ณ จวนสกุลเว่ย
“เจ้า เจ้า เจ้า เจ้าทั้งสองปั่นหัวข้าหรือ” เว่ยเสี่ยวเฉินหน้างอ เขาชี้นิ้วสลับไปมาระหว่างหลานอี้ซินและไป๋เฉินเซียง ทั้งยังแหงนหน้ามองฟ้าดั่งหมดอาลัยตายอยาก
“สวรรค์! นี่ท่านรังแกข้ามากเกินไปหน่อยแล้ว ทั้งที่ข้าพบนางในฝันก่อนเขาแท้ ๆ ทว่านางกลับเป็นฮูหยินสหายของข้า ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย”
หลานอี้ซินถอนหายใจ ทั้งยังกระชับอ้อมกอดบริเวณไหล่แคบแน่นขึ้น “เจ้าพล่ามพอแล้วหรือยัง ใครบอกว่าเจ้าพบนางก่อนข้า”
เว่ยเสี่ยวเฉินสะบัดแขนพร้อมทำหน้าบูด “ชิ เจ้าก็พูดได้ มีฮูหยินทั้งสวยทั้งเก่ง แล้วดูข้า ต้องตาเทพธิดาคนหนึ่งทว่าเขาไม่ใช่ของเรา”
“เจ้าพูดให้น้อยหน่อย เทพธิดาที่เจ้าว่านั่นฮูหยินของข้ามิใช่หรือ หากเจ้าตัดใจไม่ได้ ข้าจะพานางกลับและจะไม่มาเหยียบเรือนเจ้าอีก” เอ่ยจบหลานอี้ซินก็พยุงไป๋เฉินเซียงลุกขึ้น “ไปเถิดฮูหยิน เช่นนั้นเราไปให้คุณชายถังวาดดีกว่า ดูอารมณ์ของเขาแล้ว คงไม่อาจวาดภาพให้งดงามได้”
ไป๋เฉินเซียงหัวเราะคิกคัก สามีของนางกำลังเย้าแหย่สหาย
ไป๋เฉินเซียงกระซิบ “ท่านพี่เล่นแรงไปหน่อยกระมัง”
เว่ยเสี่ยวเฉินละล้าละลัง “อย่า อ
ณ จวนสกุลเว่ย“เจ้า เจ้า เจ้า เจ้าทั้งสองปั่นหัวข้าหรือ” เว่ยเสี่ยวเฉินหน้างอ เขาชี้นิ้วสลับไปมาระหว่างหลานอี้ซินและไป๋เฉินเซียง ทั้งยังแหงนหน้ามองฟ้าดั่งหมดอาลัยตายอยาก“สวรรค์! นี่ท่านรังแกข้ามากเกินไปหน่อยแล้ว ทั้งที่ข้าพบนางในฝันก่อนเขาแท้ ๆ ทว่านางกลับเป็นฮูหยินสหายของข้า ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย”หลานอี้ซินถอนหายใจ ทั้งยังกระชับอ้อมกอดบริเวณไหล่แคบแน่นขึ้น “เจ้าพล่ามพอแล้วหรือยัง ใครบอกว่าเจ้าพบนางก่อนข้า”เว่ยเสี่ยวเฉินสะบัดแขนพร้อมทำหน้าบูด “ชิ เจ้าก็พูดได้ มีฮูหยินทั้งสวยทั้งเก่ง แล้วดูข้า ต้องตาเทพธิดาคนหนึ่งทว่าเขาไม่ใช่ของเรา”“เจ้าพูดให้น้อยหน่อย เทพธิดาที่เจ้าว่านั่นฮูหยินของข้ามิใช่หรือ หากเจ้าตัดใจไม่ได้ ข้าจะพานางกลับและจะไม่มาเหยียบเรือนเจ้าอีก” เอ่ยจบหลานอี้ซินก็พยุงไป๋เฉินเซียงลุกขึ้น “ไปเถิดฮูหยิน เช่นนั้นเราไปให้คุณชายถังวาดดีกว่า ดูอารมณ์ของเขาแล้ว คงไม่อาจวาดภาพให้งดงามได้”ไป๋เฉินเซียงหัวเราะคิกคัก สามีของนางกำลังเย้าแหย่สหายไป๋เฉินเซียงกระซิบ “ท่านพี่เล่นแรงไปหน่อยกระมัง”เว่ยเสี่ยวเฉินละล้าละลัง “อย่า อ
ขุนนางในท้องพระโรงตะลึงพรึงเพริดไปตามกัน ต่างก็เหลียวมองไปยังใต้เท้าวูที่ยืนหน้าถอดสีอยู่เบื้องหน้าฮ่องเต้เอ่ย “ท่านแม่ทัพ ไยต้องการหนังสือหย่า หากเจ้าทำเช่นนี้ไม่เท่ากับว่าเอาเปรียบสตรีตัวเล็ก ๆ หรือ นางทำเรื่องใดให้เจ้าไม่พอใจกันเล่า”หลานอี้ซินยังมีสีหน้าสงบนิ่งไร้ซึ่งท่าทางตื่นกลัว ทว่าไป๋เฉินเซียงกลับรู้สึกใจเสียไปแล้ว