Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-05-01 18:42:11

เมื่อร่างสูงสง่าขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ของพระราชวัง สายตาของหลี่หยวนเจ๋อก็พบกับร่างของฮ่องเต้ผู้ทรงเกียรติที่ประทับอยู่บนบัลลังก์สีทอง ภายในห้องโถงมีบรรดาข้าราชการและราชสำนักนั่งอยู่โดยรอบ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม

“องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อลูกข้า” ฮ่องเต้เอ่ยขึ้นทันทีที่เขาเดินเข้ามา น้ำเสียงของพระองค์สงบนิ่งและหนักแน่น “เจ้าเตรียมตัวสำหรับการหมั้นหมายแล้วหรือไม่”

องค์ชายค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ แต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้ง “กระหม่อมเตรียมพร้อมตามพระบัญชาของฝ่าบาทพะยะค่ะ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ฮ่องเต้ทรงพยักหน้าเล็กน้อย แววตาเข้มขรึมของพระองค์มองตรงไปที่บุตรชายของตน “นี่ไม่ใช่เรื่องของความรักหรือความต้องการส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงในราชวงศ์และแคว้น เจ้าจำเป็นต้องเข้าใจสิ่งนี้ในฐานะองค์ชาย”

องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อรู้ดีว่าพระบิดาไม่เคยใส่ใจเรื่องความรู้สึกส่วนตัวของเขา แต่ในขณะที่เขาเงียบและยอมรับคำสั่งนี้ ส่วนลึกของจิตใจกลับเต็มไปด้วยความต่อต้าน แม้จะเป็นองค์ชาย เขาก็ยังมีความฝันและความต้องการของตัวเอง

“ฝ่าบาท กระหม่อมเข้าใจถึงความสำคัญของการหมั้นหมายครั้งนี้” เขาพูดอย่างระมัดระวัง “แต่กระหม่อมเพียงขอเวลาสักหน่อย เพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น”

ฮ่องเต้เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เจ้ามีเวลามากพอแล้วหยวนเจ๋อ อีกไม่นานพิธีหมั้นจะเกิดขึ้น เจ้าต้องยอมรับมันและทำหน้าที่ของเจ้า”

“แต่ถ้ากระหม่อมไม่เต็มใจล่ะพ่ะย่ะค่ะ” คำถามนี้หลุดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาก็ไม่สามารถดึงมันกลับไปได้

ทั้งห้องโถงเงียบกริบ ข้าราชบริพารหลายคนต่างเงยหน้าขึ้นมององค์ชายอย่างตกใจ ฮ่องเต้จ้องมองบุตรชายของตนด้วยสายตาที่เย็นเยียบ

“เจ้าคิดว่าเจ้ามีทางเลือกหรืออย่างไร” พระสุรเสียงของฮ่องเต้กดดันและเต็มไปด้วยอำนาจ "การที่เจ้าเป็นองค์ชาย เจ้าต้องเสียสละเพื่อแคว้นและราชวงศ์ เรื่องส่วนตัวของเจ้าไม่มีความหมายเมื่อเทียบกับความมั่นคงของประเทศนี้"

คำพูดนั้นทำให้หลี่หยวนเจ๋อรู้สึกหนาวสะท้าน แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่อาจขัดพระบิดาได้

องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อเงยหน้ามองพระบิดาด้วยแววตาที่หนักแน่น แม้ภายในจะเต็มไปด้วยความขัดแย้ง แต่เขารู้ว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้ไม่มีทางเลือกอื่น นี่คือหน้าที่ที่ถูกวางไว้สำหรับเขาตั้งแต่วันแรกที่เขาเกิดมา สายตาคมมองแม้กระทั่งฮองเฮาผู้เป็นพระมารดาที่นั่งอยู่เบื้องบนข้างกายพระบิดายังไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้

“กระหม่อมเข้าใจพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ” องค์ชายตอบด้วยน้ำเสียงที่สงบ แต่ในใจกลับรู้สึกกดดันและเหนื่อยล้า “กระหม่อมจะทำตามพระบัญชาของฝ่าบาท”

ฮ่องเต้พยักหน้าอย่างพอใจ “ดีแล้ว เจ้าต้องจดจำว่าเจ้าไม่ใช่เพียงลูกชายของข้า แต่เจ้าเป็นตัวแทนของราชวงศ์หลี่ หญิงจากตระกูลเหวิ่นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างพันธมิตร เจ้าไม่ควรปล่อยให้เรื่องนี้ล้มเหลว”

