INICIAR SESIÓNผ่านมาแล้วเกือบสี่ชั่วโมงที่เธอนั่งอยู่ในห้องนี้กับลูกค้าวีไอพี แต่ละคนเป็นถึงระดับผู้บริหารเจ้าของบริษัทหมื่นล้าน พวกเขามาเลี้ยงฉลองวันเกิด ‘คุณมานพ’ เธอไม่รู้จักหรอก แต่ได้ยินคนในห้องนี้พูดกัน
บอกตามตรงแอบรู้สึกเบื่อเหมือนกัน นอกจากต้องคอยปรนนิบัติเสี่ยหื่นกามที่จ้องจะลวนลามเธอทุกเมื่อ ยังต้องนั่งฟังอะไรก็ไม่รู้ที่คนกลุ่มนี้พูดคุยกัน มีทั้งภาษาไทย อังกฤษ และจีนปะปนกัน อยากหนีไปจากตรงนี้แล้ว… “ขอบคุณค่ะ” เธอรับเครื่องดื่มจากเสี่ยที่นั่งอยู่ข้างกายมา แกล้งทำทียกขึ้นดื่ม อาศัยจังหวะเขาหันไปคุยกับคนอื่นๆ วางแก้วลง ไม่ไว้ใจถ้าหากไม่ใช่เครื่องดื่มที่ตนเทเองกับมือ “เสี่ยคะ เกวขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” “รีบกลับมานะหนู” เสี่ยจอมหื่นเริ่มเมา เธอยิ้มให้แล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องวีไอพี อากาศข้างนอกยังดีกว่าข้างในล้านเท่า ความอึดอัดที่เก็บไว้หลายชั่วโมงถูกปลดปล่อยออกไปจนหมด เธอเดินมาห้องน้ำของโซนวีไอพีเพื่อทำธุระส่วนตัว ปกติเป็นคนทำอะไรรวดเร็ว หากแต่รอบนี้กลับเชื่องช้า ถ่วงเวลาเพราะไม่อยากรีบกลับเข้าไปในห้องนั้น เธอใช้เวลาในห้องน้ำเกือบยี่สิบนาที อันที่จริงทำธุระส่วนตัวเสร็จตั้งแต่ห้านาทีแรกแล้ว ส่วนเวลาที่เหลือยืนเล่นโทรศัพท์เพราะไม่อยากรีบเข้าไปหาเสี่ยจอมหื่นกาม เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ กลิ่นบุหรี่ที่ลอยมาเตะจมูกทำให้พลันสายตาไปมอง คือเขานั่นเอง… เจ้าของความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าอัพกำลังยืนพิงผนังปูนซีเมนต์เอามือล้วงกระเป๋าข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างใช้คีบบุหรี่อัดเข้าปาก เขาคนนั้นมีเสน่ห์และรังสีอันตรายเปล่งประกายออกมาในเวลาเดียวกัน เธอดึงสติกลับคืนมาแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากตรงนี้ แต่ทว่า… “เดี๋ยว” กึกกก เท้าทั้งสองหยุดลงอัตโนมัติกับคำสั่งของน้ำเสียงเข้มทรงพลัง เธอหันไปมอง และเขาก็ค่อยๆ เบือนใบหน้ากลับมามองเธอ แววตายังคงดูเย็นชาไม่ต่างจากวันแรกที่เจอกัน เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเดินเข้ามาหาเธอด้วยใบหน้านิ่งๆ ควันบุหรี่ถูกพ่นออกจากริมฝีปากสีคล้ำเล็กน้อย แม้กลิ่นของมันเหม็นฉุนชวนให้เวียนหัว หากแต่พออยู่กับผู้ชายคนนี้ กลับดึงดูดเสน่ห์บางอย่างจนทำให้คนมองเผลอใจเต้นแรงขึ้นมาทันใด “คะ? ระ…เรียกเกวลินเหรอคะ” “ถ้าไม่เรียกเธอแล้วจะเรียกใคร” น้ำเสียงเรียบราบตอบกลับ เจ้าของความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าอัพหยุดอยู่ต่อหน้าหญิงสาวที่สูงเพียงอก “มีอะไรรึเปล่าคะ” “คืนนั้นเธอลืมของ” เธอละสายตาจากหน้าเขามามองสิ่งของในมือ ดวงตาทั้งสองเบิกโพลงด้วยความตกใจ มันคือกระเป๋าสตางค์ที่เธอคิดว่าตัวเองทำหาย แต่ที่ไหนได้ มันอยู่กับเขา! พรึ่บ! คาร์มินชักสิ่งของในมือกลับ เมื่อคนตรงหน้าทำท่าจะหยิบไป “ขอของของฉันคืนด้วยค่ะ” พยายามปรับน้ำเสียงให้ไม่สั่นเครือ แอบหวั่นว่าเขาจะแอบดูบัตรประชาชนตัวเองแล้วรู้อายุรวมถึงชื่อจริงๆ ของเธอ “พูดกับผู้ใหญ่ด้วยสรรพนามแบบนั้นเหรอเกวลิน หรือจะให้ฉันเรียกเธอว่า… มิราญาร์ดี?” ตึกตัก ตึกตัก หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เมื่ออีกฝ่ายเรียกแทนเธอว่า ‘มิราญาร์’ ที่เป็นชื่อจริง เหงื่อมากมายไม่รู้มาจากไหนผุดขึ้นมาเต็มกรอบหน้ารวมถึงมือทั้งสองข้าง คาร์มินเปลี่ยนท่ายืนมาเป็นพิงผนังปูนซีเมนต์หนา อัดบุหรี่ในมือเข้าปากแล้วพ่นควันออกมาอย่างใจเย็น ผิดกับมิราที่ยืนตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก “ขอของคืนด้วยค่ะ” “ไม่แทนตัวเองว่าหนูเหมือนคืนนั้นแล้วเหรอ” ภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นเริ่มฉายเข้ามาในหัวอีกครั้งหลังจากเขาพูดจบ ‘อึก! หะ…หนูจุก มะ…มันลึกเกินไปอ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ’ ‘อ๊าาา ระหว่างที่ฉันกำลังเอาเธออยู่ เธอต้องแทนตัวเองว่าหนูเข้าใจไหม?’ ‘ถามว่าเข้าใจไหม’ ‘ขะ…เข้าใจค่ะ..’ “เรื่องคืนนั้นมันเป็นอดีตไปแล้ว…” “แต่สำหรับฉัน มันคือเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้” “…” เธอก้มหน้าแล้วเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เขาต้องการอะไร ไหนบอกว่าจบคือจบ แล้วจะพูดถึงเรื่องคืนนั้นขึ้นมาอีกทำไม “หึ ไม่คิดว่าคืนนั้นฉันกำลังเอากับเด็กอายุสิบแปดปี” มิราไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่เขาเปิดบริสุทธิ์ แต่เป็นผู้หญิงคนแรกที่อายุน้อยที่สุด ที่เขาเคยมีเซ็กซ์มาด้วย นับว่ากล้ามากที่โกหกเขา หากคืนนั้นมิราไม่ลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ คงเชื่อในสิ่งที่เธอพูดสนิทใจ เด็กเลี้ยงแกะคนนี้ช่างร้ายกาจจริงๆ “ขอของของหนูคืนด้วยค่ะ” ในเมื่อรู้ความจริงแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องคีพลุค ‘เกวลิน’ อีกต่อไป “อยากได้ของคืน ก็หาอะไรมาแลกสิ… เด็กน้อย”“เดินระวังนะครับ”“เบบี๋ประคองหนูทั้งวันแล้วนะ ให้หนูเดินเองเถอะ”“ไม่ได้ ท้องหนูโตมากแล้ว ให้เฮียประคองเนี่ยแหละดีแล้ว”เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ ต่อให้ท้องไม่โตใกล้คลอดเขาก็เดินประคองทุกวันอยู่แล้ว อาทิตย์หน้าก็ถึงกำหนดคลอดลูก บอกตามตรงว่าตื่นเต้นและกลัวในเวลาเดียวกัน ไม่เคยมีประสบการณ์คลอดลูกมาก่อน ค้นกูเกิลเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะมาก ซึ่งหลายคนบอกไม่เหมือนกันเลยสักคนคาร์มินประคองมิรามานั่งลงโซฟา ชายหนุ่มถอดรองเท้าออกให้ การกระทำของคนตัวโตเรียกรอยยิ้มจากภรรยาสาวได้ไม่ยากอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นเขาทำแบบนี้ให้“ขอบคุณเบบี๋นะคะ”คาร์มินเงยหน้าขึ้นมองภรรยาสาว“เบบี๋ดูแลหนูดีมากเลย ไม่คิดว่าชีวิตนี้หนูจะได้เจอผู้ชายแบบเบบี๋” แม้จุดเริ่มของความสัมพันธ์ไม่ได้ดีมากนัก ทว่าตอนจบของเรื่อง…เชื่อว่ามันสวยงามเสมอคุณคาร์มินดีกับเธอมากจริงๆ เขาดูแลและเอาใจใส่ในทุกเรื่อง แถมยังรู้ด้วยว่าเธอชอบหรือไม่ชอบอะไร ถ้าหากวันนั้นเธอกับเขาไม่ได้เจอกัน ก็คงไม่มีวันนี้“หนูรักเบบี๋นะคะ”“รักเหมือนกันครับ” เขามองมิราแล้วยิ้ม ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปสวมกอดเธอเอาไว้ด้วยความรักถ้าหากรู้ว่าจะรักมิรามากขนาดนี้ คงขอเธอเป็นแฟนไ
วันแต่งงาน “สวยจังเลยลูกสาวแม่” มะลิพูดกับลูกสาวในชุดเจ้าสีขาวสะอาดตาสวยงามด้วยรอยยิ้มและแววตาที่ปลื้มปิติจากเด็กน้อยในวันนั้นสู่เจ้าสาวในวันนี้…วันและเวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ เผลอแป๊บเดียวมิราโตเป็นสาวแล้ว ความฝันของคนเป็นแม่ไม่ได้มีอะไรมากมายเลย แค่อยากเห็นลูกสาวได้เจอคู่ชีวิตที่ดีและได้อุ้มหลานเส้นทางแห่งการก้าวสู่คำว่า ‘สร้างครอบครัว’ คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของมิราและคาร์มิน หวังว่าทั้งสองคนจะจับมือกันผ่านอุปสรรคต่างๆ ในอนาคตไปได้ จะคอยดูลูกสาวเติบโตอยู่ไม่ไกล หันมาเมื่อไหร่ก็ยังเจอ“แม่ก็สวยเหมือนกันค่ะ”“ปากหวานจริงๆ เด็กคนนี้”“คิก แม่ว่าคนอื่นจะมองหนูยังไงบ้างคะ เพราะหนูอายุสิบแปด แต่กำลังแต่งงาน”“อีกไม่กี่เดือนลูกสาวแม่ก็สิบเก้าแล้วนะ” มะลิพูดเย้าแหย่ให้ลูกสาวไม่เครียด“มิราไม่ต้องสนใจสายตาคนอื่นหรอกว่าจะมองยังไง วันนี้หนูเป็นนางเอกของงาน สวยที่สุดในนี้ ต่อให้ลูกสาวแม่แต่งงานตอนอายุสิบแปดมันก็ไม่เห็นแปลกอะไรเลย เพราะมิราบรรลุนิติภาวะแล้ว อีกอย่าง ความคิดและทัศนคติของลูกยังเหมือนผู้ใหญ่คนนึง”“…”“หากตัดเรื่องอายุออกไป ลูกสาวแม่ก็เหมือนผู้ใหญ่คนนึงเลยแหละ เพราะฉะนั้นมิราไม่ต