หากเขาต้องการหย่ากับนางไม่จำเป็นต้องทำขั้นนี้ก็ได้บรรยากาศเข้าสู่ความอึมครึม ยามนี้อารมณ์แต่ละคนต่างรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ใต้เท้าวูเองก็สนิทชิดเชื้อกับฮ่องเต้ไม่น้อย แม่ทัพไป๋หู่กำลังทำเรื่องหยามหน้าขุนนางที่ฮ่องเต้โปรดปรานเข้าให้แล้ว เกรงว่าจากที่ถูกละเว้นโทษตาย กำลังจะเกิดสถานการณ์พลิกกลับไป๋เฉินเซียงกำลังคิดเอ่ยปาก กระนั้นกลับมีเสียงทุ้มดังตัดบท “ทูลฝ่าบาท อันที่จริงเป็นความผิดของลูกสาวกระหม่อมเอง ตระกูลวูขอยอมรับเรื่องการหย่าร้างจากท่านแม่ทัพไป๋หู่พ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ประหลาดใจ “ใต้เท้าวู แต่เดิมท่านเป็นคนรักศักดิ์ศรี และมีเหตุผลอยู่เสมอ ไยตอนนี้ท่านจึงยินยอมให้บุตรสาวถูกหย่าร้าง มิกลัวถูกผู้อื่นครหาหรือ”
ท้องพระโรงอันโอ่โถงของแคว้นจื่อโจววันนี้ฮ่องเต้เรียกให้ขุนนางทุกลำดับขั้นเข้าเฝ้าเพื่อร่วมยินดีกับชัยชนะจากสงครามหั่วหมิง“ใต้เท้าหลาน” เสียงครั่นคร้ามของโอรสสวรรค์ดังขึ้นหลานหมิ่นฉีสาวเท้าออกมาพลางประสานฝ่ามือและค้อมศีรษะลง “พ่ะย่ะค่ะ”“ที่ข้าเรียกทุกคนมาในวันนี้เจ้าคงทราบดี ว่าเป็นเรื่องใด”หลานหมิ่นฉีเองก็ไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไร ยามนี้ภายในใจของเขาล้วนเต็มไปด้วยหมอกขาว กลับกลายเป็นการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก“พ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้เอ่ยต่อ “บุตรชายของเจ้าทั้งสองล้วนมีฝีมือ ทั้งยังสร้างผลงานอันโดดเด่นไว้มาก แต่น่าเสียดาย…”ไป๋จื่อเหิงและเหล่าขุนนางในท้องพระโรงต่างก้มหน้างุดแทบลืมหายใจ ถึงอย่างไรบุตรสาวคนโตของเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของสกุลหลาน การที่สามีอย่างแม่ทัพชิงหลงก่อกบฏ ย่อมต้องสร้างความสั่นคลอนต่อทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เดิมไป๋จื่อเหิงหวังเกาะตำแหน่งและอำนาจของหลานจิ้นถงเพื่อขึ้นสู่ที่สูง แต่ดูเหมือนเขากำลังถูกผลักให้จมลงบ่อโคลนจนไม่อาจโผล่ศีรษะเพื่อหายใจ“ถึงอย่างไรผู้ก่อกบฏก็ได้รับกรรมตามสมควร” ฮ่องเต้ถอนหายใจ
“สรุปแล้วท่านอยากหย่าสินะเจ้าคะ แต่ก็นั่นแหละ ชะตานี้ข้าช่วงชิงมาจากผู้อื่น ย่อมสมควรที่มันจะกลับไปยังเจ้าของเดิม”หลานอี้ซินกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น จมูกโด่งเป็นสันโน้มลงจรดลงบนปรางแก้มหอมกรุ่น ไป๋เฉินเซียงตะลึงลาน“เด็กโง่ คิดอะไรของเจ้า ข้าเพียงไม่อยากให้เจ้าลำบาก หากข้าตายไปเจ้าจะต้องอยู่เป็นหม้าย ถ้าข้าไม่ทำเช่นนี้ ต่อไปเจ้าจะใช้ชีวิตอิสระได้อย่างไร”ไป๋เฉินเซียงกระเง้ากระงอด พลางบ่นกระปอดกระแปด “ท่านไม่ต้องมาคิดแทนข้า ชิ”“อีกอย่าง ชื่อนั่นก็ไม่ใช่เจ้ามิใช่หรือ”ในหนังสือหย่าเป็นชื่อผู้อื่นก็จริง