แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: กุหลาบดิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-01 18:41:05

ที่ตำหนักหลวง องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อผู้นำที่เย็นชาและเคร่งครัดในหน้าที่ รู้ดีว่าการหมั้นหมายกับเหวินจิ่นไม่ใช่เรื่องของความรัก มันเป็นเพียงแผนการทางการเมืองที่ช่วยเสริมสร้างอำนาจของราชวงศ์ แต่สิ่งที่ทำให้เขาสนใจคือการเปลี่ยนแปลงของเหวิ่นจือหยูหลังจากอุบัติเหตุ นางดูมีความฉลาดและกล้าหาญขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และการที่นางไม่ได้พยายามเอาอกเอาใจเขาไม่ได้หาเรื่องมาคลอเคลียเขาเกินงามเหมือนแต่ก่อน กลับทำให้นางน่าดึงดูดมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

วันหนึ่งเหวิ่นจือหยูหรือวาดรวีถูกเชิญให้ไปพบกับองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อเป็นอีกครั้งหลังจากฟื้นตัวจากอุบัติเหตุ เมื่อเธอเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ของตำหนักหยวนเหอ สายตาขององค์ชายหยวนเจ๋อก็จับจ้องเธอทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย

“เจ้าเปลี่ยนไป” เขาเอ่ยเรียบๆ แต่มีความคาดคั้นอยู่ในน้ำเสียงเหมือนอยากจับผิด

วาดรวียิ้มบางๆ “เพคะ ข้าคิดว่าบางครั้งการเผชิญหน้ากับความตายทำให้เราต้องคิดใหม่และตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตให้ดีขึ้นกว่าเดิม”

คำตอบนั้นทำให้องค์ชายหยวนเจ๋อรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ยินคำพูดที่เฉียบคมและมีความหมายเช่นนี้จากเหวิ่นจือหยูที่เคยโง่เง่าและหยิ่งยะโส

“ถ้าเจ้าประสบอุบัติเหตุสมองกระทบกระเทือนแล้วคิดดีได้แบบนี้ เจ้าน่าจะเป็นตั้งนานแล้วจะดีกว่านะข้าว่า”

“ท่าน ก็น่าจะโดนบ้างนะ จะได้นิสัยอ่อนโยนกับผู้หญิงบ้าง” เหวิ่นจือหยู หรือวาดรวีว่าให้

“เจ้า…”

ในขณะเดียวกัน เหวิ่นลี่หยา น้องสาวของเหวิ่นจือหยู เริ่มรู้สึกไม่พอใจที่พี่สาวของเธอดูมีความมั่นใจและสามารถดึงดูดความสนใจขององค์ชายได้มากขึ้น

“องค์ชายเพคะ ข้านำพัดผืนนี้มาถวายท่าน ข้าปักด้วยมือของข้าเอง ท่านจะโปรดรับไว้หรือไม่เพคะ” เสียงของเหวิ่นลี่หยาดังขึ้นก่อนที่องค์ชายจะทันได้พูดอะไร นางถือพัดผ้าไหมที่ประดับด้วยลวดลายงดงาม เดินเข้ามาหาองค์ชายหลี่หยวนเจ๋ออย่างอ่อนหวาน นางพยายามยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดด้วยเสียงอ่อนนุ่ม

หยวนเจ๋อมองพัดผ้าไหมที่นางยื่นให้โดยไม่ได้ตอบอะไร แววตาของเขาเย็นชาและห่างเหิน “ข้าไม่จำเป็นต้องใช้” เขาตอบเรียบๆ

เหวิ่นลี่หยารู้สึกหน้าชา แม้จะรู้สึกเสียหน้าต่อพี่สาวเหวิ่นจือหยูที่นั่งอยู่ แต่ยังคงพยายามต่อ “แต่ท่านอาจต้องใช้ในวันที่อากาศร้อนมาก ข้าแค่หวังจะช่วยให้ท่านสะดวกสบายยิ่งขึ้นเพคะ”

“ไม่จำเป็น ข้ามีคนดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว” หลี่หยวนเจ๋อตอบเสียงเย็นชา ก่อนจะหันไปทางวาดรวีหรือเหวิ่นจือหยูที่นั่งอยู่ด้วยกัน “เจ้าเองจือหยู มีสิ่งใดที่ต้องการจากข้าหรือไม่”

วาดรวีมองเขาด้วยสายตาแน่วแน่และตอบอย่างตรงไปตรงมา “ไม่มีเพคะ ข้าเพียงแค่ต้องการเวลาของท่านในการพูดคุยเรื่องสำคัญอื่นๆ”

เหวิ่นลี่หยากัดฟันแน่น รู้สึกโกรธที่พี่สาวของเธอกลายเป็นคนที่ได้รับความสนใจจากองค์ชายแทน

