซึ่งชื่อนั้นทำให้ฉันมองตาม แล้วรีบก้มหน้าลงต่ำทันที

“ รีบเลยไอ้ฉัตร กูหิวจะตายแล้ว มึงมาแจกข้าวต่อเลย มีไม่กี่คนแล้วตอนนี้ ” คนที่แจกอยู่ก่อนพูดขึ้น แล้วยื่นข้าวให้ฝ้ายคนสุดท้ายและก็เดินจากไปทันที

ทั้งฝนและฟ้าสะกิดฉันตลอด พอได้ยินชื่อพี่ฉัตร และฉันสงบนิ่งมาก ไม่กล้าจะหันไปมอง กำลังพลางตัวเองด้วยการก้มหน้าและดึงหมวกปีกสั้นให้ปิดลงมาอีก

“ อะ เอากับข้าวไปสองถุงเลย ” พี่ฉัตรเดินมาถึงก็หยิบกล่องข้าวและถุงแกงให้สองถุงทันที ฉันยื่นมือไปรับโดยที่ไม่เงยหน้ามองผู้ให้ มันโชคดีที่มีหมวกพลางไว้ได้ เวลาปฎิบัติหน้าที่ในหน้าป่าจะใส่หมวกปีกสั้นนี้

ภาพประกอบ

“อะ” ฉันส่งเสียงออกมาทันที เพราะพี่ฉัตรชักมือที่ถือกล่องข้าวกลับ

“เงยหน้าขึ้น” พี่ฉัตรสั่ง ฉันยืนก้มหน้านิ่ง

“นี่คือคำสั่ง! ถ้าไม่ทำตามก็ยืนอยู่อย่างนี้แหละ เพื่อนๆ ที่เหลือก็ไม่ต้องกิน”

เพราะความที่ถูกกดดันจากเพื่อนต่างค่ายข้างหลังแถวที่ส่งเสียงโห่เพราะมันช้าที่ตัวฉันแล้วไง จำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นมองพี่เขาและแบะปากเล็กน้อย

“ก็แค่นั้นแหละ คิดว่าพี่จะจำไม่ได้หรือไง” พี่เขาพูดต่อ

“เอากล่องข้าวมา” ฉันพูดขึ้น โดยที่ไม่ตอบที่เขาพูด

“เดี๋ยวไปคุยด้วย” พี่เขาพูดจบก็หาถุงมาใส่กล่องข้าวให้ฉันสองกล่อง แกงสองถุง น้ำสองขวด ทำเอาฉันงงงวยไปเลย

“รับแล้ว ก็ไปสิ จะยื่นบื้ออยู่ทำไม คนอื่นก็หิวนะ” พี่ฉัตรพูดขึ้นเสียงดุ

พอได้สติกลับคืนมาจากที่ยื่นงง ฉันรับมาหิ้วแล้วเดินไปเรื่อยๆ ก็มีสายตาหลายคู่จ้องมอง แล้วซุบซิบๆ ก็แหง่ล่ะ ได้เยอะกว่าคนอื่น มันเลยดูแตกต่าง

❤️_____________❤️

นามปากกาผกายมาส

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • วิวาห์บังคับรัก   บทที่ 9 โดนผลัก

    บทที่ 9 โดนผลัก05:00 น.เสียงนกหวีดดังขึ้น ปลุกทุกคนที่นอนให้ตื่นขึ้นทันที พร้อมกันรีบพับห่ม แต่ก็ได้แต่ทำอะไรไม่ถูก เพราะตอนแรกเหมือนจะสะลึมสะลือ พอตาแจ้งก็ต้องหยุดชะงักเพราะนี่ไม่ใช่ค่ายของตัวเอง“ ทหารทุกนายตื่นได้แล้ว อีกยี่สิบนาทีจะต้องมารวมกันที่เดิมแล้วนะ ตอนนี้ให้เวลาเก็บของ สัมภาระทุกอย่าง แล้วล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวมาวางแผนช่วยคนกันต่อ ” เสียงโทรโข่งก็ดังขึ้นพวกเราก็รีบจัดแจงของต่างๆ ผ้ายางที่กั้นกำแพงก็เก็บเข้ากระเป๋าหมด จัดเก็บของจนครบ ไม่ลืมที่จะสวมเสื้อแขนยาวสีดำที่มีชื่อและตราของค่าย จัดแต่งใส่ไว้ในกางเกงให้ครบ และพากันไปเข้าห้องน้ำ ผู้หญิงจะเข้านานกว่าผู้ชาย มันโชคดีที่ไม่ต้องเก็บอะไรเยอะด้วยระหว่างรอเข้าห้องน้ำต่อจากพี่ๆ ในค่ายที่เข้ากันเกือบทุกคนแล้ว สักพักมีพวกผู้ชายจากค่ายทหารพรานมาเข้าห้องน้ำด้วย“ ใครเข้าต่อเหรอ ”“ ฉันเอง ” ฉันพูดขึ้น“ ให้เราก่อนได้ไหม พอดีเราปวดท้องหนักมาก ”“ เอ่อ… ” ด้วยความใจอ่อนก็ให้ผู้ชายคนนั่นเข้าก่อน หลังจากฟ้าออกมา เหลือแค่ฉันที่ยังไม่ได้เข้าห้องน้ำในตอนนี้“ อ้าว ทำไมมุกไม่เข้าไปอะ ” พี่หวานถามขึ้น“ เอ่อ …คนเมื่อกี้เขาบอกปวดหนัก

