Share

บทที่ 13

last update Huling Na-update: 2025-05-07 19:03:39

แสงตะวันอ่อนยามเช้าทอประกายผ่านม่านผ้าไหมที่พาดยาวในท้องพระโรง ขบวนขันหมากจากตระกูลเหวิ่นเรียงรายเป็นระเบียบ บรรยากาศเคร่งขรึมแต่แฝงความสง่างาม เหวิ่นจือหยูค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาในท้องพระโรงอย่างช้าๆ องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อเงยหน้าขึ้นเมื่อเสียงขันทีประกาศถึงการมาถึงของเจ้าสาว

ในนาทีนั้นเองที่เขาเห็นเหวิ่นจือหยูในชุดแต่งงานสีแดงเพลิงปักลายหงส์ทองงดงาม เครื่องประดับบนศีรษะสะท้อนแสงจนวิบวับ ทุกอิริยาบถของนางแสดงถึงความสงบและสง่างาม หลี่หยวนเจ๋ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะดุดตา เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของเหวิ่นจือหยูมามากมาย ในแง่ร้ายเสียส่วนใหญ่ แต่ในวันนี้ ภาพที่ปรากฏตรงหน้าเขาแตกต่างไปจากที่เคยรับรู้

“คิดไม่ถึงเลยว่านางจะดูเป็นผู้ใหญ่ถึงเพียงนี้”ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจของหลี่หยวนเจ๋อ แต่ทันใดนั้น ความไม่พอใจที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับสตรีที่เขาไม่ได้รักก็กลับมาท่วมท้นในจิตใจ

เมื่อถึงเวลาพิธี เสียงขลุ่ยและฆ้องดังขึ้นก้องไปทั่วท้องพระโรง เป็นสัญญาณเริ่มพิธีแต่งงานขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อและคุณหนูเหวิ่นจือหยู เหล่าข้าราชบริพารต่างพากันเฝ้ามองด้วยความชื่นชมในความขลังและความงดงามของงานแต่ง

เหวิ่นจือหยูยืนนิ่งในชุดเจ้าสาวสีแดงสดปักลายหงส์ทองที่งดงาม หัวใจของนางเต้นแรงแต่ใบหน้านิ่งเรียบ สายตาของนางทอดมองตรงไปข้างหน้า ภายใต้ผ้าบางที่คลุมหน้า แม้จะรู้สึกถึงสายตาของคนรอบข้าง แต่นางก็ไม่สนใจ นางกระซิบบอกหัวใจของตัวเองให้เข้มแข็ง แม้การแต่งงานครั้งนี้จะเกิดขึ้นเพียงเพราะพันธะและความเหมาะสม หาได้เกิดจากความรักก็ตาม

องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อเดินเข้ามาใกล้นางด้วยท่วงท่าสง่างามตามแบบฉบับองค์ชาย สายตาเย็นชาของเขากวาดมองเจ้าสาวผ่านม่านบางๆ อย่างลอบสำรวจ แม้ภาพลักษณ์ของนางจะดูเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน แต่ในใจเขายังเต็มไปด้วยความไม่ไว้ใจและขุ่นเคือง แต่ถึงกระนั้น เขายังคงรักษาท่าทีที่สงบนิ่ง ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาให้ใครเห็น

“ข้าต้องใช้ชีวิตร่วมกับสตรีที่มีนิสัยที่ข้าชิงชังได้อย่างไร” คำถามก้องในใจของเขา ร่างสูงสง่าก้าวไปยืนเคียงข้างเหวิ่นจือหยูพร้อมกับความรู้สึกที่ปั่นป่วน

เมื่อพิธีการเริ่มต้น เหวิ่นจือหยูและหลี่หยวนเจ๋อต้องคุกเข่าลงพร้อมกันต่อหน้าฮ่องเต้และฮองเฮาผู้เป็นประธานในพิธี ก่อนจะพากันลุกขึ้นยืน ฮ่องเต้ทรงยิ้มแย้มพึงพอใจขณะมองดูโอรสและว่าที่พระชายา

“วันนี้เป็นวันที่สำคัญสำหรับเจ้าทั้งสอง” ฮ่องเต้ตรัสด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความสุข

“ข้าหวังว่าเจ้าจะครองรักกันอย่างยั่งยืน และปกป้องแผ่นดินร่วมกันในอนาคต”

คำอวยพรของฮ่องเต้เปี่ยมไปด้วยความเมตตา องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อทำเพียงพยักหน้าตอบเบาๆ ก่อนจะโค้งคำนับ โดยไม่แม้แต่เหลือบมองเจ้าสาว ขณะที่เหวิ่นจือหยูยอบกายรับคำด้วยความนอบน้อม และแอบมองไปทางเขา หัวใจของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นใหม่ นางจะทำให้ดีที่สุดเพื่อพิสูจน์ตัวเอง

พิธีมงคลสมรสดำเนินไปตามธรรมเนียม เหวิ่นจือหยูและหลี่หยวนเจ๋อถวายคำนับฮ่องเต้และฮองเฮา จากนั้นทั้งคู่จึงคำนับฟ้า ดิน และบรรพบุรุษ และฐานะสามีภรรยาอย่างเป็นทางการ ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยพิธีการที่สง่างาม โดยมีเหล่าข้าราชบริพารต่างเฝ้าดูอยู่ด้วยชื่นชมในความงดงามของคู่บ่าวสาว แต่ทว่าองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อแม้จะทำพิธีด้วยท่าทีสง่างาม แต่ใจของเขาอยู่ไกลจากสถานที่แห่งนี้ ทุกอย่างดูเป็นเพียงพิธีการที่เขาจำใจต้องทำ เขาไม่แม้แต่จะมองเหวิ่นจือหยูขณะที่ทั้งสองกราบไหว้

เหวิ่นจือหยูแอบมองใบหน้าขององค์ชายที่ยังคงนิ่งสงบราวกับไม่มีความรู้สึกใดๆ นางสัมผัสได้ถึงความเย็นชาที่แผ่ออกมาจากคนข้างกาย ใบหน้างดงามยังคงนิ่งเงียบ แต่หัวใจของนางกลับสั่นไหวในใจ แต่ก็ต้องกัดฟันแน่นเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ในใจ ถึงแม้จะรู้ว่าองค์ชายไม่ได้ต้องการนาง แต่ด้วยรู้ถึงบทบาทของตนในฐานะพระชายา นางก็ต้องแสดงบทบาทนี้ให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการแล้ว ขบวนแห่นำตัวเจ้าสาวก็เริ่มขึ้น เหวิ่นจือหยูถูกนำตัวไปยังเรือนหอขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อ เมื่อมาถึง เหล่านางกำนัลช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ ที่ประดับประดาด้วยโคมไฟแดง เป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขสมหวัง

เหวิ่นจือหยูนั่งอยู่บนเตียง เพื่อรอให้เจ้าบ่าวเข้ามาปลดผ้าคลุมหน้าตามธรรมเนียม ภายใต้ผ้าคลุมแดง หัวใจของนางเต้นแรงด้วยความกังวล นี่คือช่วงเวลาที่นางจะได้เผชิญหน้ากับหลี่หยวนเจ๋ออย่างแท้จริง แม้จะรู้สึกวิตก แต่เหวิ่นจือหยูก็พยายามทำให้ตัวเองสงบ นางคิดว่าการแสดงออกที่นิ่งสงบจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

ในที่สุดประตูห้องหอก็เปิดออก ร่างสูงขององค์ชายเดินเข้ามาด้วยท่าทีสุขุม สายตาเย็นชาของเขากวาดมองไปรอบๆ ห้องหอที่ถูกตกแต่งอย่างงดงามด้วยโทนสีแดง แม้บรรยากาศรอบตัวจะเต็มไปด้วยความสวยงามและความสุขที่ควรจะเป็น แต่ในใจของเขายังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ขัดแย้ง

เขาตรงมายังเจ้าสาวที่นั่งอยู่บนเตียง ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้านางชั่วครู่ จากนั้นจึงหยิบไม้ไผ่สำหรับปลดผ้าคลุมขึ้นมาด้วยท่าทางเฉยเมย แล้วใช้มันยกผ้าคลุมหน้าของเจ้าสาวขึ้น