วันรับปริญญาคาร์มินในชุดครุยรับปริญญากำลังยืนถ่ายรูปกับกลุ่มเพื่อนสนิท สายตาคมเข้มมองหาใครบางคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วย มีเพียงครอบครัวตัวเองและของเพื่อนสนิทเท่านั้น เมื่อเช้ามิราโทรมาบอกว่าอาจจะไม่ได้เข้าไปเพราะติดธุระสำคัญวันนี้เป็นวันสำคัญแต่คนสำคัญกลับยังไม่มา พอมองดูรอบข้างเห็นคิมหันต์และอนาคินกำลังถ่ายรูปคู่กับแฟนสาวมันกลับทำให้เขารู้สึกเศร้าขึ้นมารู้ว่ามิราติดธุระของตัวเอง ทว่าวันสำคัญทั้งที ก็อยากให้เธอได้อยู่ตรงนี้ด้วยกัน“มิราไม่มาเหรอวะ” ลูคัสเดินเข้าไปถามคาร์มิน“ไม่แน่ใจวะ เห็นบอกว่าวันนี้ต้องไปทำธุระสำคัญ”“เดี๋ยวก็มา” เพื่อนสนิทตบไหล่เบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาครอบครัวตัวเองส่วนคาร์มินก็เดินเข้าไปหาพ่อ แม่ และน้องสาว“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะพี่คาร์มิน” คาร์เทียร์เอ่ยถามพร้อมกับอมยิ้ม แม้รู้อยู่แล้วว่าสาเหตุที่ทำให้พี่ชายทำหน้าหงอยแบบนี้มาจากอะไรเพราะว่าพี่สะใภ้ไม่อยู่ตรงนี้ยังไงล่ะ เลยทำให้แมวเย็นแถวนี้กลายเป็นแมวหงอย“พี่สะใภ้ของเทียร์ยังไม่มาเหรอคะ”“นั่นนะสิ ตั้งแต่มาถึง แม่ยังไม่เห็นหนูมิราเลย”“วันนี้มิราติดธุระสำคัญครับ ไม่รู้ว่าจะเสร็จตอนไหน บางทีอาจจะไม่ได้มา”“ลอง
“เบบี๋~ หนูมาแล้ว~” เสียงใสคุ้นเคยดังเข้ามาในโสตประสาทชายหนุ่มที่กำลังวุ่นวายอยู่กับงานตรงหน้า ความเครียดตึงเหมือนสมองบีบรัดแน่นหายไปในพริบตา เมื่อได้เห็นรอยยิ้มสดใสของแฟนสาวและเป็นคนเดียวกับ…แม่ของลูก“ซื้อของกินมาฝากด้วยค่ะ” คนตัวเล็กในชุดสบายๆ ชูถุงของกินเต็มสองมือขึ้นต่อหน้าคาร์มิน“ไปชอปปิงกับคาร์เทียร์สนุกไหม” วันนี้เขาออกมาบริษัทตั้งแต่สิบโมงเช้า ทำให้มิราต้องอยู่เพนท์เฮาส์คนเดียว ตอนแรกแอบกังวลว่าเธอจะเหงาหรือเปล่า โชคดีวันนี้คาร์เทียร์โทรมาขออนุญาตพามิราไปชอปปิงเป็นเพื่อน เขาเลยอนุญาตให้ไป เพราะไม่อยากปล่อยแฟนไว้คนเดียว“สนุกมากเลยค่ะ น้องสาวเบบี๋ชวนคุยเก่งมาก แถมยังพาหนูไปกินของอร่อยๆ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย”“หึ เฮียดีใจนะที่เห็นหนูมีความสุข” คงสนุกเที่ยวเลยล่ะ ทั้งมิราและคาร์เทียร์มีอะไรหลายอย่างคล้ายกันมาก แตกต่างกันอยู่แค่ไม่กี่อย่าง“ยิ้มแบบนี้เยอะๆ นะครับ” รอยยิ้มของมิราเปรียบเสมือนยาชูกำลัง เห็นแบบนี้ทุกวันทำให้เขาหายเหนื่อยกับอะไรหลายๆ อย่างที่ทำมาทั้งวันเลยล่ะ…“เมื่อกี้เห็นเบบี๋สีหน้าไม่ค่อยดีเลย เป็นอะไรเหรอคะ”“เฮียแค่กำลังโฟกัสกับงาน” เวลากำลังโฟกัสกับอะไร สีหน้าของ