  • วิวาห์บังคับรัก   บทที่ 8 สมองขาวโพลน!

    บทที่ 8 สมองขาวโพลน!“ มุก! ” กำลังลุกขึ้นจะเอากล่องข้าวไปทิ้งเพราะกินหมดแล้ว จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น อดไม่ได้ที่จะหันไปมอง“ อ้าว พี่ธีร์ พี่มาด้วยเหรอ? ” ฉันถามด้วยความแปลกใจ จำได้ว่าพี่ชายของยัยธารใสประจำการอยู่ภาคใต้ตอนบน“ พี่มาประชุมแถวนี้หนึ่งอาทิตย์ได้แล้ว และวันนี้พี่เจอไอ้ฉัตรเลยตามมันมากะจะมาช่วยชาวบ้านนะ แต่คงต้องกลับแล้วเพราะทางค่ายหารือกันว่าจะช่วยต่อพรุ่งนี้ ว่าแต่มุกสังกัดแถวนี้เหรอ? ”“ ไม่ค่ะ อยู่อีกตำบล ”“ อีกตำบลเหรอ ไม่มีค่ายทหารหนิ ”“ มีนะ ค่ายXX ”“ อ้าว มุกไม่ใช่เป็นทหารเขียวเหรอ? ” พี่ธีร์พูดแล้วใช้สายตามองจากหัวจรดเท้า“ มุกเป็นทหารชุดดำค่ะพี่ ” ฉันพูดแล้วส่งยิ้มไปให้พี่เขา“ อ้าว เหรอ555+ ตอนแรกพี่สังเกตแค่ที่เสื้ออะ ก็คิดว่าเราเป็น ทหารเขียว ” สิ้นเสียงพี่เขา ฉันหุบยิ้มทันที รีบเอามือปิด แต่ก็ไม่ทันแล้วแหละ“ แหะๆ เสื้อพี่ฉัตรให้ยืมมาใส่ค่ะ ”“ อ๋อ…เออใช่ ยัยธารใสเคยบอกว่าเราทั้งสองคนหมั้นกันแล้วนิ พี่นี่ขี้ลืมจริงๆ 555+ ”“ อืม ” พยักหน้าหงึกๆ“ งั้นพี่ไปก่อนนะ พอดีต้องขออาศัยรถคนอื่นกลับออกไปจากตรงนี้นะ ”“ ค่ะ สวัสดีค่ะพี่ แล้วเจอกันใหม่นะ ”“ ครับ โชคดี