ทว่าการแบ่งปันทรัพย์สินกลับเป็นชื่อของไป๋เฉินเซียงโดยตรง หากคนอื่นไม่รู้คงได้คิดว่านางเป็นภรรยาลับของเขาแน่แท้ไป๋เฉินเซียงสงบลง กล่าวเสียงค่อย “ก็จริง”“เจ้าลงนามแล้วหรือไม่” หลานอี้ซินถาม“แล้วท่านคิดว่าอย่างไรเล่าเจ้าคะ”นางอยากจะกลั่นแกล้งเขานักว่าลงไปแล้ว อันที่จริงนางแทบเผาหนังสือหย่าเล่มนั้นทิ้งเลยต่างหาก“จะลงหรือไม่ลงก็ย่อมไม่ต่าง”ไป๋เฉินเซียงขมวดคิ้ว วาจากำกวมเช่นนี้เป็นเหตุให้นางใคร่รู้เป็นอย่างมาก
เพราะศัตรูเพลี่ยงพล้ำทั้งรับมือจากการลอบโจมตี และยังถูกงูมีพิษดาหน้าเข้าทำร้ายตลอดสองวันสองคืน ท้ายที่สุด กองทัพชิงเป่ยก็ปราชัยให้แก่ทัพของแม่ทัพไป๋หู่ แผนการที่ชิงเป่ยวางเอาไว้ตลอดหลายเดือนพังทลายภายในพริบตา เพียงเพราะการย้อนพิษร้ายคืนสนองจากฝีมือท่านหมอหวัง จะกล่าวให้ถูกต้อง ทั้งหมดเป็นแผนการและฝีมือของไป๋เฉินเซียงดูเหมือนความดีความชอบนี้คงไม่ต้องพึ่งบารมีของแม่ทัพเช่นเขาแล้วขบวนทัพเดินทางกลับแคว้นด้วยชัยชนะอันยิ่งใหญ่ แคว้นชิงเป่ยยินดีทำสัญญาสงบศึกและเป็นพันธมิตรร่วมกันตลอดไป ทางแคว้นชิงเป่ยยังจะส่งของบรรณาการให้กับแคว้นจื่อโจวในทุกปีอีกด้วย“เซียงเซียง” เสียงทุ้มกระซิบเบาที่เบื้องหลังใบหน้าเกลี้ยงเกลาซับสีชมพูระเรื่อ “เจ้าคะ”ทั้งสองนั่งอยู่บนอาชาศึกเจียวซิ่ง ขบวนเดินทางกำลังมุ่งหน้ากลับวังหลวง เหล่าทหารหลายนายเห็นภาพแม่ทัพโอบภรรยาล้วนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกบางคนหน้าเผือดสีเพราะเกรงกลัวว่าจะถูกแม่ทัพลงโทษที่ริอ่านไปแตะเนื้อต้องตัวฮูหยินของเขา ทั้งจับทั้งโยนเป็นว่าเล่น เกรงว่าคงไม่อาจรักษาศีรษะให้ตั้งตรงบนบ่าได้แล้วหลานอี้ซ
“หมอหวังข้าว่าเจ้าสงบใจก่อนเถิด ต่อให้ท่านแม่ทัพเคยพลาดท่าตาบอดแต่ท่านก็ไม่เคยทำศึกแพ้มาก่อน”หวังอีเฉินถอนหายใจระลอกแล้วระลอกเล่า เดี๋ยวเดินเดี๋ยวนั่งไม่เป็นสุขเอาเสียเลย “ข้ารู้ว่าท่านแม่ทัพเก่งกาจ แต่ข้าถามเจ้าหน่อย ตั้งแต่ออกศึกหนนี้เจ้าเคยเห็นแม่ทัพรับการรักษาใดหรือไม่”“เอ่อ…” นายทหารผู้นั้นลังเล ตรึกตรองพักหนึ่งก็เอ่ยขึ้น “ข้าไม่ได้อยู่กับแม่ทัพตลอดเช่นท่านองครักษ์หลี แต่ส่วนใหญ่บาดแผลท่านแม่ทัพมีเพียงรอยแมวข่วน ร่างกายของท่านดุจทองคำยิ่งกว่าลูกรักสวรรค์เสียอีก เจ้าไม่เห็นรึท่านแม่ทัพแข็งแรงจะตาย ไม่เช่นนั้นจะนำทัพออกทำสงครามได้อย่างไร”หวังอีเฉินถอนหายใจ “เจ้าจะเข้าใจอะไร อย่ามองคนแค่ภายใน บาดแผลภายนอกบางทีก็มิได้บ่งบอกว่าเจ้าบาดเจ็บมากหรือน้อย ทว่าเป็นบาดแผลภายในมากกว่า ข้าเห็นหน้าเขาซีด ๆ หรือเขาถูกพิษ”“จะเป็นไปได้อย่างไร หมอหวังเจ้าคิดมาไปแล้ว”“เช่นนั้นข้าก็ขอให้ตัวเองคิดมากไปเองจริง ๆ” หวังอีเฉินนิ่วหน้า ยิ่งต่อความยาวสาวความยืดของบทสนทนาก็ยิ่งกระตุ้นความหวาดกลัวในใจของเขา“รายงาน รายงาน กองทัพกลับมากแล้ว”เสียงราย