หลี่หยวนเจ๋อรับฟังด้วยความเคารพ แม้ใจลึกๆ จะรู้สึกขมขื่น เขาไม่อาจปฏิเสธความจริงที่ว่าตระกูลเหวิ่นนั้นมีอำนาจมาก การหมั้นหมายกับเหวิ่นจือหยูไม่เพียงแต่เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา แต่มันเป็นการผูกมัดราชวงศ์เข้ากับผู้สนับสนุนที่สำคัญในยามที่แคว้นต้องเผชิญกับศัตรูจากภายนอก

“อีกสามวันจะเป็นพิธีหมั้น” ฮ่องเต้กล่าวสรุป “เจ้าไปเตรียมตัวให้พร้อม อย่าให้มีเรื่องผิดพลาดที่ไม่งามเกิดขึ้นเด็ดขาด”

“รับบัญชาพะยะค่ะฝ่าบาท” องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อค้อมศีรษะรับคำสั่ง จากนั้นก็หันหลังกลับเดินออกจากห้องโถงใหญ่ ความกดดันที่หนักหน่วงตามเขาออกมาเหมือนเงาที่หลีกหนีไม่พ้น ทุกย่างก้าวของเขาหนักอึ้ง ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เพราะเขารู้ว่าเขาต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่ได้มาจากหัวใจของตัวเอง

เมื่อกลับมาถึงตำหนักของเขา หลี่หยวนเจ๋อนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ตัวใหญ่ เสียงรองเท้ากระทบพื้นทำให้ห้องที่เงียบสงัดมีเสียงสะท้อนเล็กน้อย สายตาของเขาจ้องมองไปยังภาพวาดภูเขาที่แขวนอยู่บนผนัง ราวกับจะหาเส้นทางที่จะหลบหนีจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

“ข้าจะทำยังไงดี”เขาพึมพำกับตัวเอง ความรู้สึกที่ถูกกดดันมานานทำให้เขาอยากจะปลดปล่อยความคิดในใจออกมา

เสียงขององครักษ์ส่วนตัวดังขึ้นจากนอกประตู “องค์ชายพะยะค่ะ คุณหนูเหวิ่นจือหยูได้ส่งสารขอเข้าพบพระองค์พะยะค่ะ”

หลี่หยวนเจ๋อหันมองประตูด้วยแววตาสงสัย เขาไม่เคยได้ยินเหวิ่นจือหยูขอเข้าพบเขาเองมาก่อน นางมักจะทำให้บิดาของนางพามาตลอดหรือไม่ก็ดักพบเขาข้างนอกและไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขา

“ให้นางเข้ามา” เขาออกคำสั่งแม้จะไม่แน่ใจว่านางต้องการอะไร

ไม่นานนัก เหวิ่นจือหยูก้าวเข้ามาในห้อง นางสวมชุดผ้าไหมเรียบง่าย สีขาวอ่อนประดับด้วยลวดลายปักด้วยมือที่งดงาม ท่าทางของนางยังคงเรียบเฉยและสงบเสงี่ยมเช่นเดิม แต่ดวงตาของนางกลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

“ถวายบังคมองค์ชายเพคะ” วาดรวีในร่างของเหวิ่นจือหยูกล่าวพร้อมคำนับอย่างนอบน้อม

“ลุกขึ้นเถิด เจ้ามีอะไรจะพูดกับข้า” เขาถามตรงไปตรงมา ไม่ได้แสดงท่าทางเป็นมิตรหรือเย็นชา

เหวิ่นจือหยูยืนขึ้นตรง นางมองตรงไปที่องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อด้วยดวงตาที่แน่วแน่ “ข้าแค่อยากถามองค์ชายเพคะ... ท่านต้องการการหมั้นหมายครั้งนี้จริงๆ หรือไม่”

คำถามตรงๆของเหวิ่นจือหยูทำให้องค์ชายผู้หยิ่งและเย็นชาอย่างหลี่หยวนเจ๋อเงียบไปครู่หนึ่ง เขาไม่คาดคิดว่านางจะกล้าถามเรื่องนี้ตรงๆ ขนาดนี้ ในใจของเขาเต็มไปด้วยความแปลกใจที่เห็นเหวิ่นจือหยูไม่ใช่หญิงสาวที่เคยทำตัวอ่อนแอใช้มารยาหญิงเก่งและไม่กล้าหาญต่อหน้าเขาเหมือนที่เขาเคยเข้าใจ

“เจ้าถามเพราะเหตุใด สมใจเจ้าแล้วนี่” เขาย้อนถาม นัยน์ตาเขาสำรวจนางอย่างลึกซึ้ง

เหวิ่นจือหยูสูดลมหายใจเข้าลึกๆอย่างต้องการที่จะระงับอารมณ์ก่อนตอบ “ข้ารู้ว่าท่านไม่ได้ต้องการข้า ข้าเองก็ไม่ได้ต้องการการหมั้นหมายนี้เช่นกัน มันเป็นเพียงข้อบังคับทางการเมือง แต่ข้าคิดว่าเราอาจจะหาทางออกที่เหมาะสมกว่านี้ได้”