เมื่อผ้าคลุมหน้าเลื่อนขึ้น จนเผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามของเหวิ่นจือหยูทั้งคู่ต่างมองสบตากัน องค์ชายมองพระชายาอย่างละเอียด นางดูสง่างามและนุ่มนวลยิ่งกว่าที่เขาเคยคิด ภายในใจของเขารู้สึกเต้นอย่างประหลาด ไม่ใช่เพราะความสวยงามของนาง แต่เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในตัวนาง ซึ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดกับความรู้สึกแบบใหม่

แต่ทันใดนั้นเขาก็กลับมานึกถึงความทรงจำในอดีต “นางจะเปลี่ยนไปได้จริงหรือ”

เขาวางไม้ไผ่ลงและนั่งลงข้างๆ เจ้าสาว บรรยากาศในห้องเงียบสนิท ไม่มีใครพูดอะไรสักคำเดียว จนแทบได้ยินเสียงลมหายใจ

“ขอบพระทัยที่องค์ชายกรุณาปลดผ้าคลุมให้เพคะ” เหวิ่นจือหยูเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน เสียงของนางนุ่มนวลและอ่อนโยน

หลี่หยวนเจ๋อพยักหน้ารับ โดยไม่ได้ตอบอะไร นัยน์ตาของเขาจับจ้องเหวิ่นจือหยูอย่างสำรวจ แม้เขาจะรู้สึกว่านางเปลี่ยนไป แต่นางยังคงเป็นคนที่เขาไม่รู้จักดีพอ

“หากมีสิ่งใดที่หม่อมฉันทำได้เพื่อให้องค์ชายสบายใจ โปรดบอกหม่อมฉันเถิดเพคะ หม่อมฉันจะพยายามอย่างดีที่สุด” เหวิ่นจือหยูกล่าวต่อ น้ำเสียงของนางแฝงด้วยความจริงใจ

คำพูดนั้นทำให้หลี่หยวนเจ๋อหัวเราะเบาๆ ทว่าดวงตาเย็นชา

“ข้าคงไม่มีอะไรที่จะให้คนไม่เอาไหนอย่างเจ้าช่วยหรอก ไม่ต้องพยายามให้เสียเวลา”

คำพูดของเขาทำให้หัวใจของเหวิ่นจือหยูเจ็บแปลบ แต่นางคาดไว้แล้วว่าจะต้องเผชิญกับสิ่งนี้ นางจึงพยายามไม่ให้ความรู้สึกเหล่านั้นแสดงออกมาทางสีหน้า

“หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ” นางตอบเสียงเรียบ หากแต่ในใจกลับปั่นป่วน

“ที่หม่อมฉันถามไปเพียงแค่มารยาท ถ้าทำให้ท่านไม่พอใจได้โปรดให้ท่านคิดเสียว่าไม่เคยได้ยินจากหม่อมฉันที่ถาม”

หลี่หยวนเจ๋อยังคงนิ่ง แม้ในใจจะรู้สึกโกรธในคำพูดที่เหมือนไม่แยแสของนาง ทั้งที่เมื่อก่อนนางทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้แต่งงานมาเป็นพระชายาของเขา แต่ตั้งแต่หลังอุบัติเหตุนางเป็นคนละคน ที่ไม่อยากแต่งงานกับเขาเลย หนำซ้ำยังจะยกเขาให้กับน้องสาวอย่างง่ายดาย ทั้งที่ก่อนหน้าคุณหนูตระกูลเหวิ่นต่างก็แย่งที่จะได้รับความสนใจจากองค์ชายอย่างเขา

“เจ้า ..” หลี่หยวนเจ๋อตอบสั้นๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องหอไป

เหวิ่นจือหยูมองตามหลังเขาไป ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง แม้วันนี้นางจะได้กลายเป็นพระชายาแล้ว แต่นางรู้ดีว่าการพิสูจน์ตัวเองและเอาชนะใจหลี่หยวนเจ๋อจะไม่ใช่เรื่องง่าย