  • วิวาห์บังคับรัก   บทที่ 7 เทคแคร์ / หรือแอบมีอะไรกัน

    บทที่ 7 เทคแคร์ / หรือแอบมีอะไรกันหลังจากเข้าห้องน้ำไปปลดทุกข์ ไม่ได้อาบน้ำอะไรหรอก แค่ล้างหน้าก็ยังไม่ได้ล้างเพราะโดนเรียกรวมพลซะก่อนทุกค่าย ทุกคนมายืมรวมกัน แต่จะเข้าแถวค่ายใครค่ายมัน แล้วมันยังจะบังเอิญอีก ค่ายทหารพรานหญิงXXยืนใกล้ค่ายทหารบกYYซึ่งมันคือค่ายพี่ฉัตร อีกข้างก็เป็นทหารพรานชายค่ายBB เรียกว่าชายล้อมก็ยังได้ เพราะมีแค่ค่ายฉันเป็นผู้หญิงเพียงค่ายเดียวในตอนนี้“ มากันครบแล้วใช่ไหม! ” เสียงดังผ่านโทรโข่ง“ ครบค่ะ/ครับ ” ทุกคนต่างตะโกนออกมาเสียงเดียวกัน“ จัดแถว ซ้ายหัน ขวาหัน ตามระเบียบพัก เอาละ วันนี้ก็รู้กันอยู่ว่ามาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ผมเห็นว่าทุกคนทำเต็มที่แล้ว แต่ดูท้องฟ้ามันครึ้มๆแล้วอีกแล้วตอนนี้น่าจะช่วยได้ไม่หมด แถมเข้าไปข้างในซอย น้ำก็เชียวมาก ก็เลยอยากให้ทหารทุกนายพักที่นี่ก่อน พรุ่งนี้จะได้ลุยต่อ ให้ทหารพรานหญิงค่ายXXพักบนบ้านสูงหลังนั้นนะ ส่วนทหารบก ทหารเรือ ทหารพรานผู้ชาย ก็ไปหาที่กันเอาเองนะ ”“ รับทราบ! ” ทุกคนตะโกนพร้อมกัน“ จัดแถว เลิกแถว! ”พรึ่บ! ทุกคนยกมือขึ้นมาทำความเคารพ แล้วแยกแถว แต่จะไปทีละแถวตามระเบียบของทหาร“ รับไว้ ” มันเป็นจังหวะที่พี่ฉัตร

  • วิวาห์บังคับรัก   บทที่ 6 จะ...จับจูบ

    บทที่ 6 จะ...จับจูบค่ายพวกเราได้ข้าวกันครบก็พากันไปหาที่เงียบๆ กิน นั่นก็คือบ้านของชาวบ้านที่ยกสูง น้ำท่วมไม่ถึงและบ้านหลังนั้นก็ยังก่อสร้างไม่เสร็จ มีแค่มุงหลังคา ฝากั้นบ้านยังไม่มี เหมือนจะทำแค่ห้องเดียว ทำด้วยไม้ทั้งหลัง พวกเราพากันเดินขึ้นบันไดไปและนั่งกินกันคนละมุม“ ใครไม่อิ่มกินได้เลยนะ” ฉันหยิบกล่องข้าวมาหนึ่งกับแกงถุงมาหนึ่งและน้ำหนึ่งขวด ที่เหลือวางไว้ตรงกลางแล้วพาตัวเองมานั่งห้อยขาอีกฟากหนึ่ง หูก็ได้ยินพี่ๆ ต่างพากันถามเพื่อนอีกสามคนว่าฉันกับคนแจกข้าวเป็นอะไรกัน พวกนั้นก็บอกไปตามตรงว่าเป็นคู่หมั้น เป็นแฟน เป็นคนรัก ทำนองนี้ฉันนั่งกินอย่างชิวๆ ตาก็มองลงไปด้านล่างที่มีน้ำท่วมขังอยู่ ถึงรสชาติจะไม่ค่อยได้เรื่อง แต่มันก็ประทังความหิวได้ เลยคิดไปว่ามันอร่อยนั้นแหละ“เอ่อ…” จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงทุกคนดังพร้อมกันแบบตะกุกตะกัก แต่ก็ไม่ได้สนใจคิดว่าน่าจะเป็นผู้หมวดที่เดินขึ้นมาพรึ่บ….รองเท้าคู่หนึ่งปรากฏใกล้ที่ฉันนั่ง มันทำให้ฉันต้องแหงนหน้าขึ้นไปมองเจ้าของ“พี่ฉัตร!” สิ้นเสียงฉัน พี่เขานั่งลง แต่ใครจะนั่งด้วยล่ะ ฉันขยับห่างจะลุกขึ้นแต่โดนล็อกด้วยมือหนาพี่เขาเอาแขนมาพาดที่ไหล่เหม

  • วิวาห์บังคับรัก   บทที่ 5 คิดว่าจำไม่ได้เหรอ?