ที่ห้องบรรทมขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อ ความเงียบสงัดปกคลุมทั้งห้อง มีเพียงแสงแดดที่สาดส่องผ่านบานหน้าต่างเล็กๆ เข้ามาอาบร่างของชายผู้สวมชุดยาวสีดำปักลายมังกรทองที่นั่งอยู่ข้างโต๊ะไม้สูง ดวงตาของเขามองไปที่เอกสารราชการบนโต๊ะตรงหน้า แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความว้าวุ่น

องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ รู้สึกกดดันจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เขาถูกบังคับให้หมั้นหมายกับเหวิ่นจือหยู บุตรสาวของแม่ทัพเหวินผู้มีอำนาจ แม้ว่าหลี่หยวนเจ๋อจะเป็นองค์ชายที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วทั้งแคว้นว่าเป็นผู้นำที่ฉลาดปราดเปรื่อง แต่เขากลับไม่สามารถขัดขืนคำสั่งของฮ่องเต้ผู้เป็นพระบิดาได้

เขาไม่เคยมีความรู้สึกต่อเหวิ่นจือหยูเลย นางเป็นเพียงหญิงสาวที่โง่เง่าไม่รู้หนังสือเอาแต่ชอบแต่งตัวสวยการบ้านการเรือนไม่เอา โมโหร้ายเป็นที่สุด แม้หลังๆที่เจอกันสองครั้งหลังเกิดอุบัติเหตุของนางดูนางจะเปลี่ยนไปก็ตามทีเถอะ การหมั้นหมายครั้งนี้เป็นเพียงเรื่องการเมืองที่ถูกวางแผนขึ้นเพื่อสร้างพันธมิตรกับตระกูลเหวิ่น ความรู้สึกของเขาหรือของเหวิ่นจือหยูไม่เคยถูกนำมาพิจารณา

เสียงประตูเปิดเบาๆ ขัดจังหวะความคิดขององค์ชาย หญิงรับใช้คนสนิทของเขาเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ พร้อมกับถาดชาที่ถือไว้ในมือ

“องค์ชายเพคะ ชาท่านเตรียมไว้แล้วเพคะ” นางพูดเบาๆ ด้วยความเคารพก่อนจะก้มศีรษะให้

หลี่หยวนเจ๋อพยักหน้าเบาๆ เป็นการตอบรับ แต่ก็ไม่ได้มองนาง เขากลับจมอยู่กับความคิดของตัวเอง

“ข้าต้องการสิ่งนี้หรือ” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ

หากเป็นไปได้ เขาอยากใช้ชีวิตที่เขาเลือกเอง แม้ว่าจะต้องอยู่ภายใต้ภาระหน้าที่ในฐานะองค์ชาย แต่เขาไม่ต้องการถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับคนที่เขาไม่มีความรู้สึกรักหรือรู้สึกดีด้วยเลย อย่างไรก็ตาม คำสั่งของฮ่องเต้เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

“เจ้าคิดว่าการแต่งงานครั้งนี้จะเป็นอย่างไร” เขาถามขึ้นโดยไม่ได้หันไปมองหญิงรับใช้ นางหยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบด้วยความระมัดระวัง

“บ่าวไม่อาจกล่าวอะไรได้เพคะ แต่อาจเป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราชวงศ์ของท่านเพคะ”

หลี่หยวนเจ๋อเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง “แต่ถ้าข้าไม่ต้องการมันล่ะ”

“การที่ท่านไม่ต้องการ อาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้เพคะองค์ชาย” นางตอบเบาๆ น้ำเสียงนอบน้อม

หลี่หยวนเจ๋อถอนหายใจแรงกว่าเดิม ในขณะที่เขาพยายามจะหาคำตอบในใจ เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากด้านนอกของประตู ไม่นานนัก องครักษ์ส่วนพระองค์ของเขาเข้ามาก้มกราบอย่างนอบน้อม

“องค์ชายพะยะค่ะ ฮ่องเต้ทรงเรียกพระองค์ให้ไปพบที่พระตำหนักในห้องโถงใหญ่พะยะค่ะ”

หลี่หยวนเจ๋อหลับตาแน่น เขารู้ทันทีว่าการพูดคุยครั้งนี้จะเกี่ยวกับการหมั้นหมายของเขาโดยตรง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 80

    ช่วงสายขณะที่เหวิ่นจือหยูมองออกไปนอกหน้าต่าง หลี่หยวนเจ๋อเดินเข้ามาเงียบๆ เขาเห็นนางนั่งนิ่งอยู่ จึงค่อยๆ เดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ แล้วเอื้อมมือจับมือนาง “จือหยู เจ้าดูไม่สดชื่นเลย มีเรื่องอะไรในใจหรือไม่” เหวิ่นจือหยูสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้า แต่มือของนางบีบมือเขาแน่นขึ้น “หม่อมฉันแค่คิดว่า