บรรยากาศภายในห้องอาหารของโรงแรมหรูระดับห้าดาวชื่อดังแห่งหนึ่งอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มแห่งความสุข สองครอบครัวได้มาเจอกันเป็นครั้งแรกครอบครัวคาร์มินให้การต้อนรับครอบครัวมิราเป็นอย่างดี ทั้งหมดร่วมกันรับประทานอาหารเย็นท่ามกลามวิวตึกในยามค่ำคืนของเมืองกรุงเทพมหานครในห้องอาหารส่วนตัววีไอพีคาร์มินเป็นคนนัดทุกคนให้มารวมตัวกันเพื่อบอกเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เจ้าตัวไม่ได้คิดมากอะไร แต่คนที่คิดมากเห็นจะเป็นแฟนสาวมากกว่า เมื่อคืนมิรานอนไม่หลับเพราะเอาแต่เครียดเรื่องนี้ และกลัวอะไรหลายๆ อย่างที่ยังไม่เกิดขึ้น“นัดเจอกันแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ จะได้ทำความรู้จักกับครอบครัวหนูมิราด้วย” เสียงนาร์มินพูดแล้วยิ้มให้ครอบครัวมิราอย่างเป็นมิตร“อะไรที่ทำให้ลูกนัดเจอพวกเราพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้” มาร์คินหันไปถามลูกชายด้วยความอยากรู้“ที่ผมนัดทุกคนมาเจอกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาวันนี้ เพราะมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกให้ทราบครับ”“เรื่องสำคัญอะไรเหรอ?” มะลิถามคาร์มินหันไปมองหน้ามิราพร้อมกับจับมือเล็กมากุมเอาไว้ แม้คนข้างกายไม่แสดงออกว่ากำลังวิตกกังวล แต่ลึกๆ เชื่อว่าเธอคงกำลังเป็นแบบนั้น“
“เบบี๋~” เสียงใสเจื้อยแจ้วเรียกแฟนมาแต่ไกล มิราเดินมานั่งบนตักอ้อนคาร์มินที่กำลังทำงานอยู่ ทำให้ชายหนุ่มต้องพักงานตัวเองเอาไว้ชั่วคราวเพื่อสนใจแฟนสาวก่อนเป็นอันดับแรก“ว่าไงครับ”“เบบี๋ไม่ปลุกหนูอีกแล้ว”“เฮียเห็นหนูหลับอยู่เลยไม่อยากรบกวน” ช่วงนี้มิรานอนกลางวันบ่อยมาก แถมยังขี้อ้อน และติดเขาแบบสุดๆ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบที่เธอเป็นอย่างนี้ ชอบมากเลยล่ะ เพราะเมื่อก่อนมิราไม่ค่อยสนใจเขาเท่าไร อยากให้เป็นแบบนี้ไปนานๆ ตลอดไปเลยยิ่งดี…“แต่บางทีการตื่นขึ้นมาโดยไม่เห็นเบบี๋ มันก็รู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกัน”“บางทีเฮียก็เดินเข้าไปดูหนูอยู่ แต่เห็นนอนหลับสบายเลยไม่กล้าปลุก”“เบบี๋ทำงานอยู่เหรอ?”“ใช่ครับ”“หนูลงไปซื้อชานมไข่มุกนะ เบบี๋จะเอาอะไรไหมเดี๋ยวซื้อมาให้”“ไปคนเดียว?”เธอพยักหน้าเป็นคำตอบ เห็นเขากำลังทำงานอยู่เลยไม่อยากชวนลงไปด้วย“เดี๋ยวเฮียลงไปเป็นเพื่อน”“เบบี๋ทำงานเถอะค่ะ หนูไม่อยากกวน”“เดี๋ยวไปเป็นเพื่อน”“ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูไปหยิบกระเป๋าตังค์ก่อนนะ”“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเฮียจ่ายให้”“เบบี๋จ่ายค่าชานมไข่มุกให้หนูเกือบทุกวัน หมดไปเยอะแล้วมั้ง ครั้งนี้หนูขอจ่ายเองดีกว่า”“เฮียจะจ่ายให้”“ตามใจเ