คำพูดนั้นทำให้หลี่หยวนเจ๋อต้องคิดลึกขึ้นอีกครั้ง “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

เหวิ่นจือหยูมองเขาด้วยความตั้งใจ “ข้าเพียงอยากจะบอกท่านว่า หากท่านต้องการหาทางออก ข้ายินดีที่จะช่วยเหลือ เราอาจจะสามารถทำบางสิ่งเพื่อให้การหมั้นนี้ล้มเหลว โดยไม่ทำให้ตระกูลของเราถูกตำหนิได้ ข้าไปล่ะ”พูดจบเหวิ่นจือหยูก็เดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อมองตามนางด้วยความประหลาดใจ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดคิด นางไม่ใช่หญิงสาวที่เขาเคยรู้จัก

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในตระกูลเหวิ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลที่ทรงอำนาจที่สุดในแคว้น ตระกูลนี้มีลูกสาวสองคนจากแม่ต่างฐานะ ลูกสาวคนโตคือ เหวิ่นจือหยู ซึ่งเป็นบุตรสาวของภรรยาเอก ส่วนลูกสาวคนเล็กคือ "เหวิ่นลี่หยา" ซึ่งเกิดจากภรรยารอง แม้ทั้งสองจะเป็นพี่น้อง แต่ความสัมพันธ์ของพวกนางกลับเต็มไปด้วยความขัดแย้งและความริษยา โดยเฉพาะเรื่องขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อ ผู้เป็นคู่หมั้นของเหวิ่นจือหยู

เหวิ่นจือหยู แม้จะเป็นบุตรสาวคนโต แต่กลับมีนิสัยเย่อหยิ่ง อวดดี และไม่ค่อยเคารพใคร บางครั้งก็เกรี้ยวกราดโมโหร้ายเวลาโดนขัดใจ เหวิ่นจือหยูชอบการแต่งตัวสวยงดงาม ไม่ชอบเล่าเรียนหาความรู้ ไม่ชอบการทำงานบ้านงานเรือนเยี่ยงสตรีชั้นสูงต้องทำ นางได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีในฐานะบุตรสาวของภรรยาเอก ทำให้นางเชื่อว่าตัวเองเหนือกว่าน้องสาวคนเล็กที่เกิดจากภรรยารองเสมอ นางถูกกำหนดให้เป็นคู่หมั้นขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ด้วยนิสัยที่ดื้อรั้นและการไม่ใส่ใจต่อความรู้สึกของผู้อื่น หลี่หยวนเจ๋อจึงไม่เคยชื่นชอบนาง แต่นางก็ชอบที่จะหาเรื่องมาคลอเคลียเขาเพื่อที่จะเขาชนะน้องสาวเสมอ

เหวิ่นลี่หยา น้องสาวของเหวิ่นจือหยู กลับตรงกันข้ามกับพี่สาวโดยสิ้นเชิง นางเป็นหญิงสาวที่มีลักษณะเป็นกุลสตรีอย่างแท้จริง มีความอ่อนโยนและเรียบร้อยเสมอ การกระทำทุกอย่างของเหวิ่นลี่หยาถูกควบคุมและจัดการด้วยความระมัดระวัง นางรู้วิธีทำให้ทุกคนรอบตัวประทับใจ โดยเฉพาะองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อ

แม้เหวิ่นลี่หยาจะไม่ใช่คู่หมั้นอย่างเป็นทางการ แต่เธอกลับมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับองค์ชายมากกว่าเหวิ่นจือหยูด้วยความที่นางมักจะอยู่ใกล้ชิดและพยายามเข้าหาองค์ชายเสมอ ทำให้หลายครั้งองค์ชายรู้สึกว่านางมีความน่าชื่นชมในแบบที่เหวิ่นจือหยูไม่เคยมี การที่นางทำตัวเป็นกุลสตรีอย่างเคร่งครัดและพูดคุยด้วยความอ่อนโยน ทำให้หลี่หยวนเจ๋อเริ่มสงสัยว่าทำไมเขาถึงต้องถูกบังคับให้หมั้นหมายกับพี่สาวที่เขาไม่ชอบ ขณะเดียวกัน เหวิ่นลี่หยาก็มักจะใช้โอกาสนี้เข้าหาองค์ชายหลี่หยวนเจ๋ออย่างสุภาพ นางพูดจาด้วยถ้อยคำที่นุ่มนวลและแสดงให้เห็นถึงความเคารพต่อเขาเสมอ ทำให้หลายครั้งหลี่หยวนเจ๋ออดเปรียบเทียบระหว่างพี่น้องคู่นี้ไม่ได้ น้องสาวผู้เรียบร้อยและอ่อนโยน กับพี่สาวที่หยิ่งผยองและไม่เคยเห็นหัวใคร ทำไมไม่ให้เขาหมั้นกับเหวิ่นลี่หยาแทน