“ข้าจะไม่ยอมแพ้” เธอบอกตัวเองในใจ แม้เส้นทางนี้จะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่เธอสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ปล่อยให้องค์ชายดูแคลนนางได้อีกต่อไป
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 174

    “เสด็จแม่ทำของวิเศษอีกแล้วหรือเพคะ”“ใช่ แม่ทำของขวัญให้เสด็จพ่อของเจ้า” นางยิ้ม ก่อนจะหันไปพยักพเยิดให้เขาแสดงนาฬิกาให้ลูกๆ ดูหลี่หยวนเจ๋อเปิดฝานาฬิกา พระโอรสและพระธิดามองมันตาเป็นประกาย“ว้าว มันขยับเองได้”“นี่คืออะไรหรือพะย่ะค่ะ” หลี่เจ๋อหานมองหน้าปัดที่มีเข็มหมุนช้าๆ อย่างสนใจ“เรียกว่านาฬิกา”

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 173

    ภายในห้องทำงานที่เงียบสงบ แสงเทียนส่องวูบไหว เงาของเหวิ่นจือหยูที่กำลังก้มหน้าก้มตาประกอบชิ้นส่วนโลหะเล็กๆ ด้วยความตั้งใจ บนโต๊ะไม้เต็มไปด้วยแบบร่าง กลไก และเครื่องมือที่นางประดิษฐ์ขึ้น เสียงโลหะกระทบกันเป็นจังหวะสม่ำเสมอเหวิ่นจือหยูค่อยๆ ใช้เครื่องมือขนาดเล็กประกอบเฟืองตัวสุดท้ายเข้ากับแกนกลาง ก่อ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 172

    แสงแดดอ่อนยามเช้าทอดผ่านแมกไม้ วันนี้องค์รัชทายาทหลี่หยวนเจ๋อพาพระชายาและพระโอรสมาเที่ยวดูความเป็นอยู่ของราษฎรอย่างไม่เป็นทางการ เหวิ่นจือหยูนั่งอยู่บนในรถม้าเคียงข้างองค์รัชทายาทพระสวามีของนาง รถม้าเคลื่อนผ่านถนนลูกรังที่ทอดยาวไปยังหมู่บ้านริมแม่น้ำ ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำคือท้องทุ่งเขียวขจีของอีกหมู่

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 171

    ดวงตะวันฉายแสงเจิดจรัสเหนือขอบฟ้า สาดส่องลงมายังอาณาจักรอันกว้างใหญ่ของแคว้นหลี่ วันนี้เป็นวันสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์เพราะเป็นวันที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ซึ่งใช้เวลาสร้างมายาวนานถึงสามปีได้เสร็จสมบูรณ์ ฮ่องเต้พร้อมด้วยเหล่าขุนนางเสด็จมาทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง บริเวณอ่างเก็บน้ำถูกตกแต่งอย่างงดงาม

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 170

    “เปรี๊ยะ” ลูกธนูไฟพุ่งทะยานสู่เป้าหมาย ทุกดอกพุ่งเข้าเป้าหมายอย่างแม่นยำ เนื่องจากการปรับองศาของหอคอยตรวจตราแบบใหม่ ทำให้สามารถคำนวณทิศทางลมและระยะการยิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ “ไม่ใช่แค่ตรวจจับศัตรู แต่ยังโจมตีได้แม่นยำ ” อ๋องจิ้นอันพึมพำ สีหน้าของเขาประหลาดใจ เหวิ่นจือหยูเผยรอยยิ้มบ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 169

    ลมหนาวพัดแรงเหนือทุ่งหญ้ากว้างที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เหยี่ยวตัวหนึ่งโฉบลงจากฟากฟ้า ก่อนจะม้วนปีกร่อนลงยังแขนขององครักษ์หนุ่มที่ยืนรออยู่หน้าตำหนัก ขาของมันมีม้วนสารพันด้วยตราประจำตัวของอ๋องจิ้นอัน “ข่าวด่วนจากอวิ๋นโจว” องครักษ์เอ่ยพลางยื่นสารให้ขันทีผู้อาวุโสที่รออยู่เพื่อนำไปถวายฮ่องเต้

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status