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 79

    ก่อนหน้า ในค่ำคืนอันเงียบสงัด ณ ตำหนักขององค์ชายสาม เหวิ่นลี่หยาเดินวนไปมาในห้องโถง ด้วยสีหน้าวิตกกังวล ขณะที่หลี่จวิ้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางเคร่งขรึม “ท่านพี่คิดจะทำอย่างไรต่อไป” เหวิ่นลี่หยาหยุดเดินแล้วหันมามองพระสวามี “ตอนนี้โรงงานในแคว้นเฉินก็ถูกปิดไปหมดแล้ว หากแคว้นเฉินสืบสาวจนพบเบาะ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 78

    ในยามเช้าตรู่ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่และองค์ชายทั้งหลายได้ถูกเรียกประชุมด่วนที่ท้องพระโรงแห่งแคว้นหลี่ ภายในท้องพระโรง ฮ่องเต้หลี่หยวนเจิ้งประทับอยู่บนบัลลังก์ บรรยากาศในท้องพระโรงเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ฮ่องเต้ทรงมีสีหน้ากังวล และทอดพระเนตรเหล่าองค์ชายที่ประทับนั่งเรียงรายด้านล่าง “เรื่องกระทะปลอมที่

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 77

    ภายในห้องประชุมลับของตำหนักองค์รัชทายาท หลี่หยวนเจ๋อในฉลองพระองค์เรียบง่ายแต่สง่างาม ประทับอยู่ที่หัวโต๊ะ รอบด้านมีหัวหน้าช่างและขุนนางที่เกี่ยวข้องนั่งเรียงรายในท่าทีนอบน้อม เหวิ่นจือหยูประทับอยู่เคียงข้างพระสวามี ใบหน้านางนิ่งสงบแต่แววตาฉายแววเฉียบคม “กระทะปลอมที่ลอกเลียนแบบสินค้าแคว้นหลี่ของเรา

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 76

    ยามเช้าแสงอาทิตย์อ่อน ๆ สาดส่องเข้ามาในตำหนักเหวิ่นจือหยูและหลี่หยวนเจ๋อกำลังนั่งสนทนาอยู่ด้วยกันในบรรยากาศผ่อนคลาย จู่ๆเสียงนางกำนัลดังขึ้นขัดจังหวะ “ขออภัยองค์รัชทายาทและพระชายาเพคะ ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้ทั้งสองพระองค์เข้าเฝ้าโดยด่วน เนื่องจากมีขุนนางจากแคว้นเฉินมาติดต่อเกี่ยวกับกระทะที่ซื้อไปจ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 75

    “จือหยู ข้าว่าเจ้าควรพักก่อน การดูแลการผลิตเช่นนี้ไม่ได้เป็นหน้าที่ของเจ้าคนเดียว พวกเขามีช่างฝีมือดีอยู่แล้ว” หลี่หยวนเจ๋อเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง เขาเข้ามาใกล้และซับเหงื่อที่ขมับให้อย่างอ่อนโยน เหวิ่นจือหยูชะงักยิ้มให้กับความอ่อนโยนและความใส่ใจของพระสวามี “หม่อมฉันรู้ แต่หม่อมฉันอยากให้แน่ใจว

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 74

    ขณะที่เหวิ่นจือหยูกำลังนั่งเขียน และวางแผนที่จะนำเสนอให้กับฮ่องเต้เพื่อส่งเสริมการผลิตกระทะและเผยแพร่ไปยังนอกวัง จู่ ๆ หลี่หยวนเจ๋อก็เดินเข้ามาหานาง ขณะที่เหวิ่นจือหยูกำลังนั่งจรดปลายพู่กันลงบนกระดาษเบื้องหน้า ดวงตาของนางเต็มไปด้วยสมาธิและความมุ่งมั่น เกี่ยวกับรายละเอียดการปรับปรุงกระทะและแผนการขย

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 73

    “มะ หม่อมฉันอยากทานหมูกระทะ” “หมูกระทะ” องค์รัชทายาทหลี่หยวนเจ๋ออุทานออกมาพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่พระชายาบอกว่าอยากกิน “เจ้าหมายถึงอะไร หมูกระทะ คืออะไรข้าไม่เห็นเคยได้ยิน ไม่เคยรู้จักอาหารประเภทนี้เลย” วาดรวีในร่างเหวิ่นจือหยูหันมามองหลี่หยวนเจ๋อพระสวามี นางลืมไปว่ายุคนี้อาจจะ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 72

    การกระทำอันอ่อนโยนของหลี่หยวนเจ๋ออยู่ในสายตาของเหวิ่นจือหยูที่มองมองอย่างระทวย นางรู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่เห็นแบบนี้ ไม่นึกเลยว่าหลี่หยวนเจ๋อผู้เย่อหยิ่งปากร้ายใส่นางทุกคครั้งที่เจอหน้ากันจะทำแบบนี้เป็น “หลี่หยวนเจ๋อ ลูกของเรารับทราบแล้วว่าท่านพ่อของเขารักเขามากแค่ไหน อูยยยย” เหวิ่นจือหยูเอ่ยบอกพระสว

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status