แต่คำพูดเหลิ่นจือหยูเมื่อครู่เหมือนไม่เเคร์ไม่อยากจะหมั้นหมายกับเขาทำเอาองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อตั้งตัวไม่ทัน นางสมองกลับแล้วหรือไร ปกติแข่งขันกับน้องสาวแทบเป็นเเทบตายที่จะได้อยู่ใกล้เขา แต่วันนี้นางพูดเหมือนกับว่าไม่อยากหมั้นกับเขาแล้วนี่เหวิ่นจือหยูก็ยังคงแสดงท่าทางที่เย่อหยิ่ง ไม่แยแสให้เขาสนใจอีกเป็นแน่
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 174

    “เสด็จแม่ทำของวิเศษอีกแล้วหรือเพคะ”“ใช่ แม่ทำของขวัญให้เสด็จพ่อของเจ้า” นางยิ้ม ก่อนจะหันไปพยักพเยิดให้เขาแสดงนาฬิกาให้ลูกๆ ดูหลี่หยวนเจ๋อเปิดฝานาฬิกา พระโอรสและพระธิดามองมันตาเป็นประกาย“ว้าว มันขยับเองได้”“นี่คืออะไรหรือพะย่ะค่ะ” หลี่เจ๋อหานมองหน้าปัดที่มีเข็มหมุนช้าๆ อย่างสนใจ“เรียกว่านาฬิกา”

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 173

    ภายในห้องทำงานที่เงียบสงบ แสงเทียนส่องวูบไหว เงาของเหวิ่นจือหยูที่กำลังก้มหน้าก้มตาประกอบชิ้นส่วนโลหะเล็กๆ ด้วยความตั้งใจ บนโต๊ะไม้เต็มไปด้วยแบบร่าง กลไก และเครื่องมือที่นางประดิษฐ์ขึ้น เสียงโลหะกระทบกันเป็นจังหวะสม่ำเสมอเหวิ่นจือหยูค่อยๆ ใช้เครื่องมือขนาดเล็กประกอบเฟืองตัวสุดท้ายเข้ากับแกนกลาง ก่อ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 172

    แสงแดดอ่อนยามเช้าทอดผ่านแมกไม้ วันนี้องค์รัชทายาทหลี่หยวนเจ๋อพาพระชายาและพระโอรสมาเที่ยวดูความเป็นอยู่ของราษฎรอย่างไม่เป็นทางการ เหวิ่นจือหยูนั่งอยู่บนในรถม้าเคียงข้างองค์รัชทายาทพระสวามีของนาง รถม้าเคลื่อนผ่านถนนลูกรังที่ทอดยาวไปยังหมู่บ้านริมแม่น้ำ ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำคือท้องทุ่งเขียวขจีของอีกหมู่

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 171

    ดวงตะวันฉายแสงเจิดจรัสเหนือขอบฟ้า สาดส่องลงมายังอาณาจักรอันกว้างใหญ่ของแคว้นหลี่ วันนี้เป็นวันสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์เพราะเป็นวันที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ซึ่งใช้เวลาสร้างมายาวนานถึงสามปีได้เสร็จสมบูรณ์ ฮ่องเต้พร้อมด้วยเหล่าขุนนางเสด็จมาทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง บริเวณอ่างเก็บน้ำถูกตกแต่งอย่างงดงาม

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 170

    “เปรี๊ยะ” ลูกธนูไฟพุ่งทะยานสู่เป้าหมาย ทุกดอกพุ่งเข้าเป้าหมายอย่างแม่นยำ เนื่องจากการปรับองศาของหอคอยตรวจตราแบบใหม่ ทำให้สามารถคำนวณทิศทางลมและระยะการยิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ “ไม่ใช่แค่ตรวจจับศัตรู แต่ยังโจมตีได้แม่นยำ ” อ๋องจิ้นอันพึมพำ สีหน้าของเขาประหลาดใจ เหวิ่นจือหยูเผยรอยยิ้มบ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 169

    ลมหนาวพัดแรงเหนือทุ่งหญ้ากว้างที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เหยี่ยวตัวหนึ่งโฉบลงจากฟากฟ้า ก่อนจะม้วนปีกร่อนลงยังแขนขององครักษ์หนุ่มที่ยืนรออยู่หน้าตำหนัก ขาของมันมีม้วนสารพันด้วยตราประจำตัวของอ๋องจิ้นอัน “ข่าวด่วนจากอวิ๋นโจว” องครักษ์เอ่ยพลางยื่นสารให้ขันทีผู้อาวุโสที่รออยู่เพื่อนำไปถวายฮ่องเต้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status