    บทที่ 5 คิดว่าจำไม่ได้เหรอ?พวกเราหมู่สองทั้งสิบเอ็ดคนเดินมาถึงก็ไม่ทันได้พักหายเหนื่อย ก็เตรียมตัวจะลงไปช่วยประชาชนก่อนเป็นอันดับแรกค่ายพวกเรามาด้วยสภาพโส-มม เลอะเทอะ สกปรก อิดโรย ตั้งแต่เท้าถึงขาก็เต็มไปด้วยโคลนสีแดง ใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยคราบสีดำ ที่ทาอำพลางตั้งแต่ตอนลาดละเวนค่ายอื่นที่มาคือสภาพดูดี มีแค่ชุดที่เปียกคงเพราะลุยน้ำหรือตากฝนแหละ“ หวายกับหวานรอตรงนี้นะ เฝ้าสัมภาระและปืนของทุกคนไว้ด้วย ที่เหลือตามผมมา” ผู้หมวดพูดขึ้นที่ต้องทิ้งคนให้เฝ้าเพราะไม่สามารถไว้ใจใครได้ ปืนคือของหวงของทหารที่สุด ถ้าหายไปอาจจะมีอันตราย เพราะไม่รู้ว่าตกไปอยู่ในมือโจรหรือชาวบ้านและถ้ามันเป็นของทหารคนไหน คนนั้นต้องรับผิดชอบด้วย เขาถึงบอกว่ารักษาปืนให้รักษาเท่าชีวิต“ ยัยมุก นั่นมันคู่หมั้นแกใช่ไหมอะ? ” ฟ้าเดินมาสะกิดแขนฉันเบา ๆ พร้อมพูดกระซิบและพยักพเยิดไปตรงหน้าฉันที่กำลังวางกระเป๋าที่แบกมากับปืนลงก็มองตามและมันก็จริง พี่ฉัตรกำลังพายเรือพาชาวบ้านมาส่งบนถนนที่พวกฉันยืนอยู่“ หลีกๆ ” ฉันไม่รู้ว่าพี่ฉัตรจะเห็นไหม แต่รีบพาตัวเองไปหลบข้างหลังเพื่อน แล้วรีบวางของลงพอเรือพี่ฉัตรมาถึงผู้หมวดค่ายเร

  • วิวาห์บังคับรัก   บทที่ 4 คิดดีแล้วใช่ไหม / เข้าป่า

    บทที่ 4 คิดดีแล้วใช่ไหม / เข้าป่า“ มุกแกคิดดีแล้วใช่ไหม? ที่จะไม่เอาโทรศัพท์ไปด้วยอะ ” ฟ้าถามย้ำเป็นรอบที่สาม“ อืม ไม่รู้จะเอาไปให้หนักกระเป๋าทำไม ”แต่ในความเป็นจริงก็โกรธคู่หมั้นตัวเองอยู่ ตั้งแต่เมื่อวานตอนวางสายไป พี่เขาก็ไม่โทรกลับมาง้อเลย รู้แหละว่าเราทั้งคู่ยังไม่รู้สึกอะไรกัน แต่มันก็ควรรักษาน้ำใจกันบ้าง!“ เข้าป่าไป ถ้าไม่มีอะไรทำมันน่าเบื่อนะ ถ้ามีโทรศัพท์มันดีกว่านะ เล่นอะไรก็ได้ ” ฝ้ายพูดเสริม ในขณะที่ฉันกำลังเช็ดปืนประจำตัวอยู่ เตรียมพร้อมจะออกเดินทางอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า“ ในป่ามันไม่ค่อยมีสัญญาณ เล่นอะไรก็สะดุดไปหมด สู้ไม่พาไปดีกว่า ” พูดจบก็หยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงมาปิดเครื่องไว้ซะเลย แค่สิบวันเองไม่เห็นจะเป็นอะไร ปกติก็ไม่ได้ติดโทรศัพท์ขนาดนั้น แล้วตอนเข้าป่าไป เขาจะให้วิทยุสื่อสารคนละตัวด้วย“ ทะเลาะกับพี่ฉัตรเหรอ? ” เพื่อนทั้งสามพร้อมใจกันจ้องหน้าอย่างจับผิด“ เปล่านะ มีอะไรต้องทะเลาะกันอะ ปกติก็คุยกันบ้าง ไม่คุยบ้าง คุยกันก็ถามแค่ทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยัง แค่นั้นเอง ไม่เห็นเป็นอะไร ถ้าไม่ได้คุยกันนะ ” ฉันพูดพร้อมยักไหล่แบบไม่ยี่หระ“ สาวๆ เสร็จหรือยัง! ” เสียงขอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status